๖.กระจ่างธรรม กระจ่างใจ (ครั้งที่ ๒) เต๋า - เซ็น - พุทธ เชื่อมโยงถึงกันอย่างไร?

Поделиться
HTML-код
  • Опубликовано: 3 ноя 2023
  • ๖.กระจ่างธรรม กระจ่างใจ
    (ครั้งที่ ๒) เต๋า - เซ็น - พุทธ เชื่อมโยงถึงกันอย่างไร?
    เหตุใดหลวงปู่ดุลย์ อตุโล จึงหยิบยกคำสอนของท่านฮวงโป
    มาแทรกในคำสอนของท่านที่ว่าด้วย “จิตคือพุทธะ”?
    โดย อาจารย์ทวีศักดิ์ คุรุจิตธรรม
    วันอาทิตย์ที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
    เวลา ๑๐.๐๐ น.
    #ธรรมสถานจุฬาฯ #จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย #อาจารย์ทวีศักดิ์ #เต๋าเซ็นพุทธ

Комментарии • 19

  • @user-ij4kr7zt4o
    @user-ij4kr7zt4o 7 месяцев назад +1

    อนุโมทนาสาธุครับอาจารย์ เหว่ยหล่าง ก็ บังเอิญได้ฟังสูตรฯ มาเช่นกัน จึง โพล่ง !!! จิตตื่นขึ้นๆ เป็นวิปัสสนา เลยต้องการจะไปหาอาจารย์ ที่ วัดๆ เลยเดินทางไปยังวัดนั้นจนจบกิจเมื่อได้ฟัง สูตรฯ จบที่อาจารย์ ได้แนะนำบอกออกมา พอแกได้ฟังๆ สูตรลับอันนี้ฯ ที นี้ สว่างเลย และได้รับบาตรและจีวรทองของพระพุทธเจ้า ที่ สื่อทอดมาจากพระมหากัสสปะฯ แกมีวิธีชี้ๆ ตื่นๆ ชี้ๆ หลุดๆ ทำคล้ายพระพุทธเจ้ายกดอกบัวขึ้นมา พระมหากัสสปะที่เจริญกายคติมาถึงวันที่ 7 พอเห็นดอกบัวปุ๊บ !!! สติสมาธิมันเสถียรภาพ เห็น มโนความคิดกำลังปรุงแต่งขึ้นมา โพล่ง!!! มันดับสัญญา นิโรธฯ เห็นความจริงแห่งธรรมชาติ คือ มันไม่มีอะไรเลยนี่หว่า 😅 ฮวงโป ก็ มี ทวยตานุปัสนาสูตรฯ มันมีสูตรสุตตะอื่นๆ อยู่ ใน นั้นด้วยผมว่า แต่เป็นวิธีการสอนภาษาที่แตกต่างกันเฉยๆ มันเป็นแก่นๆ และตอนนี้มีอาจารย์ในไทยสามารถชี้ให้คนหลุดพ้นได้ และเทศสอนคนฟังๆ ให้ ตื่นรู้ๆ หลุดพ้น ได้จริงๆ พระไตรปิฎกไม่ได้โกหกมันเห็นผลจริงแต่มันจำเป็นที่เราจะเข้าใจสูตรโดยรวมๆ แบบมีใจเป็นกลางๆ และไม่ยึดพระไตรปิฎกด้วย มันจะได้เป็นสุตตะมยปัญญา และพลิกได้แน่ๆ เพราะมีปัญญาเข้าใจถูกฉลาดในการเลือกเพ้นธรรมฯ อยู่น้าาาา อยู่ที่ว่าจะหยุด หรือจะไปเกิดต่อดีหนอ ?

  • @quiedora80
    @quiedora80 7 месяцев назад +2

    มันมีความจำเป็นต้องกล่าวถึงพระพุทธเจ้าอย่างนั้นหรือ ที่ว่าตั้งแต่พระพุทธเจ้าจนถึงสัตว์นรกบ่มีไก๊ สัพพัญญูก็บ่มีไก๊ เพราะไม่มีอะไรตั้งอยู่ เพราะจิตหนึ่ง... ทำไมไม่เอาท่านเว่ยหลาง ท่านฮวงโป ไปเปรียบเทียบอย่างนั้นบ้าง

  • @user-nq6vu2ct6z
    @user-nq6vu2ct6z 7 месяцев назад

    ผมชอบทั้ง3ศาสนาเลยส่วนตัวคิดว่าเต๋าเหมาะสมกับตัวผมมากคับแต่นับถือศาสนาพุธทคับขอพระทั้งสามโลกคุ้มครองและปกป้องตัวผมและแม่และแม่เฒ่าและน้องด้วยเถอะคับไม่ใช่คนชัวแต่ก็ไม่ได้ดี100%คับสาธุ🙏🙏🙏

