Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
ชอบ Ep.แบบนี้ สมชื่อรายการสุดๆ นำเสนอข้อมูล-หลักฐานทางประวัติศาสตร์หลายๆมุม ให้เราได้คิด+วิเคราะห์ บางประเด็นค่อนข้างsensitive แต่รายการก็กล้านำเสนอ เป็นกำลังใจให้คุณอดิศักดิ์ และทีมงานนะคะ ขอให้นำเสนอรายการที่มีคุณภาพแบบนี้ไปอีกนานๆค่ะปล. แมว อ.ศิริพจน์ ซนมาก..น่ารัก 😊
@@shivabhornsri4899 แค่ไม่ขัดแย้งลบล้างหลักฐานเดิมในคลิบมีทั่งขัดแย้งตอนท้ายบอกเขื้อ
ขอขอบพระคุณมากครับ ที่มีคลิปนี้ มาใหเพวกเราได้ฟัง ได้ชม ได้รู้ ฯลฯ ครับท่าน
ในสมันตปาสาทิกา ไม่เคยบอกว่าพระเจ้าอโศกเป็นผู้ส่งสมณทูต แต่ผู้ส่งคือ “พระโมคคลีบุตรติสสเถระ”ครับ
ถูกต้องครับ ถ้าไม่มีคนมาเผยแผ่ จะมีปัจจุบันนี้หรือ ต้องมีเหตุครับ ถึงมีผลให้เห็นอยู่ทุกวันนี้
@@บุญโสมบุญยิ้ม เป้าประสงค์ ของพุทธศาสนิกชน ที่เกาะลังกา ได้จารเป็นคัมภีร์นั้น เพื่อให้พุทธศาสนา ได้เผยแผ่ดำรงตั้งมั่นและอนุเคราะห์แก่ชาวโลก ได้พบสัจจะธรรมอันตถาคตตรัสไว้ดีแล้ว ให้เราได้ศึกษาและสัมมาปฏิบัติ ตามปณิธาณพระศาสดา คือสงเคราะห์ให้ชาวโลกได้ ใช้ในชีวิต คือ เห็นทุกข์ ลดทุกข์ เข้าใจทุกข์ ลดทุกข์ ละทุกข์ เลิกทุกข์ ถ้าอริยะสงฆ์ในลังกา ไม่ทำอะไรเลยคือ พุทะศาสนาเราหายแน่ เพราะ อินเดียตอนนั้น ผู้ปกครองอันเชื่อสิ่งอื่น ล้างผลาญ ทำลายจนไม่เหลือแล้วครับ โยมทั้งหลาย ? แต่พุทธศาสนาเรายืดยุุ่นเข้ากับพื้นที่ในชุมชนพื้นเมืองดั่งเดิม ให้อยุ้่ร่วมกันได้ อย่ามามัวแต่หาว่า เรื่องจริง เรือ่งแต่งเลย เพราะพระอริยะสงฆ์ในลังกา ท่านเล็งเห็นประโยชน์ อันมีแต่เราทั้งหลายนับไม่ได้ครับ พิจารณาโดยวิญญูชน ถ้าตอนนั้นท่านไม่ทำอะไรเลย เราคงไม่มีพระพุทะศาสนาในถิ่นแผ่นดินนี้ที่เราเกิด สาธุ อนุโมทนา ของให้ญาติโยม มีสุขภาพกำลังใจกำลังกาย สมบูรณ์ตามอัตภาพของท่านเถิด อายุ วรรณะ สุขะ พละ เจริญพร หลวงพี่ นกขมิ้น
❤❤❤สุดยอดมาก,,ช่องนี้ขอปรบมือรัวๆๆๆไไไไ🎉🎉🎉🎉🎉
Thanks!
ขอบพระคุณที่สนับสนุนการผลิตรายการค่ะ
นอกจากได้ความรู้ปวศ. ภาพปวศ.อีกมากมายในอีกมุมหนึ่ง สิ่งที่ชอบมากที่สุด คือเสียง และจังหวะเสียง ในการบรรยายครับ
มีบันทึกกเบื้อจารบ้านคูบัว สุวัณณภูมิปกรณ แปลโดยเจ้าพระอริยกวี(อ่ำ) รายละเอียดดีมาก
ของปลอมครับ พระอ่ำมันแต่งนิทานหลอกคนเฉยๆครับ
แต่งใหม่หลังเป็นพัน ๆ ปี เอาตรงไหนมาจริง
@@กมลวัฒนก์คงศิริ เถรวาทรับมาจากลังกาก็พอแล้ว
@@AKN639มึงสิปลอม
@@AKN639ไปเชื่อฝรั่ง😢😂ต้องฉลาดด้วย
ขอบคุณสารคดี ดี ๆ อันเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและสาธารณะครับ
ชื่นชอบรายการนี้มาก ติดตามทุก Ep.ครับอาจารย์💓💓
ขอบคุณครับ เป็นข้อมูลใหม่นอกตำราเลยครับ เพิ่งรู้ว่าตำนานส่งสมณทูต 9 สาย ห่างจากยุคพระเจ้าอโศกถึง 700 ปี แต่ยุคพระเจ้าอโศกไม่เคยมีจารึกถึงเรื่องนี้เลย สมัยพระเจ้าอโศกก็ไม่ได้นับถือเถรวาท เพราะยังไม่มีเถรวาท การเดินเรือก็ลำบากมาก ๆ
เปนไปได้ไหมว่า ส่งมาจากลังกา หรือเปล่า 9สาย
@@pjmaxmix7034ผมว่าน่าใช่
อาจจะยังหา หลักศิลาบันทึก ไม่เจอ ก็ได้ ( รู้ได้ไง ว่าไม่มีจริง 100% แล้ว ) .... แต่ที่ เถรวาทศรีลังกาบันทึก เขาบันทึกจากอะไร ? ต้องไปหาข้อมูลที่ตรงนั้น เพิ่มเติม .... เช่น เล่าต่อ ๆ กันมา จนถึงศรีลังกา หรือ คนศรีลังกา มโนขึ้นมาเอง ฯลฯ ... คิดให้มีเหตุ มีผล ทีละขั้นตอน 😂😂😂
เถรวาท แปลว่า คำสอนที่วางไว้เป็นหลักการโดยพระเถระ คำว่า เถระ ในที่นี้ หมายถึงพระเถระผู้ประชุมทำสังคายนาครั้งแรก หลังปรินิพาน 3 เดือน และพระพุทธศาสนาซึ่งถือตามหลักที่ได้สังคายนาครั้งแรกดังกล่าว เรียกว่า นิกายเถรวาท อันหมายถึง คณะสงฆ์กลุ่มที่ยึดคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ทั้งถ้อยคำ และเนื้อความที่ท่านสังคายนาไว้โดยเคร่งครัด ตลอดจนรักษาแม้แต่ตัวภาษาดั้งเดิม
@@pjmaxmix7034 สมัยนั้นศรีลังกายังไม่มีครับยังใช้ชื่อว่าเกาะซีลอนครับ ชื่อศรีลังกาพึ่งมีสมัยอังกฤษเข้ามาปกครอง ส่วนลังกาทวีปหมายถึงอาณาจักรศรีวิชัยครับมีมาเป็นพันๆปีแล้วครับ
❤สวัสดีครับแอด รายการดีมีสาระมาแล้ว ขอบคุณครับผม❤❤❤🎉
จารึกหรือบันทึกของพระเจ้าอโศก เปรียบเป็นประจักษ์พยาน มีน้ำหนักในการรับฟังเป็นอย่างมากส่วนคัมภีร์ของลังกานั้น เปรียบได้กับพยานบอกเล่า โดยปกติรับฟังไม่ได้😊
จารึกอโศก มั่นใจว่าหาเจอหมดแล้ว และจารึกที่บันทึกเรื่อง พระเจ้าอโศก ส่งพระสมณะฑูต มั่นใจว่า ไม่มี หรือ มีแต่ถูกทำลายไปหมด หรือ มีแต่ยังไม่เจอ
ถ้าไม่เจอหลักฐานที่เกี่ยวข้องก็ตีว่าไม่มีครับ เหมือนกับเราเจอหนังสือโดราเอมอน แต่หาหลักฐานเกี่ยวข้องไม่เจอก็ไม่นับว่ามีจริง
@@westwind1519 เก่าแค่สุโขทัยก็น่าจะพอนิกายเถรวาท
ทั้งหมดที่กล่าวถึงพระเจ้าอโศกมหาราชเป็นของปลอม พระเจ้าอโศกมหาราชเป็นคนไทย นับถือพุทธศาสนา เป็นผู้ทำสังคายนาพระไตรปิฏกครั้งที3ปั235 (อโศกอินเดียเกิดปี240 นับถือเชนมาตลอด จะส่งสมณฑูตมาเมืองไทยอย่างไร เพราะบ้านเราเป็นต้นกำเหนิดพุทธศาสนา)
การส่งสมณทูต 9 สาย ไปเผยแพร่ศาสนา เป็นโครงการใหญ่มากนะ ถ้าพระเจ้าอโศกส่งไปจริง ควรจะมีบันทึกอยู่ในเสาอโศกทุกหลักด้วยซ้ำ
ทำไมไม่ค้นพบความจริงในบ้านเรา ในหลักศิลาจารึกหลักที่2 (ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง)ในเรื่องตำนานวัดศรีชุม ได้กล่าวถึงพระมหาเถระศรีศรัทธาราชจุฬามณี หลานพ่อขุนผาเมือง ตัวท่านพระมหาเถระศรีศรัทธาปรารถนาพระโพธิญาณ จึงต้องการสร้างพระพุทธรูปองค์มหึมาคือพระอจนะ จึงให้บริวารไปขนเศษอิฐปูนปตกหักจากพระพุทธรูปในวัดอโศการาม ทีพระเจ้าอโศกมหาราชสร้าง ในปาตาลีบุตร ริมฝั่งน้ำอโนมานที สถานที่ซึ้งพระพุทธเจ้าปลงเกศาคราออกมหาวิเนษกรมณ์ ใช้เวลาไปกลับไม่ถีง3วัน นีคือหลักฐานความจริงในศิลาจารึกหลักที2 แสดงว่า1 ปาตาลีบุตรอยู่ในบ้านเรา2 พระเจ้าอโศกมหาราชคนไทยที่นี่เป็นทีเคารพสักการะของคนในชมพูทวีปคือไทย พม่า ลาว เขมร มอญ เพระท่านเป็นคนทำสังคายนาพระไตรปิฏกครั้งที่.3 ปี 235(แต่อโศกอินดียเกิดปี240นับถือศาสนาเชนมาจนสวรรคต) ท่านเผยแผ่พุทธศาสนาไปยังประเทศตะวันออก ท่านเป็นผู้สร้างพระเจดีย์พระบรมธาตุ 84000 องค์ทั่วทุกประเทศในชมพูทวีป ข้อให้ระลึกว่าการทำสังคายนาพระไตรปิฏก 2ครั้งแรกทำโดยพระเจ้าอชาตศัตรูและพระเจ้ากาฬาโศกราชก็ทำที่นี่ การทำสังคายนาพระไตรปิฏกทุกครั้งเขาใช้ภาษาบาลีบันทึก แต่ตำนานได้กล่าวว่ามีการทำสังคายนาพระไตรปิฏก3-4 ครั้งในอินเดีย คงไม่จริงเพราะอินเดียไม่รู้จักและเคยใช้ภาษาบาลี เขาใช้ภาษาของเขาคือภาษาปะกิด(Prakit) ภาษาบาลีค้นพบได้ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย สมัยพระนารายณ์มหาราช ปี 2230 จากจดหมายเหตุของฑูตฝรั่งเศสลาลูแบร์( Simon dela loubrere )นักวิชาการด้านภาษาของฝรั่งเศสชื่อศาสตราจารย์บูรนูฟ(Burnouf)ก็ได้ยืนยันว่าที่ลาลูแบร์ไปพบภาษาบาลีในสยามประเทศเป็นความจริง เพราะท่านไปค้นดูประเทศต่างๆที่เคยไปอาณานิคม และกำลัวเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสไม่มีประเทศไหนใช้ภาษาบาลี มีแต่ประเทศเอกราชคือเมืองไทยเท่านั้นที่ใช้ ภาษาบาลีใช้ในบ้านเรามากว่า2600 ปีแล้วปีเล่า ภาษาบาลีคือภาษามคธ ขอให้พวกเราเลิกค้นหาความจริงนอกประเทศได้แล้วมีแต่ของปลอมทั้งนั้น บ้านเราสมัยพุทธกาลเรียกว่าแคว้นมคธ เป็นแดนพุทธอุบัติทีประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพานของพระพุทธเจ้าแท้จริง ลองดูความจริงได้ดีกว่าเช่นหลักศิลาจารึกหลักที่ 6 การออกผนวชของพญาลิไท ปี1905 เขาจารึกเป็นภาษาไทย ขอม(บาลี)และมคธ และไตรภูมิพระร่วง พญาลิไทแต่งก็เป็นภาษามคธ หรือตำนานสำคัญต้นรัตนโกสินทร์คือสังคีติยวงศ์ แต่งโดยสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพนปี ปี2332 ก็แต่งเป็นภาษามคธ และได้กล่าวถึงชมพูทวีปก็ระบุคือสัมมานคร 5แห่ง คือไทย พม่า ลาว มอญ เขมร และก็ตรงกับประกาศเทวดาในพระไตรปิฏกฉบับแรกของกรุงรัตนโกสินทรฺ์ ปี2331 แล้วหลักฐานชัดเจนในอินเดียแดนภารตะมีไหมหลังเจ้าพระเจ้าอโศกมหาราชบ้านเราสวรรคต ทางอินเดียมีนักบวชมหายานฝ่ายตันตระได้แต่งเคลมพระเจ้าอโศกบ้านเราไปเป็นพระเจ้าอโศกองค์ใหม่ ในคัมภีร์อโศกกาวทาน โดยยกกษัตริย์อินเดียผู้ยิ่งใหญ่ของอินเดียคือพระเจ้าเทวานัมปิยทัสสึแห่งราชวงศ์เมารยะ ซึ่งวงศ์เมารยะนี้พระเจ้าจันทรคุปต์ตั้งขึ้นมาปี222 ต่อมาท่านสละราชสมบัติให้โอรสของท่านคือพระเจ้าพินทุสาร (พระบิดาของพระเจ้าเทวานัมปิยะทัสสี)แล้วท่านออกผนวชเป็นนักบวชเชน สวรรคตปี2479 พระเจ้าเทวานัมปิยะหรือพระเจ้าอโศกยิ่งใหญ่มาก ท่านเกิดมาก็นับุถือเชนไม่เคยเปลี่ยนเป็นพุทธ ท่านศรัทธาในเชนมากสร้างเสาอโศกไว้ทั่วอินเดียทั้งหมดเป็นคำสอนเชน ขยายอาญาจักรยกพวกตีแคว้นกลิงคะฆ่าชาวเมืองทากหลัก100,000คนจับมาเป็นเชลยอีก150,000คนส่วนใหญ่อดตายหมดอโศกอินเดียนี้ใจโหดมากชอบฆ่าคน ไม่ถูกใจสนมจับมาเชือดคอทิ้ง 500 นาง และอมาตใกล้ชิดก็ฆ่าหมู่อีก500นาย คนในสายเลือดเดียวกันก็ฆ่าอีก99คน ต่อมาปลงตกก็เจริญรอยตามพระเจ้าปู่ เข้าปฏืบัตตามศาสนาเชนก่อนสิ้น1ปี สละราชสมบัติให้พระเจ้าหลานก็เป็นเชน เวลาที่เหลือท่านยึดหลักธรรมตามเชนจนบรรลุระดับสูงของเชนเรียกว่าSambodi แล้วท่านไปสวรรคตที่สถูปสาญจึ ความจริงพิสูจน์ได้ในบ้านเราและอินเดีย
ฟังหลวงพ่อ จรัญ เล่าเรื่อง หลวงพ่อดำ พระในป่า
ศิษของพระมหากัสปะรุ่นที่สามเดินธุดงค์มาถึงสุวรรณภูมน่าจะเผยแพร่แถวๆพม่า
ไม่มีบันทึกใช่ว่าไม่มี ไม่เห็นก็ใช่ว่าไม่มี
การไม่มี ไม่เห็น ย่อมเหมาะสมแก่การเชื่อว่า น่าจะไม่มี มากกว่าน่าจะมีส่วนการเชื่อว่ามี หรือน่าจะมี ทั้งๆที่ไม่มีบันทึก หรือไม่เห็นบันทึก น่าจะเป็นการเชื่อตามความอยาก ให้มี ไม่ได้เชื่อตามพยานหลักฐาน😁
คนไทย ไม่ได้เป็นคนบันทึกคนไทย เป็นคนพิจารณา ( ข้อมูล )ดังนั้น อย่ามากล่าว มั่ว ๆ ปาก พล่อย ๆ กับคนไทย .... โปรดพิจารณาตามหลัก กาลามสูตร ด้วย
คนบ้านผมไม่เคยพบขุดพบโครงกระดูกทวดของทวดตัวเองมาก่อน แต่เค้าก็ยังเชื่อว่าทวดของทวดก็เป็นคนแบบเราแหละ ไม่ใช่ไดโนเสาร์เหมือนที่ขุดพบที่อีสาน😂
ตกลงมี ? หรือไม่มี ?
@@channel-xt6gl ตรรกะโครตแปลก มันเป็นพิธีกรรมตามกันครับเพ่ แล้วพิธีกรรมทางศาสนามีมากี่ปีที่เก็บกระดูกคนตายอ่ะ ทวดเพ่คนไหนที่มีกระดูกก็คือคนนั้นแหละที่อยู่ในช่วงรับพิธีกรรม
ใกล้ความจริงเข้ามาทุกทีๆ ละครับ ตื่นเต้นๆ #บางทีพระอรหันต์ทั้งหลายอาจจะกำเนิดที่สุวรรณภูมินี่แหละ
ไปอ่านคอมเม้นผมจะเข้าใจ
เคยเล่นเกมอันนี้กันไหมครับ ที่ยืนต่อแถวกันสิบคนบ้างยีสิบคนบ้าง แล้วไปกระซิบบอกคำคนที่อยู่ท้ายสุด แล้วให้กระซิบบอกต่อๆกันมาเรื่อยๆจนมาถึงคนแรก แล้วให้คนแรกบอกว่าได้คำว่าอะไร คำนั้นก็ผิดเพี้ยนจากที่คนสุดท้ายได้รับ บอกเล่าเก้าสิบนั่นแหละ พระไตรปิฎกสังคยานามา แล้วหลายครั้งก็ย่อมผิดเพี้ยน ไม่งั้นศาสนาพุทธคงไม่แตกเป็น11นิกายจนทุกวันนี้ ยิ่งในไทยเองยังมีนิกายที่คัดลอกเอาแค่บางส่วนมาเผยแพร่แชร์คลิปกันจนหลงทาง
✅️✅️✅️เขาเรียกเกมส์ถ่ายทอดเสียง...ที่คุณอธิบายเปรียบเป็นเกมส์นี้ศัพท์ในทางวิชาการเราเรียกว่า"พลวัต" คือทุกสิ่งย่อมต้องมีพลวัตการปรับเปลี่ยน ปรับประยุกต์ เปลี่ยนแปลง ปรับปรุงให้เหมาะสมไปบ้าง ตามแต่ความนิยมในบริบทของสังคม กาลยุคนั้นๆ
ลองไปศึกษาการสังคยานาพระไตรปิฎกนะครับ ว่าโอกาสในการผิดเพี้ยนมันน้อยมาก ถึงจะมีก็ไม่ได้ผิดในใจความ การที่คุณยกตัวอย่างแบบนั้นมันเกิดจากการอนุมานลอยๆของคุณเอง ส่วนเรื่องนิกายต่างๆมันเริ่มเกิดตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้วครับ ไม่เกี่ยวกับพระไตรปิฎก
แต่ถ้าท่องพร้อมกันทุกวัน ... ย่อมเหมือนเดิมตลอดกาล ชั่วนิจนิรันดร์ นะจ๊ะ ❤❤❤ยกตัวอย่างเช่น เพลงชาติไทย ( ปัจจุบัน ) ... ไม่ว่าใครก็ตาม ที่ได้ยิน และร้องเพลงพร้อมกันทุกวัน ก็ย่อมร้องเพลงชาติไทย ได้ตรงกันทุกคน ไม่ว่า ชาวบ้าน ชาวเมือง หรือ ชาวเขา .... แม้กระทั่งต่างด้าว คนต่างชาติ ก็ร้องเพลงชาติไทยตรงกันทั้งหมด ..... โปรดพิจารณา เทคนิค วิธีการ ดำเนินการ นะจ๊ะ
บอก9เล่า10 ครับ
สังคยนา(สวดร้องพร้อมกัน)กับเกมถ่ายทอดเสียงมันคนละเรื่องกันไปศึกษาการสังคยนาดูก่อน โอกาสผิดเพี้ยนมีน้อยมาก ผิดแค่เสียงแต่ใจความสำคัญไม่มีเพี้ยนพระพุทธเจ้าก็เตือนเรื่องนี้ไว้หลายครั้ง ยุคแรกๆเลยให้ท่องจำไม่ให้บันทึก เพราะโอกาสผิดเพี้ยนเรื่องเสียงมันเยอะกว่าแต่จนถึงปัจจุบัน โอกาสผิดต่างกันก็แค่การออกเสียงของแต่ละประเทศ แต่ใจความสำคัญไม่เคยผิด
นักประวัติศาสตร์ก็ใช้หลักฐานที่เจอพร้อมกับสัณนิฐานเอา เพราะไม่มีใครเคยเห็นด้วยตัวเอง
หลักฐานที่พบสนับสนุนความคิดเห็นของนักวิชาการเมื่อพบหลักฐานใหม่ก็จะมีความคิดเห็นต่างจากเดิมหรือยืนยันความคิดเดิมให้มากขึ้น ต่างจากความคิดที่ไม่มีหลักฐานใดมาสนับสนุน
ประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับ 4 วงการณ์1. นักประวัติศาสตร์ จะอาศัยตำราเอกสารโบราณ เอกสารโบราณที่ว่า มีทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ มีทั้งใหม่และเก่า แต่ในประเทศไทยใช้เอกสารที่พิมโดยกรมศิลปากรเป็นหลักในการอ้างอิงเพราะเป็นเอกสารที่มาจากราชการ2. นักโบราณคดีจะใช้หลักฐานจากโบราณวัตถุเป็นตัวอ้างอิง จากรูปแบบ จากอายุของโบราณวัตถุ แหล่งค้นพบ เอามาจำแนก จัดหมวดหมู่ เพื่อหาความเชื่อมโยงเข้ากับตำราทางประวัติศาสตร์3. นักมานุษยวิทยา จะอาศัยเรื่องเล่าตำนาน ประเพณีวัฒนธรรมความเชื่อศาสนา ภาษา รูปพรรณสัณฐาน เอาสิ่งเหล่านี้มาจำแนกแยกแยะจัดหมวดหมู่ หาความเชื่อมโยง เข้ากับประวัติศาสตร์และโบราณวัตถุ 4. ชีววิทยา มีการใช้ DNA ในการตรวจสอบหาความเชื่อมโยงละหว่างโครงกระดูกโบราณกับคนในปัจจุบัน ตอนนี้ในประเทศไทยมีที่เดียวที่รับผิดชอบคือ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ลองเข้าไปอ่านเพิ่มในเว็บไซต์ได้ ว่า DNA กระดูกโบราณ เหมือนคนไทหรือเขมร
แค่มีบันทึกสมัยสุโขทัยก็ดีแล้ว
มันก็ไม่มีใครเกิดทันซักคนอ่ะครับ แต่มีหลักฐาน แล้วสรุปจากหลักฐาน ก็ย่อมดีกว่านั่งจินตนาการเอาเอง
@@KimKo-it9hy _ _ และมีใครเคยเห็น ไม่ว่าจะความเชื่อทางไหนก็ให้ หลักฐาน อ้างอิง ทั้งหมด
เน้นจารึกหิน เกินไป ก็จะพลาดหลายๆอย่าง การตีความจากคนห่างหลักไม่กี่ร้อยปี กับ คนยุคห่าง2000 กว่าปี ก็ตีความไม่เหมือนกัน อย่างเช่นพระไตรปิฏก ในสมัยนั้นยังไม่มีการจารึกพระไตรปิฎกเป็นลายลักษณ์อักษร การเก็บบันทึกพระไตรปิฎกต้องอาศัยความจำเป็นเครื่องมือสำคัญ อาจารย์ท่องจำพระไตรปิฎกแล้วบอกปากเปล่าแก่ศิษย์ซึ่งจะต้องรับภาระท่องจำกันต่อๆ ไป และเมื่อท่องจำได้ก็มาสวดซักซ้อมพร้อมกัน ทำให้เกิดประเพณีสวดมนต์ การท่องจำและการบอกเล่าต่อๆ กันมาเช่นนี้ เรียกว่า การศึกษาระบบ มุขปาฐะ หมายถึง การเรียนโดยอาศัยคำบอกเล่าจากปากของอาจารย์ พระไตรปิฎกถูกเก็บรักษาและถ่ายทอดต่อๆ กันมาด้วยระบบการศึกษาแบบมุขปาฐะนี้จนกระทั่งได้รับการจารึกเป็นลายลักษณ์อักษรลงในใบลานในการสังคายนาครั้งที่ ๔ ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศลังกาใน พ.ศ. ๔๕๐ แล้วทำไมพระเจ้าอโศก เข้ามาเกี่ยวข้องใน คำภีร์ ศาสนาพุทธ ตำนานศาสนาพุทธข้อมูลเกี่ยวกับพระเจ้าอโศกจำนวนมากมาจากตำนานศาสนาพุทธที่แสดงพระองค์เป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ในอุดมคติ เช่น ธรรมเนียมอินเดียเหนือ ตำรา ทิวยาวทาน เป็นหนึ่งในคัมภีร์พระพุทธศาสนาภาษาสันสกฤตประเภทอวทานในยุคเริ่มต้น ไม่ทราบผู้แต่ง คัมภีร์อาจเก่าถึงราวคริสต์ศตวรรษที่ 2 แต่เนื้อเรื่องมีเรื่องราวเก่ากว่านั้นรวบรวมเสร็จไม่น่าจะเกินคริสต์ศตวรรษที่ 4 มีบางส่วนน่าจะเรียบเรียงราว 200 ปีก่อนคริสตกาล เรียบเรียงเสร็จราวคริสต์ศตวรรษที่ 6 และอาจเป็นคัมภีร์พุทธศาสนาเล่มแรก ๆ ที่มีการบันทึกเกี่ยวกับพระเจ้าอโศก และ ธรรมเนียลังกาวงค์ ตำรา ทีปวงศ์ เป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของศรีลังกาเชื่อว่าน่าจะรวบรวมจากอรรถกถาและแหล่งข้อมูลอื่นราวศตวรรษที่ 3 ถึง 4 ก่อนคริสต์ศักราช ทั้งมหาวงศ์และทีปวงศ์ถือเป็นแหล่งข้อมูลการบันทึกประวัติศาสตร์ของศรีลังกาและอินเดียโบราณนอกจากมีความสำคัญในจากการเป็นแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์และตำนาน ยังเป็นงานวรรณกรรมสำคัญทางพุทธศาสนาและวรรณกรรมบาลีในยุคแรก ถึงแม้ไม่ได้อยู่ร่วมสมัยพระเจ้าอโศก เขียนห่างจากยุคพระเจ้าอโศกหลายร้อยปีแต่ก็ยังรู้จัก เขียนเป็นเรื่องราว (ราวกับสามก๊ก ) เรื่องจริงที่เขียนอาจเพิ่มเติมเเต่ง แต่ในอินเดียการมีตัวตนของพระเจ้าอโศกในฐานะจักรพรรดิในประวัติศาสตร์เกือบถูกลืมไปแล้ว แต่นับตั้งแต่การถอดความ จารึก ที่เขียนด้วยอักษรพราหมีใน พุทธศตวรรษ ที่ 21 พระเจ้าอโศกถึงได้รับการยกย่องในฐานะหนึ่งในจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพระองค์หนึ่งของประวัติศาสตร์อินเดีย
ถ้าเหมือนเล่น พูดคำต่อๆกัน คนแรกกะคนสุดท้ายอาจต่างกัน แต่ถ้า สอนว่า พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันออก และตก ทางตะวันตก..........สอนอิงธรรมชาติเน้นเข้าใจแบบตัวต่อตัว ครู-ศิษย์............ผมว่าก็ยากนะที่จะเพี้ยน ยกเว้น การเมืองมาแทรกแซง แบบที่ พราหมณ์พยายามแทรกพุทธ
การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ ถ้าไม่มีหลักฐานที่จับต้องได้ ก็จะถือว่าเป็นเพียง "ความคิดเห็น" ครับ ดังนั้นเขาจึงต้องเอาจากจารึก (ซึ่งเป็นหลักฐานที่จับต้องได้ ทุกคนเห็นว่ามีอยู่จริง) เป็นหลักก่อน ส่วนที่เหลือ เป็นเพียงการ "อนุมาน" ซื่งจะถือว่าเป็น "ความคิดเห็น" ครับ
ถ้าเถรวาทก็มาจากลังกาสมัยสุโขทัยเก่ากว่านั้นไม่มีหลักฐานไม่ใข้ประเด็น
@@nokaton สมมติเราอ้างวิทยาศาสตร์ ถามหาหลักฐาน กระบวนการวิทยาศาสตร์ คือการ ตั้งสมมติฐาน และตรวจสอบมัน ผ่านการทดลองซ้ำๆ การที่ตั้งสมมติฐานว่า มีการส่งพระไปตามที่ต่างๆเผยแผ่ธรรมจริงหรือไม่ เราก็ต้องดูว่าแหล่งที่อ้าง มันมีศาสนาที่เผยแผ่ จริงหรือไม่ อย่างไร? ซึ่งก็พบว่า ไทยเรานับถือพุทธมาตั้งแต่สุโขทัย และศาสนาพุทธก็แพร่ ในเขตพื้นที่ ลาว เวียดนาม กัมพูชา ครอบคลุมจีน..........เหล่านี้คือ "หลักฐาน" ที่ยืนยัน สมมติฐาน ในแง่การมองแบบวิทยาศาสตร์ ที่อ้างแล้วไงครับ
@@hopzahoodeenee230 หลักฐานทางวิทยาศาสตร์มีหลักฐานหลายระดับครับ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ หลักฐานเชิงประจักษ์ (empirical evidence) ซึ่งจะมีน้ำหนักมากที่สุด เช่น ถ้าเป็นทางฟิสิก์ empirical evidence ของ อะตอม ก็คือการค้นพบอะตอมเป็นก้อน ๆ ว่ามีจริง ดังนั้นอย่างกรณีนี้ คำถามก็จะต้องแคบมากด้วยเช่น พระเจ้าอโศกได้ส่งพระโสณะมาที่สุวรรณภูมิจริงหรือไม่ ก็ต้องเริ่มพิสูจน์ก่อนว่า พระเจ้าอโศกมีคัวตนจริงหรือไม่ (พบหลุมศพ โครงกระดูก ซากวัง จารึก เหรียญกษาปณ์ ฯลฯ ที่เป็นเครื่องยืนยันได้ไหม) จานั้นก็ต้องหาว่า มีหลักฐานคำสั่งส่งทูต มีการส่งทูตจริงไหม แล้วต่อมาคือ พระโสณะมีตัวตนจริงหรือไม่ (พบหลุมศพ โครงกระดูก จารึก นิวาสถาน ฯลฯ หรือไม่) การทดลองไม่ได้เป็นสาระสำคัญครับ สาระสำคัญของกระบวนการวิทยาศาสตร์คือการตั้งคำถาม (ให้ถูกต้อง) แล้วหาหลักฐานมาให้ได้ครับ การหาหลักฐานสามารถทำได้หลายวิธี เช่น ทำสำรวจ ทำสำมะโน ขุดค้น (ลองนึกถึงพวกนิติวิทยาศาสตร์ดูนะครับ) ส่วน "ทดลอง" เป็นแค่หนึ่งในหลายวิธีของกระบวนการหาหลักฐาน
มีแต่คนเก่งๆๆทั่งนัันน่อ..เอาแต่ทิฎฐิตัวเองเป็นที่ตั้ง😊
ในจารึกอโศกฯ เรื่องเผยแผ่พุทธศาสนาไปในดินแดนต่างๆ อยู่ในจารึกศิลา ฉบับที่ 13 ส่วนเรื่องสังคายนาและจัดการนักบวชนอกศาสนาก็มีหลักฐานชัดเจนในจารึกเสาอโศกฯ ที่สารนาถและอีกหลายที่
ศาสนาพุทธได้เข้ามาถึง สุวรรณภูมิตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้วโดยพ่อค้าจากเมืองพริบพลีที่ไปค้าขายถึง มคธและได้บวชกับพระพุทธมีนามว่าพระปุณณะจากนั้นได้ทูลลากลับบ้านและพระพุทธเจ้าได้ให้โอวาสตามกล่าวไว้ในพระไตรปิฎก
ดูทุกคลิป วีดีโอ ช่องนี้ ดีที่สุด คุณ อดิศักดิ์ ศรีสม ยังเก่งเหมือนเดิม นะครับ
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา (ตถาคต) คือเข้าใจแจ่มแจ้งด้วยใจของตนเอง ว่าสิ่งทั้งปวงไม่มีความยั่งยืน สักวันต้องดับสูญ ไม่มีใครสามารถบังคับได้ เมื่อเข้าใจชัดเจนอย่างนี้แล้ว จิตก็จะคลายความยึดถือ รู้ว่าตนควรจะปฏิบัติต่อสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับตนอย่างไร เท่ากับได้เห็นพระพุทธเจ้า เพราะทรงสั่งสอนเหล่าพุทธบริษัทเช่นนี้เป็นส่วนใหญ่ นี่สำคัญกว่าประวัติความเป็นมาของพระเจ้าอโศก
สาธุค่ะ🙏🙏
ไม่อะ คุณจะเอาสิ่งเหล่านี้ มาลบเลือนการศึกษาประวัติศาสตร์เพื่อสืบเสาะไม่ได้
การจะวิเคราะห์เรื่องศาสนาต้องเคยบวชมีความรู้ ไม่ใช่อ่านเองคิดเอง เพราะจะได้ความรู้แค่มุมเดียวหรือไปถามพระที่ท่านศึกษาจนแตกฉานอ่านหลายตำราจารึกพระเจ้าอโศก ไม่ได้พูดถึงทุกเหตุการณ์ ไม่ใช่ไดอารี่ แต่เป็นคำสั่งสอนทั่วไป และเสาอโศกปักอยู่ตามสังเวชนียสถานจะมาพูดเรื่องพระโสณะอุตตระทำไมถ้าไม่ชำนาญก็อย่าฟันธง อายคนพม่าที่เข้าศึกษาเข้าใจและพยายามแย่งสุวรรณภูมิกับพระโสณะอุตตระไป เพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่ทางพุทธศาสนาในละแวกนี้และบ่งบอกว่ามาก่อนชื่อสนามบิน ถ้าไม่มีบันทึกเรื่องพระโสณะอุตตระสุวรรณภูมิ ท่านคงไม่ตั้งชื่อแบบนั้น จนเขมรยังอิจฉาอยากได้บ้างส่วนคนบอกเถรวาทเพิ่มเติมเนื้อหาคือเถรวาทรักษาของเดิมมากสุดแล้ว ที่แต่งเติมคือมหายานบันทึกเรื่องพระโสณะอุตตระอยู่ในหนังสือศาสนวงศ์และหนังสือสมันตปาสาทิกา หนังสือเรียนพระเณรเปรียญธรรม 7-8 ประโยคเห็นไหมว่าคนธรรมดาไม่เคยบวช จะเข้าไม่ถึงตำราความรู้ไปหาอ่านประวัติพุทธศาสนามาสู่สยามของหลวงพ่อประยุทธ วัดญาณเวศกวัน ท่านจะแจกแจงให้ฟังว่าอะไรยังไงไปหาอ่านในจารึกพระเจ้าอโศกไม่มีหรอก เพราะไม่ใช่จารึกอวดผลงานตัวเอง แต่เป็นจารึกบอกเล่าเก้าสิบสั่งสอนประชาชนต้องอาศัยบันทึกคนอื่น สรุป ไปหาสิ่งต้องการในที่ไม่มีหายังไงก็ไม่เจอ😊
อีกอย่างนึง สมัยพระเจ้าอโศก ส่งสมณทูตออกไปเผยแผ่พุทธศาสนาถึง 9 สายถ้าปฏิเสธว่าไม่มีพระโสณะพระอุตตระแล้วสายศรีลังกาเป็นลูกชายลูกสาวท่านคือพระมหินทเถระและพระสังฆมิตตาเถรีจะตอบว่ายังไง หรือไม่มีเหมือนกันเพราะในจารึกพระเจ้าอโศกไม่มี😊แล้วใครนำพุทธศาสนามาเผย่แผ่ในศรีลังกา ?มีแต่เขาพยายามรักษาสายมาเผยแผ่พุทธศาสนาด้วยความภูมิใจพยายามแย่งสุวรรณภูมิ แต่บางคนจะทิ้ง พยายามทำให้คนสับสนด้วยรู้ไม่ลึกซึ้ง😊
คงเหมือนดอกบัวที่มีเพียง3เหล่า คือบัวในน้ำ บัวปิ่มน้ำ บัวพ้นน้ำ แต่พอปี2525หัวข้อในพระไตรปิฏกฉบับถาษาไทยบอกว่ามีบัว4เหล่า ทั้งๆที่คำบรรยายก็มีเพียงบัวใต้น้ำ บัวปิ่มน้ำ และบัวพ้นน้ำเหมือนเดิม เลยต้องหามาเติมคือบัวใต้โคลนตม อันนี้เลยไม่ตรงตามเนื้อหาเหมือนเดิม ลักษณะนี้ก็คงคล้ายๆกัน ทั้งๆที่ไม่จำเป็นว่าการออกมาเผยแผ่ธรรมะต้องมีถึง9สาย แค่เผยแผ่มาถึงสุวรรณภูมิก็เป็นอันสมประโยชน์แล้ว
เพราะอะไรทำไมถึง9สาย 10 สาย 20 สายไม่ได้หรอ 9 สายนี่จากไหนไปไหน ใครรู้บอกหน่อย พอรู้อยู่สายเดียวคือ เส้นทางสายไหม
