Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
ขอให้วัดภูม่านฟ้า แกะสลัก ศิลป วัฒนธรรมไทย ทุกแขนง เพื่อจารึกให้ลูกหลานได้ เข้าใจในเรื่องราว ผู้คน การอยู่อาศัย การแต่งกาย การละเล่น เครื่องไม้เครื่องมือ ของคนไทยในยุค ต่างๆ จะเยี่ยมมากเลยครับ
สักวันจะไปดูถ้ามีบุญ
ช้างกับคนงานสมัยนั้นคงลำบากน่าดูกับการก่อสร้างหินนี้😰😱
แอดมินติดคำว่าเขมรโบราณแทบทุกที่ ทั้งที่ความจริงเป็นขอมเป็นผู้บังคับใช้ทาสเขมรเป็นแรงงาน ฉะนั้น คำว่า เขมร จึงไม่มีแกะสลัก หรือจารึกไว้ในตำนานการสร้างปราสาทในทุกที่
ใช่ เขมรคือแรงงาน ไม่มีศิลปใดๆขอมนั่นคือไท ไปดูที่นางรองวัดภูม่านฟ้าเด้อกำลังสร้าง
เอามาสร้างพนมรุ้งที่บุรีรัมย์หมู่บ้านเราเป็นทางผ่านขึ้นปราสาท มีหินดินดานถูกดินทับถมอยู่สามเ้ส สงสัยเหนื่อยเลยวางทิ้งใว้จนถึงวันนี้ ทรงเดียวกันเป๊ะ วางใว้ตรวทางสามแพร่งในหมู่บ้าน คนแก่บอกว่ามันเปนทางเกวียนที่ไช้มาแต่โบราณ ทะลุไปถึงเขาพนมรุ้ง
หินทรายที่จมอยู่ใต้ดินจะไม่แข็ง เป็นหินผุๆ เมื่อเปิดหน้าดินที่ปกปิดหินอยู่ หน้าหิน ไม่แข็ง เอาขวานฌฉาะเบาๆตบแต่เป็นรูปอะไรก็ง่าย แต่เมื่อโดนอากาศไปสัก2-3 วัน ผิวหินจะแข็งขึ้นเรื่อยๆ จนขวานเฉาะเบาๆเหมือนตอนแรกไม่ไได้แล้ว
ใช้แล้ว ไหม่ๆ แกะง่ายมาก เอาเหล็กขูดๆก็แกะลายได้ ถ้าเปืดหน้าไหม่ๆ
นั่นมัน ศิลาแลง ครับ ตอนขุดขึ้นมาใหม่จะตัดงาน หินทราย แข็งมากอยู่ใต้ดินก็แข็งเท่ากับบนพื้น แล้วที่ดูคลิปนี้ ไม่เห็นหลุมที่ขุดเลย มันเป็นโนนเขานะครับ
หินถูขี้ไคตัวนั้นบ้อ555
นี่งัยหลักฐานว่าใครสร้างประสาทหินต่างๆคนไทยเราเขาเป็นช่าง
@@สุรศักดิ์สัญญปรีดากุลร่องรอยการขุดเจาะหินบนลานหินตัดอำเภอสีคิ้วที่ตั้งอยู่บริเวณบ้านคลองตะแบกเป็นรอยที่ถูกสะกัดด้วยสิ่วเป็นร่องลึกความกว้างของร่องประมาณ ฟุตครึ่งถึงสองฟุต คาดว่าเมื่อตัดหินแล้วจะถูกลำเลียงไปตามน้ำลำตะคองที่ไหลมาจากคลองไผ่ ซึ่งลำตะคองจะห่างจากแหล่งหินตัดประมาณ 2 กม.สันนิฐานว่าหินเหล่านี้นำไปสร้างปราสาทเมืองเสมา อ.สูงเนิน ซึ่งมีร่องรอยการสร้างใหญ่โตมาก แต่สร้างไม่เสร็จ
จากผู้เฒ่าผู้แก่ เล่าต่อๆกันมาเมื่อตัดหินแล้วใช้ช้าง ลากมาที่ลำตะคอง บ้านคลองตะแบก( ยังมีหลักฐานหินตัดและปราสาทเก่า ในหมู่บ้านนี้หลงเหลืออยู่ ) ซึ่งเป็นลักษณะทางลาดชันลงไปประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วนำหินล่องแพตามน้ำลำตะคองจนถึงลำน้ำมูลที่ อ.ท่าช้างแล้วล่องแพต่อไปที่พิมายเพื่อสร้างปราสาทครับ
มันมีลานหินทรายทุกที่ที่ก่อสร้างปราสาท
@@No-ty3ig ไม่จริง
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
อ.ท่าช้างอยู่ที่ไหนครับ
คนโบราณยุคก่อนเขาเอาอะไรตัดน่ะ..ทำไมต้องหาอะไรที่มันโคตรยากๆทำน่ะ..แค่ทำไร่ทำนาอยู่บ้านมุ้งหญ้าคาหลังกระต๊อบก็น่าจะพอเพียงพอใจแล้ว..เครื่องมือยิ่งล้าสมัยก็ยังคิดพากันดันทุรังมาทำอีก..
ต้องยอมรับ ปัญญาและความสามารถของคนสมัยก่อน สุดยอด ทั้งที่ไม่มีเครื่องมืออุปกรณ์ไฟฟ้าแบบตอนนี้ ชาวขอมโปราณสุดยอดครับ (ไม่ใช่เขมรนะครับ)
คนออกแบบปราสาทสุดยอด แล้วมาตัดหิน ตามแบบ บันไดยาวเป็นร้อยเมตรที่ปราสาทพนมรุ้งน่าทึ่งมาก คนออกแบบ แล้วไปสร้างบนภูเขาสูง เอาหินขึ้นไปสร้างใกล้ตรงภูเขาไฟได้อย่างไร
สมัยนั้น โลกเราแต่ละปี จะมีสภาวะเกือบไร้น้ำหนัก อยู่ปีละเดือนครึ่ง หรือ 45 วัน
@@อาดัมวงษ์สลาม ตามที่ท่านว่ามา ผมข้ออ้างอิงแหล่งข้อมูล ที่เชื่อถือได้ในระดับสากลด้วยครับ ขออภัยผมไม่ทราบมาก่อนเลยจริงๆ ถ้าเป็นทฤษฎีนั่งเทียนสมคบคิดหรือบอกเล่าต่อๆกันมาแต่หาหลักฐานพิสูจน์เป็นจริงไม่ได้ ไม่เอานะครับ
สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ มีอีกเยอะครับ พีรามิด ใหญ่กว่านี้หลายเท่า มนุษย์สร้างมาแล้ว อะไรทั่คิดไม่ออกว่าสร้างยังงัย มักยกให้ต่างดาวสร้าง. วันหนึ่งพวกเจ้าจะรู้ ว่าสภาวะที่เกิดขึ้นเป็นจริงหรือไม่ อละที่บอกว่าช้างลากหินผิดถนัดครับ คนล้วนๆ และยกง่ายกว่ามนุษย์สมัยปัจจุบันเยอะ จะถามหาหลักฐาน เอาแดนสวรรค์กับนรกมาดูได้เมื่อใหร่ หลักฐานก็คงมีเมื่อนั้น และอะไรที่คิดว่าเป็นสากลแล้วเชื่อถือ คิดผิดครับ เมื่อแค่ร้อยปีที่แล้ว หากบอกว่ามนุษย์จะบินได้ คงไม่มีใครเชื่อ. แล้ววันนี้ละ อย่าว่าแค่บินบนอากาสเลย อวกาสบินมาแล้ว. วันหนึ่งมนุษย์ จะหายโง่
@@อาดัมวงษ์สลามเพ้อเจ้อ
@@อาดัมวงษ์สลามโอ้ววว...หลักการง่ายๆก็ไม่มีเหลือเลย... คงสนุกกับจินตนาการมากมายเลยนะ จินตนาการแบบไม่มีพื้นฐานของหลักการ คงเพ่นพ่านน่าดู
เขาไม่เจาะรูกันตรงนี้หรอกครับ แผนกนี้เขาจะตัดตามขนาดที่ได้รับมอบหมายมาแบบหยาบๆ แล้วขนไปให้แผนกก่อสร้าง คัดเลือก ขัดเกลา ตัดแต่งตามแบบที่ต้องการอีกที เจาะรูน่าจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะยกขึ้นที่สูง
บ้านกรวด ตาพระยา สีคิ้ว
ไม่ใช่ละหานทราย
ส่วนตัวนะครับ 1=การยกหินขึ้นไปช้อนเรียงสูงๆนั้น 1.1 น่าจะทำด้วยคันชั่ง (กระเดื่อง เรียกไม่ถูกเหมือนกันต้องขออภัย)โดยใช้ท่อนซุงใหญ่ๆมาทำเป็นชุดคันชั่งเเบบ 3 ขาสามารถย้ายได้ตามระดับความสูง หางยาวๆเพื่อใช้หางกระเดื่องถ่วงน้ำหนักก้อนหินที่ผูกมัดอีกปลายมีความเบาลอยขึ้นง่ายๆ (คล้ายเราทำคันกระเดื่อง ตักน้ำในบ่อสมัยก่อน) โดยผูกหินใส่ปลายคันชั่งอีกด้านหนึ่ง เเละคนก็จะดึงกดหางคันชั่งลง เเล้วหินก็จะลอยวางตามตำเเหน่งที่ต้องการ เมื่อความสูง สูงขึ้นเรื่อยๆ เขาก็จะใช้หินที่จะมาทำปราสาทนี่หล่ะวางเป็นฐานเเน่นๆมั่นคง เพื่อจะตั้งชุดขากระเดื่อง หรือทำคันชั่งไว้หลายระดับความสูง เช่นกระเดื่องชั้น1 วางชึ้นไปวางไว้ชั้น2 เเละชุด2ก็ยกต่อขึ้นไปเรื่อยๆ (ยิ่งขากระเดื่องยาวสูงก็จะยกได้สูงหลายเมตร).... พอปราสาทที่มีความสูงสุดเสร็จสมบูรณ์เเล้ว. ก็จะรื้อก้อนหินที่ทำฐานกระเดื่อง มาทำส่วนก่อสร้างที่ต่ำๆ เช่นทางเดิน กำเเพง เป็นต้น 1.2 หรือขากระเดื่องเเบบ 2ขายาวๆตามระดับความสูงของปราสาท เเบบฝังกับดินระบบทำงานก็ไม่ต้องนำหินมาวางเป็นฐานให้ยุ่งยาก เเต่ต้องใช้ขายาวมากๆ ระบบนี้ต้องย้ายเเกนเพลากระเดื่องไปตามระดับความสูงที่ต้องการ (ไม่ต้องห่วงเรื่องเสาไม้ยาว ยุคนั้นผมคิดว่าต้องมี เพราะยุคเราตอนผมเป็นเด็ก ผมก็เคยเห็นไม้ชนิดหนึ่ง คนเเก่เรียก#ไม้เเคนหิน# อยู่ป่าดงดิบยาวมากๆ ลำตรงเหมือนลำเทียนเลยสวยยาวหลายสิบเมตร เเต่ยุคนั้นอาจจะเป็นไม้ชนิดอื่น 1.3 เเบบลอกดึง เเบบนี้จะไม่ยุ่งยาก เท่ากับเเบบ 1.1-1.2....เเต่ต้องใช้เเรงงานสัตว์เช่นช้าง เพราะเเบบนี้ไม่มีอะไรมาช่วยถ่วงนำหนัก..เสาลอกใหญ่ ฝังดินลึกเเน่นหนา ไม้ค้ำยันขาลอกอย่าให้เอียงเวลาช้างดึงเชือกลอก (ทั้ง 1.1-1.2-1.3=ทำหลายๆชุดรอบปราสาท นั่งร้านรอบนอก รอบในปราสาท....อุปกรณ์เช่น เชือก เเกนเพลา ล้อลอก นั่งร้าน อื่นๆ ไม่ยากสำหรับเขาเลย ไม่ต้องห่วง ดูการออกเเบบสร้างปราสาทก็พอ....)(ดังนั้นการที่เขาจะใช้ดินถมเพื่อที่จะลากก้อนหินขึ้นไปนี่ ค่อนข้างจะยากกว่า ต้องใช้ดินมหาสาร เเละต้องทำเนินดินสลบยาวมากๆ ถ้าเปรียบระดับความสูงของปราสาทสูง 30-60 เมตร ต้องขนดินมาทำเนินลาดสลบยาว อย่างน้อยต้อง 2-3เท่าตัวของความสูงปราสาท...ตอนขนเข้าเเละตอนขนดืนออกเมื่อเสร็จ..ลำบากมากๆ(ข้อนี้ ความเป็นไปได้. ส่วนตัวให้ 90%)2=ส่วนการขนย้ายก้อนหินที่ตัดเตรียมไว้ ก็ตัดเอาท่อนซุงไม้เนื้อเเข็ง มาทำเป็นล้อกลมๆเหมือนรถเข็นเรานี่หล่ะ เเต่ต้องทำล้อใหญ่ๆเพิ่อรับน้ำหนักหินก้อนใหญ่ๆได้ เสร็จก็ใช้กระเดื่องยกใส่รถเข็น เเละคนก็เข็นไป หรือช้างลาก สมัยก่อนผมเด็กๆผม เห็นคนเฒ่าคนเเก่ที่บ้านขนไม้ท่อนซุง ยาว10กว่าเมตร เส้นผ่าศูนย์ท่อนซุงประมาณๆ 40 -60 cm น้ำหนักก็ลองคิดเอา เอามาทำเสาศาลาวัด 40-50 ต้นจากภูเขา เกือบ30กิโลเมตร ยังทำได้( ข้อนี้ ความเป็นไปได้ ส่วนตัวให้ 100%)3=ส่วนการตัดก้อนหินนั้น ผมคงนำไปเป็นการบ้าน....ทังหมดคือความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น
ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูล
การตัดก้อนหินคิดว่าเขาใช้ความร้อนนะแต่ใช้วิธีไหนไม่รู้นะในอดีตเคยเห็นลุง(เขาเป็นช่าง)เขาทำอะไรเขาจะมีเหล็กแหลมไว้ลนไฟเจาะรูไม้เจาะรูต่าางต่างเขาไม่ยอมใช้สว่านเลย
สุดยอด
@@ธาณี-ว9ฑใช้เหล็กแหลม ใช้สิ่วตอกสกัด เห็นร่องรอยการตัดหินแบบชัดเจน ที่ใช้สร้างปราสาทภูเพ็ก สกลนคร
@@ธาณี-ว9ฑ อีสานเรียกว่าเหล็กซี เอาลนไฟให้แดงแล้วแทงลงตรงที่จะเจาะรู กับไม้น่ะ แต่นี้หิน ยุคหินเขามีวิธีของเขานั้นแหละ หน้าจะมีภาพตัดหินในปราสาทน่ะ และการก่อสร้างนั้น
ขอบคุณแอดมินมากๆ ที่ทำให้ผมได้คำตอบ ว่าปราสาทหินพิมายแถวบ้านผม ตัวผมเองและทุกๆคนที่ได้ไปเห็นปราสาท ต่างก็มีคำถามขึ้มาเหมือนกัน ว่าผู้สร้างเขานำหินมาจากไหน ผมสงสัยมาเกินกว่าห้าสิบปี เพราะรัศมี 100 กิโลเมตรจาก อ.พิมาย ไม่มีภูเขาสักลูก,ไม่มีหินทรายแบบนี้สักก้อน ผมเพิ่งจะรู้ว่า ที่ อ.สีคิ้ว มีแหล่งหินตัด ก็วันนี้เอง (ผมโง่มาตั้งนาน 555..)ขอบคุณครับ_ แต่ก็ยังต้องมาสงสัยต่อไปอีก ว่าการขนย้ายก้อนหินเหล่านั้น เขาทำด้วยวิธีการใด? ส่วนการตัดหินยังพอมีการคาดเดา,สันนิษฐานได้หลากหลายวิธี_นำ
อยากให้คนปัจจุบันนี้ที่มีเครื่องมือทันสมัยตัดให้ดูและใช้วิธีขนไปจังเลยว่าจะทำแบบไหนไม่ต้องให้ไปคิดถึงสมัยโน้นหรอกนึกไม่ออกจริงๆ
ช้างแน่นอนครับทำงานหนังหนาสาหัส ลากเลื่อนไป
เนวิน ชิดชอบ สร้างปราสาทเขาพนมรุ้ง(จำลอง) ที่ใกล้ๆสนามฟุตบอล ใช้หินเหล่านี้แหละ แต่ใช้เครื่องมือสมัยใหม่ตัดลักษณะลวดลาย จะสวยกว่าของโบราญไปบุรีรัมย์ก็ไปชมนะครับ
ง่ายมากครับสมัยนี้
ไปดูที่ภูม่านฟ้าครับ หลวงพ่อแดงท่านทำอลังการกว่าปราสาทนครวัตมากมายยิ่งนัก
เพิ่งเคยเห็นสถานที่นี้ ทึ่งมากกับความพยายามคนสมัยโบราณ สถานที่แบบนี้ยังไม่เคยมีใครทำคลิปเผยแพร่
เทคนิคแบบนี้มาจากอินเดียแน่นอน ดูได้จาก วิหารไกรลาศ แห่งอินเดีย วิหารศักดิ์สิทธิ์ สร้างจากหินยักษ์ก้อนเดียว เทคนิคการใช้หินแบบนี้ต้องยกให้ คนอินเดียโบราณ
เกี่ยวไรกับอินเดียหรึ...???!!!