  • @user-jn1do1ib1k
    @user-jn1do1ib1k 8 месяцев назад

    กราบอนุโมทนาสาธุ

  • @mkin75
    @mkin75 8 месяцев назад +1

    จิตพุทธะหรืออนัตตา เกิดจากการเห็นกายใจตามความเป็นจริง หรือเห็นรากเหง้า จิตจึงปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นในอัตตาตัวตน
    จึงไม่มีการละกิเลสโดยตรง แต่การเจริญสัมมาสติให้เกิดสัมมาสมาธิ ในชีวิตประจำวัน อยู่เนืองๆ พร้อมสังเกตไตรลักษณ์ของรูปนาม ก็เป็นการวิปัสสนา กิเลสจะลดน้อยลงเอง จนกระทั่งญาณแก่กล้าตัดสังโยชน์ได้
    ถ้าจิตมันพุทธะอยู่แล้ว มันไม่ต้องมีปรากฎการณ์ซาโตริหรอก มันไม่ต้องมีเซนหรอก แต่เพราะจิตมันมีอวิชชาปกคลุมอยู่ตลอด จึงต้องมีการปฏิบัติให้เห็นตามจริง

  • @natthachai263
    @natthachai263 9 месяцев назад

    สาธุๆๆๆ

  • @user-qu1ws3xt2x
    @user-qu1ws3xt2x 9 месяцев назад

    ขอบคุณท่านอาจารย์มากค่ะ

  • @user-qu1ws3xt2x
    @user-qu1ws3xt2x 9 месяцев назад

    สาธุธรรมอันดี❤❤

  • @sunriseandsunset4
    @sunriseandsunset4 7 месяцев назад

    เมื่อพูดถึงการปฏิบัติ ทำไมอ.ถึงบอกว่าสอนแต่เกี่ยวกับโลกียะหล่ะ พระพุทธเจ้าท่านก็ตรัสถึงโลกุตระในพระไตรปิฎก อนัตตา ปรมัตถ์ สุญญตา นิพพาน.. แต่มันเป็นสภาวะธรรม มันเอามาปฏิบัติไม่ได้ แต่มรรค8 เป็นการปฏิบัติก็เพื่อเข้าถึงโลกุตระนั้น
    ส่วนคำสอนเซนที่เป็นโลกุตระ ก็แค่กล่าวถึงสภาวะธรรมล้วนๆ เอาไปทำอะไรได้ มันก็ต้องมีการปฏิบัติให้เกิดซาโตริเหมือนกัน แล้วมันก็ต้องโลกียะก่อนมั้ย หรือปฏิบัติในโลกุตระ??

  • @Nampoo7948
    @Nampoo7948 9 месяцев назад

    ❤❤❤❤

  • @PopPronchai
    @PopPronchai 9 месяцев назад +1

    จิตหนึ่ง นั้นไม่มีรูปร่างลักษณะ
    แต่ก็ไม่อาจกล่าวว่า ไม่มี
    ด้วยเหตุนี้ จึง พูดว่า มีก็ไม่ใช่ ไม่มีก็ไม่ใช่
    ทั้งที่มีและไม่มีก็ไม่ใช่
    จิตหนึ่งนั้นบริสุทธิ์ จึงไม่ใช่มีสีเหลือง สีแดง สีเขียว
    ครั้งหนึ่งพุทธะ ตรัสว่า
    “อุปมาดั่ง ไข่มุกมณีรัตนะ เปล่งประกายสีสันทั้ง5 ออกมารอบด้าน
    แท้จริงแล้วไข่มุกมณีรัตนะ ไม่ได้มีสีสันทั้ง5
    แต่เพราะว่า เป็นความบริสุทธิ์ใสสว่าง
    จึงสามารถปรากฏ สีต่างๆออกมาได้”
    #จิตหนึ่งก็เช่นกัน

  • @Akaliko-
    @Akaliko- 9 месяцев назад +1

    ไม่ว่าจะอ่านวาทะกรรมไม่มีต้นโพธิ์ฯ จิตหนึ่ง จิตเดิม หรืออภิธัมมัตถสังคหะ มันก็ยังอยู่ในขั้นสุตตะมยปัญญา และจินตมยปัญญา แต่การจะเห็นกายใจตามความเป็นจริงได้นั้นต้องมีภาวนามยปัญญา
    ซึ่งไม่ต่างกับการรู้ทฤษฎีการขับรถ ต่อให้ทฤษฎีนั้นจะเป็นอนุโลมแบบเถรวาท หรือปฏิโลมแบบเซน ถ้ายังไม่เคยฝึกขับ ฝึกลงถนนใหญ่ ขึ้นทางด่วน ฝึกจอดลักษณะต่างๆ การจะเรียกว่าขับเป็นก็จะไม่เกิดขึ้น ส่วนใครจะเป็นช้าเป็นเร็วก็อีกเรื่อง
    สำหรับการฝึกในรูปแบบหรือนอกรูปแบบของเถรวาท คือการสังเกตความแปรปรวน เป็นทุกข์ และอนัตตา ของขันธ์5 ในชีวิตประจำวัน จนยกระดับเป็นวิปัสสนาญาณจึงเกิดการปหานกิเลส หรือที่เรียกว่าซาโตริ นั่นแหละ
    แบบเซน ไม่ได้จะทำให้บรรลุเร็ว ฉับพลัน ไปกว่าแบบเถรวาท ถ้าเริ่มต้นภาวนาพร้อมๆกัน เพราะไม่มีใครกำหนดให้จิตบรรลุเร็วฉับพลันได้เลย ทำได้แค่สร้างเหตุ และเมื่อเหตุถึงพร้อมมันก็บรรลุเอง