@@คนลุง-ฏ3ศเส้นทางก็มีหลายสาย ไม่มีแต่เส้นทางสายใหม่ เส้นทางสายเพชรเกษมก็มี พหลโยธินก็มี
อย่าเป็นบัวเต่าถุยก็พอ55
@@คนลุง-ฏ3ศพวกไม่รู้ ถามโง่ๆ เขาหมายถึงแดน😂😂
@@เสาวลักษณ์นัฐวุฒิอาจมรสายใต้หมอชิต😊😊
ขอบพระคุณเรื่องเล่า
ถ้าไม่มีคนมาเผยแผ่ แล้วเราจะรู้จักพุทธศาสนาได้อย่างไร ต้องมีที่มา มันถึงมีที่ไป ถ้าไม่มีเหตุ หรือจะมีปัจจัย ที่เห็นกันอยู่ณปัจจุบัน
สวัสดีครับอาจารย์ ขอบคุณครับผม.👍👍👍☘️🍃🍃🍃🍃🍃😊😊⭐⭐⭐⭐⭐
ใครจะส่งหรือไม่ส่ง ไม่มีปัญหา.. ปัจจุบันไทยนับถือศาสนาพุทธอยู่แล้ว ศึกษาปฏิบัติให้ดีก็พอ อย่าไปหลงอดีตให้มากนัก
การที่จะหาที่มาที่ไปของศาสนา ล้วนอยู่ที่ความเชื่อแต่ละบุคคล เพราะทุกอย่างล้วนเป็นประวัติศาสตร์ ที่มีทั้งจริงและไม่จริง .... แต่การเข้ามาของศาสนา เข้ามาเพื่อเปิดทาง ให้ด้านการค้าและการเมืองการปกครอง ถ้าผู้นำอยู่ในความเชื่อด้านศาสนาแล้วก็จะเป็นประโยชน์..-ในเรื่องพระไตรปิฎก การถกเถียงเรื่องเนื่อหาคำสอน ถ้าเราศึกษาดีๆแล้ว ทุกคำสอนล้วนถูกเขียนขึ้นจากกลุ่มที่มีอำนาจ ... พระไตรปิฎกล้วนแต่เป็น วรรณกรรม ที่เขียนขึ้นตามบริบทของการเมืองนั้นๆ ให้สอดคล้องกัน
"ผู้อันเป็นที่รักของทวยเทพ" ถ้าเชื่อว่าพุทธคือศาสนาอเทวนิยมคงไม่ต้องตรึกตรองว่านับถืออะไรให้ยาก ทำไมพระไตรปิฎกไม่เกิดในสมัยพระพุทธเจ้ายังอยู่ทั้งที่เชื่อว่าเป็นสัพพัญญู ไม่มีจารึกธรรมเลยจนผิดสังเกตจนอาจเป็นข้อห้ามด้วยซ้ำ ตรึงไว้ด้วยกาลามสูตรข้อสี่ - มา ปิฏกสมฺปทาเนน - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีในตำรา ยิ่งตำราเกิดหลังพันปีดูเอาเถิดใครจะรู้ว่าสนทนากันไว้อย่างไร ถอดมาเป็นพุทธวจนได้เฉย ทั้งที่สังคายนาก็แปลว่าสวดพร้อมกัน
ขอบพระคุณมากครับ 🙂🙏
เมื่อแรกก็มั่นในตำราต่างๆต่อมาก็มาห่างจากของจริง โอ้ประวัติศาสตร์จริง+เท็จ
ขอบคุณทีมงานมากๆครับ
ขอบคุณที่จัดทำคลิปEP.นี้นะคร้าบ😇😇😇😇😇😇😇
อย่าพึงวิวาทะกันเลย ใดๆ มันก็เป็นเพียงสมมุติฐาน มันยังอนุมานไม่ได้ ฟังหูไว้หู นะท่านผู้เจริญ
Ep.นี้มาแล้วดีเลย ต่อไปทำเรื่อง พระไตรปิฎกมีในเสาอโศกหรือไม่
สาเหตุ เป็นตวามปราถนาดีแท้ๆ ผลกระทบจึงเกิดเป็นการแสดงใฟ้เห็นในปัจจุบันหากไม่แก่ตอนนี้อนาคตห็จะหายไป
พระสมณฑูตที่พระโมคคัลลีปุตตติสสะมหาเถระ และพระเจ้าอโศก (พุทธ) ส่งไปยังดินแดนสุวรรณภูมิ ( คูบัว ราชบุรี เพชรบุรี นครปฐม กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ) ประกอบด้วยภิกษุ 5 รูป คือ พระโสณะ พระฌานียะ พระภูริยะ พระอุตตระ และพระมูนียะ ซึ่งสามารถสวดปาฏิโมกข์ได้ พร้อมบริวารเป็นอุบาสก อุบาสิกา รวม 38 คน ที่ต้องมีพระอย่างน้อย 5 รูป เพราะตามธรรมวินัย การจะบวชให้กุลบุตรได้ ต้องมีพระภิกษุ 5 รุปขึ้นไป ถึงบวชให้นาคได้ กษัตริย์ที่ครองเมืองสุวรรณภูมิสมัยนั้นคือ พระเจ้าตวันอธิราช
หลักฐานระดับ ?มีแต่นิทานมี่แต่งหลังเหตุการณ์นั้นนับพันปี ที่ระบุเรื่องนี้ แต่บนเสาอโศกไม่มีพูดถึง
@@ramesesptolemy4865มันเป็นความเชื่อ ของเค้า ที่เล่าต่อๆๆกันมา แบบไม่รู้เรื่อง ก็เลยเข้าใจว่าเป็นจริงดูขลังคนต้นเรื่อง ไม่รู้ ตายเกิดไปกี่รอบแล้ว คนต่อๆมาก็เชื่อ ไปตามนั้น ยากจะแก้ไข พอมีคนแย้ง ก็จะไม่พอใจ โกรธ หาว่าทำลาย ศาสนา ปล่อยไปเหอะ ช่างมัน
เรื่องกระเบื้องคูบัวก็เชื่อไม่ได้ จึงต้องห้ามมาตลอด
ติดตามครับ ขอวคุณครับ🙂🙂🙂🙂🙂🙂
คิดถึงรายการนี้มาก❤❤❤
เห็นด้วยครับ เรื่องประวัติศาสตร์ ต้องใช้หลักฐาน มายืนยัน มีน้ำหนัก กว่าคำพูดเยอะ แต่งขึ้นเองในลังกา พศ1000 ในหลักฐานมาจากไหนครับ
ขอบคุณทีมงานมากครับที่นำเรื่องราวของพุทธศาสนามานำเสนอทำให้ได้รับข้อมูลใหม่ๆน่าสนใจมากครับ❤
พระตถาคตตรัสสอนไว้ ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟังอะไรมา อย่าคิดว่าสิ่งนี้เท่านั้นจริงสิ่งอื่นเปล่า อดีตผ่านไปแล้วอนาคตยังมาไม่ถึงให้อยู่กับปัจจุบันทำกุศลให้เกิดอย่าประมาทชีวิตนั้นแสนสั้นแค่ลมหายใจเข้าลมหายใจออก กุศลที่แท้จริงคือ สติปัฏฐาน4
คนในปัจจุบันเที่ยวไปคาดเดาเรื่องราวในอดีตถูกบ้างผิดบ้าง อย่าเหมารวมว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริง ทุกสิ่งล้วนแต่ไม่แน่นอน
ทันเหตุการณ์จริงๆ ช่วงนี้ข่าวเหรียญพระเจ้าอโศกกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่พอดี
เหรียญพวกนี้ ก็อปปี้ได้ไหม ? โดยใช้เทคโนโลยีปัจจุบัน
ใดๆแล้วการมีศาสนาก็คือทำให้เป็นคนดีความดีทำให้คนมีความสุข อย่างอื่นตามที่เห็นมาล้วนนำความเชื่อแปรเปลี่ยนเป็นงมงาย
เขาต้องเอามาตรวจค่าความเก่า ถ้าทำใหม่จะรู้ง่าย
คำถาม คือ .... ถ้าเอามวลสารเก่า มาทำ จะตรวจอย่างไร ? ว่าเป็นของจริง ของก็อปปี้ .... เพราะ ตรวจอายุมวลสาร ก็จะได้อายุเก่าแน่นอนอยู่แล้ว ... มันต้องมีองค์ประกอบอื่น มาตรวจร่วมด้วย เช่น ตัวอักษร หรือ ลวดลายสถาปัตยกรรม
@@High_Tab มวลสารเก่าที่ปนเปื้อนด้วย สารDNA หรือ สารที่ไม่ใช่ เขารู้ค่าของเก่า มิใช่มวลสารที่ไม่ถึง 2000ปี คนที่จะทำให้ได้ 2000ปี อัพๆ คงเป็นระดับเทพ
ชอบมากครับ
❤❤❤ ถ้าพระธรรมวินัยจักเป็นศาสดาแทนตถาคตยังอยู่หัวใจพุทธอยู่❤❤❤
ศาสนาเข้ามาไทยตั้งแต่พศ.5แล้ว❤❤❤
ตามบันทึกราชทูตกรีกประจำสำนักโมริยะ พระเจ้าอโศกมีลูกคนเดียวคือเจ้าชายตาบอดชื่อกุณาละ ไม่มีลูกผู้หญิงเหมือนตามบันทึกของพระไตรปิฏก ส่วนเรื่องจารึกของพระเจ้าอโศกที่จารึกบนเสาและบนหินมีแต่การกล่าวถึงการทำบุญถวายถ้ำให้นักบวชเชน ไม่มีการจารึกว่าสร้างเจดีย์84000แห่ง การสังคายนาครั้งที่3 การส่งสมณทูต9สาย เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ควรจารึกอย่างยิ่ง แล้วหันกลับมาดูจดหมายเหตุจากราชทูตกรีก ก้อไม่ได้บันทึกเรื่องเหล่านี้รวมทั้งการกล่าวถึงของนักบวชในศาสนาพุทธที่โกนหัวโล้นแล้วนุ่งห่มด้วยผ้าสีเหลืองส้มหรือน้ำตาล
พระโสณะ และพระอุตระ เท่าที่เคยเรียนมา มาเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ดินแดนสุวรรณภูมิ แถบอินโดจีน หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครับ
สวัสดีรายการค่ะ
แต่ที่พบมีคนไปท้าส่ามเณรว่าเเฝไหนเสวยทุกข์ทันทีก่อน และมโนกรรมเป็นรูปเสวยทุกข์ต่อหน้าพระเจ้าอโศกแต่แปบเดียวมีคนเดินมาจากไหนไม่รู้ส่าเสวยทุกข์ต่อหน้าพระเจ้าอโศกของจริงและมาหลายคนและมีเมืองหนึ่งหรือประเทศใดไม่รู้มืดมิด และมีหลายเรื่องด้วย มีพระมาขออภัยได้ยินว่าไม่ได้โกรธแต่ก็ได้ยินว่าไม่มีอภัยเพราะว่าไม่มีความโกรธ และเคยเห็นเคยได้ยินมีน้ามาขอตัดไข่หรือทวารเบา อย่างนี้ก็ยอมรับว่าเป็นความจริง
จากที่ผมเคยศึกษาเรื่องการเผยแพร่ศาสนา พระเจ้าอโศกท่านเสียหลังพระพุทธเจ้า253ปี ท่านส่งคนมาเผยแพร่จริงแต่ท่านส่งมาอีกเมืองนึง เลยบอกว่าไม่ได้มาสุวรรณภูมิก็ถูกแล้วครับ ผมจำที่ไม่ได้แล้วแต่แถวๆภาคเหนือปัจุบันนี่แหละ มีเจ้าเมืองทางเหนือตอนนั้นคอยตอนรับอย่างสวยงามเพราะมีหลักฐานจากพระเสวียนจั๊ง หรือพระถังซัมจั๊ง ที่นักวิชาการไม่เจอคือบันทึกอักษรใส่กระดาษ ไม่ใช่หิน คนเผยแพร่เขาคงไม่แบกหินมาปรักหรอกครับ (ถ้าพูดถึงกระดาษตอนนั้นจีนทำขายครับถ้าเล่ายาวแน่) สรุป คือ ที่เราไม่เคยพบเจออย่าด่วนสรุปว่ามันไม่มีนะครับ
ส่วนตัวผมเชื่อว่าส่งทูตมากว่า9สายด้วยซ้ำครับพระสมัยราชวงศ์ฮั้นใกล้เคียงยุคพระเจ้าอโศกมีหลักฐานว่าพุทธศาสนาเริ่มเข้าไปแล้วหลังผ่านไปหลาย100ปีพระเจ้าฮั้นหมิงอยากรู้เรื่องพุทธแบบสมบูรณ์จึงส่งทูตไปอินเดียแล้วได้พระสงฆ์กับมาจีน2รูปส่วนดินแดนสุวรรณภูมิผมเชื่อว่าเป็นแถวพม่ามากกว่าเพราะเคยฟัง ดร.มโน เลาหวานิชแกบอกว่า พระไตรปิฎกพม่าเหมือนกับพุทธในอินเดียมากกว่าไทยส่วนพระไตรปิฎกไทยเหมือนกับศรีลังกามากกว่า
หลักฐานอะไรที่เกี่ยวกับการส่งทูตมาเผยแพร่ในสุวรรณภูมิของพระเจ้าอโศก หลักฐานร่วมสมัยไม่มีเลย หายังไงก็หาไม่เจอ มีแต่หลักฐานหลังสมัยไปเกือบพันปี เชื่อได้ยังไง ทั้งที่มันไม่ชัดเจน แต่ดันไปเชื่อ ขัดกับหลักพุทธชัดๆ
👏👏👏👏
คลิปนี้ ทำให้นึกถึง นักประวัติศาสตร์ท่านหนึ่ง แกบอกว่าเรื่องตำนานรักระหว่าง มะเมียะ - กับจ้าวศุขเกษม นั้นไม่มีจริง เป็นแค่เรื่องแต่ง. เหตุผลสรุปของแกก็คือ เพราะแกได้เดินทางไปสืบหา ในถิ่นบ้านเดิมของมะเมียะแล้ว สอบถามคนแถวนั้นหลายรุ่น ก็ไม่มีใครรู้จักเรื่องนี้เลย. เออ..สรุปง่ายดีจัง. // แต่แกน่าจะคิดให้ลึกไปอีกหน่อยว่า ตอนนั้น จ้าวศุขเกษม ยังเป็นหนุ่มวัยรุ่นอยู่เลย. แล้วเดินทางไปศึกษาในแดนถิ่น ที่จ้าวทางเมืองไทยไม่อยากให้ไป. แล้วแถมยังแอบไปคบหาสาวมะเมียะ ชอบพอกันอีก ซึ่งเป็นกฎข้อห้ามทั้งนั้น. จึงขอถามว่า...แล้วถ้าเป็นตัวเรา. เราจะคบกับมะเมียะอย่างเปิดเผย ให้ชาวบ้านร้านตลาดรู้กันไปทั่วเลย หรือว่าเราจะปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอดดี ?? คำตอบก็ไม่ยากอยู่แล้ว. แต่นัก ปวศ.ท่านนั้น แกไม่คิดแฮะ แกสรุปง่ายๆ ว่า ไม่รู้ไปสืบมาแล้ว ไม่มีใครรู้จักมะเมี๊ยะกับจ้าวศุขเกษม ก็จบแค่นั้น. // แต่ตามที่รู้ก็คือ เรื่องนี้เป็นเรื่องบอกต่อกันมาทางปาก โดยจ้าวหญิงในวังของเชียงใหม่ท่านหนึ่ง (จำชื่อไม่ได้) ซึ่งแน่นอนว่า ไม่มีใครอยากให้เรื่องเศร้าแบบนี้เกิดขึ้น ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง. เขาจึงปล่อยให้เรื่องนี้เป็นความลับ และเลือนหายไปโดยไม่มีการบันทึกในหนังสือพงศาวดารใดๆ . แล้วคนชาวบ้านร้านตลาดที่พม่า บ้านเดิมของมะเมี๊ยะ เขาจะไปรู้เรื่องนี้ได้ยังไง... เนาะ !!
ตัวอักษรที่จารึก ลงแผ่นหิน เป็นอักษรเมื่อ 2,000 ปี ซึ่งเลิกใช้แล้วใน ยุคปัจจุบัน และเสาอโศก ที่ยังหลงเหลืออยู่ที่สมบูรณ์อยู่หลายต้น ...พอจะเชื่ออยู่ได้ถึงแม้จะไม่ร้อยเปอร์เซนต์..
จัดเป็นประวัติศาสตร์เชิงตำนาน ..จริง💯%เท็จ💯%ประโยชน์จะมีแก่มหาชนก็หาไม่ นั่นมันมิใช่ข้อสำคัญใดใด..เสียเวลาเปล่า.!!!
ทางสายญาณบอก ขอมคืออารยัน ถ้าเป็นงั้นจิงก็พอเข้าใจได้อารยัน ผิวขาว ที่ปกครองอินเดีย เป็นไปได้ที่ชนชั้นสูงอารยัน จะมีเป็นเจ้าแถบบ้านเราด้วย วัฒนธรรมส่งต่อมา จากสายชนชั้นสูงอารยัน
รักรายการนี้จัง ❤
❤❤
เป้าประสงค์ ของพุทธศาสนิกชน ที่เกาะลังกา ได้จารเป็นคัมภีร์นั้น เพื่อให้พุทธศาสนา ได้เผยแผ่ดำรงตั้งมั่นและอนุเคราะห์แก่ชาวโลก ได้พบสัจจะธรรมอันตถาคตตรัสไว้ดีแล้ว ให้เราได้ศึกษาและสัมมาปฏิบัติ ตามปณิธาณพระศาสดา คือสงเคราะห์ให้ชาวโลกได้ ใช้ในชีวิต คือ เห็นทุกข์ ลดทุกข์ เข้าใจทุกข์ ลดทุกข์ ละทุกข์ เลิกทุกข์ ถ้าอริยะสงฆ์ในลังกา ไม่ทำอะไรเลยคือ พุทะศาสนาเราหายแน่ เพราะ อินเดียตอนนั้น ผู้ปกครองอันเชื่อสิ่งอื่น ล้างผลาญ ทำลายจนไม่เหลือแล้วครับ โยมทั้งหลาย ? แต่พุทธศาสนาเรายืดยุุ่นเข้ากับพื้นที่ในชุมชนพื้นเมืองดั่งเดิม ให้อยุ้่ร่วมกันได้ อย่ามามัวแต่หาว่า เรื่องจริง เรือ่งแต่งเลย เพราะพระอริยะสงฆ์ในลังกา ท่านเล็งเห็นประโยชน์ อันมีแต่เราทั้งหลายนับไม่ได้ครับ พิจารณาโดยวิญญูชน ถ้าตอนนั้นท่านไม่ทำอะไรเลย เราคงไม่มีพระพุทะศาสนาในถิ่นแผ่นดินนี้ที่เราเกิด สาธุ อนุโมทนา ของให้ญาติโยม มีสุขภาพกำลังใจกำลังกาย สมบูรณ์ตามอัตภาพของท่านเถิด อายุ วรรณะ สุขะ พละ เจริญพร หลวงพี่ นกขมิ้น
ขอบคุณทีมงานนะคะ
สิ่งไม่เห็น สิ่งที่ไม่มีในบันทึก ไม่ใช่มันไม่มี
ตามประวัติศาสตร์ตะวันตก พระนามเต็มของจักรพรรดิอโศกคือ เทวนามปรียาอโศก (พระเจ้าปรียาทรชีผู้เป็นที่รักของเหล่าทวยเทพ) รัชสมัยของพระองค์อยู่ระหว่าง 269 ปีก่อนคริสตกาลถึง 232 ปีก่อนคริสตกาลหรือ2,294 ปีก่อนถึง 2,257 ปีก่อน
ประวัติศาสตร์ฟังหูไว้หูดูให้บันเทิงพอเป็นแนว...แม้เรื่องเมื่อวาน2คนยังพูด2อย่าง😅😅😅😅😅
เป็นที่น่า เสียดายว่าพระคัมภีร์สมันตะปาสถายิกานั้น เป็นพระคัมภีร์กอยู่ในชั้นเปรียญธรรม6 ประโยค ซึ่งผู้ต้องมีสติปัญญาและมีความเก่งพอสมควรที่จะเรียนถึงในชั้นนี้ได้ หากภาษาบาลีหรือภาษามคธเหล่านั่น ไม่ได้ถูกแปลเป็นภาษาไทย เชื่อเถอะ99.99% ไม่มีใครสามารถรับรู้เพราะบาลีที่ได้รับการแปลจาก มคธ เป็นไทย ทั้งอรรถและพยัชนะ ยังยาก คุณพ่อดิฉันอดีต มหาเปรียญธรรญ3ประโยคท่านยังเรียนไม่ถึงชั้นนี้เลยเจ้าค่ะ
เปรียญธรรม 3 ประโยค คือเด็กๆนะ แค่มูลฐาน
ชอบดูมากเลยครับ
เรื่องของเรื่องก็คือนักวิชาการ ไม่ยอมรับกอกระเบื่องจารย์😂😂😂😂😂
นี่ก็งง เหมือนกัน ทำไมไม่มีใครเอามาพูดเลย
@@Prapatpong-f9kนักวิชาการ บางที่ก็ตัวบิดเบือนประวัติศาสตร์
มันเป็นของทำขึ้นใหม่ครับ พระอ่ำมันแต่งนิยายหลอกคนให้เชื่อ ให้นับถือมันครับ พระมักมากในยศลาภอย่าไปให้ค่าครับ
พระเจ้าอโสกในชมพูทวีปนับถือสาสนาพุทธ พระเจ้าอโศกในอินเดียนับถือเชน คนละองค์กัน
หรือแค่ เปลี่ยนมานับถือ หรือ นับถือคู่ ก็เป็นได้นิ ไม่จำเป็นต้องแค่ 1เดียวอิสลามสมัยนี้ยังมีนับถือศาสนาอื่นเลย หรือบางคนนับถือ5ศาสนาก็มี คือ ถ้าดีก็นับถือ
ชมพูทวีปกับอินเดียต่างกันยังไงครับ
@@AKN639 ชัมพูทวีปคือโลก
ก็ถ้าไม่มีลูกปัดเหล่านั้นในอินเดีย แต่มีในแถบบ้านเรา งั้นเราก็คิดอีกมุมหนึ่งว่า สิ่งเหล่านี้มีอยู่ในบ้านเราอยู่แล้ว และพุทธศาสนา อาจเกิดขึ้นในบ้านเราเอง ได้มั้ยครับ
ดีมากครับ
สวัสดีครับ ติดตามครับ
😆 ชอบคอมเม้นท์ ในนี้หลายคนที่แสดงความคิดเห็นได้อย่าง.... สนุกสนาน เหนืออื่นใด ต้องชม ทีมงานที่ นำเสนอข้อมูลที่เป็นอีกด้านของชุดข้อมูลเดิมให้มาถกกันเป็นกำลังใจให้ทีมงานผลิตงานดีๆแบบนี้ต่อไปครับ
ผมสงสัยไอ้ชื่อเมืองโบราณที่กล่าวมามันอยู่ในอินเดียจริงหรือเปล่าหรือจริงๆแล้วชมพูทวีปมันกว้างกว่านั้น เช่นโจละในบันทึกจีนก็มีคำว่าเจนละซึ่งเจนละในบันทึกจีนมันคือภาคอิสานกับสปปลาว ส่วนลังกาทวีปมันไม่น่าจะใช่ศรีลังกาแต่มันควรจะเป็นดินแดนที่อยู่ภายใต้การปกครองของเมืองที่ชื่อว่าลังกาซึ่งเมืองลังกาสุกะก็อยู่ภาคใต้ของไทยที่เราเรียกว่าสุวรรณภูมิ ลังกาสุกะปกครองชาวมาลายูทุกหมู่เกาะนั่นควรจะเรียกว่าลังกาทวีปมากกว่าที่จะเป็นศรีลังกามาดูประวัติศาสตร์บ้านเรากลิงคะมาปกครองภาคใต้สร้างเมืองลังกาสุกะเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลก่อนขยายอำนาจขึ้นมาปกครองมอญกับลั๊วะดังนั้นกลิงคะต้องมีอำนาจกินพื้นที่มาก ถ้าพระเจ้าอโศกจะตีกลิงคะจึงต้องมีกำลังพลและแนวร่วมทัดเทียมกันดังนั้นพุกามกับสยามไปจนถึงน่านจ้าวคือสิ่งที่พระเจ้าอโศกต้องเอามาเป็นแนวร่วมในการเอาชนะกลิงคะ
หลักฐานมีเยอะแยะ ที่คุณพิมพ์มา ต้องการจะสื่ออะไรล่ะ พูดมาให้ชัดเจนเลยครับ
@alexjoessss8853 การขีดเส้นแบ่งประเทศพึ่งมีสมัยตะวันตกเข้ามาล่าอาณานิคมและตำราวิชาการพึ่งถูกเขียนมาไม่ถึงสองร้อยปีซึ่งเราไม่รู้เลยว่าคนที่เริ่มศึกษาเอาไว้วางกรอบการศึกษายังไงและถ้าคนแรกผิดคนที่สองที่ศึกษาต่อก็จะผิดตามไปด้วย ที่ผมพูดคือความสมเหตุสมผล ในเมื่อกลิงคะครองอำนาจการค้าทางทะเลจนรวยกว่ามคธและสามารถขยายอำนาจมาปกครองมอญกับลั๊วะได้นั่นหมายถึงกำลังรบของกลิงคะมีมากกว่ามคธแน่นอน เอาหลักการง่ายๆคือศาสนา ภาษา วัฒนะธรรมจะมากับผู้ปกครองการที่สยามทำไมลงไปตั้งเมืองที่มีชื่อว่าศรีธรรมโศก(ศรี+ธรรม+อโศก+ราชา)ปกครองอำนาจแทนลังกาสุกะ นั่นหมายถึงพระเจ้าอโศกต้องมีอำนาจเหนือสยาม ในแนวทางเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบขนาดพื้นที่กับจำนวนประชากรแล้วสยามทำไมกล้าลงมายึดละโว้กับทวารวดีที่อยู่ภายใต้อำนาจกลิงคะทั้งๆที่แคว้นฮั่นที่ใหญ่และแข็งแกร่งกว่าสยามยังไม่กล้าทำนั่นหมายถึงสยามจะต้องมีผู้ที่หนุ่นใหญ่กว่าหรือเทียบเท่ากลิงคะและในหน้าประวัติศาสตร์ก็มีพระเจ้าอโศกคนเดียวที่เคยปราบกลิงคะแถมบันทึกจีนก็มีบอกว่ามีราชาที่ปกครองราชาพันคนซึ่งผมมองยังไงก็คือพระเจ้าอโศกคนเดียวเท่านั้น
@@วินัยท่อนทอง คุณสื่อถึงอะไร พิมพ์มาให้ชัดเจนเลยครับ เป็นเรื่องอะไรกันแน่
@@alexjoessss8853 การสงคราม วัฒนะธรรม ศาสนา ภาษามันเป็นสิ่งที่แกะออกจากกันไม่ได้เพราะมันจะไปไหนก็ต้องไปด้วยกันและสิ่งเหล่านี้มันเป็นของผู้มีอำนาจในการปกครอง ที่ผมจะสื่อคือศาสนาพุทธเข้ามาในประเทศไทยหรืออุษาคเณไม่ได้เข้ามาทางการค้าหรือการให้พระเดินทางมาเผยแผ่ศาสนาแต่ในอดีตบรรพชนของเราเคยตกอยู่ใต้อำนาจการปกครองและเป็นส่วนหนึ่งของชมพูทวีป
@@วินัยท่อนทอง คุณจะพูดถึงเรื่องเส้นเขตแดนหรือเรื่องอะไรกันแน่ครับ
ไม่ปรากฏไม่ได้แปลว่าไม่มี อาจจะลืม อาจจะไว้จารึกภายหลังแต่ตายก่อน ถ้าไม่มาเผยแผ่ศาสนาในสยามแล้วใครจะนำมา
พวกอวดวิชา...เถียงกัน..❤🎉😢
ต้องไปหาข้อมูล พระสงฆ์ 9 สายต่อที่ ศรีลังกา ถ้าไม่พบเลย แสดงว่าเป็นเรื่องแต่งขึ้นของคนโบราณ บริบทตอนนั้น จำผิดๆถูกๆเล่าตามกันมา ไม่ได้บันทึกไว้ จนกว่าจะพบเจอธรรมจักรภายหลัง ยุคทราวดี ถือว่า โอเค เก่าแก่มากแล้ว 1500ปีขึ้นไป
+1 ก็ต้องยกขบวน ไปหาข้อมูลที่ ศรีลังกาเพิ่มเติม ว่า ใครบันทึก ... บันทึกจากอะไร ?
คำถามคือ "ทำไมต้องมานั่งแต่งเรื่องนี้ขึ้น เมื่อ 2,500ปีที่แล้ว" การที่แถบประเทศนี้นับถือพุทธ มาตั้งแต่มีชาติกันมา ก็ชัดอยู่แล้ว
ดี
แล้วใครส่งมา ศิลานั้นเป็นของเจ้าอโศกจริงแท้แค่ไหน พวกคุณก็ไม่ได้เป็นคนแกะหินนั้น คนยืนยันก็ไม้ได้แกะหินนั้น เพราะการปกครอง และการศาสนา ขับเคี่ยวและแย่งชิง หักหารทำร้ายกันอย่าหนัก พวกคุณไปเชื่อถือหินแกะ แต่ไม่ยอมรับรอยพระพุธทบาท อันนี้มันก็ชดเจนมากพอแล้ว จงอยู่กับปัจบัน ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา
ถ้ามีการค้าขายกับอินเดีย การเผยแผ่ศาสนาก็ย่อมทำได้ครับ
เราจะเชื่อได้ยังไงกัน ว่า คนที่เขียนบันทึกในสมัยพระเจ้าอโศกนั้น ได้เขียนไว้อย่างครบถ้วนตามจริง เเละบันทึกนั้น ก็ไม่ได้มีลายเซนต์ของพระเจ้าอโศกรับรองไว้ ว่าเปนบันทึกที่ครบถ้วนถูกต้อง สมัยนั้นคนที่บันทึกนั้นอาจจะเปนพราหม ที่ไม่ค่อยจะชอบใจพุทธศาสนานัก และอาจจะไม่ค่อยจะถูกเส้นกับพระเจ้าอโศกนัก ในราชสำนักของพระเจ้าอโศก เองก็มีพราหม ฮินดู อยู่มากกมาย
อย่าไปแย้ง ไปสงสัยนะ เดี๋ยวจะถูกว่า ทำลายพระศาสนา ของพวกเค้า
@@sakathi7693 ใช่ แย้งไปสงสัยไป แล้วไม่มีประโยชน์อะไรกะใคร เราก็ไม่ต้องไปแย้ง / อะไรที่พูดไปแล้ว ทำไปแล้ว แต่ไม่เกิดประโยชน์กะใครนั้น พุทธเจ้าก็ไม่ทำ
คนสมัยก่อน เขาไม่มีเวลาส่วนตัวครับ เป็นทาสทังหมด ทำงานตามสั่ง และถูกตรวจงานตามสั่ง ถ้าไม่ทำตาย
ถ้ารู้จักกองทัพต้นทางโมกุล 1 เกิดการบุกอินเดียทั้งหมดไปทั่ว ยังไม่แยกประเทศ ได้บุกทำลายวัด มหาลัย ขนสมบัติ ทำลายสถานอย่างหนัก ถ้ารอด เป็นไปได้ 30% ที่เหลือไม่เหลือแล้ว 2ถ้าที่มีอยู่ ก็ฝรั่งล่าดินแดนก็ขนไปขายกินละ พวกนักสะสมโบราณวัตถุชอบๆ
ยุคนั้นไม่มีแนวคิดเรื่องลายเซ็นด้วยซ้ำ จะเซ็นได้ยังไงก่อน? ถ้ามีก็มีใกล้เคียงสุดคือตราประทับ หรือจะเป็นตราของกษัตริย์ ก็แล้วแต่ว่าจารึกหรือเขียนลงกับอะไร พวกบันทึกก็มีปัญหาเรื่องการคัดลอกที่คัดลอกกันมา แต่ไม่เอาลายเซ็น(ถ้ามี) คัดเนื้อหาะแปลมาหมดเมื่อเปลี่ยนภาษาจารึกก็มีทำลายและ อาจจะไม่ครบตามที่ท่านพอใจ
เป็นไปได้เมื่อพระเจ้าอโศกไม่นับถือก็ไม่จำเป็นต้องจารึกไว้ ..
การที่ในบ้านเรามีพระอรหันต์เกิดขึ้น นั่นหมายถึงเรารับคำสอนของพระพุทธเจ้ามาแบบถูกต้องแน่นอน ส่วนจะมาถึงโดยวิธีการใดนั้น ก็รับฟังตามหลักฐานที่นักประวัติศาสตร์หลายๆท่านค้นคว้ามาครับ
อันนี้เรียนถามด้วยความสงสัย การที่จะบอกว่า พระสงฆ์ยุคหลังพระพุทธเจ้า บรรลุอรหันต์ ใครเป็นคน confirm ละรู้ได้ไงว่าเป็นอรหันต์จริงๆครับ
@@tontonychai3352 ไม่มีครับ ปุถุชนเดาๆลือๆกันเอง สมีทั้งหลาย ต่อให้เป็นของปลอม ถ้าจับไม่ได้/ตายลงก่อนคนจับได้ ลูกศิษย์ก็จะยืนยันว่า สำเร็จมรรคผล ใครตั้งคำถาม จะหาว่าลบหลู่ครับการจะสำเร็จมรรคผล ธรรม มันละเอียดเหนือวิสัยปุถุชน แค่เทศน์เก๋ๆ ทำท่าสำรวมเฉยๆ มันไม่พอ คนธรรมดาไม่มีปัญญาแยกออกแน่นอนการจะวินิจฉัย ว่าใครสำเร็จอรหันต์ได้ คนๆนั้น ต้องสำเร็จมรรคผลเองก่อนจึงตัดสินคนอื่นได้ ไม่ก็ต้องให้คนที่ พระพุทธเจ้ายืนยัน หรือตัวพระพุทธเจ้าเองยืนยัน เป็นคนชี้ลงไปได้ แล้วกติกานี้ มีสิทธิ์เกิดในยุคหลังไหม? ก็ไม่
@@tontonychai3352ตามกฎพุทธว่าจะมีระดับไหน แค่เปิดเนตเอาสิ ถามลุงกู๋😅😅
@tontonychai3352 คนที่บอกได้มีแต่พระอรหันต์ด้วยกันครับ สำหรับผมพระที่ถือศึลครบ 227 ก็กราบได้เต็มหัวใจแล้วครับ
@@panupholonprom7763เฮ้อ….หายากปานงมเข็มในบ่อน้ำ
การสร้างเสาอโศกของพระเจ้าอโศกเป็นแท่งหิน หมายจะให้เป็นถาวรวัตถุ ถึงผ่านมาเป็นพันปีแลเว แต่ก็ยังคงหลงเหลือร่องรอยของเสาหินการส่งสมณทูต 9 สายเพื่อเผยแพร่ศาสนาเป็นเรื่องใหญ่ เป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ของตัวพระมหากษัตริย์ แล้วเหตุใดการประกาศความยิ่งใหญ่นี้ ถึงไม่มีในเสาอโศก ทั้งที่เป็นของพระเจ้าอโศกเอง
คหสต.แต่การนับถือพุทธศาสนาในภาคเหนือ(ล้านนา)น่าจะได้รับอิทธิพลที่แผ่ลงมาจากทางตอนเหนือตั้งแต่จีนลงมา สิบสองปันนา พม่า จนมาถึงล้านนาคงไม่ใช่แผ่อิทธิพลจากสุวรรณภูมิ ขึ้นไปสุโขทัย ล้านนาแล้วไปถึงพม่าแน่นอนดูได้จากจารีตและข้อวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์ในล้านนา(ในอดีต)ที่ต่างกับพระสงฆ์ในภาคภาคกลางอย่างชัดเจน ยกตัวอย่าง ครูบาศรีวิชัย เป็นต้น(สมัยก่อนพระทางเหนือจะมี สำเนียงบทสวด ภาษา ตัวอักษร ที่คล้ายกับสิบสองปันนาและพม่ามากกว่า )
ล้านนารับพุทธศาสนาจากกลุ่มวัฒนธรรมมอญหริภุญไชยเป็นพื้นฐาน จากนั้นต่อมารับลังกาวงศ์จากสุโขทัย นิยมเรียกนิกายลังกาวงศ์เก่า หรือนิกายวัดสวนดอก ผ่านมาอีกประมาณหนึ่งมีพระสงฆ์ไปบวชเรียนจากลังกาโดยตรง แล้วพยายามกลับมาปฏิรูปศาสนา (คล้าย ๆ ธรรมยุติ ปัจจุบัน) เกิดเป็นนิกายลังกาวงศ์ใหม่ หรือ นิกายวัดป่าแดง สองนิกายนี้ก็ดำรงอยู่เรื่อยมาจนแตกออกเป็นนิกายย่อย ๆ อีกมากมาย แต่ละเมืองก็มีนิกาย มีวัตรต่างกันไป เมื่อเวลาผ่านไปหลายร้อยปี ส่วนนิกายของครูบาศรีวิชัย ห่างจากยุคลังกาวงศ์เก่า ลังกาวงศ์ใหม่ ไป 500-600 ปี ยากที่จะเชื่อมโยงไปถึงล้านนายุคโบราณ แต่พื้นเพท่านเป็นคนลำพูน ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีการกวาดต้อนชาวไทลื้อ โดยเฉพาะชาวเมืองยองมาอยู่มาก ทำให้นิกายของครูบาศรีวิชัยจะมีลักษณะใกลี้เคียงกับนิกายของเมืองยอง ซึ่งอยู่ใกล้ 12 ปันนา
@@nokaton 🙏ขอบคุณมากๆที่เข้ามาให้ข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องนะครับ
@@nokaton ปัจจุบันเราเรียกนิกายลังกาวงศ์ใหม่ที่รับมาเป็น นิกายสยามวงศ์ ใช่หรือไม่ครับ
ทางตอนเหนือ ๆ พอรับพุทธเจ้าไป ก็เริ่มเผาศพ แต่ก็เผาเฉพาะพระภิกษุ ( พวกไทยใหญ่ก็ยังใช้กันอยู่ )ส่วนชาวบ้าน ยังฝังศพเหมือนเดิม นั่นแสดงว่า พุทธ เริ่มจากใต้ขึ้นเหนือ ชัวร์ ๆ ( ไม่ใช่จากเหนือลงใต้ )
ในภาคกลางเองก็มีการวิวัฒน์ปรับเปลี่ยนหลายครั้งในวิถีของตัวเอง ซึ่งในที่สุดเราก็อาจจะไม่จำเป็นต้องนับเป็นลักษณะอ้างอิงก็ได้
การศึกษาด้านโบรานคดีไทย ยังรอคนรุ่นใหม่สานต่อ อยู่นะ
เรื่องพระโสณะและพระอุตตมะมีบันทึกใน ก.เบื้องจารที่ลป.อ่ำค้นพบมีเก็บไว้ที่วัดโสมนัส เป็นก.เบื้องจารสมัยพศ.๒๖๘
ห่างกันนานขนาดนั้น มันจะผิดเพี้ยนไป ก็ไม่แปลก เพราะอาจเป็นแค่คำพูด ปากต่อปากที่ฟังกันมาอีกที ขนาดศิลาจารึกแท้ๆ ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องจริง..