@@diiwazavbn9061 เอ้อ....เอ้อ....เอ้อ.....
ตอนยกหินขึ้นเป็นรูปปราสาท น่าจะใช้ดินถมเป็นทางลาดขึ้นไปไต่ระดับความสูง ตามที่ต้องการ ใช้กำลังคนและช้างลากขึ้นไปวางตามจุดที่ต้องการเสร็จแล้วก็ขนดินออก คนสมัยก่อนสุดยอดมากครับ
มีเหตุผล
ถ้าใช้ดินต้องเป็นดินที่แข็งพอสมควร คนถึงจะขึ้นไปเหยียบได้ และไม่ทรุดลง ผมคิดว่าน่าจะใช้หินนี่แหละก่อขึ้นเหมือนนั่งร้านในปัจจุบัน และคิดว่าน่าจะใช้กำลังคนหลายคน ยกต่อ ส่งกันเป็นชั้นๆไป
คงมีอีกหลายที่นะ ที่ถูกตัดไปสร้างปราสาท..
ใช่ครับ เท่าที่ทราบมีที่ บ้านกรวด บุรีรัมย์ ด้วยครับ
สมัยนั้นบ้านเมืองคงเจริญจนถึงขีดสุด มีวิศวะกรรมล้ำหน้ามากไม่แพ้อียิปโบราณเลย
@@noploblem8432 คุณรู้รึปล่าว ??การรบสมัยก่อนไม่ใช่เพื่อแย่งชิงเมืองหรือดินแดนอย่างเดียว แต่เขาจะรบเพื่อแย่งคนหรือเทครัวเชลยศึก ใครแพ้จะถูกกวาดต้อนมาเพื่อเป็นแรง เมืองไหนแรงงานเชลยยิ่งเยอะก็ยิ่งพัฒนาได้เร็ว เพราะได้แรงงานฟรีๆโดยไม่ต้องจ่ายค่าจ้าง ยิ่งมีทาสเยอะๆก็ยิ่งหาทรัพยากรได้เยอะ สมัยก่อนสิ่งที่มีค่าเช่นเดียวกับทองคือ พวกเพชรพลอยโลหะสำริดเงิน พวกงาช้างพวกไม้ที่มีค่าและของป่าต่างๆ เพราะมีหลักฐานว่าดินแดนแถบเป็นชุมทางค้าขายจากซีกโลกตะวันตก อาหรับเปอร์เซียกับซีกตะวันออกเช่นจีน จาม เวียดนามของพวกโจฬะบกโจฬะน้ำ ชวา มลายู ที่มีหลักฐานเช่นการค้าขายโลหะสำริดกับกวางสีของจีนเพื่อทำกลองมโหระทึก มีการสันนิษฐานว่าอาจจะมีแหล่งผลิตลูกปัดอยู่ในแถบนี้ด้วยและอื่นๆอีกเยอะแยะ ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องมีคนงานไว้ทำเหมืองเก็บของป่า ยิ่งทาสเยอะก็ยิ่งร่ำรวย มีทาสเยอะก็ปลูกข้าวได้เยอะ สินค้าส่งออกก็ยิ่งมีเยอะ ไม่ใช่เอาทาสไว้แค่สร้างเมืองเท่านั้นนะคุณ!!! อย่าคิดว่าเมืองที่อยู่ไกลทะเลแล้วเส้นทางการค้าจะไม่ผ่าน เพราะทุกเมืองได้ติดต่อแลกเปลี่ยนกันหมด
เทคโนโลยีของเขมร และช้ากว่าอียิปต์เป็นพันปี
@@wy6880 หลักฐานอะไรบอกเป็นของเขมร
@@noploblem8432 อิยิปก้อใช้ทาส..ยิวไง
ศิลปะงัยเป็นของเขมร สมัยนั้น ไทยยังไม่เกิด ที่นี่คืออณาจักรขอม
เคยดูภาพแกะสลักที่นครวัดใช้ช้างลากหินและแรงงานทาสทำครับ แล้วสร้างต่อเรื่อยไป หลายยุคหลายสมัยกว่าเสร็จคับ
เคยเห็นนะเเต่เป็นหินกรวด อยู่ในวัดบ้านเเท่นบัลลังก์ อำเภอนางรอง ทำคล้ายๆบัลลังก์
ผมอยุ่แท่นบัลลังก์ครับ
คำว่าเขมรโบราณนี่ไม่น่าใช้คำนี้เพราะคนเขมรเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อหลังยุคพระนครและพวกเขาก็บอกว่มเขาไม่ใช่ขอมด้วยตามนั้นก้แสดงว่ายุคนั้นต้องควรกล่าวว่าเป็นยุคขอมรุ่งเรืองมากกว่า คนยุคนี้มักจะยอมรับว่าเป็นอารยธรรมของเขมรประวัติคนเขมรไม่มีผู้นำเป็นกษัตริย์ทุกวันนี้พวกเขายังค้นหารากวัฒนธรรมตัวไม่เจอมากล่าวอ้างเอาในประเทศไทยเรานี่ทั้งที่อยู่ในปกครองของไทยมาตลอดนับกว่า600ปีนับแต่เกิดมีอาณาจักรอยุธยามากรุงรัตนโกสินนี้
ลอง google ดูสารคดี หินที่ใหญ่กว่านี้มากๆ 1000ตัน ก็ตัดกันมาแล้วตรงและคมมาก และไม่ได้เจาะรูให้ลากยก และก็อย่าด่วนสรุปว่าต่างดาวสร้างละกัน
พระเจ้าชัยวรมันฯยืมเครื่องเจียรมาจากมนุษย์ต่างดาวหรือเปล่าหรืออาจเช่ามาก็ได้ รวมทั้งเครนด้วย
น่าจะทิ้งใบเจียรใว้ให้ดด้วย
ใกล้เคียงที่สุดอาจเอาวิธีหรือเทคโนโลยีมาจากฝั่งอียิปต์ก็ได้นะ เพราะอินเดียก็ตัดหินได้เทพเหมือนกัน ส่วนเเถวบ้านเราเห็นว่าถ่ายโอนจากฝั่งอินเดียมาอีกที อินเดียฝั่งชาวทมิฬ
ผมก็งงมากคับหินไม่ตัตงายๆและไม่เบาทำได้สุดยอดคับ
สกลนคร บ้านผมก็มีครับ ปราสาทภูเพ็ก มีที่เขาไปสะกัดหินด้วยเยอะมาก
เป็นไปได้ไหมมี่เขาจะใช้ไฟเผาหินให้เป็นเส้นให้ร้อนแล้วเอานำ้มาราดก่อนการสกัดทำซำ้กันหลายๆรอบจนลึกพอ
คนโบราณตัดหินในช่วงที่มีความอ่อนตัวอยู่ถ้าแข็งเซ็ทตัวลงแล้วตัดไม่ได้
น่าจะใช่นะคะเห็นด้วยค่ะ
ใช้ครับผมเห็นด้วยสมัยนั้นหินน่าจะยังไม่แข็งมากถึงตัดได้
ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ความรู้จากคุณเลยสักนิด คุณไม่มีความรู้เชิงลึกแม้แต่น้อย เสียเวลาเข้ามาดู
จริงครับ เข้ามาดูคลิป นึกว่ามีองค์ความรู้บ้าง แต่นี่ไม่ได้อะไรเลย
ไม่มีใครเกิดทันเพียงรัฐนิฐานความน่าจะเป็น ความรู้จึงมีแค่นี้ แหละ ผ่านมาแล้ว 1000ปี
ที่บ้านกรวดมีแหล่งหินตัดอยู่3ที่ครับ
เสาหินโฮปเวลจำนวนหลายสิบแท่ง ของ กทม.อีก 100 ปีข้างหน้าก็จะมีคนมาพิสูจน์ว่า สร้างมาได้อย่างไร
555
@@Sara-r9n5l พรรคแมงสาบไม่เคยทำประโยชน์ให้ประชาชนเลย
เทปูนเอา
อีก100ปี ทุกอย่างคือวัตถุโบราณ
งานของมันไม่เคยสำเร็จเพราะต้องส่งยอดให้เขาเอาเงินเขามาใช้ก่อน ได้งบมาต้องคืนเขา คนพวกนี้สลึงก็ไม่เคยควักจากกระเป๋า
อยากรู้ตัดหินออกจากพื้นใด้ยังไงครับ
น่าจะใช้ลิ่มตอกอัดเข้าไปจนหินแยกออกจากกัน เหมือนที่เขาทำเหมืองหินอ่อน
@@รัตนาภรณ์คงประดิษฐ์ ใช่ๆที่คุณว่ามาน่าจะเป็นไปได้เคยเห็นคลิปที่มีคนนั่งตอกลงหินแล้วหินแตกเป็นเเผ่น
ที่เม้นกันเรื่องเคลื่อนย้ายมันอาจเป็นไปได้ แต่ก็ว่าจริงๆเขาจะเคลื่อนย้ายด้วยวิธีไหน อยากรู้มาก
ช้างไงครับสมัยก่อนช้างเยอะแยะ
สมัยก่อนเค้าเพิ่งแต่สัตว์ๆชนิดนั้นคือช้างๆก็เปรียบเสมือนเครื่องจักรมาตลอดในยุคก่อนๆจนถึงปัจจุบันก็ยังมีลากไม้ลงจากภูเขาอยู่บ้างแต่ยุคก่อนหน้าช้างเป็นสัตว์ที่น่าสงสารที่สุดไม่ว่าด้านการรบด้านการก่อสร้าง
ถือว่าเป็นความสามารถมหัศจรรย์ของมนุษย์จริงๆ เพิ่งเคยเห็นแหล่งตัดหิน น่าทึ่งมาก
การขนหินจะใช้ช้างลากจูงเป็นหลัก มีล้อเลื่อนที่ทำจากท่อนซุง การขนย้ายในเส้นทางที่ลำบาก จึงมีการเกิดอุบัติเหตุและมีคนเจ็บคนตายตายเป็นจำนวนมาก ส่วนมากจะเป็นทาส และเชลยศึก ที่ถูกจับบังคับใช้แรงงาน
สมัยนั้น ปีหนึ่ง จะมีสภาวะเกือบไร้น้ำหนัก อยู่หนึ่งเดือนครึ่ง และคนสมัยนั้นไม่เล็กแบบสมัยนี้ ก้อนหนึ่งยกสองคน
เวอร์ไปครับ
ปราสาทพิมาย เป็นหินทรายสีขาวปราสาทพนมรุ้ง เป็นหินทรายสีชมพู
คนสมัยก่อนตัวใหญ่มากดูจากโครงกระดูกที่ขุดพบ
@THE RIPPER 8ศอกไม่ใช้ส่วนสูงค่ะคือหน้าอก
@THE RIPPER อันนี้ก็ไม่รู้ว่าจริงไม่จริงแต่รู้แค่ว่าคนสมัยก่อนตัวสูงใหญ่มาก
น่าทึ่งมากครับ ไม่มีเครื่องจักร แต่ตัเหินเป็นก้อนๆ รูปทรงเรขาคณิตได้ สุดยอดมากครับ คนโบราณ
ให้ไปฟังในยูทูบเรื่องนิมิตพิศวงค์ตอนปราสาทหินพนมรุ้งของอาจารย์ไพศาลแสนชัย
สมัยก่อนหินก็เหมือนดินเหนียวนี่แหละ/นอสตาบอกไว้
หินทรายเป็นหินที่ไม่แข็งมาก มีความเปราะแตกง่ายกว่าหินชนิดอื่น มีมากที่ภูพาน สกลนคร
ขอบคุณครับที่เอามาลงให้ดู
ขอบคุณมากมายค่ะสำหรับคลิปนี้
การตัด ตัดได้ เสมอกันเลย ขนาดตอนนี้มีเครื่องมือดีๆยัฃตัดยังต้องใช้เวลา นาน อยากรู้ว่า ใช้เครื่องมือชนิดใด ตัด
สิ่วครับ เอาให้เปะเลยก็ได้ แค่หินเหลี่ยมๆ จิ๊ปๆ เขาแกะเป็นพุทธรูปทั้งยังยังทำได้ นี่แค่ สี่เหลี่ยม
ผมว่า เอากระเพาะ แกะเป่าลม แล้วใช่เชือกผูก เป็นหมู่ก้อนหิน แล้วใช้เรือลากไปตามลำน้ำ
ผมว่าคนสมัยก่อนต้องตัวใหญ่เขาอาจจะใช้ช้างหรือใช้ล้อลากมาแน่ๆครับ
คิดเหมือนกันเลยครับคนโบราณตัวใหญ่จะเห็นจากซากมนุษย์8ศอก ตามป่าช้าเก่าๆ
@@อัสวินดิจิตอล ไม่ถึงหรอกคนอะไรสูง4เมตร
@@Joe-cl2ix เคยไปดุเค้าล้างป่าช้าสักทีไหมครับ
@@อัสวินดิจิตอล มนุษย์ที่สูงที่สุดในโลกที่ค้นพบยังสูงแค่ 2.72เมตร แล้วป่าช้าไหนครับที่มีโครงกระดูกสูง4เมตร เอาหลักฐานมาให้ผมดูหน่อย ความเชื่อต้องอยู่บนฐานของความจริงด้วยนะครับ
@@อัสวินดิจิตอล และค่าเฉลี่ยความสูงของมนุษย์ไม่เคยเกิน1.9เมตรด้วยซ้ำ และสมัยก่อนโภชนาการไม่ดีเหมือนสมัยนี้ด้วย ความสูงของคนสมัยนี้สูงกว่าคนสมัยก่อน
ปราสาทหินพิมายผมยกให้อันดับหนึ่ง เพราะสร้างบนที่ราบลุ่มห่างไกลจากแหล่งหินตัดมาก
ผมตามหาจุดเอาหินไปสร้างปราสาทมานาน..โดนใจเลย..เหล็กที่ใช้ตัดหินต้องกล้าแข็งหรือเหลี่ยมหินตระกูลเพชรมิฉะนั้นจะเหี้ยนสึกเร็ว..การตัดโดนใช้แรงจลแรงกลึงจากวงล้อขนาดใหญ่..มีแท่นขาชายสามขา..หมุนล้อหนึ่งครั้งจะได้แรงจล50-100 รอบ/นาที..ใช้ระบบล้อเลื่อนระบบกลึงเป็นหลัก. เอาชุงทั้งท่อนมากลึงมาหมุนเป็นเครื่องมือตัด..หินทุกก้อนจะเจาะก่อนการเคลื่อนย้าย.เพื่อลากดึง...เพื่อสอดหวายหรือเชือกหนังช้างดึงขึ้นเลื่อน..การเคลื่อนย้ายใช้เกวียนเทียมช้าง-ควายวัวในการชักลาก..หินกนักสิบตันขึ้นไปใช้เลื่อนช้างดึงและช้างดันส่วนล้อก็เหมือนลูกคิด.คือเป็นเกวียนขนาดใหญ่.เคลื่อนย้ายในฤดูแล้งเท่านั้นวันโลสองโล....ช้างสุรินทร์คือแรงงานที่ยังเห็นเป็นรูปธรรมที่เห็นอยู่..การนำหินขึ้นสร้างปราสาทเขามิได้ยก..แต่ใช้เนินดินถมรอบปราสาทแล้วลากเลื่อนขึ้นไปคือตัวปราสาทอยู่ต่ำกว่าเนินดินมีลอกไม้ทำด้วยชุงทดแรงช่วย..เมื่อสร้างปราทเสร็จก็จะเอาเนินดินออก
ขอบคุณมากครับ สำหรับความรู้ที่แชร์ ไว้มีโอกาสจะไปดูที่อื่นด้วยครับ
คิดเหมือนเราเลย เราก็คิดอย่างนี้เหมือนกันมาก่อนแล้วก็มาเจอคอมเม้านท์นี้พอดี เยี่ยม
การคัดหินแบบโบราณเครื่องตัดน่าจะหมุนแบบชิงช้า..ส่วนหัวตัดน่าจะเป็นเหล็กหรือหินตระกูลเพชร.วงล้อหนึ่งน่าจะมี8-16 หัว.หมุนปั่นทั้งวัน..ชุง/เลื่อน/กลึง เป็นเครื่องมือหลักในการผ่อนแรงคน..ผมสงสัยมากก็ตอนงัดหินออกมานี้แหละ..เพราะร่องมันแคบมากหรือจะใช้ลิ้มตอกแล้วดึงกับแรงช้าง
ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
คิดเยอะไปครับ ดูคลิปนี้ ruclips.net/video/JTDzT7HNsg4/видео.html
สานต่อสมบัติที่เหลืออยู่ไปสร้างสถาปัสอันรือชื่อให้ลูกหลานให้เขารู้ว่าเราทันสมัยทันยุคครับ
มันอยู่ในอนาคตของเรานี้แหละมันคนละกัปมันเรื่องเดียวกัน
ตัดแล้ว เอาไม้ยางแห้งวางในร่องเอาดินเหนียวปิดหัวปิดท้าย แล้วเอาน้ำมาเทให้เต็ม เมื่อไม้แห้งโดนน้ำจะขยายตัว เหมือนไฮโดรริค ดันขยายทำให้หินแตกแบบยาว เมื่อจะให้สั้น ก็ใช้เหล็กสกัดตอก
แรงดันมากขนาดนั้นเลยเหรอ
หนักมากๆสงสารคนทำและช้างม้าวัวควายที่กว่าจะเอามาได้ยกยังไง?
เรื่องจริง ที่ทิ้งไว้เป็นหลักฐาน คือสิ่งปลูกสร้าง/ตัวปราสาท. แต่วิธีการ,ขบวนการ และอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ต่างๆนั้น มืดมิด ไม่มีใครรู้,ไม่มีข้อคิด,ไม่มีคำสันนิษฐานใดๆ ที่จะนำมายืยยันให้เป็นที่น่าเชื่อถือและยอมรับได้…_แปลกแต่จริง คนยุคปัจจุบันนี้ มีความรู้ ความสามารถ ในการคิดค้น สร้างสรรค์เครื่องจักร์กล เครื่องมือต่างๆ ได้ดีกว่าคนโบราณเป็นร้อยเท่า พันเท่า แต่พอพูดถึงการสร้างปราสาทหินของคนโบราณ ในทุกวันนี้ เพียงแค่ให้หาคำตอบ หาทฤษฎีที่พอจะเชื่อว่าเป็นจริงได้ ก็ยังไม่มีมนุษย์คนใด หรือดอกเตอร์คนไหนมาตอบยืนยันให้คนทั้งเชื่อถือได้ นั่นเอง. ใครพูดขึ้นมาก็เป็นได้แค่ ข้อสันนิษฐาน ลมๆ แล้งๆ เท่านั้นเอง…
พันกว่าปีมาแล้วนะ ผมคิดว่าหินแบบนี้สมัยนั้นอาจจะไม่แข็งเท่าปัจจุบันนี้ก็ได้นะผมคิดว่านะ เพราะว่าหินพวกนี้มีอายุหลายล้านปีมาแล้ว ยิ่งอยู่ยิ่งแข็ง
ใช่พูดถูกเป็นอย่างที่คิด1000เปอเซนไม่ต้องสงไส
หินที่อยู่ใต้ดินจะอ่อนกว่านี้ พอโดนอากาศก็จะแข็งขึ้นมากครับ
จริงไหมครับที่เค้าบอกว่าหินศิลาแลงสามารถใช้ของมีคมตัดหรือมีดตัดได้เลยเพราะหินที่ตอนตัดมันอยู่ในดินมันจะนิ่ม อันนี้ผมดูมาจากช่องของอ.ตุ๊กบางประอินอะครับ มันจริงไหมครับ
จริงครับเพราะเมื่อก่อนผมเคยเอา หินศิลาแลง มาทำบ้าน ในราคาถูก
ใช่ครับ ศิลาแลง ในดินจะนิ่ม
กูก็ดูสารคดีเกี่ยวปราสาทมาก็มาก แต่มันก็ไม่เคยมีใครนำเสนอสี่งเหล่านี้มาให้ดู ไม่รู้มันเพราะอะไรเพิ่งรู้ แม่งเอย
คงไม่มีใครตอบได้ว่าเขาใช้อะไรต้ด และไม่มีใครรู้จริงหรอกผมว่าเขาเอาก้อนหินที่ตัดได้แล้วเคลื่อนย้ายไปสร้างปราสาทตามที่ต่างๆได้ด้วยวิธีใด สิ่งที่คนปัจจุบันเดาวิธีการ หรือสันนิฐานวิธีการมันไม่น่าจะถูก น่าเสียดายที่คนในปัจจุบันไม่รู้จริง
เมื่อก่อนคนตัวใหญ่สูงเป็นสามสิบเมตรนี้วแต่ละนิ้วเท่าเสาสำเร็จหินก้อนหนึ่งยกคนเดียวสบาย.แบกไปสร้างปราสาทสามเดือนเสร็จ..ใช้เชือกตัดหินใส่คาถานิดหน่อยก็ขาดแล้ว
สกัดหินให้เป็นร่องแล้วเจาะรูใส่ลิ้มไม้หรือเหล็กตอกลงหินก็จะแตกเป็นร่อง แรงงานคงเป็นแรงงานทาส ปัจจัยสำคัญที่เป็นส่วนทำให้อาณาจักรล้มสลาย
อยากรู้จังพวกเขาเอาเครื่องมือชนิดใหนตัดมีดขวานหรือมีใหญ่กว่านั้น
คนโบราณ. มีจิตใจที่ละเอียดอ่อน เครื่องมือที่ อำนวนผลผลิต ไม่ใช่เรื่องยากเลยเหล็ก เชือกที่ได้จากหนังช้าง วัว ควาย ไม้ทำหนังร้าน กระเดื่องยกหิน สามารถยกหินน้ำหนัก เกือบ1ตัน โดยใช้คนไม่กี่คน กระดานเลื่อนหิน (สะไลหิน) เกวียนล้อไม้ทั้งแท่ง. สำหรับเทียมลากกับช้างโดยเฉพาะ คนโบราณฉลาดในวิถีการกระทำมากทำด้วยจิตที่บริสุทธิ์ ไม่มีรายได้ ที่เป็นเงินทอง มีสิ่งสำคัญ ความสามัคคี ทีมเวิร์ค ที่แต่ละแผนก กระทำ ดูเอาปลอกก่อสร้างจอมปลอม แล้วจะเข้าใจ ถ้ายากทราบ รายละเอียด วิธี ก่อสร้าง ดูได้จากภาพ จำหลักหิน นูนตํ่า ณ ปราสาท บรรยง และ ราสาทบันท้ายชะมา เขมร แล้วจะได้ร้องบางอ้อ ว่าอย่างนี้นี่เอง. พี่งง พี่งึก อย่ายุ่งสมองนะ
ขอบคุณมากๆครับ กำลังค้นหาอยู่เลย เขาเอาหินก้อนใหญ่ๆมาทำปราสาทนั้น เอามาจากที่ไหนกันแน่ (เคยสันนิฐานไว้น่าจะเป็นแถวอิสาน เพราะร่องรอยการสร้างพระแกะสลักจากหินก็มาจากทางอิสาน) เลยคิดไปแบบนั้นครับ
คนยุคนั้นต้องตัวใหญ่มากนะคับ
7-June-2024.8.08.Pmคนยุคนั้นลูกผู้ชายอกสามศอกค่ะพูดกันติดปากจนถึงปัจจุบันนี้ค่ะ...............❤❤
ทึ่งมากๆคนสมัยก่อน งานศิลปทำใด้ดีและสวยมากๆเลยครับ
เชื่อเลย นครวัตร นครธม ต้องมาเอาที่ตรงนี้แน่นอนครับ
ไกลไปจ้า แหล่งหินทรายที่นี่น่าจะนำไปสร้างปราสาทหินพิมายนะครับ ส่วนนครวัด นครธม เค้ามีแหล่งหินทรายที่เขาพนมกุเลนห่างออกไปประมาณ 50 กม. ครับ
@@takedazu ขอบคุณครับผม นี่คือความรู้อีกความรู้นึงเก็บไว้เล่าให้รุ่นหลังได้ฟังครับ ขอบคุณครับ
เขาพระวิหารทางขึ้นต้องผ่านด่านศรีษะเกศ #แสดงว่าคนไทยเป็นคนสร้างไม่มีคัยสร้างประตูกะบันไดไว้หลังบ้านหรอกจิมิ
ไปศึกษาเรื่องอาณาจักรเขมรโบราณก่อนครับ ว่าอาณาเขตถึงไหน เกิดขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ.ใหน ก่อนที่ ฝรั่งเศสเข้ามาล่าอานานิคม แล้วทำเส้นแบ่งเขตแดนขึ้นใหม่
มันเป็นของเขาตั้งนานแล้วคับ
🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣
@@pichitchaik5461 ใหนอาณาจักเขมรอยู่ตรงใหน บอกผมมาหน่อยดิ ผมชาว"กูย"เขมรมีอะไรเป็นของตัวเองบ้าง ตอบผมมาดิ มันจะได้รุ้ว่าใครเป็นคนสร้างเขาพระวิหาร กล้าเปิดประวัติศาสตร์ใส่กันใหมล่ะ
@@ณัฐวินแหวนวิเศษ ของใครคับ ไม่ใช่ของเขมรแน่ๆ กล้าเอาหลักฐานมาใส่กันป่ะ ผมชาว"กูย"จะได้รุ้ว่าใครเป็นคนสร้าง ถ้ากล้าเปิดจารึกได้เลยว่าเป็นภาษาอะไร
คนออกแบบ การสร้างและตัดหินไปสุดยอดเลยครับ กระดาษยุคนั้นเขียนแบบกะบ่มี
สมัยเมื่อ1000ปีก่อน--หินเปลือกโลกอาจยังไม่แข็งตัวมากเหมือนตอนนี้ก็เป็นได้!😁😁😁😁🤩🤩🤩🤩
คงจะประมาณนั้นครับเหมือนก้อนหินศิลาแลง ที่อยู่ใต้ดินมันมีความอ่อนตัวตัดง่าย พอโดนแดดจะแข็งตัวใช้ทำกำแพงวัดหรืออื่นๆตามต้องการ
มีความเป็นไปได้ครับ
แม่เคยเล่าให้ฟังว่า คนสมัยก่อนสูงมาก เรียก”คนแปดศอก”
แสดงว่าเรื่องจริงใช่ไหมครับ
ไม่มีหรอกคน8ศอก มนุษย์ไม่สูงขนาดนั้น
@@Joe-cl2ix 8ศอกถ้าเทียบแล้วกี่เซ็นครับ
@@Whatnow671 400เซน 1ศอกเท่ากับ50เซน
@@Joe-cl2ix แสดงว่าสูง4เมตร เลยเหร่อครับ คิดไม่ออกเลยว่าจะตัวเท่าไหน แล้วคนอก3ศอกล่ะครับมีจริงไหมครับ
ตัดหินได้ก็สร้างปราสาทได้ แต่ทุกวันนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าคนโบราณเขาใช้อะไรตัดก้อนหิน เพราะทุกส่วนได้ฉากเเละเรียบขนานทุกด้าน วิศวะกรสมัยใหม่ลองเอากระดาษแซกในรอยหน้าประกบแล้วแต่แซกไม่ได้(ค่าความละเอียดห่างกันแค่0.02มม.)
ใช้เครื่องโซ่เลื้อยหินครับ การขนส่งก็ใช้สิบล้อขน
ขอทราบเป็นอุทยานหรือเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมดา,
เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมดาค่ะ ไม่เสียค่าเข้าชม
ใช้หินกระกูลเพชรหรือเหล็กชุบพิเศษตโดยใช้แรงกลึงของวงล้อเกวียนขนาดใหญ่หมุนทั้งวันเป็นพลังจลของแรงหมุนเป็นพลัง..ใช้น้ำเป็นตัวช่วยหล่อลื่น.ไล่ฝุ่นหินไหลออก .เครื่องตัดอีกแนวคิดือมันคล้ายกบไสไม้ขนาดใหญ่มีดึงสองข้างดึงไปดึงมาทั้งวันจนเป็นรอยลึก
ใช่คับ
แล้วเครื่องมือเหล่านั้นหายไปไหนหมดไม่มีหลงเหลือหรือเป็นเรื่องเล่ามาบ้างเลยหรือ
บนเขาเอาพลังน้ำไหนมา ไม่เห็นมีล่องลอยทางน้ำเลย
@@pongsila2352 น้ำแค่หล่อลื่นครับแรงจลอาจใช้คนหรือสัตว์
คนเรียรวิทย์จะคิดออกดีว่าพวเรียนสังคม..รู้เรื่องโลหะหรืออโลหะ..ตระกูลหินแข็งอ่อน..รู้แรงเสียสีเสียดทาน..รู้ลอรู้ลิ้ม.ารทดแรง
ไกลมากนะครับ อ.สีคิ้ว กับ ปราสาทหินพิมาย/แต่คนโบราณทำได้อย่างไร สงสัยมากๆครับ🙏
บ้านผมเดะนิ ตรงข้ามทางเข้าหมู่บ้านคลองตะแบก 😅😅
พูดมากเกินเขาใช้เหล็กสกัดไปดูคริบฟรั่งไปว่าเขาตัดอย่างไรรู้ไม่จริงผูดมากเกิน
ถ้ามันมีเหล็กขนาดนั้นเขาคงสร้างปราสาทใช้เหล็กบ้างแหละแต่ในตัวปราสาทไม่มีส่วนประกอบของเหล็กเลย
ในนิมิต ของคุณไพรสาน ตอนที่ไปพบ ท่านที่เฝ้าดูแลปราสาทพนมรุ่ง จะอธิบายการทำก่อสร้าง การขนหิน การก่อสร้างไว้ บางส่วน ตอนนั้นบังเอิญได้เปิดฟัง ก็แบบธรรมดานั้นแหละว่างั้น ช่างใครถนัดด้านไหนก็ให้ช่างด้านนั้นมาดูแล มีเครื่องมือใช้เอง ทำเครื่องมือใช้เอง
หลวงปู่ฤาษีลิงดำบอกว่าขอมไม่ใช่เขมร ประวัติศาสตร์เราสอนผิด😮
เชือกที่ลากดึงขึ้นปราสาทเขานำเอาหนังควายแก่ที่ตายแล้วเอามาตากแห้งและก็ทำเป็นเชือกครับทนทานเหนียวคลเายกับเชือกคล้องช้างสมัยก่อน
เชือกที่เขาเอาคล้องช้างป่านั้นเขาเอาหนังควายตัวเมีย2 ตัว ตัวผู้ 1 ตัวเอามารวมกันตีเป็นเกลียวได้เชือกปะกำหนึ่งเชือก ถึงจะเอาช้างป่าอยู่และถูกตามครูด้วย
เค้าตัวโตกว่ายุคเรามากพละกำลังมหาศาลจิตใจสูงสะอาดกว่าเราอาศัยความเพียรพละกำลังและพลังจิตในการสร้าง(เทคโนโลยี่ก็สูงกว่าเรา)
สังเกตุทุกปราสาท หินทุกก้อนจะทำรูไว้สองรูอย่างน้อย น่าจะเอาไว้สอดเหล็กยกขึ้นที่สูงนะครับ
น่าจะรับเทคโนโยีจาก อินเดีย
เอาอะไรทาตัดให้ตรงและเรียบมากเหมือนเครื่องใส่ใบตัดเลย
ฟังคุณไม่ได้ประโยชน์อะไร ชี้ให้ดูแต่หิน ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นหิน
เขาไม่ใช้เลือขนหรอก...เคยเห็นเขาขนไม้ซุงล่องซุงขนาดใหญ่ตามลำน้ำเขาผูกแพไม้ไผ่ ล่องไม้ซุง
7-June-2024.8.11.Pmคนยุคนั้นลูกผู้ชายตัวสูงใหญ่บึกบึนอกสามศอกค่ะพูดกันติดปากจนถึงปัจจุบันนี้ค่ะ#ลูกผู้ชายอกสามศอก❤❤
หลุมอันนี้ผมคาดว่าที่เก็บน้ำครับสำหรับใส่น้ำไปด้วยเวลาสกัดหินครับเพราะจะทำให้หินขยายตัวสกัดง่ายขึ้นครับอีกอย่างทำให้ไร้ฝุ่นครับ
อยากรู้เอาอะไรตัดสมัยนั้น
ที่เหลือที่ไม่ได้ไปคือไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานครับ
กว่าจะเสร็จแต่ละที่ คงมีคนตายเยอะพอสมควร ไม่ว่าจะเจ็บป่วย ถูกหินทับตาย
ปัจจุบันแหล่งหินตัดสีคิ้วสไลค์จากจุดเดิมหรือยุบแหล่งหินตัดสีคิ้วอยู่ติดกับถนนมิตรภาพโคราชถ้ารถวิ่งไปตามถนนนี้ย้อนไปถึงบ้านบุใหญ่สูงเนินติดถนนมิตรภาพเหมือนกันทางการกำลังขุดตบแต่งปราสาทหินวัดบุใหญ่ย่านนี้ถือว่าเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณที่สำคัญของมวลมนุษยชาติพันปีขึ้น
ห่างจากแหล่งหินตัดสีคิ้วประมาณสองถึงสามกิโลจะมีลำน้ำตะคองบ้านคลองตะแบกใหลไปแม่น้ำมูลสันนิษฐานว่าน่าจะนำไปสร้างแถวๆแหล่งหินตัดนี้แหละก็มีบ้านหัวสระเมืองเสมาเมืองโฆราฆะปุระอำเภอสูงเนินโคราชเก่าขนไปทางน้ำลำตะคองบ่อกุมภลักษณ์คนเมื่อพันปีที่มาตัดหินก็เห็นเหมือนกับเรานี้แหละ
เครื่องตัดน่าจะเป็นหินที่แข็งกว่าหินทรายครับน่าจะออกแบบมาแบบล้อเกวียนติดหินมีแกนขนาดยาวเป็นข้อเหวี่ยงสำหรับคนหมุนตัด
หินทรายนำมาขัดผิวได้..นำมาลับมีดได้ใช่ไหม..เห็นคนสมัยก่อนเขาทำขายกัน ในโคราช
สิ่งก่อสร้างตามศาสนาเป็นความศร้ทธา และความเชื่อ การรับจ้าง และการทำโทษ กดขี่อย่างนั้นหา พอไม่ ประกอบด้วย องค์ประกอบหลายอย่าง สาธุ สาธุ สาธุ
ขอม ไม่ใช่ เขมร กำพูชา ไม่ใช่ ขอม อย่าพูดบรรยายให้คนเข้าใจผิด ชนชาติเขมร เข้ามายึด อารยธรรมขอม ไปเป็นของตัวเอง อารยะธรรมขอม 70% อยู่ในพื้นที่ไทย ที่เหลือ30% อยู่ในกำพูชา และ ลาว ,
คนสมัยก่อนยุคหินโบรานเขาเอาแร่ดีบุกขุดจากภูเขาเจาะลงลึกๆตามสายแร่พอได้แร่ดีบุกมาก็มาทำการถลุงทำเป็นก้อนใว้สำหรับตีดาบและหล่อปืนใหญ่ทำลิ่มหรือสกัดเอาใว้สกัดหินออกมาเป็นก้อนๆบางที่เจาะศิลาแลงปัจจุบันยังมีการทำอย๊ได้รับการถ่ายทอดมาจากครูบาวงค์ที่อำเภอลี้จังหวัดลำพูนหินที่ก้อนใหญ่ๆสกัดออกมาแล้วนำมาขัดเกลาให้เรียบคนสมัยก่อนทำตามกันมาจากรุนสู่รุ่นไม่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยการชักลากมีช้างและวัวควายลากลงจากภูเขาครับเวลายกก้อนหินใช้ไม้ทำเสากระโดงใช้เชือกป่านที่เหนียวที่สุดมัดดึงขึ้นรูปสูงขึ้นเรื่อยๆสมัยนี้ใช้รถเครนยกตามยุคและสมัยครับ
ปราสาทบายนมีพระฤาษีชื่อรุขะมูลเป็นประธานในการสร้างมีฤทธิ์มีเดชมากรอบรู้วิชาเทพสามารถบัลดาลของหนักให้เบาได้(เอกสารไม่มีบันทึกอยากรู้ต้องไปค้นหาในหินที่จารึกไว้เมื่อหลายพันปีเขียนเป็นภาษาบาลีอยู่กับหินเท่านั้น)
แต่ก่อนหินมันอ่อนคับเพราะป่ายังปกคุมแน่นหนาแสงอาทิตย์ไม่สามารถส่องลงมาถึงไม่เต็มรูปแบบพอต้นไม้เริ่มหมดอายุหรือตายและมนุษย์ทำลายป่านำออกไปขายเลยเกิดการเปลี่ยนแปลงแสงอาทิตย์ส่องถึงดินอ่อนเลยกลายเป็นหินแชงเท่าทุกวันสามพันปียุคก่อน
ตกลงหินที่ใช้สร้างปราสาทคือ หินจากภูเขาใช่ไหม
คนโบราณคือเก่งแท้เอาอะไรตัดคือเรียบตรงดีแท้
พวกเข้าไปจบชีวิตที่ไหนกันหรือกลับไปอยู่อีกภพถ้าพวกเขาตายในโลกมนุษย์คงเจอกระดูก(คิดๆสงสัย)
นาทีที่14กล่าวถึงปราสาทเมืองสิงห์ทำไมกล่าวถึงเขมรโบราณ? เขมรมายันนี่เลยหรอ ผมอยากถามว่าเขมร ทำไมภาษาเขมรไม่มีในศิลาจารึกที่ค้นพบเลย รู้ไหมว่าเขมรอ่านภาษาขอมไม่ออก การคาดเดาของท่านไม่อยู่บนพื้นฐานของความจริง แย่ครับ
เขาพนมรุ้ง ขนาดเดินขึ้นยังยากเลย คนที่ขนขึ้นไปสร้างแรงศรัทธาต่อพระศิวะเจ้าอันแรงกล้าเขาขนขึ้นไปใด้ยังไงสมัยนี้นใช้อะไรทุ่นแรง
คนเราสมัยก่อนอาจจะมีร่างกายกระดูกที่ใหญ่กว่ามนุษย์ปัจจุบันก็อาจจะเป็นได้อาจจะมีกำลังเยอะกว่าเรามากมายเพราะได้ยินตนเเก่เฒ่าพูดถึงคน8ศอก และตำนานโบราณก็มียักษ์ด้วย ทุกวันนี้มนุษย์กินอยู่สบายกว่าอดีตมากมายหลายเท่า
เจาะหินให้เป็นรูใข้ลิ่มไม้แข็งตอกเข้า 12:38 รูหินเอาน้ำมารดลิ่มไม้ไม้ขยาย 13:29 ตัว หินจะอตกเป็นเส้นตรง
ขอให้วัดภูม่านฟ้า แกะสลัก ศิลป วัฒนธรรมไทย ทุกแขนง เพื่อจารึกให้ลูกหลานได้ เข้าใจในเรื่องราว ผู้คน การอยู่อาศัย การแต่งกาย การละเล่น เครื่องไม้เครื่องมือ ของคนไทยในยุค ต่างๆ จะเยี่ยมมากเลยครับ
สักวันจะไปดูถ้ามีบุญ
ช้างกับคนงานสมัยนั้นคงลำบากน่าดูกับการก่อสร้างหินนี้😰😱
แอดมินติดคำว่าเขมรโบราณแทบทุกที่ ทั้งที่ความจริงเป็นขอมเป็นผู้บังคับใช้ทาสเขมรเป็นแรงงาน ฉะนั้น คำว่า เขมร จึงไม่มีแกะสลัก หรือจารึกไว้ในตำนานการสร้างปราสาทในทุกที่
