Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
#สำหรับผู้ไม่สะดวกรับฟังด้วยเสียง#10 ลักษณะนิสัยสร้างเสน่ห์จากภายในสู่ภายนอก ใครเห็นเป็นต้องตกหลุมรัก1 ฟังมากกว่าพูดกับทุกๆคนการรับฟังอีกฝ่าย คือวิธีแสดงออ กว่าคุณแคร์เขามากแค่ไหน ไม่ควรพูดขัดจังหวะขณะที่อีกฝ่ายยังพูดไม่จบ หรือชิงแสดงความคิดเห็นหากเขาไม่ได้ร้องขอ คุณอาจพลาดโอ กาสได้ทำความรู้จักอีกฝ่ายมากขึ้น รวมถึงทำให้อีกฝ่ายเหนื่อยหน่ายที่จะคุยด้วย ในทางตรงกันข้าม การสบตา พยักหน้ารับคำ หรือตอบรับเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังคุย ไม่ว่าอีกฝ่ายเป็นใครก็ต าม จะทำให้ใครๆ เปิดใจกับคุณและรู้สึกสบายใจที่จะคุยด้วยครับ2 มีรอยยิ้ม ‘จริงใจ’ อยู่เสมอที่ต้องเน้นว่า จริงใจ เพราะการยิ้มออ กจากใจนั้นจะยิ้มทั้งดวงต าและริมฝีปาก ไม่ใช่แค่ยกมุมปากต ามมารย าท ซึ่งการยิ้มอย่ างจริงใจนี้จะทำให้อีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงความเป็นมิตร และรู้สึกถูกชะต ากับคุณตั้งแต่แรกเห็นครับ ที่สำคัญยังทำให้สมองหลั่งสารแห่งความสุขออกมา ทำให้คุณมองชีวิตในแง่บวกด้วยเช่นกันครับ3 ดูแลตัวเองอยู่เสมอการละเลยตัวเอง จะบั่นทอนความมั่นใจตัวเองลงเรื่อยๆ ทำให้เกิดการเปรียบเทียบว่าตัวคุณด้อยค่าเมื่อเห็นคนอื่นดีกว่า ลองเริ่มต้นออ กกำลังกาย แต่งหน้าบ้าง ซื้ อเสื้อผ้าที่เข้ากับบุคลิก หรือทดลองสีสันสไตล์ใหม่ๆ ที่ดูสดใสขึ้น มันจะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น มั่นใจในตัวเอง และมีพลังทำอะไรดีๆ อีกเยอะเลยครับ4 อย่ามัวคิดถึงแต่เรื่องตัวเองขณะอยู่กับคนอื่น ยุคดิจิตัลแบบนี้ คงหนีไม่พ้นอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ แต่อย่ ามัวก้มหน้าอยู่กับมือถือและแทบเลตในมือนะครับ ยิ่งคุณตัดโลกภายนอ กออ กไปมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งโดดเดี่ยวในส่วนลึกมากเท่านั้น ลองเงยหน้าและใช้เวลาทำสิ่งที่ชอบกับคนที่มีคุณรักชีวิตจะมีความหมายขึ้นอีกเยอะ ต่อให้อยู่คนเดียว เราเชื่อว่าการลงมือปลูกต้นไม้สักต้น ก็จะทำให้คุณรู้สึกอิ่มใจมากกว่าการสไลด์หน้าจอ อย่ างไร้จุดหมายแน่นอนครับ
5 ให้โดยไม่หวังผลตอบแทนบางครั้งการให้เพราะคิดจะให้ ก็ทำให้คุณรู้สึกดีอย่ างไม่น่าเชื่อ เพราะคุณจะไม่ต้องมัวเสียเวลาคิดว่าเค้าจะตอบแทนเราแบบไหน คุ้มไม่คุ้ม พาลจะทำให้คุณคิดว่าตัวเองไม่มีค่าเค้าถึงไม่เห็นความดี ในทางตรงกันข้าม การให้จากใจนั่นล่ะที่มีค่าที่สุด หากไม่เดือ ดร้อนตัวเองก็จงให้ไปเถอะ ขอแค่สบายใจที่ได้ให้ก็พอ แล้วมันจะเป็นพลังดีๆ ที่ดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาหาคุณอีกด้วยครับ 6 รู้จักวางเป้าหมายการมีเป้าหมายในชีวิต จะทำให้คุณรู้ว่าจะมีชีวิตเพื่ออะไร อาจลองตั้งเป้าเล็กๆ ก่อน เช่น จะลงแข่งมินิมาราธอนให้ได้ จะแบกเป้เที่ยวคนเดียวสักครั้ง หรือจะมีธุรกิจเล็กๆ หลังเลิกงานเพื่อทำสิ่งที่ชอบ นอ กจากคุณจะรู้สึกดีแล้ว คนรอบข้างก็รู้สึกว่าคุณมีเสน่ห์มากเช่นกันครับ7 ชื่นชมคนอื่นและตัวเองอย่ างเท่าเทียมการชื่นชมยกย่อง ใครๆ ก็ชอบทั้งนั้น และยังทำให้คนอื่น มองเห็นความใจกว้างของคุณ รู้สึกดีกับคุณ ผลลัพธ์คือคำชมเหล่านั้น ก็จะย้อนกลับมาหาคุณด้วยเช่นกัน โดยที่ไม่ต้องร้องขอจากใครๆ เลย8 แบ่งเวลาชีวิตหากมัวแต่ทำงานงกๆ หน้านิ่วคิ้วขมวดตลอ ดเวลา ใครล่ะจะกล้าเข้าใกล้ แถมพอวันนึงที่เราทำงานไม่ได้ หรือเกิดความไม่มั่นคงทางการงานขึ้น มา เราจะรู้สึกไม่เหลืออะไรเลย ดังนั้นจงให้ความสำคัญ กับคนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และกิจกรรม ในวันว่างบ้าง มันจะทำให้ทุกวันมีค่าเสมอ9 คิดถึงเรื่องดีๆ ทุกเช้าและก่อนนอนการมองโลกในแง่บวก มีประสบการณ์กับสิ่งดีๆ เช่น อารมณ์สนุกสนาน ความรัก จะรู้สึกถึงคำว่า ‘เป็นไปได้’ มากกว่าคนที่เห็นหรือมองอะไรชวนหดหู่อยู่เสมอดังนั้นก่อนนอนและทุกเช้า ลองจินตนาการถึงความสุข และความสำเร็จที่ผ่ าน มา และที่คุณอย ากให้เกิด ราวกับมันได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ ดูนะคะ ไม่ใช่แค่ดีต่อตัวเอง10 ยอมรับความล้มเหลวแต่อย่ ายึดติดไม่ว่าจะเป็นการพูดถึงความล้มเหลวของคนอื่น หรือของตัวคุณเอง ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร นอ กจากบั่นทอนกำลังใจ ทำให้รู้สึกไร้ค่ามากขึ้น เพราะความผิ ดพลาดมันคือเรื่องธรรมดาของมนุษย์ เราควรเก็บมันไว้พอเป็นบทเรียน และก้าวต่อไปอย่ างมีกำลังใจมากกว่านะครับ มันยังเป็นพลังที่คนรอบข้างสัมผัสได้ และทำให้พวกเขารู้สึกดีตามไปด้วย ไม่เชื่อลองดูสิครับ
#ชีวิตนี้หัดโง่ไว้บ้างก็ดีเหมือนกันนะปรัชญาดีๆปรัชญาที่ 1 วิเคราะห์ & ลงมือทำวินัยและมงคลเปิดบริษัทเล็กๆ เหมือนกัน ช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง วินัยผู้คำนวณเหตุการณ์ได้อย่างแม่นยำ รู้ว่าจะมีเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กประมาณ 30% ต้องปิดตัวลง และบริษัทของเขาก็คงไม่รอดแน่ๆ เขาตัดสินใจปิดกิจการ และปันเงินส่วนหนึ่งให้ลูกน้องในบริษัทเพื่อไปทำทุนส่วนมงคล เขาไม่ค่อยรู้ทิศทางของเศรษฐกิจ คนส่วนมากมองว่ามงคลเป็นเจ้าของกิจการที่โง่ทึ่มเสียด้วยซ้ำไป เมื่อได้ยินวินัยเล่าถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เขาบอกกับวินัยว่า อนาคตเป็นเรื่องที่ย ากคาดคะเน มันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิดก็เป็นได้ มงคลคิดว่า หากยังคงหางานให้ลูกน้องทำได้ในแต่ละวัน โอกาสก็เป็นของเขาและลูกน้องในบริษัทสุดท้าย บริษัทของมงคลยังคงดำเนินกิจการมาจนถึงทุกวันนี้ว่ากันว่า เรื่องบางเรื่องไม่รู้ดีกว่ารู้ หูหนวกสงบกว่าหูดี วิเคราะห์เก่งไม่เท่าลงมือทำ นี่คือสิ่งที่เรามักจะพูดกันอยู่เสมอว่า ทำตัวโง่บ้างก็ดีเหมือนกัน อันที่จริง ความสุขและความสงบอาจซ่อนอยู่กับความโง่เซ่อก็อาจเป็นได้ เพราะเมื่อไหร่ที่เราฉลาดและรู้เท่าทันผู้คน ความสุขความสงบก็อันตรธานหายไปจากชีวิตเราในทันทีปรัชญาที่ 2 สายตาสั้น & สายต าย าวชายสองคนเป็นเพื่อนรักกัน คนหนึ่งสายต าย าว อีกคนหนึ่งสายตาสั้น ทั้งสองคนประสบอุบัติเหตุเรือพลิกคว่ำกลางทะเล ขณะที่ต่างคนต่างก็กระเสือกกระสนพยุงตัวอยู่กลางทะเล จู่ๆ คนสายต าย าวก็เห็นเรือน้อยลำหนึ่งลอยห่างอยู่ไม่ไกลนัก และดูเหมือนมันกำลังลอยมาทางพวกเขาด้วย เพื่อนที่สายตาสั้นก็เห็นเช่นกัน แต่เห็นแบบพร่ามัวทั้งสองคนต่างพากันออกแรงว่ายอีกครั้งเพื่อจะไปถึงเรือลำน้อยลำนั้น ว่ายไปๆ คนที่สายต าย าวก็หยุดว่าย เพราะเขาเห็นแล้วว่านั่นไม่ใช่เรือ แต่เป็นเพียงแค่ขอนไม้ท่อนหนึ่งเท่านั้นเอง แต่คนที่สายตาสั้นไม่รู้ว่านั่นคือท่อนไม้ เขายังคงพย าย ามพาตัวเองไปถึงเรือน้อยลำนั้นให้ได้ เมื่อเขาว่ายไปถึงท่อนไม้ท่อนนั้น ก็พอดีกับที่เขาเห็นว่า ฝั่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เขาอยู่อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นเองเพื่อนที่สายต าย าวเสียชีวิ ตกลางทะเล ส่วนเขารอดชีวิตปรัชญาที่ 3 หูดี & หูหนวกหญิงสองคนเป็นมะเร็ง วันที่ไปตรวจ เธอทั้งสองนั่งรอฟังผลอยู่ในห้องเดียวกัน คนที่หูดี ได้ยินทุกถ้อยคำที่คุณหมอกระซิบคุยกันในห้องข้างๆ เธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีก 6 เดือน ส่วนผู้หญิงอีกคนจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 3 เดือนเท่านั้น คนที่หูหนวก ไม่ได้ยินสิ่งที่คุณหมอกระซิบคุยกันอย่าว่าแต่เสียงกระซิบเลย ต่อให้คุณพูดอยู่ตรงหน้าเธอ เธอก็ยังถามเสียงดังใส่หน้าอีกว่า ห๊ะ เธอพูดอะไรนะ พูดดังๆ หน่อยสิ หลังจากนั้น 1 เดือน หญิงหูดีก็เสียชีวิ ตลง ส่วนคนหูหนวกยังมีชีวิตต่อมาจนถึงทุกวันนี้ นี่ก็เลยมาเป็นปีที่สามแล้ว
#7เหตุผลที่บอกว่า“จงเลิกแคร์ว่าคนอื่นจะมองเรายังไง”1.ชีวิตสั้นเกินกว่าที่ จะเอาเวลามาใส่ใจเรื่องพวกนี้คุณมีชีวิตเพียงครั้งเดียวดังนั้นคุณต้องใช้มันให้คุ้ม ที่สุดทำไมต้องไปกังวลเรื่องความคิดเห็นของผู้อื่น ด้วยล่ะจริงไหม ทำในสิ่งที่คุณคิดและตั้งใจไว้เถอะ เพราะหลังจากที่คุณประสบความสำเร็จ คุณก็อาจจะไม่ได้เห็นคนเหล่านี้ มาพูดพึมพำให้ฟังอีกต่อไปแล้วก็ได้2.สิ่งที่ใช่สำหรับคนอื่น อาจจะไม่ใช่สำหรับตัวคุณสิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าความคิดเห็น ของคนเรามักจะขึ้น อยู่กับสิ่งที่ ทำนั่นแหละดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุด สำหรับคนอื่น ก็อาจเป็นสิ่งที่แย่ที่สุด สำหรับคุณและสิ่งที่คนอื่นมองว่าไร้ค่า ก็อาจเป็นสิ่งมีค่าสำหรับอีกคน ได้เราทุกคนล้วมีคุณค่าและเอกลักษณ์ เฉพาะตัวจึงมี แค่เราเท่านั้น ที่รู้ว่าอะไร เหมาะกับ ตัวเราที่สุด3.ความคิดของผู้คน เปลี่ยนไปได้เรื่อยๆนักปรัชญา และนักทฤษฎี บางคนเสนอว่า คนเราอยู่ในสภาวะที่เปลี่ยนแปลงอย่ างต่อเนื่องตลอดเวลา จนไม่สามารถมี‘ ตัวตน’ ที่เฉพาะเจาะจงดังนั้น ความคิดและมุมมองของคน จึงเปลี่ยนแปลง อยู่เสมอนั่นหมายความว่า แม้ว่าตอนนี้ บางคนจะไม่ชอบ คุณแต่ไม่นานพวกเขาก็อาจจะเปลี่ยนความคิดไปก็ได้ เพราะงั้นความคิดของคนอื่นถึงไม่ค่อยสำคัญ เท่ากับความคิดที่แน่วแน่ ของคุณยังไงล่ะ4.ผลลัพธ์เกิดกับตัวคุณไม่ใช่คนอื่นคุณเป็นคนที่ต้องรับผล จากการกระทำและการตัดสินใจของตัวเอง ตัวอย่ างเช่นถ้ามีคนแนะนำ ให้คุณซื้อหุ้น แต่แล้วหุ้นดันตก จนคุณขาดทุนมหาศาล คุณนี่แหละที่ต้องอยู่ กับความเสียดายไม่ใช่ใครอื่นจ งจำไว้ว่าเมื่อมีคนแนะนำ หรือสั่งอะไรคุณไม่ใช่พวกเขาหรอก ที่ต้องแบกรับความเสี่ยง แต่เป็นคุณเองต่างหาก5.เขาไม่รู้ว่าอะไรดีที่สุด สำหรับคุณตัวคุณเองเท่านั้น ที่จะตอบคำถามเหล่านี้ ได้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ดีที่สุดการที่เราได้เรียนรู้เองได้เลือกเอง ได้ตัดสินใจเองนั่น คือสิ่งที่ตัวคุณลงมือทำและพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อผลที่ตามมา หากล้มเหลวอย่ างน้อย คุณก็ได้เรียนรู้และควรรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น แทนที่จะไปนั่งโทษคนอื่น ว่าเป็นเพราะใคร 6.อย่ ากังวลกับความคิดของคนอื่น เพราะคุณอาจหลงคิดไปเอง หากคุณเป็นกังวลอยู่ตลอดเกี่ยว กับสิ่งที่คนอื่น คิดคุณจะไม่มีทางไปถึงจุดที่คุณฝันไว้ได้เลย บางครั้งคุณก็ต้องทำในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็นด้วยหรือต้องเอาชื่อเสี่ยงของตนไป เสี่ยงเพื่อจะได้มา ซึ่งสิ่งที่คุณ ต้องการจริงๆ7. เป็นไปไม่ได้เลย ที่คุณจะทำให้ ทุกคนพอใจคุณไม่สามารถทำให้ ทุกคนพอใจได้ตลอด เวลาและก็เป็นไปไม่ไ ด้ที่จะตอบสนองต่อทุกความคาดหวัง ของทุกคน ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์ อะไรที่จะอดทนฝืนทำอย่ างนั้น เพราะคนแรก ที่คุณควรจะทำให้ พึงพอใจ ให้ได้มากที่สุดก็คือ ตัวคุณเองไงล่ะความคิด ของคนอื่น ๆ อาจกลายเป็น ภาระต่อคุณได้เมื่อคุณหมกมุ่น กับมันจนเกินไป ซึ่งคุณอาจลืมไปแล้ว ก็ได้ว่าตัวเองคิดอย่ างไรดังนั้นการได้ปลดปล่อย ตัวเองจากความคิดคนอื่นนี่แหละที่ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ แม้ว่าอาจต้องใช้ เวลาฝึกฝน มากสักหน่อยแต่หากเมื่อไหร่ ที่คุณทำได้สำเร็จ คุณจะได้เห็นโลกในมุมใหม่ได้ค้นพบตัวตนของตัวเอง และเป็นอิสระอย่ างที่ ไม่เคยเป็น มาก่อนเลยล่ะ#ขอให้ได้พิจารณาด้วยสติ ด้วยปัญญา ด้วยภูมิธรรม คุณพระรักษาเทวดาคุ้มครอง ขอให้มีความเจริญในธรรม ทุกท่าน ทุกคนครับ
ขอบพระคุณในคำแนะนำและเรื่องราวที่สนุกๆ ได้ข้อคิดด้วยค่ะ❤❤❤❤❤❤❤❤❤
สาธุค่ะ
ขอบคุณครับ
สาธุสาธุสาธุค่ะ
ขอบพระคุณครับ...🙏😊
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
กราบอนุโมทนาสาธุครับ
..✊..🌏🌈🌟ขอน้อม🙇♀️กราบนมัสการ🙏🙏🙏สาธุ สาธุ สาธุค่ะ🧎♀️ *ปล.🙇♀️🙏ขอบคุณมากๆๆๆนะคะ👻✌..🖐..
#อนุโมทนาสาธุ🙏🏻บุญธรรมทานครับคุณอานนท์😊
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุครับคุณอานนท์❤❤❤❤❤
สาธุสาธุค่ะ
สาธุสาธุสาธุขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะขอขอบพระคุณมากค่ะที่มีคำเตือนสติที่ดีๆในการใช้ชีวิตประจำวันค่ะ😂😂😂😂
#สำหรับผู้ไม่สะดวกรับฟังด้วยเสียง
#10 ลักษณะนิสัยสร้างเสน่ห์จากภายในสู่ภายนอก ใครเห็นเป็นต้องตกหลุมรัก
1 ฟังมากกว่าพูดกับทุกๆคน
การรับฟังอีกฝ่าย คือวิธีแสดงออ กว่าคุณแคร์เขามากแค่ไหน ไม่ควรพูดขัดจังหวะขณะที่อีกฝ่ายยังพูดไม่จบ หรือชิงแสดงความคิดเห็นหากเขาไม่ได้ร้องขอ คุณอาจพลาดโอ กาสได้ทำความรู้จักอีกฝ่ายมากขึ้น รวมถึงทำให้อีกฝ่ายเหนื่อยหน่ายที่จะคุยด้วย ในทางตรงกันข้าม การสบตา พยักหน้ารับคำ หรือตอบรับเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังคุย ไม่ว่าอีกฝ่ายเป็นใครก็ต าม จะทำให้ใครๆ เปิดใจกับคุณและรู้สึกสบายใจที่จะคุยด้วยครับ
2 มีรอยยิ้ม ‘จริงใจ’ อยู่เสมอ
ที่ต้องเน้นว่า จริงใจ เพราะการยิ้มออ กจากใจนั้นจะยิ้มทั้งดวงต าและริมฝีปาก ไม่ใช่แค่ยกมุมปากต ามมารย าท ซึ่งการยิ้มอย่ างจริงใจนี้จะทำให้อีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงความเป็นมิตร และรู้สึกถูกชะต ากับคุณตั้งแต่แรกเห็นครับ ที่สำคัญยังทำให้สมองหลั่งสารแห่งความสุขออกมา ทำให้คุณมองชีวิตในแง่บวกด้วยเช่นกัน
ครับ
3 ดูแลตัวเองอยู่เสมอ
การละเลยตัวเอง จะบั่นทอนความมั่นใจตัวเองลงเรื่อยๆ ทำให้เกิดการเปรียบเทียบว่าตัวคุณด้อยค่าเมื่อเห็นคนอื่นดีกว่า ลองเริ่มต้นออ กกำลังกาย แต่งหน้าบ้าง ซื้ อเสื้อผ้าที่เข้ากับบุคลิก หรือทดลองสีสันสไตล์ใหม่ๆ ที่ดูสดใสขึ้น มันจะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น มั่นใจในตัวเอง และมีพลังทำอะไรดีๆ อีกเยอะเลยครับ
4 อย่ามัวคิดถึงแต่เรื่องตัวเอง
ขณะอยู่กับคนอื่น ยุคดิจิตัลแบบนี้ คงหนีไม่พ้นอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ แต่อย่ ามัวก้มหน้าอยู่กับมือถือและแทบเลตในมือนะครับ ยิ่งคุณตัดโลกภายนอ กออ กไปมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งโดดเดี่ยวในส่วนลึกมากเท่านั้น ลองเงยหน้าและใช้เวลาทำสิ่งที่ชอบกับคนที่มีคุณรัก
ชีวิตจะมีความหมายขึ้นอีกเยอะ ต่อให้อยู่คนเดียว เราเชื่อว่าการลงมือปลูกต้นไม้สักต้น ก็จะทำให้คุณรู้สึกอิ่มใจมากกว่าการสไลด์หน้าจอ อย่ างไร้จุดหมายแน่นอนครับ
5 ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน
บางครั้งการให้เพราะคิดจะให้ ก็ทำให้คุณรู้สึกดีอย่ างไม่น่าเชื่อ เพราะคุณจะไม่ต้องมัวเสียเวลาคิดว่าเค้าจะตอบแทนเราแบบไหน คุ้มไม่คุ้ม พาลจะทำให้คุณคิดว่าตัวเองไม่มีค่าเค้าถึงไม่เห็นความดี ในทางตรงกันข้าม การให้จากใจนั่นล่ะที่มีค่าที่สุด หากไม่เดือ ดร้อนตัวเองก็จงให้ไปเถอะ ขอแค่สบายใจที่ได้ให้ก็พอ แล้วมันจะเป็นพลังดีๆ ที่ดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาหาคุณอีกด้วยครับ
6 รู้จักวางเป้าหมาย
การมีเป้าหมายในชีวิต จะทำให้คุณรู้ว่าจะมีชีวิตเพื่ออะไร อาจลองตั้งเป้าเล็กๆ ก่อน เช่น จะลงแข่งมินิมาราธอนให้ได้ จะแบกเป้เที่ยวคนเดียวสักครั้ง หรือจะมีธุรกิจเล็กๆ หลังเลิกงานเพื่อทำสิ่งที่ชอบ นอ กจากคุณจะรู้สึกดีแล้ว คนรอบข้างก็รู้สึกว่าคุณมีเสน่ห์มากเช่นกันครับ
7 ชื่นชมคนอื่นและตัวเองอย่ างเท่าเทียม
การชื่นชมยกย่อง ใครๆ ก็ชอบทั้งนั้น และยังทำให้คนอื่น มองเห็นความใจกว้างของคุณ รู้สึกดีกับคุณ ผลลัพธ์คือคำชมเหล่านั้น ก็จะย้อนกลับมาหาคุณด้วยเช่นกัน โดยที่ไม่ต้องร้องขอจากใครๆ เลย
8 แบ่งเวลาชีวิต
หากมัวแต่ทำงานงกๆ หน้านิ่วคิ้วขมวดตลอ ดเวลา ใครล่ะจะกล้าเข้าใกล้ แถมพอวันนึงที่เราทำงานไม่ได้ หรือเกิดความไม่มั่นคงทางการงานขึ้น มา เราจะรู้สึกไม่เหลืออะไรเลย ดังนั้นจงให้ความสำคัญ กับคนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และกิจกรรม ในวันว่างบ้าง มันจะทำให้ทุกวันมีค่าเสมอ
9 คิดถึงเรื่องดีๆ ทุกเช้าและก่อนนอน
การมองโลกในแง่บวก มีประสบการณ์กับสิ่งดีๆ เช่น อารมณ์สนุกสนาน ความรัก จะรู้สึกถึงคำว่า ‘เป็นไปได้’ มากกว่าคนที่เห็นหรือมองอะไรชวนหดหู่อยู่เสมอ
ดังนั้นก่อนนอนและทุกเช้า ลองจินตนาการถึงความสุข และความสำเร็จที่ผ่ าน มา และที่คุณอย ากให้เกิด ราวกับมันได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ ดูนะคะ ไม่ใช่แค่ดีต่อตัวเอง
10 ยอมรับความล้มเหลวแต่อย่ ายึดติด
ไม่ว่าจะเป็นการพูดถึงความล้มเหลวของคนอื่น หรือของตัวคุณเอง ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร นอ กจากบั่นทอนกำลังใจ ทำให้รู้สึกไร้ค่ามากขึ้น เพราะความผิ ดพลาดมันคือเรื่องธรรมดาของมนุษย์ เราควรเก็บมันไว้พอเป็นบทเรียน และก้าวต่อไปอย่ างมีกำลังใจมากกว่านะครับ มันยังเป็นพลังที่คนรอบข้างสัมผัสได้ และทำให้พวกเขารู้สึกดีตามไปด้วย ไม่เชื่อลองดูสิครับ
#ชีวิตนี้หัดโง่ไว้บ้างก็ดีเหมือนกันนะปรัชญาดีๆ
ปรัชญาที่ 1 วิเคราะห์ & ลงมือทำ
วินัยและมงคลเปิดบริษัทเล็กๆ เหมือนกัน ช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง วินัยผู้คำนวณเหตุการณ์ได้อย่างแม่นยำ รู้ว่าจะมีเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กประมาณ 30% ต้องปิดตัวลง และบริษัทของเขาก็คงไม่รอดแน่ๆ เขาตัดสินใจปิดกิจการ และปันเงินส่วนหนึ่งให้ลูกน้องในบริษัทเพื่อไปทำทุน
ส่วนมงคล เขาไม่ค่อยรู้ทิศทางของเศรษฐกิจ คนส่วนมากมองว่ามงคลเป็นเจ้าของกิจการที่โง่ทึ่มเสียด้วยซ้ำไป เมื่อได้ยินวินัยเล่าถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เขาบอกกับวินัยว่า อนาคตเป็นเรื่องที่ย ากคาดคะเน มันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิดก็เป็นได้ มงคลคิดว่า หากยังคงหางานให้ลูกน้องทำได้ในแต่ละวัน โอกาสก็เป็นของเขาและลูกน้องในบริษัท
สุดท้าย บริษัทของมงคลยังคงดำเนินกิจการมาจนถึงทุกวันนี้
ว่ากันว่า เรื่องบางเรื่องไม่รู้ดีกว่ารู้ หูหนวกสงบกว่าหูดี วิเคราะห์เก่งไม่เท่าลงมือทำ นี่คือสิ่งที่เรามักจะพูดกันอยู่เสมอว่า ทำตัวโง่บ้างก็ดีเหมือนกัน อันที่จริง ความสุขและความสงบอาจซ่อนอยู่กับความโง่เซ่อก็อาจเป็นได้ เพราะเมื่อไหร่ที่เราฉลาดและรู้เท่าทันผู้คน ความสุขความสงบก็อันตรธานหายไปจากชีวิตเราในทันที