ท่านพระอาจารย์มั่น (ภูริทัตโต) เคยพูดเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า สมัยพระโสณะ กับพระอุตตระ มาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในแคว้นสุวรรณภูมิ คือ นครปฐมเดี๋ยวนี้ // ท่านพระอาจารย์มั่น (ภูริทัตโต) นี้ได้เป็นสามเณรน้อยมาด้วย ท่านพระอาจารย์ว่า สมัยนั้นท่าน ข้องคาอยู่ในการปรารถนาพุทธภูมิ ท่านจึงไม่ได้สำเร็จมรรคผลอะไร // ท่านกล่าวว่า สมัยนั้นน้ำทะเลขึ้นไปจรดกับจังหวัดสระบุรี หรือเขาวงพระจันทร์ ส่วนพระโสณะ และพระอุตตระ นั้นชอบใช้ไม้เท้าทางกก (ทางต้น) เป็น ๘ เหลื่อม ทางปลายนั้นเป็น ๑๖ เหลื่อม // อ้างอิงคัดลอกมาจาก บันทึกส่วนตัวของ พระครูสังวรศีลวัตร (หลวงปู่อุ่น ชาคโร) เปิดเผยความลึกลับของท่านอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ
@@SuthepSonghahasong-y2r แบบนี้พระมุสาละครับ สมัยน้ำทะเลไปจรดสระบุรีนี่มันราวหมื่นปีก่อน พระพุทธเจ้าโคตมยังเป็นวุ้นอยู่เลย
@@AKN639 ปาบกรรมหนักแล้ว. รีบขอขมาท่านซะ. เตือนด้วยความหวังดีครับ.
@@AKN639 ถ้าคุณไม่นับถือพุทธ ไม่รู้เรื่องคำสอนของพุทธ ก็อย่ามายุ่งกับชาวพุทธเลยครับ. เตือนด้วยความหวังดีจริงๆ ครับ. บาปกรรมครับ.
@@SuthepSonghahasong-y2r หลักฐานทางธรณีวิทยามันบอกแบบนั้นครับ ถ้าหลวงปู่มั่นพูดแบบนั้นก็มุสา ถ้าไม่ได้พูดไอ้คนพูดก็มุสาศีล5 ยังทำไม่ได้อย่าเรียกตัวเองว่านับถือพุทธศาสนาครับ
ความแตกต่าง ระหว่างคว่าความเชื่อกับความจริง ย่อมมีความต่างกันจริงไหม แต่เรื่องนี้ไม่สำคัญ😊😊
อยากดูเรื่องราวเกาะแกร์ครับ
สาธุ
พระพุทธเจ้า เป็นเจ้าชาย เป็นคนธรรมดา เหมือนไม่ใช่ธรรมดา ไม่แสวงภายนอก แต่ค้นหาภายใน ไม่มีอะไรเหนือธรรมชาติ คือ ธรรมะ สัจจะ ความจริง หนึ่งเดียว แม้แต่ภพภูมิ ก็สยบใน สัจจะธรรม
รับพุทธศาสนาเป็นเรื่องเป็นราว มาจากมอญ ลังกา 😮ฝ่าย เถรวาท หลังยุคทราวดี
อยากได้เสื้อครับสวยดี สั่งได้ไหมครับ
พระสงฆ์ เดินทางกันเอง พระสงฆ์ในยุคนั้นเดินทางเก่ง จะอาศัยเรือเดินทาง หรือเดินทางด้วยเท้า ธุดงค์ ไปทั่วดินแดน
ใช่ เหมือนจะสื่อว่า ทำไมไม่ลงทะเบียนสมัยนั้น? (สาวก ล้านคน จะมาจารึก? ไม่มีในจารึก ก็เลยพยายามบอกว่าไม่มี ทั้งๆที่ ปัจจุบันเราก็เป็นพุทธ หรือใช้คำว่า "เรื่องแต่งขึ้น"ก็ชัดเจตนา)
@@hopzahoodeenee230 ก่อนหน้า คณะ อโศก 200-300ปี พระสงฆ์ธุดงค์ไปหลายดินแดนแล้ว เชื่อแต่ประวัติศาสตร์ ว่าเพิ่ง มาตอน อโศก
ชอบภาพสร้างจาก AI ครับ
เอาเป็นว่าถ้าเค้นความจริง และด้วยหลักฐานของโลกที่เจริญแล้วในปัจจุบัญ คนรับผิดชอบเรื่องราวนี้ที่เรารับรู้ เรียนรู้อาจจะต้องหมายถึงเจ้าแผ่นดินองค์หนึ่งที่พยายามสร้างเรื่องราวขึ้นมาเอง แต่โดยเหตุผลใดก็มิอาจทราบได้
ในที่สุดก็มีคนกล้าทำอะไรแบบนี้สะที เรื่องส่วนใหญ่แต่งขึ้นหลังตั้งพันปี **** กาลามสูตรไหมล่ะครับ
สุดยอดจริงๆครับ ท้าทายความเชื่อเดิมแบบ โละทิ้งเลย แต่ก็ต้องทำเพราะหลักฐานมันบอกและความจริงจะทำให้เราเข้าใจตัวเรามากขึ้น
ชอบ Ep.แบบนี้ สมชื่อรายการสุดๆ นำเสนอข้อมูล-หลักฐานทางประวัติศาสตร์หลายๆมุม ให้เราได้คิด+วิเคราะห์ บางประเด็นค่อนข้างsensitive แต่รายการก็กล้านำเสนอ เป็นกำลังใจให้คุณอดิศักดิ์ และทีมงานนะคะ ขอให้นำเสนอรายการที่มีคุณภาพแบบนี้ไปอีกนานๆค่ะ
ปล. แมว อ.ศิริพจน์ ซนมาก..น่ารัก 😊
@@shivabhornsri4899 แค่ไม่ขัดแย้งลบล้างหลักฐานเดิมในคลิบมีทั่งขัดแย้งตอนท้ายบอกเขื้อ
ขอขอบพระคุณมากครับ ที่มีคลิปนี้ มาใหเพวกเราได้ฟัง ได้ชม ได้รู้ ฯลฯ ครับท่าน
ในสมันตปาสาทิกา ไม่เคยบอกว่าพระเจ้าอโศกเป็นผู้ส่งสมณทูต แต่ผู้ส่งคือ “พระโมคคลีบุตรติสสเถระ”ครับ
ถูกต้องครับ ถ้าไม่มีคนมาเผยแผ่ จะมีปัจจุบันนี้หรือ ต้องมีเหตุครับ ถึงมีผลให้เห็นอยู่ทุกวันนี้
@@บุญโสมบุญยิ้ม เป้าประสงค์ ของพุทธศาสนิกชน ที่เกาะลังกา ได้จารเป็นคัมภีร์นั้น เพื่อให้พุทธศาสนา ได้เผยแผ่ดำรงตั้งมั่นและอนุเคราะห์แก่ชาวโลก ได้พบสัจจะธรรมอันตถาคตตรัสไว้ดีแล้ว ให้เราได้ศึกษาและสัมมาปฏิบัติ ตามปณิธาณพระศาสดา คือสงเคราะห์ให้ชาวโลกได้ ใช้ในชีวิต คือ เห็นทุกข์ ลดทุกข์ เข้าใจทุกข์ ลดทุกข์ ละทุกข์ เลิกทุกข์ ถ้าอริยะสงฆ์ในลังกา ไม่ทำอะไรเลยคือ พุทะศาสนาเราหายแน่ เพราะ อินเดียตอนนั้น ผู้ปกครองอันเชื่อสิ่งอื่น ล้างผลาญ ทำลายจนไม่เหลือแล้วครับ โยมทั้งหลาย ? แต่พุทธศาสนาเรายืดยุุ่นเข้ากับพื้นที่ในชุมชนพื้นเมืองดั่งเดิม ให้อยุ้่ร่วมกันได้ อย่ามามัวแต่หาว่า เรื่องจริง เรือ่งแต่งเลย เพราะพระอริยะสงฆ์ในลังกา ท่านเล็งเห็นประโยชน์ อันมีแต่เราทั้งหลายนับไม่ได้ครับ พิจารณาโดยวิญญูชน ถ้าตอนนั้นท่านไม่ทำอะไรเลย เราคงไม่มีพระพุทะศาสนาในถิ่นแผ่นดินนี้ที่เราเกิด สาธุ อนุโมทนา ของให้ญาติโยม มีสุขภาพกำลังใจกำลังกาย สมบูรณ์ตามอัตภาพของท่านเถิด อายุ วรรณะ สุขะ พละ เจริญพร หลวงพี่ นกขมิ้น
❤❤❤สุดยอดมาก,,ช่องนี้ขอปรบมือรัวๆๆๆไไไไ🎉🎉🎉🎉🎉
Thanks!
