Snow White คืออนิเมชั่นสีเรื่องยาวและเรื่องแรกของดิสนี่ย์ที่สามารถทำให้ Disney studio ฟื้นมีชื่อเสียงมาได้ ถ้าเรียกว่า remake เค้าโครงของเรื่องมันควรจะใกล้เคียงต้นฉบับให้มากที่สุดสิ ถ้าจะอยากเปลี่ยนเนื้อเรื่องหรือเปลี่ยนบทก็ทำเรื่องใหม่ไปเพราะนักแสดงนำหญิงก็ไม่ได้ดูที่จะชอบหนัง Snow White 1937 เลยสักนิด
หนัง Remake live action ค่ายนี้นะ ผมชอบThe Jungle Book ที่สุด นับเป็น Live action มั้ยเนี้ย แต่ถ้าพูดถึง Snow White อันไหม่นะ จากเรื่องดราม่าต่างๆที่เกิดขึ้นทำเอาผมไม่อยากจะดูเลยจริงๆ แล้วตอนนี้ชาติตะวันตกเค้าเรียกเรื่องนี้ว่า Snow Brown
Snow White live action มันเป็นแค่ข้ออ้างให้เอาการเมืองมาสอดแทรก เอาใจคนกลุ่มนึงแค่นั้น สำหรับผมเลิกดูหนัง Disney ตั้งแต่ Little Mermaid แล้ว Get woke go broke!
ชอบแบบเดิมค่ะ ใสซื่อ ไม่คิดมาก ร้องเพลงกับนกกระจิบนกกระจาบไปเรื่อย อยากดูแบบอื่น ก็สร้างเรื่องใหม่เลยค่ะ
จริง
เห็นด้วยนะครับ ถ้าอยากได้แบบใหม่ก็เปิดตำนานใหม่ไปเลย แล้วรังสรรค์ใหม่ทั้งหมดจะดีกว่าครับ
เห็นด้วยเรื่องสนับสนุนความเท่าเทียมแต่ควรเริ่มจากการเสนอ สอบถามและรณรงค์
ไม่ใช่ยัดเยียดให้คนดูเลยแบบนี้และอีกหลายๆเรื่องที่มีต้นฉบับ
งั้นก็สร้างเป็นเรื่องใหม่ในชื่อใหม่ไปเลย ไม่เคารพต้นฉบับก็ไม่ควรหากินกับชื่อเสียงต้นฉบับ
แต่ไม่ควรยัดเยียดแล้วพอหนังไม่ประสบผลสำเร็จก็ไปโทษว่าเพราะมีพวกเหยียดเยอะต่างหาก
สุดท้ายบอกว่าคนดูเป็นฝ่ายผิดที่ไม่เปิดรับ
ใช่เลย พักหลังไม่คิดจะดูหนังค่ายนี้แล้ว ไปย้อนดูแบบการ์ตูนมีความสุขกว่า
ต้องการความเท่าเทียม แต่ตัวเองยังยัดเยียด ปรับเปลี่ยนบทตัวละคร ให้เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการอยู่เลย มันเท่าเทียมตรงไหนวะน่ะ 😂😂
สนับสนุนความเท่าเทียม แต่ก็รู้ว่าแต่ล่ะเชื่อชาติ ศาสนา และเพศ มีความต่างกันปัญหาทางสังคมและวัฒนธรรมก็ต่างกันไปด้วย
คนขาวเล่นบทคนขาว คนดำเล่นบทคนดำตามงานวรรณกรรม มันยากตรงไหน อยากให้คนดำเด่นก็ไปหาเรื่องที่คนดำเด่นหรือสร้างงานใหม่ไป ไม่ใช่เอางานดังมาหากินแบบนี้ ถ้าอยากรู้การตีความตัวละครที่หลุดพ้นจากภาพลักษณ์เดิมๆที่ดีเป้นยังไง ต้องไปดูเรื่อง House of Dragon บทเลนอร์ที่เป็น LGBTQ+ แต่แกกลับเป็นเกย์ที่เท่มาก เท่กล้าหาญ และอ่อนโยน มันคือการทิ้งว่าเกย์ต้องตุ๊งติ๊งวี้ดว้ายกรี้ดกร้าดได้ดีมาก
ใช่ อย่างวากานด้า ใช้ผิวสียังดังสุดๆ สนุกด้วยรายได้ถล่มถลาย ใ
ส่วนตัวผมไม่ชอบที่ยัดบทคนดำให้ตระกูลเวราเรี่ยนในhotdนะ แบบอยู่ๆก็ยัดมาไม่สนloreในเรื่องเลยว่าเวราเรี่ยนมันต้องเป็นคนขาว ผมเงินแบบฉบับตระกูลทาแกเรี่ยนแท้ๆv.2 แต่ผมก็ต้องยอมให้นะ เพราะนักแสดงคนดำอย่างคอริสกับเลนอร์ในเรื่องเขาเล่นดีกันจริงๆ องค์รวมในเรื่องก็ออกมาดีเลยปล่อยๆผ่านไป ถึงมันจะขัดๆกับเนื้อเรื่องช่วงก่อนเข้าhotd ที่ทาแกเรี่ยนสายหลักกับเวราเรี่ยนเขาแต่งกันกี่รอบละ แต่ไม่มีคนดำในสายหลักทาแกเรี่ยนเลยสักคน😂 แต่นั้นแหละบทดี เล่นดี ก็คือจบ
เพราะแนวคิด Woke ไม่ได้ทำไปเพื่อความเท่าเทียมครับ แต่เป็นการเล่นบท Victim ผู้ถูกกระทำจากสังคม เพื่อให้ได้มาเพื่อการได้เปรียบทางการเมือง
@@batvanhssndขัดกับloreจริงครับ แต่ยอมรับว่าพอได้ดูจริง ๆ คนแสดงเล่นโคตรดีเลย
ซีรีย์ที่ไว้ฟังก่อนหลับใช่มั้ย เฉยๆมาก ผมไม่กล้าแนะนำให้ใครดูเลยเรื่องนี้
ไม่เข้าใจว่าคนทำหนังหรือบริษัทใหญ่ๆ ชอบเปลี่ยนตัวละครใสซื่อ Innocent อยากมีความรักต้องมาแข็งแกร่ง คือคนใสซื่อน่ารักผิดตรงไหนอ่ะ แล้วเปลี่ยนแบบนี้แทบทุกเรื่องจนเอียน จนต้องแข็งแกร่งทุกวี่ทุกวัน คือห้ามมีมุมอ่อนโยนสบายๆเลยดิ ตั้งแต่เวนดี้และ
เกลียดการใช้คำว่า "หัดเปิดใจ ลองดูอะไรใหม่ๆ" ทั้งๆที่มันเป็นการ"ยัดเยียด" สิ่งที่ตัวเองต้องการใส่ลงไปในผลงานเก่า เพราะอยากได้ความหลากหลาย ตามที่ตัวเองต้องการ แล้วพอมีความคิดเห็นเชิงลบ ก็มาบอกว่า เป็นพวกใจแคบ ไม่เปิดใจ / ถ้าอยากได้อะไรใหม่ๆ ทำไมไม่สร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาเลย แบบนั้นไม่ดีกว่าหรอ ไม่ต้องไปถูกเปรียบเทียบกับต้นฉบับด้วย ชอบใช้คำว่า มีอคติ ทั้งที่ตัวเองก็"ยัดเยียด" สิ่งที่ตัวเองอยากเสนอให้คนดูเหมือนกันอ่ะ
คำว่า"หัดเปิดใจ"ทุกครั้งที่ได้ยินเหมือนกับว่าเราไปติดหนี้อะไรเขาสักอย่างเลย เฮ้ย นี้กุเป็นลูกค้าน่ะเว้ย
ยัดเยียดตรงไหนเค้าบังคับให้คุณดูหรอ 😂
เหมือนจะไปกินข้าวเหนียวมะม่วงเจ้าเก่าที่เคยกิน แต่รอบนี้มันเอามะม่วงมันมาใส่แทน แล้วทั้งโลกมีแค่มันขายข้าวเหนียวมะม่วงด้วยจะเสียความรู้สึกก็ไม่แปลก
@@LIFEMOCKSARTแต่พอขายไม่ได้ ก็โทษคนดูหรือกระแส(จากคนดู)...
เกลียดจริงคำนี้ แถมถ้าไม่คล้อยตามแม่งบอกใจแคบด้วย
มู่หลานไม่ได้มีปัญหาที่คนแสดง แต่มีปัญหาที่บท
อย่างแรงอุส่าไปดูโรงเสียดายตังที่สุด เขียนใหม่แต่เขียนไม่ดี ใช้ของเก่าก็ได้นะเอิกๆ
บทไม่ดีไม่พอ คิวบู๊ปลอมมาก
ที่นีกแสดงค่ะ เพราะนางเห็นด้วยกับการทำร้ายประชาชนฮ่องกง
@@Miniminnyx ขนาดฉายในจีนแผ่นดินใหญ่แล้วก็ยังไม่ทำเงิน ไม่เกี่ยวที่นักแสดงแล้วล่ะครับ
70/30 บทห่วย+นักแสดงวันไชน่า
อ่านบริบทของคุณเดวิด แฮนด์เขาน่าจะไม่ได้หมายความว่าให้เฮโฮเฮโฮเหมือนพี่จีนว่า แต่น่าจะหมายความว่า "อย่าทำลายจิตวิญญาณของหนังที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้วมากกว่าครับ"
เอาโซนิคเป็นตัวอย่างครับ ต้องฟังความคิดเห็นของแฟนๆ
เห็นด้วยครับ
จริงครับ ถ้าไม่ฟังแฟนๆ แล้วจะทำหนังให้แฟนๆดูทำไม 😅.
