Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
พี่ดีเจทุกคนพูดเหมือนว่าเป็นความผิดของคุณอ้อมที่ "สปอยล์" สามีจนสามีเป็นคนแบบนี้ แต่ขอโทษนะคะ สามีของคุณอ้อมโตแล้ว ไม่ใช่เด็กแล้ว จะไม่มีความคิดทำเพื่อภรรยาบ้างเลยหรอคะ อายุ 40 นี่ไม่เด็กแล้วนะคะ เค้าเป็นสามีเป็นพ่อคนแล้ว จะไม่แสดงความรับผิดชอบอะไรบ้างเลยหรอ สามีของคุณอ้อมไม่มีความพยายามอะไรเลยค่ะ มีแต่คุณอ้อมที่พยายามมาตลอด เราว่ามันไม่ผิดที่คุณอ้อมจะรับทำหน้าที่แทนเมื่อสามีไม่ทำ แต่คุณอ้อมทำขนาดนั้นแล้วสามียังไม่รู้ตัวเลย แบบนี้ไม่โอเคค่ะ คุณอ้อมคะ คุณเก่งและใจเย็นมากค่ะ เราไม่คิดว่าคุณอ้อมจู้จี้เกินไป แล้วคุณอ้อมไม่ได้ขออะไรมากมายจากคุณสามีเลยค่ะ ขอให้คุณอ้อมสามารถหาทางออกจากปัญหานี้ได้นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
เห็นด้วยมากๆ เลยค่ะ โตกันขนาดนี้แล้ว จะให้เรามานั่งพูด นั่งสอนไปสะทุกเรื่องมันไม่ใช่จริงๆ
ถ้าเค้าไม่รู้ตัวปรับยากอยู่นะ ยิ่งแก่ด้วยมันจะบวกอีโก้เข้าไปอีก ถ้าไม่ถึงขั้นจะถูกทิ้งคงไม่ยอมปรับง่ายๆ
คำว่าความเคยชินมันแก้ยากนะค่ะ
เรามองว่าบางคนที่มันคิดไม่ได้ก็คิดไม่ได้จริงๆค่ะ เคยเจออายุ60กว่าแล้ว ก็ยังคิดอะไรไม่ได้ จัดการชีวิตไม่ได้ก็มี ในเมื่อเราพิจารณาแล้วว่าเค้าไม่มีหัวคิดก็จำเป็นต้องเตือนสติให้รู้ตัว ไม่ใช่ปล่อยผ่านให้เค้าก็คิดไม่ได้ต่อไป
ผิดคุณอ้อมเลยครับ การที่เราเก่งและเป็นผู้นำครอบครัวแล้วบริหารครอบครัวให้ดีไม่ได้ ต้องโทษผู้นำครอบครัวเป็นหลักครับ ซึ่งคุณอ้อมออกตัวและทำให้เห็นได้ชัดเจนเลยเรื่องอายุไม่ได้มาพร้อมกับความรับผิดชอบครับ คำว่าความรับผิดชอบหรือขอบเขตของความรับผิดชอบของ แต่ละคนยังแตกต่างกันเลยครับ เห็นได้เยอะในสังคมไทย สามีที่มาโวยภรรยาตัวเอง ว่าอยู่แต่บ้านเลี้ยงลูก มีเงินเดือนให้ วันๆเอาแต่ไถโทรศัพท์เอฟของไปวันๆ อยากได้แมวอยากได้ชิวาว่ามาเลี้ยง เหมือนกันครับ แค่สลับเพศกันเท่านั้นอันนี้ก็ผิดสามีเต็มๆที่ปล่อยให้ภรรยาเป็นแบบนี้ และเห็นได้เยอะด้วยในสังคมไทย กลุ่มแม่บ้านออกจากงานประจำมานั่งไถโทรศัพท์ไปวันๆ แล้วก็มีอยากมาทำธุรกิจขายของออนไลน์ หรือเปิดร้านกาแฟแล้วก็ทำกันไม่รอด
เข้าใจมากๆเลยค่ะ เราเองยังโสดเพราะเลือกเยอะ เราชอบคนเก่งและเป็นผู้นำ มีความรับผิดชอบสูง เปนผู้หญิงเก่งต้องทำใจค่ะ สู้ๆนะคะ
ใช่เลยที่ยังโสดเพราะต้องการคนที่มาเป็นผู้นำเราได้ แต่ตอนโสดเราก็ฝึกการช่วยเหลือตัวเองหลายๆด้านได้แบบช่ำชอง จนรู้สึกก็ไม่เห็นต้องการใครเลย 😅
เราก็เทผู้ก็เพราะผู้ไม่มีภาวะผู้นำนี่แหละ แถมยังพูดอีกว่าถ้าอยากให้เป็นผู้นำทำไมถึงไม่บอก ของแบบนี้ไม่ต้องบอกหรอก มันต้องออกมาโดยธรรมชาติ
แนะนำนายกตู่เลย เป็นผู้นำแต่โง่
สวยตายแหละ
@@สมดีมีเยอะ สวยกว่ามึง
“ยอมเสียสละมาดูลูกให้เรา” เป็นประโยคที่แปลกมาก ไม่ใช่ว่าลูกเกิดจากพ่อและแม่หรอ ถ้ากลับกันเป็นผู้หญิงออกมาคงไม่เกิดประโยคนี้หรอก ฟังมาเหมือนคุณอ้อมมีลูกเพิ่มอีกคน มีภาระมาถ่วงเพิ่ม จริงๆคือถ้าไม่มีเค้าก้อสามารถทำได้เองและอาจจะสบายใจกว่าอีกค่ะ ตัดได้ก็ตัดนะคะอะไรที่ไม่จำเป็น
พ่อบ้านฟูลไทม์ที่เรารู้จักคนนีงเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นให้น้องเรา สอนติวเป็นอาชีพเสริม อาชีพหลักคือพ่อบ้านดูแลลูกเล็กที่คอนโด ทำงานบ้านทุกอย่าง เมียคนไทยมีหน้าที่หาเงิน กลับบ้านมาเล่นกับลูก พักผ่อน ไม่ต้องแตะงานบ้านอะไรเลย เขาบอกว่าถ้าพาเมียไปอยู่ญี่ปุ่น สังคมเขาบีบให้ผู้หญิงต้องเป็นแม่บ้าน เขาไม่อยากให้เมียทิ้งงานที่ชอบ เขาเลยสละตัวเองจะมาเป็นพ่อบ้านแทน แถมเขาบอกว่าชอบชีวิตในเมืองไทยมากกว่า สังคมญี่ปุ่นมันทำให้เขาทำงี้ไม่ได้ คือถ้ามีใครจะเป็นพ่อบ้าน ต้องบาร์ระดับคนที่เรารู้จักแบบนี้เลยนะ ถึงจะเรียกว่าเป็นคู่ช่วยส่งเสริม
จริง ในเมื่อรับหน้าที่นี้ก็ต้องพยายามทำให้ดี การเล่นเกมก็ไม่ผิดนะ แต่ต้องแบ่งเวลา ถ้าลูกนอน ลูกไปรร ทำงานบ้านเสร็จก็เล่นได้ผ่อนคลายได้ แต่งานต้องไม่ทิ้ง
ใช่ค่ะคุณอ้อมเก่งมาก แต่คุณอ้อมก็ลดคุณค่าของสามีจนเขาไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง ไม่พอใจอะไรสักอย่างในตัวเขา คุณสามีน่าสงสารนะคะ งานที่ทำมาตลอดก็ไม่ได้ทำ ต้องมานั่งเลี้ยงลูกอีกทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจคุณสักอย่าง นานเข้าระวังสามีคุณจะเป็นซึมเศร้านะคะ เพราะคุณกดหัวเขาแบบนั้น คุณน่ะจะรู้สึกตัวเองเก่งไปหมดทุกอย่าง แต่ไม่คิดถึงอีกฝั่งเลย เวลาที่รู้สึกตัวเองทำอะไรไม่ได้สักอย่าง แพ้ภรรยาไปหมดจะรู้สึกยังไง เขาจะรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า อยู่ไปทำไม งานก็หาไม่ได้ เลี้ยงลูกก็โดนบ่น เล่นเกมก็โดนบ่น ปล่อยให้เขาทำอะไรเองบ้างเถอะค่ะ ไม่ใช่ลงมือทำทุกอย่างให้แบบนี้ อันไหนไม่พอก็บอกให้เขาทำให้ดีขึ้นก็แค่นั้นมั้ยคะ
คิดเหมือนเราเลยค่ะ
เห็นด้วยกับคอมเมนท์นี้ ผู้หญิงค่อนข้างไม่เข้าใจ แทนที่จะให้เขาทำงานของเขาเอง ดันเอามาเลี้ยงลูกไง คุณค่าของคน มันโดนเอาออกไปโดยเมียเลย
แล้วทำไมผชไม่สร้างคุณค่าให้ตัวเอง
โทรมาอวย ตัวเอง และข่ม สามี ว่าไม่เก่ง ปล่อยเค้าไปเถอะ ฟังแล้ว สามีไม่ดีสักอย่าง ก็ให้เงินเดือนแล้วไง ทำไมทำงานไม่ดี😊
สามีเราก็ออกมาเป็นพ่อบ้านค่ะ เราคิดกันอยู่ไม่นาน แต่สามีเต็มใจ คือเค้ารู้ว่าเรื่องเรียนหรือเรื่องนอกบ้านเราเก่งกว่า แต่เรามองว่าเค้าเสียสละมากนะคะ ที่ตัดสินใจทำสิ่งนี้ ตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ลูก 8แล้ว เค้าอาจไม่ได้เป็นพ่อบ้านที่เพอร์เฟคค่ะ แต่เราก็มีช่วยเค้าด้วย ซึ่งเราก็จะทำได้ดีกว่าละเอียดกว่าแหละ เราไม่มีแม่บ้านค่ะ ช่วยกันทำ เพราะไม่ชอบให้คนอื่นเข้ามายุงวุ่นวานในบ้าน ตอนนี้เค้าสอนลูกทำงานบ้าน ช่วยพ่อแม่ แต่.....ถ้าเราอยากได้แบบที่เราต้องการ เราต้องทำเองค่ะ .... การเรียนออนไลน์เค้าทำได้ดีมากค่ะ เค้าเรียนเพิ่มเติมด้วยตัวเองแบบ เรียนก่อนอ่านก่อนถึงจะมาสอนลูก ซึ่งเค้าทำได้ดีมากค่ะ ... เค้าชอบเล่นเกมส์ออนไลน์มาก มาตั้งแต่คบกัน เราเฉยๆและมองว่ามันเป็นการพักผ่อนเรื่องเดียวของเค้า สังคมเดียวของเค้า .... เราเองได้ออกไปมีสังคมข้างนอก เจอเพื่อนเจอคน ....แต่วันๆเค้าเจอแต่คนส่งของ และลูก.... รักกันอยู่มั้ยคะ ส่วนตัวของเราเรารักกันมากค่ะ เราอยู่ด้วยกันตั้งแต่วันที่ไม่มีอะไรจนวันนี้มีหลายๆอย่างที่ไม่เคยมี ทุกวันนี้เราปล่อยให้เค้านำมากขึ้นเพราะเราเองก็ชอบนำซึ่งความจริงเค้าอาจเป็นคนยอมก็ได้ แต่ตอนนี้เราลดความเป็นผู้นำของเราลงมา เพราะลูกมองเค้าเป็นฮีโร่ เราสอนลูกว่าทุกคนมีความเก่งไม่เหมือนกัน เราต้องรู้จักยอมรับความต่างของกันและกันค่ะ
จริง งงมาก
ต้องสอนให้เค้ารักพ่อ มากๆ และเป็นคนเก่งในสายตา ลูก
สามีของคุณเจ้าของสาย ทำให้เรานึกถึงพี่ชายเรา เราได้แต่หวังว่าผู้หญิงที่จะเข้ามาในชีวิตพี่เรา จะเจอพี่เราในเวอร์ชั่นที่ดีกว่านี้
+1000000000 คิดเหมือนกันมากๆเลยค่ะ เรามีพี่ชายที่นิสัยแบบสามีคุณอ้อมเลยค่ะ ละคือจะเป็นผชแนวค่อนข้างเวิ่นเว้อเพ้อเจ้อไปวันๆค่ะ555 หวังจริงๆว่าวันนึงที่เค้าเจอคนที่ดี ผญที่เป็นแม่ของลูกที่ดีจริงๆ ละพี่เราจะดีขึ้นกว่านี้55
จะขอบอกเหตุผล เฉพาะเรื่องสามีคุณชอบเล่นเกมนะครับ ผมคิดว่า ที่เขาชอบเล่นเกมเพราะเวลาที่เขาเล่นเกม เขาจะรู้สึกว่าเขาก็เก่งเหมือนกัน ซึ่งจากเรื่องทั้งหมดที่ฟังมา คือคุณผู้หญิงเก่งมากจริงๆ ทำให้สามีคุณรู้สึกแพ้ไปหมดทุกอย่าง ทางเดียวที่เขาจะรู้สึกว่าตัวเอง มีคุณค่าก็คือตอนที่เขาเล่นเกมแล้วมีคนบอกต้องการเขาครับ ถ้าคุณจะแก้เรื่องนี้ มี2ทาง 1.ต้องให้สามีไปพบจิตแพทย์ก่อนครับ ซึ่งไม่รู้ว่าสามีคุณรู้ตัวไหม ถ้าเขาไม่ยอมไปก็จบ คือต่อให้สามีคุณมีความสามรถทำสิ่งนี้ได้แน่ๆ แต่ถ้าเจ้าตัวไม่คิดว่าจะทำได้ ผลก็ทำไม่ได้2.เลิกครับ เพราะตอนนี้ระดับจิตและความคิด ของคุณกับสามีห่างกันมากๆแล้ว
ไม่ใช่ปัญหาจิตครับ แค่คนไม่เอาถ่าน
@@auttoautaut95 คุณฟังแค่ข้างเดียวก็หาว่าเขาไม่เอาถ่าน อย่าลืมสิครับว่าตอนแรกเขามีงานประจำ มี comfort zone ของเขาที่เติบโตในงานเดิมได้
@@auttoautaut95 รู้ไปหม๊ดดดดดด 5555 ขำหว่ะชีวิตคนอื่นจำเป็นต้องเหมือนกันทุกคนไหม
เมียเขามุมานะพยายามขนาดนั้นแล้วตัวเขาจะไม่พยายามทำอะไรหน่อยหรอ? เราเห็นด้วยกับข้อ2 ถ้าไม่เปลี่ยนพฤติกรรม เลิกดีกว่า
ถ้าไม่ไปรักษาหรือเปลี่ยนนิสัยตัวเองนี่ว่าเลิกดีกว่าจะให้ผญ.เขาพยายามไปถึงไหนชีวิตคู่ควรพยายามไปด้วยกันไม่ใช่ทำแค่ฝ่ายใดฝ่ายนึง
Topic นี้น่าสนใจมากค่ะ เป็นเรื่องที่หลายคู่ต้องเจอในวันที่ต้องตัดสินใจว่าใครซักคนหนึ่งต้องออกมาดูลูก อยากให้ลองนึกถึงในช่วงแรกนะคะ ช่วงที่ลูกยังเล็ก การเลี้ยงลูก 1 คนใช้เวลา กายใจเป็นหมดแทบ 1 วัน เวลาให้ตัวเองไม่ต้องพูดถึงอยากให้คุณพี่ผู้หญิงย้อนความทรงจำตัวเองกลับไปช่วงที่ตัวเองลาคลอด 3 เดือนแรกค่ะ แค่ให้นมลูกกล่อมนอนเปลี่ยนเพิด ก็แทบจะไม่มีเวลาอาบน้ำทานข้าวดีๆแล้วใช่ไหมคะ การที่คุณสามียอมตัดสินใจมาช่วยเลี้ยงลูกให้ก็เป็นความคิดที่กล้าหาญมากจริงๆนะคะ เพราะนอกจากเค้าจะต้องอุทิศเวลาให้กับลูกทั้งวันแล้วถ้าไม่นับลูกหลับก็แทบขยับไปไหนไม่ได้เลยช่วงที่ลูกยังไม่เข้า รร มันก็ทำให้เกิดความเครียดจริงๆนะคะ เราเลยคิดว่าการเล่นเกมส์ก็เป็นการคลายเครียดด้านหนึ่งของเค้าค่ะ และการที่คุณพี่ผู้หญิงกลับมาบ้านแล้วเห็นแต่เค้าเล่นเกมส์ นั่นก็เพราะว่ามีคุณผู้หญิงหลับมาบ้านแล้วไงคะ พี่ผู้ชายก็อารมณ์ว่ามีคนมาเปลี่ยนไม้แล้ว ขอพักหน่อยนะ เลยทำให้พี่ผู้หญิงเห็นแต่ด้านนี้ของสามีค่ะ การทำงานนอกบ้านเหนื่อยจริงค่ะ เราเองก็เป็น 1 คนที่ทำงานนอกบ้านแล้วเลี้ยงลูกเล็กด้วยค่ะ แต่ถ้าให้เทียบกัน เลี้ยงลูกเหนื่อยกว่าเยอะะะะะ ค่ะ 555 เครียดกว่าด้วยค่ะ แต่จริงค่ะ เมื่อลูกเข้า รร แล้ว สามีเรามีเวลามากขึ้นจริง อยากจะกลับไปทำงาน แต่กว่าจะผ่านช่วงที่ลูกเล็กมาอายุคุณสามีก็ล่วงเลยเวลามานานจนทำให้การหางานนั้นยากขึ้นมากๆแล้วค่ะ ละมันก็คงนานมากซะจนหลงลืมวิธีการทำงานต่างๆ ความทะเยอทะยานต่างๆ ได้หายไปตามกาลเวลา สิ่งที่เราอยากให้คุณพี่ผู้หญิงลองทำดูนะคะคือลองเปิดใจคุยกับสามีตรงๆ ว่าเค้าอยากไปต่างประเทศหรือไม่ คือการตัดสินใจมันอาจจะเลือก option ที่ดีที่สุดคงไม่ได้ค่ะ แต่อยากให้มองที่ความสุขของคนสองคนเป็นหลัก ถ้าเค้าอยากไปจริงๆ โอเค ไปค่ะ ให้คุณสามีลองไปหางานที่ ตปท ทำ แต่เอาจริงๆ เรามองว่ามันไม่ใช่การแก้ปัญหาค่ะ เพราะการไป ตปท จะหางานแบบ white collar ค่อนข้างยากนะคะ จะไปทำงานเสริฟอาหาร ทำ part time ได้เงินเยอะกว่า ที่ไทยจริง แต่ใช่สิ่ง ที่คุณสามีคุณอยากทำหรือเปล่า ลองคิดดูอีกทีนะคะ เราเองเป็น 1 คนที่สามีก็บ่นว่าเราได้เงินเดือนเยอะกว่า ทำโน่นนี่เก่งกว่า บลาๆๆ สามีก็มีบ่นว่าอยากเปลี่ยนงานได้เงินเดือนเยอะกว่าเราบ้าง แต่เราจะพูดกับสามีเสมอค่ะ ว่าเธอช่วยครอบครัวเรามากกว่าเราอีกนะ (คือเรามีหนื้สินที่ต้องปิดแต่สามีไม่มีเลย) เราจะเอาประเด็นนี้มาบอกเค้าตลอดค่ะ ให้สามีรู้สึกถึงคุณค่าในตัวเองว่าช่วยครอบครัวมากกว่าแม้ว่าภรรยาจะมีเงินเดือนมากกว่า แล้วเค้าก็จะมีความภูใจในตัวเองและอยากพัฒนาตัวเองต่อๆไปค่ะ และเราก็จะ assign หน้าที่ให้เค้าทำในบ้านให้ชัดเจนค่ะ และ respect result ที่เค้าทำค่ะ มันอาจจะไม่ได้ดั่งใจเรา 100% แต่เราต้องปล่อยค่ะ แล้วชมเค้าบ้างนะคะในสิ่งที่เราให้เค้าทำเค้าจะภูมิใจแล้วอยากพัฒนาไปต่อค่ะ ตัวอย่างเช่นการทำอาหารที่คุณพี่เล่ามาว่าเค้าทำไม่อร่อย ก็สอนเค้าค่ะว่าแบบนี้นะ แล้วให้เค้าทำค่ะ ที่เล่ามาเราไม่เห็นคุณพี่ผู้หญิงชมสามีให้ฟังเลยค่ะ เราไม่ทราบว่าคุณพี่ผู้หญิงทุกวันนี้ไม่ได้ชมสามีเลยเลย หรือแค่ไม่ได้เล่าในคริปนี้เฉยๆนะคะ ลองนึกในทางกลับกันนะคะ ถ้าคุณเป็นคนที่ทำตามคำสั่งใครซักคนหนึ่งแต่ไม่เคยได้รับคชขมเลยซ้ำยังโดนบอกว่า เดี๋ยวทำเองอีก คุณจะรู้สึกยังไงคะ หมดกำลังใจใช่ไหม ทำอะไรก็ไม่ดีไปหมด ลองใหม่ค่ะ ถ้าสามีไม่ตื่นไปพาสุนัขวิ่ง ปลุกค่ะ แล้วไปวิ่งด้วยกันไปเลย ได้ใช้เวลาร่วมกันไปอีก ถ้าสามีอยากลองทำไร่ ลองไปทำด้วยกันค่ะ เคยเป็นไหมคะ ทำอะไรคนเดียวหมดมันอาจจะคิดไม่ออกเอ๊ะปลูกอะไรดี ช่วยกันคิดก็อาจจะมีทางออกที่ดีกว่านะคะ ถ้าทำได้ดีมีรายได้เพิ่มอีก แถมเอาไปสอนลูกต่อได้อีก นี่ไงพ่อเค้าเป็นคนพาแม่มาเจอที่แปลงนี้ให้เรามีสวนเป็นของเรานะลูก ต่อไปให้ลูกมาดูแลนะ ถ้าเค้าชอบ อะไรแบบนี้ พ่อก็ได้ความภูมิใจไปด้วยนะคะ การเวลาอาจะทำให้เราหลงลืมบางอย่างไปนะคะ อย่าลืมใส่ใจความรู้สึกของกันและกันนะคะ คุณพี่ผู้หญิงก็เก่งมากจริงๆค่ะ และเราเชื่อว่าปัญหาของคุณพี่มีทางแก้ได้โดยที่ไม่ใช่การแยกทางกันค่ะสู้ๆนะคะ ขอให้ทั้งคู่ข้ามผ่านปัญหานี้ไปด้วยกันได้นะคะ
เห็นด้วยค่ะ บางอย่างต้องถาม ต้องทำด้วยกัน
เขียนได้ดีมากเลยค่ะ อ่านแล้วประทับใจ ส่วนตัวมองว่าภรรยาไม่ถึงขั้นลดคุณค่าของฝ่ายชายอย่างหลายๆคอมเม้นกล่าว แต่ภรรยาอาจอยากให้ผลลัพธ์ที่สามีทำดีกว่านี้แต่ฝั่งสามีก็ทำไม่ได้ดั่งใจสักที ภรรยาก็ไม่อยากรอให้สามีพัฒนา เลยเป็นปัญหา แล้วหลังจากสามีออกจากงานแล้วการตัดสินใจส่วนใหญ่เป็นของภรรยาทางสามีอาจจะไม่เห็นด้วยแต่ก็เออออไปเพื่อตัดปัญหา เหมือนเวลาถามว่าจะกินร้านไหนดีถ้าไม่ตรงกันก็ต้องมีฝ่ายนึงที่ยอมอีกฝ่าย ไปๆมาๆฝ่ายที่ยอมก็จะโดนว่าว่าไม่ช่วยกันเลือกร้านอาหารเลย
ชอบคอมเมนท์นี้มากเลยค่ะ
ผมชอบเม้นนี้ครับ ผมก็คิดแบบนี้ ช่วงนี้ควรให้กำลังใจเค้ามากๆสนับสนุนเค้าให้ลุกขึ้น ดีกว่ามาจ้องจะเลิก และที่สำคัญการที่คุณโทรมาเล่าก็เหมือนเล่าด้านเดียว ถ้าเปนผมฟังนะ ผมคิดว่าผู้หญิงคนนี้ชักจะยังไงๆแล้วหละ คุณออกไปนอกบ้านไปเจอใครมาหรือป่าว หรือไปเปรียบเทียบกับคนอื่นมา กลับไปจุดเริ่มต้นวันที่มีลูกเล็กแล้วสามีออกงานมาตกลงกันไว้ว่ายังไง
ชอบคำเม้นนี้ครับมีเหตุผล
เข้าใจมากๆ แม่เราก็เป็น เข้าใจแม่เลย พฤติกรรมต่างๆ ไม่ทำหน้าที่เลยมีแต่มาพึ่งแม่ตลอด ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ขนาดเราเป็นลูกยังต้องเป็นคนชี้โพรงให้เลย สุดท้ายก็กลับมาทำตามที่เราพูด ปล่อยค่ะ ปล่อยวาง
เข้าใจคุณอ้อมนึกถึงแม่เรา จากผู้หญิงเก่งกลายเป็นเจ้านายสำหรับพ่อ เหนื่อยกับการเป็นผู้นำ เหนื่อยกับการคาดหวัง ตอนนี้เป็นอิสระต่อกันแล้วค่ะ เพราะลูกก็โตแล้ว สู้ๆนะคะ
แค่ฟังก็ปวดหัว ดีไม่มีผัวแบบนี้ ฟังแล้วเหมือนมีลูกอีกคน อิเรื่องออกจากงานมาเลี้ยงลูก ก็ถูกแล้วมั้ยที่สามีคุณอ้อมต้องออกมา เพราะคุณอ้อมหาเงินได้มากกว่าหลายเท่า แต่สามีเหมือนไม่เอาไหนเอง ลูกก็ไม่เลี้ยง งานบ้านก็ไม่ทำ หมาก็ไม่ดู เป็นนี่ถ้ามีผัวแบบนี้คือหย่า
สปอยมั้ย?...เรามองว่าสามีตามใจภรรยามากกว่า แต่ในขณะเดียวกันภรรยาก็มองไม่ขาดว่าสามีมีความสามารถอะไร เขาอาจจะไม่มีความเป็นพ่อบ้านตั้งแต่แรกแล้วรึเปล่า? แล้วสายงานเขาได้ลองพิจารณาไกลๆมั้ยว่าออกมาหายไปหลายปีแล้วจะกลับไปทำเหมือนเดิมได้มั้ย ตอนนี้เขาอาจจะเคว้งไม่มีเป้าหมาย แบบชีวิต burn out ไปแล้ว ในขณะที่ภรรยาก็มองว่าฉันทำทุกอย่างเลยนะ สามีสบายทุกอย่างเลย แต่อย่างหนึ่งที่ไม่ควรลืมคือการที่เขาออกมาอยู่บ้านคือเขาไม่มีพาวเวอร์เรื่องเงินแล้ว จะทำอะไรดีไม่ดีต้องผ่านภรรยาหมด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากฟังความสองฝ่ายมากกว่า ส่วนตัวอยากแนะนำสามีไปพบจิตแพทย์ค่ะ เขาอาจจะอาลัยตายอยาก เคว้งคว้างอยู่จนไม่อยากทำอะไรก็ได้
เราคิดว่าตอนคุยใครจะออกมาอยู่บ้าน เงินเดือนผญเยอะกว่า ผญทำงานถูกแล้วค่ะ เพราะมีรายได้ทางเดียวต้องเอาที่มากที่สุด อล้วมีลูกด้วย สามีถึงจะไม่ชอบก็ต้อมยอมรับว่าคุณได้เงินเดือนสองสามหมื่น เลี้ยงครอบครัว3 คน ยากนะคะ
แอบเห็นด้วยกับคอมเม้นนี้ค่ะ
@TheDe Zt เราเลยมองว่าควรไปพบจิตแพทย์ค่ะ เพราะบางโรคคือไม่ทำอะไรเลยจริงๆค่ะ ไม่ได้ขี้เกียจแต่ไม่มีแรงจะทำ ดีไม่ดีแค่จะออกจากเตียงยังยากเลย แล้วการมาอยู่แต่บ้านแบบนี้มันก็มีปัจจัยเพิ่มขึ้นอีก อย่างโควิดคนอยู่แต่บ้านหลายประเทศพบว่าผู้ป่วยจิตเวชเพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะ
เขาไม่กล้าไปทำ เพราะเขาโดนปลูกฝัง หล่อหลอม ว่าเขาไม่สามารถทำได้ เขาไม่มีความสามารถ เพราะเมียพูดแบบนี้มาตลอด เข่นเดียวกับ แม่บ้านทั้งหลาย ที่พอลูกเข้าเรียน ก็ไม่กล้าออกไปทำงาน เพราะคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ เพราะไม่ได้ทำงานมาหลายปั
ขอบคุณคะ ความคิดเห็นนี้ มีความเป็นธรรม เพราะมองทั้งสองฝ่าย ฝ่ายชายก็อาจ ซัฟเฟอริ่ง อยู่ก็ได้ พบแพทย์ก็ดีนะ
คุณ อ้อม เก่ง จัง ครับ เก่ง จริงๆ ชื่นชมครับ
อะไรที่เกี่ยวกับเรื่องลูกที่ทำมาด้วยกันทั้งสองคน ไม่ควรใช้คำว่าเสียสละนะคะ ต้องใช้คำว่ารับผิดชอบร่วมกันค่ะ
เป็นเหมือนคุณอ้อมเลย เหนื่อยมากๆ จนถึงจุดที่ต้องหยุดและหาเหตุผลและควรทำยังไงต่อ ผู้ชายนี่เขามีอีโก้ในตัวในความเป็นผู้นำของครอบครัว ดูเหมือนสามีคุณเขาเคว้งและหาจุดมุ่งหมายในชีวิตไม่มี ทำอะไรก็ไม่ดีเท่าเมีย บางทีมนุษย์เมียต้องแกล้งโง่บ้างค่ะปรึกษาเขาเพื่อให้เขามีจุดยืน การเล่นเกมส์ก็หารายได้ได้ เขาเก่งทางคอมพิวเตอร์ ก็ให้เขาดึงจุดแข็งนี้ออกมาหารายได้และสร้างความมั่นใจให้เขาเอง เป็นกำลังใจให้ค่ะสามีก็สาย IT พยายามซัพพอร์ตเขาอยู่ทางอ้อม
เหมือนกันเลยคะเหนื่อย
มองต่างมุม..คือผช.ยอมออกจากงานที่ตัวเองถนัดและชอบมาเพื่อเลี้ยงลูกนะ..มันเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่เค้าจะทำได้ไม่ดีนัก..ส่วนผญ.ด้วยตำแหน่งที่สูงขึ้นเลยมองว่าตัวเองควรเป็นผู้นำ..จริงๆ คือควรให้ทำงานทั้งคู่นั่นหละ แต่ต้องสลับแบ่งเวลาให้ลูกให้ได้..ถ้าคุณผญ.ทำงานอย่างเดียว แต่ไม่สามารถดูแลลูกได้..ก็ไม่ถือว่าเก่งกว่าผช.นะ และไม่ควรอ้างเรื่องว่าตนเองทำงานด้วย..คนที่น่าเห็นใจในเรื่องนี้คือผช.นะ เค้าอยู่แบบเลื่อนลอย ออกจากสังคมเพื่อนฝูงที่เคยมี ออกงานที่ถนัด แถมโดนลดคุณค่าในตนเองลงไปจากการที่เค้าต้องออกจากงานเผื่อเลี้ยงลูก เพียงเพราะภรรยาเห็นว่างานของตนดีกว่า สำคัญกว่า รายได้เยอะกว่าอีกฝั่ง..พอคิดจะกลับไปทำงานอีกรอบก็สายไปเสียแล้ว.
