สื่อธรรมะพ่อครู ตอน ปฏิจจสมุปบาท อายตนะ ผัสสะ เวทนา
HTML-код
- Опубликовано: 9 окт 2024
- สื่อธรรมะพ่อครู ตอน ปฏิจจสมุปบาท อายตนะ ผัสสะ เวทนา
ขยับมาสามเส้าที่อายตนะ ผัสสะ เวทนา
เวทนา จึงเป็นตัวตั้งที่เป็นฐานที่จะเรียน จึงเรียกว่าวิญญาณฐิติ วิญญาณเรียนที่ตัวเวทนาคือฐีติ ของวิญญาณ เวทนา เป็นที่ตั้งของวิญญาณ ถ้าคุณไม่มีที่ตั้งทางตาหูจมูกลิ้นกายคุณก็เป็นวิญญาณสัมภเวสี คุณจะมีวิญญาณ คุณต้องมีที่ตั้งกระทบสัมผัส มีผัสสะแล้วก็เกิดอายตนะคู่นามรูป แล้วเรียนรู้ได้ เรียนทีละคู่ ของตา ของหู ของจมูก ของลิ้น ของกาย บอกแล้วนะว่าใจเอาไว้ก่อน ให้จบกาย 5 นี้ก่อนเถอะ เหลือใจคู่สุดท้าย มนายตนะกับธัมมายตนะ เอาไว้ทีหลัง ไปเรียนลัดไม่ได้เรื่องเลย
ผู้เรียนลัดเอาที่มนายตนะกับธัมมายตนะ พวกนี้ทิ้งเลย สุญโญ ไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้ หยาบก็ไม่รู้ รายละเอียดของความหยาบก็ไม่รู้ แล้วคุณจะไปเอารายละเอียดของความละเอียดทันที อาตมาเคยเปรียบเทียบว่าคุณจะเอามีดโกนยิลเลตต์ใบมีดโกนเล็กบาง ไปซัดกันกับทวน 80 ชั่งของกวนอู คุณจะยื่นยิลเล็ตต์เล็กๆโดนง้าว 80 ชั่งของกวนอูฟันคอขาด แล้วเข้ามาใกล้ไม่ได้แทงขาดไปหมดแล้ว เพราะหยาบมันจะมีรอบตัวเลย ทุกอย่างรายละเอียดต่างๆ ละเอียดมันก็ยิ่งมีน้อยเข้าๆๆ แล้วคุณจะเอาความน้อยไปสู้ความหยาบ มันเป็นไปไม่ได้เลย ฟังให้ดีนะท่านผู้หลับตาปฏิบัติทั้งหลาย โมฆะบุรุษทั้งหลายเอ๋ย อาตมาขอเรียกอย่างนั้นเลย โมฆะบุรุษหลับตาปฏิบัติเป็นโมฆะ
ถ้าปฏิบัติดีๆจริงๆเลยไม่ต้องหลับตาเลย เตวิชโชก็ใช้แบบลืมตาได้ ขณะที่คุณนั่งฟังอาตมา คุณก็มีปฏิภาณ มุทุธาตุ เตวิชโช ก็มีอยู่แล้ว คุณนั่งฟังอาตมา เตวิชโช มุทุธาตุ ของคุณก็ทำงานอยู่ตลอดเวลา มีผู้ที่บรรลุธรรมขณะฟังธรรมได้ เป็นพระอรหันต์ได้ เพราะว่า มุทุธาตุของคุณเร็ว มุทุธาตุของคุณสำคัญ
เมื่อคุณไม่มีผัสสะ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน พรหมชาลสูตรเลยว่า ไม่มีที่ตั้งในการปฏิบัติเมื่อไม่มีที่ตั้งในการปฏิบัติ จิตของคุณก็มีแต่ตัวแส่หาของตัณหาเท่านั้น แสบมากเลยคำนี้ พวกนั่งหลับตามีแต่ตัณหาที่แส่หาเท่านั้น แล้วจะไปแส่รู้เท่านั้น ไม่พูด tiger G ก็ดีแล้ว
เมื่อได้ฐานที่ตั้งแห่งการปฏิบัติคือ เวทนา พระพุทธเจ้าก็แจกเวทนาออกเป็น 108
ฟังดีๆ เวทนา 108 เอาให้ละเอียดโดยสภาวะ
แบ่งเป็น 2 เวทนา ได้แก่..
1. เวทนาที่มีกายเป็นเหตุ (กายิกเวทนา อาศัยมหาภูตรูป+นาม)
2. เวทนาที่มีใจเป็นเหตุ (เจตสิกเวทนา อาศัยนามรูป)
แยกเป็น 3 เวทนา ได้แก่..
1. สุขเวทนา
2. ทุกขเวทนา
3. อทุกขมสุขเวทนา (ไม่สุขไม่ทุกข์ อุเบกขา)
เวทนา 5 (รู้กำลังของเวทนาทั้ง 5 ได้แก่)
1. สุขินทรีย์ เป็นสุขที่ต้องนับภายนอก เกี่ยวข้องกับภายนอกเป็นสุข
2. ทุกขินทรีย์ หรือเป็นทุกข์ก็เรียกว่า
3. โสมนัสสินทรีย์ ดับพลังงานสุขทุกข์ภายนอกก็เป็นโสมนัสกับโทมนัส
4. โทมนัสสินทรีย์ หมดโสมนัสโทมนัสก็เป็นอุเบกขา
5. อุเบกขินทรีย์ มีเพียงหนึ่งเดียว ไม่เป็น 2
อุปะ + เอกข
อุปะ คือใกล้ ข คือว่าง เอกคือ 1 ตัวว่างที่เป็นอย่างนี้แหละนี่แหละคือ ตัวกิริยาเต็มของ ม คือจิต คือ ป กิริยาเต็มแต่ไม่ได้หมายความว่าจบที่ ป เพราะมี ผ พ ภ ม อีก แยก ป เป็น 2 ทำงาน ได้ผลเป็น พ ตัว พ.พาน ส่วน ภ เจริญไปกว่า 3 อีก โภ หรือ ภ แล้วก็จึงเป็น ม
จะตายดับไปก็ไม่เสียดายแล้วเจ้าค่ะ...ขอตามพ่อทุกๆชาติไป...ชีวิตที่เหลือหรือที่จะเกิดคงไม่ตกต่ำแล้วเจ้าค่ะ...บุญของลูกมิมีประมาณจริงๆ
เจริญธรรมคะ
กราบนมัสการพ่อท่านเหนือเกล้าเหนือเศียรเจ้าค่ะ...บุญอันใดหนอถึงได้มีโอกาสที่ดีๆเช่นนี้ได้ฟังข้ออรรถข้อธรรมที่พิศดารเช่นนี้จากพ่อท่าน ...เบิ่งซอดแท้จริงๆเจ้าค่ะ
🙏🙏🙏❤️
❤❤🎉🎉😊😊
ขอเกิดเป็นลูกศิษย์พ่อครูทุกๆชาติค่ะ❤
กราบนมัสการ ที่นี่ทำวัตรเช้า-เย็นเวลาเท่าไรครับ
กราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพสุดเศียรเกล้า