ใช่ครับถ้าโซนิคไม่ชัดพอดูเงือกน้อยแทนก็ได้ ว่าไม่ฟังแล้วผลเป็นไง
เห็นด้วยครับ จริงที่สุด
จริงครับ ผมว่านี้เป็นตัวอย่างที่ดีเลยนะ ฟังความเห็นแฟนๆแล้วยอมเลื่อนหนังไปแก้ดีไซน์เพื่อให้แฟนๆพอใจ
จริงๆอยากให้ทำใหม่ในมุมevil queenแบบเมลิฟิเซนส์อะค่ะ แต่ถ้าทำใหม่แบบเปลี่ยนบุคลิคสโนไวท์แนวพลังหญิงงี้มันดูยัดเยียดเกินไป เราก็เป็นผู้หญิงแต่หลังๆหนังชอบมาแนวนี้จนเอียน😂😂
จริงๆถ้าเป็นพลังหญิงแบบอนิเมชั่นมู่หลานเราชอบมากนะ แต่เราชอบความพยายาม ไม่ใช่ตีความว่าผู้หญิงเกิดมาเก่งเลยแบบในlive actionอะ😂
เอียนจริง อยากได้แนวธรรมดาบ้าง ไม่ต้องฉลาด เก่ง เป็นสาวออฟฟิต ธรรมดาก็ได้ -_-
ที่เอียน เพราะแนวคิด Woke มันคือการโกหกตอแหลครับ แนวคิด Woke มีความเชื่อว่าผู้หญิงกับผู้ชายไม่มีความต่างกันเลยแม้แต่เรืองเดียวแต่เป็นเพราะการสังสอนของคนรุ่นเก่าที่สร้างกรอบขึ้นมาให้ผู้หญิงไม่สามารถแสดงความสามารถของตัวเองออกมาได้ต่างหาก แนวคิดนี้คือความเชื่อที่ผิดและหลอกตัวเองครับ ผู้หญิงกับผู้ชาย มีความชอบหน้าที่และความสามารถที่แตกต่างกันออกไป, ตัวอย่างง่ายๆเลย แฟนตาซีของเด็กผู้ชาย มักจะเป็นเรืองที่เกี่ยวกับการพยายามที่จะเก่งขึ้นรวยขึ้นมีหน้าตาทางสังคมมีคนเคารพหรือเข้าใจโลกมากขึ้นจากนั้นก็ได้แต่งงานกับเจ้าหญิงแสนสวย เพราะผู้ชายทุกคนรู้อยู่แก้ตัวว่าคุณค่าของผู้ชายเมื่อเกิดมามันเริ่มจาก 0 จึงจำเป็นต้องพัฒนาตัวเองเพื่อให้คู่ควรกับสิ่งที่ตัวเองตั้งไว้ ส่วนแฟนตาซี ของเด็กผู้หญิง ก็จะเป็นแนวโรแมนติกได้รับความรักการปกป้องและแต่งงานกับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์และอยู่อย่างมีความสุขจวบจนชีวิตจะหาไม่ การที่แนวคิด Woke ปฏิเสธว่าผู้หญิงกับผู้ชายแตกต่างกันจึงไม่มีทางมองเห็นความจริงในเรืองนี้ครับ
นั่นหน่ะสิ ไม่รู้ว่าเค้ากำลังจะเล่าเรื่องราวของโลกในนิทาน หรือเรื่องราวของสาว Office ใน Newyork กันแน่ ยัดเยียดซะ
@@Tastykrubkrub1999ผู้หญิงสวยล่มเมืองก็คือพลังที่ยิ่งใหญ่มากนะผู้ชายต้องโดนสยบ😂
อะลาดิน เจ้าชายอสูร ก็เป็นตัวอย่างการนำดิสนีย์มาทำไลฟ์แอ็คชั่นที่เรียกว่าสอบผ่านนะครับ ส่วนมู่หลานกับเจ้าหญิงนางเงือกนี่... ขอบายตั้งแต่ไม่มีมูชูในมู่หลานทำใหม่แระ
ไม่มีมูชูไม่พอ เสน่ห์ของมู่หลานคือ ตอนพยายามฝึกให้ทันเพื่อนๆแล้วก็ใช้สติปัญญาแก้ไขทางด้านพละกำลัง มู่หลานจะค่อยๆเก่งขึ้นแล้วจะได้สนุก แต่นี่อยู่ไปเป็นอัจฉริยะเฉยเลย แถมต่อให้อัจฉริยะยังไงก็ต้องแพ้แรงของผู้ชายป่าว ตัวละครเก่งเวอร์เกิ้น ทิ้งทุกเสน่ห์ของมู่หลานแล้วจะให้สนุกยังไง
กรณี มู่หลาน เนี่ยต้องเข้าใจก่อนนะครับว่ามันผิดที่ดิสนีย์มาตั้งแต่ต้น เพราะมู่หลานฉบับอนิเมชั่นของดิสนีย์ เล่นปรับเปลี่ยนซะแหกตำนานจีนดั้งเดิมซะผิดเพี้ยน
แน่นอน ชาวจีน ที่เป็นต้นกำเนิด ตำนานมูหลาน ก็ย่อมต้องไม่พอใจกันอยู่แล้ว เพราะจีนมองว่าเป็นการบิดเบือนวัฒนธรรม และ ประวัติศาสตร์ของบ้านเขา
@@shinasuka5528 แล้วที่หนังทำไม่บิดเบือนหรอ ตัวละครมู่หลานเก่งซะไม่รู้จะมีตัวละครอื่นไปทำไม ยังไม่นับพวกหยิบย่อยอย่างนิสัยอีก ทำหนังใหม่เลยเหอะถ้างั้น
@@horrorhorizon5915 ผมถึงได้บอกไงว่าผิดที่ดิสนีย์ จะเวอร์ชั่นอนิเมชั่น หรือ เวอร์ชั่นหนัง ก็ผิด แต่ของเวอร์ชั่นหนัง ดิสนีย์ปรับเปลี่ยนให้ถูกคนจีนด่าน้อยที่สุด
แต่เวอร์ชั่นอนิเมชั่นเนี่ย มันแหกแบบว่าแหกสุดๆ ประเด็นยิบย่อยมันค่อนข้างเยอะแต่ถ้าเอาประเด็นใหญ่ๆ ของเวอร์ชั่นอนิเมชั่นเลยเนี่ย หลักๆคือ
1.มู่หลานเวอร์ชั่นนี้ มีนิสัยแบบอเมริกันเกิร์ลมากเกินไป เถียงพ่อด่าแม่ เดินเข้าห้องปิดประตูดังปังใส่หน้าพ่อแม่ คนจีนดูไงก็ WTF
2.มูชูที่เป็นมังกร ดิสนีย์ดันสร้างคาแรกเตอร์มาเป็นตัวตลก ทั้งๆ ที่มังกรคือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อันสูงส่ง คนจีนไม่ด่าก็แปลกแล้ว
3.ฮ่องเต้ก้มหัวโค้งคำนับมู่หลาน คนจีนเขาถือมาก ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะไม่มี ฮ่องเต้แล้วก็ตาม ฮ่องเต้ไม่มีวัน โค้งคำนับให้ใครโดยเฉพาะ สามัญชน แถมยังเป็นสตรีเพศ
@@shinasuka5528เรืองฮ่องเต้ นี้ไม่ใช้ครับคนจีนปัจจุบันเป็นจีนที่โตมากับคอมมิวนิสที่แอนตี้ระบบราชวงศ์อยู่แล้ว ถ้าได้ดูซีรีย์จีนบ่อยๆก็รู้ว่าเขาไม่ถือกัน
ไม่ขอสนับสนุนหนังเรื่องนี้ในทุกกรณี ครับ นางเอกปากเเซ่บมาก เเล้วมั่นหน้าด่าวรรณกรรมต้นฉบับว่าเจ้าชายทำตัวเหมือน stalker ทั้งๆที่ตัวเองจะได้เงินหนังที่ดัดเเปลงจากต้นฉบับแท้ๆ แล้วก็เรื่องเปลี่ยนบทคนเเคระ Pies Morgan ถึงต้องเชิญเชิญพวกนักเคลื่อนไหวสาย woke ไปรายการเเล้วถามว่ามันสมควรเเล้วหรอ? และช่องยูทูปฝรั่งก็ออกมาเเฉข่าวลบๆของหนังเรื่องนี้เเทบทุกวัน ซึ่งในกรณีนี้ต่าง ในเคสของ เงือกน้อยยังพอไปสนับสนุนได้เพราะนางเอกไม่ได้ทำอะไรผิด ปล.ขอให้หนังเรื่องนี้เจ๊งยับๆครับ จะรอถ่มถุย
สโนไวท์สายชูนิ้วกลาง ☺
เมื่อสักพัก นางออกมาประท้วงเรื่องเงินเดือน นางว่านางควรได้เงินรายชั่วโมงมากกว่านี้ เพราะนาง 'ต้องเหนื่อย' ใส่ชุดและถ่ายทำทั้งวัน
เห็นนางให้สัมภาษณ์ว่านี่ไม่ยุค 1900 แล้ว 'มุมมอง' ก็ควรทันสมัยกว่านี้ ผู้หญิงสมัยนี้ต้องทำงานหนัก อ่อนโยนอะไร แม่บ้านอะไร เพื่อนอะไร ครอบครัว ความรัก ความเห็นใจพวกนั้นไม่จำเป็นต้องมี
OMG...
อ้าว วีรกรรมแบบนี้ ไม่เอาละ
ถ้าเป็นจริง ก็ขอให้มันเจ้ง สาธุ
เออเกลียดปากนางเหมือนกัน...