ใช่ เขมรคือแรงงาน ไม่มีศิลปใดๆ
ขอมนั่นคือไท ไปดูที่นางรองวัดภูม่านฟ้าเด้อกำลังสร้าง
เอามาสร้างพนมรุ้งที่บุรีรัมย์หมู่บ้านเราเป็นทางผ่านขึ้นปราสาท มีหินดินดานถูกดินทับถมอยู่สามเ้ส สงสัยเหนื่อยเลยวางทิ้งใว้จนถึงวันนี้ ทรงเดียวกันเป๊ะ วางใว้ตรวทางสามแพร่งในหมู่บ้าน คนแก่บอกว่ามันเปนทางเกวียนที่ไช้มาแต่โบราณ ทะลุไปถึงเขาพนมรุ้ง
หินทรายที่จมอยู่ใต้ดินจะไม่แข็ง เป็นหินผุๆ เมื่อเปิดหน้าดินที่ปกปิดหินอยู่ หน้าหิน ไม่แข็ง เอาขวานฌฉาะเบาๆตบแต่เป็นรูปอะไรก็ง่าย แต่เมื่อโดนอากาศไปสัก2-3 วัน ผิวหินจะแข็งขึ้นเรื่อยๆ จนขวานเฉาะเบาๆเหมือนตอนแรกไม่ไได้แล้ว
ใช้แล้ว ไหม่ๆ แกะง่ายมาก เอาเหล็กขูดๆก็แกะลายได้ ถ้าเปืดหน้าไหม่ๆ
นั่นมัน ศิลาแลง ครับ ตอนขุดขึ้นมาใหม่จะตัดงาน หินทราย แข็งมากอยู่ใต้ดินก็แข็งเท่ากับบนพื้น แล้วที่ดูคลิปนี้ ไม่เห็นหลุมที่ขุดเลย มันเป็นโนนเขานะครับ
หินถูขี้ไคตัวนั้นบ้อ555
นี่งัยหลักฐานว่าใครสร้างประสาทหินต่างๆคนไทยเราเขาเป็นช่าง
@@สุรศักดิ์สัญญปรีดากุลร่องรอยการขุดเจาะหินบนลานหินตัดอำเภอสีคิ้วที่ตั้งอยู่บริเวณบ้านคลองตะแบกเป็นรอยที่ถูกสะกัดด้วยสิ่วเป็นร่องลึกความกว้างของร่องประมาณ ฟุตครึ่งถึงสองฟุต คาดว่าเมื่อตัดหินแล้วจะถูกลำเลียงไปตามน้ำลำตะคองที่ไหลมาจากคลองไผ่ ซึ่งลำตะคองจะห่างจากแหล่งหินตัดประมาณ 2 กม.สันนิฐานว่าหินเหล่านี้นำไปสร้างปราสาทเมืองเสมา อ.สูงเนิน ซึ่งมีร่องรอยการสร้างใหญ่โตมาก แต่สร้างไม่เสร็จ
จากผู้เฒ่าผู้แก่ เล่าต่อๆกันมาเมื่อตัดหินแล้วใช้ช้าง ลากมาที่ลำตะคอง บ้านคลองตะแบก( ยังมีหลักฐานหินตัดและปราสาทเก่า ในหมู่บ้านนี้หลงเหลืออยู่ ) ซึ่งเป็นลักษณะทางลาดชันลงไปประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วนำหินล่องแพตามน้ำลำตะคองจนถึงลำน้ำมูลที่ อ.ท่าช้างแล้วล่องแพต่อไปที่พิมายเพื่อสร้างปราสาทครับ
มันมีลานหินทรายทุกที่ที่ก่อสร้างปราสาท
@@No-ty3ig ไม่จริง
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
อ.ท่าช้างอยู่ที่ไหนครับ
คนโบราณยุคก่อนเขาเอาอะไรตัดน่ะ..ทำไมต้องหาอะไรที่มันโคตรยากๆทำน่ะ..แค่ทำไร่ทำนาอยู่บ้านมุ้งหญ้าคาหลังกระต๊อบก็น่าจะพอเพียงพอใจแล้ว..เครื่องมือยิ่งล้าสมัยก็ยังคิดพากันดันทุรังมาทำอีก..
ต้องยอมรับ ปัญญาและความสามารถของคนสมัยก่อน สุดยอด ทั้งที่ไม่มีเครื่องมืออุปกรณ์ไฟฟ้าแบบตอนนี้ ชาวขอมโปราณสุดยอดครับ (ไม่ใช่เขมรนะครับ)
คนออกแบบปราสาทสุดยอด แล้วมาตัดหิน ตามแบบ บันไดยาวเป็นร้อยเมตรที่ปราสาทพนมรุ้งน่าทึ่งมาก คนออกแบบ แล้วไปสร้างบนภูเขาสูง เอาหินขึ้นไปสร้างใกล้ตรงภูเขาไฟได้อย่างไร
สมัยนั้น โลกเราแต่ละปี จะมีสภาวะเกือบไร้น้ำหนัก อยู่ปีละเดือนครึ่ง หรือ 45 วัน
@@อาดัมวงษ์สลาม ตามที่ท่านว่ามา ผมข้ออ้างอิงแหล่งข้อมูล ที่เชื่อถือได้ในระดับสากลด้วยครับ ขออภัยผมไม่ทราบมาก่อนเลยจริงๆ ถ้าเป็นทฤษฎีนั่งเทียนสมคบคิดหรือบอกเล่าต่อๆกันมาแต่หาหลักฐานพิสูจน์เป็นจริงไม่ได้ ไม่เอานะครับ
สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ มีอีกเยอะครับ พีรามิด ใหญ่กว่านี้หลายเท่า มนุษย์สร้างมาแล้ว อะไรทั่คิดไม่ออกว่าสร้างยังงัย มักยกให้ต่างดาวสร้าง. วันหนึ่งพวกเจ้าจะรู้ ว่าสภาวะที่เกิดขึ้นเป็นจริงหรือไม่ อละที่บอกว่าช้างลากหินผิดถนัดครับ คนล้วนๆ และยกง่ายกว่ามนุษย์สมัยปัจจุบันเยอะ จะถามหาหลักฐาน เอาแดนสวรรค์กับนรกมาดูได้เมื่อใหร่ หลักฐานก็คงมีเมื่อนั้น และอะไรที่คิดว่าเป็นสากลแล้วเชื่อถือ คิดผิดครับ เมื่อแค่ร้อยปีที่แล้ว หากบอกว่ามนุษย์จะบินได้ คงไม่มีใครเชื่อ. แล้ววันนี้ละ อย่าว่าแค่บินบนอากาสเลย อวกาสบินมาแล้ว. วันหนึ่งมนุษย์ จะหายโง่
@@อาดัมวงษ์สลามเพ้อเจ้อ
@@อาดัมวงษ์สลามโอ้ววว...หลักการง่ายๆก็ไม่มีเหลือเลย... คงสนุกกับจินตนาการมากมายเลยนะ จินตนาการแบบไม่มีพื้นฐานของหลักการ คงเพ่นพ่านน่าดู
เขาไม่เจาะรูกันตรงนี้หรอกครับ แผนกนี้เขาจะตัดตามขนาดที่ได้รับมอบหมายมาแบบหยาบๆ แล้วขนไปให้แผนกก่อสร้าง คัดเลือก ขัดเกลา ตัดแต่งตามแบบที่ต้องการอีกที เจาะรูน่าจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะยกขึ้นที่สูง
บ้านกรวด ตาพระยา สีคิ้ว
ไม่ใช่ละหานทราย
ส่วนตัวนะครับ
1=การยกหินขึ้นไปช้อนเรียงสูงๆนั้น
1.1 น่าจะทำด้วยคันชั่ง (กระเดื่อง เรียกไม่ถูกเหมือนกันต้องขออภัย)โดยใช้ท่อนซุงใหญ่ๆมาทำเป็นชุดคันชั่งเเบบ 3 ขาสามารถย้ายได้ตามระดับความสูง หางยาวๆเพื่อใช้หางกระเดื่องถ่วงน้ำหนักก้อนหินที่ผูกมัดอีกปลายมีความเบาลอยขึ้นง่ายๆ (คล้ายเราทำคันกระเดื่อง ตักน้ำในบ่อสมัยก่อน) โดยผูกหินใส่ปลายคันชั่งอีกด้านหนึ่ง เเละคนก็จะดึงกดหางคันชั่งลง เเล้วหินก็จะลอยวางตามตำเเหน่งที่ต้องการ เมื่อความสูง สูงขึ้นเรื่อยๆ เขาก็จะใช้หินที่จะมาทำปราสาทนี่หล่ะวางเป็นฐานเเน่นๆมั่นคง เพื่อจะตั้งชุดขากระเดื่อง หรือทำคันชั่งไว้หลายระดับความสูง เช่นกระเดื่องชั้น1 วางชึ้นไปวางไว้ชั้น2 เเละชุด2ก็ยกต่อขึ้นไปเรื่อยๆ (ยิ่งขากระเดื่องยาวสูงก็จะยกได้สูงหลายเมตร).... พอปราสาทที่มีความสูงสุดเสร็จสมบูรณ์เเล้ว. ก็จะรื้อก้อนหินที่ทำฐานกระเดื่อง มาทำส่วนก่อสร้างที่ต่ำๆ เช่นทางเดิน กำเเพง เป็นต้น
1.2 หรือขากระเดื่องเเบบ 2ขายาวๆตามระดับความสูงของปราสาท เเบบฝังกับดินระบบทำงานก็ไม่ต้องนำหินมาวางเป็นฐานให้ยุ่งยาก เเต่ต้องใช้ขายาวมากๆ ระบบนี้ต้องย้ายเเกนเพลากระเดื่องไปตามระดับความสูงที่ต้องการ (ไม่ต้องห่วงเรื่องเสาไม้ยาว ยุคนั้นผมคิดว่าต้องมี เพราะยุคเราตอนผมเป็นเด็ก ผมก็เคยเห็นไม้ชนิดหนึ่ง คนเเก่เรียก#ไม้เเคนหิน# อยู่ป่าดงดิบยาวมากๆ ลำตรงเหมือนลำเทียนเลยสวยยาวหลายสิบเมตร เเต่ยุคนั้นอาจจะเป็นไม้ชนิดอื่น
1.3 เเบบลอกดึง เเบบนี้จะไม่ยุ่งยาก เท่ากับเเบบ 1.1-1.2....เเต่ต้องใช้เเรงงานสัตว์เช่นช้าง เพราะเเบบนี้ไม่มีอะไรมาช่วยถ่วงนำหนัก..เสาลอกใหญ่ ฝังดินลึกเเน่นหนา ไม้ค้ำยันขาลอกอย่าให้เอียงเวลาช้างดึงเชือกลอก
(ทั้ง 1.1-1.2-1.3=ทำหลายๆชุดรอบปราสาท นั่งร้านรอบนอก รอบในปราสาท....อุปกรณ์เช่น เชือก เเกนเพลา ล้อลอก นั่งร้าน อื่นๆ ไม่ยากสำหรับเขาเลย ไม่ต้องห่วง ดูการออกเเบบสร้างปราสาทก็พอ....)
(ดังนั้นการที่เขาจะใช้ดินถมเพื่อที่จะลากก้อนหินขึ้นไปนี่ ค่อนข้างจะยากกว่า ต้องใช้ดินมหาสาร เเละต้องทำเนินดินสลบยาวมากๆ ถ้าเปรียบระดับความสูงของปราสาทสูง 30-60 เมตร ต้องขนดินมาทำเนินลาดสลบยาว อย่างน้อยต้อง 2-3เท่าตัวของความสูงปราสาท...ตอนขนเข้าเเละตอนขนดืนออกเมื่อเสร็จ..ลำบากมากๆ
(ข้อนี้ ความเป็นไปได้. ส่วนตัวให้ 90%)
2=ส่วนการขนย้ายก้อนหินที่ตัดเตรียมไว้ ก็ตัดเอาท่อนซุงไม้เนื้อเเข็ง มาทำเป็นล้อกลมๆเหมือนรถเข็นเรานี่หล่ะ เเต่ต้องทำล้อใหญ่ๆเพิ่อรับน้ำหนักหินก้อนใหญ่ๆได้ เสร็จก็ใช้กระเดื่องยกใส่รถเข็น เเละคนก็เข็นไป หรือช้างลาก สมัยก่อนผมเด็กๆผม เห็นคนเฒ่าคนเเก่ที่บ้านขนไม้ท่อนซุง ยาว10กว่าเมตร เส้นผ่าศูนย์ท่อนซุงประมาณๆ 40 -60 cm น้ำหนักก็ลองคิดเอา เอามาทำเสาศาลาวัด 40-50 ต้นจากภูเขา เกือบ30กิโลเมตร ยังทำได้
( ข้อนี้ ความเป็นไปได้ ส่วนตัวให้ 100%)
3=ส่วนการตัดก้อนหินนั้น ผมคงนำไปเป็นการบ้าน....
ทังหมดคือความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น
ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูล
การตัดก้อนหินคิดว่าเขาใช้ความร้อนนะแต่ใช้วิธีไหนไม่รู้นะในอดีตเคยเห็นลุง(เขาเป็นช่าง)เขาทำอะไรเขาจะมีเหล็กแหลมไว้ลนไฟเจาะรูไม้เจาะรูต่าางต่างเขาไม่ยอมใช้สว่านเลย
สุดยอด
@@ธาณี-ว9ฑใช้เหล็กแหลม ใช้สิ่วตอกสกัด เห็นร่องรอยการตัดหินแบบชัดเจน ที่ใช้สร้างปราสาทภูเพ็ก สกลนคร
@@ธาณี-ว9ฑ อีสานเรียกว่าเหล็กซี เอาลนไฟให้แดงแล้วแทงลงตรงที่จะเจาะรู กับไม้น่ะ แต่นี้หิน ยุคหินเขามีวิธีของเขานั้นแหละ หน้าจะมีภาพตัดหินในปราสาทน่ะ และการก่อสร้างนั้น
ขอบคุณแอดมินมากๆ ที่ทำให้ผมได้คำตอบ ว่าปราสาทหินพิมายแถวบ้านผม ตัวผมเองและทุกๆคนที่ได้ไปเห็นปราสาท ต่างก็มีคำถามขึ้มาเหมือนกัน ว่าผู้สร้างเขานำหินมาจากไหน ผมสงสัยมาเกินกว่าห้าสิบปี เพราะรัศมี 100 กิโลเมตรจาก อ.พิมาย ไม่มีภูเขาสักลูก,ไม่มีหินทรายแบบนี้สักก้อน ผมเพิ่งจะรู้ว่า ที่ อ.สีคิ้ว มีแหล่งหินตัด ก็วันนี้เอง (ผมโง่มาตั้งนาน 555..)ขอบคุณครับ_ แต่ก็ยังต้องมาสงสัยต่อไปอีก ว่าการขนย้ายก้อนหินเหล่านั้น เขาทำด้วยวิธีการใด? ส่วนการตัดหินยังพอมีการคาดเดา,สันนิษฐานได้หลากหลายวิธี_
นำ
อยากให้คนปัจจุบันนี้ที่มีเครื่องมือทันสมัยตัดให้ดูและใช้วิธีขนไปจังเลยว่าจะทำแบบไหนไม่ต้องให้ไปคิดถึงสมัยโน้นหรอกนึกไม่ออกจริงๆ
ช้างแน่นอนครับทำงานหนังหนาสาหัส ลากเลื่อนไป
เนวิน ชิดชอบ สร้างปราสาทเขาพนมรุ้ง(จำลอง) ที่ใกล้ๆสนามฟุตบอล ใช้หินเหล่านี้แหละ แต่ใช้เครื่องมือสมัยใหม่ตัด
ลักษณะลวดลาย จะสวยกว่าของโบราญ
ไปบุรีรัมย์ก็ไปชมนะครับ
ง่ายมากครับสมัยนี้
ไปดูที่ภูม่านฟ้าครับ หลวงพ่อแดงท่านทำอลังการกว่าปราสาทนครวัตมากมายยิ่งนัก
เพิ่งเคยเห็นสถานที่นี้ ทึ่งมาก
กับความพยายามคนสมัยโบราณ สถานที่แบบนี้ยังไม่เคยมีใครทำคลิปเผยแพร่
เทคนิคแบบนี้มาจากอินเดียแน่นอน ดูได้จาก วิหารไกรลาศ แห่งอินเดีย วิหารศักดิ์สิทธิ์ สร้างจากหินยักษ์ก้อนเดียว เทคนิคการใช้หินแบบนี้ต้องยกให้ คนอินเดียโบราณ
เกี่ยวไรกับอินเดียหรึ...???!!!
@@diiwazavbn9061 เอ้อ....เอ้อ....เอ้อ.....
ตอนยกหินขึ้นเป็นรูปปราสาท น่าจะใช้ดินถมเป็นทางลาดขึ้นไปไต่ระดับความสูง ตามที่ต้องการ ใช้กำลังคนและช้างลากขึ้นไปวางตามจุดที่ต้องการเสร็จแล้วก็ขนดินออก คนสมัยก่อนสุดยอดมากครับ
มีเหตุผล
ถ้าใช้ดินต้องเป็นดินที่แข็งพอสมควร คนถึงจะขึ้นไปเหยียบได้ และไม่ทรุดลง ผมคิดว่าน่าจะใช้หินนี่แหละก่อขึ้นเหมือนนั่งร้านในปัจจุบัน และคิดว่าน่าจะใช้กำลังคนหลายคน ยกต่อ ส่งกันเป็นชั้นๆไป
คงมีอีกหลายที่นะ ที่ถูกตัดไปสร้างปราสาท..
ใช่ครับ เท่าที่ทราบมีที่ บ้านกรวด บุรีรัมย์ ด้วยครับ
สมัยนั้นบ้านเมืองคงเจริญจนถึงขีดสุด มีวิศวะกรรมล้ำหน้ามากไม่แพ้อียิปโบราณเลย
@@noploblem8432 คุณรู้รึปล่าว ??
การรบสมัยก่อนไม่ใช่เพื่อแย่งชิงเมืองหรือดินแดนอย่างเดียว แต่เขาจะรบเพื่อแย่งคนหรือเทครัวเชลยศึก ใครแพ้จะถูกกวาดต้อนมาเพื่อเป็นแรง เมืองไหนแรงงานเชลยยิ่งเยอะก็ยิ่งพัฒนาได้เร็ว เพราะได้แรงงานฟรีๆโดยไม่ต้องจ่ายค่าจ้าง ยิ่งมีทาสเยอะๆก็ยิ่งหาทรัพยากรได้เยอะ สมัยก่อนสิ่งที่มีค่าเช่นเดียวกับทองคือ พวกเพชรพลอยโลหะสำริดเงิน พวกงาช้างพวกไม้ที่มีค่าและของป่าต่างๆ เพราะมีหลักฐานว่าดินแดนแถบเป็นชุมทางค้าขายจากซีกโลกตะวันตก อาหรับเปอร์เซียกับซีกตะวันออกเช่นจีน จาม เวียดนามของพวกโจฬะบกโจฬะน้ำ ชวา มลายู ที่มีหลักฐานเช่นการค้าขายโลหะสำริดกับกวางสีของจีนเพื่อทำกลองมโหระทึก มีการสันนิษฐานว่าอาจจะมีแหล่งผลิตลูกปัดอยู่ในแถบนี้ด้วยและอื่นๆอีกเยอะแยะ ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องมีคนงานไว้ทำเหมืองเก็บของป่า ยิ่งทาสเยอะก็ยิ่งร่ำรวย มีทาสเยอะก็ปลูกข้าวได้เยอะ สินค้าส่งออกก็ยิ่งมีเยอะ ไม่ใช่เอาทาสไว้แค่สร้างเมืองเท่านั้นนะคุณ!!! อย่าคิดว่าเมืองที่อยู่ไกลทะเลแล้วเส้นทางการค้าจะไม่ผ่าน เพราะทุกเมืองได้ติดต่อแลกเปลี่ยนกันหมด
เทคโนโลยีของเขมร และช้ากว่าอียิปต์เป็นพันปี
@@wy6880 หลักฐานอะไรบอกเป็นของเขมร
@@noploblem8432 อิยิปก้อใช้ทาส..ยิวไง
ศิลปะงัยเป็นของเขมร สมัยนั้น ไทยยังไม่เกิด ที่นี่คืออณาจักรขอม
เคยดูภาพแกะสลักที่นครวัดใช้ช้างลากหินและแรงงานทาสทำครับ แล้วสร้างต่อเรื่อยไป หลายยุคหลายสมัยกว่าเสร็จคับ
เคยเห็นนะเเต่เป็นหินกรวด อยู่ในวัดบ้านเเท่นบัลลังก์ อำเภอนางรอง ทำคล้ายๆบัลลังก์
ผมอยุ่แท่นบัลลังก์ครับ
คำว่าเขมรโบราณนี่ไม่น่าใช้คำนี้เพราะคนเขมรเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อหลังยุคพระนครและพวกเขาก็บอกว่มเขาไม่ใช่ขอมด้วยตามนั้นก้แสดงว่ายุคนั้นต้องควรกล่าวว่าเป็นยุคขอมรุ่งเรืองมากกว่า คนยุคนี้มักจะยอมรับว่าเป็นอารยธรรมของเขมรประวัติคนเขมรไม่มีผู้นำเป็นกษัตริย์ทุกวันนี้พวกเขายังค้นหารากวัฒนธรรมตัวไม่เจอมากล่าวอ้างเอาในประเทศไทยเรานี่ทั้งที่อยู่ในปกครองของไทยมาตลอดนับกว่า600ปีนับแต่เกิดมีอาณาจักรอยุธยามากรุงรัตนโกสินนี้
ลอง google ดูสารคดี หินที่ใหญ่กว่านี้มากๆ 1000ตัน ก็ตัดกันมาแล้วตรงและคมมาก และไม่ได้เจาะรูให้ลากยก และก็อย่าด่วนสรุปว่าต่างดาวสร้างละกัน
พระเจ้าชัยวรมันฯยืมเครื่องเจียรมาจากมนุษย์ต่างดาวหรือเปล่าหรืออาจเช่ามาก็ได้ รวมทั้งเครนด้วย
น่าจะทิ้งใบเจียรใว้ให้ดด้วย
ใกล้เคียงที่สุดอาจเอาวิธีหรือเทคโนโลยีมาจากฝั่งอียิปต์ก็ได้นะ เพราะอินเดียก็ตัดหินได้เทพเหมือนกัน ส่วนเเถวบ้านเราเห็นว่าถ่ายโอนจากฝั่งอินเดียมาอีกที อินเดียฝั่งชาวทมิฬ
ผมก็งงมากคับหินไม่ตัตงายๆและไม่เบาทำได้สุดยอดคับ
สกลนคร บ้านผมก็มีครับ ปราสาทภูเพ็ก มีที่เขาไปสะกัดหินด้วยเยอะมาก
เป็นไปได้ไหมมี่เขาจะใช้ไฟเผาหินให้เป็นเส้นให้ร้อนแล้วเอานำ้มาราดก่อนการสกัดทำซำ้กันหลายๆรอบจนลึกพอ
คนโบราณตัดหินในช่วงที่มีความอ่อนตัวอยู่ถ้าแข็งเซ็ทตัวลงแล้วตัดไม่ได้
น่าจะใช่นะคะเห็นด้วยค่ะ
ใช้ครับผมเห็นด้วยสมัยนั้นหินน่าจะยังไม่แข็งมากถึงตัดได้
ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ความรู้จากคุณเลยสักนิด คุณไม่มีความรู้เชิงลึกแม้แต่น้อย เสียเวลาเข้ามาดู
จริงครับ เข้ามาดูคลิป นึกว่ามีองค์ความรู้บ้าง แต่นี่ไม่ได้อะไรเลย
ไม่มีใครเกิดทันเพียงรัฐนิฐานความน่าจะเป็น ความรู้จึงมีแค่นี้ แหละ ผ่านมาแล้ว 1000ปี
ที่บ้านกรวดมีแหล่งหินตัดอยู่3ที่ครับ
เสาหินโฮปเวลจำนวนหลายสิบแท่ง ของ กทม.อีก 100 ปีข้างหน้าก็จะมีคนมาพิสูจน์ว่า สร้างมาได้อย่างไร
555
@@Sara-r9n5l พรรคแมงสาบไม่เคยทำประโยชน์ให้ประชาชนเลย
เทปูนเอา
อีก100ปี ทุกอย่างคือวัตถุโบราณ
งานของมันไม่เคยสำเร็จเพราะต้องส่งยอดให้เขาเอาเงินเขามาใช้ก่อน ได้งบมาต้องคืนเขา คนพวกนี้สลึงก็ไม่เคยควักจากกระเป๋า
อยากรู้ตัดหินออกจากพื้นใด้ยังไงครับ
น่าจะใช้ลิ่มตอกอัดเข้าไปจนหินแยกออกจากกัน เหมือนที่เขาทำเหมืองหินอ่อน
@@รัตนาภรณ์คงประดิษฐ์ ใช่ๆที่คุณว่ามาน่าจะเป็นไปได้เคยเห็นคลิปที่มีคนนั่งตอกลงหินแล้วหินแตกเป็นเเผ่น
ที่เม้นกันเรื่องเคลื่อนย้ายมันอาจเป็นไปได้ แต่ก็ว่าจริงๆเขาจะเคลื่อนย้ายด้วยวิธีไหน อยากรู้มาก
ช้างไงครับสมัยก่อนช้างเยอะแยะ
สมัยก่อนเค้าเพิ่งแต่สัตว์ๆชนิดนั้นคือช้างๆก็เปรียบเสมือนเครื่องจักรมาตลอดในยุคก่อนๆจนถึงปัจจุบันก็ยังมีลากไม้ลงจากภูเขาอยู่บ้างแต่ยุคก่อนหน้าช้างเป็นสัตว์ที่น่าสงสารที่สุดไม่ว่าด้านการรบด้านการก่อสร้าง
ถือว่าเป็นความสามารถมหัศจรรย์ของมนุษย์จริงๆ เพิ่งเคยเห็นแหล่งตัดหิน น่าทึ่งมาก
การขนหินจะใช้ช้างลากจูงเป็นหลัก มีล้อเลื่อนที่ทำจากท่อนซุง การขนย้ายในเส้นทางที่ลำบาก จึงมีการเกิดอุบัติเหตุและมีคนเจ็บคนตายตายเป็นจำนวนมาก ส่วนมากจะเป็นทาส และเชลยศึก ที่ถูกจับบังคับใช้แรงงาน
สมัยนั้น ปีหนึ่ง จะมีสภาวะเกือบไร้น้ำหนัก อยู่หนึ่งเดือนครึ่ง และคนสมัยนั้นไม่เล็กแบบสมัยนี้ ก้อนหนึ่งยกสองคน
เวอร์ไปครับ
ปราสาทพิมาย เป็นหินทรายสีขาว
ปราสาทพนมรุ้ง เป็นหินทรายสีชมพู
คนสมัยก่อนตัวใหญ่มากดูจากโครงกระดูกที่ขุดพบ
@THE RIPPER 8ศอกไม่ใช้ส่วนสูงค่ะคือหน้าอก
@THE RIPPER อันนี้ก็ไม่รู้ว่าจริงไม่จริงแต่รู้แค่ว่าคนสมัยก่อนตัวสูงใหญ่มาก
น่าทึ่งมากครับ ไม่มีเครื่องจักร แต่ตัเหินเป็นก้อนๆ รูปทรงเรขาคณิตได้ สุดยอดมากครับ คนโบราณ
ให้ไปฟังในยูทูบเรื่องนิมิตพิศวงค์ตอนปราสาทหินพนมรุ้งของอาจารย์ไพศาลแสนชัย
สมัยก่อนหินก็เหมือนดินเหนียวนี่แหละ/นอสตาบอกไว้
หินทรายเป็นหินที่ไม่แข็งมาก มีความเปราะแตกง่ายกว่าหินชนิดอื่น มีมากที่ภูพาน สกลนคร
ขอบคุณครับที่เอามาลงให้ดู
ขอบคุณมากมายค่ะสำหรับคลิปนี้
การตัด ตัดได้ เสมอกันเลย ขนาดตอนนี้มีเครื่องมือดีๆยัฃตัดยังต้องใช้เวลา นาน อยากรู้ว่า ใช้เครื่องมือชนิดใด ตัด