หากดูจากการตัดสินรสชาติอาหาร เราว่าคุณผู้หญิงเป็นคนติดเพอร์เฟคเกินไป คุณผู้หญิงควรยอมสละมาตรฐานในรสชาติอาหารซักมื้อให้คุณสามีลองทำให้กิน ไม่อร่อยแต่กินได้ก็ยอมกินแล้วบอกรสชาติที่เราชอบว่าชอบเมนูนี้หวานหน่อย เมนูนี้ชอบหวานน้อย อะไรก็ว่าไปแล้วบอกให้เค้าลองทำใหม่ แนะนำ ติชม และให้กำลังใจในการทำอาหารของเค้าไปเรื่อย ๆ อันไหนเค้าทำอร่อยก็ชมเค้าเยอะ ๆ และให้ลองทำเมนูที่ยากขึ้นไป ให้เค้าพัฒนาจากการทำอาหารให้คนในครอบครัวที่เรารัก เค้าจะได้รู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญ มีอะไรทำ มีอะไรที่ต้องปรับปรุงพัฒนา ยกหน้าที่ทำอาหารให้เค้าไปเลย อยากให้เค้าดีขึ้นต้องหมั่นชมเมื่อเห็นเค้าทำดี อะไรที่ขัดใจก็มองผ่านหรือไม่ก็ทำทีเหนื่อยล้าไม่สบายไม่คุยด้วยแค่นั้นพอไม่ต้องเอ่ยด่า การพูดในแง่บวกจะเป็นการสะกดจิตให้เค้าเป็นอย่างที่เราต้องการให้เป็น การที่คุณเอาแต่พูดแต่แง่ลบเค้าจึงแสดงออกเป็นลบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หลายครอบครัวทะเลาะกันเพราะคำพูดทิ่มแทงนี่แหละ
คิดเหมือนกันเลย ดูแลลูก แต่ตอนนี้ลูกคือไม่ทารกแล้ว เรื่องงานบ้านคนเราไม่ได้กวาดบ้านถูกบ้านทุกวัน ซักผ้าก็ไม่ทุกวัน แล้วผญ.ก็จ้างแม่บ้านมาทำให้ ทำอาหารผญ.ก็ทำเองเพราะรสชาติ เพราะผช.ทำไม่อร่อย แถมล้างจานให้อีก จริงๆให้ผช.ทำก็ได้ คือดูแล้วผช.เขาแทบไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากดูลูก เพราะแบบนี้เขาเลยไม่รู้จะทำอะไร มันว่าง งานเมียก็บอกให้ออกไม่ต้องทำ ก็เลี้ยงตามแบบผช.อะ นี้ก็โตพ่อเลี้ยงคนเดียวเหมือนกันนิสัยก็ไม่ได้เรียบร้อย เป็นคนสบายๆ ชิวๆ แล้วเป็นมาหลายปีขนาดนี้ ผช.เขาทิ้งตัว ธรรมชาติผช.น้อยคนจะเห็นโน้นนี้ต้องทำความสะอาด ไม่เหมือนผญ.รกหูรกตาต้องหยิบต้องจับแล้ว มันกลายเป็นความเคยชิน ที่ผ่านมาแล้วคงต้องปล่อยมันไป แต่วันนี้ก็อยากให้เขาล้างจาน หุ้งข้าว ทำอาหาร ซักผ้า ทิ้งขยะ คือบอกไปตรงๆเป็นคำๆ ผช.เขาไม่เข้าใจความซับซ้อน เราฟังเรายังงงเลยว่า ต้องทำอะไรหรอกที่เธอบอกว่าเรางั้นงี้ ก็เธอจัดการได้หมดแล้วเธออยากได้อะไร พอจะทำโน้นทำนี้ดูแล้วผช.ก็ทิ้งตัวกลายเป็นขี้เกียดไปแล้ว หากิจกรรมทำแบบครอบครัวทำร่วมกันให้เขาลุกมาปรับตัวก่อนน่าจะดีกว่า เพราะงั้นก็คงเป็นแบบเดิม
ฟังจากสายแล้ว ผญคนนี้ดูไม่มีความเข้าใจสามีตัวเองเลย หรือยอมอ่อนข้ออ่อนโยนบ้าง คุณวิพากษ์วิจารณ์เค้าจากสิ่งที่คุณเห็น โดยไม่คิดว่าต้นตอของมันคืออะไร คุณไม่ยอมเปิดใจคุยกะเค้าจนคุณระเบิดออกมาอ่ะ จริงๆจะหย่าเลยก็ได้ แต่เราจะสงสารสามีคุณ ที่ต้องสละงานตัวเองมาเลี้ยงลูก แล้วต้องหางานในวัยนี้
คนเราไม่ได้เก่งภายในวันเดียว มาทำครั้งแรกๆอาหารไม่อร่อย คุณก็บอกเค้าว่า ที่รัก วันนี้ที่รักลืมใส่น้ำปลาหรือเปล่า มาๆ เดี๋ยวเค้าสอนให้ เค้าชอบแบบนี้ ไม่ใช่ว่าแบบ เออ ไม่อร่อย ช่างมันกุทำเอง แล้วมะไหร่สามีคุณจะทำเป็น
เป็น case study ที่มีคุณค่ามากนะ เพราะสิ่งดีเจทุกคนคิดว่า ผช.อาจจะ lost ต้องพูดดีๆมองเขาในฐานะสามี ถ้ากลับกันเรื่องนี้เป็น ผญ.คำพูดของดีเจจะเป็นแบบเดิมมั้ยนะ
เข้าใจคุณออมเลย เอาใจช่วยนะคะ นี่ยังก็ยังโสดอยู่เพราะกลัวเจอแบบนี้ คือเราโสดมาตลอด ทำอะไรเอง พึ่งพาตัวเอง ดูแลครอบครัว พ่อแม่น้องๆ คือถ้าอยากมีครอบครัวก็อยากได้คนที่เป็นผู้นำเราบ้าง อยากเป็นผู้ตามบ้าง ไม่จำเป็นต้องนำทุกเรื่อง แต่แชร์ซึ่งกันแหละกัน support ซึ่งกันและกัน คือถ้าจะมีต้องไม่เพิ่มภาระให้เรา เลยแบบคิดหนักเลย กลายเป็นกลัวที่จะเปิดรับใครเข้ามา เมื่อมีคนมาคุยๆ เจออะไรที่ไม่โอเค นิดหน่อยก็ตัดเลย ไม่ไปต่อ
คุณอ้อมก็น่าจะยอมรับว่าคิดผิดที่ให้เขาออกจากงานมาเลี้ยงลูก บางคนเขาไม่ได้ถนัดกับการเลี้ยงลูก ทำงานบ้าน แต่เขาก็ตามใจคุณอ้อม คุณสามีเองก็ผิดที่ไม่สู้ที่จะทำงานที่ตัวเองถนัดต่อไป ถ้าสามีคุณอ้อมยืนยันว่าจะจ้างพี่เลี้ยงต่อตั้งแต่วันนั้น คุณสองคนก็จะไม่เหนื่อยแบบทุกวันนี้ พ่อเราก็เป็นพ่อบ้าน 100% แต่พ่อเราก็ทำทุกอย่าง เพียงแต่มันก็ไม่ได้เนี้ยบ เรียบร้อยเหมือนแม่ทำ อยากให้คุณอ้อมคิดตรงนี้ว่าเขาอยู่บ้านสังคมนอกบ้านของเขามีแค่ในเกม และคุณอ้อม แต่คุณอ้อมไปทำงานนอกบ้านคุณมีสิ่งแวดล้อมอื่นนอกจากบ้าน ความเครียดความกดดันมันต่างกัน
เราก็เป็นค่ะ พี่ต้องอยู่แบบนี้ไปตลอดชีวิตค่ะ เกิดจากพี่มีความเป็นผู้นำสูง ซึ่งโชคดีแล้วที่เค้าเป็นผู้ตามค่ะ แต่โชคร้ายที่เค้าคิดไม่ค่อยได้ เรื่องนี้อยู่ที่สามีว่าจะคิดทำอะไรบ้างมั้ยค่ะ เค้าอาจจะคิดไม่ออก พี่อาจจะต้องสั่งเค้าแบบเจ้านายเลยค่ะ ไม่งั้นเค้าก็ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ทำใจค่ะ เราก็เป็นนะคะ อดทนค่ะ ดีกว่าเจอคนแบบตัวเราเองแล้วเกี่ยงกันมั้งคะ คิดในแง่ดี
ทำไมมีแต่คนว่าผช. ชมผญ.อ่ะ? เรามองว่า ผช.เขาก็ยอมสละอาชีพการงานของตัวเอง เพื่อมาเลี้ยงลูกอ่ะ การจะกลับไปหางานในช่วงที่อายุมากแล้วมันก็ยากไหมอ่ะ พูดเหมือนผช.ผิดอย่างเดียวเลยก็ไม่ได้ป่ะ
จากมุมมองผมนะ ถ้าพี่ ผช ปรับตัวช่วงแรก เช่น ทำงานบ้าน หรือแบ่งเบางานบ้าน ทำอาหาร อะไรพวกนี้ ช่วยแบ่งเบา คุณ ผญ เค้าคงไม่คิดจะให้กลับไปทำงานอีกนะ แต่นี่ที่ผ่านเหมือน คุณ ผช เค้าไม่ปรับตัวนะ เล่นเกมไม่ผิด แต่ดูไม่ค่อยสนใจอย่างอื่นเลยอะ คือ ภรรยาก็ให้เงินเดือนนะ เป็นผมก็จะเกรงใจละ และจะหน้าที่อื่นทดแทนนะ แต่นี่เห็นภรรยาต้องมาทำอาหารหรือล้างจานอยู่เลยนะ คำถามล้างจานนี่คนที่ออกไปทำงานทั้งวันกลับมาควรทำหรอหะ คนอยู่บ้านควรช่วยแบ่งเบามั้ยนะ
@@nt_chalice3321 ผมเห็นด้วยน่ะ ถ้าผู้ชายทำหน้าที่พ่อบ้านได้เต็มที่สมบูรณ์ผู้หญิงก็ไม่บ่นหรอกนี่ไม่ทำเลยเงินเดือนก็ให้ผมเองถ้ามรเมียแล้วผมให้เค้าเป็นแม่บ้านแล้วเค้าทำหน้าที่ได้เต็มที่ไม่ขาดตกบกพร่องผมก็รักและให้เกียรติเค้าอ่ะ ไม่ต้องออกมาบ่นแบบนี้หรอด
เป็นผมก็ด่านะ หมาก็เลี้ยงให้ กับข้าวก็ทำ งานก็ทำ เงินก็ให้ เอ้อ หมาตัวเองอยากเลีเยงด้วยนะ กู้เงินทำบ้านทำสวนให้ก็แล้ว ต้องโดนด่าหน่อยเหอะ
อันนี้เหมือนมีลูกเพิ่มอีกคนจริงๆนะ
ตอนนี้เค้าเป็นพ่อบ้าน แล้วได้เงินเดือนด้วยนะ จริงๆพวกงานบ้านง่ายๆ เค้าควรทำนะ ทำอาหารอาจจะ ทำไม่ได้ แต่ล้างจานช่วยล้างได้นะ กวาดบ้าน ดูแลสุนัข ให้อาหาร พ่อไปวิ่ง ดูแลลูก ทำอาหารไม่เป็น ก็หาซื้อได้ สั่งก็ได้ ลูก เมียยังไม่ได้กินข้าว หิวข้าวมั้ย ให้ไปซื้อให้มั้ย อยากกินอะไร
ฟีลลูกชายคนโตค่ะ ซึ่งสามีหลายคนก็เป็นค่ะแต่เลเวลไม่เท่ากัน คนนี้เป็นเยอะเพราะแม่สปอยหนักพอสมควร สปอยมานาน อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัว เป็นกำลังใจให้นะคะ
คุณอ้อมคือผู้หญิงที่เก่งมาก
ผมกำลังอยู่ในสถานะนี้เลย ตอนนี้ผมกับแฟนอยู่กันคนละจังหวัด แฟนมักจะกดผมตลอดเวลา เพราะเขาเก่งกว่า หน้าที่การงานดีกว่า กำหนดทุกอย่าง ตอนนี้ผม43 ปี รับราชการ และมีแพลนจะเออรี่รีไทร์ เพื่อมาอยู่ด้วยกัน แต่ ถ้าผมต้องออกจากงานเพื่อมาอยู่กับเขาเฉยๆ ผมคงมีสภาพไม่ต่างจากพี่ผู้ชายท่านนี้ - การขีดชีวิตคนอื่น การชี้ทางเดินให้คนอื่น โดยลืมตัวตนของเขาไป นั่นคือคุณไม่ได้ศึกษาทำความเข้าใจกับชีวิตเขาเลยตั้งแต่ต้น บั่นปลายชีวิตของคนที่เขามีทางเดินที่น้อยกว่า ย่อมไม่มีทางเดินต่อไปได้ - ตรงกันข้ามหากพี่ผู้ชายเขาไม่ได้ออกจากงานโดยคุณเลือกที่จะแยกทางกัน มันก็ยังมีโอกาสที่คนทั้งสองจะยังใช้ชีวิตในแบบของตัวเองได้ต่อไป - แต่ถ้ามันเลยเถิดมาขนาดนี้แล้ว คุยกันครับ คุยกับแฟนคุณมากๆ เพราะถ้าเขารักคุณและเข้าใจในตัวคุณเขาจะปรับปรุงตัวเขาเองให้ดีขึ้นอย่างแน่นอน แต่อย่าทิ้งเขาไว้กลางทางเลยครับ เขาจะไปไหนต่อคุณฉลาดน่าจะรู้ดี 😌😌😌✌️✌️✌️😔😔😔
คุณอ้อมคือเก่งมากกกก สตรองมาก โหชื่นชมเลยอะ อภิชาตเมีย
5555
บีบ อัด โยน...รึรับสิ่งนั้นมาทำเองโดยให้อิกฝ่ายรู้สึกด้อยค่า รึไม่ คุยกันทีแบบที่บอก2ชม. สื่อสารกันแบบใด แล้วที่ประจำคุยกันแบบใด การพูดเรื่องที่เกิดปัญหามีท่าที น้ำเสียง รึพูดวน ๆ แบบใด มีข่มด้วยท่าที รึนานเกินไปมั้ย เช่นล้างจาน ทำไม รับมาล้างเอง...รึล้างแล้วมีคราบอยู่ รึสะอาดแล้วเพียงไม่ได้ผ้าเช็ดให้แห้ง มาตรฐานใด บ้าน ๆ รึเนียบ ๆ คัชคริปนี้มีประโยชน์ดีคัช ทั้งคุณอ้อม , ดีเจทุกคน ที่รับฟัง , ตอบได้ถ้อยทีถ้อยอาศัยผมคิดว่าสามีคุณอ้อม ทำได้นะ (ถ้าเค้ายังอยากไปต่อ...)ต้นกล้วย20ต้น ออกหวีออกเครือ มั้ยคัช พท.เหมาะกะ20ต้นมั้ยสนุัข พันธุ์นี้ วิ่งเช้า เย็น รึรอบเดว พันธุ์นี้วิ่งได้ตลอด สุนัขเจอใคร ก้อรีบลุกเพื่อจะได้ออกจากบ้าน จูงไปวิ่ง... ใครเกบสะสม ความคาดหวังสมบูรณ์แบบมาไม่ต่ำกว่า5ปี... โดยที่อาจไม่ถูกจุด ถูกขั้นที่เค้าจะก้าวไปกะคุณอ้อม จากใครรักใครน้อยลง จากเรื่อง ? ในอดีต , ปัจจุบัน เพราะมีช่วงสะสมเรื่องไม่บอก ยอมรับกันจริง ๆ นาน ๆ
เรารู้สึกว่าลดค่า ไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ พอวันหนึ่งอยากให้เขามีอะไรในวัย40 คาดหวัง จะพาไปต่างประเทศ ไม่รู้สิ…..คุณมองเขาว่าเขาเป็นสามีจริงๆไหม บางคำพูดเหมือนมันห่างเหินคำว่าสามีอ่ะ ไม่แปลกที่ผู้หญิงเก่งมักตัวคนเดียว เพราะมันจะมีอีโก้บางอย่างแฝงและเเสดงออกมา
จากที่อ่านคอมเม้นมา เหมือนจะบอกตัวผู้ชายไม่ดี เลิกดีกว่า แต่ลืมมองไปไหมว่าเขาทิ้งอนาคตหน้าที่การงานของเขามาเป็นพ่อบ้านเต็มตัว พอมาวันนึงเขาไม่ได้เก่ง ไม่ได้เป็นแบบที่คิดก็คิดว่าเลิกดีกว่า แล้วตัวผู้ชายจะทำยังไงล่ะ งานก็ไม่มี เงินก็ไม่มี เรื่องนี้ทำเอารู้สึกว่าไม่ควรเอาชีวิตไปพึ่งพาใครเลยแม้กระทั่งสามีภรรยากัน มีใครบ้างล่ะที่ไม่อยากเป็นคนเก่ง เป็นคนที่ประสบความสำเร็จ แต่มันไม่ได้เป็นกันง่ายๆไง
เคำว่าพ่อบ้านเต็มตัวคือเมียไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ แต่อันนี้คือขี้เกียจสุดๆ ปล่อยเวลาไปเปล่า ทำงานบ้านนิดๆหน่อย อาหารลูกก็เมียทำให้ หมาก็เมียเป็นดูแล สรุปพ่อบ้านเต็มตัวยังไงคะ ไม่เห็นทำอะไรจริงๆจังๆได้สักอย่าง
ฟังจบไหมคะ ผช ขี้เกียจงานบ้านไม่ทำ นี่พ่อบ้านหรือภาระ
@@papayasky4456 ฟังจบค่ะ เราไม่ได้อยู่ในครอบครัวเขาจริงๆนะคะ ไม่รู้ทั้งหมด แล้วใน 1 วันภรรยาก็ไม่ได้อยู่บ้านทั้งวัน ใครจะไปรู้ บางทีเขาอาจจะทำตอนที่ภรรยาไปทำงานก็ได้ พอภรรยากลับมาก็ไม่ได้ทำ
ถ้าเข้ามาอา่นคอมเม้นนะคะ การที่ผู้ชายลาออกมาเป็นพ่อบ้านไม่ใช่เรื่องการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ และผู้หญิงลาออกมาเป็นแม่บ้านไม่ได้เป็นหน้าที่นะคะ มันเกิดจากการที่ครอบครัวเขาตกลงกัน ที่จะสื่อคือควรพึ่งพาตนเองค่ะ หาเงินให้ได้ด้วยตัวเองไม่ต้องขอใคร พอเลิกกันไปจะได้มีทางไปต่อ
@@rangeo8524 เขาคงเอื้อมกับพฤติกรรมค่ะ ไม่งั้นไม่โทรมาปรึกษาแบบนี้หรอกค่ะ คู่ชีวิตไม่ควรทำตัวเป็นตัวถ่วงกันหละกันเลย
อาชีพที่เราคิดว่าอาจจะเหมาะกับสามีคุณอ้อม คือ เปิดเซิร์ฟเวอร์เกมให้สามีดูแล อาจจะเป็นคนดูแลระบบแก้บัคอะไรต่างๆ ส่วนฝ่ายบริการลูกค้าอาจจะต้องจ้างคนเพิ่ม หรือไปสมัครเป็นคนดูระบบให้เซิร์ฟเวอร์คนอื่นก็ได้ คิดว่าน่าจะเข้ากับเขาและทำได้ดี
คือโทษสามีอย่างเดียวไม่ได้ ทีนี้สามีอาจจะต้องมีแรงบันดาลใจหรือเปล่า คือแต่งงานแล้ว คุณต้องรู้อยู่แล้วว่าเวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน แต่เราก็จะเรียนรู้ไปด้วยกัน วันนี้คุณภรรยาดีทุกอย่าง เงินดี ความสามารถดี สังคมดี วันนี้คุณรู้สึกอย่างไงคะ? มองเขาด้อยค่าลงไหม... จะทิ้งเขาไหม... คุณรักกันหรือเปล่าคะ หรืออยู่กันเพราะหน้าที่... ความรักมันมีได้ก็หมดได้ต้องหมั่นเติม.. ไม่ต้องเขาเติมก็ได้ค่ะเราเติมให้เขาก่อนก็ได้... หรือคุณคิดว่าเงินที่คุณจ้างเขาเลี้ยงลูกคือความรัก?.. เราเป็นคนนอกไม่รู้หรอกค่ะว่าบ้านคุณรายละเอียดเป็นอย่างไง แต่ก็เป็นกำลังใจให้ค่ะ
เพราะหาเงินได้เพราะเค้าไม่หาเงินได้เลยไม่มีค่ารึเปล่าเนอะ
เราเข้าใจคุณอ้อมมากๆเลยอ่ะ แต่ตอนที่เค้าลาออกมาก็ถือว่าเค้าเสียสละอยู่เหมือนกัน ชอบความคิดเห็นของหอมค่ะ
ขออนุญาตออกความเห็นนะคะ ในฐานะคนมีครอบครัวเหมือนกันก่อนอื่นต้องบอกว่าคุณอ้อมเป็นผู้หญิงที่เก่งมากจริง ๆ ที่สามารถดูแล และซัพพอร์ตครอบครัวได้ครบขนาดนี้ เรื่องคุณอ้อมกับสามี เราอยากแนะนำว่า อยากให้คุณอ้อมลดความคาดหวังในตัวสามี และให้คุยกันให้เคลียร์ในทุก ๆ เรื่อง เพราะทั้ง 2 เรื่องที่คุณอ้อมเล่ามา คือเรื่องที่ทำสวน กับเรื่องน้องหมา เหมือนคุณอ้อมให้แล้วสามีต้องมีรับผิดชอบสิ ซึ่งเขาไม่ได้มีความสามารถในการรับผิดชอบขนาดนั้น หรืออาจจะเป็นเพราะสามีคุณอ้อมมีความคิดที่จะทำ แต่ไม่ได้อยากจะทำแบบจริงจัง และไม่มีการคุยรายละเอียดในการที่จะทำหรือเปล่าส่วนเรื่องเล่นเกม ถ้าไม่ด่าไม่ดีขึ้นเลย แบบนี่ไม่โอเคค่ะ เพราะด่าทอมันเป็นการระบายอารมณ์ บอกว่าเขาผิด พอเขารู้สึกผิด ณ ตอนนั้นเขาเลยทำตัวดีขึ้น แต่สุดท้ายเขาก็จะกลับไปทำแบบเดิมเพราะเขาคิดว่าเขาได้แก้ไขไปแล้ว ขอยกตัวอย่างของครอบครัวเรานะคะ ผู้ชายไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น (อันนี้เป็นประโยคที่สามีเราพูดเอง) มีอะไรให้บอกนะ เพราะบางทีเขาคิดเองไม่ได้ว่าเรารู้สึกหรือคิดอะไร เราก็มีปัญหาเรื่องเล่นเกมของสามีเหมือนกันค่ะ เราไม่ชอบเพราะทุกครั้งที่เขาเล่นเกม เหมือนเขาจะลืมทุกสิ่งรอบตัวไปเลยแม้กระทั้งลูก เราก็ใช้วิธีคุยค่ะหาจุดกลางระหว่างกัน เขาไม่สามารถเลิกเล่นเกมได้ งั้นขอเป็นทุกครั้งถ้าเราเห็นว่าเขาเล่นมากไปเราจะเรียก หรือบอกเขาว่าให้หยุดเล่นก่อน มาช่วยกันหน่อย หรือช่วยดูลูกหน่อย ซึ่งเขาก็ทำให้ทันที เพราะเราตกลงกันแล้ว และบรรยากาศในบ้านก็ดีขึ้น อยากแนะนำว่าคุยกันเยอะ ๆ ค่ะ ทุกครั้งที่รู้สึกว่ามีปัญหา หรือแค่รู้สึกไม่ดีก็คุยได้แล้วนะคะ อยากปล่อยให้สะสมจนกลายเป็นอารมณ์ และทุกครั้งที่คุยต้องหาข้อสรุปให้ได้ และจงยอมรับและทำตามข้อตกลง เช่น อย่างเรื่องไปต่างประเทศ หากคุยกันแล้วก็ให้เขาแพลนเลยค่ะ ว่าสามารถทำงานอะไรได้บ้าง และจะทำอย่างไร ประมาณนี้ค่ะสุดท้ายนี้ถ้าคุณอ้อมได้อ่านก็ขอให้ชีวิตครอบครัวของคุณอ้อมมีความสุขตลอดไปนะคะ
ส่วนตัวนะคะเราเจอแบบนี้อยู่เราเข้าใจหัวอกคุณอ้อมมากๆเลยค่ะ จริงๆในใจแค่อยากให้เขาช่วยหยิบจับอะไรบ้าง เราทำได้ไม่ใช่เราไม่เหนื่อยเราเหนื่อย แต่ถ้าคุณอ้อมไม่ทำก็ไม่มีใครทำ บางครั้งการช่วยเล็กๆน้อยๆ มันทำให้คนที่เหนื่อยสะสมมากๆอยู่แล้วบรรเทาได้ค่ะ แค่มีเจตนาจะช่วยก็พอ แต่การนิ่งเฉยของคุณสามีอาจจะทำให้คุณอ้อมทนไม่ไหว ส่วนของคุณสามีคุณอ้อมเขาอาจจะไม่ได้นึกถึงความเหนื่อยสะสมในมุมของคุณอ้อม เลยทำให้เขาคิดว่าการที่คุณอ้อมทำอะไรแบบนี้เองคุณอ้อมโอเคที่จะทำ ทางออกที่ดีที่สุดของเรื่องนี้คือการจับเข่าคุยกันกับคุณสามีค่ะ ทำให้คุณสามีรู้ตัวได้แล้วค่ะ สู้ๆนะคะคุณอ้อม
บังคับให้ออกเขาออกจากงานมาดูแลลูก แต่คาดหวังให้เขาประสบความสำเร็จในเรื่องงาน เป็นตรรกะที่งง และย้อนแย้งดีค่ะ 😂😂😂
เพราะเงินเดือนไม่พัฒนาไปไหนหรือเปล่า จากคลิปเต็มที่เมียเขาว่าแรกเริ่มเงินเดือนเมียน้อยกว่า จนเมียมาเป็นผู้บริหารแล้วผัวยังเงินเดือนหลักไม่กี่หมื่นอยู่เลย ผัวเลยต้องออกมาเลี้ยงลูก
จริงงง
คิดเหมือนกัน
ใช่เลย
ความคิดเห็นต่อไปนี้อาจมีเนื้อหาที่หดหู่ส่งผลกระทบทางจิตใจ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ............นั่งฟังสายนี้แล้วรู้สึกหดหู่ในใจเลยอ่ะ เหมือนการแต่งงานมีลูกต้องทิ้งทั้งความฝันความหวังที่ทำมาทั้งชีวิต ที่เรียนมาทั้งชีวิต โยนหายไปแล้วมานั่งเลี้ยงเด็กคนนึงแทนเลยอ่ะ ถึงจะบอกว่าพ่อแม่ต้องเสียสละก็เถอะ แต่แบบ มันชวนให้หมดอาลัยตายอยากแปลกๆ แค่ฟังแล้วก็แบบ รู้สึกหมดแพชชั่นในการใช้ชีวิตแล้วอ่ะ เข้าใจเลยว่านอกจากเลี้ยงลูกแล้วก็ทำอะไรต่อไม่ออกเลยอ่ะ มันหมดไฟทั้งชีวิตไปแล้วอ่ะ ถ้าต้องอยู่แบบนั้นถึง5ปี-10ปี แค่คิดว่าจะกลับไปทำงานก็ชวนให้รู้สึกแพ้คนอื่นๆไปหมดจนทำอะไรไม่ออกแล้วอ่ะ ไหนเวลาจะทำอะไรแล้วพอไม่ได้ดั่งใจหน่อยก็โดนแย่งทำ ทำอะไรก็แย่ทำอะไรก็กาก ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ทำอะไรก็โดนบ่นโดนกดทับอยู่ตลอดอีก ใจมันแพ้ ใจมันไม่ชวนให้สู้แล้วอ่ะ หดหู่จนแบบ แค่นั่งฟังก็ชวนให้ดิ่งได้วันๆได้แค่เลี้ยงลูกนั่งมองเด็กค่อยๆโตไปจากเรา แล้วก็ กิน นอน ชีวิตหมดแพชชั่น หมดทุกอย่าง หมดไฟ หมดอาลัยตาอยาก แบบ...เราเคยอยู่กับคนที่คล้ายๆคุณเจ้าของเรื่องมาก่อน เขาเก่งทุกอย่าง อาจไม่เท่าคุณ แต่ก็เก่งจนเรารู้สึกพ่ายแพ้ในทุกๆทางจนไม่อยากทำอะไรอีกต่อไป พอไม่มีไฟมันยิ่งทำให้ทำอะไรก็ไม่เคยได้ดีเลยสักอย่าง สมองมันชา มันคิดอะไรไม่ออก มันไม่อยากจะคิดอะไรอีกต่อไปแล้ว แค่มีเขาอยู่เราก็ยอมแพ้แล้วแม้แต่การใช้ชีวิตของตัวเอง เราเลือกที่จะเลิกคิด เลิกฝัน เลิกหวัง แล้วรอฟังคำสั่งอย่างเดียว ปรากฏว่าอะไรรู้มั้ย เราโดนด่าว่าทำไมไม่หัดทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง ทำไมไม่คิดเองบ้าง ทำอะไรไม่เคยได้ดีสักอย่าง เราแบบ มันเป็นวินาทีที่เรารู้สึกอยากตายขึ้นมาอย่างแท้จริง อยากหายไปให้มันรู้แล้วรู้รอด ทั้งชีวิตมันดำมืดสนิทไม่เคยทำห่าอะไรได้ดีเลยสักอย่าง ล้มเหลว แย่ มีแต่ถ้อยคำทับทมกดทับเราให้จมดิ่งลงไป แม้แต่คนที่เรารักที่สุดในชีวิตยังด่าเราขนาดนี้ ชีวิตมันไม่เหลืออะไรให้สิ้นหวังมากกว่านี้อีกแล้ว ภายใต้ใบหน้าของเราที่เอาแต่ยิ้มในทุกๆวัน ก็เป็นเราที่เฝ้าฝันให้การตายมาถึงในทุกๆวันเช่นกัน อยากหลับแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยจนสุดท้ายแล้วเราถึงขั้นเข้าICU และต้องเข้ารับการบำบัดกับจิตรแพทย์อย่างจริงจัง พบว่าเราเป็นสภาวะโรคซึมเศร้าซ่อนเร้น อีกทั้งยังมีอาการเครียดสะสมไม่รู้ตัว มันเกิดจากความสัมพันธ์ที่เป็นพิษอันยาวนานมากๆของเราทำให้มันกลายเป็นอาการทางจิต เพราะทั้งชีวิต20กว่าปีเราถูกล้างสมองให้แพ้ไปเรียบร้อยแล้ว พอเราอยู่ห่างเขา ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองเราถึงเริ่มกลับมายืนเองได้ กลับมาสู้ได้ กลับมามีชีวิตเองได้อีกครั้ง เราไม่รู้ว่าสามีของคุณจะเป็นแบบนี้มั้ย แต่อยากบอกเลยว่าการที่อยู่ใกล้คนที่ทำอะไรเก่งไปทุกด้านแล้วเราในตอนนั้นไม่เหลืออะไรดีเลยสักอย่างมันสามารถลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ในตัวเราได้จริงๆนะ แบบ สภาพจิตใจมันจะทำลายตัวเองไปโดยอัตโนมัติเพราะขาดสิ่งเหนี่ยวรั้งทางจิตใจในทุกๆทาง ไม่ใช่แค่ผู้ชายนะ ในผู้หญิงหลายๆคนที่เป็นแม่บ้านนานๆก็เหมือนกัน บางคนถึงขั้นถูกทุบตีทำร้ายร่างกายจนปางตายยังคิดว่าตัวเองไม่สามารถลุกขึ้นมายืนด้วยตัวเองได้เลยก็มี ยอมตายไม่ยอมหย่าเพราะคิดว่าตัวเองแก่เกินกว่าจะไปเริ่มใหม่ทำงานอะไรได้ ทุกสิ่งทุกอย่างในภาวะรอบตัวมันลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้ค่อยๆหายไป หายไป ในทุกช่วงขณะจิต จนสุดท้ายแล้วมันก็หล่อหลอมอออกมากลายเป็นเราในเวอร์ชั่นไม่เหลืออะไรเลยในชีวิตจริงๆ กลายเป็นเราที่พ่ายแพ้ต่อโลกทั้งใบ หวาดหวั่นต่อสังคมที่ต้องเผชิญ และสุดท้ายหลายคนก็เลือกที่จะตายไป ให้มันจบลง
