เจาะลึกต้นกำเนิดของศาสนา Ep.1 : ศาสนาในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษ

Поделиться
HTML-код
  • Опубликовано: 29 янв 2025

Комментарии • 12

  • @talablamutton1686
    @talablamutton1686 Месяц назад +1

    ❤❤🎉😊

  • @military1842
    @military1842 Месяц назад +1

    🙏🙏🙏😇😇

  • @josephgamer4014
    @josephgamer4014 Месяц назад +1

    เป็นความรู้ที่ดีมากๆครับ

  • @bunnyj19
    @bunnyj19 Месяц назад +3

    คลิปนี้ดีมากๆค่ะ หวังว่าหลายๆคนจะได้ฟังนะคะ 🔥ส่วนตัวบูชาแมวค่ะ5555555😜

    • @อ่านดินอ่านฟ้า
      @อ่านดินอ่านฟ้า  Месяц назад

      ดีใจที่คุณชอบคลิปนี้นะครับ!
      การเจาะลึกต้นกำเนิดของศาสนาเป็นเรื่องที่ช่วยเปิดมุมมอง
      และเพิ่มความเข้าใจในวัฒนธรรมและความเชื่อที่แตกต่างกัน
      ส่วนที่คุณบอกว่าบูชาแมว น่ารักมากเลยครับ!
      แมวเป็นสัตว์ที่ถูกบูชามาแล้วในหลายวัฒนธรรม เช่น อียิปต์โบราณ
      ที่ถือว่าแมวเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์และเป็นตัวแทนของเทพเจ้า
      ขอให้ความบูชาแมวของคุณนำความสุขและรอยยิ้มมาให้ทุกวันนะครับ!
      ถ้ามีโอกาส ก็แชร์ความน่ารักของเจ้าแมวให้คนอื่นบูชาตามด้วยนะครับ 555

  • @iam_heavens
    @iam_heavens Месяц назад +1

    ยุคแรกๆ คือ อาซาทรู (โอดิน) โดย เผ่าไวกิ้ง
    (แรงบันดาลใจจากศาสนาผียุคก่อนไม่มีชื่อเรียก)
    ยุคสอง คือ กรีกโบราณ (ซูส) โดย เผ่ากรีกโรมัน
    (แรงบันดาลใจจากไวกิ้ง มาแต่งใหม่ ตีความใหม่)
    ยุคสาม คือ ไอยคุปต์ (รา) สร้างโดยปราชญ์อียิปต์
    (ถูกสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อสร้างความน่าเกรงขามและ เพื่อการปกครองโดยอ้างว่าฟาโรห์คือบุตรของพระเจ้ารามาเกิด)
    ยุค?? เกิดขึ้นที่ แอฟริกา
    ยุค?? เผ่ามายา อเมริกา
    ยุคสี่ ฮินดู (พระพรหม) สร้างขึ้น ต่อจากไอยคุปต์
    (โดยแต่งขึ้นใหม่ ให้มีสกิลระดับจักรวาล เหนือรา)
    ยุคห้า พุทธ (พระพุทธเจ้า) เกิดจากอยากพ้นทุกข์
    (เด็กหนุ่มผู้ฉลาดปราดเปรื่องผู้รู้ว่าพระเจ้าเป็นเรื่องโกหกจึงต้องการหาคำตอบและช่วยผู้คนให้หลุดพ้นความโง่เขลาทางโลกนี้ ทุ่มเทสุดตัว เป็นผู้ที่ถูกเรียกว่า ผู้อยู่เหนือเทพเจ้าและผู้ที่อยู่เหนือผู้สร้าง)
    ยุคหก (ยูดา) สัญลักษณ์ดาวหกแฉก พ่อของเยซู
    (เกิดจากการหลบหนีการเป็นทาสของอียิปต์ โดยรวมพลชาวยิวทั้งหมด พอหนีเสร็จ เพื่อคุมพฤติกรรมผู้คนทั้งหมด จงอ้างว่าพระเจ้าให้กฎ 10 บัญญัติขึ้นมาใหม่สดๆร้อนๆ เนื่องจากชาวยิวเคยเป็นทาสมานาน จึงมีคนชั่วเห็นแก่ตัวแย่งชิงอาหารและทะเลาะกันเองอยู่มาก จำเป็นต้องมีกฎเกิดขึ้น)
    ยุคเจ็ด ศาสนาคริสต์ บุตรของพระเจ้า เยซู นักปราชญ์จอมโกหก ได้นำเรื่องแต่งของศาสนายูดา ว่าจะมีบุตรพระเจ้ามาเกิด สวมรอยเป็นบุตรพระเจ้า โดยในคำภีร์ได้กล่าวไว้ชัดเจนว่า บุตรของพระเจ้าจะเกิดเมื่อไหร่ แต่เยซุเกิดก่อนหน้านั้น จึงทำให้ศาสนายูดาไม่ยอมรับในตัวเยซู จริงๆแล้วนางมารีได้ท้องกับบุคคลที่อ้างว่าทูตสวรรค์แล้วแต่งเรื่องขึ้น เพราะยุคนั้นใครที่ท้องก่อนแต่งหรือท้องไม่มีพ่อจะโดนโยนหินใส่จนตาย ช่วงวัยรุ่นเยซูที่หายไป ได้ศึกษาจากศาสนามากมายโดยเฉพาะศาสนาพุทธได้ศึกษามากเป็นพิเศษ ได้หลักการเดียวกัน คือ ความรัก และความเมตตาและการแบ่งบัน ศึกษาเสร็จจึงกลับมาเพื่อสอนธรรมะและตั้งใจจะปลดแอกประชาชนคนจนในยุคนั้น จึงมีผู้ติดตามมากขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่ตอนนั้น ใช้วิธีหาสาวกคล้ายๆทางพุทธศาสนาที่เรียนมา โดยรักษาโรคด้วยการพูดปลุกใจ และ อวดอุตริด้วยการแสดงมายากลทั่วไป ต่อมามีสาวกมากขึ้น จึงตั้งตนเป็นพระเจ้าซะเอง (ตอนแรกอ้างเป็นบุตร ไปๆมาๆ อ้างว่าตนเป็นพระเจ้าเรียบร้อย) เรื่องถึงหูคนในวัง จึงว่าผิดกฎหมายในตอนนั้น จึงพยายามหาตัวเพื่อสอบปากคำ โดยมีคนในกลุ่มของเยซูเองที่บอกที่กบดานของเซยู(เซยูกำลังหนีหลบซ่อนอยู่) หลังจับได้ เยซูให้ปากคำว่าตนคือพระเจ้า ถือว่าผิด จึงโดนโทษประหารโดยตึงด้วยไม้กางเขนประจานจนตาย (ตอนนั้นมีการประหารชีวิตนักโทษแบบนี้นานแล้ว) จึงกลายเป็นตำนานทุกวันนี้ มีเหล่าคณะสาวกที่รอดจากการล้างบางในครั้ง รวบรวมและเขียนคำภีร์เหมือนชีวะประวัติเล่มแรกขึ้น เรียกว่า พันธสัญญา (เล่มแรก) นั่นเอง ต่อมามีคนเอามาเผยแผ่ จึงเรียกว่าคัมภีร์ไบเบิลนับแต่ตอนนั้น

    • @iam_heavens
      @iam_heavens Месяц назад

      ยุคแปด อิสลาม คัมภีร์กุรอ่าน เกิดจากการรวบรวม บันทึกของยูดา(จงนับถือพระเจ้าองค์เดียว) ห้ามบูชาวัตถุคำสอนมาจากศาสนาพุทธ เยซู และศาสนาอื่นๆอีกมากมาย แต่งขึ้นเพื่อการปกครองประชาชนของตัวเองเช่นกัน เมื่อก่อนขาดแคลนเรื่องอาหาร จึงได้ตั้งกฎการละหมาดเกิดขึ้น และการห้ามกินหมู เคยมีโรคระบาดประชาชนตายเพราะหมูมากมาย จึงตั้งกฎขึ้นมาว่า หมูคือสิ่งสกปรกห้ามกินตั้งแต่นั่นมา แต่งเรื่องขึ้นมาว่าพระเจ้าไม่ให้กินหมู แต่กินวัวและสัตว์อื่นแทนได้
      ยุคเก้า ศาสนาเต๋า (พัฒนามาจากพุทธ โดยเน้นความจริงของโลกคือ มีดีก็มีชั่ว มีขาวก็มีดำ เป็นต้น)
      ยุคสิบ ศาสนาพุทธมหายาน เป็นการอัญเชิญพระไตรปิฎกของคนจีน เดินทางไปที่อินเดีย แต่ไม่พบคัมภีร์ศาสนาพุทธที่อินเดีย(ว่างเปล่า)(โดนพวกอาหรับที่บุกอินเดียทำลายทิ้งหมดแล้ว) จึงกลับมาแต่งนวนิยายเพื่อเป็นศาสนาพุทธในเวอร์ชั่นของเขาเอง(วรรณกรรมทางศาสนาเล่มแรก) บวกกับการได้สืบเสาะหาข้อมูล เพื่อแต่งเรื่องราวขึ้นมาใหม่ และนำมาเผยแผ่ในแผ่นดินจีนจนถือทุกวันนี้ อย่างเช่น พระยูไล เป็นปางองค์หนึ่งของพระพุทธเจ้า(เอาคอนเซปต์หลายปางของฮินดูมาใช้) เง็กเซียนฮ่องเต้ ก็คือกษัตริย์ในยุคเมืองจีนนั้น เพื่อให้ได้อารมณ์และจินตาการร่วม เทพสามตาเอ้อหลาง ได้แรงบันดาลใจมาจากลิโป้ จากวรรณกรรมที่เป็นนิยมในตอนนั้นสามก๊กมารวมแจมด้วย และตัวละครอีกมากมายที่แต่งขึ้น
      (ยังไม่รวมนิกายอีกมากมายที่แตกแยกออกมาจากศาสนาต่างๆ ทั้งความเชื่อและลัทธิที่แต่งขึ้นมาใหม่ มีมากมายเหนือจินตนาการ คุณก็สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้เองจากข้อมูลทั่วมุมโลก)