    • @PopPronchai
      @PopPronchai 8 месяцев назад

      จิตหนึ่งเป็นภาวะธรรมธาตุเดิมที จึงไม่มีเหตุปัจจัยทำให้เกิด และไม่มีเหตุปัจจัยทำให้ดับ
      ที่ตกสู่วัฏจักรเกิดตาย เพราะหลงผิด จึงมีกายใจ
      ให้รับผลจากเหตุปัจจัยจัย
      หลงยึดว่ามหาภูตรูป4เป็นลักษณะกายนตนเอง
      หลงยึดว่า ภาพสะท้อนอายตนะภายนอกเป็นลักษณะใจตนเอง
      ดุจดั่ง คนเจ็บป่วยทางตา เห็นดอกไม้เกิดบนท้องฟ้า
      เห็นพระจันทร์มีสองดวง
      ด้วยความหลงผิดนี้เอง จึงมีกายใจ และวัฏสงสารกายเวียนว่ายตายเกิด
      พุทธะองค์ทรงตรัสไว้เช่นนี้
      ประเด็นเรื่องเร็วกับช้า ไม่ได้อยู่ที่เริ่มต้นพร้อมกันหรือป่าว
      แต่อยู่ที่ การคลำผิดที่ผิดทาง
      ดั่งคำกล่าว “คลำเจอรากเหง้า”
      เซนนั้น ให้เห็นจิตพุทธะในตนเอง ให้ตื่นแจ้งที่จิตตน
      ใช้จิตรู้ตื่นนี้ในชีวิตประจำวันทุกขณะเวลา
      สนองรับและวางปรากฏการณ์เหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นจากจิตตน
      หากบำเพ็ญขจัดกิเลส แก้ไขใจโลภ โกรธ หลง
      ในตนเอง
      ฝึกกายใจให้สงบไม่หวั่นไหว เช่นนี้เป็นการแสวง
      การรู้แจ้งจากภายนอก
      เดิมที่เวไนยสัตว์ทั้งหลาย
      มีพุทธะภาวะ จิตรู้แจ้งพร้อมสมบูรณ์ในการสำเร็จพุทธะอยู่แล้ว
      หากว่า เวไนยสัตว์จะต่างจากพุทธะ ก็ตรงที่ตื่นแจ้งที่จิตตน หรือหลับหลงเท่านั้นเอง
      พุทธะองค์ท่านเคยตรัสไว้เช่นนี้แล

    • @Akaliko-
      @Akaliko- 8 месяцев назад

      @@PopPronchai หากหลักการถูก ไม่มีทางที่จะคลำผิดทาง จิตพุทธะก็คือ จิตที่เห็นอะไรตามความเป็นจริง จึงรู้ตื่น เบิกบาน
      การเห็นกายใจตามความเป็นจริงคืออะไร คือเห็นว่ามันแปรปรวน ไม่อาจจะคงอยู่นิรันดร์ และเมื่อมันเป็นเช่นนั้นจึงมิอาจหลงยึดเป็นตัวเป็นตน หรือยึดเป็นที่พึ่งที่ให้ความสุขที่แท้จริง
      เมื่อเกิดปัญญาญาณเช่นนั้นแล้ว ตัณหาอุปาทาน โลภ โกรธ หลง ก็เบาบางลงเองตามลำดับ ไม่ใช่ไปคอยตามขจัดโดยตรง ซึ่งมันก็เกิดจากการที่จิตเห็นว่าไม่มีเราไม่มีใคร อันมาจากผลลัพธ์จากการสร้างเหตุอีกที ก็คือการฝึกสัมมาสติที่ก่อให้เกิดสัมมาสมาธิในชีวิตประจำวัน เพื่อเห็นไตรลักษณ์กายใจในระดับวิปัสสนาญาณ
      จิตพุทธะหรืออนัตตานั่นเป็น "ผลลัพธ์" เป็นปลายทาง จากการเห็นกายใจตามความเป็นจริง หรือที่คุณว่าเห็นรากเหง้านั่นแหละ มันไม่ใช่ก้าวแรกของการเดินทางซักหน่อย
      ถ้าจิตมันพุทธะอยู่แล้ว มันไม่ต้องมีปรากฎการณ์ซาโตริหรอก มันไม่ต้องมีเซนหรอก แต่เพราะจิตมันมีอวิชชาปกคลุมอยู่ตลอด จึงต้องมีการปฏิบัติให้เห็นตามจริง

  • @user-eo6mn6oc1j
    @user-eo6mn6oc1j 9 месяцев назад

    คลิปนี้ที่เป็นภาพพร้อมเสียงมีด้วยไหมครับ

  • @user-ip7pr2iu7g
    @user-ip7pr2iu7g 9 месяцев назад

    มาจากปัจจัยปรุงแต่งของธรรมชาติทั้งสิ้น

  • @sheet789
    @sheet789 9 месяцев назад

    ทิฐิ 62...