เป็นกำลังใจให้นะคะ ทุกคนมีข้อดีของตัวเองค่ะ
ขอบคุณที่มาแชร์ความเห็นมากๆเลยนะคะ ทำให้เข้าใจมุมมองคนอื่นในชีวิตตัวเราเองได้ดีมากขึ้นหลายระดับเลย เป็นกำลังใจให้คุณหาทางที่ใช่ของตัวเองจนเจอนะคะ 🤍🤍🌟
คนทุกคนควรยืนด้วยตัวเอง มีงานทำเอง ชีวิตคู่ควรเดินไปด้วยกัน แชร์มุมมองและความรู้สึกพอ ซัพเพอร์ซึ่งกันและกัน ไม่มีใครเป็นเจ้าของชีวิตซึ่งกันและกัน เคารพในการตัดสินใจซึ่งกันและกันคุณเก่งมากๆ ที่ยังกลับมายืนได้อีกครั้ง และการพบจิตแพทย์มันเป็นทางเลือกที่ดีมากๆ จริงๆ
ผมฟังเรื่องคุณแล้วค่อนข้างเศร้า ....ลองกลับกันดูครับ ถ้าสามีเป็นผู้บริหารแล้วคุณเป็นแม่บ้าน คุณว่าสามีจะด้อยค่าคุณไหมจะขอหย่าคุณไหมสงสารสามีคุณจัง เขาไม่ใช่ผู้ชายที่โชคดีมีภรรยาเก่งหลอกครับ เขาคงมีความสามารถของเขาแหละครับผมเชื่อว่าทุกคนมีความสามารถ คุณอย่าเอาไอที มาปลูกข้าวแข่งกับ ชาวนาเลยครับ ความชอบความถนัดมันคนละทางกัน ปล.ไม่ได้ดูถูกอาชีพ อย่าดราม่ากันนะครับ แค่ชี้ให้เห็นความสามารถของแต่ละคนสุดท้ายเป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้เจอทางออกที่ดีครับ ปรึกษากัน รับฟัง กัน ช่วยกันคิด รักษาครอบครัวให้ดีครับ ขอให้มีความสุข หาเวลาพาลูกไปเที่ยวบ้างนะครับ ทะเล น้ำตก สวนสนุก สวนน้ำไปทำหน้าที่ครอบครัวครับ ให้ลูกได้มีความทรงจำที่ดี
ถึง คุณอ้อม.. ครอบครัวเราเคยมีสถานการณ์ใกล้เคียงกัน สามีทำงานหาเงินนอกบ้าน แต่แค่ไม่เก่งเท่าเรา เฉื่ยชา ขี้เกียจ เรายังหงุดหงิดมากเลย เราเลยบังคับให้เค้าย้ายมาต่างประเทศ เพราะถ้าอยู่ไทย เราคงประคับประคองไปต่อไม่ได้ เพราะเราไม่ภูมิใจในตัวสามี พอย้ายมาต่างประเทศ เราไม่ยอมทำงาน เราให้เค้าเลี้ยงเลย ใครจะพูดนินทาเราว่าไม่ยอมทำงาน เราไม่สน เพราะคนที่เมืองนอกไม่มีใครรู้ว่าเรื่องราวในครอบครัวเราเป็นไง ไม่ได้รู้จักพื้นเพเรา ผลคือ.. มันป็นเป็นจุดเปลี่ยน เค้าเลี้ยงเราได้ เค้าทำงานคนเดียว เราซื้อบ้านได้ในเวลาแค่ 2 ปี หลังจากย้ายมา โดยมีเรา support เงินดาวน์ให้แล้วเค้าผ่อน เค้าภูมิใจที่ให้เงินเราใช้ทุกเดือน เราก็นั่งกินนอนกินสบายๆ ตอนนี้ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะรู้สึกดูถูกเค้าได้อีก เมื่อทุกอย่างเข้าที่แล้ว เรากำลังจะออกไปหางานทำเพื่อหารายได้เพิ่ม และต่อไปนี้ถ้าเรายังคงทำงานแล้วแซงหน้าเค้าไปอีก ก็ให้นึกถึงวันที่เค้าเลี้ยงเรา จะได้รู้สึกว่าเค้าก็น่านับถือ เค้าก็ดูแลเราได้ เค้าก็ดีแค่ไหน แต่ศักยภาพคนเราอาจไม่เท่ากันเป็นกำลังใจให้คุณอ้อมนะคะ คนที่ไม่เคยเจอเรื่องแบบเดียวกัน บางทีเค้าก็ไม่เข้าใจมุมของเราหรอก เรารู้ว่าคุณอ้อมเหนื่อยทั้งกายและใจ แต่ก็ยังรักสามีคนนี้เกินกว่าจะทิ้งเค้าไป จึงอยากทำทุกทางให้เราเดินไปพร้อมๆกันได้
เข้าใจค่ะปัญหาเดียวกันแต่งมา13ปี หย่าเมื่อปีที่แล้วสบายใจและกายมากๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ
ผมอายุ 32 ฟังแล้วยังโมโหแทนเลยวัย 40 กว่ามันไม่ใช่เวลามานั่งเล่นเกมแล้ว มันไร้สาระ แค่หมายังไม่มีปัญญาเลี้ยงแล้วลูกจะขนาดไหนเป็นเสาหลักให้บ้านไม่ได้ก็ควร supportเมียเรื่องงานบ้านเลี้ยงลูกก็ยังดี เป็นกูได้เมียดีขนาดนี้ ทำเกษตรรวยไปนานแล้ว
แต่สตรีมเมอร์เล่นเกมแล้วได้ตังนะคะ แต่จากในสายสามีคุณอ้อม ถ้าเป็นคนธรรมดาๆนอกจากจะเล่นแล้วไม่ได้ตัง คงเสียเงินไปกับการเติมเกมมากกว่าล่ะมั้งคะ
เค้าหมายถึงเคสนี้ค่ะ ที่ว่าเล่นไร้สาระ ถ้า สตรีมเมอร มีรายได้ดีอันนั้นอีกเรื่อง ค่ะ
มาประเด็นสตรีมเมอร์อะไรกันเนี่ยนี่หมายถึงเคสที่สามีนั่งเล่นเกมไม่ดูแลลูกไม่ทำงานบ้านมันเกี่ยวอะไรกับสตรีมเมอร์เนี่ย 🤣นี่พูดถึงความรับผิดชอบของคนเป็นสามีสตรีมเมอร์อาไร คอมก็มีเพิ่งถอยการ์ดจอใหม่ rtx3080 3090 ไม่ไหวแพงเกิน ซื้อเกมใน steam หมดเป็นหมื่นแล้วนี่ก็เป็นคนเล่นเกมเหมือนกันเล่นมาตั้งแต่ยุคเครื่อง hatari แล้ว ตั้งแต่ยุคบุกเบิกแต่เล่นเพื่อความสนุกผ่อนคลายหลังเลิกงานเล่นทีไม่เกิน 2 ชั่วโมงเพราะต้องไปทำอย่างอื่นต่อไม่มีเวลาว่างมานั่งเล่นทั้งวันหรอก เพราะช่วงนี้ขันบิ๊กไบค์ออกทริป ต้องเคลียร์งานและแบ่งเวลา ก็นั่นแหละนะคนเราคิดไม่เหมือนกัน ไม่ว่ากันครับ🙂 แล้วถ้าได้ออกไปดูอะไรกับตาของตัวเองมันฟินกว่าดูในจอคอมเยอะครับ
@@user-nc7sj6lg3c เคสนี้ไม่ได่เงินไง เราต้องยอมรับว่า ไม่ใช่ทุกคนจะได้เงินจาการเล่นเกม เราจะอ้างสตรีมเมอไม่ได้นะ ต้องดูเป็รเคสๆไป เอาจิงๆเล่นได่มั้ย ได้นะ ไม่ผิด แต่วัย 40 ควรแบ่งเวลานะ ถ้าวัยนั้นควรเล่นวันละ 1-2 ก็ได้ยุ และแบ่งให้ลูกเมียด้วยอะ
ขอแสดงความเห็นยาวหน่อย เข้าใจคุณอ้อมมากๆ เพราะอยู่ในสถานการณ์และมีประสบการณ์คล้ายๆกันมา 20 ปีแล้ว คือเราเป็นคนทำงานหารายได้ ส่วนสามีเป็น homemaker เพราะโอกาสของเรามากกว่า เราใช้ชีวิตคู่อยู่ต่างประเทศตั้งแต่ไปเรียนต่อหลังแต่งงานจนตอนนี้ลูกเข้ามหาลัยแล้ว ขอบอกว่าต้องปรับตัวกันเยอะมาก และคิดว่าที่อยู่กันมาได้เป็นครอบครัวแบบนี้เพราะอยู่ตปท คือสังคมเปิดกว้างยอมรับ stay at home dad มากกว่าสังคมไทยสมัยก่อน และ support ที่สำคัญมากๆคือครอบครัวเรา เพราะพ่อแม่จะสอนและเตือนสติเสมอว่าต้องให้เกียรติสามี การที่คนใดคนนึงออกจากงานมาเลี้ยงลูกนับว่าเป็นการเสียสละเพื่อให้ความรักและดูแลลูกซึ่งดีกว่าคนอื่น แม้สามีจะไม่ได้ทำงานแต่ก็ถือว่าเค้ามีรายได้หรือประหยัดรายจ่ายค่าจ้างคนดูแลลูก ถึงแม้เด็กจะไปรร.แล้วก็ตาม ก็ยังต้องมีกิจกรรมคอยรับส่ง สอนการบ้าน อื่นๆอีกมากมาย คำสอนของพ่อแม่คอยเตือนสติเราเวลาหงุดหงิดสามี สังคมไทยที่ผ่านมาปลูกฝังว่าผู้ชายต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว เลี้ยงลูกเมีย เลยกลายเป็นความคาดหวังที่ขัดแย้งในใจโดยเฉพาะเวลาทำงานเหนื่อยกลับบ้านแล้วเห็นสามีนั่งเล่นเกมส์ มันก็จะมีความหงุดหงิดและรู้สึกว่ามันไม่แฟร์ ฟังแล้วคุณอ้อมเป็นคนตั้งใจทำงาน และมีหัวก้าวหน้า ก็จะไม่ชอบคนที่มองเห็นว่าใช้ชีวิตไปวันๆไม่มีความอุตสาหะพยายาม ขอให้ข้อคิดว่าต้องมองว่าข้อดีของสามีคืออะไร เราเปลี่ยนเค้าไม่ได้ การไปตปทไม่ใช่การแก้ปัญหา อาจจะเพิ่มปัญหาอีก ทั้งการปรับตัว การเรียนหนัก การต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองไม่มีญาติพี่น้องช่วยเหลือได้ ถ้าจ้างคนก็แพง ไปอยู่ตปทจะเป็นบทพิสูจน์ว่าคุณสองคนรักกันมากพอที่จะปรับตัวเพื่ออีกฝ่ายแค่ไหน สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรามาต่อจนทุกวันนี้ได้คือเวลาให้ฟีดแบค สามีจะรับฟัง และปรับเปลี่ยน อาจจะไม่ได้ตลอดแต่ถ้าเราปล่อยวางบ้างมันจะเจอกันตรงกลาง คือเค้าปรับขึ้นและเราลดความคาดหวังลง ก็จะมีความสุข อีกอย่างคือเวลาเราหงุดหงิดสามีเรื่องการไม่ทำงานหรืออื่นๆ เราจะถามตัวเองว่าถ้าเราสลับบทบาทหน้าที่กัน สามีจะหงุดหงิดกับสิ่งที่เราทำมั้ย คำตอบส่วนใหญ่คือไม่ ทำให้เรารู้ว่าความคาดหวังของเรา hurt เราเองขอแนะนำว่าอย่าตั้งความหวังสูงว่าการไปตปท.จะแก้ปัญหาทำให้สามีมีโอกาสงานมากขึ้นเพราะอาจจะมี hurdle อื่นเข้ามา (ภาษา ความมั่นใจที่ลดลงเนื่องจากไม่ได้อยู่ใน job market มาพักนึง หรือ marketability ในสถานการณ์นี้) ค่อยๆปรับกันไป เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้เป็นครอบครัวที่อบอุ่นและแข็งแรง
แค่รู้สึกผิดหวังและเหนื่อย ทำมาทั้งหมดเพื่ออะไร แบบนี้เรียกภาระชัดๆ อยากทำแต่จับจด ยิ่งฟังยิ่งอยากร้องไห้
ฟังแล้วไม่เหมือนมีสามี เหมือนมีลูกชายคนโตที่โดนสปอยมาตลอด พอโดนด่าก็ดีขึ้นมาหน่อยนึง แต่ยังไงสุดท้ายแม่ก็โอ๋อยู่ดี
สั้นๆ..ถามใจตัวเองดูว่ายังรักเขาอยู่รึป่าว..เขามีข้อดีตรงไหน..ถ้าได่ตำตอบแล้ว..ว่ายังรักเขาอยุ่ เขายังมีข้อดี..รีบไปปรึกษาจิตแพทย์ เกี่ยวกับปัญหาครอบครัวเพื่อหาทางออกด่วนเลย จับทางให้ถูกเพื่อหาทาวแก้ไข.ถ้ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เลิกเถอะค่ะ..เสียเวลาชีวิตเสียสุขภาพจิตทั้งเราและลูก แถมลูกโตมาจะสับสนว่าใครเปนหัวหน้าครอบครัวกันแน่ ถ้าไม่ได้รับคำอธิบายที่ดีพอ..สู้ๆค่ะ
คนเป็นแม่บ้านแบบเรา ฟังแล้วก็แอบจิตตกงะ อำนาจเงินอยู่ในมือสามี เราไม่รู้เลยว่าอะไรบ้างที่เราถูกใจหรือไม่ถูกใจเขา บางครั้งบางมุมเราตั้งใจทำเขากลับมองไม่เห็น แต่เขาดันอยากเห็นตอนที่เราไม่ได้ทำ กะนะ ใครถือเงินคนนั้นมีอำนาจจริงๆ หังแล้วแอบจิตตก
ฟังความข้างเดียว มันก็ยากที่จะแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด…
ภรรยาเป็นผู้บริหาร เลยบริหารจัดการสามีแต่ไม่ได้ดั่งใจ ส่วนหนึ่งของปัญหาคือเรา เพราะเราป็นคนเลือกต้องยอมรับก่อน ใจเย็นๆแล้วคุยกันลูกยังเด็ก
มีเพื่อนที่เลือกผู้ชายที่ไม่มีความเป็นผู้นำเหตุผลคือจะได้เอาผู้ชายให้อยู่ในโอวาท เเต่พอเจอปัญหาในชีวิตที่ผู้หญิงต้องออกจากงาน เเล้วอยากให้ผู้ชายเป็นผู้นำเเต่เขาทำไม่ได้ก็มานั่งเสียใจ ก่อนเลือกเขามาก็รู้อยู่เเล้วว่าเขาเป็นคนยังไง อยู่มาเป็นสิบปีอยากให้เขาเปลี่ยน มันจะเปลี่ยนได้ไหม
อย่าทำอะไรแทนเขาหมดเลยครับ พึ่งพาความสามารถเขาบ้าง อย่าทำเหมือนเขาเป็นคนง่อย เก่งทุกเรื่องบางทีก็ไม่ดี บางอย่างเราอาจทำได้แต่แกล้งทำไม่ได้บ้างก็ได้ พึ่งพากันและกัน คนละครึ่ง เท่าที่ฟังมาสามีคุณอ้อมยังดีที่เขายังรับฟังทุกอย่าง บ้างบ้านพูดทีก็ตีกันบ้านแตกแล้ว คุณอ้อมเก่งมากๆครับ สู้ๆครับ
คุณอ้อมไม่ผิดที่หงุดหงิดค่ะ เราเข้าใจคุณอ้อมนะ ถ้าคุณอ้อมกับสามีรู้จักตัวเองมากขึ้น จะเข้าใจว่าปัญหาต่างๆเกิดจากอะไร อยากให้ลองศึกษานพลักษณ์ (enneagram) ดู จะทำให้เราเข้าใจตัวเองและผู้อื่นมากขึ้น เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกันเลย แล้วลดความเป็นตัวเองลงคนละนิด ปรับตัวเข้าหากันเพิ่มอีกหน่อย สู้ๆนะคะ ทุกปัญหามีทางออก 🤍
ฟังมาทั้งหมด ไม่ได้ยินชีวิตของสามีเลย ไม่เห็นเลยว่า เค้ามีชีวิต ทุกอย่างคือต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของคุณอ้อม จากคำว่าไม่ชอบ ไม่ได้ ไม่เป็นแบบที่อ้อมคิดไว้ ไม่ได้ดั่งใจ สรุปมีสามีมาเป็นคู่ชีวิต หรือ เป็นลูกน้อง แนะนำว่า คืนชีวิตให้เค้าบ้างไหม บางทีเค้าก็รู้สึกไร้ค่า แต่ไม่อยากขัดเมีย เพราะเค้ารักมาก ไม่อยากทำให้ภรรยาเสียใจ ครับ บางทีก็อยากได้ฟังความจริงจากปากสามีบ้างเหมือนกัน
สตอรี่เหมือนพี่ชายเรามากๆๆๆๆ สามีทำงานไอที ภรรยาเป็นผู้บริหาร ยังแอบคิดว่าพี่สะใภ้โทรมาเล่าปะเนี่ย 😆😄 จะบอกว่าคนนิสัยแบบนี้ ต่อให้ไม่ได้ออกมาเลี้ยงลูก เค้าก็ไม่เลิกเล่นเกมส์และไม่เลิกทำตัวเอื่อยเฉื่อยหรอกค่ะ จะเป็นแบบนี้ไปจนแก่ คุณต้องทบทวนแล้วว่าจะอยู่กันไปแบบนี้ได้จริงๆเหรอ นิสัยต่างกันเกินไป คนนึงเดินหน้าหาแต่ความก้าวหน้า แต่อีกคนหายใจทิ้งไปวันๆ ชีวิตคู่ไม่น่ารอด พี่ชายเราก็หย่าหลายปีแล้ว ปัจจุบันเงินเดือนก็ยังอยู่ที่ 2 หมื่นกว่าๆ ส่วนพี่สะใภ้กระโดดไปหลายแสนละ 😂🤣
เรื่องเล่นเกม ถ้าทำงานด้วยก็ไม่อะไรนี่ แต่ให้เขาออกจากงานมา แล้วเขาทำงานบ้านไม่ถูกใจทำไม่มากพอ ทำกับข้าวไม่ได้ ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ได้ละเอียดอ่อนขนาดนั้น สุดท้ายไล่เขาไปหางาน 😔
เคสนี้ผมเห็นต่างจากดีเจครับ คุณอ้อมไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ส่วนตัวผมชอบผู้หญิงเก่งครับ มันทำให้ผมรู้สึกอยากจะพัฒนาตัวเองไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง อย่างน้อยก็ทำให้ดีในด้านที่จะลดภาระของคุณอ้อมได้ ฟังมาจนจบ แฟนคุณอ้อมไม่คิดจะพัฒนาตัวเองเลยอะไรที่พอจะลดภาระให้คุณอ้อมได้ก็ไม่ได้ทำให้ดีหรือบดภาระของคุณอ้อม อย่างน้อยๆงานบ้านต้องดีแล้วครับ นี่งานบ้านก็ไม่ค่อยเอาอะไรก็ไม่ค่อยได้ตามที่ควรจะเป็น แฟนคุณอ้อมต้องพัฒนาตัวเองด้วยครับ คุณอ้อมทำหน้าที่รับผิดชอบการเงินแล้ว แฟนคุณอ้อมเป็นพ่อบ้านก็ต้องทำหน้าที่พ่อบ้านให้ดีด้วยครับ
จริงๆ อยู่ที่สามีนะคะ หลายคนเป็นพ่อบ้าน ไม่จำเป็นจะต้องอยู่เฉยๆ หาอะไรทำก็ยังได้ แต่อันนี้คือเป็นพ่อบ้าน มีเงินเดือน แต่คุณอ้อมก็ยังทำหน้าที่ภายในบ้าน คุณสามีพอคิดจะทำอะไร เรื่องบ้านก็ไม่ทำอย่างที่พูด ดูแล้วคุณอ้อมไม้ได้หวังอะไรมากเลย ขอแค่ให้ลุกขึ้นมาทำอะไรบ้าง อย่างจะไปทำสวน คุณอ้อมสนับสนุนเต็มที่ ไม่มีการด้อยค่าคุณสามีเลยอย่างที่บางคอมเม้นบอก นี่คิดว่าคุณอ้อมน่าจะเหนื่อยมาก ขอให้ปรับกันให้ลงตัว เพราะว่าทั้งคู่น่าจะเข้ากันได้ดีด้วย เพียงแค่คุณสามีต้องปรังปรุงค่ะ ส่วนคุณอ้อม อยากให้พักบ้าง เหนื่อยแทนเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ❤️❤️
ครอบครัวไหน ใครหาเงินได้มากกว่า มักจะคิดแบบนี้ ตอนรักกัน ทนได้ แต่พอนานเข้า กลายเป็นข้อเสียซะงั้น
การที่ผู้ชายเสียสละออกมาเป็นพ่อบ้าน หลายคนดูไม่เห็นด้วยกับคุณอ้อม บอกทำไมตัวเองไม่มาทำ ปกติคนที่มีศักยภาพหาเงินได้มากกว่าก็ต้องทำงานอะถูกแล้ว เงินเดือนก็ให้ ขออะไรก็สนับสนุนทุกอย่าง ทำความสะอาดบ้านก็มีแม่บ้าน อาหารล้างจานคุณอ้อมก็ทำ สวนก็ซื้อแต่ไม่ทำ ทำแค่หน้าที่เลี้ยงลูก ขนาดการทำหน้าที่พ่อเราไม่อยากตัดสินนะแต่ให้เด็กดูไอแพดแล้วตัวเองเล่นเกม นี่เกินไป คนไทยบางคนเลิกคิดว่าผู้หญิงทุกคนต้องออกจากงานมาเลี้ยงลูกเถอะ นี่รู้สึกเขาหวังดีแหละอยากให้สามีตัวเองมีแพชชั่นทำงาน แต่ระยะเวลาที่อยู่บ้านเลี้ยงลูกก็นาน สามีคุณอ้อมควรพบจิตแพทย์จริงๆ
เราเทียบคุณอ้อมเหมือนเจ้าของบริษัทต้องการนำพาบริษัทไปถึงจุดสูงสุด ส่วนคุณสามีเหมือนพนักงานบริษัททำงานรอรับเงินเดือนตอนสิ้นเดือน จุดมุ่งหมายของคุณสองคนไม่ตรงกัน ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ความศรัทราต่อกันน่าจะไม่เหลือ ถ้ายังอยากอยู่ด้วยกันโดยที่คุณไม่เหนื่อยจนเกินไปคงต้องลดความคาดหวังลง เสาร์อาทิตย์หากิจกรรมที่ให้เค้าเป็นผู้นำบ้างค่อยๆปรับไปค่ะ
งงที่มีคนว่าผญว่าบังคับผช แบบให้ลาออกมาเลี้ยงลูกไง แต่เลี้ยงก็ไม่ดี งานบ้านก็ไม่ค่อยทำ ผญเนี่ยตามใจมากเลยนะ อยากทำอะไรก็ตามใจหมด ออกตังให้ทุกอย่สง ขนาดงานยังจะช่วยหาอ่ะ คือผชเอื่อยเกินไป เลี้ยงหมาก็ไม่เลี้ยง ทำสวนก็ปล่อย จานยังไม่ล้าง เค้าทำหน้าที่ของตัวเองไม่ดีอ่ะ แล้วผญยังสปอยด้วย ผชเลยเคยตัวอย่าไปเมืองนอกเลยค่ะ ไปก็ไม่รู้ว่าผชจะทำงานจริงไหม ลองหาอะไรให้ผชทำที่บ้านดูค่ะ เช่นเขียนบทความ สอนเด็ก ขายของ หรืออะไรก็ได้ที่จัดการเวลาเองได้
เสียสละมาดูลูกให้เรา ? อ่าว ละไม่ใช่ลูกเขาเหรอ ?? พูดเหมือนหน้าที่เลี้ยงลูกต้องเป็นของผญ พอผชมาทำกลายเป็นเสียสละ โห ฟังละขัดใจ
ตีความผิดนะคะ ที่เค้าว่าเสียสละในที่นี้คือหมายถึงเสียสละอนาคตหน้าที่การงานค่ะ เพราะการออกจากงานอายุ35เหมือนต้องทำใจแล้วว่าชีวิตการงานคงจบแล้วค่ะ คุณลองนึกภาพว่าชีวิตของคุณมันไม่มีอนาคตที่คุณจะประสบความสำเร็จในสายอาชีพได้อีกแล้ว มันก็ดูหดหู่อยู่นะคะ ถึงแม้ว่าจะเป็นการออกมาเลี้ยงลูกของเรา แต่ก็คือการเสียสละนะคะ เพราะไม่งั้นเค้าก็เอาลูกไปฝากคนอื่นเลี้ยงก็ได้ แต่เค้าไม่ทำเพราะพ่อแม่ย่อมเลี้ยงได้ดีที่สุด
เราก็เป็นคนนึงคล้ายคุณอ้อม และแฟนเราก็เป็นแบบสามีคุณอ้อมเลยค่ะ เราสปอยแฟนจนเค้าเอาแต่ใจ ไม่มีวามเป็นผู้นำ อยู่กันมาสิบกว่าปีชีวิตยิ่งแย่ลงไม่มีอะไรมีแต่หนี้สิน ล่าสุดปีที่แล้วไปนอกใจไปมีผู้หญิงใหม่ถึง 5 เดือน ไปกันไม่รอดกลับมาขอโทษขอโอกาสเราอีก เราก็ให้โอกาสค่ะ มีปีนี้ปีที่ 11 นิสัยเค้าเหมือนเดิมทุกอย่างไม่กระตือรือร้น ขี้เกียจ สกปรก ตอนนี้เริ่มไม่ไหวแล้วค่ะ รู้สึกสงสารตัวเอง ทำไมไม่ให้โอกาสตัวเองได้เจอชีวิตที่มันดีกว่านี้ ฟางเส้นสุดท้ายแล้วค่ะรอบนี้
ควรถามกันอ่ะอยากทำงานไรเอาเเบบเด็ดขาดเเล้วอีกอย่างฉันไม่คิดว่าผู้หญิงผิดนะต่อให้ผชเลี้ยงลูกถ้าคิดจะต้องมีงานมีการต่อให้สองปีเลี้ยงลูกเขาก็จะกลับมาทำงานค่ะเเต่เขาสบายเกินไป แล้วดูเขาจะติดเกมด้วยและเราว่าคุณมองสามีไม่ขาด ถามตรงๆเลยค่ะชีวิตนี้ต้องมีเป้าหมายและต้องทำงานอะไรคุณอยากทำอะไรเมืองนอกที่จะไปคือการเริ่มต้นใหม่ค่ะ คุยกันให้หมดเลยค่ะเรื่องที่คาใจ ความฝันของสามีการงานที่อยากทำ
อย่างแรกนะคะ ขอชื่นชมคุณอ้อม ฟังแล้วดูคุณอ้อมเป็นคนเปิดใจรับฟังมาก…เข้าใจเลยค่ะ ด้วยความที่เป็นคนเก่ง ใส่ใจคนรอบข้างและพร้อมเสียสละจึงทำสิ่งต่างๆมากไปจนเค้าเคยชินที่ได้รับ บางครั้งเหมือนยื่นมือไปช่วยโดยที่เค้าไม่ได้ร้องขอ จึงทำให้เค้าไม่ได้รู้สึกขอบคุณเราบ้าง ใส่ใจบ้าง ยากนะคะที่เค้าจะเปลี่ยน ถ้าเค้าเป็นคนที่คุยรู้เรื่องก็แนะนำให้คุยกันก่อนไปต่างประเทศค่ะ แต่ถ้าตรงข้ามก็จะเหนื่อยหน่อยช่วงที่อยู่ต่างประเทศ แต่ก็เป็นกำลังใจให้นะคะ ยังไงการที่มีเรซูเม่ที่ดี แถมได้ภาษาก็หายห่วงค่ะ การใช้ชีวิตใหม่ๆอาจทำให้เค้าดีขึ้นก็ได้ค่ะ✌️✌️