(ขนาดไม่ค่อยดังนะ)
หนังเอาชีวิตรอดไปไกลถึงดวงจันทร์ ruclips.net/video/Hxb4W8nqlhc/видео.htmlsi=g0XJa0FHCmtXM-f-
มู่หลานคือ เสียใจอะ เอาจริง เอามูชูออกเนี่ยนะ บอกไม่ควรมีมังกรเพราะไม่อยากให้แฟนตาซีเกิน แต่มีแม่มดกับนกไฟ...จ่ะ เอารักแรกของฉันคืนมาค่าา ทำไมทำดีๆแบบซินเดอเรลล่ากับโฉมงามกับเจ้าชายอสูรไม่ได้กันนะ ปรับส่วนที่ควรปรับสิ
ผมว่าแก่นของการ์ตูนเจ้าหญิงตามต้นฉบับ คือ การพยายามถ่ายทอดความเป็นธรรมชาติและความสดใสร่าเริงของเด็กผู้หญิง เสริมด้วยการผจญภัยของตัวละคร ซึ่งไม่ได้ต้องการจะเหยียดเพศหรือมองว่าผู้หญิงอ่อนแอเลย นักแสดงไม่น่ามา WOKE ใส่งาน Classic แบบนี้เลย อคติเกิ้นนน
ต้นฉบับคือความเป็น แฟนตาซีของเด็กผู้หญิง อย่างแท้จริงเลยครับ
ธรรมชาติจริงครับให้ผู้หญิงหลับนอนกับผู้ชาย 7 คนที่เป็นคนงานเหมืองจนตายแล้วให้เจ้าชายรูปงามที่มีรสนิยมชอบศพอุ้มกลับวัง ธรรมชาติของยุคนั้นมากๆ
@@siriwatsinkittiwut4061 ยังมีพวกโง่ ที่เอาฉบับกริม มาอ้างแทนคำว่าต้นฉบับ(ดิสนีย์) ในบริบทนี้อีกหรอ ว้าวมากค่ะ !! สุดยอดไปเรยยย
@@stsotika ผมไม่เคยอ่านฉบับกริมเลยนะดูแต่ของดิสนี่นี่แหละ 😄 มันเป็นยังไงหรอ
I find the word 'nature' meaningful in the sentence.@@siriwatsinkittiwut4061
สำหรับสโนไวท์ชอบ version mirror mirror จอมโจรสโนไวท์กับราชินีบานฉ่ำมาก เป็นเวอร์ดัดแปลงที่ดีมาก บทดี แคสดี คอสตูมดี สโนไวท์เก่ง เคสคนแคระจริงๆมีพูดถึงปัญหาที่คนแคระถูกแปลกแยกด้วยดูเพลินๆมาก ลิลี่ คอนลินส์เป็นสโนไวท์กับจูเลีย โรเบิร์ทเป็นราชีนี สวยมากทั้งคู่❤❤❤
ส่วนตัวไม่ชอบหลักๆคือมาจากนักแสดงค่ะ นางทำตัวหยาบคายแล้วก็ทำท่าเหมือนรังเกียจบทที่ตัวเองเล่น คือถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องรับงานก็ได้นะหล่อน และตัวหนังที่ทำแบบยัดเยียดความwokeให้คนดูแบบไม่กลมกล่อมอะ แบบ นี่นะ นี่woke พวกไม่เห็นด้วยคือพวกเหยียดทั้งหมด หนังที่ปรับบทมาแล้วชอบอย่างมาเลฟิเซนท์ก็มี หนังที่ตรงปกอย่างซินเดอเรลล่าก็ดี มันไม่ใช่แค่ทำไปตามๆสูตรอย่างใดอย่างนึงแล้วจะประสบความสำเร็จได้ การทำให้มันออกมากลมกล่อมและดีคือโจทย์ของทั้งผู้กำกับและนักแสดงและคนเขียนบทค่ะ
ถ้าจะตีความใหม่ทไปดูตัวอย่างของ mirror mirror (2012) ทำแบบนั้นไปเลย หาเรื่องราวใหม่ๆ เทคนิคใหม่ๆ จอยๆ สนุกๆ หรือจะเน้นจริงจัง ดาร์คๆหน่อยก็ snow white and the huntsman นี่ก็เลือกเลยว่าจะขายควีน เน้นฉากสวยๆชุดสวยๆของควีน แล้วทั้งสอง ver. นี้ ไม่มีใครพูดดูถูกต้นฉบับเลย บอกว่าต่างจากต้นฉบับ แฟนๆการ์ตูนก็สามารถดูเสริมจินตนาการได้
mirror mirror อันนี้ดีมาก ดูได้ไม่เบื่อ แถมคนแคระในเรื่องก็คนแคระจริงๆด้วย
@@EMINTJA แบบใหม่แบบสับที่แท้จริง สโนวไวท์ ยื่นแอปเปิ้ลคืนให้ควีนที่ปลอมตัวเป็นคุณยายกิน 5555 จะทำให้มันเก๋แบบนี้ก็เปลี่ยนชื่อเรื่องไปเลย เป็นการสร้างสรรค์ใหม่ แต่เคารพต้นฉบับ เพราะมีองค์ประกอบครบ
คิดถึง Mirror Mirror มากๆ ชอบของ mirror mirror มากๆ.
ปัญหาของเรื่องนี้มันหลายเรื่องนะคะ ถ้าจะตีความใหม่ ต้องประกาศตั้งแต่แรกไปเลยค่ะว่าจะไม่ base on animation แล้วอยากทำอะไรก็ทำไปเลย 😂 สโนว์ไวท์มีมาหลายเวอร์ชั่นมาก แต่เวอร์ชั่นดิสนีย์เราเพิ่งเห็นเวอร์ชั่นเดียว ซึ่งเป็น animation เรื่องยาวเรื่องแรกของดิสนีย์ แล้วทำหนังมาฉลอง ดิสนีย์ 100 years มันทรงคุณค่านะ คนที่เคยดูเวอร์ชั่น animation มันคาดหวังสูง เหมือน The Little Mermaid นั้นแหละค่ะ
การจะไม่ใช้คนแคระจริง ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่นักแสดงนำหลุดสปอยมาก่อนไง แล้วเค้ามีดราม่าตั้งแต่หนัง shazam ที่จีนแล้ว คุณแอดมินลองหาข่าวราเชล อ่านได้เลยค่ะ เยอะมาก การตอบโต้ของนางก็ไม่น่ารักค่ะ
มู่หลาน หลิวอี้เฟยเป็นคนจีนค่ะ ตรงปกค่ะ แต่เนื้อเรื่องไม่ใกล้ animation เลยค่ะ มีเนื้อเรื่องเปลี่ยนไปเยอะมาก ลองดูสองเวอร์ชั่นเทียบได้เลย แล้วจะได้คำตอบค่ะว่าทำไมรายได้ไม่ดี หลิวอี้เฟยไม่มีความน่ารักของมู่หลานเลยค่ะ แถมหลิวอี้เฟยมีข่าวการเมืองก่อนหนังออกฉายแปบเดียว แล้วดันเจอโควิทด้วย รายได้เลยไม่ดีค่ะ
การเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องทำได้นะ แต่ประกาศเลยค่ะ เหมือนตอนมาลีฟรีเซนต์นั้นแหละ ถ้านักแสดงทำงานได้น่าสนใจ ยังไงหนังก็ขายได้ค่ะ
แต่ ณ เวลานี้ ถ้ารั้นจะฉาย ดิสนีย์ต้องจัดการนักแสดงให้ได้ค่ะ หลุดสปอยมาเยอะมากแล้วตอนนี้
ทุกอย่างมันโอเคอยู่แล้วถ้าอยากได้หญิงสู้แค่ทำให้สโนว์ไวท์มีการเติบโตมากกว่าเพราะต้นฉบับสโนว์ไวท์มีชีวิตยากลำบากแต่ก็ยังคงมีความสดใสและความหวังโลกสวยเพราะอยู่แต่ในปราสาท แต่ค่อยมาแกร่งตอนโดนเอาไปฆ่าดีกว่า แสดงความเปลี่ยนของตัวละครที่มองความจริง แต่ยังให้ความหวังและความสุข แต่ที่น่าจะปัญหาของเรื่องเพราะแอปเปิ้ลที่ทำให้หลับ บทตรงนี้ว่างมากไม่มีไรเลย
*ความเห็นส่วนตัว
ในกรณีของมู่หลานส่วนตัวมองว่า บทไม่สมเหตุสมผล ฝ่าบาทที่จับลูกธนูด้วยมือเปล่าได้ไม่น่าจะต้องให้ใครไปช่วยนะ ส่วน นักแสดง สวยมาก แต่ทำหน้าเดียวทั้งเรื่อง ยัน โปสเตอร์
ส่วนสโนไวท์ นี่น่าจะเห็นกรณีศึกษาจากหลายๆเรื่องแล้ว หวังว่าดิสนีย์จะตัดสินใจได้ดีและเหมาะสมนะ
มู่หลานก็ Woke อยู่นะ พลังหญิง ฮ๋องเต้แยงซีนชิบ มู่หลานจืดไปเลย
เข้าใจในความคิดเห็นของฝั่งฟังคลาสสิคนะคะ นึกถึงว่าเค้าต้องแปลงจากบทนิทานกริมที่ค่อนข้างมีเนื้อหาที่รุนแรงให้กลายเป็นนิทานเด็กที่สวยงามแหละเข้าใจง่าย แต่ขนาดเราตอนเด็กก็คิดว่า สโนว์ไวน์ฉบับดิสนีย์ค่อนข้างทำได้ครบถ้วนนะคะ มีทั้งสวยงาม น่ารัก ตลก เศร้า กดดัน โดยเฉพาะความน่ากลัว คือถ้าหนังคนแสดงได้ลองนำฉากเหล่านั้นมาขยายมันก็อาจจะสนุกไปอีกแบบนะคะ โดยเฉพาะบทคนแคระจริงๆเด่นมากเลยนะคะ ช่วยจำกัดแม่มดให้นางเอกด้วย เค้าน่าจะเล่าไปในทางคนแคระก็น่าจะสนุกดีนะคะ ในส่วนของlife action เออ ถ้าจะบทไปเลยจริงๆก็อาจจะดู แต่ที่ไม่อยากสนับสนุน คงเป็นทัศนคติของตัวน้องนางเอก เราว่ามันไม่ได้ทำให้เค้าดูดีเลย ไม่ได้รู้สึกถึงความฉลาดและความเป็นprofessional ในการให้สัมภาษณ์ด้วย หวังเมื่อเค้าโตขึ้นเค้าจะดีกว่านี้นะคะ
ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมผู้ผลิตไม่มอง Beauty and the Beast (2017) เป็นตัวอย่าง จำได้ว่าแคสต์เหมือนต้นฉบับและรายได้ดี
ปากดีเหมือนแอเรียลเลยว่ะ สุดท้ายหายหัว😂😂😂
ส่วนมู่หลานนี่ต้องโทษบทเลย แบบเดิมก็ดีอยู่แล้วไปแก้บทพังหมดเลยทีเดียว😢😢😢
การเมืองด้วยครับที่นางไปสนับสนุนจีนในการประท้วงฮ่องกง ส่วนจะคิดว่านางทำเองหรือเบื้องบนสั่งมาก็แล้วแต่บุคคลละ
@@p_rinchan2686 รายได้ในจีนก็ไม่ดี บทมันแย่จริงๆ
เมอร์เมดที่โดนรุมหยุมมาแล้ว เจอสโนว์ไวท์ที่เนื้อเรื่องกับชื่อแทบจะบังคับคาแรคเตอร์คนแสดง น่าจะยับกว่า มู่หลานที่คนไม่ดูเพราะว่าการเรียบเรียงมันห่วยแตกมาก แหกต้นฉบับไปบางส่วน ไม่ได้ผิดที่นักแสดงเลย แคสติ้งดี เพลงนี่โคตรรรรร ดี โปรดักชั่นดูดี แต่เส้นเรื่อง...เอ๊ะทั้งเรื่องดูไปเอ๊ะไป
ที่คนไม่ชอบเพราะความปากแจ๋วนางนั้นแหละ นางแสดง attitude ชัดเจนมากว่านางไม่ชอบ version เก่า ทำไมชั้นต้องถูกเซฟด้วยเจ้าชาย แต่ละอย่างที่พูดออกสื่อมาคือ ไม่ได้ embraces ความเป็น human being เลย เราเป็น ผญ เราก็มองว่าความเฟมินิสไม่จำเป็นต้องด้อยค่า ผช ลด บทบาท ผช. แต่พอนางได้บทสโนว์ไวท์ คือเข้าใจว่าภูมิใจที่ได้รับเลือกให้เล่นหนังทุนสร้างเยอะค่าใหญ่ยังไงฉันก็ปัง แต่แต่ละคำพูดนางที่ออกสื่อคือ attack ต้นฉบับทุกอย่าง
นักแสดงที่แสดงออกแบบนี้คือนักแสดงที่ไม่เคารพอาชีพตัวเองค่ะ จริงๆถ้าไม่ชอบบท หรือคิดว่าตัวเองไม่เหมาะจริงๆนี่นักแสดงปฏิเสธงานกันเป็นปกติมากนะ แต่นี่คือเหมือนรับงานเพราะเงิน บริษัทใหญ่ แล้วยังจะปากแจ๋วอีก ถ้ารักงานแสดงจริง รับงานแบบไหนมามันต้องเล่นให้ได้หมดสิ เพราะไม่ได้เล่นเป็นตัวเองนะ ต้องสวมบทเป็นตัวละครที่ได้รับต่างหาก
ถ้าสร้างคุณค่าให้ตัวเองไม่ได้ วิธีที่ง่ายที่สุดคือลดคุณค่าคนอื่นไง 😂😂😂
จริง เราฟังนางสัมภาษณ์ยังเหวอ ดูจงเกลียดจงชังเนื้อเรื่องเดิมมาก งงว่าไปแคสทำไมเนี่ยถ้าไม่ชอบขนาดนี้
เอาจริง ๆ ผมว่าการตีความใหม่มันไม่ได้แย่นะครับ แค่มันต้องมีบริบทรองรับกับสิ่งที่จะเปลื่ยนแปลง อย่าง Maleficent นิก็ไม่ได้ตรงกับตรงฉบับมากแต่มันเวิร์กเพราะเค้าเล่าเรื่องที่ในการ์ตูนไม่ได้เล่าว่าทำไม Maleficent ดูไม่ชอบราชากับราชินี เอาตรงนั้นมาเล่าอีกมุมกลายเป็นมีแต่คนรักตัวละครนี้ขึ้นไปอีก เนื้อหาเรื่องรักแท้ก็เล่าได้ดี เนี่ยคือสิ่งที่ตีความใหม่ละเวิร์ก แต่กับ Little Mermaid กับ Snow White นิ เหมือนอยากจะเปลื่ยนก็เปลื่ยนไปเลย ไม่ได้มีเหตุผลหรืออะไรมารองรับเลยว่าทำไมถึงตีความแบบนี้ ผมเลยมองว่าไม่เวิร์กเท่าไร
เป็นไปได้ว่า Snow White จะถูกดองไปเลยไหม เพราะกระแสมันแรงมากทั้งจากสาย woke ที่มากไป และที่สำคัญคือตัวนักแสดงนำเองที่มั่นใจในแบบที่ไม่ถูกที่ถูกเวลา ยังมองไม่ออกเหมือนกันว่าดิสนี่ย์จะทำยังไง เพราะถ้าจะให้คนลบอคติได้ก่อนหนังฉาย หนึ่งในนั้นคือการเปลี่ยนนักแสดงนำ
ดองก็ดีครับพึ่งสมน้ำหน้าแอลเรียลปากแสบตอนนี้ตกกระป๋อง รอคนนี้ต่อเลยปากดีเหมือนกันเลย
ไม่มีทางครับ แค่ไปห้ามพูดยังทำไม่ได้เลยเพราะดิสนีย์เลือกเล่นเกมทางการเมืองเอง การแคสคนละตินมาแสดงเพื่อ อ้างว่าตัวเองเปิดกว้างเรืองผิวสีเพื่อเอาใจชาว Woke เดโมแครต การดอง เปลี่ยนนักแสดงหรือแม้แต่ห้ามไม่ให้นักแสดงพูดก็จะโดนกระแสกลุ่มหัวรุ่นแรงทางกาารเมืองฝ่ายที่ตัวเองพยายามจะเอาใจตีกลับ ขนาด บ็อบ เชเป็ก CEO คนก่อน พยายามจะถอนดิสนี้ย์ออกจากคนพวกนี้ สักพักก็โดนบอรด์บริหารบังคับให้ออกมาขอโทษเป็นคลิป พอรอบต่อมาที่แกจะทำอีกก็ทูกไล่ออกกลางอากาศแล้วเอา บ็อบ ไอเกอร์ CEO คนก่อนที่เป็นคนนำดิสนีย์ลงไปเล่นการเมืองกลับเข้ามาเพื่อเมคชัวร์ว่า บริษัท จะไม่ถอนตัวออกจากการเมืองเลือกข้าง
@@Nate-jx8nt งงว่าจะเอาบริษัทไปโยงการเมืองทำไมมีแต่เสียกับเสีย โดยเฉพาะนิทานเด็กด้วย มันอ่อนไหวนะ
@@natwaritthapaliyanan4172 เพราะว่าเดโมแครตหรือพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายของอเมริกา มันคุ้มสื่อส่วนใหญ่ของประเทศไว้ไงครับ แล้วพวกนี้ก็หาเสียงโดยการเอาใจชนกลุ่มน้อยของประเทศ เช่นพวกความเท่าเทียมกับความหลากหลายอะไรพวกนี้แหละ แล้วพอที่นี้ทรัมป์ดันชนะเลือกตั้งทั้งๆที่ใช้สื่อโจมตีสารพัด เดโมแครตก็เลยเปลี่ยนวิธีใช้เส้นสายให้กลุ่มนักเคลื่อนไหวโปรคอมมิวนิสพวกนี้ขึ้นมานั่งในตําแหน่งตัดสินใจสำคัญๆในบริษัท์ต่างๆ ร่วมถึงวงการบันเทิงด้วยและพวกนี้ก็จ้างคนโดยเน้นความหลากหลายเป็นหลักไม่สนเรืองความสามารถ ร่วมถึงนักเคลื่อนไหวพวกนี้เป็นชนกลุ่มน้อยที่เกลียดอเมริกา โปรคอมมิวนิสและทุนนิยมเป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำให้พอกลุ่มนี้ไปที่ไหนคุณภาพงานก็ห่วยแตกหมด เพราะเน้นเมสเสทของตัวเองมาก่อนคุณภาพ //และพวกนี้ก็ใช้วิธีกำจัดคู่แข่งโดยการให้สื่อฝ่ายซ้ายสาดโคลนใส่คนที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการหรือแนวคิดของมันว่า เหยียดเพศ เหยียดผิด เลือกทรัมป์ บ้างทีถึงขั้นปลอมหลักฐานกับพยายามปลอมมากล่าวอ้างว่าเคยถูกคนนั้นข่มขื่นเมื่อ 15-20ปีก่อน ก็มี ทำให้บริษัท์ต่างๆที่รับพวกนี้เข้ามาทำงานเลยกลัวการถูกแว้งกัดโดยคนกลุ่มนี้ เพราะงั้นการไล่พวกนี้ออกได้คือต้องรอให้บริษัท์เกือบเจ๊งแบบสุดๆแล้วไล่คนออกยกใหญ่ กับทำแบบ อีลอน เข้าซื้อทวิตเตอร์ไล่พวกแม่งออกหมดเปลี่ยนโหมดมาเป็นทุนนิยมประชาธิปไตยเต็มตัว จนทุกวันนี้การแคนเซิ้ลสาดโคลนของพวกคอมมิวนิสนี้แทบทำกันไม่ได้อีกแล้ว แต่ผลเป็นไง อีลอน โดนสาดโคลนใส่จากสื่อใหญ่ไม่เว้นวันแค่พี่แกรวยจัดจนไม่สะเทื่อน
ส่วนตัวคืนยันคำเดิม
จะคิดใหม่ทำใหม่อย่างน้อยก็ต้องดีกว่าของเดิม
ถ้าคิดแล้วไม่ดีกว่าเดิมก็ไม่ต้องทำ
ยกตัวอย่างBeaty and the beast ฉบับ เอ็มม่า วัตสัน ซึ่งดีฉิบxายเลยครับ
Snow White คืออนิเมชั่นสีเรื่องยาวและเรื่องแรกของดิสนี่ย์ที่สามารถทำให้ Disney studio ฟื้นมีชื่อเสียงมาได้ ถ้าเรียกว่า remake เค้าโครงของเรื่องมันควรจะใกล้เคียงต้นฉบับให้มากที่สุดสิ ถ้าจะอยากเปลี่ยนเนื้อเรื่องหรือเปลี่ยนบทก็ทำเรื่องใหม่ไปเพราะนักแสดงนำหญิงก็ไม่ได้ดูที่จะชอบหนัง Snow White 1937 เลยสักนิด
ผมไม่สนับสนุนครับ ในเมื่อสนับสนุนความเท่าเทียมทำไมไม่ตั้งชื่อ snowbrown ไปเลยล่ะ เกลียดคนขาวมากนักนิ แต่ถ้าอยากให้จริงจังขึ้นมาหน่อยก็ยังไม่น่าสนับสนุนอยู่ดี จากเรื่องเงือกล่าสุดก็ยังไม่เห็นการใส่ความโว๊คที่ดูฉลาดเลย มันยัดมาตรงๆมางั่งๆ เลยคิดว่าเรื่องนี้ก็ไม่ต่างกัน
ขอไม่สนับสนุนนักแสดงหลงตัวเอง ที่ดูถูกบทที่ตัวเองเล่น ทำเหมือนตัวเองดังมากจะพูดไรก็ได้ แต่หนังกี่เรื่องที่หล่อนเล่นขาดทุนหมดเลย สำคัญตัวเองเกิน
เอาจริงๆมู่หลานคนละเคสนะครับ มู่หลานเคสนักแสดงตรงจริง แต่เนื้อหาเปลี่ยนเยอะเลยครับเลยไม่ประสบความสำเร็จ
ลิตเติ้ล เมอเมด ตีความใหม่ไปแล้ว
สโนว์ไวท์ ก็ตามต้นฉบับไม่ได้สักเรื่อง
จากความประทับใจในวัยเด็กสู่ เวอร์ชันคนแสดง ที่มีการปรับนิดหน่อยเพื่อให้เวอร์ชันคนแสดงมีความสมจริงขึ้น
แค่นี้คนก็พร้อมจะจ่ายเงินไปดูแล้ว🎉
การ์ตูนสโนว์ไวท์ของดิสนีย์คือการ์ตูนคลาสสิคอายุ 80 กว่าปีเลยนะ นางผ่านตาผ่านจอของเด็กหลายรุ่นหลายสมัยมาก นางเหมือนไทม์แมชชีนที่เวลาดูแล้วรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลาเห็น"ความสวยงาม" ในอดีต ขนาดสโนว์ไวท์เวอร์ชั่นอื่นยังมาต้านนางไม่ได้เลย ถ้าทำให้ออกมาดีไม่ได้ก็ควรปล่อยนางให้เป็นเป็นการ์ตูนคลาสสิคในตำนานต่อไปเถอะนะ
บทนิยายเดิมจริงๆเกือบ200ปีเลยอะ สโนวไวท์จริงๆคือคนเยอรมัน สมัยนั้นมีแต่ผมทอง คนผมดำจึงถือว่าโดดเด่นมากเพราะหายาก สะท้อนให้เห็นค่านิยมความงามในสมัยนั้นเหมือนภาพสะท้อนประวัติศาสตร์ พอเปลี่ยนตรงนี้มันหมดเสน่ห์ไปเลย
ถ้าเป็นเจ้าชายขอราชินีแต่งงานได้ไหม กัล กาด็อต สวยมากๆๆๆ😂
ถ้าจะให้ลื้อทำใหม่หมดก็ไม่ต้องใช้ชื่อเรื่องว่าสโนว์ไวท์ เอาชื่ออื่นไปเลย หรือถ้าต้นฉบับบทมันน้อยมากคุณก็เติมลงไปว่าช่องว่างที่มันหายไปมันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ถ้าต้นฉบับไม่ดีดิสนีย์คงไม่มีวันนี้อะ นี้ว่ารายได้หลักของดิสนีย์มาจากกลุ่มเจ้าหญิงด้วยซ้ำนะ ย่างมูหลานแคชนักแสดงดี แต่ที่ทำรายได้ไม่ได้เพราะเนื้อเรื่องมันถูกเปลี่ยนหมดสู้ใช้ชื่อเรื่องว่า "หญิงแกร่งพลังฟีนิกซ์" แล้วเปลี่ยนชื่อตัวหลักเป็นชื่ออื่น อาจทำรายได้ดีกว่านี้ สรุปว่าอยากให้ทำตามต้นฉบับแล้วตรงไหนที่เหตุการณ์มันหายไปก็เติมเข้ามาให้เหตุการณ์มันละเอียดกว่าในอนิเมชั่น แต่ก็ต้องไม่น่าเบื่อ เรื่องความสมจริงมีได้ แต่ต้องไม่กลบความแฟนซี เอาจริงๆสิ่งเดียวที่ดึงดูดให้อยากดูตอนนี้คือกัล กาด็อท ที่เป็นแม่มด
ถ้าพูดเรื่อง Woke ในเนื้อเรื่อง Aladdin คือ Woke แบบที่ไม่ดูยัดเยียดสุุดแล้วค่ะ นางเอกตรงปก แต่ Woke Empower แต่ดูแล้วกลมกล่อม
จริงๆอะลาดินก็แคสไม่ตรงนะ ต้นฉบับมาจากนิยายอาหรับ(แขกขาว)แต่แคสแขกอินเดียมาเล่น(หน้าตาไม่เหมือนกันนะ แต่ฝรั่งคงแยกไม่ออก) ตอนเราดูยังงงว่าอะลาดินมันนิทานอาหรับไม่ใช่เหรอ แต่ฉากดี เพลงดี บทดี อลังการ มันเลยพอถูไถไปได้
ง่ายๆ เลย ถ้าอยากตีความใหม่ ก็ควรสร้างเรื่องราวใหม่ ไม่ใช่เอาของเก่ามาหากิน
ที่ด่าๆ กันก็เพราะประเด็นเรื่องนี่แหละนี้
หนังไลฟ์แอคชั่นจากดิสนีย์ที่มาจากการ์ตูนชุดนี้ ทำไม่ง่ายสักเรื่อง บางเรื่องก็โดนสร้างบ่อยทับถมกันดาษดื่นหาจุดแตกต่างยาก ทั้ง พินอคคิโอ โอลิเวอร์ ทาร์ซาน แพน เฮอร์คิวลิส ที่เหลือไม่ค่อยช้ำแต่หาจุดขายโคตรยาก ทั้ง โพคาฮอนทัส คนค่อม เจ้าชายกบ แบมบี้ สโนไวท์ (ไม่นับเวอร์ชั่นแอ็คชั่นก่อนนี้) ขนาดที่หลายเรื่องต้องจำใจทำแล้วปล่อยลงสตีมไปเลย
คิดถึง สโนว์ไวท์ เวอร์ชั่น Mirror Mirror .