ปรัชญาที่ 2 สายตาสั้น & สายต าย าว
ชายสองคนเป็นเพื่อนรักกัน คนหนึ่งสายต าย าว อีกคนหนึ่งสายตาสั้น ทั้งสองคนประสบอุบัติเหตุเรือพลิกคว่ำกลางทะเล ขณะที่ต่างคนต่างก็กระเสือกกระสนพยุงตัวอยู่กลางทะเล จู่ๆ คนสายต าย าวก็เห็นเรือน้อยลำหนึ่งลอยห่างอยู่ไม่ไกลนัก และดูเหมือนมันกำลังลอยมาทางพวกเขาด้วย เพื่อนที่สายตาสั้นก็เห็นเช่นกัน แต่เห็นแบบพร่ามัว
ทั้งสองคนต่างพากันออกแรงว่ายอีกครั้งเพื่อจะไปถึงเรือลำน้อยลำนั้น ว่ายไปๆ คนที่สายต าย าวก็หยุดว่าย เพราะเขาเห็นแล้วว่านั่นไม่ใช่เรือ แต่เป็นเพียงแค่ขอนไม้ท่อนหนึ่งเท่านั้นเอง แต่คนที่สายตาสั้นไม่รู้ว่านั่นคือท่อนไม้ เขายังคงพย าย ามพาตัวเองไปถึงเรือน้อยลำนั้นให้ได้ เมื่อเขาว่ายไปถึงท่อนไม้ท่อนนั้น ก็พอดีกับที่เขาเห็นว่า ฝั่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เขาอยู่อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นเอง
เพื่อนที่สายต าย าวเสียชีวิ ตกลางทะเล ส่วนเขารอดชีวิต
ปรัชญาที่ 3 หูดี & หูหนวก
หญิงสองคนเป็นมะเร็ง วันที่ไปตรวจ เธอทั้งสองนั่งรอฟังผลอยู่ในห้องเดียวกัน คนที่หูดี ได้ยินทุกถ้อยคำที่คุณหมอกระซิบคุยกันในห้องข้างๆ เธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีก 6 เดือน ส่วนผู้หญิงอีกคนจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 3 เดือนเท่านั้น คนที่หูหนวก ไม่ได้ยินสิ่งที่คุณหมอกระซิบคุยกัน
อย่าว่าแต่เสียงกระซิบเลย ต่อให้คุณพูดอยู่ตรงหน้าเธอ เธอก็ยังถามเสียงดังใส่หน้าอีกว่า ห๊ะ เธอพูดอะไรนะ พูดดังๆ หน่อยสิ หลังจากนั้น 1 เดือน หญิงหูดีก็เสียชีวิ ตลง ส่วนคนหูหนวกยังมีชีวิตต่อมาจนถึงทุกวันนี้ นี่ก็เลยมาเป็นปีที่สามแล้ว
#7เหตุผลที่บอกว่า“จงเลิกแคร์ว่าคนอื่นจะมองเรายังไง”
1.ชีวิตสั้นเกินกว่าที่ จะเอาเวลามาใส่ใจเรื่องพวกนี้
คุณมีชีวิตเพียงครั้งเดียวดังนั้นคุณต้องใช้มันให้คุ้ม ที่สุดทำไมต้องไปกังวลเรื่องความคิดเห็นของผู้อื่น ด้วยล่ะจริงไหม ทำในสิ่งที่คุณคิดและตั้งใจไว้เถอะ
เพราะหลังจากที่คุณประสบความสำเร็จ คุณก็อาจจะไม่ได้เห็นคนเหล่านี้ มาพูดพึมพำให้ฟังอีกต่อไปแล้วก็ได้
2.สิ่งที่ใช่สำหรับคนอื่น อาจจะไม่ใช่สำหรับตัวคุณ
สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าความคิดเห็น ของคนเรามักจะขึ้น อยู่กับสิ่งที่ ทำนั่นแหละดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุด สำหรับคนอื่น ก็อาจเป็นสิ่งที่แย่ที่สุด สำหรับคุณ
และสิ่งที่คนอื่นมองว่าไร้ค่า ก็อาจเป็นสิ่งมีค่าสำหรับอีกคน ได้เราทุกคนล้วมีคุณค่าและเอกลักษณ์ เฉพาะตัวจึงมี แค่เราเท่านั้น ที่รู้ว่าอะไร เหมาะกับ ตัวเราที่สุด
3.ความคิดของผู้คน เปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ
นักปรัชญา และนักทฤษฎี บางคนเสนอว่า คนเราอยู่ในสภาวะที่เปลี่ยนแปลงอย่ างต่อเนื่องตลอดเวลา จนไม่สามารถมี‘ ตัวตน’ ที่เฉพาะเจาะจง