    • @อ่านดินอ่านฟ้า
      @อ่านดินอ่านฟ้า  Месяц назад

      ความคิดเห็นนี้เปิดประเด็นที่น่าสนใจในการเชื่อมโยงวิวัฒนาการของศาสนาและความเชื่อต่าง ๆ ผ่านมุมมองประวัติศาสตร์ในแต่ละยุค ซึ่งเมื่อศึกษาประวัติศาสตร์ศาสนาอย่างลึกซึ้ง เราจะพบว่าศาสนาไม่ได้เกิดขึ้นอย่างโดดเดี่ยว แต่มีการผสมผสานอิทธิพลจากวัฒนธรรม ความเชื่อ และสภาพสังคมในแต่ละยุคเป็นสำคัญ
      1. ยุคอาซาทรู (ไวกิ้ง): อาซาทรูและเทพเจ้าโอดินเป็นตัวแทนของความเชื่อในกลุ่มชนเผ่านอร์ส ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงยุคเหล็กตอนปลาย (ประมาณ 500 ปีก่อนคริสต์ศักราชถึง 1200 หลังคริสต์ศักราช) ศาสนานี้มีรากฐานอยู่บนการเคารพธรรมชาติ การต่อสู้เพื่อความอยู่รอด และความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้า ความเชื่อเหล่านี้ยังสะท้อนผ่านมหากาพย์ของชาวนอร์ส เช่น "Edda" ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเทพปกรณัมของพวกเขา
      2. ยุคกรีกโบราณและโรมัน: ศาสนากรีก-โรมันได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ความเป็นมนุษย์ และความพยายามทำความเข้าใจจักรวาล ความเชื่อในเทพเจ้า เช่น ซูส โพไซดอน และอาเทน่า สะท้อนถึงความพยายามจัดระบบอำนาจในสังคมและการอธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติ หลายแนวคิดจากศาสนากรีกถูกดัดแปลงและรวมเข้ากับศาสนาโรมัน และยังส่งผลต่อศิลปะ ปรัชญา และวิทยาศาสตร์ในยุคต่อมา
      3. ยุคไอยคุปต์: การเคารพบูชาเทพเจ้าราและระบบเทพเจ้าที่ซับซ้อนในอียิปต์โบราณ แสดงให้เห็นถึงการใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือสร้างอำนาจทางการเมือง ฟาโรห์ถูกมองว่าเป็นตัวแทนของเทพเจ้า ซึ่งช่วยยืนยันสิทธิ์ในการปกครอง และศาสนายังมีบทบาทสำคัญในการก่อร่างสร้างอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ของอียิปต์ เช่น การสร้างมหาพีระมิด
      4. ศาสนาฮินดูและพุทธ: ศาสนาฮินดูเกิดจากการรวมตัวของความเชื่อในยุคพระเวท (Vedic period) และพัฒนาเป็นระบบที่ซับซ้อนในอินเดียตอนใต้ ความเชื่อในเทพเจ้าหลายองค์ เช่น พระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ ถูกนำมาใช้เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ จักรวาล และการสร้างสรรค์ ส่วนศาสนาพุทธที่เกิดขึ้นในยุคถัดมา เป็นการปฏิเสธความเชื่อบางส่วนในฮินดู เช่น ระบบวรรณะ และมุ่งเน้นการค้นหาความจริงผ่านการปฏิบัติส่วนตัว
      5. ศาสนาอับราฮัม (ยูดา คริสต์ และอิสลาม): ระบบศาสนาอับราฮัมเริ่มต้นจากยูดาย (Judaism) ซึ่งพัฒนามาในกลุ่มชนชาวยิว และขยายต่อในรูปแบบของศาสนาคริสต์และอิสลาม ทั้งสองศาสนานำแนวคิดของยูดาไปปรับปรุงและตีความใหม่ เช่น ศาสนาคริสต์เชื่อในความรักและการเสียสละของพระเยซู ขณะที่ศาสนาอิสลามเชื่อมั่นในคำสอนของพระอัลเลาะห์ผ่านศาสดามูฮัมหมัด
      เมื่อเราศึกษาประวัติศาสตร์ของศาสนาในเชิงลึก จะเห็นว่าศาสนาแต่ละยุคมีจุดกำเนิดและพัฒนาการที่เกี่ยวข้องกับความต้องการของมนุษย์ในยุคนั้น ๆ ไม่ว่าจะเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติ สร้างอำนาจทางการเมือง หรือสร้างความสามัคคีในสังคม การเชื่อมโยงเหล่านี้ทำให้เราเข้าใจว่า ศาสนาเป็นผลผลิตของสังคมมนุษย์ที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา