One of the biggest obstacles experienced by many students is procrastination. Often, when we are assigned academic tasks, we are inclined to put it off to another time. The time we allocated for those assignments is ultimately wasted. In effect, students are left stressed since the deadline for their work is imminent. Fortunately, there are several solutions to this problem. First of all, students should be encouraged to watch Nerdy Nut’s videos every Wednesday at 10am sharp. Ensure that there is minimal distraction when you are watching the videos. This is because the videos provide valuable lessons on how students can beat procrastination that can easily be implemented by any students. Second, after routinely watching Nerdy Nut’s videos, students need to implement the points stated by Nut. This is imperative because if the students should not implement his lessons, it would be no different from them procrastinating with RUclips. In conclusion, procrastination is a common obstacle for many students, but if all students learn to routinely watch Nerdy Nut’s videos and apply the lessons he taught, procrastination will no longer be a problem for any students ever again.
ดีใจนะคะที่พี่ได้เจอคลิปน้องนัทระหว่างที่อ่านหนังสือสอบป.โท ได้เทคนิคและข้อคิดดีดีเยอะเลยค่ะ อายุและการทำงานช่างมีผลในการอ่านและหนังสือมากจริงๆคร้าาาา😅
One of the biggest obstacles experienced by many students is procrastination. Often, when we are assigned academic tasks, we are inclined to put it off to another time. The time we allocated for those assignments is ultimately wasted. In effect, students are left stressed since the deadline for their work is imminent. Fortunately, there are several solutions to this problem. First of all, students should be encouraged to watch Nerdy Nut’s videos every Wednesday at 10am sharp. Ensure that there is minimal distraction when you are watching the videos. This is because the videos provide valuable lessons on how students can beat procrastination that can easily be implemented by any students. Second, after routinely watching Nerdy Nut’s videos, students need to implement the points stated by Nut. This is imperative because if the students should not implement his lessons, it would be no different from them procrastinating with RUclips. In conclusion, procrastination is a common obstacle for many students, but if all students learn to routinely watch Nerdy Nut’s videos and apply the lessons he taught, procrastination will no longer be a problem for any students ever again.
ขอบคุณครับ ขอให้คุณหมอได้รับสิ่งดีๆตอบกลับจากการให้วิทยาทาน รวมทั้ข้อคิด หลักคิด หลักการ วิธีการที่เป็นประโยชน์
ขอบคุณมากครับบ😊
Learn how to learn เป็นแนวคิดดีมากเลยครับ แล้วจริงๆน่าจะสำคัญมากด้วย ขอบคุณที่เล่าสู่กันฟังนะครับ เป็นประโยชน์มากเลยครับ
ยินดีมากๆเลยครับ ที่พอจะทําคอนเท้นออกมาเเล้วเป็นประโยชน์ ถ้าอยากให้ทําคอนเท้นเเนวไหนเพิ่มเติมบอกได้ตบอดเลยนะครับบ🥺
มาดูเป็นวิวที่1พันพอดีเลย ส่วนตัวชอบข้อสุดท้ายที่สุดค่ะ
