เขมรพวง : ครูนฤพนธ์ ดุริยพันธุ์ ขับร้อง ปี่พาทย์ไม้นวมคณะดุริยพันธุ์
HTML-код
- Опубликовано: 19 сен 2024
- เขมรพวง : ครูนฤพนธ์ ดุริยพันธุ์ ขับร้อง ปี่พาทย์ไม้นวมคณะดุริยพันธุ์
ควบคุมวงดนตรี : ครูแช่มช้อย ดุริยพันธุ์
ขับร้อง : ครูนฤพนธ์ ดุริยพันธุ์
ขลุ่ยเพียงออ : ครูเทียบ คงลายทอง
ระนาดเอก : ครูสุพจน์ โตสง่า
ระนาดทุ้ม : ครูสุชาติ คล้ายจินดา
ระนาดทุ้มเหล็ก : ม.ล.สุรักษ์ สวัสดิกุล
ฆ้องวงใหญ่ : ครูสมชาย ดุริยประณีต
ฆ้องวงเล็ก : ครูสืบศักดิ์ ดุริยประณีต
ซออู้ : ครูจงกล ศุขสายชล (วรยศ)
กลองแขก : ครูอนันท์ ดุริยพันธุ์
กลองแขก : ครูปรีชา ชุ่มชูศาสตร์
ฉิ่ง : ครูสุดใจ สดใส
โหม่ง : ครูทัศนัย พิณพาทย์
- เขมรพวง -
เพลงเขมรพวง อัตราจังหวะสองชั้นของเก่า ประเภทหน้าทับปรบไก่ มี ๒ ท่อน มี ๔ จังหวะ ท่อนที่ ๒ มี ๖ จังหวะ
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงปรับเพลงร้องสำหรับประกอบ “การแสดงภาพนิ่ง” (Tableau Vivant) ขึ้นถวายสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร มีอยู่ ๘ เรื่อง แต่เฉพาะในเรื่องขอมดำดินทรงบรรจุทำนองเขมรพวงให้ร้องในบทของพระประทุม (ท้าวพันธุม) พระนิพนธ์นั้ขึ้นต้นว่า “เมื่อนั้นพระประทุมสุริยวงศ์ทรงขรรค์” เนื้อร้องและทางดนตรีในชุดน้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจนแม้แต่ผู้ที่มิใช่นักร้องนักดนตรีก็จำเอาไปร้องกัน ด้วยความที่จำแต่เนื้อร้องจึงทำให้ผู้ที่ไม่รู้จักชื่อเพลงที่แท้จริงเรียกเพลงเขมรพวงไปตามบทร้องว่า “ เขมพระปทุม”
ประมาณ พ.ศ.๒๔๖๐ - ๒๔๖๒ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ได้ทรงนิพนธ์ขยายขึ้นเป็นอัตราจังหวะสามชั้น โปรดให้จางวางทั่ว พาทยโกศล แต่งชั้นเดียวต่อจนครบเป็นเพลงเถา ทรงเขียนเป็นโน้ตสากลประทานให้กองดุริยางค์ทหารเรือบรรเลงโดยวงโยธวาทิต มีทั้งทางร้องและทางดนตรีทั้งเที่ยวต้นและเที่ยวกลับอย่างละ ๒ เที่ยวไม่เหมือนกัน จึงต้องร้องทั้งเถายาวถึง ๑๒ ท่อน ใช้เวลาบรรเลงนานมาก บทร้องโปรดให้นางเจริญ พาทยโกศล ตัดตอนมาจากบทเสภาเรื่องขุนช้าง ขุนแผน ตอนขุนแผนขึ้นเรือนขุนช้างแล้วชมม่านฝีมือวันทอง ทางร้องทรงพระกรุณาต่อประทานคุณหญิงไพฑูรย์ กิตติวรรณ ด้วยพระองค์เอง
ราว พ.ศ.๒๔๖๐ หลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ได้นำเพลงเขมรพวงมาแต่งขยายขึ้นเป็นอัตราจังหวะชั้น ให้มีสำนวนทำนองเป็นทางกรอสำเนียงเขมร แบบเดียวกับเขมรเลียบพระนคร และเรียกชื่อตามของเดิมว่า “เพลงเขมรพวง” แม้เพลงนี้จะแต่งภายหลังเพลงเขมรเลียบพระนครแต่ก็เป็นเพลงทางกรอที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายที่สุด ยิ่งกว่าเพลงใดๆ ในบรรดาเพลงทางกรอของหลวงประดิษฐไพเราะ และถือเป็นแบบฉบับของเพลงประเภททางกรอ
เมื่อราว พ.ศ.๒๔๖๔ สมัยที่นิยมร้องเพลงเถากันโดยทั่วๆ ไป หมื่นประคม เพลงประสาน (ใจ นิตยผลิน) ได้คิดตัดแต่งจากอัตราจังหวะสองชั้นของเดิมลงเป็นอัตราชั้นเดียว ครบเป็นเพลงเถา โดยทางร้องชั้นเดียวนั้น นายเหมือน ดูรยประกิต เป็นผู้คิดขึ้น.
- บทขับร้อง -
บทขับร้องนี้นำมาจากบทเสภาเรื่อง ขุนช้างขุนแผน ตอน พลายแก้วเป็นชู้กับนางพิม.
- สองชั้น -
เจ้างามปลอดยอดรักของพลายแก้ว
ได้มาแล้วเจ้าอย่าผลักให้กลับหนี
พี่ยอมตายไม่เสียดายแก่ชีวี
แก้วพี่อย่าพึ่งพร่ำรำพันความ
พี่ผิดพี่ก็มาลุแก่โทษ
จงคลายโกรธแม่อย่าถือว่าหยาบหยาม
พี่ชมโฉมโลมลูบด้วยใจงาม
ทรามสวาทดิ้นไปไม่ใยดี
- ชั้นเดียว -
รอยเล็บแม่จึงเจ็บด้วยหยิกต้อง
ขัดข้องเพราะเจ้าปัดสลัดพี่
ค้อนควักผลักพลิกแล้วหยิกตี
ถ้อยทีถูกข่วนแต่ล้วนเล็บ.
(ที่มาประวัติเพลง : บล็อกโพส เมฆลอย)
ที่มาภาพถ่ายครูนฤพนธ์ ดุริยพันธุ์ : อาจารย์อานันท์ นาคคง
เทปคาสเซ็ท เพลงไทยเดิม นฤพนธ์-สุรางค์ ดุริยพันธุ์ ชุด บุหลัน
บริษัท กมลสุโกศล จำกัด KCS.๔๔
สำเนาเสียงจากเทปคาสเซ็ท : ฉัตรกร เกตุมี
เพื่อการเผยแพร่อนุรักษ์เพลงไทยในการศึกษา มิได้มีเจตนาละเมิดลิขสิทธิ์และแสวงหารายได้
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ : / @deklenkhimchannel7019