สิ่วครับ เอาให้เปะเลยก็ได้ แค่หินเหลี่ยมๆ จิ๊ปๆ เขาแกะเป็นพุทธรูปทั้งยังยังทำได้ นี่แค่ สี่เหลี่ยม
ผมว่า เอากระเพาะ แกะเป่าลม แล้วใช่เชือกผูก เป็นหมู่ก้อนหิน แล้วใช้เรือลากไปตามลำน้ำ
ผมว่าคนสมัยก่อนต้องตัวใหญ่เขาอาจจะใช้ช้างหรือใช้ล้อลากมาแน่ๆครับ
คิดเหมือนกันเลยครับคนโบราณตัวใหญ่จะเห็นจากซากมนุษย์8ศอก ตามป่าช้าเก่าๆ
@@อัสวินดิจิตอล ไม่ถึงหรอกคนอะไรสูง4เมตร
@@Joe-cl2ix เคยไปดุเค้าล้างป่าช้าสักทีไหมครับ
@@อัสวินดิจิตอล มนุษย์ที่สูงที่สุดในโลกที่ค้นพบยังสูงแค่ 2.72เมตร แล้วป่าช้าไหนครับที่มีโครงกระดูกสูง4เมตร เอาหลักฐานมาให้ผมดูหน่อย ความเชื่อต้องอยู่บนฐานของความจริงด้วยนะครับ
@@อัสวินดิจิตอล และค่าเฉลี่ยความสูงของมนุษย์ไม่เคยเกิน1.9เมตรด้วยซ้ำ และสมัยก่อนโภชนาการไม่ดีเหมือนสมัยนี้ด้วย ความสูงของคนสมัยนี้สูงกว่าคนสมัยก่อน
ปราสาทหินพิมายผมยกให้อันดับหนึ่ง เพราะสร้างบนที่ราบลุ่มห่างไกลจากแหล่งหินตัดมาก
ผมตามหาจุดเอาหินไปสร้างปราสาทมานาน..โดนใจเลย..เหล็กที่ใช้ตัดหินต้องกล้าแข็งหรือเหลี่ยมหินตระกูลเพชรมิฉะนั้นจะเหี้ยนสึกเร็ว..การตัดโดนใช้แรงจลแรงกลึงจากวงล้อขนาดใหญ่..มีแท่นขาชายสามขา..หมุนล้อหนึ่งครั้งจะได้แรงจล50-100 รอบ/นาที..ใช้ระบบล้อเลื่อนระบบกลึงเป็นหลัก. เอาชุงทั้งท่อนมากลึงมาหมุนเป็นเครื่องมือตัด..หินทุกก้อนจะเจาะก่อนการเคลื่อนย้าย.เพื่อลากดึง...เพื่อสอดหวายหรือเชือกหนังช้างดึงขึ้นเลื่อน..การเคลื่อนย้ายใช้เกวียนเทียมช้าง-ควายวัวในการชักลาก..หินกนักสิบตันขึ้นไปใช้เลื่อนช้างดึงและช้างดันส่วนล้อก็เหมือนลูกคิด.คือเป็นเกวียนขนาดใหญ่.เคลื่อนย้ายในฤดูแล้งเท่านั้นวันโลสองโล....ช้างสุรินทร์คือแรงงานที่ยังเห็นเป็นรูปธรรมที่เห็นอยู่..การนำหินขึ้นสร้างปราสาทเขามิได้ยก..แต่ใช้เนินดินถมรอบปราสาทแล้วลากเลื่อนขึ้นไปคือตัวปราสาทอยู่ต่ำกว่าเนินดินมีลอกไม้ทำด้วยชุงทดแรงช่วย..เมื่อสร้างปราทเสร็จก็จะเอาเนินดินออก
ขอบคุณมากครับ สำหรับความรู้ที่แชร์ ไว้มีโอกาสจะไปดูที่อื่นด้วยครับ
คิดเหมือนเราเลย เราก็คิดอย่างนี้เหมือนกันมาก่อนแล้วก็มาเจอคอมเม้านท์นี้พอดี เยี่ยม
การคัดหินแบบโบราณเครื่องตัดน่าจะหมุนแบบชิงช้า..ส่วนหัวตัดน่าจะเป็นเหล็กหรือหินตระกูลเพชร.วงล้อหนึ่งน่าจะมี8-16 หัว.หมุนปั่นทั้งวัน..ชุง/เลื่อน/กลึง เป็นเครื่องมือหลักในการผ่อนแรงคน..ผมสงสัยมากก็ตอนงัดหินออกมานี้แหละ..เพราะร่องมันแคบมากหรือจะใช้ลิ้มตอกแล้วดึงกับแรงช้าง
ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
คิดเยอะไปครับ ดูคลิปนี้ ruclips.net/video/JTDzT7HNsg4/видео.html
สานต่อสมบัติที่เหลืออยู่ไปสร้างสถาปัสอันรือชื่อให้ลูกหลานให้เขารู้ว่าเราทันสมัยทันยุคครับ
มันอยู่ในอนาคตของเรานี้แหละมันคนละกัปมันเรื่องเดียวกัน
ตัดแล้ว เอาไม้ยางแห้งวางในร่องเอาดินเหนียวปิดหัวปิดท้าย แล้วเอาน้ำมาเทให้เต็ม เมื่อไม้แห้งโดนน้ำจะขยายตัว เหมือนไฮโดรริค ดันขยายทำให้หินแตกแบบยาว เมื่อจะให้สั้น ก็ใช้เหล็กสกัดตอก
แรงดันมากขนาดนั้นเลยเหรอ
หนักมากๆสงสารคนทำและช้างม้าวัวควายที่กว่าจะเอามาได้ยกยังไง?
เรื่องจริง ที่ทิ้งไว้เป็นหลักฐาน คือสิ่งปลูกสร้าง/ตัวปราสาท. แต่วิธีการ,ขบวนการ และอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ต่างๆนั้น มืดมิด ไม่มีใครรู้,ไม่มีข้อคิด,ไม่มีคำสันนิษฐานใดๆ ที่จะนำมายืยยันให้เป็นที่น่าเชื่อถือและยอมรับได้…
_แปลกแต่จริง คนยุคปัจจุบันนี้ มีความรู้ ความสามารถ ในการคิดค้น สร้างสรรค์เครื่องจักร์กล เครื่องมือต่างๆ ได้ดีกว่าคนโบราณเป็นร้อยเท่า พันเท่า แต่พอพูดถึงการสร้างปราสาทหินของคนโบราณ ในทุกวันนี้ เพียงแค่ให้หาคำตอบ หาทฤษฎีที่พอจะเชื่อว่าเป็นจริงได้ ก็ยังไม่มีมนุษย์คนใด หรือดอกเตอร์คนไหนมาตอบยืนยันให้คนทั้งเชื่อถือได้ นั่นเอง. ใครพูดขึ้นมาก็เป็นได้แค่ ข้อสันนิษฐาน ลมๆ แล้งๆ เท่านั้นเอง…
พันกว่าปีมาแล้วนะ ผมคิดว่าหินแบบนี้สมัยนั้นอาจจะไม่แข็งเท่าปัจจุบันนี้ก็ได้นะผมคิดว่านะ เพราะว่าหินพวกนี้มีอายุหลายล้านปีมาแล้ว ยิ่งอยู่ยิ่งแข็ง
ใช่พูดถูกเป็นอย่างที่คิด1000เปอเซนไม่ต้องสงไส
หินที่อยู่ใต้ดินจะอ่อนกว่านี้ พอโดนอากาศก็จะแข็งขึ้นมากครับ
จริงไหมครับที่เค้าบอกว่าหินศิลาแลงสามารถใช้ของมีคมตัดหรือมีดตัดได้เลยเพราะหินที่ตอนตัดมันอยู่ในดินมันจะนิ่ม อันนี้ผมดูมาจากช่องของอ.ตุ๊กบางประอินอะครับ มันจริงไหมครับ
จริงครับเพราะเมื่อก่อนผมเคยเอา หินศิลาแลง มาทำบ้าน ในราคาถูก
ใช่ครับ ศิลาแลง ในดินจะนิ่ม
กูก็ดูสารคดีเกี่ยวปราสาทมาก็มาก แต่มันก็ไม่เคยมีใครนำเสนอสี่งเหล่านี้มาให้ดู ไม่รู้มันเพราะอะไรเพิ่งรู้ แม่งเอย
คงไม่มีใครตอบได้ว่าเขาใช้อะไรต้ด
และไม่มีใครรู้จริงหรอกผมว่าเขาเอาก้อนหินที่ตัดได้แล้วเคลื่อนย้ายไปสร้างปราสาทตามที่ต่างๆ
ได้ด้วยวิธีใด
สิ่งที่คนปัจจุบันเดาวิธีการ หรือสันนิฐานวิธีการมันไม่น่าจะถูก
น่าเสียดายที่คนในปัจจุ
บันไม่รู้จริง
เมื่อก่อนคนตัวใหญ่สูงเป็นสามสิบเมตรนี้วแต่ละนิ้วเท่าเสาสำเร็จหินก้อนหนึ่งยกคนเดียวสบาย.แบกไปสร้างปราสาทสามเดือนเสร็จ..ใช้เชือกตัดหินใส่คาถานิดหน่อยก็ขาดแล้ว
สกัดหินให้เป็นร่องแล้วเจาะรูใส่ลิ้มไม้หรือเหล็กตอกลงหินก็จะแตกเป็นร่อง แรงงานคงเป็นแรงงานทาส ปัจจัยสำคัญที่เป็นส่วนทำให้อาณาจักรล้มสลาย
อยากรู้จังพวกเขาเอาเครื่องมือชนิดใหนตัดมีดขวานหรือมีใหญ่กว่านั้น
คนโบราณ. มีจิตใจที่ละเอียดอ่อน เครื่องมือที่ อำนวนผลผลิต ไม่ใช่เรื่องยากเลย
เหล็ก เชือกที่ได้จากหนังช้าง วัว ควาย ไม้ทำหนังร้าน กระเดื่องยกหิน สามารถยก
หินน้ำหนัก เกือบ1ตัน โดยใช้คนไม่กี่คน กระดานเลื่อนหิน (สะไลหิน) เกวียนล้อไม้
ทั้งแท่ง. สำหรับเทียมลากกับช้างโดยเฉพาะ คนโบราณฉลาดในวิถีการกระทำมาก
ทำด้วยจิตที่บริสุทธิ์ ไม่มีรายได้ ที่เป็นเงินทอง มีสิ่งสำคัญ ความสามัคคี ทีมเวิร์ค ที่
แต่ละแผนก กระทำ ดูเอาปลอกก่อสร้างจอมปลอม แล้วจะเข้าใจ ถ้ายากทราบ รายละ
เอียด วิธี ก่อสร้าง ดูได้จากภาพ จำหลักหิน นูนตํ่า ณ ปราสาท บรรยง และ ราสาท
บันท้ายชะมา เขมร แล้วจะได้ร้องบางอ้อ ว่าอย่างนี้นี่เอง. พี่งง พี่งึก อย่ายุ่งสมองนะ
ขอบคุณมากๆครับ กำลังค้นหาอยู่เลย เขาเอาหินก้อนใหญ่ๆมาทำปราสาทนั้น เอามาจากที่ไหนกันแน่ (เคยสันนิฐานไว้น่าจะเป็นแถวอิสาน เพราะร่องรอยการสร้างพระแกะสลักจากหินก็มาจากทางอิสาน) เลยคิดไปแบบนั้นครับ
คนยุคนั้นต้องตัวใหญ่มากนะคับ
7-June-2024.8.08.Pm
คนยุคนั้นลูกผู้ชายอกสามศอกค่ะ
พูดกันติดปากจนถึงปัจจุบันนี้ค่ะ
...............❤❤
ทึ่งมากๆคนสมัยก่อน งานศิลปทำใด้ดีและสวยมากๆเลยครับ
เชื่อเลย นครวัตร นครธม ต้องมาเอาที่ตรงนี้แน่นอนครับ
ไกลไปจ้า แหล่งหินทรายที่นี่น่าจะนำไปสร้างปราสาทหินพิมายนะครับ ส่วนนครวัด นครธม เค้ามีแหล่งหินทรายที่เขาพนมกุเลนห่างออกไปประมาณ 50 กม. ครับ
@@takedazu ขอบคุณครับผม นี่คือความรู้อีกความรู้นึงเก็บไว้เล่าให้รุ่นหลังได้ฟังครับ ขอบคุณครับ
เขาพระวิหารทางขึ้นต้องผ่านด่านศรีษะเกศ #แสดงว่าคนไทยเป็นคนสร้างไม่มีคัยสร้างประตูกะบันไดไว้หลังบ้านหรอกจิมิ
ไปศึกษาเรื่องอาณาจักรเขมรโบราณก่อนครับ ว่าอาณาเขตถึงไหน เกิดขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ.ใหน ก่อนที่ ฝรั่งเศสเข้ามาล่าอานานิคม แล้วทำเส้นแบ่งเขตแดนขึ้นใหม่
มันเป็นของเขาตั้งนานแล้วคับ
🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣
@@pichitchaik5461 ใหนอาณาจักเขมรอยู่ตรงใหน บอกผมมาหน่อยดิ ผมชาว"กูย"เขมรมีอะไรเป็นของตัวเองบ้าง ตอบผมมาดิ มันจะได้รุ้ว่าใครเป็นคนสร้างเขาพระวิหาร กล้าเปิดประวัติศาสตร์ใส่กันใหมล่ะ
@@ณัฐวินแหวนวิเศษ ของใครคับ ไม่ใช่ของเขมรแน่ๆ กล้าเอาหลักฐานมาใส่กันป่ะ ผมชาว"กูย"จะได้รุ้ว่าใครเป็นคนสร้าง ถ้ากล้าเปิดจารึกได้เลยว่าเป็นภาษาอะไร
คนออกแบบ การสร้างและตัดหินไปสุดยอดเลยครับ กระดาษยุคนั้นเขียนแบบกะบ่มี
สมัยเมื่อ1000ปีก่อน--หินเปลือกโลกอาจยังไม่แข็งตัวมากเหมือนตอนนี้ก็เป็นได้!😁😁😁😁🤩🤩🤩🤩
คงจะประมาณนั้นครับเหมือนก้อนหินศิลาแลง ที่อยู่ใต้ดินมันมีความอ่อนตัวตัดง่าย พอโดนแดดจะแข็งตัวใช้ทำกำแพงวัดหรืออื่นๆตามต้องการ
มีความเป็นไปได้ครับ
แม่เคยเล่าให้ฟังว่า คนสมัยก่อนสูงมาก เรียก”คนแปดศอก”
แสดงว่าเรื่องจริงใช่ไหมครับ
ไม่มีหรอกคน8ศอก มนุษย์ไม่สูงขนาดนั้น
@@Joe-cl2ix 8ศอกถ้าเทียบแล้วกี่เซ็นครับ
@@Whatnow671 400เซน 1ศอกเท่ากับ50เซน
@@Joe-cl2ix แสดงว่าสูง4เมตร เลยเหร่อครับ คิดไม่ออกเลยว่าจะตัวเท่าไหน แล้วคนอก3ศอกล่ะครับมีจริงไหมครับ
ตัดหินได้ก็สร้างปราสาทได้ แต่ทุกวันนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าคนโบราณเขาใช้อะไรตัดก้อนหิน เพราะทุกส่วนได้ฉากเเละเรียบขนานทุกด้าน วิศวะกรสมัยใหม่ลองเอากระดาษแซกในรอยหน้าประกบแล้วแต่แซกไม่ได้(ค่าความละเอียดห่างกันแค่0.02มม.)