เมนต์แรก ตามทุกคลิปจ้า
ผมว่ากำลังตีความหมายคนดังทั้งสองผิดไปนะครับ เพราะมันต้องดูถึงบริบทโดยรวมทั้งหมดด้วย ผมมองว่าเอาจริงๆ การตีความต้นฉบับใหม่นั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ และไม่มีใครจะมาว่าแน่นอน ถ้ามันยังอยู่ในกรอบของการเคารพต้นฉบับ เพราะนิทานในตำนานหลายๆ เรื่องถูกเอามาทำซ้ำและตีความหมายใหม่และประสบความสำเร็จมาก็ตั้งมากมาย สโนว์ไวน์เองก็เช่นกัน จำได้ไหมในฉบับคริสเตน สจ๊วตที่ทำออกมาเป็นโทนดาร์ก สงคราม และในปีเดียวกัน สโนว์ไวน์ฉบับ ลินลี่ คอร์รินที่แหวกเป็นแนวตลกจัดหนักเลย และทั้งสองเรื่องไม่ได้โดนดราม่าเรื่องว่าไม่เคารพต้นฉบับแม้แต่น้อย เหตุผลก็ง่ายๆ เพราะทั้งสองอาจแปลความสโนว์ไวท์ใหม่ ตีความฉีกออกไปจากต้นฉบับแทบจะสิ้นเชิง แต่พวกเขายังคงรักษาหัวใจหลักของเรื่อง นั่นคือสโนว์ไวท์ ที่เป็นสโนว์ไวท์ เป็นเจ้าหญิงแสนงามที่มีผิวขาวราวหิมะ ซึ่งต่อให้จะดัดแปลงสโนว์ไวท์เป็นผู้ชาย แต่ถ้ายังมีคำว่า ความงาม และผิวที่ขาวราวหิมะ มันก็ยังไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร ดีไม่ดีน่าสนใจกว่าเดิมด้วย แต่ในทางตรงกันข้าม ดิสนีย์กลับทำเพียงเอาเนื้อเรื่องเดิมหรือผสมการตีความใหม่มาใช้ แต่กลับทำลายหัวใจหลักของสโนว์ไวท์ทิ้ง นั้นก็คือการทำให้สโนว์ไวท์ไม่ใช่สโนว์ไวท์อีกต่อไป ซ้ำยังพยายามยัดเยียดการเมืองและความ work จนเกินงาม และนั่นแหละคือประเด็นที่ทำให้คนเกลียด และทายาทของผู้กำกับการ์ตูนดิสนัย์เขาออกมาวิจารณ์ เขาไม่ได้วิจารณ์เพราะดิสนีย์ดัดแปลงต้นฉบับการ์ตูน แต่เขาวิจารณ์ที่ดิสนีย์ฆ่าหัวใจหลักของสโนว์ไวท์ และยัดเยียดความ work โง่ๆ ไร้ศิลปะ ไร้ความสร้างสรรค์ ไร้สาระเข้ามาแทนที และอย่าลืมว่าดิสนีย์ก็เคยดัดแปลงเจ้าหญิงนิทราในเรื่องมาเลฟิเซนต์แบบไม่เหลือเค้าเดิม แต่ไม่มีใครดราม่าเรื่องต้นฉบับสักคน และประสบความสำเร็จได้ความเสียงชื่นชมอย่างสูงมาก ดังนั้นคำวิจารณ์นี้ไม่ใช่เรื่องของการดัดแปลงต้นฉบับที่พ่อเขาเคยทำ แต่เป็นการวิจารณ์การฆ่าหัวใจหลักของต้นฉบับของดิสนีย์ต่างหาก เราต้องแยกให้ออกระหว่าง "หัวใจหลัก" ของเรื่อง กับ "โครงเรื่องโดยรวม" แล้วจะเห็นภาพ และความหมายที่เขาจะสื่อมากขึ้น
ส่วนคำวิจารณ์ของ ปีเตอร์ ดิงค์เลจ ผมว่าที่เขาออกมาพูด เหตุผลเพราะสโนว์ไวท์ในเวอน์ชั้นดิสนีย์นั้น มันเน้นที่คนแคระ คนแคระแทบเป็นตัวหลักของเรื่อง และสโนว์ไวท์กับเจ้าชายแทบจะเป็นแค่ตัวประกอบด้วยซ้ำในฉบับการ์ตูนน่ะ ใครผ่านการ์ตูนสโนว์ไวท์มาต่างก็รู้ว่าคนแคระคือตัวดำเนินเรื่องหลัก และคาแร็กเตอร์จัดจ้านน่าจดจำ ในขณะพวกหนังที่ทางเจ้าของช่องยกตัวอย่างมา คนแคระเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในเรื่องราว สโนว์ไวท์ในฉบับคริสเตน สจ๊วต คนแคระเป็นเพียงตัวประกอบ หัวใจหลักของหนังคือสโนว์ไว์กับนายพรานและราชินี ส่วนเดอะริงค์ หัวใจหลักของเรื่องคือแหวนกับเหล่าฮอบบิด แถมคนแคระยังถูกตีความออกมาให้ดูเท่ห์ สู้เก่ง แข็งแกร่งและมีมิติด้วยอีกต่างหาก แต่ในสโนว์ไวท์ของดิสนีย์มันไม่ใช่ไง ของดิสนีย์คนแคระแทบเป็นหัวใจหลักของเรื่อง ตามชื่อเรื่อง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด ฉะนั้นเมื่อคนแคระคือหนึ่งในตัวเอกของเรื่อง การเอาคนแคระจริงมาเล่นและใช้โอกาสนี้ตีแผ่ความเป็นคนแคระที่มีมิติในอีกด้านมันก็ควรต้องทำ เพื่อทำให้เห็นว่าคนแคระไม่ใช่แค่ตัวตลก เพราะตัว ปีเตอร์ ดิงค์เลจ เขาก็มักรับบทซีเรียสที่เน้นความสามารถการแสดงตลอด ซึ่งมันก็เหมือนการที่เขาพยายามลบภาพว่าคนแคระเป็นแค่ตัวตลก หรือตัวประกอบฉากเอาฮาอย่างเดียว ซึ่งการที่เขามาเคลื่อนไหวเรื่องนี้ มันก็ถูกต้อง มันเป็นโอกาสที่ดิสนีย์จะได้ทำสิ่งที่ถูกสักครั้งสักที ไม่ใช่ work แบบไร้แก่นสาร พูดและยัดเยียดอยู่ประเด็นเดิมๆ ซ้ำซาก วนลูป เหมือนโลกมีแต่คนผิวสีกับ LGBTQ+ ให้พูดถึง แต่คนที่มีความพิเศษในด้านอื่นๆ ไม่มีความหมาย ในเมื่อจะ work แล้ว ก็ work ให้มันถูกจุด และถูกต้องกับหัวใจหลักหนังจริงๆ นั่นแหละที่ ปีเตอร์ ดิงค์เลจ ที่เขาอยากจะสื่อ
ดีใจมากที่มีคนเข้าใจเรื่องนี้ เราไม่เคยดูช่องนี้มาก่อนและเข้ามาดูเป็นคลิปแรกเลยอาจจะยังไม่เข้าใจมุมมองของเจ้าของช่องมาก แต่เรามีความคิดเหมือนคุณเลยว่าเจ้าของช่องน่าจะตีความผิด และมันส่งผลให้คำพูดของทั้ง2คนที่ออกมาวิจารณ์ดูสุดโต่งเกินไป อาจทำให้คนที่เข้ามาฟังรู้สึกไม่ดีกับผู้วิจารณ์ได้
แต่อันนี้มัน สโนไวทดิสนีย์ไงคะ เข้าใจยากตรงไหน แล้วอี 2เวอร์ชั่นที่คุณกล่าวมาน่ะ "ขาวววววววววววววววววววววววววววววววราวกับหิมะ" ด้วยไง สโนไวท์แต่ผิวเหมือนไปคลุกดินมาขนาดนี้ มันสโนไวท์ตรงไหน ชื่อสโนไวท์ไม่ได้ ได้มาเพราะ ว้าวว ชื่อนี้น่าใช้จังซะหน่อย
ชอบมู่หลานเวอร์ชั่นจ้าวเหว่ยแสดง 😁👍
ผมว่าแนวทางแบบนี้ของดิสนีย์ไม่ค่อยokมากนะ คือเข้าใจหล่ะว่าอยากให้สังคมยุคใหม่มีความเท่าเทียมด้านสีผิวแต่การลบสิ่งที่มีค่าของคนผิวขาวแล้วสร้างอย่างอื่นทับมันก็น่าเกลียดเกิน แทนที่จะสร้างหนังใหม่บทที่ออริจินัลของตนเอง แบบนี้สักหน่อยคงมีหนังสงครามโลกครั้งที่สองและฉากบุกนอร์มังดีจะมีแต่ผู้หญิงล้วน
มู่หลานมันไม่ได้เข้าโรงด้วยปล่าวครับ มันติดช่วง COVID กำลัง PEAK, มันเข้า Disney+ เลย ซึ่งผมว่าเอามาเทียบกับอะไรไม่ได้เลย
บทมันไม่ดีด้วย
หนัง Remake live action ค่ายนี้นะ ผมชอบThe Jungle Book ที่สุด นับเป็น Live action มั้ยเนี้ย
แต่ถ้าพูดถึง Snow White อันไหม่นะ จากเรื่องดราม่าต่างๆที่เกิดขึ้นทำเอาผมไม่อยากจะดูเลยจริงๆ แล้วตอนนี้ชาติตะวันตกเค้าเรียกเรื่องนี้ว่า Snow Brown
Mirror mirror คือตัวอย่างหนังสโนไวท์ที่ดีครับ