คุณอ้อมคือคนเก่งแบบเก่งมากๆ อ่ะ สามีคุณอ้อมอาจจะรู้สึกกดดันด้วยรึเปล่า เพราะเหมือนตามไม่ทัน แต่เรื่องนี้อาจจะคุยกันได้ หักล้างกันได้ เพราะคุณอ้อมสปอยทุกอย่างที่อยากทำ แต่คนที่ขี้เกียจและทำให้มันพังคือสามีเอง ตอนแรกที่ฟังว่าเป็นพ่อบ้าน เราก็คิดว่าเค้าทำงานบ้านด้วย แต่สุดท้ายคือจ้างแม่บ้านมา เอาตรงๆ เหมือนแค่ลาออกมาเลี้ยงลูกช่วงนึง แล้วพอลูกไปแล้วจะทำอะไรอ่ะ คุณอ้อมไม่ได้ผิดนะคะ แค่คุณอ้อมเก่งแบบเป็นผู้หญิงเก่งมากๆ และมีวินัย แบบแผนมากๆ แต่คุณสามีไม่พยายามเติมเต็มตรงนี้ หรือช่วยซัพพอร์ตได้เลย ถ้าเราเป็นคุณอ้อม เราอาจจะไม่บังคับสามีให้ทำงาน ถ้าเขาสามารถซัพพอร์ตเราได้ เป็นกำลังใจเราได้บ้าง รับผิดชอบทุกอย่างที่เราไม่ได้ทำแทน ก็น่าจะอยู่ด้วยกันได้ แลัไม่หนักใจเท่านี้
ชีวิตคู่ ตัดสินใจร่วมกัน รับผิดชอบร่วมกันค่ะคุณคือภรรยา คุณไม่ใช่แม่ของเขา คุณไม่ใช่เจ้านายของเขา และใช่ในทางเดียวกัน สามีคุณไม่ใช่ลูกของคุณ ไม่ใช่ลูกน้องของคุณ คุณต้องให้เกียรติสามีคุณมากกว่านี้
เข้าใจความรู้สึกนี้ดีค่ะ
คนรู้จักเราเป็นแบบคุณอ้อมเลย พอสามีทำอะไรไม่ได้ดั่งใจเค้าก็จะมำเองหมดจนผู้ชายไม่ทำไรเลย ส่วนเค้าก็แบกทุกอย่างจนเหนื่อย อย่างนึงเกิดจากพอผู้ชายเห็นว่าภรรยาตัวเองเอาไปทำเองหมดก็ไม่ได้ตระหนักออกจะสบายตัวด้วยซ้ำ สุดท้ายภรรยาเลยดิ้นรนหางานที่เหมาะกับสามีลงทุนให้ทุกอย่างควบคุมจนเริ่มอยู่ตัวก็เริ่มทำข้อตกลงกับสามีว่าสามีต้องรับผิดชอบอะไรบ้างเช่น ภรรยาจ่าย1,2,3 สามีรับผิดชอบ 4,5,6ก็เลยดีขึ้น แต่ไม่เห็นด้วยกับพิธีกรที่บอกว่าเขา”อุตส่าห์”ออกมาเลี้ยงลูก ในเมื่อลูกคือตั้งใจทำด้วยกัน คุณทำงานนอกบ้านไม่ดีเท่าอีกคนคุณก็ต้องยอมรับและปรับตัวแหละ
ฟังพิธีกรแล้วอยากจะกรี๊ดด โอ้ยยยยย
สามีเราก็เล่นเกมส์เหมือนกันค่ะ มากแค่ไหน คือทำงานกลับมาบ้านก็ เล่นเลย คืองานบ้านทุกอย่างเป็นของเราคนเดียวคะ เราก็ทำงานบริษัท เหมือนกัน ไม่ได้เป็นแม่บ้านอย่างเดียวคะ ถ้าวันไหนเหนื่อยมากๆก้ซื้อข้าวกินข้างนอก แต่ดีที่เค้ายังทำงาน ประจำ ผิดที่คุณอ้อมให้เค้าออกงานมาเลี้ยงลูกเองคะ พอออกมาก็หมดไฟทำงานแล้วคะ นั่นคือคุณต้องรับผิดชอบในตัวสามีนะ แนะนำให้เปิดกิจการเล็กๆให้สามีทำ เช่นร้ายขายของชำ สามารถ เล่นเกมส์ไป ดูร้านไปได้ เรื่องเล่นเกมส์เราไม่เคยว่าสามีคะ แถมลงไปเล่นด้วย ทำให้มีเรื่องคุยกันมากขึ้น ถึงมันจะดูไร้สาระ แต่ความสัมพันธ์ มันดีต่อใจ
เลิกกับแฟนคนแรกที่คบกว่าสิบปีเพราะสาเหตุเดียวกันเลย อยากมีสามีอยากมีคู่คิดไม่ได้อยากมาลูกเพิ่ม ถ้ายังรักกันอยู่ต้องพูดให้เด็ดขาด ตกลงกันให้ดีว่าหน้าที่แต่ละคนควรเป็นยังไงและทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ถ้ามีไอเดียว่าในอนาคตจะบินกลับมาหย่าที่ไทย ให้หย่าก่อนไปเลยค่ะ ถ้าเค้าไปถึงเมืองนอกแล้วเค้าไม่มีทางบินกลับมาหย่ากับคุณง่ายๆ แน่ แล้วจะพากันพินาศไปหมด
อยากบอกคุณอ้อมว่าการถือวีซ่านักเรียนในยุโรปทำงานได้ชั่วโมงจำกัดมากๆ (เนเธอร์แลนด์ได้ 20 ชั่วโมงต่อวีค) แล้วการที่พ่วงสามีไปด้วย สามีก็จะได้ชั่วโมงทำงานเท่าๆคุณเพราะพ่วงวีนักเรียนของคุณมา ดังนั้นก็ต้องหางานประจำ แต่ถ้าจะหางานประจำ ก็ต้องหาแบบที่ได้วีซ่าอยู่ต่อด้วย ตรงนี้อาจจะยากทั้งคุณและสามี เพราะไม่ง่ายที่นายจ้างจะสปอนเซอร์วีซ่าให้เราด้วย มันมีข้อจำกัดเช่นงานต้องเป็นงานสกิลสูง แล้วยังพ่วงลูกมาอีก เพื่อนเราก็พ่วงแฟนมาด้วยตอนเรียน แฟนก็ไม่ได้ทำอะไรเพราะมันทำอะไรไม่ได้เลย หางานไม่ได้เพราะวีซ่าตัวเองมีค่าเท่าวีซ่านักเรียน ชั่วโมงจำกัด นายจ้างก็ไม่อยากขอwork permit ให้ ควรศึกษาเรื่องงานและวีซ่าให้มากๆก่อนไปค่ค่ะ ที่นี่ไม่ใช่ว่ามาแล้วหางานทำได้เลย เราเป็นคนนอกอียู ข้อจำกัดเยอะมากๆ อย่าคิดมาหาเอาดาบหน้าเด็ดขาด ไม่งั้นจะเสียเงินไปเฉยๆเพราะมาแล้วไม่ได้อย่างที่คิด ความอยากทำงานมีมากแค่ไหน แต่งานจะไม่มีนี่สิเพราะถือวีซ่านักเรียน
คุณอ้อมคะ วินาทีที่ดีเจถามว่า ได้พูดประโยค อะเดียวฉันทำเองมั้ย พอคุณอ้อมบอกพูด คือเราปลดล็อคเลยอะ ไม่มีใครทำได้เพอร์เฟค ไม่มีใครทำได้ถูกใจ เเต่เราต้องให้เค้าทำค่ะ ไม่งั้นคนที่เหนื่อยจะเป็นเรา เราเคยเป็นเเบบนั้นตอนเรียน เวลาทำงานกลุ่ม เราวาดสวย เราทำเรียบร้อย เราทำเก่ง เเต่มีเพื่อนที่ไม่ได้เรื่อง เราก็บอกไม่ต้อง เราทำเอง สุดท้ายมันเหนื่อยมาก พอเสร็จมันพอใจก็จริง เเต่ระหว่างทางมันเหนื่อยมาก เเต่มันเป็นทางที่เราเลือกเอง
ความคิดเห็นส่วนตัว พี่เติ้ลบอกว่า คุณอ้อมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สามีกลายเป็นคนนิสัยแบบนี้ เราคิดว่า ไม่ใช่ความผิดคุณอ้อมที่บอกว่าเป็นต้นตอปัญหา แต่แค่พยายามหาวิธีทางออกให้ดีที่สุดสำหรับครอบครัวมากกว่า จากที่ฟัง เพราะสามีไม่สามารถวางแผนจัดการปัญหาครอบครัวได้ และคิดว่ามันเป็นนิสัยฝังรากของ ผช มากกว่า คุณอ้อมไม่ใช่อยากสปอย แต่เขาพยายามซับพอร์ตสามี แค่สามีได้มีช่วงจังหวะที่คุณอ้อมให้ออกจากงานมาเลี้ยงลูก กลายเป็นคนรักสบาย เล่นเกมได้อย่างอิสระและรับผิดชอบน้อยแบบนี้ได้อย่างสมบูรณ์ แทนที่จะใช้เวลาว่างส่วนใหญ่เป็นพ่อบ้านที่ดี ดูแลบ้าน ดูแลลูก ซับพอร์ตภรรยา แต่กลายเป็นภรรยาที่ทำงานนอกบ้านแล้วยังมาดูแลภาพรวมความเรียบร้อยในบ้านและซับพอร์ตสามีอีกทีหนึ่งปล.ชอบการแนะนำพี่หอม ชัดเจน ตรงจุด ตรงประเด็น เห็นภาพ
จะให้ "คน" เปลี่ยนสันดาน มาเป็นแบบที่ตัวเองต้องการทุกอย่าง อาศัยว่าหาเงินได้เยอะกว่า ต้องว่าตามฉันสิ ชัดเจนมาก(แต่มีความคิดเรื่องความเท่าเทียมนะ) สงสารสามีจังถ้าเลือกได้ เขาคงอยากลำบากกว่านี้สักนิดนึง ได้ดิ้นรนแบบที่ตัวเองอยากทำ ได้พักผ่อน ได้เป็นตัวเองบ้าง นอกลู่นิดหน่อยก็ฝืนข่มใจกลับมาเข้าทาง คงจะมีความสุขกว่านี้มาก ทำเต็มที่ทำดีให้ตาย ก็ไม่ถูกใจ แถมเอามาด่าออกรายการ เป็นฉัน ไม่ไหวหรอก
ขอบคุณสายนี้มากๆค่ะ
คุณหอมมองได้ขาดและแนะนำได้อย่างชาญฉลาดมากเลยค่ะ สุดยอดมากคะ👍👍👍
ฟังไปสักพัก แล้วพิธีกรตรงกลางถามขึ้นมา คือโป๊ะเชะมากกก เป็นผญที่ไม่ได้ให้ความเชื่อมั่นในสามี ตัวเองเป็นผู้บริหาร ก็เลยคิดเองเออเองหมด เอาตรงๆ ไม่แค่ผช.หรอกผญ.ก็มี ถ้าคู่ของเรา ไม่ได้ให้เกียรติอะไร ไม่ได้ให้ความเชื่อมั่น ไม่ได้ให้ความสำคัญ เขาจะค่อยๆถอยออกมา แล้วก็จะไม่ทำ เพราะเช่นแค่ทำกับข้าวไม่อร่อย แล้วก็แบบว่าฉันทำเองเธอไม่ต้อง คุณค่ะ ให้เขาฝึกก็ได้ ไม่มีใครดีเลิศตั้งแต่เกิดหรอก ที่บ้านสามีเราก็ไม่ได้ทำอาหารอร่อยตั้งแต่แรก แต่นี้คือก็ชม ก็บอกกลางๆ ไม่ได้บอกว่าไม่ต้องฉันทำเอง ไปๆมาๆ เขาก็ทำจนอร่อย เวลาเราไม่สบาย เขาก็ซัพพอร์ทลูกแทนเราได้ ไปส่งได้ พาไปทานข้าว คือต้องปล่อยบ้างค่ะ สามีนะคะ ไม่ใช่ลูกอีกคน
เคสนี้เรารู้สึกว่า ผู้หญิงเองเป็นคนเก่งมากจริงๆ แต่จะมีความติดเป็นเพอร์เฟคชั่นนิสนิดหน่อยค่ะ ทุกอย่างต้องเป๊ะ ชีวิตเลยจะยืดหยุ่นหน่อย แต่ก็ด้วยเหตุผลที่ต้องรับผิดชอบเหมือนเป็นเสาหลักครอบครัว ไหนจะเครียดงานด้วย มันเลยจะเหนื่อยมากกว่าปกติ อยากให้ลองหาเวลาพักผ่อนกันดูสักวัน 2 วัน นะคะ พักร่างกาย พักสมอง แล้วลองหาเวลาคุยกัน ปรับความเข้าใจทัศนคติกัน ส่วนสามีอาจไม่ใช่คนเก่ง พอไม่ทำงานเลยก็เหมือนไม่รู้จักตัวเองหลังจากนั้น รู้สึกด้อยค่าตัวเองตลอดเพราะทำอะไรก็ดูขัดใจภรรยา เช่น เรื่องอาหาร ลองให้โอกาสเขาได้ทำนะคะ แล้วเราพูดชมเป็นกำลังใจ + พูดเสริมให้เขาค่อยๆพัฒนาได้ค่ะ พอเราไม่ให้โอกาส ไม่มีกำลังใจ + กับสามีที่ก็ไม่ได้รู้สึกภูมิใจตัวเอง มันเลยเกิดการไม่ทำดีกว่าเกิดขึ้น เพราะกลัวว่าทำไปแล้วไม่พอใจอีก ปรับให้เป็นตรงกลาง จะดีนะคะ คิดซะว่า วันหนึ่งถ้าไม่มีพ่อหรือแม่ หรือใครสักคน ลูกเรายังจะอยู่ได้ค่ะ
เกือบได้เป็นคุณอ้อม2แล้ว ดีแล้วค่ะพี่เลิกกับแฟนเก่าไปได้ ผู้ชายนอกใจด้วยนะคะ เรานี้แบบเศร้ามาก ละไปง้อจนไม่มีค่าเลย กว่าจะผ่านมาได้ แต่พอผ่านมาแล้วจะรู้ว่ามันดีมากๆเลยค่ะ ดีกว่าที่เราจะต้องมานำเค้าทุกเรื่อง คอยเป็นคนเริ่มในทุกๆอย่าง ต้องจัดแจงแม้กระทั่งเรื่องส่วนตัวให้ ออกมาค่ะแล้วชีวิตจะปังมาก
สิ่งที่ได้จากเรื่องนี้คือเรื่อง งาน อายุ 40+หางานยากหลายๆบริษัทไม่เลือกรับคนที่อายุเกิน 30+ อย่างหนึ่งที่อยากคนในประเทศไทยเปลี่ยนมุมมองนี้ใหม่ มองที่ความสามารถศักยภาพของตัวบุคคลมากกว่าเรื่องอายุ ไม่แปลกใจทำไมคนรุ่นใหม่ถึงอยากย้ายประเทศ
จริงๆงานของพี่ผู้ชายก็เหมาะสมกันความสามารถและเพดานความสามารถของเขานะครับ ตำแหน่งจะเลื่อนขึ้นไปกว่านี้ก็คงต้องมีแผนกใหม่ที่ต้องการความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ของเขา ผู้บริหารด้านIT support คงไม่มีตำแหน่งนี้ง่ายๆหรอกเต็มแค่ก็แค่ผู้จัดการ เขาชอบด้านนี้เพราะเขาชอบเกมและเก่งในเกม ทำให้เขามั่นใจที่จะเล่นและอยู่กับมัน พี่ผู้หญิงดึงเขาออกจากที่ ที่เขามีงานมีเงินและเล่นเกมไปด้วยได้ ทำให้เขาหมดคุณค่า ควรเลือกให้เขาทำที่เขาชอบครับ ทางเล่นเกมหาเงินรายได้ก็ไม่น้อยนะครับเก่งระดับนั้นพี่ผู้ชายน่าจะทำได้ คนติดเกมไม่ทำอย่างอื่นให้เหนื่อยหรอกครับแค่เขานั่งในห้องเย็นๆเขาก็หาเงินได้นี่เป็นเหตุผลที่ทำสวนไม่ไปถึงไหน ยิ่งผู้หญิงเก่งมากๆแบบนี้และไม่เข้าใจเรื่องเกมเลย เข้ากิลเข้าตี้ก็ไม่เข้าใจ แปลว่าความคิดของพี่ผู้หญิงจะฉีกไปคนละทางกับพี่ผู้ชายไปมาก เรียกว่าเข้ากันไม่ได้ครับ ยอมรับเถอะครับว่าสามีติดเกมและมีอีกโลกที่ยอมรับความเก่งของเขา คนพวกนี้มีอีกสังคมอยู่เขาจึงไม่ได้แคร์สิ่งภายนอก ผมก็เด็กติดเกมครับ คุณพี่ผู้หญิงเก่งมากๆ เข้าใจอะไรหลายอย่างมาก เข้าใจทุกอย่างแต่คุณเข้าใจสามีคุณน้อยไป
คนเป็นเมีย อ่านประโยคที่ว่า พี่ผู้หญิงดึงเขาออกจากที่ เอิ่มม ถ้ามันรู้สึกขนาดนี้ก็อย่าอยู่ด้วยกันเลย จงอยู่ในที่ของตัวเองต่อไป อย่าได้มีเมียมีครอบครัวเลย จะได้ไม่รู้สึกว่าใครมาดึงตัวเองออกจากที่อ่ะ ทั้งๆที่ความจริงคือคุยกันตกลงกันแล้วว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายยอมเพราะเหตุผลปัจจัยอะไรต่างๆ แต่สรุปคือยอมออกมาเอง พอสุดท้ายมาใช้คำว่า ถูกดึงออกมาจากที่(ของตัวเอง) เหมือนโยนความผิดให้อีกฝ่ายเลยอ่ะ มันไม่แฟร์นะคิดแบบนี้
@@n2knikkies พี่ผู้ชายเขายอมออกงานนี่ครับเพราะพี่ผู้หญิงทำงานได้ดีกว่า แต่พี่ผู้หญิงมีปัญหากับการที่สามีอยู่บ้านทั้งๆที่ตกลงกันแล้วไม่ใช่หรอครับว่าใครจะทำและใครจะดูลูก จริงๆ2คนตกลงกันคุยกันให้จบก็จบละครับเมียพูดกับเราทำไมจะไม่รับฟัง พี่ผู้หญิงตั้งหลักจะมาเล่าให้คนอื่นฟังว่าสามีเป็นยังไงคุณไม่คิดว่าฟังความข้างเดียวแล้วตัดสินหรอกครับ บางทีพี่ผู้ชายอาจจะคุยแล้วจบก็ได้การศึกษาเขาก็ดี ทำไม่สามีภรรยาไม่คุยกันแต่ปรึกษาคนนอก ผมถึงบอกว่าเขาไม่เข้าใจกันหรือเข้ากันไม่ได้มากกว่า “คำว่าดึงเขาออกมา”มาจากคนนอกอย่างผมที่บอกเพราะเป็นมุมมองของบุคคลที่3ครับ ถ้าผัวเมียคุยกันทั้งการศึกษาและวุฒิภาวะคงไม่มีคำพูดที่ไม่ดีหรอกครับ
ยังไงสะผู้หญิงก็ต้องการดูแล การเป็นผู้นำ การปกป้องคุ้มครองจากผู้ชาย ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย เราเป็นคนหนึ่งที่เลิกกับสามีด้วยเหตุผลที่เราไม่เคารพนับถือในตัวเค้าแล้ว ความผิดก็มาจากตัวเราด้วย เราดูแลทุกเรื่องในบ้านเป็นส่วนใหญ่ ทั้งหารายได้ เลี้ยงลูก งานบ้านช่วยกันทำ เวลาในครอบครัวเรามีปัญหาเราจะรีบจัดการทุกอย่างเองสามีเราเค้าไม่ต้องคิดหรือดิ้นรนอะไรทั้งสิ้น จนนานวันเข้าเรารู้สักว่าสามีเราเป็นเหมือนลูกเราคนหนึ่ง
ชีวิตเมืองนอก พิสูจน์รักมาหลายคู่แล้วค่ะคุณอ้อม เราจะเห็นเลยค่ะว่า เขาเป็น คนรัก หรือ เขาคือ ตัวภาระ เอาใจช่วยให้ตาเห็นความจริงนะคะ
ประสบการณ์สอนว่า อย่าให้ใครมีอำนาจถือครองเงินไว้คนเดียว
บอกแฟนคุณ ทำคลิปยูทูป เล่นเกมส์ เลยค่ะ หารายได้เพิ่ม อย่างพี่ยูทูปเปอร์บางคน อายุ 40 ปีแล้ว แฟนคลับเยอะมาก..จะได้มีรายได้ มีสังคม เล่นแบบไม่เปิดหน้าก้อได้..สู้ๆ ค่ะ
ตัวคุณสามีตอนนี้อาจไม่เหลือความรู้สึกที่ว่า ตัวเองมีคุณค่า เหลืออยู่เลยก็เป็นได้ แตกต่างกันมากนะครับ การหาเงินได้ด้วยตัวเอง กับเมียให้เงินเดือน จำนวนเงินเท่ากันแต่ความรู้สึกคนละเรื่อง อาจมีคนคิดว่า จะคิดมากทำไม ในเมื่อเป็นครอบครัวเดียวกัน ใครเก่งด้านไหนก็ควรทำด้านนั้นต้องอย่าลืมว่าสังคมไทยหล่อหลอมผู้ชายให้ต้องเข้มแข็ง แข็งแกร่ง แพ้ไม่เป็น อ่อนแอไม่ได้นะครับ ผู้ชายต้องเป็นช้างเท้าหน้า ต้องดูแลครอบครัว ต้องมั่นคง เอาแค่สมัยนี้ ผู้หญิงพูดว่า ไม่มีใครอยากกัดก้อนเกลือกินกันแล้ว ก็ไม่แปลก แต่ถ้าผู้ชายพูดประโยคเดียวกัน ผู้ชายคือ looser ทันที หาเงินได้น้อยอย่าริไปจีบหญิง ไม่มีความเป็นผู้นำอย่าริไปจีบหญิง ไม่ฉลาดไม่รู้จักวางแผนอนาคตอย่าริไปจีบหญิง สังคมหล่อหลอมให้ผู้ชายผูกติดคุณค่าของตัวเองไว้กับสิ่งเหล่านี้ เมื่อมันหายไป ก็รู้สึกว่าคุณค่าของตัวเองหายไปด้วย ตัวเองกลายเป็นคนไม่มีคุณค่าเสียแล้ว ยิ่งพอจะกลับไปทำงานประจำก็ไม่มีใครรับเพราะอายุเป็นเหตุด้วยยิ่งไปกันใหญ่ พฤติกรรมเค้าเลยกลายเป็นแบบนี้ ไร้ความรับผิดชอบ ขี้เกียจ ติดเกม ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน การเล่นเกมของเค้าอาจเป็นเซฟโซนสุดท้ายก็ได้ อันนี้ผมไม่ฟันธงแล้วกัน ไม่รุ้ว่าก่อนคบกันหรือคบกันใหม่ ๆ เค้าเป็นคนแบบนี้รึเปล่า ผมว่าไม่ เพราะถ้าเป็นคุณอ้อมไม่เอาทำสามีตั้งแต่แรกอยู่แล้วซึ่งถ้ามันไปต่อไม่ไหวก็คงต้องเลิก คิด ๆ ดูปัญหาเดียวที่อาจเกิดช่วงแรก ๆ คือคุณอ้อมต้องไปหัดขับรถ ส่วนลูกตอนนี้อายุ 7 ขวบ ผมไม่ทราบว่าต้องจ้างคนดูแลรึเปล่า ถ้าต้องจ้างคงไม่ต่างจากตอนนี้เท่าไหร่ แค่ย้ายเงินจากที่ให้สามีมาจ้างคนดูแลลูก แต่อาจได้สุขภาพจิตที่ดีกลับคืนมามั้ง
คุณอ้อมเป็นคนที่เก่งมาก
ชีวิตเราคล้ายๆคุณอ้อมเลยค่ะ แต่สุดท้ายเราเลือกที่จะลาออกจากงานด้วยเหมือนกัน เพื่อจะได้ซัพพอร์ทซึ่งกันและกันได้อย่างเต็มที่ (เราออกมาค้าขายค่ะ) ซึ่งรายได้ก็ดีค่ะ
เอาจริงเหมือนเลี้ยงผัวเป็นลูกอ่ะ ทำให้ทุกอย่าง ผัวอายุ40แล้วอ่ะ ความรับผิดชอบตัวเองยังไม่มี จะรับผิดชอบลูกเมียยังไง ชื่นชมคุณอ้อมค่ะ เก่งมาก
สั้นๆค่ะ หาคนมาเลี้ยงลูกจะได้ไม่ต้องมานั่งทะเลาะกัน ส่วนสามีหาธุรกิจส่วนตัวให้เค้าทำ *ถามเค้าก่อนว่าชอบอะไรอยากทำอะไร เวลาที่เหลือพากันไปเที่ยว รีแลค ชีวิตไป
ทำไมไม่จ้างพี่เลี้ยง ให้สามีออกจากงานทำไม รายได้ก็ดี พอมาวันนี้ สามีไม่ได้ทำงาน กลับอยากเลิก แล้วผู้ชายอายุขนาดนี้แล้ว เค้าจะไปทำงานอะไรอ่ะ งานไม่ใช่ว่าจะหากันง่ายๆ นึกถึงความต้องการของคุณในวันนั้นสิ่ ถ้าไม่ให้สามีออกจากในวันนั้น วันนี้อาจจะเป็นวันที่ดีอยู่ก็ได้
ผมว่าในความคิดคุณอ้อม เค้าอยากให้ สามีดูแลลูก และ บ้านนะครับเหมือนพ่อบ้าน แต่เท่าที่ฟัง เหมือนสุดท้ายตัวคุณอ้อมก็ต้องทำหน้าที่ พ่อบ้านทั้งหมด ก็เหนื่อย 2 เท่านะ
ดูแลยังไงก็ขี้เกียจ จะทำงานก็ไม่ก้าวหน้าหรอกคนแบบนี้ เดี๋ยวก็อ้อนเมียขอลาออกอยู่ดี
เข้าใจเลยค่ะ เหนื่อยใจ
รู้สึกเเบบนี้เลย รู้จักกันมามากกว่าครึ่งชีวิต แต่งงานมา 7 ปี ลูกสองคน เรารู้สึกเป็นผู้นำครอบครับด้วยที่เราอายุมากกว่าผช. เราประสบการณ์เยอะกว่า เงินเดือนเยอะกว่าเค้า เเต่เรารักเค้า ไม่นอกใจ ไม่ตบไม่ตี ไม่มีเมามาย มองข้อดี ที่เหลือก็ปรับๆไป ชีวิตคู่แต่ละคนไม่เหมือนกัน ขอให้หาทางออกที่ดีได้นะคะ
มันผิดตั้งแต่ให้สามีออกจากงานแล้วครับอาการแบบนี้ไม่ใช่ติดสบาย แต่เค้าเรียกว่าอดสูจนซึมเศร้า (ซึ่งอาการนี้มีแค่ผู้ชายเท่านั้นที่จะมีความรู้สึกนี้อยู่อย่างแท้จริง และเข้าใจจริง 100%) การกระทำและการตัดสินใจทุกอย่างของคุณคือการขยี้ปมเรื่องความเป็นช้างเท้าหน้าของเค้าให้ตกนรกทั้งเป็นไปเรื่อยๆ ครับ แค่นั้นเลย ยิ่งเค้ามาเห็นคลิปนี้ หรืออ่านคอมเม้นในคลิปนี้ เค้าอาจจะไม่อยากอยู่บนโลกนี้ต่อก็เป็นได้ ขอให้โชคดีกับอีโก้ตัวเองครับ
คุณนี่ดูถูกสามีมาก.เขาเสียสละมากๆนะแค่พักผ่อนเล่นเกมส์ก็ปล่อยไปเถอะ.คนข้างกายยังดูถูกเขาอ่ะแทนที่จะให้กำลังใจ
มันไม่ใช่เรื่องเสียสละ มันคือ ความ ที่ รู้จัก พัฒนาตัวเอง ถึงคุณอ้อมเค้าจะออกมาเลี้นงลูกแต่คิดว่าเค้าจะหาทำระหว่างเลี้ยงลูกเพื่อดูแลครอบครัว แน่ๆๆ เ
ขอเตือนเลย เรากับสามีเคยไปอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วยกัน เราทำงานบริษัท สามีพูดญี่ปุ่นไม่ได้เลย งานหายากมากกกกกก กอไก่ล้านตัว จนสามีเราแทบเสียสติ เศร้ามาก เพ้อแต่เรื่องหางานจนเราจะบ้า แต่เพราะสามีเราเป็นคนไม่ยอมแพ้ หางานจนได้ แต่งานที่หาได้คืองานเสิร์ฟ งานทำกับข้าวปิ่นโต งานทำความสะอาดแอรบีเอนบี งานทิ้งขยะ คือทำหมดทุกงานเท่าที่มีผ่านเข้ามา เพื่อให้มีรายได้ ทำทุกวัน 7 วัน จัดสะเก้ดเต็มเอียด เราอยู่นู่น 3 ปีครึ่ง จนลูกเรียนจบ เราก้อกลับ เชื่อมั้ยว่าสามีเราน่าสงสารมาก ผอมมาก แข้งขามีแต่ตาปลา มือไม้แตกเป็นแผลยับจนเป็นแผลเป็นเต็มมือเท้า คุณมองสามีตัวเองให้ดีๆ ตั้งสติให้คงมั่น ถามตัวเองว่าเค้าสามารถรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ได้มั้ย คิดดีๆค่ะ
เรามันิสัยคล้ายสามีคุณเลยค่ะ เราไม่เข้าใจนิสัยตัวเองเหมือนกัน ไม่ชอบเลย แต่เหมือนมีอะไรไม่รู้สักอย่างที่ ไม่อยากถ้าไม่มีใครมาทำด้วย
สงสารแฟนคุณมาก ผู้ชายรู้สึกไร้เกียรติ ไร้คุณค่า เขาถึงเป็นแบบนั้น .. คุณบังคับเขาเกินไป เผด็จการ
ไม่มากเกินไปคะ เลี้ยงสามีขนาดนี้ จะบอกว่าไม่ดี ไม่ได้คะ สามีต้องสำนึกคะ เลี้ยงลูกมันยาก แต่ก็ไม่ได้ทำทุกอย่างงง อย่าไปเใองนอกเลยถ้าจะไปเพื่อให้สามีไปล้างจาน
พี่ดีเจทุกคนพูดเหมือนว่าเป็นความผิดของคุณอ้อมที่ "สปอยล์" สามีจนสามีเป็นคนแบบนี้ แต่ขอโทษนะคะ สามีของคุณอ้อมโตแล้ว ไม่ใช่เด็กแล้ว จะไม่มีความคิดทำเพื่อภรรยาบ้างเลยหรอคะ อายุ 40 นี่ไม่เด็กแล้วนะคะ เค้าเป็นสามีเป็นพ่อคนแล้ว จะไม่แสดงความรับผิดชอบอะไรบ้างเลยหรอ สามีของคุณอ้อมไม่มีความพยายามอะไรเลยค่ะ มีแต่คุณอ้อมที่พยายามมาตลอด เราว่ามันไม่ผิดที่คุณอ้อมจะรับทำหน้าที่แทนเมื่อสามีไม่ทำ แต่คุณอ้อมทำขนาดนั้นแล้วสามียังไม่รู้ตัวเลย แบบนี้ไม่โอเคค่ะ
คุณอ้อมคะ คุณเก่งและใจเย็นมากค่ะ เราไม่คิดว่าคุณอ้อมจู้จี้เกินไป แล้วคุณอ้อมไม่ได้ขออะไรมากมายจากคุณสามีเลยค่ะ ขอให้คุณอ้อมสามารถหาทางออกจากปัญหานี้ได้นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
เห็นด้วยมากๆ เลยค่ะ โตกันขนาดนี้แล้ว จะให้เรามานั่งพูด นั่งสอนไปสะทุกเรื่องมันไม่ใช่จริงๆ
ถ้าเค้าไม่รู้ตัวปรับยากอยู่นะ ยิ่งแก่ด้วยมันจะบวกอีโก้เข้าไปอีก ถ้าไม่ถึงขั้นจะถูกทิ้งคงไม่ยอมปรับง่ายๆ
คำว่าความเคยชินมันแก้ยากนะค่ะ
เรามองว่าบางคนที่มันคิดไม่ได้ก็คิดไม่ได้จริงๆค่ะ เคยเจออายุ60กว่าแล้ว ก็ยังคิดอะไรไม่ได้ จัดการชีวิตไม่ได้ก็มี ในเมื่อเราพิจารณาแล้วว่าเค้าไม่มีหัวคิดก็จำเป็นต้องเตือนสติให้รู้ตัว ไม่ใช่ปล่อยผ่านให้เค้าก็คิดไม่ได้ต่อไป
ผิดคุณอ้อมเลยครับ การที่เราเก่งและเป็นผู้นำครอบครัวแล้วบริหารครอบครัวให้ดีไม่ได้ ต้องโทษผู้นำครอบครัวเป็นหลักครับ ซึ่งคุณอ้อมออกตัวและทำให้เห็นได้ชัดเจนเลย
เรื่องอายุไม่ได้มาพร้อมกับความรับผิดชอบครับ คำว่าความรับผิดชอบหรือขอบเขตของความรับผิดชอบของ แต่ละคนยังแตกต่างกันเลยครับ
เห็นได้เยอะในสังคมไทย สามีที่มาโวยภรรยาตัวเอง ว่าอยู่แต่บ้านเลี้ยงลูก มีเงินเดือนให้ วันๆเอาแต่ไถโทรศัพท์เอฟของไปวันๆ อยากได้แมวอยากได้ชิวาว่ามาเลี้ยง เหมือนกันครับ แค่สลับเพศกันเท่านั้น
อันนี้ก็ผิดสามีเต็มๆที่ปล่อยให้ภรรยาเป็นแบบนี้ และเห็นได้เยอะด้วยในสังคมไทย กลุ่มแม่บ้านออกจากงานประจำมานั่งไถโทรศัพท์ไปวันๆ แล้วก็มีอยากมาทำธุรกิจขายของออนไลน์ หรือเปิดร้านกาแฟแล้วก็ทำกันไม่รอด
เข้าใจมากๆเลยค่ะ เราเองยังโสดเพราะเลือกเยอะ เราชอบคนเก่งและเป็นผู้นำ มีความรับผิดชอบสูง เปนผู้หญิงเก่งต้องทำใจค่ะ สู้ๆนะคะ
ใช่เลยที่ยังโสดเพราะต้องการคนที่มาเป็นผู้นำเราได้ แต่ตอนโสดเราก็ฝึกการช่วยเหลือตัวเองหลายๆด้านได้แบบช่ำชอง จนรู้สึกก็ไม่เห็นต้องการใครเลย 😅
เราก็เทผู้ก็เพราะผู้ไม่มีภาวะผู้นำนี่แหละ แถมยังพูดอีกว่าถ้าอยากให้เป็นผู้นำทำไมถึงไม่บอก ของแบบนี้ไม่ต้องบอกหรอก มันต้องออกมาโดยธรรมชาติ
แนะนำนายกตู่เลย เป็นผู้นำแต่โง่
สวยตายแหละ
@@สมดีมีเยอะ สวยกว่ามึง
“ยอมเสียสละมาดูลูกให้เรา” เป็นประโยคที่แปลกมาก ไม่ใช่ว่าลูกเกิดจากพ่อและแม่หรอ ถ้ากลับกันเป็นผู้หญิงออกมาคงไม่เกิดประโยคนี้หรอก ฟังมาเหมือนคุณอ้อมมีลูกเพิ่มอีกคน มีภาระมาถ่วงเพิ่ม จริงๆคือถ้าไม่มีเค้าก้อสามารถทำได้เองและอาจจะสบายใจกว่าอีกค่ะ ตัดได้ก็ตัดนะคะอะไรที่ไม่จำเป็น
พ่อบ้านฟูลไทม์ที่เรารู้จักคนนีงเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นให้น้องเรา สอนติวเป็นอาชีพเสริม อาชีพหลักคือพ่อบ้านดูแลลูกเล็กที่คอนโด ทำงานบ้านทุกอย่าง เมียคนไทยมีหน้าที่หาเงิน กลับบ้านมาเล่นกับลูก พักผ่อน ไม่ต้องแตะงานบ้านอะไรเลย เขาบอกว่าถ้าพาเมียไปอยู่ญี่ปุ่น สังคมเขาบีบให้ผู้หญิงต้องเป็นแม่บ้าน เขาไม่อยากให้เมียทิ้งงานที่ชอบ เขาเลยสละตัวเองจะมาเป็นพ่อบ้านแทน แถมเขาบอกว่าชอบชีวิตในเมืองไทยมากกว่า สังคมญี่ปุ่นมันทำให้เขาทำงี้ไม่ได้
คือถ้ามีใครจะเป็นพ่อบ้าน ต้องบาร์ระดับคนที่เรารู้จักแบบนี้เลยนะ ถึงจะเรียกว่าเป็นคู่ช่วยส่งเสริม
จริง ในเมื่อรับหน้าที่นี้ก็ต้องพยายามทำให้ดี การเล่นเกมก็ไม่ผิดนะ แต่ต้องแบ่งเวลา ถ้าลูกนอน ลูกไปรร ทำงานบ้านเสร็จก็เล่นได้ผ่อนคลายได้ แต่งานต้องไม่ทิ้ง
ใช่ค่ะคุณอ้อมเก่งมาก แต่คุณอ้อมก็ลดคุณค่าของสามีจนเขาไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง ไม่พอใจอะไรสักอย่างในตัวเขา คุณสามีน่าสงสารนะคะ งานที่ทำมาตลอดก็ไม่ได้ทำ ต้องมานั่งเลี้ยงลูกอีก
ทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจคุณสักอย่าง นานเข้าระวังสามีคุณจะเป็นซึมเศร้านะคะ เพราะคุณกดหัวเขาแบบนั้น คุณน่ะจะรู้สึกตัวเองเก่งไปหมดทุกอย่าง แต่ไม่คิดถึงอีกฝั่งเลย เวลาที่รู้สึกตัวเองทำอะไรไม่ได้สักอย่าง แพ้ภรรยาไปหมดจะรู้สึกยังไง เขาจะรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า อยู่ไปทำไม งานก็หาไม่ได้ เลี้ยงลูกก็โดนบ่น เล่นเกมก็โดนบ่น ปล่อยให้เขาทำอะไรเองบ้างเถอะค่ะ ไม่ใช่ลงมือทำทุกอย่างให้แบบนี้ อันไหนไม่พอก็บอกให้เขาทำให้ดีขึ้นก็แค่นั้นมั้ยคะ
คิดเหมือนเราเลยค่ะ
เห็นด้วยกับคอมเมนท์นี้ ผู้หญิงค่อนข้างไม่เข้าใจ แทนที่จะให้เขาทำงานของเขาเอง ดันเอามาเลี้ยงลูกไง
คุณค่าของคน มันโดนเอาออกไปโดยเมียเลย
แล้วทำไมผชไม่สร้างคุณค่าให้ตัวเอง
โทรมาอวย ตัวเอง และข่ม สามี ว่าไม่เก่ง ปล่อยเค้าไปเถอะ ฟังแล้ว สามีไม่ดีสักอย่าง
ก็ให้เงินเดือนแล้วไง ทำไมทำงานไม่ดี😊
สามีเราก็ออกมาเป็นพ่อบ้านค่ะ เราคิดกันอยู่ไม่นาน แต่สามีเต็มใจ คือเค้ารู้ว่าเรื่องเรียนหรือเรื่องนอกบ้านเราเก่งกว่า แต่เรามองว่าเค้าเสียสละมากนะคะ ที่ตัดสินใจทำสิ่งนี้ ตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ลูก 8แล้ว เค้าอาจไม่ได้เป็นพ่อบ้านที่เพอร์เฟคค่ะ แต่เราก็มีช่วยเค้าด้วย ซึ่งเราก็จะทำได้ดีกว่าละเอียดกว่าแหละ เราไม่มีแม่บ้านค่ะ ช่วยกันทำ เพราะไม่ชอบให้คนอื่นเข้ามายุงวุ่นวานในบ้าน ตอนนี้เค้าสอนลูกทำงานบ้าน ช่วยพ่อแม่ แต่.....ถ้าเราอยากได้แบบที่เราต้องการ เราต้องทำเองค่ะ .... การเรียนออนไลน์เค้าทำได้ดีมากค่ะ เค้าเรียนเพิ่มเติมด้วยตัวเองแบบ เรียนก่อนอ่านก่อนถึงจะมาสอนลูก ซึ่งเค้าทำได้ดีมากค่ะ ... เค้าชอบเล่นเกมส์ออนไลน์มาก มาตั้งแต่คบกัน เราเฉยๆและมองว่ามันเป็นการพักผ่อนเรื่องเดียวของเค้า สังคมเดียวของเค้า .... เราเองได้ออกไปมีสังคมข้างนอก เจอเพื่อนเจอคน ....แต่วันๆเค้าเจอแต่คนส่งของ และลูก.... รักกันอยู่มั้ยคะ ส่วนตัวของเราเรารักกันมากค่ะ เราอยู่ด้วยกันตั้งแต่วันที่ไม่มีอะไรจนวันนี้มีหลายๆอย่างที่ไม่เคยมี ทุกวันนี้เราปล่อยให้เค้านำมากขึ้นเพราะเราเองก็ชอบนำซึ่งความจริงเค้าอาจเป็นคนยอมก็ได้ แต่ตอนนี้เราลดความเป็นผู้นำของเราลงมา เพราะลูกมองเค้าเป็นฮีโร่ เราสอนลูกว่าทุกคนมีความเก่งไม่เหมือนกัน เราต้องรู้จักยอมรับความต่างของกันและกันค่ะ
จริง งงมาก
ต้องสอนให้เค้ารักพ่อ มากๆ และเป็นคนเก่งในสายตา ลูก
สามีของคุณเจ้าของสาย ทำให้เรานึกถึงพี่ชายเรา
เราได้แต่หวังว่าผู้หญิงที่จะเข้ามาในชีวิตพี่เรา จะเจอพี่เราในเวอร์ชั่นที่ดีกว่านี้
+1000000000 คิดเหมือนกันมากๆเลยค่ะ เรามีพี่ชายที่นิสัยแบบสามีคุณอ้อมเลยค่ะ ละคือจะเป็นผชแนวค่อนข้างเวิ่นเว้อเพ้อเจ้อไปวันๆค่ะ555
หวังจริงๆว่าวันนึงที่เค้าเจอคนที่ดี ผญที่เป็นแม่ของลูกที่ดีจริงๆ ละพี่เราจะดีขึ้นกว่านี้55
จะขอบอกเหตุผล เฉพาะเรื่องสามีคุณชอบเล่นเกมนะครับ ผมคิดว่า ที่เขาชอบเล่นเกมเพราะเวลาที่เขาเล่นเกม เขาจะรู้สึกว่าเขาก็เก่งเหมือนกัน
ซึ่งจากเรื่องทั้งหมดที่ฟังมา คือคุณผู้หญิงเก่งมากจริงๆ ทำให้สามีคุณรู้สึกแพ้ไปหมดทุกอย่าง ทางเดียวที่เขาจะรู้สึกว่าตัวเอง มีคุณค่าก็คือตอนที่เขาเล่นเกมแล้วมีคนบอกต้องการเขาครับ ถ้าคุณจะแก้เรื่องนี้ มี2ทาง 1.ต้องให้สามีไปพบจิตแพทย์ก่อนครับ ซึ่งไม่รู้ว่าสามีคุณรู้ตัวไหม ถ้าเขาไม่ยอมไปก็จบ คือต่อให้สามีคุณมีความสามรถทำสิ่งนี้ได้แน่ๆ แต่ถ้าเจ้าตัวไม่คิดว่าจะทำได้ ผลก็ทำไม่ได้
2.เลิกครับ เพราะตอนนี้ระดับจิตและความคิด ของคุณกับสามีห่างกันมากๆแล้ว
ไม่ใช่ปัญหาจิตครับ แค่คนไม่เอาถ่าน
@@auttoautaut95 คุณฟังแค่ข้างเดียวก็หาว่าเขาไม่เอาถ่าน อย่าลืมสิครับว่าตอนแรกเขามีงานประจำ มี comfort zone ของเขาที่เติบโตในงานเดิมได้
@@auttoautaut95 รู้ไปหม๊ดดดดดด 5555 ขำหว่ะชีวิตคนอื่นจำเป็นต้องเหมือนกันทุกคนไหม
เมียเขามุมานะพยายามขนาดนั้นแล้วตัวเขาจะไม่พยายามทำอะไรหน่อยหรอ? เราเห็นด้วยกับข้อ2 ถ้าไม่เปลี่ยนพฤติกรรม เลิกดีกว่า
ถ้าไม่ไปรักษาหรือเปลี่ยนนิสัยตัวเองนี่ว่าเลิกดีกว่าจะให้ผญ.เขาพยายามไปถึงไหนชีวิตคู่ควรพยายามไปด้วยกันไม่ใช่ทำแค่ฝ่ายใดฝ่ายนึง
Topic นี้น่าสนใจมากค่ะ เป็นเรื่องที่หลายคู่ต้องเจอในวันที่ต้องตัดสินใจว่าใครซักคนหนึ่งต้องออกมาดูลูก อยากให้ลองนึกถึงในช่วงแรกนะคะ ช่วงที่ลูกยังเล็ก การเลี้ยงลูก 1 คนใช้เวลา กายใจเป็นหมดแทบ 1 วัน เวลาให้ตัวเองไม่ต้องพูดถึงอยากให้คุณพี่ผู้หญิงย้อนความทรงจำตัวเองกลับไปช่วงที่ตัวเองลาคลอด 3 เดือนแรกค่ะ แค่ให้นมลูกกล่อมนอนเปลี่ยนเพิด ก็แทบจะไม่มีเวลาอาบน้ำทานข้าวดีๆแล้วใช่ไหมคะ การที่คุณสามียอมตัดสินใจมาช่วยเลี้ยงลูกให้ก็เป็นความคิดที่กล้าหาญมากจริงๆนะคะ เพราะนอกจากเค้าจะต้องอุทิศเวลาให้กับลูกทั้งวันแล้วถ้าไม่นับลูกหลับก็แทบขยับไปไหนไม่ได้เลยช่วงที่ลูกยังไม่เข้า รร มันก็ทำให้เกิดความเครียดจริงๆนะคะ เราเลยคิดว่าการเล่นเกมส์ก็เป็นการคลายเครียดด้านหนึ่งของเค้าค่ะ และการที่คุณพี่ผู้หญิงกลับมาบ้านแล้วเห็นแต่เค้าเล่นเกมส์ นั่นก็เพราะว่ามีคุณผู้หญิงหลับมาบ้านแล้วไงคะ พี่ผู้ชายก็อารมณ์ว่ามีคนมาเปลี่ยนไม้แล้ว ขอพักหน่อยนะ เลยทำให้พี่ผู้หญิงเห็นแต่ด้านนี้ของสามีค่ะ การทำงานนอกบ้านเหนื่อยจริงค่ะ เราเองก็เป็น 1 คนที่ทำงานนอกบ้านแล้วเลี้ยงลูกเล็กด้วยค่ะ แต่ถ้าให้เทียบกัน เลี้ยงลูกเหนื่อยกว่าเยอะะะะะ ค่ะ 555 เครียดกว่าด้วยค่ะ แต่จริงค่ะ เมื่อลูกเข้า รร แล้ว สามีเรามีเวลามากขึ้นจริง อยากจะกลับไปทำงาน แต่กว่าจะผ่านช่วงที่ลูกเล็กมาอายุคุณสามีก็ล่วงเลยเวลามานานจนทำให้การหางานนั้นยากขึ้นมากๆแล้วค่ะ ละมันก็คงนานมากซะจนหลงลืมวิธีการทำงานต่างๆ ความทะเยอทะยานต่างๆ ได้หายไปตามกาลเวลา
สิ่งที่เราอยากให้คุณพี่ผู้หญิงลองทำดูนะคะคือลองเปิดใจคุยกับสามีตรงๆ ว่าเค้าอยากไปต่างประเทศหรือไม่ คือการตัดสินใจมันอาจจะเลือก option ที่ดีที่สุดคงไม่ได้ค่ะ แต่อยากให้มองที่ความสุขของคนสองคนเป็นหลัก ถ้าเค้าอยากไปจริงๆ โอเค ไปค่ะ ให้คุณสามีลองไปหางานที่ ตปท ทำ แต่เอาจริงๆ เรามองว่ามันไม่ใช่การแก้ปัญหาค่ะ เพราะการไป ตปท จะหางานแบบ white collar ค่อนข้างยากนะคะ จะไปทำงานเสริฟอาหาร ทำ part time ได้เงินเยอะกว่า ที่ไทยจริง แต่ใช่สิ่ง ที่คุณสามีคุณอยากทำหรือเปล่า ลองคิดดูอีกทีนะคะ
เราเองเป็น 1 คนที่สามีก็บ่นว่าเราได้เงินเดือนเยอะกว่า ทำโน่นนี่เก่งกว่า บลาๆๆ สามีก็มีบ่นว่าอยากเปลี่ยนงานได้เงินเดือนเยอะกว่าเราบ้าง แต่เราจะพูดกับสามีเสมอค่ะ ว่าเธอช่วยครอบครัวเรามากกว่าเราอีกนะ (คือเรามีหนื้สินที่ต้องปิดแต่สามีไม่มีเลย) เราจะเอาประเด็นนี้มาบอกเค้าตลอดค่ะ ให้สามีรู้สึกถึงคุณค่าในตัวเองว่าช่วยครอบครัวมากกว่าแม้ว่าภรรยาจะมีเงินเดือนมากกว่า แล้วเค้าก็จะมีความภูใจในตัวเองและอยากพัฒนาตัวเองต่อๆไปค่ะ และเราก็จะ assign หน้าที่ให้เค้าทำในบ้านให้ชัดเจนค่ะ และ respect result ที่เค้าทำค่ะ มันอาจจะไม่ได้ดั่งใจเรา 100% แต่เราต้องปล่อยค่ะ แล้วชมเค้าบ้างนะคะในสิ่งที่เราให้เค้าทำเค้าจะภูมิใจแล้วอยากพัฒนาไปต่อค่ะ ตัวอย่างเช่นการทำอาหารที่คุณพี่เล่ามาว่าเค้าทำไม่อร่อย ก็สอนเค้าค่ะว่าแบบนี้นะ แล้วให้เค้าทำค่ะ ที่เล่ามาเราไม่เห็นคุณพี่ผู้หญิงชมสามีให้ฟังเลยค่ะ เราไม่ทราบว่าคุณพี่ผู้หญิงทุกวันนี้ไม่ได้ชมสามีเลยเลย หรือแค่ไม่ได้เล่าในคริปนี้เฉยๆนะคะ ลองนึกในทางกลับกันนะคะ ถ้าคุณเป็นคนที่ทำตามคำสั่งใครซักคนหนึ่งแต่ไม่เคยได้รับคชขมเลยซ้ำยังโดนบอกว่า เดี๋ยวทำเองอีก คุณจะรู้สึกยังไงคะ หมดกำลังใจใช่ไหม ทำอะไรก็ไม่ดีไปหมด ลองใหม่ค่ะ ถ้าสามีไม่ตื่นไปพาสุนัขวิ่ง ปลุกค่ะ แล้วไปวิ่งด้วยกันไปเลย ได้ใช้เวลาร่วมกันไปอีก ถ้าสามีอยากลองทำไร่ ลองไปทำด้วยกันค่ะ เคยเป็นไหมคะ ทำอะไรคนเดียวหมดมันอาจจะคิดไม่ออกเอ๊ะปลูกอะไรดี ช่วยกันคิดก็อาจจะมีทางออกที่ดีกว่านะคะ ถ้าทำได้ดีมีรายได้เพิ่มอีก แถมเอาไปสอนลูกต่อได้อีก นี่ไงพ่อเค้าเป็นคนพาแม่มาเจอที่แปลงนี้ให้เรามีสวนเป็นของเรานะลูก ต่อไปให้ลูกมาดูแลนะ ถ้าเค้าชอบ อะไรแบบนี้ พ่อก็ได้ความภูมิใจไปด้วยนะคะ
การเวลาอาจะทำให้เราหลงลืมบางอย่างไปนะคะ อย่าลืมใส่ใจความรู้สึกของกันและกันนะคะ คุณพี่ผู้หญิงก็เก่งมากจริงๆค่ะ และเราเชื่อว่าปัญหาของคุณพี่มีทางแก้ได้โดยที่ไม่ใช่การแยกทางกันค่ะ
สู้ๆนะคะ ขอให้ทั้งคู่ข้ามผ่านปัญหานี้ไปด้วยกันได้นะคะ
เห็นด้วยค่ะ บางอย่างต้องถาม ต้องทำด้วยกัน
เขียนได้ดีมากเลยค่ะ อ่านแล้วประทับใจ ส่วนตัวมองว่าภรรยาไม่ถึงขั้นลดคุณค่าของฝ่ายชายอย่างหลายๆคอมเม้นกล่าว แต่ภรรยาอาจอยากให้ผลลัพธ์ที่สามีทำดีกว่านี้แต่ฝั่งสามีก็ทำไม่ได้ดั่งใจสักที ภรรยาก็ไม่อยากรอให้สามีพัฒนา เลยเป็นปัญหา แล้วหลังจากสามีออกจากงานแล้วการตัดสินใจส่วนใหญ่เป็นของภรรยาทางสามีอาจจะไม่เห็นด้วยแต่ก็เออออไปเพื่อตัดปัญหา เหมือนเวลาถามว่าจะกินร้านไหนดีถ้าไม่ตรงกันก็ต้องมีฝ่ายนึงที่ยอมอีกฝ่าย ไปๆมาๆฝ่ายที่ยอมก็จะโดนว่าว่าไม่ช่วยกันเลือกร้านอาหารเลย
ชอบคอมเมนท์นี้มากเลยค่ะ
ผมชอบเม้นนี้ครับ ผมก็คิดแบบนี้ ช่วงนี้ควรให้กำลังใจเค้ามากๆสนับสนุนเค้าให้ลุกขึ้น ดีกว่ามาจ้องจะเลิก และที่สำคัญการที่คุณโทรมาเล่าก็เหมือนเล่าด้านเดียว ถ้าเปนผมฟังนะ ผมคิดว่าผู้หญิงคนนี้ชักจะยังไงๆแล้วหละ คุณออกไปนอกบ้านไปเจอใครมาหรือป่าว หรือไปเปรียบเทียบกับคนอื่นมา กลับไปจุดเริ่มต้นวันที่มีลูกเล็กแล้วสามีออกงานมาตกลงกันไว้ว่ายังไง
ชอบคำเม้นนี้ครับมีเหตุผล
เข้าใจมากๆ แม่เราก็เป็น เข้าใจแม่เลย พฤติกรรมต่างๆ ไม่ทำหน้าที่เลยมีแต่มาพึ่งแม่ตลอด ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ขนาดเราเป็นลูกยังต้องเป็นคนชี้โพรงให้เลย สุดท้ายก็กลับมาทำตามที่เราพูด ปล่อยค่ะ ปล่อยวาง
เข้าใจคุณอ้อมนึกถึงแม่เรา จากผู้หญิงเก่งกลายเป็นเจ้านายสำหรับพ่อ เหนื่อยกับการเป็นผู้นำ เหนื่อยกับการคาดหวัง ตอนนี้เป็นอิสระต่อกันแล้วค่ะ เพราะลูกก็โตแล้ว สู้ๆนะคะ
แค่ฟังก็ปวดหัว ดีไม่มีผัวแบบนี้ ฟังแล้วเหมือนมีลูกอีกคน อิเรื่องออกจากงานมาเลี้ยงลูก ก็ถูกแล้วมั้ยที่สามีคุณอ้อมต้องออกมา เพราะคุณอ้อมหาเงินได้มากกว่าหลายเท่า แต่สามีเหมือนไม่เอาไหนเอง ลูกก็ไม่เลี้ยง งานบ้านก็ไม่ทำ หมาก็ไม่ดู เป็นนี่ถ้ามีผัวแบบนี้คือหย่า
สปอยมั้ย?...เรามองว่าสามีตามใจภรรยามากกว่า แต่ในขณะเดียวกันภรรยาก็มองไม่ขาดว่าสามีมีความสามารถอะไร เขาอาจจะไม่มีความเป็นพ่อบ้านตั้งแต่แรกแล้วรึเปล่า? แล้วสายงานเขาได้ลองพิจารณาไกลๆมั้ยว่าออกมาหายไปหลายปีแล้วจะกลับไปทำเหมือนเดิมได้มั้ย ตอนนี้เขาอาจจะเคว้งไม่มีเป้าหมาย แบบชีวิต burn out ไปแล้ว
ในขณะที่ภรรยาก็มองว่าฉันทำทุกอย่างเลยนะ สามีสบายทุกอย่างเลย แต่อย่างหนึ่งที่ไม่ควรลืมคือการที่เขาออกมาอยู่บ้านคือเขาไม่มีพาวเวอร์เรื่องเงินแล้ว จะทำอะไรดีไม่ดีต้องผ่านภรรยาหมด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากฟังความสองฝ่ายมากกว่า
ส่วนตัวอยากแนะนำสามีไปพบจิตแพทย์ค่ะ เขาอาจจะอาลัยตายอยาก เคว้งคว้างอยู่จนไม่อยากทำอะไรก็ได้
เราคิดว่าตอนคุยใครจะออกมาอยู่บ้าน เงินเดือนผญเยอะกว่า ผญทำงานถูกแล้วค่ะ เพราะมีรายได้ทางเดียวต้องเอาที่มากที่สุด อล้วมีลูกด้วย สามีถึงจะไม่ชอบก็ต้อมยอมรับว่าคุณได้เงินเดือนสองสามหมื่น เลี้ยงครอบครัว3 คน ยากนะคะ
แอบเห็นด้วยกับคอมเม้นนี้ค่ะ
@TheDe Zt เราเลยมองว่าควรไปพบจิตแพทย์ค่ะ เพราะบางโรคคือไม่ทำอะไรเลยจริงๆค่ะ ไม่ได้ขี้เกียจแต่ไม่มีแรงจะทำ ดีไม่ดีแค่จะออกจากเตียงยังยากเลย แล้วการมาอยู่แต่บ้านแบบนี้มันก็มีปัจจัยเพิ่มขึ้นอีก อย่างโควิดคนอยู่แต่บ้านหลายประเทศพบว่าผู้ป่วยจิตเวชเพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะ
เขาไม่กล้าไปทำ เพราะเขาโดนปลูกฝัง หล่อหลอม ว่าเขาไม่สามารถทำได้ เขาไม่มีความสามารถ เพราะเมียพูดแบบนี้มาตลอด
เข่นเดียวกับ แม่บ้านทั้งหลาย ที่พอลูกเข้าเรียน ก็ไม่กล้าออกไปทำงาน เพราะคิดว่าตัวเองทำไม่ได้
เพราะไม่ได้ทำงานมาหลายปั
ขอบคุณคะ ความคิดเห็นนี้ มีความเป็นธรรม เพราะมองทั้งสองฝ่าย ฝ่ายชายก็อาจ ซัฟเฟอริ่ง อยู่ก็ได้ พบแพทย์ก็ดีนะ
คุณ อ้อม เก่ง จัง ครับ เก่ง จริงๆ ชื่นชมครับ
อะไรที่เกี่ยวกับเรื่องลูกที่ทำมาด้วยกันทั้งสองคน
ไม่ควรใช้คำว่าเสียสละนะคะ ต้องใช้คำว่ารับผิดชอบร่วมกันค่ะ
เป็นเหมือนคุณอ้อมเลย เหนื่อยมากๆ จนถึงจุดที่ต้องหยุดและหาเหตุผลและควรทำยังไงต่อ ผู้ชายนี่เขามีอีโก้ในตัวในความเป็นผู้นำของครอบครัว ดูเหมือนสามีคุณเขาเคว้งและหาจุดมุ่งหมายในชีวิตไม่มี ทำอะไรก็ไม่ดีเท่าเมีย บางทีมนุษย์เมียต้องแกล้งโง่บ้างค่ะปรึกษาเขาเพื่อให้เขามีจุดยืน การเล่นเกมส์ก็หารายได้ได้ เขาเก่งทางคอมพิวเตอร์ ก็ให้เขาดึงจุดแข็งนี้ออกมาหารายได้และสร้างความมั่นใจให้เขาเอง เป็นกำลังใจให้ค่ะสามีก็สาย IT พยายามซัพพอร์ตเขาอยู่ทางอ้อม
เหมือนกันเลยคะเหนื่อย
มองต่างมุม..คือผช.ยอมออกจากงานที่ตัวเองถนัดและชอบมาเพื่อเลี้ยงลูกนะ..มันเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่เค้าจะทำได้ไม่ดีนัก..ส่วนผญ.ด้วยตำแหน่งที่สูงขึ้นเลยมองว่าตัวเองควรเป็นผู้นำ..จริงๆ คือควรให้ทำงานทั้งคู่นั่นหละ แต่ต้องสลับแบ่งเวลาให้ลูกให้ได้..ถ้าคุณผญ.ทำงานอย่างเดียว แต่ไม่สามารถดูแลลูกได้..ก็ไม่ถือว่าเก่งกว่าผช.นะ และไม่ควรอ้างเรื่องว่าตนเองทำงานด้วย..คนที่น่าเห็นใจในเรื่องนี้คือผช.นะ เค้าอยู่แบบเลื่อนลอย ออกจากสังคมเพื่อนฝูงที่เคยมี ออกงานที่ถนัด แถมโดนลดคุณค่าในตนเองลงไปจากการที่เค้าต้องออกจากงานเผื่อเลี้ยงลูก เพียงเพราะภรรยาเห็นว่างานของตนดีกว่า สำคัญกว่า รายได้เยอะกว่าอีกฝั่ง..พอคิดจะกลับไปทำงานอีกรอบก็สายไปเสียแล้ว.
หากดูจากการตัดสินรสชาติอาหาร เราว่าคุณผู้หญิงเป็นคนติดเพอร์เฟคเกินไป คุณผู้หญิงควรยอมสละมาตรฐานในรสชาติอาหารซักมื้อให้คุณสามีลองทำให้กิน ไม่อร่อยแต่กินได้ก็ยอมกินแล้วบอกรสชาติที่เราชอบว่าชอบเมนูนี้หวานหน่อย เมนูนี้ชอบหวานน้อย อะไรก็ว่าไปแล้วบอกให้เค้าลองทำใหม่ แนะนำ ติชม และให้กำลังใจในการทำอาหารของเค้าไปเรื่อย ๆ อันไหนเค้าทำอร่อยก็ชมเค้าเยอะ ๆ และให้ลองทำเมนูที่ยากขึ้นไป ให้เค้าพัฒนาจากการทำอาหารให้คนในครอบครัวที่เรารัก เค้าจะได้รู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญ มีอะไรทำ มีอะไรที่ต้องปรับปรุงพัฒนา ยกหน้าที่ทำอาหารให้เค้าไปเลย อยากให้เค้าดีขึ้นต้องหมั่นชมเมื่อเห็นเค้าทำดี อะไรที่ขัดใจก็มองผ่านหรือไม่ก็ทำทีเหนื่อยล้าไม่สบายไม่คุยด้วยแค่นั้นพอไม่ต้องเอ่ยด่า การพูดในแง่บวกจะเป็นการสะกดจิตให้เค้าเป็นอย่างที่เราต้องการให้เป็น การที่คุณเอาแต่พูดแต่แง่ลบเค้าจึงแสดงออกเป็นลบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หลายครอบครัวทะเลาะกันเพราะคำพูดทิ่มแทงนี่แหละ
คิดเหมือนกันเลย ดูแลลูก แต่ตอนนี้ลูกคือไม่ทารกแล้ว เรื่องงานบ้านคนเราไม่ได้กวาดบ้านถูกบ้านทุกวัน ซักผ้าก็ไม่ทุกวัน แล้วผญ.ก็จ้างแม่บ้านมาทำให้ ทำอาหารผญ.ก็ทำเองเพราะรสชาติ เพราะผช.ทำไม่อร่อย แถมล้างจานให้อีก จริงๆให้ผช.ทำก็ได้ คือดูแล้วผช.เขาแทบไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากดูลูก เพราะแบบนี้เขาเลยไม่รู้จะทำอะไร มันว่าง งานเมียก็บอกให้ออกไม่ต้องทำ ก็เลี้ยงตามแบบผช.อะ นี้ก็โตพ่อเลี้ยงคนเดียวเหมือนกันนิสัยก็ไม่ได้เรียบร้อย เป็นคนสบายๆ ชิวๆ แล้วเป็นมาหลายปีขนาดนี้ ผช.เขาทิ้งตัว ธรรมชาติผช.น้อยคนจะเห็นโน้นนี้ต้องทำความสะอาด ไม่เหมือนผญ.รกหูรกตาต้องหยิบต้องจับแล้ว มันกลายเป็นความเคยชิน ที่ผ่านมาแล้วคงต้องปล่อยมันไป แต่วันนี้ก็อยากให้เขาล้างจาน หุ้งข้าว ทำอาหาร ซักผ้า ทิ้งขยะ คือบอกไปตรงๆเป็นคำๆ ผช.เขาไม่เข้าใจความซับซ้อน เราฟังเรายังงงเลยว่า ต้องทำอะไรหรอกที่เธอบอกว่าเรางั้นงี้ ก็เธอจัดการได้หมดแล้วเธออยากได้อะไร พอจะทำโน้นทำนี้ดูแล้วผช.ก็ทิ้งตัวกลายเป็นขี้เกียดไปแล้ว หากิจกรรมทำแบบครอบครัวทำร่วมกันให้เขาลุกมาปรับตัวก่อนน่าจะดีกว่า เพราะงั้นก็คงเป็นแบบเดิม
ฟังจากสายแล้ว ผญคนนี้ดูไม่มีความเข้าใจสามีตัวเองเลย หรือยอมอ่อนข้ออ่อนโยนบ้าง คุณวิพากษ์วิจารณ์เค้าจากสิ่งที่คุณเห็น โดยไม่คิดว่าต้นตอของมันคืออะไร คุณไม่ยอมเปิดใจคุยกะเค้าจนคุณระเบิดออกมาอ่ะ จริงๆจะหย่าเลยก็ได้ แต่เราจะสงสารสามีคุณ ที่ต้องสละงานตัวเองมาเลี้ยงลูก แล้วต้องหางานในวัยนี้
คนเราไม่ได้เก่งภายในวันเดียว มาทำครั้งแรกๆอาหารไม่อร่อย คุณก็บอกเค้าว่า ที่รัก วันนี้ที่รักลืมใส่น้ำปลาหรือเปล่า มาๆ เดี๋ยวเค้าสอนให้ เค้าชอบแบบนี้ ไม่ใช่ว่าแบบ เออ ไม่อร่อย ช่างมันกุทำเอง แล้วมะไหร่สามีคุณจะทำเป็น
เป็น case study ที่มีคุณค่ามากนะ
เพราะสิ่งดีเจทุกคนคิดว่า ผช.อาจจะ lost ต้องพูดดีๆมองเขาในฐานะสามี ถ้ากลับกันเรื่องนี้เป็น ผญ.คำพูดของดีเจจะเป็นแบบเดิมมั้ยนะ
เข้าใจคุณออมเลย เอาใจช่วยนะคะ นี่ยังก็ยังโสดอยู่เพราะกลัวเจอแบบนี้ คือเราโสดมาตลอด ทำอะไรเอง พึ่งพาตัวเอง ดูแลครอบครัว พ่อแม่น้องๆ คือถ้าอยากมีครอบครัวก็อยากได้คนที่เป็นผู้นำเราบ้าง อยากเป็นผู้ตามบ้าง ไม่จำเป็นต้องนำทุกเรื่อง แต่แชร์ซึ่งกันแหละกัน support ซึ่งกันและกัน คือถ้าจะมีต้องไม่เพิ่มภาระให้เรา เลยแบบคิดหนักเลย กลายเป็นกลัวที่จะเปิดรับใครเข้ามา เมื่อมีคนมาคุยๆ เจออะไรที่ไม่โอเค นิดหน่อยก็ตัดเลย ไม่ไปต่อ
คุณอ้อมก็น่าจะยอมรับว่าคิดผิดที่ให้เขาออกจากงานมาเลี้ยงลูก บางคนเขาไม่ได้ถนัดกับการเลี้ยงลูก ทำงานบ้าน แต่เขาก็ตามใจคุณอ้อม คุณสามีเองก็ผิดที่ไม่สู้ที่จะทำงานที่ตัวเองถนัดต่อไป ถ้าสามีคุณอ้อมยืนยันว่าจะจ้างพี่เลี้ยงต่อตั้งแต่วันนั้น คุณสองคนก็จะไม่เหนื่อยแบบทุกวันนี้ พ่อเราก็เป็นพ่อบ้าน 100% แต่พ่อเราก็ทำทุกอย่าง เพียงแต่มันก็ไม่ได้เนี้ยบ เรียบร้อยเหมือนแม่ทำ อยากให้คุณอ้อมคิดตรงนี้ว่าเขาอยู่บ้านสังคมนอกบ้านของเขามีแค่ในเกม และคุณอ้อม แต่คุณอ้อมไปทำงานนอกบ้านคุณมีสิ่งแวดล้อมอื่นนอกจากบ้าน ความเครียดความกดดันมันต่างกัน
เราก็เป็นค่ะ พี่ต้องอยู่แบบนี้ไปตลอดชีวิตค่ะ เกิดจากพี่มีความเป็นผู้นำสูง ซึ่งโชคดีแล้วที่เค้าเป็นผู้ตามค่ะ แต่โชคร้ายที่เค้าคิดไม่ค่อยได้ เรื่องนี้อยู่ที่สามีว่าจะคิดทำอะไรบ้างมั้ยค่ะ เค้าอาจจะคิดไม่ออก พี่อาจจะต้องสั่งเค้าแบบเจ้านายเลยค่ะ ไม่งั้นเค้าก็ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ทำใจค่ะ เราก็เป็นนะคะ อดทนค่ะ ดีกว่าเจอคนแบบตัวเราเองแล้วเกี่ยงกันมั้งคะ คิดในแง่ดี
ทำไมมีแต่คนว่าผช. ชมผญ.อ่ะ? เรามองว่า ผช.เขาก็ยอมสละอาชีพการงานของตัวเอง เพื่อมาเลี้ยงลูกอ่ะ การจะกลับไปหางานในช่วงที่อายุมากแล้วมันก็ยากไหมอ่ะ พูดเหมือนผช.ผิดอย่างเดียวเลยก็ไม่ได้ป่ะ
จากมุมมองผมนะ ถ้าพี่ ผช ปรับตัวช่วงแรก เช่น ทำงานบ้าน หรือแบ่งเบางานบ้าน ทำอาหาร อะไรพวกนี้ ช่วยแบ่งเบา คุณ ผญ เค้าคงไม่คิดจะให้กลับไปทำงานอีกนะ แต่นี่ที่ผ่านเหมือน คุณ ผช เค้าไม่ปรับตัวนะ เล่นเกมไม่ผิด แต่ดูไม่ค่อยสนใจอย่างอื่นเลยอะ คือ ภรรยาก็ให้เงินเดือนนะ เป็นผมก็จะเกรงใจละ และจะหน้าที่อื่นทดแทนนะ แต่นี่เห็นภรรยาต้องมาทำอาหารหรือล้างจานอยู่เลยนะ คำถามล้างจานนี่คนที่ออกไปทำงานทั้งวันกลับมาควรทำหรอหะ คนอยู่บ้านควรช่วยแบ่งเบามั้ยนะ
@@nt_chalice3321 ผมเห็นด้วยน่ะ ถ้าผู้ชายทำหน้าที่พ่อบ้านได้เต็มที่สมบูรณ์ผู้หญิงก็ไม่บ่นหรอกนี่ไม่ทำเลยเงินเดือนก็ให้ผมเองถ้ามรเมียแล้วผมให้เค้าเป็นแม่บ้านแล้วเค้าทำหน้าที่ได้เต็มที่ไม่ขาดตกบกพร่องผมก็รักและให้เกียรติเค้าอ่ะ ไม่ต้องออกมาบ่นแบบนี้หรอด
เป็นผมก็ด่านะ หมาก็เลี้ยงให้ กับข้าวก็ทำ งานก็ทำ เงินก็ให้ เอ้อ หมาตัวเองอยากเลีเยงด้วยนะ กู้เงินทำบ้านทำสวนให้ก็แล้ว ต้องโดนด่าหน่อยเหอะ
อันนี้เหมือนมีลูกเพิ่มอีกคนจริงๆนะ
ตอนนี้เค้าเป็นพ่อบ้าน แล้วได้เงินเดือนด้วยนะ จริงๆพวกงานบ้านง่ายๆ เค้าควรทำนะ ทำอาหารอาจจะ ทำไม่ได้ แต่ล้างจานช่วยล้างได้นะ กวาดบ้าน ดูแลสุนัข ให้อาหาร พ่อไปวิ่ง ดูแลลูก ทำอาหารไม่เป็น ก็หาซื้อได้ สั่งก็ได้ ลูก เมียยังไม่ได้กินข้าว หิวข้าวมั้ย ให้ไปซื้อให้มั้ย อยากกินอะไร
ฟีลลูกชายคนโตค่ะ ซึ่งสามีหลายคนก็เป็นค่ะแต่เลเวลไม่เท่ากัน คนนี้เป็นเยอะเพราะแม่สปอยหนักพอสมควร สปอยมานาน อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัว เป็นกำลังใจให้นะคะ
คุณอ้อมคือผู้หญิงที่เก่งมาก
ผมกำลังอยู่ในสถานะนี้เลย ตอนนี้ผมกับแฟนอยู่กันคนละจังหวัด แฟนมักจะกดผมตลอดเวลา เพราะเขาเก่งกว่า หน้าที่การงานดีกว่า กำหนดทุกอย่าง ตอนนี้ผม43 ปี รับราชการ และมีแพลนจะเออรี่รีไทร์ เพื่อมาอยู่ด้วยกัน แต่ ถ้าผมต้องออกจากงานเพื่อมาอยู่กับเขาเฉยๆ ผมคงมีสภาพไม่ต่างจากพี่ผู้ชายท่านนี้
- การขีดชีวิตคนอื่น การชี้ทางเดินให้คนอื่น โดยลืมตัวตนของเขาไป นั่นคือคุณไม่ได้ศึกษาทำความเข้าใจกับชีวิตเขาเลยตั้งแต่ต้น บั่นปลายชีวิตของคนที่เขามีทางเดินที่น้อยกว่า ย่อมไม่มีทางเดินต่อไปได้
- ตรงกันข้ามหากพี่ผู้ชายเขาไม่ได้ออกจากงาน
โดยคุณเลือกที่จะแยกทางกัน มันก็ยังมีโอกาสที่คนทั้งสองจะยังใช้ชีวิตในแบบของตัวเองได้ต่อไป
- แต่ถ้ามันเลยเถิดมาขนาดนี้แล้ว คุยกันครับ คุยกับแฟนคุณมากๆ เพราะถ้าเขารักคุณและเข้าใจในตัวคุณเขาจะปรับปรุงตัวเขาเองให้ดีขึ้นอย่างแน่นอน แต่อย่าทิ้งเขาไว้กลางทางเลยครับ เขาจะไปไหนต่อคุณฉลาดน่าจะรู้ดี 😌😌😌✌️✌️✌️😔😔😔
คุณอ้อมคือเก่งมากกกก สตรองมาก โหชื่นชมเลยอะ อภิชาตเมีย
5555
บีบ อัด โยน...รึรับสิ่งนั้นมาทำเองโดยให้อิกฝ่ายรู้สึกด้อยค่า รึไม่ คุยกันทีแบบที่บอก2ชม. สื่อสารกันแบบใด แล้วที่ประจำคุยกันแบบใด
การพูดเรื่องที่เกิดปัญหามีท่าที น้ำเสียง รึพูดวน ๆ แบบใด มีข่มด้วยท่าที รึนานเกินไปมั้ย เช่นล้างจาน ทำไม รับมาล้างเอง...รึล้างแล้วมีคราบอยู่ รึสะอาดแล้วเพียงไม่ได้ผ้าเช็ดให้แห้ง มาตรฐานใด บ้าน ๆ รึเนียบ ๆ คัช
คริปนี้มีประโยชน์ดีคัช ทั้งคุณอ้อม , ดีเจทุกคน ที่รับฟัง , ตอบได้ถ้อยทีถ้อยอาศัย
ผมคิดว่าสามีคุณอ้อม ทำได้นะ (ถ้าเค้ายังอยากไปต่อ...)
ต้นกล้วย20ต้น ออกหวีออกเครือ มั้ยคัช พท.เหมาะกะ20ต้นมั้ย
สนุัข พันธุ์นี้ วิ่งเช้า เย็น รึรอบเดว พันธุ์นี้วิ่งได้ตลอด สุนัขเจอใคร ก้อรีบลุกเพื่อจะได้ออกจากบ้าน จูงไปวิ่ง...
ใครเกบสะสม ความคาดหวังสมบูรณ์แบบมาไม่ต่ำกว่า5ปี... โดยที่อาจไม่ถูกจุด ถูกขั้นที่เค้าจะก้าวไปกะคุณอ้อม จากใครรักใครน้อยลง จากเรื่อง ? ในอดีต , ปัจจุบัน เพราะมีช่วงสะสมเรื่องไม่บอก ยอมรับกันจริง ๆ นาน ๆ
เรารู้สึกว่าลดค่า ไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ พอวันหนึ่งอยากให้เขามีอะไรในวัย40 คาดหวัง จะพาไปต่างประเทศ ไม่รู้สิ…..คุณมองเขาว่าเขาเป็นสามีจริงๆไหม บางคำพูดเหมือนมันห่างเหินคำว่าสามีอ่ะ ไม่แปลกที่ผู้หญิงเก่งมักตัวคนเดียว เพราะมันจะมีอีโก้บางอย่างแฝงและเเสดงออกมา
จากที่อ่านคอมเม้นมา เหมือนจะบอกตัวผู้ชายไม่ดี เลิกดีกว่า แต่ลืมมองไปไหมว่าเขาทิ้งอนาคตหน้าที่การงานของเขามาเป็นพ่อบ้านเต็มตัว พอมาวันนึงเขาไม่ได้เก่ง ไม่ได้เป็นแบบที่คิดก็คิดว่าเลิกดีกว่า แล้วตัวผู้ชายจะทำยังไงล่ะ งานก็ไม่มี เงินก็ไม่มี เรื่องนี้ทำเอารู้สึกว่าไม่ควรเอาชีวิตไปพึ่งพาใครเลยแม้กระทั่งสามีภรรยากัน มีใครบ้างล่ะที่ไม่อยากเป็นคนเก่ง เป็นคนที่ประสบความสำเร็จ แต่มันไม่ได้เป็นกันง่ายๆไง
เคำว่าพ่อบ้านเต็มตัวคือเมียไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ แต่อันนี้คือขี้เกียจสุดๆ ปล่อยเวลาไปเปล่า ทำงานบ้านนิดๆหน่อย อาหารลูกก็เมียทำให้ หมาก็เมียเป็นดูแล สรุปพ่อบ้านเต็มตัวยังไงคะ ไม่เห็นทำอะไรจริงๆจังๆได้สักอย่าง
ฟังจบไหมคะ ผช ขี้เกียจงานบ้านไม่ทำ นี่พ่อบ้านหรือภาระ
@@papayasky4456 ฟังจบค่ะ เราไม่ได้อยู่ในครอบครัวเขาจริงๆนะคะ ไม่รู้ทั้งหมด แล้วใน 1 วันภรรยาก็ไม่ได้อยู่บ้านทั้งวัน ใครจะไปรู้ บางทีเขาอาจจะทำตอนที่ภรรยาไปทำงานก็ได้ พอภรรยากลับมาก็ไม่ได้ทำ
ถ้าเข้ามาอา่นคอมเม้นนะคะ การที่ผู้ชายลาออกมาเป็นพ่อบ้านไม่ใช่เรื่องการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ และผู้หญิงลาออกมาเป็นแม่บ้านไม่ได้เป็นหน้าที่นะคะ มันเกิดจากการที่ครอบครัวเขาตกลงกัน ที่จะสื่อคือควรพึ่งพาตนเองค่ะ หาเงินให้ได้ด้วยตัวเองไม่ต้องขอใคร พอเลิกกันไปจะได้มีทางไปต่อ
@@rangeo8524 เขาคงเอื้อมกับพฤติกรรมค่ะ ไม่งั้นไม่โทรมาปรึกษาแบบนี้หรอกค่ะ คู่ชีวิตไม่ควรทำตัวเป็นตัวถ่วงกันหละกันเลย
อาชีพที่เราคิดว่าอาจจะเหมาะกับสามีคุณอ้อม คือ เปิดเซิร์ฟเวอร์เกมให้สามีดูแล อาจจะเป็นคนดูแลระบบแก้บัคอะไรต่างๆ ส่วนฝ่ายบริการลูกค้าอาจจะต้องจ้างคนเพิ่ม หรือไปสมัครเป็นคนดูระบบให้เซิร์ฟเวอร์คนอื่นก็ได้ คิดว่าน่าจะเข้ากับเขาและทำได้ดี
คือโทษสามีอย่างเดียวไม่ได้ ทีนี้สามีอาจจะต้องมีแรงบันดาลใจหรือเปล่า คือแต่งงานแล้ว คุณต้องรู้อยู่แล้วว่าเวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน แต่เราก็จะเรียนรู้ไปด้วยกัน วันนี้คุณภรรยาดีทุกอย่าง เงินดี ความสามารถดี สังคมดี วันนี้คุณรู้สึกอย่างไงคะ? มองเขาด้อยค่าลงไหม... จะทิ้งเขาไหม... คุณรักกันหรือเปล่าคะ หรืออยู่กันเพราะหน้าที่... ความรักมันมีได้ก็หมดได้ต้องหมั่นเติม.. ไม่ต้องเขาเติมก็ได้ค่ะเราเติมให้เขาก่อนก็ได้... หรือคุณคิดว่าเงินที่คุณจ้างเขาเลี้ยงลูกคือความรัก?.. เราเป็นคนนอกไม่รู้หรอกค่ะว่าบ้านคุณรายละเอียดเป็นอย่างไง แต่ก็เป็นกำลังใจให้ค่ะ
เพราะหาเงินได้เพราะเค้าไม่หาเงินได้เลยไม่มีค่ารึเปล่าเนอะ
เราเข้าใจคุณอ้อมมากๆเลยอ่ะ แต่ตอนที่เค้าลาออกมาก็ถือว่าเค้าเสียสละอยู่เหมือนกัน ชอบความคิดเห็นของหอมค่ะ
ขออนุญาตออกความเห็นนะคะ ในฐานะคนมีครอบครัวเหมือนกัน
ก่อนอื่นต้องบอกว่าคุณอ้อมเป็นผู้หญิงที่เก่งมากจริง ๆ ที่สามารถดูแล และซัพพอร์ตครอบครัวได้ครบขนาดนี้
เรื่องคุณอ้อมกับสามี เราอยากแนะนำว่า อยากให้คุณอ้อมลดความคาดหวังในตัวสามี และให้คุยกันให้เคลียร์ในทุก ๆ เรื่อง เพราะทั้ง 2 เรื่องที่คุณอ้อมเล่ามา คือเรื่องที่ทำสวน กับเรื่องน้องหมา เหมือนคุณอ้อมให้แล้วสามีต้องมีรับผิดชอบสิ ซึ่งเขาไม่ได้มีความสามารถในการรับผิดชอบขนาดนั้น หรืออาจจะเป็นเพราะสามีคุณอ้อมมีความคิดที่จะทำ แต่ไม่ได้อยากจะทำแบบจริงจัง และไม่มีการคุยรายละเอียดในการที่จะทำหรือเปล่า
ส่วนเรื่องเล่นเกม ถ้าไม่ด่าไม่ดีขึ้นเลย แบบนี่ไม่โอเคค่ะ เพราะด่าทอมันเป็นการระบายอารมณ์ บอกว่าเขาผิด พอเขารู้สึกผิด ณ ตอนนั้นเขาเลยทำตัวดีขึ้น แต่สุดท้ายเขาก็จะกลับไปทำแบบเดิมเพราะเขาคิดว่าเขาได้แก้ไขไปแล้ว ขอยกตัวอย่างของครอบครัวเรานะคะ ผู้ชายไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น (อันนี้เป็นประโยคที่สามีเราพูดเอง) มีอะไรให้บอกนะ เพราะบางทีเขาคิดเองไม่ได้ว่าเรารู้สึกหรือคิดอะไร เราก็มีปัญหาเรื่องเล่นเกมของสามีเหมือนกันค่ะ เราไม่ชอบเพราะทุกครั้งที่เขาเล่นเกม เหมือนเขาจะลืมทุกสิ่งรอบตัวไปเลยแม้กระทั้งลูก เราก็ใช้วิธีคุยค่ะหาจุดกลางระหว่างกัน เขาไม่สามารถเลิกเล่นเกมได้ งั้นขอเป็นทุกครั้งถ้าเราเห็นว่าเขาเล่นมากไปเราจะเรียก หรือบอกเขาว่าให้หยุดเล่นก่อน มาช่วยกันหน่อย หรือช่วยดูลูกหน่อย ซึ่งเขาก็ทำให้ทันที เพราะเราตกลงกันแล้ว และบรรยากาศในบ้านก็ดีขึ้น
อยากแนะนำว่าคุยกันเยอะ ๆ ค่ะ ทุกครั้งที่รู้สึกว่ามีปัญหา หรือแค่รู้สึกไม่ดีก็คุยได้แล้วนะคะ อยากปล่อยให้สะสมจนกลายเป็นอารมณ์ และทุกครั้งที่คุยต้องหาข้อสรุปให้ได้ และจงยอมรับและทำตามข้อตกลง เช่น อย่างเรื่องไปต่างประเทศ หากคุยกันแล้วก็ให้เขาแพลนเลยค่ะ ว่าสามารถทำงานอะไรได้บ้าง และจะทำอย่างไร ประมาณนี้ค่ะ
สุดท้ายนี้ถ้าคุณอ้อมได้อ่านก็ขอให้ชีวิตครอบครัวของคุณอ้อมมีความสุขตลอดไปนะคะ
ส่วนตัวนะคะเราเจอแบบนี้อยู่เราเข้าใจหัวอกคุณอ้อมมากๆเลยค่ะ จริงๆในใจแค่อยากให้เขาช่วยหยิบจับอะไรบ้าง เราทำได้ไม่ใช่เราไม่เหนื่อยเราเหนื่อย แต่ถ้าคุณอ้อมไม่ทำก็ไม่มีใครทำ บางครั้งการช่วยเล็กๆน้อยๆ มันทำให้คนที่เหนื่อยสะสมมากๆอยู่แล้วบรรเทาได้ค่ะ แค่มีเจตนาจะช่วยก็พอ แต่การนิ่งเฉยของคุณสามีอาจจะทำให้คุณอ้อมทนไม่ไหว
ส่วนของคุณสามีคุณอ้อมเขาอาจจะไม่ได้นึกถึงความเหนื่อยสะสมในมุมของคุณอ้อม เลยทำให้เขาคิดว่าการที่คุณอ้อมทำอะไรแบบนี้เองคุณอ้อมโอเคที่จะทำ ทางออกที่ดีที่สุดของเรื่องนี้คือการจับเข่าคุยกันกับคุณสามีค่ะ ทำให้คุณสามีรู้ตัวได้แล้วค่ะ สู้ๆนะคะคุณอ้อม
บังคับให้ออกเขาออกจากงานมาดูแลลูก แต่คาดหวังให้เขาประสบความสำเร็จในเรื่องงาน
เป็นตรรกะที่งง และย้อนแย้งดีค่ะ 😂😂😂
เพราะเงินเดือนไม่พัฒนาไปไหนหรือเปล่า จากคลิปเต็มที่เมียเขาว่าแรกเริ่มเงินเดือนเมียน้อยกว่า จนเมียมาเป็นผู้บริหารแล้วผัวยังเงินเดือนหลักไม่กี่หมื่นอยู่เลย ผัวเลยต้องออกมาเลี้ยงลูก
จริงงง
คิดเหมือนกัน
ใช่เลย
ความคิดเห็นต่อไปนี้อาจมีเนื้อหาที่หดหู่ส่งผลกระทบทางจิตใจ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
นั่งฟังสายนี้แล้วรู้สึกหดหู่ในใจเลยอ่ะ เหมือนการแต่งงานมีลูกต้องทิ้งทั้งความฝันความหวังที่ทำมาทั้งชีวิต ที่เรียนมาทั้งชีวิต โยนหายไปแล้วมานั่งเลี้ยงเด็กคนนึงแทนเลยอ่ะ ถึงจะบอกว่าพ่อแม่ต้องเสียสละก็เถอะ แต่แบบ มันชวนให้หมดอาลัยตายอยากแปลกๆ แค่ฟังแล้วก็แบบ รู้สึกหมดแพชชั่นในการใช้ชีวิตแล้วอ่ะ เข้าใจเลยว่านอกจากเลี้ยงลูกแล้วก็ทำอะไรต่อไม่ออกเลยอ่ะ มันหมดไฟทั้งชีวิตไปแล้วอ่ะ ถ้าต้องอยู่แบบนั้นถึง5ปี-10ปี แค่คิดว่าจะกลับไปทำงานก็ชวนให้รู้สึกแพ้คนอื่นๆไปหมดจนทำอะไรไม่ออกแล้วอ่ะ ไหนเวลาจะทำอะไรแล้วพอไม่ได้ดั่งใจหน่อยก็โดนแย่งทำ ทำอะไรก็แย่ทำอะไรก็กาก ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ทำอะไรก็โดนบ่นโดนกดทับอยู่ตลอดอีก ใจมันแพ้ ใจมันไม่ชวนให้สู้แล้วอ่ะ หดหู่จนแบบ แค่นั่งฟังก็ชวนให้ดิ่งได้วันๆได้แค่เลี้ยงลูกนั่งมองเด็กค่อยๆโตไปจากเรา แล้วก็ กิน นอน ชีวิตหมดแพชชั่น หมดทุกอย่าง หมดไฟ หมดอาลัยตาอยาก
แบบ...เราเคยอยู่กับคนที่คล้ายๆคุณเจ้าของเรื่องมาก่อน เขาเก่งทุกอย่าง อาจไม่เท่าคุณ แต่ก็เก่งจนเรารู้สึกพ่ายแพ้ในทุกๆทางจนไม่อยากทำอะไรอีกต่อไป พอไม่มีไฟมันยิ่งทำให้ทำอะไรก็ไม่เคยได้ดีเลยสักอย่าง สมองมันชา มันคิดอะไรไม่ออก มันไม่อยากจะคิดอะไรอีกต่อไปแล้ว แค่มีเขาอยู่เราก็ยอมแพ้แล้วแม้แต่การใช้ชีวิตของตัวเอง เราเลือกที่จะเลิกคิด เลิกฝัน เลิกหวัง แล้วรอฟังคำสั่งอย่างเดียว ปรากฏว่าอะไรรู้มั้ย เราโดนด่าว่าทำไมไม่หัดทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง ทำไมไม่คิดเองบ้าง ทำอะไรไม่เคยได้ดีสักอย่าง เราแบบ มันเป็นวินาทีที่เรารู้สึกอยากตายขึ้นมาอย่างแท้จริง อยากหายไปให้มันรู้แล้วรู้รอด ทั้งชีวิตมันดำมืดสนิทไม่เคยทำห่าอะไรได้ดีเลยสักอย่าง ล้มเหลว แย่ มีแต่ถ้อยคำทับทมกดทับเราให้จมดิ่งลงไป แม้แต่คนที่เรารักที่สุดในชีวิตยังด่าเราขนาดนี้ ชีวิตมันไม่เหลืออะไรให้สิ้นหวังมากกว่านี้อีกแล้ว ภายใต้ใบหน้าของเราที่เอาแต่ยิ้มในทุกๆวัน ก็เป็นเราที่เฝ้าฝันให้การตายมาถึงในทุกๆวันเช่นกัน อยากหลับแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย
จนสุดท้ายแล้วเราถึงขั้นเข้าICU และต้องเข้ารับการบำบัดกับจิตรแพทย์อย่างจริงจัง พบว่าเราเป็นสภาวะโรคซึมเศร้าซ่อนเร้น อีกทั้งยังมีอาการเครียดสะสมไม่รู้ตัว มันเกิดจากความสัมพันธ์ที่เป็นพิษอันยาวนานมากๆของเราทำให้มันกลายเป็นอาการทางจิต เพราะทั้งชีวิต20กว่าปีเราถูกล้างสมองให้แพ้ไปเรียบร้อยแล้ว พอเราอยู่ห่างเขา ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองเราถึงเริ่มกลับมายืนเองได้ กลับมาสู้ได้ กลับมามีชีวิตเองได้อีกครั้ง เราไม่รู้ว่าสามีของคุณจะเป็นแบบนี้มั้ย แต่อยากบอกเลยว่าการที่อยู่ใกล้คนที่ทำอะไรเก่งไปทุกด้านแล้วเราในตอนนั้นไม่เหลืออะไรดีเลยสักอย่างมันสามารถลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ในตัวเราได้จริงๆนะ แบบ สภาพจิตใจมันจะทำลายตัวเองไปโดยอัตโนมัติเพราะขาดสิ่งเหนี่ยวรั้งทางจิตใจในทุกๆทาง ไม่ใช่แค่ผู้ชายนะ ในผู้หญิงหลายๆคนที่เป็นแม่บ้านนานๆก็เหมือนกัน บางคนถึงขั้นถูกทุบตีทำร้ายร่างกายจนปางตายยังคิดว่าตัวเองไม่สามารถลุกขึ้นมายืนด้วยตัวเองได้เลยก็มี ยอมตายไม่ยอมหย่าเพราะคิดว่าตัวเองแก่เกินกว่าจะไปเริ่มใหม่ทำงานอะไรได้ ทุกสิ่งทุกอย่างในภาวะรอบตัวมันลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้ค่อยๆหายไป หายไป ในทุกช่วงขณะจิต จนสุดท้ายแล้วมันก็หล่อหลอมอออกมากลายเป็นเราในเวอร์ชั่นไม่เหลืออะไรเลยในชีวิตจริงๆ กลายเป็นเราที่พ่ายแพ้ต่อโลกทั้งใบ หวาดหวั่นต่อสังคมที่ต้องเผชิญ และสุดท้ายหลายคนก็เลือกที่จะตายไป ให้มันจบลง
เป็นกำลังใจให้นะคะ ทุกคนมีข้อดีของตัวเองค่ะ
ขอบคุณที่มาแชร์ความเห็นมากๆเลยนะคะ ทำให้เข้าใจมุมมองคนอื่นในชีวิตตัวเราเองได้ดีมากขึ้นหลายระดับเลย เป็นกำลังใจให้คุณหาทางที่ใช่ของตัวเองจนเจอนะคะ 🤍🤍🌟
คนทุกคนควรยืนด้วยตัวเอง มีงานทำเอง ชีวิตคู่ควรเดินไปด้วยกัน แชร์มุมมองและความรู้สึกพอ ซัพเพอร์ซึ่งกันและกัน ไม่มีใครเป็นเจ้าของชีวิตซึ่งกันและกัน เคารพในการตัดสินใจซึ่งกันและกัน
คุณเก่งมากๆ ที่ยังกลับมายืนได้อีกครั้ง และการพบจิตแพทย์มันเป็นทางเลือกที่ดีมากๆ จริงๆ
ผมฟังเรื่องคุณแล้วค่อนข้างเศร้า ....