ดังนั้น ความคิดและมุมมองของคน จึงเปลี่ยนแปลง อยู่เสมอนั่นหมายความว่า แม้ว่าตอนนี้ บางคนจะไม่ชอบ คุณแต่ไม่นานพวกเขาก็อาจจะเปลี่ยนความคิดไปก็ได้ เพราะงั้นความคิดของคนอื่นถึงไม่ค่อยสำคัญ เท่ากับความคิดที่แน่วแน่ ของคุณยังไงล่ะ
4.ผลลัพธ์เกิดกับตัวคุณไม่ใช่คนอื่น
คุณเป็นคนที่ต้องรับผล จากการกระทำและการตัดสินใจของตัวเอง ตัวอย่ างเช่นถ้ามีคนแนะนำ ให้คุณซื้อหุ้น แต่แล้วหุ้นดันตก จนคุณขาดทุนมหาศาล คุณนี่แหละ
ที่ต้องอยู่ กับความเสียดายไม่ใช่ใครอื่นจ งจำไว้ว่าเมื่อมีคนแนะนำ หรือสั่งอะไรคุณไม่ใช่พวกเขาหรอก ที่ต้องแบกรับความเสี่ยง แต่เป็นคุณเองต่างหาก
5.เขาไม่รู้ว่าอะไรดีที่สุด สำหรับคุณ
ตัวคุณเองเท่านั้น ที่จะตอบคำถามเหล่านี้ ได้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ดีที่สุดการที่เราได้เรียนรู้เองได้เลือกเอง ได้ตัดสินใจเองนั่น คือสิ่งที่ตัวคุณลงมือทำ
และพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อผลที่ตามมา หากล้มเหลวอย่ างน้อย คุณก็ได้เรียนรู้และควรรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น แทนที่จะไปนั่งโทษคนอื่น ว่าเป็นเพราะใคร
6.อย่ ากังวลกับความคิดของคนอื่น เพราะคุณอาจหลงคิดไปเอง
หากคุณเป็นกังวลอยู่ตลอดเกี่ยว กับสิ่งที่คนอื่น คิดคุณจะไม่มีทางไปถึงจุดที่คุณฝันไว้ได้เลย บางครั้งคุณก็ต้องทำในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็นด้วยหรือต้องเอาชื่อเสี่ยงของตนไป เสี่ยงเพื่อจะได้มา ซึ่งสิ่งที่คุณ ต้องการจริงๆ
7. เป็นไปไม่ได้เลย ที่คุณจะทำให้ ทุกคนพอใจ
คุณไม่สามารถทำให้ ทุกคนพอใจได้ตลอด เวลาและก็เป็นไปไม่ไ ด้ที่จะตอบสนองต่อทุกความคาดหวัง ของทุกคน ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์ อะไรที่จะอดทนฝืน
ทำอย่ างนั้น เพราะคนแรก ที่คุณควรจะทำให้ พึงพอใจ ให้ได้มากที่สุดก็คือ ตัวคุณเองไงล่ะความคิด ของคนอื่น ๆ อาจกลายเป็น ภาระต่อคุณได้
เมื่อคุณหมกมุ่น กับมันจนเกินไป ซึ่งคุณอาจลืมไปแล้ว ก็ได้ว่าตัวเองคิดอย่ างไรดังนั้นการได้ปลดปล่อย ตัวเองจากความคิดคนอื่นนี่แหละ
ที่ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ แม้ว่าอาจต้องใช้ เวลาฝึกฝน มากสักหน่อยแต่หากเมื่อไหร่ ที่คุณทำได้สำเร็จ คุณจะได้เห็นโลกในมุมใหม่ได้ค้นพบตัวตนของตัวเอง และเป็นอิสระอย่ างที่ ไม่เคยเป็น มาก่อนเลยล่ะ
#ขอให้ได้พิจารณาด้วยสติ ด้วยปัญญา ด้วยภูมิธรรม คุณพระรักษาเทวดาคุ้มครอง ขอให้มีความเจริญในธรรม ทุกท่าน ทุกคนครับ
ขอบพระคุณในคำแนะนำและเรื่องราวที่สนุกๆ ได้ข้อคิดด้วยค่ะ❤❤❤❤❤❤❤❤❤
สาธุค่ะ
ขอบคุณครับ
สาธุสาธุสาธุค่ะ
ขอบพระคุณครับ...🙏😊
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
กราบอนุโมทนาสาธุครับ
..✊..🌏🌈🌟ขอน้อม🙇♀️กราบนมัสการ🙏🙏🙏สาธุ สาธุ สาธุค่ะ🧎♀️ *ปล.🙇♀️🙏ขอบคุณมากๆๆๆนะคะ👻✌..🖐..
#อนุโมทนาสาธุ🙏🏻บุญธรรมทานครับคุณอานนท์😊
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุครับคุณอานนท์❤❤❤❤❤
สาธุสาธุค่ะ
สาธุสาธุสาธุขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะขอขอบพระคุณมากค่ะที่มีคำเตือนสติที่ดีๆในการใช้ชีวิตประจำวันค่ะ😂😂😂😂