ผมว่าสโนไวท์ รีแคสใหม่ไปเลยหรือไม่ก็พับโปรเจกต์ไว้ก่อน จากกระแสไม่น่าปังด้วย ถึงจะบอกงั้นก็เถอะ แต่ถ้าทำมาก็จะไปดูนะ ชอบดูเจ้าหญิงดิสนี่ย์ เป็นทุนเดิม (อย่าเข้าใจผิดนะผมแมนทั้งแท่ง555) ในมุมผมก็ถูกทั้งทายาทและในมุมของคนแคระจริงๆ อย่างที่ปีเตอร์ ดริงเกจบอก เคารพต้นฉบับนี่สมควร แต่ควรตีความตัวละครคนแคระให้มีความทันสมัยร่วม ไม่ใช่เป็นตัวตลก หรือแปลกแยกจากสังคม
ดิสนีย์ 100 ปี แฟนๆก็อยากให้เวอร์คนแสดงเหมือนต้นฉบับ มันมีหลายเวอร์ชั่นแล้ว แต่เวอร์ชั่นของดิสนีย์ดั่งเดิมเป็นอะไรที่เราโตกับมันมา อีกอย่างคือการพยายามยัดเหยียดความเท่าเทียมแปลกๆเข้ามายิ่งทำให้หนังดูแปลกไปหมด เหมือนลิตเติ้ลเมอร์เมด เขาไม่ได้พยายามใส่ความสมเหตุสมผลเลย ก็แค่อยากให้มันมีก็เลยใส่เข้ามา ถ้าอยากแสดงความเท่าเทียมว่าใครก็เล่นได้ ทำไมไม่ทำเรื่องใหม่ไปเลย จะเอาเรื่องตำนานมาดัดแปลง เหมือนขายของเก่ากินแบบนี้ทำไม
เมอเมดนี่ก็ไม่ได้ทำเงินนะ แค่พอได้ทุนคืน ถ้าพูดตรงๆก็เกือบเข้าเนื้อ
เสียดายมู่หลานจริงๆ
ทั้งที่ยุคนี้สามารถสร้างเป็นผลงานที่สุดยอดแท้ๆ😢
ผมไม่ได้บุลลี่หรืออะไรนะครับ แต่ นักแสดงนำ หญิง สโนไวท์ ควรให้แสดงหนังเรือง IT women ดีกว่าไหมครับ น่าจะเหมาะกว่า
ถ้าอยากให้ดิสนีย์แก้สโนไวท อยากให้ทำเหมือนที่เคยทำกับซินเดอรเลล่า คงconcept โลกเจ้าหญิงที่เวลาเข้าไปดูในโรง มันเหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเยอะแยะ ที่คนเขาชอบกันเพราะพอดูแล้วรู้สึกพิเศษ ตัวละครสโนวไวทอ่ะ เราว่าปัญหาหลักคือนักแสดง ถ้าไม่ออกมาพูดอะไรในแง่ลบก็คงไม่ขนาดนี้
ไม่ต้องทำเอาใจใครเลย ทำให้มันเหมือนสโนไวท์ก็พอ คนเขียนบทหลังๆนี่แมร้งมีแต่พวกอีโก้สูง ผลงานคนอื่นห่วยหมดต้องแก้ให้เป็นแบบของตัวเอง มันเลยเอาของเดิมมายำจนเละนั่นแหละ
ต้นฉบับนิยายก็บอกอยู่ว่า ผิวขาวดุจหิมะ (เอาคนผิวซีดมาเล่นยังได้เลย) ปากแดงดุจเลือด ผมดำขลับ (ดำแบบดำโคเมี่ยม)
แต่แคสนักแสดงมาคือไรอ่ะ ไม่เห็นบทเรียนของนิกเงือกเลยว่างั้น
ไม่ต้องฉายไม่ต้องทำจบ😊
ผมว่าต้องเคารพตาม logic สโนว์ไวท์ต้องขาวมาก เพราะมันเป็นไปตามเนื้อเรื่อง คนแคระต้องเป็นคนแคระ เพราะในเรื่องคืนคนแคระ ไม่งั้นต้องเปลี่ยนชื่อเรื่องไปเลย ถ้าไม่ใช่คนแคระ
จริงๆเอาคนเผือกมาเล่นยังไม่ติดเล้ย จะได้ไวท์ไปเลย -_-
ในเคสของมู่หลาน ผมมองว่าทางของ Live Action ไม่เคารพเนื้อเรื่องต้นฉบับครับ
เพราะโครงสร้างสังคนเสรีซ้ายสุดโต่งปลูกฝังความคิดให้คนยุคใหม่นั้นมองว่าความคิดของคนยุคเก่าคือตัวแทนของความชั่วช้าทั้งปวง ทั้ง การกดขี้ เหยียดสี ชนชั้นวรรณะ คนยุคใหม่จึงคิดเอาแบบง้ายๆคือ อะไรก็ตามที่เกิดมาจากระบบเก่า คือต้องกำจัดทิ้งให้หมด
Woke ผิดหลักศิล 5 อยู่สองข้อใหญ่ๆครับ คือ กาเม พวกห่านี้โคตรหมกหมุ่นกับเรืองเพศเลย กับ มุสา หลอกตัวเองคิดว่าแนวคิดตัวเองจริงแท้จากนั้นก็ไปหลอกให้คนอื้นทำตามและก็ตกตํ่าลง
สื่อบันเทิงทุกวงการ หนัง เกม การ์ตูน อนิเมชั่น มังงะ ละคร
จำเป็นต้องมี เพศทางเลือก มีทุกชนชาติ มีทุกสีผิว จริงๆหรือ
ทำไปเลยค่ะ จะได้เจ๊ง ชอบๆ😂
ทำเป็นเรื่องใหม่ที่มีฐานจากเรื่องเดิมคับ จะดัดแปลงยังไงก็ตามสบาย แล้วปัญหานักแสดงจะไม่มีปัญหา นี่เล่นแปะชื่อเรื่องเดิม บทเดิม แล้วแคสนักแสดงสวนทางกับต้นฉบับ มันหากินง่ายเกินไปหน่อยไหม จะโดนด่าก็ไม่แปลกครับ ผมก็ 1 ในนั้น ไม่ดูตั้งแต่แอเรียลแล้วครับ ไม่ชอบความคิดแบบนี้ของดิสนีย์มาก
เช่นเดียวกัน
นี่ไม่มีปัญหาเรื่องความเท่าเทียม
แต่อยากให้แยกแยะมากกว่า อยากสร้างตัวละครที่เท่าเทียมก็สร้างหรือคิดบทดั้งเดิมไปเลย ไม่ใช่เอามาปนหรือรีเมคมั่วซั่ว
นี่เครียดตั้งแต่ ring of power แล้ว
จากนั้นก็มา velma 😂😂😂😂😂😂
คือหนังแฟนตาซีอ่ะ คนดูเขาดูว่ามันแฟนตาซี มันชวนฝัน เขาไม่ต้องการความสมจริงขนาดนั้น
คนแคระทั้ง 7 เป็น นักเดินทางทั้ง 7 ???
ดิสนีย์ทำแบบนี้ดูเหยียดกว่าเดิมอีก แทนที่จะสนับสนุนให้ครนแคระมีบทเท่ๆ เด่นๆ
woke เข้าเส้นกันหมดแล้ว คนเขาถึงมีปัญหาไง
เหมือนว่าจะเป็น LGBTQA+Dwarf มั้งครับ 7 คนพอดี
ฉีดเข้าเส้นเลือดเลย มันถึงดี
คนเขียนบทสโนว์ไวท์ กับ วอลล์ ดิสนี่ย์ ลุกขึ้นมาจากหลุมได้คงทำแล้วอ่ะ ฟีลแบบเชี่ยไรเนี่ย ดิสนี่ย์รุ่นหลังเล่นอะไรกันโว้ยยย😂😂😂
จริงๆถ้าจะปรับก็ปรับได้นะ เช่นจากคนแคระเจ็ดคนเป็นหมู่บ้านคนแคระแล้วเนื้อหาเส้นเรื่องคงไว้ปรับเปลี่ยนบางอย่างนิดหน่อยเหมือนที่เรื่องก่อนๆทำ แต่อย่างแรกเลยแคสให้นางเอกเคารพต้นฉบับให้ได้ก่อนเถอะ
แต่ความจริงที่คนแคระ7คนไม่ได้บท เดิมทีก็ไม่ค่อยได้บทอยู่แล้วคือแย่มาก มีคนแคระหลายคนออกมาด่าเลยว่ามันเป็นบทของพวกเขา ดูอย่างที่ piers morgan คุยกับนักแสดงที่เป็นคนแคระก็ได้
สาวละตินแจ่มแมว🎉
ประเด็นแรก มองว่ามันดีเพราะเป็นการ์ตูนครับ อย่าหาทำเลย 555 ยกตัวอย่าง Lion King ภาคล่าสุด คือสีหน้า ท่าทาง แววตา ทุกอย่างมันไม่ได้จริงๆ มันดีกว่าถ้าเป็นภาพการ์ตูน ประเด็นที่ 2 คือ Get Woke Go Broke 👌 ง่ายๆเลย
ควรปล่อยให้เป็นการ์ตูนคลาสสิกคงเดิม อยากสร้างอะไรก็ทำเป็นเรื่องใหม่โดยอิงโครงเรื่องพอ อย่าทำลายนิทานคลาสสิกโดยใส่แนวคิดยุคใหม่เข้าไปเลย
อยากแนะนำมห้เปลี่ยนชื่อหลัง แล้วเขียนว่า inspired by snow white
คือว่าถ้าต้องการความสดใหม่เพื่อยุคสมัยแห่งความหลากหลาย แนะนำให้ไปหาสร้างสตอรี่เจ้าหญิงคนใหม่ไปเลย จะมาดัดแปลงต้นฉบับให้เกิดประเด็นทำไม ยัดเยียดเกินไปบ้างที
Snow White live action มันเป็นแค่ข้ออ้างให้เอาการเมืองมาสอดแทรก เอาใจคนกลุ่มนึงแค่นั้น สำหรับผมเลิกดูหนัง Disney ตั้งแต่ Little Mermaid แล้ว Get woke go broke!