ลองกลับกันดูครับ ถ้าสามีเป็นผู้บริหารแล้วคุณเป็นแม่บ้าน คุณว่าสามีจะด้อยค่าคุณไหม
จะ
ขอหย่าคุณไหม
สงสารสามีคุณจัง เขาไม่ใช่ผู้ชายที่โชคดีมีภรรยาเก่งหลอกครับ
เขาคงมีความสามารถของเขาแหละครับผมเชื่อว่าทุกคนมีความสามารถ คุณอย่าเอาไอที มาปลูกข้าวแข่งกับ ชาวนาเลยครับ ความชอบความถนัดมันคนละทางกัน ปล.ไม่ได้ดูถูกอาชีพ อย่าดราม่ากันนะครับ แค่ชี้ให้เห็นความสามารถของแต่ละคน
สุดท้ายเป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้เจอทางออกที่ดีครับ ปรึกษากัน รับฟัง กัน ช่วยกันคิด รักษาครอบครัวให้ดีครับ ขอให้มีความสุข หาเวลาพาลูกไปเที่ยวบ้างนะครับ ทะเล น้ำตก สวนสนุก สวนน้ำไปทำหน้าที่ครอบครัวครับ ให้ลูกได้มีความทรงจำที่ดี
ถึง คุณอ้อม..
ครอบครัวเราเคยมีสถานการณ์ใกล้เคียงกัน สามีทำงานหาเงินนอกบ้าน แต่แค่ไม่เก่งเท่าเรา เฉื่ยชา ขี้เกียจ เรายังหงุดหงิดมากเลย เราเลยบังคับให้เค้าย้ายมาต่างประเทศ เพราะถ้าอยู่ไทย เราคงประคับประคองไปต่อไม่ได้ เพราะเราไม่ภูมิใจในตัวสามี พอย้ายมาต่างประเทศ เราไม่ยอมทำงาน เราให้เค้าเลี้ยงเลย ใครจะพูดนินทาเราว่าไม่ยอมทำงาน เราไม่สน เพราะคนที่เมืองนอกไม่มีใครรู้ว่าเรื่องราวในครอบครัวเราเป็นไง ไม่ได้รู้จักพื้นเพเรา ผลคือ.. มันป็นเป็นจุดเปลี่ยน เค้าเลี้ยงเราได้ เค้าทำงานคนเดียว เราซื้อบ้านได้ในเวลาแค่ 2 ปี หลังจากย้ายมา โดยมีเรา support เงินดาวน์ให้แล้วเค้าผ่อน เค้าภูมิใจที่ให้เงินเราใช้ทุกเดือน เราก็นั่งกินนอนกินสบายๆ ตอนนี้ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะรู้สึกดูถูกเค้าได้อีก เมื่อทุกอย่างเข้าที่แล้ว เรากำลังจะออกไปหางานทำเพื่อหารายได้เพิ่ม และต่อไปนี้ถ้าเรายังคงทำงานแล้วแซงหน้าเค้าไปอีก ก็ให้นึกถึงวันที่เค้าเลี้ยงเรา จะได้รู้สึกว่าเค้าก็น่านับถือ เค้าก็ดูแลเราได้ เค้าก็ดีแค่ไหน แต่ศักยภาพคนเราอาจไม่เท่ากัน
เป็นกำลังใจให้คุณอ้อมนะคะ คนที่ไม่เคยเจอเรื่องแบบเดียวกัน บางทีเค้าก็ไม่เข้าใจมุมของเราหรอก เรารู้ว่าคุณอ้อมเหนื่อยทั้งกายและใจ แต่ก็ยังรักสามีคนนี้เกินกว่าจะทิ้งเค้าไป จึงอยากทำทุกทางให้เราเดินไปพร้อมๆกันได้
เข้าใจค่ะปัญหาเดียวกันแต่งมา13ปี หย่าเมื่อปีที่แล้วสบายใจและกายมากๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ
ผมอายุ 32 ฟังแล้วยังโมโหแทนเลย
วัย 40 กว่ามันไม่ใช่เวลามานั่งเล่นเกมแล้ว มันไร้สาระ แค่หมายังไม่มีปัญญาเลี้ยงแล้วลูกจะขนาดไหนเป็นเสาหลักให้บ้านไม่ได้ก็ควร supportเมียเรื่องงานบ้านเลี้ยงลูกก็ยังดี
เป็นกูได้เมียดีขนาดนี้
ทำเกษตรรวยไปนานแล้ว
แต่สตรีมเมอร์เล่นเกมแล้วได้ตังนะคะ แต่จากในสายสามีคุณอ้อม ถ้าเป็นคนธรรมดาๆนอกจากจะเล่นแล้วไม่ได้ตัง คงเสียเงินไปกับการเติมเกมมากกว่าล่ะมั้งคะ
เค้าหมายถึงเคสนี้ค่ะ ที่ว่าเล่นไร้สาระ ถ้า สตรีมเมอร มีรายได้ดีอันนั้นอีกเรื่อง ค่ะ
มาประเด็นสตรีมเมอร์อะไรกันเนี่ยนี่หมายถึงเคสที่สามีนั่งเล่นเกมไม่ดูแลลูกไม่ทำงานบ้าน
มันเกี่ยวอะไรกับสตรีมเมอร์เนี่ย 🤣
นี่พูดถึงความรับผิดชอบของคนเป็นสามี
สตรีมเมอร์อาไร
คอมก็มีเพิ่งถอยการ์ดจอใหม่ rtx3080 3090 ไม่ไหวแพงเกิน
ซื้อเกมใน steam หมดเป็นหมื่นแล้ว
นี่ก็เป็นคนเล่นเกมเหมือนกันเล่นมาตั้งแต่ยุคเครื่อง hatari แล้ว ตั้งแต่ยุคบุกเบิก
แต่เล่นเพื่อความสนุกผ่อนคลายหลังเลิกงานเล่นทีไม่เกิน 2 ชั่วโมงเพราะต้องไปทำอย่างอื่นต่อไม่มีเวลาว่างมานั่งเล่นทั้งวันหรอก เพราะช่วงนี้ขันบิ๊กไบค์ออกทริป ต้องเคลียร์งานและแบ่งเวลา
ก็นั่นแหละนะคนเราคิดไม่เหมือนกัน
ไม่ว่ากันครับ🙂 แล้วถ้าได้ออกไปดูอะไรกับตาของตัวเองมันฟินกว่าดูในจอคอมเยอะครับ
@@user-nc7sj6lg3c เคสนี้ไม่ได่เงินไง เราต้องยอมรับว่า ไม่ใช่ทุกคนจะได้เงินจาการเล่นเกม เราจะอ้างสตรีมเมอไม่ได้นะ ต้องดูเป็รเคสๆไป เอาจิงๆเล่นได่มั้ย ได้นะ ไม่ผิด แต่วัย 40 ควรแบ่งเวลานะ ถ้าวัยนั้นควรเล่นวันละ 1-2 ก็ได้ยุ และแบ่งให้ลูกเมียด้วยอะ
ขอแสดงความเห็นยาวหน่อย เข้าใจคุณอ้อมมากๆ เพราะอยู่ในสถานการณ์และมีประสบการณ์คล้ายๆกันมา 20 ปีแล้ว คือเราเป็นคนทำงานหารายได้ ส่วนสามีเป็น homemaker เพราะโอกาสของเรามากกว่า เราใช้ชีวิตคู่อยู่ต่างประเทศตั้งแต่ไปเรียนต่อหลังแต่งงานจนตอนนี้ลูกเข้ามหาลัยแล้ว ขอบอกว่าต้องปรับตัวกันเยอะมาก และคิดว่าที่อยู่กันมาได้เป็นครอบครัวแบบนี้เพราะอยู่ตปท คือสังคมเปิดกว้างยอมรับ stay at home dad มากกว่าสังคมไทยสมัยก่อน และ support ที่สำคัญมากๆคือครอบครัวเรา เพราะพ่อแม่จะสอนและเตือนสติเสมอว่าต้องให้เกียรติสามี การที่คนใดคนนึงออกจากงานมาเลี้ยงลูกนับว่าเป็นการเสียสละเพื่อให้ความรักและดูแลลูกซึ่งดีกว่าคนอื่น แม้สามีจะไม่ได้ทำงานแต่ก็ถือว่าเค้ามีรายได้หรือประหยัดรายจ่ายค่าจ้างคนดูแลลูก ถึงแม้เด็กจะไปรร.แล้วก็ตาม ก็ยังต้องมีกิจกรรมคอยรับส่ง สอนการบ้าน อื่นๆอีกมากมาย คำสอนของพ่อแม่คอยเตือนสติเราเวลาหงุดหงิดสามี
สังคมไทยที่ผ่านมาปลูกฝังว่าผู้ชายต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว เลี้ยงลูกเมีย เลยกลายเป็นความคาดหวังที่ขัดแย้งในใจโดยเฉพาะเวลาทำงานเหนื่อยกลับบ้านแล้วเห็นสามีนั่งเล่นเกมส์ มันก็จะมีความหงุดหงิดและรู้สึกว่ามันไม่แฟร์ ฟังแล้วคุณอ้อมเป็นคนตั้งใจทำงาน และมีหัวก้าวหน้า ก็จะไม่ชอบคนที่มองเห็นว่าใช้ชีวิตไปวันๆไม่มีความอุตสาหะพยายาม ขอให้ข้อคิดว่าต้องมองว่าข้อดีของสามีคืออะไร เราเปลี่ยนเค้าไม่ได้ การไปตปทไม่ใช่การแก้ปัญหา อาจจะเพิ่มปัญหาอีก ทั้งการปรับตัว การเรียนหนัก การต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองไม่มีญาติพี่น้องช่วยเหลือได้ ถ้าจ้างคนก็แพง ไปอยู่ตปทจะเป็นบทพิสูจน์ว่าคุณสองคนรักกันมากพอที่จะปรับตัวเพื่ออีกฝ่ายแค่ไหน สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรามาต่อจนทุกวันนี้ได้คือเวลาให้ฟีดแบค สามีจะรับฟัง และปรับเปลี่ยน อาจจะไม่ได้ตลอดแต่ถ้าเราปล่อยวางบ้างมันจะเจอกันตรงกลาง คือเค้าปรับขึ้นและเราลดความคาดหวังลง ก็จะมีความสุข อีกอย่างคือเวลาเราหงุดหงิดสามีเรื่องการไม่ทำงานหรืออื่นๆ เราจะถามตัวเองว่าถ้าเราสลับบทบาทหน้าที่กัน สามีจะหงุดหงิดกับสิ่งที่เราทำมั้ย คำตอบส่วนใหญ่คือไม่ ทำให้เรารู้ว่าความคาดหวังของเรา hurt เราเอง
ขอแนะนำว่าอย่าตั้งความหวังสูงว่าการไปตปท.จะแก้ปัญหาทำให้สามีมีโอกาสงานมากขึ้นเพราะอาจจะมี hurdle อื่นเข้ามา (ภาษา ความมั่นใจที่ลดลงเนื่องจากไม่ได้อยู่ใน job market มาพักนึง หรือ marketability ในสถานการณ์นี้) ค่อยๆปรับกันไป เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้เป็นครอบครัวที่อบอุ่นและแข็งแรง
แค่รู้สึกผิดหวังและเหนื่อย ทำมาทั้งหมดเพื่ออะไร แบบนี้เรียกภาระชัดๆ อยากทำแต่จับจด ยิ่งฟังยิ่งอยากร้องไห้
ฟังแล้วไม่เหมือนมีสามี เหมือนมีลูกชายคนโตที่โดนสปอยมาตลอด พอโดนด่าก็ดีขึ้นมาหน่อยนึง แต่ยังไงสุดท้ายแม่ก็โอ๋อยู่ดี
สั้นๆ..ถามใจตัวเองดูว่ายังรักเขาอยู่รึป่าว..เขามีข้อดีตรงไหน..ถ้าได่ตำตอบแล้ว..ว่ายังรักเขาอยุ่ เขายังมีข้อดี..รีบไปปรึกษาจิตแพทย์ เกี่ยวกับปัญหาครอบครัวเพื่อหาทางออกด่วนเลย จับทางให้ถูกเพื่อหาทาวแก้ไข.ถ้ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เลิกเถอะค่ะ..เสียเวลาชีวิตเสียสุขภาพจิตทั้งเราและลูก แถมลูกโตมาจะสับสนว่าใครเปนหัวหน้าครอบครัวกันแน่ ถ้าไม่ได้รับคำอธิบายที่ดีพอ..สู้ๆค่ะ
คนเป็นแม่บ้านแบบเรา ฟังแล้วก็แอบจิตตกงะ อำนาจเงินอยู่ในมือสามี เราไม่รู้เลยว่าอะไรบ้างที่เราถูกใจหรือไม่ถูกใจเขา บางครั้งบางมุมเราตั้งใจทำเขากลับมองไม่เห็น แต่เขาดันอยากเห็นตอนที่เราไม่ได้ทำ กะนะ ใครถือเงินคนนั้นมีอำนาจจริงๆ หังแล้วแอบจิตตก
ฟังความข้างเดียว มันก็ยากที่จะแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด…
ภรรยาเป็นผู้บริหาร เลยบริหารจัดการสามีแต่ไม่ได้ดั่งใจ ส่วนหนึ่งของปัญหาคือเรา เพราะเราป็นคนเลือกต้องยอมรับก่อน ใจเย็นๆแล้วคุยกันลูกยังเด็ก
มีเพื่อนที่เลือกผู้ชายที่ไม่มีความเป็นผู้นำเหตุผลคือจะได้เอาผู้ชายให้อยู่ในโอวาท เเต่พอเจอปัญหาในชีวิตที่ผู้หญิงต้องออกจากงาน เเล้วอยากให้ผู้ชายเป็นผู้นำเเต่เขาทำไม่ได้ก็มานั่งเสียใจ ก่อนเลือกเขามาก็รู้อยู่เเล้วว่าเขาเป็นคนยังไง อยู่มาเป็นสิบปีอยากให้เขาเปลี่ยน มันจะเปลี่ยนได้ไหม
อย่าทำอะไรแทนเขาหมดเลยครับ พึ่งพาความสามารถเขาบ้าง อย่าทำเหมือนเขาเป็นคนง่อย เก่งทุกเรื่องบางทีก็ไม่ดี บางอย่างเราอาจทำได้แต่แกล้งทำไม่ได้บ้างก็ได้ พึ่งพากันและกัน คนละครึ่ง เท่าที่ฟังมาสามีคุณอ้อมยังดีที่เขายังรับฟังทุกอย่าง บ้างบ้านพูดทีก็ตีกันบ้านแตกแล้ว
คุณอ้อมเก่งมากๆครับ สู้ๆครับ
คุณอ้อมไม่ผิดที่หงุดหงิดค่ะ เราเข้าใจคุณอ้อมนะ ถ้าคุณอ้อมกับสามีรู้จักตัวเองมากขึ้น จะเข้าใจว่าปัญหาต่างๆเกิดจากอะไร อยากให้ลองศึกษานพลักษณ์ (enneagram) ดู จะทำให้เราเข้าใจตัวเองและผู้อื่นมากขึ้น เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกันเลย แล้วลดความเป็นตัวเองลงคนละนิด ปรับตัวเข้าหากันเพิ่มอีกหน่อย สู้ๆนะคะ ทุกปัญหามีทางออก 🤍
ฟังมาทั้งหมด ไม่ได้ยินชีวิตของสามีเลย ไม่เห็นเลยว่า เค้ามีชีวิต ทุกอย่างคือต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของคุณอ้อม จากคำว่าไม่ชอบ ไม่ได้ ไม่เป็นแบบที่อ้อมคิดไว้ ไม่ได้ดั่งใจ สรุปมีสามีมาเป็นคู่ชีวิต หรือ เป็นลูกน้อง แนะนำว่า คืนชีวิตให้เค้าบ้างไหม บางทีเค้าก็รู้สึกไร้ค่า แต่ไม่อยากขัดเมีย เพราะเค้ารักมาก ไม่อยากทำให้ภรรยาเสียใจ ครับ บางทีก็อยากได้ฟังความจริงจากปากสามีบ้างเหมือนกัน
สตอรี่เหมือนพี่ชายเรามากๆๆๆๆ สามีทำงานไอที ภรรยาเป็นผู้บริหาร ยังแอบคิดว่าพี่สะใภ้โทรมาเล่าปะเนี่ย 😆😄 จะบอกว่าคนนิสัยแบบนี้ ต่อให้ไม่ได้ออกมาเลี้ยงลูก เค้าก็ไม่เลิกเล่นเกมส์และไม่เลิกทำตัวเอื่อยเฉื่อยหรอกค่ะ จะเป็นแบบนี้ไปจนแก่ คุณต้องทบทวนแล้วว่าจะอยู่กันไปแบบนี้ได้จริงๆเหรอ นิสัยต่างกันเกินไป คนนึงเดินหน้าหาแต่ความก้าวหน้า แต่อีกคนหายใจทิ้งไปวันๆ ชีวิตคู่ไม่น่ารอด พี่ชายเราก็หย่าหลายปีแล้ว ปัจจุบันเงินเดือนก็ยังอยู่ที่ 2 หมื่นกว่าๆ ส่วนพี่สะใภ้กระโดดไปหลายแสนละ 😂🤣
เรื่องเล่นเกม ถ้าทำงานด้วยก็ไม่อะไรนี่ แต่ให้เขาออกจากงานมา แล้วเขาทำงานบ้านไม่ถูกใจทำไม่มากพอ ทำกับข้าวไม่ได้ ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ได้ละเอียดอ่อนขนาดนั้น สุดท้ายไล่เขาไปหางาน 😔
เคสนี้ผมเห็นต่างจากดีเจครับ คุณอ้อมไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ส่วนตัวผมชอบผู้หญิงเก่งครับ มันทำให้ผมรู้สึกอยากจะพัฒนาตัวเองไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง อย่างน้อยก็ทำให้ดีในด้านที่จะลดภาระของคุณอ้อมได้ ฟังมาจนจบ แฟนคุณอ้อมไม่คิดจะพัฒนาตัวเองเลยอะไรที่พอจะลดภาระให้คุณอ้อมได้ก็ไม่ได้ทำให้ดีหรือบดภาระของคุณอ้อม อย่างน้อยๆงานบ้านต้องดีแล้วครับ นี่งานบ้านก็ไม่ค่อยเอาอะไรก็ไม่ค่อยได้ตามที่ควรจะเป็น แฟนคุณอ้อมต้องพัฒนาตัวเองด้วยครับ คุณอ้อมทำหน้าที่รับผิดชอบการเงินแล้ว แฟนคุณอ้อมเป็นพ่อบ้านก็ต้องทำหน้าที่พ่อบ้านให้ดีด้วยครับ
จริงๆ อยู่ที่สามีนะคะ หลายคนเป็นพ่อบ้าน ไม่จำเป็นจะต้องอยู่เฉยๆ หาอะไรทำก็ยังได้ แต่อันนี้คือเป็นพ่อบ้าน มีเงินเดือน แต่คุณอ้อมก็ยังทำหน้าที่ภายในบ้าน คุณสามีพอคิดจะทำอะไร เรื่องบ้านก็ไม่ทำอย่างที่พูด ดูแล้วคุณอ้อมไม้ได้หวังอะไรมากเลย ขอแค่ให้ลุกขึ้นมาทำอะไรบ้าง อย่างจะไปทำสวน คุณอ้อมสนับสนุนเต็มที่ ไม่มีการด้อยค่าคุณสามีเลยอย่างที่บางคอมเม้นบอก นี่คิดว่าคุณอ้อมน่าจะเหนื่อยมาก ขอให้ปรับกันให้ลงตัว เพราะว่าทั้งคู่น่าจะเข้ากันได้ดีด้วย เพียงแค่คุณสามีต้องปรังปรุงค่ะ ส่วนคุณอ้อม อยากให้พักบ้าง เหนื่อยแทนเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ❤️❤️
ครอบครัวไหน ใครหาเงินได้มากกว่า มักจะคิดแบบนี้ ตอนรักกัน ทนได้ แต่พอนานเข้า กลายเป็นข้อเสียซะงั้น
การที่ผู้ชายเสียสละออกมาเป็นพ่อบ้าน หลายคนดูไม่เห็นด้วยกับคุณอ้อม บอกทำไมตัวเองไม่มาทำ ปกติคนที่มีศักยภาพหาเงินได้มากกว่าก็ต้องทำงานอะถูกแล้ว เงินเดือนก็ให้ ขออะไรก็สนับสนุนทุกอย่าง ทำความสะอาดบ้านก็มีแม่บ้าน อาหารล้างจานคุณอ้อมก็ทำ สวนก็ซื้อแต่ไม่ทำ ทำแค่หน้าที่เลี้ยงลูก ขนาดการทำหน้าที่พ่อเราไม่อยากตัดสินนะแต่ให้เด็กดูไอแพดแล้วตัวเองเล่นเกม นี่เกินไป
คนไทยบางคนเลิกคิดว่าผู้หญิงทุกคนต้องออกจากงานมาเลี้ยงลูกเถอะ นี่รู้สึกเขาหวังดีแหละอยากให้สามีตัวเองมีแพชชั่นทำงาน แต่ระยะเวลาที่อยู่บ้านเลี้ยงลูกก็นาน สามีคุณอ้อมควรพบจิตแพทย์จริงๆ
เราเทียบคุณอ้อมเหมือนเจ้าของบริษัทต้องการนำพาบริษัทไปถึงจุดสูงสุด ส่วนคุณสามีเหมือนพนักงานบริษัททำงานรอรับเงินเดือนตอนสิ้นเดือน จุดมุ่งหมายของคุณสองคนไม่ตรงกัน ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ความศรัทราต่อกันน่าจะไม่เหลือ ถ้ายังอยากอยู่ด้วยกันโดยที่คุณไม่เหนื่อยจนเกินไปคงต้องลดความคาดหวังลง เสาร์อาทิตย์หากิจกรรมที่ให้เค้าเป็นผู้นำบ้างค่อยๆปรับไปค่ะ
งงที่มีคนว่าผญว่าบังคับผช แบบให้ลาออกมาเลี้ยงลูกไง แต่เลี้ยงก็ไม่ดี งานบ้านก็ไม่ค่อยทำ ผญเนี่ยตามใจมากเลยนะ อยากทำอะไรก็ตามใจหมด ออกตังให้ทุกอย่สง ขนาดงานยังจะช่วยหาอ่ะ คือผชเอื่อยเกินไป เลี้ยงหมาก็ไม่เลี้ยง ทำสวนก็ปล่อย จานยังไม่ล้าง เค้าทำหน้าที่ของตัวเองไม่ดีอ่ะ แล้วผญยังสปอยด้วย ผชเลยเคยตัว
อย่าไปเมืองนอกเลยค่ะ ไปก็ไม่รู้ว่าผชจะทำงานจริงไหม ลองหาอะไรให้ผชทำที่บ้านดูค่ะ เช่นเขียนบทความ สอนเด็ก ขายของ หรืออะไรก็ได้ที่จัดการเวลาเองได้
เสียสละมาดูลูกให้เรา ? อ่าว ละไม่ใช่ลูกเขาเหรอ ?? พูดเหมือนหน้าที่เลี้ยงลูกต้องเป็นของผญ พอผชมาทำกลายเป็นเสียสละ โห ฟังละขัดใจ
ตีความผิดนะคะ ที่เค้าว่าเสียสละในที่นี้คือหมายถึงเสียสละอนาคตหน้าที่การงานค่ะ เพราะการออกจากงานอายุ35เหมือนต้องทำใจแล้วว่าชีวิตการงานคงจบแล้วค่ะ คุณลองนึกภาพว่าชีวิตของคุณมันไม่มีอนาคตที่คุณจะประสบความสำเร็จในสายอาชีพได้อีกแล้ว มันก็ดูหดหู่อยู่นะคะ ถึงแม้ว่าจะเป็นการออกมาเลี้ยงลูกของเรา แต่ก็คือการเสียสละนะคะ เพราะไม่งั้นเค้าก็เอาลูกไปฝากคนอื่นเลี้ยงก็ได้ แต่เค้าไม่ทำเพราะพ่อแม่ย่อมเลี้ยงได้ดีที่สุด
เราก็เป็นคนนึงคล้ายคุณอ้อม และแฟนเราก็เป็นแบบสามีคุณอ้อมเลยค่ะ เราสปอยแฟนจนเค้าเอาแต่ใจ ไม่มีวามเป็นผู้นำ อยู่กันมาสิบกว่าปีชีวิตยิ่งแย่ลงไม่มีอะไรมีแต่หนี้สิน ล่าสุดปีที่แล้วไปนอกใจไปมีผู้หญิงใหม่ถึง 5 เดือน ไปกันไม่รอดกลับมาขอโทษขอโอกาสเราอีก เราก็ให้โอกาสค่ะ มีปีนี้ปีที่ 11 นิสัยเค้าเหมือนเดิมทุกอย่างไม่กระตือรือร้น ขี้เกียจ สกปรก ตอนนี้เริ่มไม่ไหวแล้วค่ะ รู้สึกสงสารตัวเอง ทำไมไม่ให้โอกาสตัวเองได้เจอชีวิตที่มันดีกว่านี้ ฟางเส้นสุดท้ายแล้วค่ะรอบนี้
ควรถามกันอ่ะอยากทำงานไรเอาเเบบเด็ดขาดเเล้วอีกอย่างฉันไม่คิดว่าผู้หญิงผิดนะต่อให้ผชเลี้ยงลูกถ้าคิดจะต้องมีงานมีการต่อให้สองปีเลี้ยงลูกเขาก็จะกลับมาทำงานค่ะเเต่เขาสบายเกินไป แล้วดูเขาจะติดเกมด้วยและเราว่าคุณมองสามีไม่ขาด ถามตรงๆเลยค่ะชีวิตนี้ต้องมีเป้าหมายและต้องทำงานอะไรคุณอยากทำอะไรเมืองนอกที่จะไปคือการเริ่มต้นใหม่ค่ะ คุยกันให้หมดเลยค่ะเรื่องที่คาใจ ความฝันของสามีการงานที่อยากทำ
อย่างแรกนะคะ ขอชื่นชมคุณอ้อม ฟังแล้วดูคุณอ้อมเป็นคนเปิดใจรับฟังมาก…เข้าใจเลยค่ะ ด้วยความที่เป็นคนเก่ง ใส่ใจคนรอบข้างและพร้อมเสียสละจึงทำสิ่งต่างๆมากไปจนเค้าเคยชินที่ได้รับ บางครั้งเหมือนยื่นมือไปช่วยโดยที่เค้าไม่ได้ร้องขอ จึงทำให้เค้าไม่ได้รู้สึกขอบคุณเราบ้าง ใส่ใจบ้าง ยากนะคะที่เค้าจะเปลี่ยน ถ้าเค้าเป็นคนที่คุยรู้เรื่องก็แนะนำให้คุยกันก่อนไปต่างประเทศค่ะ แต่ถ้าตรงข้ามก็จะเหนื่อยหน่อยช่วงที่อยู่ต่างประเทศ แต่ก็เป็นกำลังใจให้นะคะ ยังไงการที่มีเรซูเม่ที่ดี แถมได้ภาษาก็หายห่วงค่ะ การใช้ชีวิตใหม่ๆอาจทำให้เค้าดีขึ้นก็ได้ค่ะ✌️✌️
คุณอ้อมคือคนเก่งแบบเก่งมากๆ อ่ะ สามีคุณอ้อมอาจจะรู้สึกกดดันด้วยรึเปล่า เพราะเหมือนตามไม่ทัน แต่เรื่องนี้อาจจะคุยกันได้ หักล้างกันได้ เพราะคุณอ้อมสปอยทุกอย่างที่อยากทำ แต่คนที่ขี้เกียจและทำให้มันพังคือสามีเอง ตอนแรกที่ฟังว่าเป็นพ่อบ้าน เราก็คิดว่าเค้าทำงานบ้านด้วย แต่สุดท้ายคือจ้างแม่บ้านมา เอาตรงๆ เหมือนแค่ลาออกมาเลี้ยงลูกช่วงนึง แล้วพอลูกไปแล้วจะทำอะไรอ่ะ คุณอ้อมไม่ได้ผิดนะคะ แค่คุณอ้อมเก่งแบบเป็นผู้หญิงเก่งมากๆ และมีวินัย แบบแผนมากๆ แต่คุณสามีไม่พยายามเติมเต็มตรงนี้ หรือช่วยซัพพอร์ตได้เลย ถ้าเราเป็นคุณอ้อม เราอาจจะไม่บังคับสามีให้ทำงาน ถ้าเขาสามารถซัพพอร์ตเราได้ เป็นกำลังใจเราได้บ้าง รับผิดชอบทุกอย่างที่เราไม่ได้ทำแทน ก็น่าจะอยู่ด้วยกันได้ แลัไม่หนักใจเท่านี้
