EP.2 กำเนิดกรุงลงกา
HTML-код
- Опубликовано: 9 фев 2025
- หลังจากที่พระอิศวรได้มีคำสั่งให้พระอินทร์ไปทำการสร้างกรุงศรีอยุธยาเสร็จแล้วนั้น ทางฝ่ายท้าวสหมลิวันเป็นอสูรที่สืบเชื้อสายพรหมเป็นผู้ปกครองเกาะลังกาทวีปหรือเกาะรังกา พระนารายณ์ทรงเห็นว่าอสูรเหล่านี้หากปล่อยไว้อาจจะเป็นภัยร้ายแก่ชาวโลก ท่านจึงได้ยกทัพไปปราบสหมลิวัน สหมลิวันเกรงว่าพระนารายณ์จะฆ่าตายเสีย จึงจำใจหลบหนีไปอยู่ที่เมืองบาดาล จากนั้นมาจึงทำให้เกาะรังกาขาดผู้ปกครองเมือง เกาะรังกาจึงกลายเป็นเมืองที่เก่ารกร้างว่างเปล่า ท้าวสหบดีพรหมทราบเรื่อง จึงเกรงว่าจะไม่มีผู้ใดมาสืบเชื้อสายพรหมในโลกมนุษย์ ท่านจึงมีความคิดที่จะสร้างเมืองขึ้นมาใหม่บนเกาะรังกา โดยมีแผนการที่จะเชิญให้ท้าวธาดาพรหมไปปกครองเมือง ต่อมาสหบดีพรหม จึงได้สั่งให้ท้าว ธาพรหม เตรียมเกณฑ์ไพร่พลเหล่าพรหมทั้งหลาย เพื่อให้ไปช่วยันกสร้างเมืองที่เกาะรังกา ท้าวธาดาพรหมเมื่อรับคำสั่งก็ออกมาเตรียมไพร่พลพรหมทั้งหลาย มารอท้าวสหบดีพรหมเพื่อเดินทางไปเกาะรังกาโดยพร้อมเพรียงกัน เมื่อพร้อมแล้วบรรดาพรหมทั้งหลายทรงพญาหงส์บินมุ่งหน้าไปยังเกาะรังกาทวีป นำทัพด้วยสหบดีพรหมที่ทรงพญาหงส์ทองเมื่อมาถึงก็เกาะลังกา สหบดีพรหมทรงมองเห็นภูเขา “นิลกาลาสิงขร” ที่ตั้งอยู่กลางเกาะ ซึ่งก็เป็นภูเขาที่สูงทัดเทียมเสียดก้อนเมฆสีดำ เป็นภูเขาที่สูงกว่าบรรดาภูเขาทั้งหลายในบริเวณนั้น บนยอดเขานั้นก็จะมีรังอีกา มหากายสิทธิ์ สหบดีพรหมจึงเห็นว่าเป็นชัยภูมิที่ดีมากเหมาะที่จะตั้งเป็นพระนครแห่งใหม่ สหบดีพรหมจึงสั่งให้พระวิษณุพรหม ทำการเนรมิตสร้างมหานครขึ้นไว้ตรงนั้นในทันใด วิษณุพรหมเมื่อรับคำสั่งจึงได้เนรมิตมหานครขนาดใหญ่ขึ้นมา ที่มีมหาปราสาทสามองค์ มียอดพรหมพักตร์ห้ายอดสูงใหญ่งดงามดั่งวิมานบนสวรรค์ ล้อมรอบด้วยมหาสุมทรสุดสายตาที่กว้างใหญ่ หากแม้นมีข้าศึกหรือศัตรูจะเดินทางเข้ามาในเมืองก็จะทำได้ไม่ง่ายนัก จึงเป็นด่านป้องกันเมืองชั้นดีเลยทีเดียว จากนั้นจึงเสกปลาและบรรดาเหล่าสัตว์ร้ายในน้ำคอยดูแลป้องกันเมืองใต้น้ำ ส่วนในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่นั้นจะมอบให้นางยักษ์ผีเสื้อสมุทร เป็นผู้ที่คอยดูแลตรวจตราป้องกันเมืองเหนือผิวน้ำ พร้อมด้วยพระเสื้อเมืองหรือที่เรียกว่าผู้ที่คอยเฝ้าดูแลเมืองอยู่ตลอดเวลา จากนั้นสหบดีพรหมจึงสั่งให้ยักษ์ มีนามว่า ฤทธิกัน คอยควบคุมทหารยักษ์ซึ่งมีจำนวนแสนโกฏิ หากจะนับในหนึ่งโกฏินั้นก็จะเท่ากับสิบล้านตน ทหารยักษ์มีหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยทางอากาศให้กับพระนครโดยทำการเหาะลาดตะเวนตรวจตรารอบๆเมืองอยู่ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ศัตรูคู่อาฆาตเข้ามารุกราญได้ เมื่อเนรมิตเมืองขึ้นมาใหม่เสร็จแล้ว ท้าวสหบดีพรหมก็ตั้งชื่อเมืองให้นามว่า “พิชัยลงกาหรือกรุงลงกา” พร้อมทั้งรวมเอาหมู่เหล่าไพร่พลอสูรยักษ์จากเนินเขาอัสสกัณฑ์ (อัด-ส-กัน) จำนวนแสนโกฏิมาเป็นเหล่าไพร่พลเสนายักษ์ในกรุงลงกา จากนั้นมาก็ได้ทำการสถาปนาอัญเชิญให้ ท้าวธาดาพรหม ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ปกครองกรุงลงกา สหบดีพรหมจึงได้ขนานนามให้ ท้าวธาดาพรหม ใหม่ว่า “ท้าวจตุรพักตร์” ซึ่งก็แปลว่า ผู้มีสี่หน้าเนื่องจากมีเชื้อสายเป็นหมู่เหล่าพรหม ต่อมสหบดีพรหมก็ได้มอบนาง “มลิกา”ให้เป็นมเหสี พร้อมทั้งนางยักษ์อีกหกหมื่นตนเป็นนางสนมคอยรับใช้ ต่อด้วยการประทานอาวุธวิเศษเอาไว้ให้ป้องกันรักษาพระนครหลายอย่าง ซึ่งก็ได้แก่ ตรีศูล คทาวิเศษ แต่ของวิเศษคู่กรุงลงกาที่สำคัญมากๆนั้นก็คือสหบดีพรหมได้มอบ ฉัตรแก้วโมลีหรือเรียกโดยรวมว่า ฉัตรแก้วพิชัยโมลี พร้อมมอบมนต์ดนวิเศษไว้ให้ในการใช้อาวุธ พร้อมทั้งได้บอกวิธีใช้ ฉัตรแก้วพิชัยโมลีไปว่า เมื่อใดมีข้าศึกมาประชิดเมืองก็จงให้ทำการยกฉัตรแก้วพิชัยโมลีขึ้นมากลางกรุงลงกา ฉัตรนี้จะบดบังแสงพระอาทิตย์ไว้
จากนั้นก็จะทำให้ท้องฟ้าที่เคยสว่างไสวยนั้นมืดมิดไป เหล่าบรรดาข้าศึกทั้งหลายที่จะมาพิชิตก็จะมองมาไม่เห็นกรุงลงกา