มู่หลาน มันมีเคสกรณีอื่นๆมาเกี่ยวข้องด้วยน้ะคับ ทั้งแบนบ้าง บทบ้าง เพราะงั้นผมว่าแคสตรงมันยังมีโอกาสอยู่ แต่มีบทหรืออื่นๆเกี่ยวข้องด้วย
ผมเชียร์ให้หนังเจ๊งอยู่ครับ จะได้ไม่หาทำอีกในอนาคต555
สโนว์ไวท์เล่าในหลายเวอร์ชั่นนะ เวอร์ชั่นที่นางเอกสู้คนก็มีมาแล้ว .. แต่สำคัญคือนางเอกเวอร์ชั่นนี้ปากดี และแถมหลายเรื่องแล้วที่ดิสนีย์พยายามจะ "ใส่" และ "ยัด" อะไรที่มันแปลกๆ เข้ามาในเรื่องราวคลาสสิคที่คนจดจำได้และยอมรับและรักมันในเวอร์ชั่นเก่าๆ มาก
แง่หนึ่งมันก็น่าจะมาจากการพยายามปรับตัวของดิสนีย์เพื่อรับกับความหลากหลายของโลก แต่มันเสี่ยงมากที่จะท้าทายจุดยืนของตัวเองที่เคยแข็งแกร่งมาก่อน เพราะการพยายามตะโหนบอกโลกว่า "ยอมรับฉันที่ต่างสิ" มันแปลว่าคุณเองนั่นแหละที่มองความต่างเป็นปัญหา
มีคนบอกว่าบอร์ดบริหารดิสนี่ไปยุ่งกับการเมืองด้วย(เดโมแครต) เลยพยายามใส่propagandaลงในหนังดิสนี่ เดโมแครตนี่สายwokeเยอะ ผลคือตามที่เห็นพังแต่ก็ยังไม่หยุก
เป็นความผิดหวังมากอ่ะค่ะ เพราะว่า การ์ตูนคลาสสิคแต่กลับเอามาสร้างอีกแบบนึงไปเลย
ผมคิดว่า ต้องเริ่มต้นที่บทภาพยนต์ครับว่า จะไปกันทางไหน แล้วค่อยมาคิดว่ารายละเอียดของเรื่องควรจะเป็ยยังไง และถ้าเป็นตัวละครเดิม ควรใช้นักกแสดงใกล้เคียงใหม่มากที่สุด ถ้าใส่ตัวละครใหม่ก็สร้างสรรค์เต็มที่ครับ
Snow white ❌
Clay Brown ✔️
มู่หลาน เป็น คนไต้หวันถ้าจำไม่ผิดนะ ตอนนั้นกำลังมีปัญหาภายในไต้หวันแล้วนางเอกโพสต์มาสนับสนุนอีกฝั่งนึงชาวไต้หวันเลยแบนหนังเรื่องนี้ในไต้หวันเลย ทำไห้รายได้ที่ควรได้หายไปเยอะ ส่วนเรื่องการแสดงดีมากนะ
เห็นต่างนะการโว้คมันดี โว้คเเล้วรู้สึกว่าฮำเรืองเเสง รู้สึกเป็นคนดี(ปลอมๆ)
มันมีหลุดมาเป็นคลิปแล้วหนิครับ ฉากเดียวกับในภาพที่หลุดมาเลย
ผมคิดว่า ถ้าจะอิงเนื้อเรื่องเดิมก็ควรเลือกนางเอกให้ตรงปก
แต่ถ้าจะตีความใหม่ก็สร้างเนื้อเรื่องใหม่ไปเลย
อย่าไปทำแบบลิตเติ้ลเมอเมด
ทำไมผมสงสัย พี่จีนไม่รีวิว indinajones 5 นะครับ ทั้งที่พี่ดูชอบแฟรนไซน์นี้นะ หรือรีวิวแล่วผมไม่เห็น5555
บางทีก็คิดกันเยอะเกินไป ทำตามต้นฉบับไป คนสมัยนี้ไม่ชอบก็แต่งเรื่องใหม่สร้างวรรณกรรมใหม่ขึ้นมาเอาให้ดีกว่าเดิม สิ่งที่มันผ่านมาแล้วก็เรียนรู้และนำมาปรับปรุงเรื่องใหม่ๆ แล้วคนที่จะตัดสินก็จะเป็นคนรุ่นลูกเราที่จะด่าคนรุ่นเราว่าล้าหลังเหมือนกัน 5555
ในความคิดผม ดิสนี่น่าจะทำเจ้าหญิงคนใหม่ที่ไม่ต้องมาจากเวอร์ชั่นเอนิเมชั่น แล้วสร้างเส้นเรื่องใหม่ให้เข้ากับจริตกับยุคสังคมปัจบันยังจะง้ายกว่าทางสะดวกกว่า ดูบาร์บี้เป็นตัวอย่าง
เถียงกันก็เพราะด้วยความเป็นดีสนีย์แหละค่ะ มันคาดหวัง ค่ายอื่นทำตีโจทย์มาหลายรูปก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ส่วนตัวคิดว่าทำอะไรก็ได้แต่อยากได้สเน่ห์ความเป็นแฟรี่เทลกับเพลงที่ยังอยู่ มู่หลานที่มันเจ๊งเพราะไม่เหลือเสน่ห์อะไรจากการ์ตูนเลย
น่าจะเพราะเปลี่ยนบทสโนวไวท์ด้วย เป็นเจ้าหญิงที่มีภาพลักษณ์ชัดเจนที่สุดในดิสนี่เลยว่าต้องผิวขาวราวหิมะและผมดำ คนอื่นเอาสโนวไวท์ไปตีความใหม่ แต่ไม่ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์สโนวไวท์แบบที่ดิสนี่ทำ
สโนไวท์สายชูนิ้วกลาง บอกเลย เจ๊งยับแบบไม่ต้องสืบ 👏👏 ปรบมือรอล่วงหน้าเลย
มู่หลานมันตรงแค่นักแสดงครับ อย่างอื่นอิหยังวะสุดๆ
ถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็คือ สตูดิโอ หรือผู้กำกับ อาศัยแค่ชื่อ หรือความดังของนิยาย การ์ตูน หรือ
หนังเรื่องนั้นๆที่เคยดังในอดีต แล้วมาตีความ ปรับเปลี่ยน ดัดแปลงใหม่ ซึ่งบางเรืองแทบไม่เหลือ
เค้าโครงเดิมเลย ส่วนตัวมองว่า ถ้าอยากจะทำตามที่ตัวเองชอบ ก็สร้างเรื่องใหม่ไปเลย ไม่ต้อง
มาเกาะกระแสความดังของต้นฉบับ ซึ่งเมื่อเอาต้นฉบับมาดัดแปลงซะเละ คนดูส่วนใหญ่จึงไม่พอใจ
ถ้าพูดตรงๆ ก็ไม่ควรสร้างเป็น live action หรอกค่ะ ปล่อยให้เป็นการ์ตูน/นิทานไปเถอะ เอาคนแคระมาแสดงก็มีปัญหา ถ้าเปลี่ยนเป็นผู้ชายทั่วไปก็ดูแปลกๆ นึกภาพ เด็กสาวใสซื่ออาศัยอยู่กับชายฉกรรจ์ 7 คน มันน่ากลัวพิลึก
ชอบๆแบบนี้แหละ ชอบเห็นดิสโดนด่ามันส์ดี😅
มู่หลานไม่ได้มีปัญหาที่ตัวนักแสดงนะ ปัญหาอยู่ที่บทปรับจนพัง จีนยังไม่ซื้อ
แต่ผมโคตรมีปัญหากับนักแสดงเลยครับ จำได้ไหมที่เจ๊แกออกมาเชียร์ให้ตำรวจจีนไล่ฆ่าผู้ประท้วงในฮ่องกง
ให้คิดเล่นๆว่าเหมือนสร้างบ้าน อยากได้บ้านใหม่ ก็สร้างใหม่ ปลูกใหม่ ลงเสาเข็มใหม่
อยากได้เสาเข็มเดิม ก็ปรับปรุงเอา แต่เหลือสิ่งที่เป็นความทรงจำไว้
ไม่อยากเปลี่ยนเลย พอใจกับบ้านหลังเดิม ก็ไว้งั้นแหละ
เริ่มสงสัยละ มันเอาต้นฉบับผิดเล่ม เป็นนิทานจากกริมฯ มาทำหรือเปล่าวะ😅😅😅😅
ถ้าไม่เคารพของเก่า ก็สร้างอะไรขึ้นมาใหม่ อย่าเอาของเก่ามาทำ ง่ายๆแค่นั้นเลย ผมไม่ดูเมอเมดก็เพราะสงสัยว่าคนสร้างทำแบบนั้นไปทำไมที่เอาคนผิวสีมาเล่น ถ้าคิดจะเอาของเก่ามาหารับทานก็ควรเคารพงานดั้งเดิม แต่ถ้าคิดว่าของดั้งเดิมมันไม่ดีก็อย่าเกลียดตัวกินไข่ สร้างขึ้นมาใหม่แต่งขึ้นมาใหม่เลยจะเขียนยังไงก็ไม่มีใครว่า
ปีเตอร์แพนก็ดับนิครับ เมื่อเร็วๆนี้ แต่ดูอย่าง เมาคลี อะลาดิน หรือโฉมงามกับเจ้าชายอสูรสิ 3 เรื่อง ไลฟ์แอคชั่น ที่ประสบความสำเร็จ คือเปลี่ยนเนื้อหาบางอย่างได้ แต่คงความเป็นคลาสสิคเอาไว้ ซึ่งมันคือเสน่ห์นะ เหมือนตัวละครมาครบนะ บางตัวบทน้อยกว่าในการ์ตูนด้วยซ้ำ อย่างคา งูในเรื่องเมาคลี ในการ์ตูนบทพูดเยอะแต่พอมาในไลฟ์แอคชั่น มีแค่นิดหน่อย คนดูก็ชื่นใจแล้วครับ ว่าตัวละครมาครบมันคลาสสิคดี ส่วนอะลาดินอย่างยักษ์ในตะเกียง ในการ์ตูนไม่ได้บอกว่าเป็นยักษ์ผิวสีรึเปล่า แต่รู้แค่ว่าเออเป็นยักษ์ในตะเกียงทำไลฟ์แอ็คชั่นออกมาเป็นคนผิวสี ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคนชม ส่วนเจ้าชายอสูร เลอร์ฟูล ในการ์ตูนเราก็ไม่รู้ว่าเป็น LGBTQ รึเปล่ารู้แค่ว่าเออ มันชอบชมแกสตอง ชอบอยู่กับแกสตอง พอไลฟ์แอคชั่นเอามาทำใหม่ แต่ตัวละครเป็น LGBTQ ซึ่งคนดูก็โอเคนะ ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะว่าบทไม่ได้หลีกห่างจากต้นฉบับมากนัก ส่วนสโนว์ไวท์ ชื่อเรื่องคือเจ้าหญิงหน้าขาวไง ผมบอกตรงๆ หลังๆมา ผมผิดหวังกับดิสนีย์มากๆ
snow white ❌️
snow Yellow✅️
เงือกน้อยมันไม่ได้เสมอตัวนะครับ หนังมันทุนสร้าง250ล้านไม่รวมทุนโปรโมท ซึ่งทุนโปรโมทก็ไม่ต่ำกว่า150ล้านแล้ว อย่างขี้ๆหนังมันต้องทำเงินเกิน700ล้านถึงจะเสมอตัว เท่ากับตอนนี้ยังเจ๊งยับอยู่เลย😂 และคาดว่าสโนไวท์ก็คงไม่ต่างกัน
มีหนัง 2 เรื่องที่ disney ประสบความสำเร็จ
1 ซินโดเรร่า
2. บิ้วตี้แอนเดอะบีส
ใช้สารตั้งต้นแค่นี้น่าจะพอแก้เกมได้
มู่หลานถ้าบทตรงต้นฉบับกว่านี้บวกกับนักแสดงที่เลือกมาและเข้าโรงในช่วงดีๆ ต้องไม่พังแบบนั้นแน่ๆ ผลออกมาต้องดีกว่าแอเรียลแน่นอน แต่สโนไวท์ขอแค่ต้องไวท์+ผมดำจะได้มั้ย เราไม่ได้ฝันสูงไปใช่มั้ย?😂
ตอนนั้นคนแบนมู่หลานที่หลิวอี้เฟ่ยแสดงหลายเหตุผลมีอันนึงพ่อเธอเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ การแสดงที่ตามหลังหน้าตา และบางคนว่ามีคนที่เกมาะกว่าเธอ
ทำใหม่ได้แต่ก็ควรยังมีเค้าโครงจากของเดิมตัวอย่างเช่น อะลาดิน หรือ ออโรร่า มาเลฟิเซนต์ ที่ขยายความจากของเดิมแล้วออกมาดีแต่อันนี้มันสุดโต่งไป