ขอบคุณมากครับบบ🥺
ผมชอบข้อสุดท้ายมากที่สุดครับ
ส่วนตัวผมก็ชอบเหมือนกันครับ รู้สึกว่าเป็นข้อที่สําคัญพอสมควรเลยครับ
พี่นัทคะ หนูกำลังซิ่วจากเภ มธ ไปเเพทย์ มธ เเต่เพิ่งมาเตรียมตัวเเละลาออกจากคณะเภ เเล้ว รู้สึกว่าเคว้งมากก เเละเครียดมากว่าจะอ่านทันมั้ย เลยหาวิธีได้มาเจอช่องพี่ ศึกษาช่องพี่เเละพี่นศพ ทั้งไทยเเละต่างประเทศเกี่ยวกับเทคนิคการเรียนที่ productive ที่สุด เเละเหมาะกับเนื้อหาที่จะสอบเข้าพวกเคมี ฟิสิกส์ ชีวะ คณิต ไทย สังคม อังกฤษ ได้ความเป็น คือ การทำflash card และมี ช่วงspace repitation เเต่ด้วยความที่มันวิชาเยอะมากเเละในระเวลาอันสั้น เเบบว่า 50 วัน เทียบกับการทำ flash card มันค่อนข้างจะช้ามากๆๆ ถ้าเทียบกับเพื่อนๆที่โหมอ่านๆๆๆ ปั่นคอร์สๆๆๆ หนูควรทำวิธีนี้ต่อไปหรือไปทำเเบบเพื่อนดีคะ เพราะ 50 วันมันน่าจะยังไม่ลืมมั้ยคะ เเบบการสอบอันนี้มันไม่ถึงกับต้องใช้ longterm memory มั้ยคะ เเละจากการทดลองของหนูคือ หนูทำใช้เวลาทำflash card นานมากก อาจจะด้วยความที่ไม่คุ้นกับเเอพเเละพิมพ์ไม่เร็วด้วยมั้งคะ เเต่ผลคือมันคุ้มค่ามากก (เเต่ก็อีกใจคือมันจำเป็นกับการสอบครั้งนี้ขนาดนั้นมั้ยคะ เพราะใกล้จะสอบเเล้ว เเละมันไม่ใช่แนวความรู้ปี1 ต่อยอด ปี 2 ปี3 )ที่ต้องอาศัยlong term พี่คะเเนะนำหนูหน่อยได้มั้ยคะ หนูมืดดเเปดด้านมาก ความรู้ม.ปลายก็จางหายไปหมด กลับไปคณะเดิมก็ไม่ได้
ส่วนตัวนะครับ พี่คิดว่าถ้าหนูถูกใจวิธี active recall ก็ใช้ active recall ต่อไปเลยครับ อาจเเค่ลองปรับๆดูนิดหน่อย เช่นถ้าเป็นพี่ พี่อาจจะเริ่มจากการลองทําข้อสอบเก่าเเละค่อยๆใช้ “วิธีอ่านเเบบอุด” เอาครับ (เพราะน้องคงจะพอมีพื้นฐานความรู้จากการสอบเข้าคณะเภสัชมาบ้างเเล้ว) สั้นๆคือ ลองทําข้อสอบเก่า เเล้วมาตรวจดูว่าหัวข้อไหนที่เราทําไม่ได้ เเล้วลองเก็บหัวข้อนั้นด้วยวิธีที่น้องถนัดนั่นเเหละครับ ถึงมันจะช้ากว่าเพื่อนๆ ด้วยเหตุผลที่น้องได้เล่ามา เเต่พี่คิดว่าถ้ามันเป็นวิธีที่เราถนัดจริงๆ มันอาจจะได้ผลดีกว่านะครับ เพราะบางทีการที่เราเข้าใจเนื้อหาจริงๆ 2-3 บท อาจทําให้เราเเก้โจทย์ได้ชัวร์กว่าการเข้าใจเนื้อเเบบพื้นๆเป็นสิบบท พอทําข้อสอบเก่าเสร็จก็ใช้เเคปหน้าจอหรือถ่ายคําถามใส่ไปใน flashcards ด้วยก็ดีนะครับ เเล้วก็เเนะนําให้ทําเเบบนี้ไปจนครบทุกชุดเลยครับ
ส่วนในเรื่องจําเป็นต้องใช้หรือไม่ต้องใช้ long-term memory อันนี้พี่คงจะไม่กล้าตอบว่าควรหรือไม่ควร เพราะความสามารถในการจําเเต่ละคนต่างกันมากๆ ครับ (เเต่ถ้าให้ตอบก็คงเชียร์ให้ค่อยๆจําจนมันเป็น long term memory เพราะ 50 วันก็เป็นระยะเวลาที่ยาวประมาณนึงเลย)
พี่เข้าใจดีว่า 50 วันเนี่ยเป็นเวลาไม่มาก เเละถึงเเม้พี่อาจจะสอบเข้ารอบ 1 พี่ก็พอรู้มาบ้างว่าข้อสอบรอบ 3 ครอบคลุมเนื้อหามากขนาดไหน พี่เป็นกําลังใจให้นะครับ เเละถ้ามีคําถามอะไรหรืออยากปรึกษาอะไรทักมาได้ตลอดเลยครับ สู้ๆครับผมม💪🏻
@@Nerdy_Nut ขอบคุณนะคะพี่หมอ❤️🥹
ไม่ได้ฟังเนื้อหาเลยครับ ความหล่อdistractเนื้อหา
🥴🥴🥴
มีtiktokมั้ยครับ
ยังไม่มีครับผม เเต่เดี๋ยวในอนาคต ถ้าคอนเท้นเยอะขึ้นจะพยายามทําให้นะครับบ
ขอบคุณมากครับ ส่วนตัวผมเรียนวิศวะ ไม่ได้มีวิชาที่ต้องจำเนื้อหาเยอะๆ ขนาดนั้น (แต่ก็มีบางตัวนะฮะ 555) อยู่ๆแชเเนลคุณนัตถ์ขึ้นแนะนำมา พอลองเข้ามาดูรู้สึกว่าคลิปดีมากๆครับ นำหลายๆอย่างไปปรับใช้ได้จริงรอติดตามคลิปใหม่ๆเรื่อยๆนะครับ
โหหห ดีใจมากครับที่คําเเนะนําผมพอจะช่วยได้บ้าง ขอบคุณที่คอยติดตามนะครับ จะพยายามทําคลิปออกมาเรื่อยๆนะครับบ😄