ใช้เครื่องโซ่เลื้อยหินครับ การขนส่งก็ใช้สิบล้อขน
ขอทราบเป็นอุทยานหรือเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมดา,
เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมดาค่ะ ไม่เสียค่าเข้าชม
ใช้หินกระกูลเพชรหรือเหล็กชุบพิเศษตโดยใช้แรงกลึงของวงล้อเกวียนขนาดใหญ่หมุนทั้งวันเป็นพลังจลของแรงหมุนเป็นพลัง..ใช้น้ำเป็นตัวช่วยหล่อลื่น.ไล่ฝุ่นหินไหลออก .เครื่องตัดอีกแนวคิดือมันคล้ายกบไสไม้ขนาดใหญ่มีดึงสองข้างดึงไปดึงมาทั้งวันจนเป็นรอยลึก
ใช่คับ
แล้วเครื่องมือเหล่านั้นหายไปไหนหมดไม่มีหลงเหลือหรือเป็นเรื่องเล่ามาบ้างเลยหรือ
บนเขาเอาพลังน้ำไหนมา ไม่เห็นมีล่องลอยทางน้ำเลย
@@pongsila2352 น้ำแค่หล่อลื่นครับแรงจลอาจใช้คนหรือสัตว์
คนเรียรวิทย์จะคิดออกดีว่าพวเรียนสังคม..รู้เรื่องโลหะหรืออโลหะ..ตระกูลหินแข็งอ่อน..รู้แรงเสียสีเสียดทาน..รู้ลอรู้ลิ้ม.ารทดแรง
ไกลมากนะครับ อ.สีคิ้ว กับ ปราสาทหินพิมาย/แต่คนโบราณทำได้อย่างไร สงสัยมากๆครับ🙏
บ้านผมเดะนิ ตรงข้ามทางเข้าหมู่บ้านคลองตะแบก 😅😅
พูดมากเกินเขาใช้เหล็กสกัดไปดูคริบฟรั่งไปว่าเขาตัดอย่างไรรู้ไม่จริงผูดมากเกิน
ถ้ามันมีเหล็กขนาดนั้นเขาคงสร้างปราสาทใช้เหล็กบ้างแหละแต่ในตัวปราสาทไม่มีส่วนประกอบของเหล็กเลย
ในนิมิต ของคุณไพรสาน ตอนที่ไปพบ ท่านที่เฝ้าดูแลปราสาทพนมรุ่ง จะอธิบายการทำก่อสร้าง การขนหิน การก่อสร้างไว้ บางส่วน ตอนนั้นบังเอิญได้เปิดฟัง ก็แบบธรรมดานั้นแหละว่างั้น ช่างใครถนัดด้านไหนก็ให้ช่างด้านนั้นมาดูแล มีเครื่องมือใช้เอง ทำเครื่องมือใช้เอง
หลวงปู่ฤาษีลิงดำบอกว่าขอมไม่ใช่เขมร ประวัติศาสตร์เราสอนผิด😮
เชือกที่ลากดึงขึ้นปราสาทเขานำเอาหนังควายแก่ที่ตายแล้วเอามาตากแห้งและก็ทำเป็นเชือกครับทนทานเหนียวคลเายกับเชือกคล้องช้างสมัยก่อน
เชือกที่เขาเอาคล้องช้างป่านั้นเขาเอาหนังควายตัวเมีย2 ตัว ตัวผู้ 1 ตัวเอามารวมกันตีเป็นเกลียวได้เชือกปะกำหนึ่งเชือก ถึงจะเอาช้างป่าอยู่และถูกตามครูด้วย
เค้าตัวโตกว่ายุคเรามากพละกำลังมหาศาลจิตใจสูงสะอาดกว่าเราอาศัยความเพียรพละกำลังและพลังจิตในการสร้าง(เทคโนโลยี่ก็สูงกว่าเรา)
สังเกตุทุกปราสาท หินทุกก้อนจะทำรูไว้สองรูอย่างน้อย น่าจะเอาไว้สอดเหล็กยกขึ้นที่สูงนะครับ
น่าจะรับเทคโนโยีจาก อินเดีย
เอาอะไรทาตัดให้ตรงและเรียบมากเหมือนเครื่องใส่ใบตัดเลย
ฟังคุณไม่ได้ประโยชน์อะไร ชี้ให้ดูแต่หิน ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นหิน
เขาไม่ใช้เลือขนหรอก...เคยเห็นเขาขนไม้ซุงล่องซุงขนาดใหญ่ตามลำน้ำเขาผูกแพไม้ไผ่ ล่องไม้ซุง
7-June-2024.8.11.Pm
คนยุคนั้นลูกผู้ชายตัวสูงใหญ่บึกบึนอกสามศอกค่ะ
พูดกันติดปากจนถึงปัจจุบันนี้ค่ะ
#ลูกผู้ชายอกสามศอก❤❤
หลุมอันนี้ผมคาดว่าที่เก็บน้ำครับสำหรับใส่น้ำไปด้วยเวลาสกัดหินครับเพราะจะทำให้หินขยายตัวสกัดง่ายขึ้นครับอีกอย่างทำให้ไร้ฝุ่นครับ
อยากรู้เอาอะไรตัดสมัยนั้น
ที่เหลือที่ไม่ได้ไปคือไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานครับ
กว่าจะเสร็จแต่ละที่ คงมีคนตายเยอะพอสมควร ไม่ว่าจะเจ็บป่วย ถูกหินทับตาย
ปัจจุบันแหล่งหินตัดสีคิ้วสไลค์จากจุดเดิมหรือยุบแหล่งหินตัดสีคิ้วอยู่ติดกับถนนมิตรภาพโคราชถ้ารถวิ่งไปตามถนนนี้ย้อนไปถึงบ้านบุใหญ่สูงเนินติดถนนมิตรภาพเหมือนกันทางการกำลังขุดตบแต่งปราสาทหินวัดบุใหญ่ย่านนี้ถือว่าเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณที่สำคัญของมวลมนุษยชาติพันปีขึ้น
ห่างจากแหล่งหินตัดสีคิ้วประมาณสองถึงสามกิโลจะมีลำน้ำตะคองบ้านคลองตะแบกใหลไปแม่น้ำมูลสันนิษฐานว่าน่าจะนำไปสร้างแถวๆแหล่งหินตัดนี้แหละก็มีบ้านหัวสระเมืองเสมาเมืองโฆราฆะปุระอำเภอสูงเนินโคราชเก่าขนไปทางน้ำลำตะคองบ่อกุมภลักษณ์คนเมื่อพันปีที่มาตัดหินก็เห็นเหมือนกับเรานี้แหละ
เครื่องตัดน่าจะเป็นหินที่แข็งกว่าหินทรายครับน่าจะออกแบบมาแบบล้อเกวียนติดหินมีแกนขนาดยาวเป็นข้อเหวี่ยงสำหรับคนหมุนตัด
หินทรายนำมาขัดผิวได้..นำมาลับมีดได้ใช่ไหม..เห็นคนสมัยก่อนเขาทำขายกัน ในโคราช
สิ่งก่อสร้างตามศาสนาเป็นความศร้ทธา และความเชื่อ การรับจ้าง และการทำโทษ กดขี่อย่างนั้นหา พอไม่ ประกอบด้วย องค์ประกอบหลายอย่าง สาธุ สาธุ สาธุ
ขอม ไม่ใช่ เขมร กำพูชา ไม่ใช่ ขอม อย่าพูดบรรยายให้คนเข้าใจผิด ชนชาติเขมร เข้ามายึด อารยธรรมขอม ไปเป็นของตัวเอง อารยะธรรมขอม 70% อยู่ในพื้นที่ไทย ที่เหลือ30% อยู่ในกำพูชา และ ลาว ,
คนสมัยก่อนยุคหินโบรานเขาเอาแร่ดีบุกขุดจากภูเขาเจาะลงลึกๆตามสายแร่พอได้แร่ดีบุกมาก็มาทำการถลุงทำเป็นก้อนใว้สำหรับตีดาบและหล่อปืนใหญ่ทำลิ่มหรือสกัดเอาใว้สกัดหินออกมาเป็นก้อนๆบางที่เจาะศิลาแลงปัจจุบันยังมีการทำอย๊ได้รับการถ่ายทอดมาจากครูบาวงค์ที่อำเภอลี้จังหวัดลำพูนหินที่ก้อนใหญ่ๆสกัดออกมาแล้วนำมาขัดเกลาให้เรียบคนสมัยก่อนทำตามกันมาจากรุนสู่รุ่นไม่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยการชักลากมีช้างและวัวควายลากลงจากภูเขาครับเวลายกก้อนหินใช้ไม้ทำเสากระโดงใช้เชือกป่านที่เหนียวที่สุดมัดดึงขึ้นรูปสูงขึ้นเรื่อยๆสมัยนี้ใช้รถเครนยกตามยุคและสมัยครับ
ปราสาทบายนมีพระฤาษีชื่อรุขะมูลเป็นประธานในการสร้างมีฤทธิ์มีเดชมากรอบรู้วิชาเทพสามารถบัลดาลของหนักให้เบาได้(เอกสารไม่มีบันทึกอยากรู้ต้องไปค้นหาในหินที่จารึกไว้เมื่อหลายพันปีเขียนเป็นภาษาบาลีอยู่กับหินเท่านั้น)
แต่ก่อนหินมันอ่อนคับเพราะป่ายังปกคุมแน่นหนาแสงอาทิตย์ไม่สามารถส่องลงมาถึงไม่เต็มรูปแบบพอต้นไม้เริ่มหมดอายุหรือตายและมนุษย์ทำลายป่านำออกไปขายเลยเกิดการเปลี่ยนแปลงแสงอาทิตย์ส่องถึงดินอ่อนเลยกลายเป็นหินแชงเท่าทุกวันสามพันปียุคก่อน
ตกลงหินที่ใช้สร้างปราสาทคือ หินจากภูเขาใช่ไหม
คนโบราณคือเก่งแท้เอาอะไรตัดคือเรียบตรงดีแท้
พวกเข้าไปจบชีวิตที่ไหนกัน
หรือกลับไปอยู่อีกภพ
ถ้าพวกเขาตายในโลกมนุษย์
คงเจอกระดูก(คิดๆสงสัย)
นาทีที่14กล่าวถึงปราสาทเมืองสิงห์ทำไมกล่าวถึงเขมรโบราณ? เขมรมายันนี่เลยหรอ ผมอยากถามว่าเขมร ทำไมภาษาเขมรไม่มีในศิลาจารึกที่ค้นพบเลย รู้ไหมว่าเขมรอ่านภาษาขอมไม่ออก การคาดเดาของท่านไม่อยู่บนพื้นฐานของความจริง แย่ครับ
เขาพนมรุ้ง ขนาดเดินขึ้นยังยากเลย คนที่ขนขึ้นไปสร้างแรงศรัทธาต่อพระศิวะเจ้าอันแรงกล้าเขาขนขึ้นไปใด้ยังไงสมัยนี้นใช้อะไรทุ่นแรง
คนเราสมัยก่อนอาจจะมีร่างกายกระดูกที่ใหญ่กว่ามนุษย์ปัจจุบันก็อาจจะเป็นได้อาจจะมีกำลังเยอะกว่าเรามากมายเพราะได้ยินตนเเก่เฒ่าพูดถึงคน8ศอก และตำนานโบราณก็มียักษ์ด้วย ทุกวันนี้มนุษย์กินอยู่สบายกว่าอดีตมากมายหลายเท่า
เจาะหินให้เป็นรูใข้ลิ่มไม้แข็งตอกเข้า 12:38 รูหินเอาน้ำมารดลิ่มไม้ไม้ขยาย 13:29 ตัว หินจะอตกเป็นเส้นตรง