ชีวิตคู่ ตัดสินใจร่วมกัน รับผิดชอบร่วมกันค่ะ
คุณคือภรรยา คุณไม่ใช่แม่ของเขา คุณไม่ใช่เจ้านายของเขา และใช่ในทางเดียวกัน สามีคุณไม่ใช่ลูกของคุณ ไม่ใช่ลูกน้องของคุณ
คุณต้องให้เกียรติสามีคุณมากกว่านี้
เข้าใจความรู้สึกนี้ดีค่ะ
คนรู้จักเราเป็นแบบคุณอ้อมเลย พอสามีทำอะไรไม่ได้ดั่งใจเค้าก็จะมำเองหมดจนผู้ชายไม่ทำไรเลย ส่วนเค้าก็แบกทุกอย่างจนเหนื่อย อย่างนึงเกิดจากพอผู้ชายเห็นว่าภรรยาตัวเองเอาไปทำเองหมดก็ไม่ได้ตระหนักออกจะสบายตัวด้วยซ้ำ สุดท้ายภรรยาเลยดิ้นรนหางานที่เหมาะกับสามีลงทุนให้ทุกอย่างควบคุมจนเริ่มอยู่ตัวก็เริ่มทำข้อตกลงกับสามีว่าสามีต้องรับผิดชอบอะไรบ้างเช่น ภรรยาจ่าย1,2,3 สามีรับผิดชอบ 4,5,6ก็เลยดีขึ้น แต่ไม่เห็นด้วยกับพิธีกรที่บอกว่าเขา”อุตส่าห์”ออกมาเลี้ยงลูก ในเมื่อลูกคือตั้งใจทำด้วยกัน คุณทำงานนอกบ้านไม่ดีเท่าอีกคนคุณก็ต้องยอมรับและปรับตัวแหละ
ฟังพิธีกรแล้วอยากจะกรี๊ดด โอ้ยยยยย
สามีเราก็เล่นเกมส์เหมือนกันค่ะ มากแค่ไหน คือทำงานกลับมาบ้านก็ เล่นเลย คืองานบ้านทุกอย่างเป็นของเราคนเดียวคะ เราก็ทำงานบริษัท เหมือนกัน ไม่ได้เป็นแม่บ้านอย่างเดียวคะ ถ้าวันไหนเหนื่อยมากๆก้ซื้อข้าวกินข้างนอก แต่ดีที่เค้ายังทำงาน ประจำ ผิดที่คุณอ้อมให้เค้าออกงานมาเลี้ยงลูกเองคะ พอออกมาก็หมดไฟทำงานแล้วคะ นั่นคือคุณต้องรับผิดชอบในตัวสามีนะ แนะนำให้เปิดกิจการเล็กๆให้สามีทำ เช่นร้ายขายของชำ สามารถ เล่นเกมส์ไป ดูร้านไปได้ เรื่องเล่นเกมส์เราไม่เคยว่าสามีคะ แถมลงไปเล่นด้วย ทำให้มีเรื่องคุยกันมากขึ้น ถึงมันจะดูไร้สาระ แต่ความสัมพันธ์ มันดีต่อใจ
เลิกกับแฟนคนแรกที่คบกว่าสิบปีเพราะสาเหตุเดียวกันเลย อยากมีสามีอยากมีคู่คิดไม่ได้อยากมาลูกเพิ่ม ถ้ายังรักกันอยู่ต้องพูดให้เด็ดขาด ตกลงกันให้ดีว่าหน้าที่แต่ละคนควรเป็นยังไงและทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ถ้ามีไอเดียว่าในอนาคตจะบินกลับมาหย่าที่ไทย ให้หย่าก่อนไปเลยค่ะ ถ้าเค้าไปถึงเมืองนอกแล้วเค้าไม่มีทางบินกลับมาหย่ากับคุณง่ายๆ แน่ แล้วจะพากันพินาศไปหมด
อยากบอกคุณอ้อมว่าการถือวีซ่านักเรียนในยุโรปทำงานได้ชั่วโมงจำกัดมากๆ (เนเธอร์แลนด์ได้ 20 ชั่วโมงต่อวีค) แล้วการที่พ่วงสามีไปด้วย สามีก็จะได้ชั่วโมงทำงานเท่าๆคุณเพราะพ่วงวีนักเรียนของคุณมา ดังนั้นก็ต้องหางานประจำ แต่ถ้าจะหางานประจำ ก็ต้องหาแบบที่ได้วีซ่าอยู่ต่อด้วย ตรงนี้อาจจะยากทั้งคุณและสามี เพราะไม่ง่ายที่นายจ้างจะสปอนเซอร์วีซ่าให้เราด้วย มันมีข้อจำกัดเช่นงานต้องเป็นงานสกิลสูง แล้วยังพ่วงลูกมาอีก เพื่อนเราก็พ่วงแฟนมาด้วยตอนเรียน แฟนก็ไม่ได้ทำอะไรเพราะมันทำอะไรไม่ได้เลย หางานไม่ได้เพราะวีซ่าตัวเองมีค่าเท่าวีซ่านักเรียน ชั่วโมงจำกัด นายจ้างก็ไม่อยากขอwork permit ให้ ควรศึกษาเรื่องงานและวีซ่าให้มากๆก่อนไปค่ค่ะ ที่นี่ไม่ใช่ว่ามาแล้วหางานทำได้เลย เราเป็นคนนอกอียู ข้อจำกัดเยอะมากๆ อย่าคิดมาหาเอาดาบหน้าเด็ดขาด ไม่งั้นจะเสียเงินไปเฉยๆเพราะมาแล้วไม่ได้อย่างที่คิด ความอยากทำงานมีมากแค่ไหน แต่งานจะไม่มีนี่สิเพราะถือวีซ่านักเรียน
คุณอ้อมคะ วินาทีที่ดีเจถามว่า ได้พูดประโยค อะเดียวฉันทำเองมั้ย พอคุณอ้อมบอกพูด คือเราปลดล็อคเลยอะ ไม่มีใครทำได้เพอร์เฟค ไม่มีใครทำได้ถูกใจ เเต่เราต้องให้เค้าทำค่ะ ไม่งั้นคนที่เหนื่อยจะเป็นเรา เราเคยเป็นเเบบนั้นตอนเรียน เวลาทำงานกลุ่ม เราวาดสวย เราทำเรียบร้อย เราทำเก่ง เเต่มีเพื่อนที่ไม่ได้เรื่อง เราก็บอกไม่ต้อง เราทำเอง สุดท้ายมันเหนื่อยมาก พอเสร็จมันพอใจก็จริง เเต่ระหว่างทางมันเหนื่อยมาก เเต่มันเป็นทางที่เราเลือกเอง
ความคิดเห็นส่วนตัว พี่เติ้ลบอกว่า คุณอ้อมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สามีกลายเป็นคนนิสัยแบบนี้ เราคิดว่า ไม่ใช่ความผิดคุณอ้อมที่บอกว่าเป็นต้นตอปัญหา แต่แค่พยายามหาวิธีทางออกให้ดีที่สุดสำหรับครอบครัวมากกว่า จากที่ฟัง เพราะสามีไม่สามารถวางแผนจัดการปัญหาครอบครัวได้ และคิดว่ามันเป็นนิสัยฝังรากของ ผช มากกว่า คุณอ้อมไม่ใช่อยากสปอย แต่เขาพยายามซับพอร์ตสามี แค่สามีได้มีช่วงจังหวะที่คุณอ้อมให้ออกจากงานมาเลี้ยงลูก กลายเป็นคนรักสบาย เล่นเกมได้อย่างอิสระและรับผิดชอบน้อยแบบนี้ได้อย่างสมบูรณ์ แทนที่จะใช้เวลาว่างส่วนใหญ่เป็นพ่อบ้านที่ดี ดูแลบ้าน ดูแลลูก ซับพอร์ตภรรยา แต่กลายเป็นภรรยาที่ทำงานนอกบ้านแล้วยังมาดูแลภาพรวมความเรียบร้อยในบ้านและซับพอร์ตสามีอีกทีหนึ่ง
ปล.ชอบการแนะนำพี่หอม ชัดเจน ตรงจุด ตรงประเด็น เห็นภาพ
จะให้ "คน" เปลี่ยนสันดาน มาเป็นแบบที่ตัวเองต้องการทุกอย่าง อาศัยว่าหาเงินได้เยอะกว่า ต้องว่าตามฉันสิ ชัดเจนมาก(แต่มีความคิดเรื่องความเท่าเทียมนะ) สงสารสามีจัง
ถ้าเลือกได้ เขาคงอยากลำบากกว่านี้สักนิดนึง ได้ดิ้นรนแบบที่ตัวเองอยากทำ ได้พักผ่อน ได้เป็นตัวเองบ้าง นอกลู่นิดหน่อยก็ฝืนข่มใจกลับมาเข้าทาง คงจะมีความสุขกว่านี้มาก ทำเต็มที่ทำดีให้ตาย ก็ไม่ถูกใจ แถมเอามาด่าออกรายการ เป็นฉัน ไม่ไหวหรอก
ขอบคุณสายนี้มากๆค่ะ
คุณหอมมองได้ขาดและแนะนำได้อย่างชาญฉลาดมากเลยค่ะ สุดยอดมากคะ👍👍👍
ฟังไปสักพัก แล้วพิธีกรตรงกลางถามขึ้นมา คือโป๊ะเชะมากกก เป็นผญที่ไม่ได้ให้ความเชื่อมั่นในสามี ตัวเองเป็นผู้บริหาร ก็เลยคิดเองเออเองหมด เอาตรงๆ ไม่แค่ผช.หรอกผญ.ก็มี ถ้าคู่ของเรา ไม่ได้ให้เกียรติอะไร ไม่ได้ให้ความเชื่อมั่น ไม่ได้ให้ความสำคัญ เขาจะค่อยๆถอยออกมา แล้วก็จะไม่ทำ เพราะเช่นแค่ทำกับข้าวไม่อร่อย แล้วก็แบบว่าฉันทำเองเธอไม่ต้อง คุณค่ะ ให้เขาฝึกก็ได้ ไม่มีใครดีเลิศตั้งแต่เกิดหรอก ที่บ้านสามีเราก็ไม่ได้ทำอาหารอร่อยตั้งแต่แรก แต่นี้คือก็ชม ก็บอกกลางๆ ไม่ได้บอกว่าไม่ต้องฉันทำเอง ไปๆมาๆ เขาก็ทำจนอร่อย เวลาเราไม่สบาย เขาก็ซัพพอร์ทลูกแทนเราได้ ไปส่งได้ พาไปทานข้าว คือต้องปล่อยบ้างค่ะ สามีนะคะ ไม่ใช่ลูกอีกคน
เคสนี้เรารู้สึกว่า ผู้หญิงเองเป็นคนเก่งมากจริงๆ แต่จะมีความติดเป็นเพอร์เฟคชั่นนิสนิดหน่อยค่ะ ทุกอย่างต้องเป๊ะ ชีวิตเลยจะยืดหยุ่นหน่อย แต่ก็ด้วยเหตุผลที่ต้องรับผิดชอบเหมือนเป็นเสาหลักครอบครัว ไหนจะเครียดงานด้วย มันเลยจะเหนื่อยมากกว่าปกติ อยากให้ลองหาเวลาพักผ่อนกันดูสักวัน 2 วัน นะคะ พักร่างกาย พักสมอง แล้วลองหาเวลาคุยกัน ปรับความเข้าใจทัศนคติกัน ส่วนสามีอาจไม่ใช่คนเก่ง พอไม่ทำงานเลยก็เหมือนไม่รู้จักตัวเองหลังจากนั้น รู้สึกด้อยค่าตัวเองตลอดเพราะทำอะไรก็ดูขัดใจภรรยา เช่น เรื่องอาหาร ลองให้โอกาสเขาได้ทำนะคะ แล้วเราพูดชมเป็นกำลังใจ + พูดเสริมให้เขาค่อยๆพัฒนาได้ค่ะ พอเราไม่ให้โอกาส ไม่มีกำลังใจ + กับสามีที่ก็ไม่ได้รู้สึกภูมิใจตัวเอง มันเลยเกิดการไม่ทำดีกว่าเกิดขึ้น เพราะกลัวว่าทำไปแล้วไม่พอใจอีก ปรับให้เป็นตรงกลาง จะดีนะคะ คิดซะว่า วันหนึ่งถ้าไม่มีพ่อหรือแม่ หรือใครสักคน ลูกเรายังจะอยู่ได้ค่ะ
เกือบได้เป็นคุณอ้อม2แล้ว ดีแล้วค่ะพี่เลิกกับแฟนเก่าไปได้ ผู้ชายนอกใจด้วยนะคะ เรานี้แบบเศร้ามาก ละไปง้อจนไม่มีค่าเลย กว่าจะผ่านมาได้ แต่พอผ่านมาแล้วจะรู้ว่ามันดีมากๆเลยค่ะ ดีกว่าที่เราจะต้องมานำเค้าทุกเรื่อง คอยเป็นคนเริ่มในทุกๆอย่าง ต้องจัดแจงแม้กระทั่งเรื่องส่วนตัวให้ ออกมาค่ะแล้วชีวิตจะปังมาก
สิ่งที่ได้จากเรื่องนี้คือเรื่อง งาน อายุ 40+หางานยากหลายๆบริษัทไม่เลือกรับคนที่อายุเกิน 30+ อย่างหนึ่งที่อยากคนในประเทศไทยเปลี่ยนมุมมองนี้ใหม่ มองที่ความสามารถศักยภาพของตัวบุคคลมากกว่าเรื่องอายุ ไม่แปลกใจทำไมคนรุ่นใหม่ถึงอยากย้ายประเทศ
จริงๆงานของพี่ผู้ชายก็เหมาะสมกันความสามารถและเพดานความสามารถของเขานะครับ ตำแหน่งจะเลื่อนขึ้นไปกว่านี้ก็คงต้องมีแผนกใหม่ที่ต้องการความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ของเขา ผู้บริหารด้านIT support คงไม่มีตำแหน่งนี้ง่ายๆหรอกเต็มแค่ก็แค่ผู้จัดการ เขาชอบด้านนี้เพราะเขาชอบเกมและเก่งในเกม ทำให้เขามั่นใจที่จะเล่นและอยู่กับมัน พี่ผู้หญิงดึงเขาออกจากที่ ที่เขามีงานมีเงินและเล่นเกมไปด้วยได้ ทำให้เขาหมดคุณค่า ควรเลือกให้เขาทำที่เขาชอบครับ ทางเล่นเกมหาเงินรายได้ก็ไม่น้อยนะครับเก่งระดับนั้นพี่ผู้ชายน่าจะทำได้ คนติดเกมไม่ทำอย่างอื่นให้เหนื่อยหรอกครับแค่เขานั่งในห้องเย็นๆเขาก็หาเงินได้นี่เป็นเหตุผลที่ทำสวนไม่ไปถึงไหน ยิ่งผู้หญิงเก่งมากๆแบบนี้และไม่เข้าใจเรื่องเกมเลย เข้ากิลเข้าตี้ก็ไม่เข้าใจ แปลว่าความคิดของพี่ผู้หญิงจะฉีกไปคนละทางกับพี่ผู้ชายไปมาก เรียกว่าเข้ากันไม่ได้ครับ ยอมรับเถอะครับว่าสามีติดเกมและมีอีกโลกที่ยอมรับความเก่งของเขา คนพวกนี้มีอีกสังคมอยู่เขาจึงไม่ได้แคร์สิ่งภายนอก
ผมก็เด็กติดเกมครับ
คุณพี่ผู้หญิงเก่งมากๆ เข้าใจอะไรหลายอย่างมาก เข้าใจทุกอย่างแต่คุณเข้าใจสามีคุณน้อยไป
คนเป็นเมีย อ่านประโยคที่ว่า พี่ผู้หญิงดึงเขาออกจากที่ เอิ่มม ถ้ามันรู้สึกขนาดนี้ก็อย่าอยู่ด้วยกันเลย จงอยู่ในที่ของตัวเองต่อไป อย่าได้มีเมียมีครอบครัวเลย จะได้ไม่รู้สึกว่าใครมาดึงตัวเองออกจากที่อ่ะ ทั้งๆที่ความจริงคือคุยกันตกลงกันแล้วว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายยอมเพราะเหตุผลปัจจัยอะไรต่างๆ แต่สรุปคือยอมออกมาเอง พอสุดท้ายมาใช้คำว่า ถูกดึงออกมาจากที่(ของตัวเอง) เหมือนโยนความผิดให้อีกฝ่ายเลยอ่ะ มันไม่แฟร์นะคิดแบบนี้
@@n2knikkies พี่ผู้ชายเขายอมออกงานนี่ครับเพราะพี่ผู้หญิงทำงานได้ดีกว่า แต่พี่ผู้หญิงมีปัญหากับการที่สามีอยู่บ้านทั้งๆที่ตกลงกันแล้วไม่ใช่หรอครับว่าใครจะทำและใครจะดูลูก จริงๆ2คนตกลงกันคุยกันให้จบก็จบละครับเมียพูดกับเราทำไมจะไม่รับฟัง พี่ผู้หญิงตั้งหลักจะมาเล่าให้คนอื่นฟังว่าสามีเป็นยังไงคุณไม่คิดว่าฟังความข้างเดียวแล้วตัดสินหรอกครับ บางทีพี่ผู้ชายอาจจะคุยแล้วจบก็ได้การศึกษาเขาก็ดี ทำไม่สามีภรรยาไม่คุยกันแต่ปรึกษาคนนอก ผมถึงบอกว่าเขาไม่เข้าใจกันหรือเข้ากันไม่ได้มากกว่า “คำว่าดึงเขาออกมา”มาจากคนนอกอย่างผมที่บอกเพราะเป็นมุมมองของบุคคลที่3ครับ ถ้าผัวเมียคุยกันทั้งการศึกษาและวุฒิภาวะคงไม่มีคำพูดที่ไม่ดีหรอกครับ
ยังไงสะผู้หญิงก็ต้องการดูแล การเป็นผู้นำ การปกป้องคุ้มครองจากผู้ชาย ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย เราเป็นคนหนึ่งที่เลิกกับสามีด้วยเหตุผลที่เราไม่เคารพนับถือในตัวเค้าแล้ว ความผิดก็มาจากตัวเราด้วย เราดูแลทุกเรื่องในบ้านเป็นส่วนใหญ่ ทั้งหารายได้ เลี้ยงลูก งานบ้านช่วยกันทำ เวลาในครอบครัวเรามีปัญหาเราจะรีบจัดการทุกอย่างเองสามีเราเค้าไม่ต้องคิดหรือดิ้นรนอะไรทั้งสิ้น จนนานวันเข้าเรารู้สักว่าสามีเราเป็นเหมือนลูกเราคนหนึ่ง
ชีวิตเมืองนอก พิสูจน์รักมาหลายคู่แล้วค่ะคุณอ้อม เราจะเห็นเลยค่ะว่า เขาเป็น คนรัก หรือ เขาคือ ตัวภาระ เอาใจช่วยให้ตาเห็นความจริงนะคะ
ประสบการณ์สอนว่า อย่าให้ใครมีอำนาจถือครองเงินไว้คนเดียว
บอกแฟนคุณ ทำคลิปยูทูป เล่นเกมส์ เลยค่ะ หารายได้เพิ่ม อย่างพี่ยูทูปเปอร์บางคน อายุ 40 ปีแล้ว แฟนคลับเยอะมาก..จะได้มีรายได้ มีสังคม เล่นแบบไม่เปิดหน้าก้อได้..สู้ๆ ค่ะ
ตัวคุณสามีตอนนี้อาจไม่เหลือความรู้สึกที่ว่า ตัวเองมีคุณค่า เหลืออยู่เลยก็เป็นได้ แตกต่างกันมากนะครับ การหาเงินได้ด้วยตัวเอง กับเมียให้เงินเดือน จำนวนเงินเท่ากันแต่ความรู้สึกคนละเรื่อง อาจมีคนคิดว่า จะคิดมากทำไม ในเมื่อเป็นครอบครัวเดียวกัน ใครเก่งด้านไหนก็ควรทำด้านนั้น
ต้องอย่าลืมว่าสังคมไทยหล่อหลอมผู้ชายให้ต้องเข้มแข็ง แข็งแกร่ง แพ้ไม่เป็น อ่อนแอไม่ได้นะครับ ผู้ชายต้องเป็นช้างเท้าหน้า ต้องดูแลครอบครัว ต้องมั่นคง เอาแค่สมัยนี้ ผู้หญิงพูดว่า ไม่มีใครอยากกัดก้อนเกลือกินกันแล้ว ก็ไม่แปลก แต่ถ้าผู้ชายพูดประโยคเดียวกัน ผู้ชายคือ looser ทันที หาเงินได้น้อยอย่าริไปจีบหญิง ไม่มีความเป็นผู้นำอย่าริไปจีบหญิง ไม่ฉลาดไม่รู้จักวางแผนอนาคตอย่าริไปจีบหญิง สังคมหล่อหลอมให้ผู้ชายผูกติดคุณค่าของตัวเองไว้กับสิ่งเหล่านี้ เมื่อมันหายไป ก็รู้สึกว่าคุณค่าของตัวเองหายไปด้วย ตัวเองกลายเป็นคนไม่มีคุณค่าเสียแล้ว ยิ่งพอจะกลับไปทำงานประจำก็ไม่มีใครรับเพราะอายุเป็นเหตุด้วยยิ่งไปกันใหญ่ พฤติกรรมเค้าเลยกลายเป็นแบบนี้ ไร้ความรับผิดชอบ ขี้เกียจ ติดเกม ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน การเล่นเกมของเค้าอาจเป็นเซฟโซนสุดท้ายก็ได้ อันนี้ผมไม่ฟันธงแล้วกัน ไม่รุ้ว่าก่อนคบกันหรือคบกันใหม่ ๆ เค้าเป็นคนแบบนี้รึเปล่า ผมว่าไม่ เพราะถ้าเป็นคุณอ้อมไม่เอาทำสามีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ซึ่งถ้ามันไปต่อไม่ไหวก็คงต้องเลิก คิด ๆ ดูปัญหาเดียวที่อาจเกิดช่วงแรก ๆ คือคุณอ้อมต้องไปหัดขับรถ ส่วนลูกตอนนี้อายุ 7 ขวบ ผมไม่ทราบว่าต้องจ้างคนดูแลรึเปล่า ถ้าต้องจ้างคงไม่ต่างจากตอนนี้เท่าไหร่ แค่ย้ายเงินจากที่ให้สามีมาจ้างคนดูแลลูก แต่อาจได้สุขภาพจิตที่ดีกลับคืนมามั้ง
คุณอ้อมเป็นคนที่เก่งมาก
ชีวิตเราคล้ายๆคุณอ้อมเลยค่ะ แต่สุดท้ายเราเลือกที่จะลาออกจากงานด้วยเหมือนกัน เพื่อจะได้ซัพพอร์ทซึ่งกันและกันได้อย่างเต็มที่ (เราออกมาค้าขายค่ะ) ซึ่งรายได้ก็ดีค่ะ
เอาจริงเหมือนเลี้ยงผัวเป็นลูกอ่ะ ทำให้ทุกอย่าง ผัวอายุ40แล้วอ่ะ ความรับผิดชอบตัวเองยังไม่มี จะรับผิดชอบลูกเมียยังไง ชื่นชมคุณอ้อมค่ะ เก่งมาก
สั้นๆค่ะ หาคนมาเลี้ยงลูกจะได้ไม่ต้องมานั่งทะเลาะกัน ส่วนสามีหาธุรกิจส่วนตัวให้เค้าทำ *ถามเค้าก่อนว่าชอบอะไรอยากทำอะไร เวลาที่เหลือพากันไปเที่ยว รีแลค ชีวิตไป
ทำไมไม่จ้างพี่เลี้ยง ให้สามีออกจากงานทำไม รายได้ก็ดี พอมาวันนี้ สามีไม่ได้ทำงาน กลับอยากเลิก แล้วผู้ชายอายุขนาดนี้แล้ว เค้าจะไปทำงานอะไรอ่ะ งานไม่ใช่ว่าจะหากันง่ายๆ นึกถึงความต้องการของคุณในวันนั้นสิ่ ถ้าไม่ให้สามีออกจากในวันนั้น วันนี้อาจจะเป็นวันที่ดีอยู่ก็ได้
ผมว่าในความคิดคุณอ้อม เค้าอยากให้ สามีดูแลลูก และ บ้านนะครับเหมือนพ่อบ้าน แต่เท่าที่ฟัง เหมือนสุดท้ายตัวคุณอ้อมก็ต้องทำหน้าที่ พ่อบ้านทั้งหมด ก็เหนื่อย 2 เท่านะ
ดูแลยังไงก็ขี้เกียจ จะทำงานก็ไม่ก้าวหน้าหรอกคนแบบนี้ เดี๋ยวก็อ้อนเมียขอลาออกอยู่ดี
เข้าใจเลยค่ะ เหนื่อยใจ
รู้สึกเเบบนี้เลย รู้จักกันมามากกว่าครึ่งชีวิต แต่งงานมา 7 ปี ลูกสองคน เรารู้สึกเป็นผู้นำครอบครับด้วยที่เราอายุมากกว่าผช. เราประสบการณ์เยอะกว่า เงินเดือนเยอะกว่าเค้า เเต่เรารักเค้า ไม่นอกใจ ไม่ตบไม่ตี ไม่มีเมามาย มองข้อดี ที่เหลือก็ปรับๆไป ชีวิตคู่แต่ละคนไม่เหมือนกัน ขอให้หาทางออกที่ดีได้นะคะ
มันผิดตั้งแต่ให้สามีออกจากงานแล้วครับ
อาการแบบนี้ไม่ใช่ติดสบาย แต่เค้าเรียกว่าอดสูจนซึมเศร้า (ซึ่งอาการนี้มีแค่ผู้ชายเท่านั้นที่จะมีความรู้สึกนี้อยู่อย่างแท้จริง และเข้าใจจริง 100%) การกระทำและการตัดสินใจทุกอย่างของคุณคือการขยี้ปมเรื่องความเป็นช้างเท้าหน้าของเค้าให้ตกนรกทั้งเป็นไปเรื่อยๆ ครับ แค่นั้นเลย ยิ่งเค้ามาเห็นคลิปนี้ หรืออ่านคอมเม้นในคลิปนี้ เค้าอาจจะไม่อยากอยู่บนโลกนี้ต่อก็เป็นได้ ขอให้โชคดีกับอีโก้ตัวเองครับ
คุณนี่ดูถูกสามีมาก.เขาเสียสละมากๆนะแค่พักผ่อนเล่นเกมส์ก็ปล่อยไปเถอะ.คนข้างกายยังดูถูกเขาอ่ะแทนที่จะให้กำลังใจ
มันไม่ใช่เรื่องเสียสละ มันคือ ความ ที่ รู้จัก พัฒนาตัวเอง ถึงคุณอ้อมเค้าจะออกมาเลี้นงลูกแต่คิดว่าเค้าจะหาทำระหว่างเลี้ยงลูกเพื่อดูแลครอบครัว แน่ๆๆ เ
ขอเตือนเลย เรากับสามีเคยไปอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วยกัน เราทำงานบริษัท สามีพูดญี่ปุ่นไม่ได้เลย งานหายากมากกกกกก กอไก่ล้านตัว จนสามีเราแทบเสียสติ เศร้ามาก เพ้อแต่เรื่องหางานจนเราจะบ้า แต่เพราะสามีเราเป็นคนไม่ยอมแพ้ หางานจนได้ แต่งานที่หาได้คืองานเสิร์ฟ งานทำกับข้าวปิ่นโต งานทำความสะอาดแอรบีเอนบี งานทิ้งขยะ คือทำหมดทุกงานเท่าที่มีผ่านเข้ามา เพื่อให้มีรายได้ ทำทุกวัน 7 วัน จัดสะเก้ดเต็มเอียด เราอยู่นู่น 3 ปีครึ่ง จนลูกเรียนจบ เราก้อกลับ เชื่อมั้ยว่าสามีเราน่าสงสารมาก ผอมมาก แข้งขามีแต่ตาปลา มือไม้แตกเป็นแผลยับจนเป็นแผลเป็นเต็มมือเท้า คุณมองสามีตัวเองให้ดีๆ ตั้งสติให้คงมั่น ถามตัวเองว่าเค้าสามารถรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ได้มั้ย คิดดีๆค่ะ
เรามันิสัยคล้ายสามีคุณเลยค่ะ เราไม่เข้าใจนิสัยตัวเองเหมือนกัน ไม่ชอบเลย แต่เหมือนมีอะไรไม่รู้สักอย่างที่ ไม่อยากถ้าไม่มีใครมาทำด้วย
สงสารแฟนคุณมาก ผู้ชายรู้สึกไร้เกียรติ ไร้คุณค่า เขาถึงเป็นแบบนั้น .. คุณบังคับเขาเกินไป เผด็จการ
ไม่มากเกินไปคะ เลี้ยงสามีขนาดนี้ จะบอกว่าไม่ดี ไม่ได้คะ สามีต้องสำนึกคะ เลี้ยงลูกมันยาก แต่ก็ไม่ได้ทำทุกอย่างงง อย่าไปเใองนอกเลยถ้าจะไปเพื่อให้สามีไปล้างจาน