ขอบพระคุณที่สนับสนุนการผลิตรายการค่ะ
นอกจากได้ความรู้ปวศ. ภาพปวศ.อีกมากมายในอีกมุมหนึ่ง สิ่งที่ชอบมากที่สุด คือเสียง และจังหวะเสียง ในการบรรยายครับ
มีบันทึกกเบื้อจารบ้านคูบัว สุวัณณภูมิปกรณ แปลโดยเจ้าพระอริยกวี(อ่ำ) รายละเอียดดีมาก
ของปลอมครับ พระอ่ำมันแต่งนิทานหลอกคนเฉยๆครับ
แต่งใหม่หลังเป็นพัน ๆ ปี เอาตรงไหนมาจริง
@@กมลวัฒนก์คงศิริ เถรวาทรับมาจากลังกาก็พอแล้ว
@@AKN639มึงสิปลอม
@@AKN639ไปเชื่อฝรั่ง😢😂ต้องฉลาดด้วย
ขอบคุณสารคดี ดี ๆ อันเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและสาธารณะครับ
ชื่นชอบรายการนี้มาก ติดตามทุก Ep.ครับอาจารย์💓💓
ขอบคุณครับ เป็นข้อมูลใหม่นอกตำราเลยครับ เพิ่งรู้ว่าตำนานส่งสมณทูต 9 สาย ห่างจากยุคพระเจ้าอโศกถึง 700 ปี แต่ยุคพระเจ้าอโศกไม่เคยมีจารึกถึงเรื่องนี้เลย สมัยพระเจ้าอโศกก็ไม่ได้นับถือเถรวาท เพราะยังไม่มีเถรวาท การเดินเรือก็ลำบากมาก ๆ
เปนไปได้ไหมว่า ส่งมาจากลังกา หรือเปล่า 9สาย
@@pjmaxmix7034ผมว่าน่าใช่
อาจจะยังหา หลักศิลาบันทึก ไม่เจอ ก็ได้ ( รู้ได้ไง ว่าไม่มีจริง 100% แล้ว )
.... แต่ที่ เถรวาทศรีลังกาบันทึก เขาบันทึกจากอะไร ? ต้องไปหาข้อมูลที่ตรงนั้น เพิ่มเติม .... เช่น เล่าต่อ ๆ กันมา จนถึงศรีลังกา หรือ คนศรีลังกา มโนขึ้นมาเอง ฯลฯ
... คิดให้มีเหตุ มีผล ทีละขั้นตอน 😂😂😂
เถรวาท แปลว่า คำสอนที่วางไว้เป็นหลักการโดยพระเถระ คำว่า เถระ ในที่นี้ หมายถึงพระเถระผู้ประชุมทำสังคายนาครั้งแรก หลังปรินิพาน 3 เดือน และพระพุทธศาสนาซึ่งถือตามหลักที่ได้สังคายนาครั้งแรกดังกล่าว เรียกว่า นิกายเถรวาท อันหมายถึง คณะสงฆ์กลุ่มที่ยึดคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ทั้งถ้อยคำ และเนื้อความที่ท่านสังคายนาไว้โดยเคร่งครัด ตลอดจนรักษาแม้แต่ตัวภาษาดั้งเดิม
@@pjmaxmix7034 สมัยนั้นศรีลังกายังไม่มีครับยังใช้ชื่อว่าเกาะซีลอนครับ ชื่อศรีลังกาพึ่งมีสมัยอังกฤษเข้ามาปกครอง ส่วนลังกาทวีปหมายถึงอาณาจักรศรีวิชัยครับมีมาเป็นพันๆปีแล้วครับ
❤สวัสดีครับแอด รายการดีมีสาระมาแล้ว ขอบคุณครับผม❤❤❤🎉
จารึกหรือบันทึกของพระเจ้าอโศก เปรียบเป็นประจักษ์พยาน มีน้ำหนักในการรับฟังเป็นอย่างมาก
ส่วนคัมภีร์ของลังกานั้น เปรียบได้กับพยานบอกเล่า โดยปกติรับฟังไม่ได้😊
จารึกอโศก มั่นใจว่าหาเจอหมดแล้ว และจารึกที่บันทึกเรื่อง พระเจ้าอโศก ส่งพระสมณะฑูต มั่นใจว่า ไม่มี หรือ มีแต่ถูกทำลายไปหมด หรือ มีแต่ยังไม่เจอ
ถ้าไม่เจอหลักฐานที่เกี่ยวข้องก็ตีว่าไม่มีครับ
เหมือนกับเราเจอหนังสือโดราเอมอน แต่หาหลักฐานเกี่ยวข้องไม่เจอก็ไม่นับว่ามีจริง
@@westwind1519 เก่าแค่สุโขทัยก็น่าจะพอนิกายเถรวาท
ทั้งหมดที่กล่าวถึงพระเจ้าอโศกมหาราชเป็นของปลอม พระเจ้าอโศกมหาราชเป็นคนไทย นับถือพุทธศาสนา เป็นผู้ทำสังคายนาพระไตรปิฏกครั้งที3ปั235 (อโศกอินเดียเกิดปี240 นับถือเชนมาตลอด จะส่งสมณฑูตมาเมืองไทยอย่างไร เพราะบ้านเราเป็นต้นกำเหนิดพุทธศาสนา)
การส่งสมณทูต 9 สาย ไปเผยแพร่ศาสนา เป็นโครงการใหญ่มากนะ ถ้าพระเจ้าอโศกส่งไปจริง ควรจะมีบันทึกอยู่ในเสาอโศกทุกหลักด้วยซ้ำ
ทำไมไม่ค้นพบความจริงในบ้านเรา ในหลักศิลาจารึกหลักที่2 (ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง)ในเรื่องตำนานวัดศรีชุม ได้กล่าวถึงพระมหาเถระศรีศรัทธาราชจุฬามณี หลานพ่อขุนผาเมือง ตัวท่านพระมหาเถระศรีศรัทธาปรารถนาพระโพธิญาณ จึงต้องการสร้างพระพุทธรูปองค์มหึมาคือพระอจนะ จึงให้บริวารไปขนเศษอิฐปูนปตกหักจากพระพุทธรูปในวัดอโศการาม ทีพระเจ้าอโศกมหาราชสร้าง ในปาตาลีบุตร ริมฝั่งน้ำอโนมานที สถานที่ซึ้งพระพุทธเจ้าปลงเกศาคราออกมหาวิเนษกรมณ์ ใช้เวลาไปกลับไม่ถีง3วัน นีคือหลักฐานความจริงในศิลาจารึกหลักที2 แสดงว่า
1 ปาตาลีบุตรอยู่ในบ้านเรา
2 พระเจ้าอโศกมหาราชคนไทยที่นี่เป็นทีเคารพสักการะของคนในชมพูทวีปคือไทย พม่า ลาว เขมร มอญ เพระท่านเป็นคนทำสังคายนาพระไตรปิฏกครั้งที่.3 ปี 235(แต่อโศกอินดียเกิดปี240นับถือศาสนาเชนมาจนสวรรคต) ท่านเผยแผ่พุทธศาสนาไปยังประเทศตะวันออก ท่านเป็นผู้สร้างพระเจดีย์พระบรมธาตุ 84000 องค์ทั่วทุกประเทศในชมพูทวีป ข้อให้ระลึกว่าการทำสังคายนาพระไตรปิฏก 2ครั้งแรกทำโดยพระเจ้าอชาตศัตรูและพระเจ้ากาฬาโศกราชก็ทำที่นี่ การทำสังคายนาพระไตรปิฏกทุกครั้งเขาใช้ภาษาบาลีบันทึก แต่ตำนานได้กล่าวว่ามีการทำสังคายนาพระไตรปิฏก3-4 ครั้งในอินเดีย คงไม่จริงเพราะอินเดียไม่รู้จักและเคยใช้ภาษาบาลี เขาใช้ภาษาของเขาคือภาษาปะกิด(Prakit) ภาษาบาลีค้นพบได้ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย สมัยพระนารายณ์มหาราช ปี 2230 จากจดหมายเหตุของฑูตฝรั่งเศสลาลูแบร์( Simon dela loubrere )นักวิชาการด้านภาษาของฝรั่งเศสชื่อศาสตราจารย์บูรนูฟ(Burnouf)ก็ได้ยืนยันว่าที่ลาลูแบร์ไปพบภาษาบาลีในสยามประเทศเป็นความจริง เพราะท่านไปค้นดูประเทศต่างๆที่เคยไปอาณานิคม และกำลัวเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสไม่มีประเทศไหนใช้ภาษาบาลี มีแต่ประเทศเอกราชคือเมืองไทยเท่านั้นที่ใช้ ภาษาบาลีใช้ในบ้านเรามากว่า2600 ปีแล้วปีเล่า ภาษาบาลีคือภาษามคธ ขอให้พวกเราเลิกค้นหาความจริงนอกประเทศได้แล้วมีแต่ของปลอมทั้งนั้น บ้านเราสมัยพุทธกาลเรียกว่าแคว้นมคธ เป็นแดนพุทธอุบัติทีประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพานของพระพุทธเจ้าแท้จริง ลองดูความจริงได้ดีกว่าเช่นหลักศิลาจารึกหลักที่ 6 การออกผนวชของพญาลิไท ปี1905 เขาจารึกเป็นภาษาไทย ขอม(บาลี)และมคธ และไตรภูมิพระร่วง พญาลิไทแต่งก็เป็นภาษามคธ หรือตำนานสำคัญต้นรัตนโกสินทร์คือสังคีติยวงศ์ แต่งโดยสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพนปี ปี2332 ก็แต่งเป็นภาษามคธ และได้กล่าวถึงชมพูทวีปก็ระบุคือสัมมานคร 5แห่ง คือไทย พม่า ลาว มอญ เขมร และก็ตรงกับประกาศเทวดาในพระไตรปิฏกฉบับแรกของกรุงรัตนโกสินทรฺ์ ปี2331 แล้วหลักฐานชัดเจนในอินเดียแดนภารตะมีไหม
หลังเจ้าพระเจ้าอโศกมหาราชบ้านเราสวรรคต ทางอินเดียมีนักบวชมหายานฝ่ายตันตระได้แต่งเคลมพระเจ้าอโศกบ้านเราไปเป็นพระเจ้าอโศกองค์ใหม่ ในคัมภีร์อโศกกาวทาน โดยยกกษัตริย์อินเดียผู้ยิ่งใหญ่ของอินเดียคือพระเจ้าเทวานัมปิยทัสสึแห่งราชวงศ์เมารยะ ซึ่งวงศ์เมารยะนี้พระเจ้าจันทรคุปต์ตั้งขึ้นมาปี222 ต่อมาท่านสละราชสมบัติให้โอรสของท่านคือพระเจ้าพินทุสาร (พระบิดาของพระเจ้าเทวานัมปิยะทัสสี)แล้วท่านออกผนวชเป็นนักบวชเชน สวรรคตปี2479 พระเจ้าเทวานัมปิยะหรือพระเจ้าอโศกยิ่งใหญ่มาก ท่านเกิดมาก็นับุถือเชนไม่เคยเปลี่ยนเป็นพุทธ ท่านศรัทธาในเชนมากสร้างเสาอโศกไว้ทั่วอินเดียทั้งหมดเป็นคำสอนเชน ขยายอาญาจักรยกพวกตีแคว้นกลิงคะฆ่าชาวเมืองทากหลัก100,000คนจับมาเป็นเชลยอีก150,000คนส่วนใหญ่อดตายหมด
อโศกอินเดียนี้ใจโหดมากชอบฆ่าคน ไม่ถูกใจสนมจับมาเชือดคอทิ้ง 500 นาง และอมาตใกล้ชิดก็ฆ่าหมู่อีก500นาย คนในสายเลือดเดียวกันก็ฆ่าอีก99คน ต่อมาปลงตกก็เจริญรอยตามพระเจ้าปู่ เข้าปฏืบัตตามศาสนาเชนก่อนสิ้น1ปี สละราชสมบัติให้พระเจ้าหลานก็เป็นเชน เวลาที่เหลือท่านยึดหลักธรรมตามเชนจนบรรลุระดับสูงของเชนเรียกว่าSambodi แล้วท่านไปสวรรคตที่สถูปสาญจึ ความจริงพิสูจน์ได้ในบ้านเราและอินเดีย
ฟังหลวงพ่อ จรัญ เล่าเรื่อง หลวงพ่อดำ พระในป่า
ศิษของพระมหากัสปะรุ่นที่สามเดินธุดงค์มาถึงสุวรรณภูมน่าจะเผยแพร่แถวๆพม่า
ไม่มีบันทึกใช่ว่าไม่มี ไม่เห็นก็ใช่ว่าไม่มี
การไม่มี ไม่เห็น ย่อมเหมาะสมแก่การเชื่อว่า น่าจะไม่มี มากกว่าน่าจะมี
ส่วนการเชื่อว่ามี หรือน่าจะมี ทั้งๆที่ไม่มีบันทึก หรือไม่เห็นบันทึก น่าจะเป็นการเชื่อตามความอยาก ให้มี ไม่ได้เชื่อตามพยานหลักฐาน😁
คนไทย ไม่ได้เป็นคนบันทึก
คนไทย เป็นคนพิจารณา ( ข้อมูล )
ดังนั้น อย่ามากล่าว มั่ว ๆ ปาก พล่อย ๆ กับคนไทย
.... โปรดพิจารณาตามหลัก กาลามสูตร ด้วย
คนบ้านผมไม่เคยพบขุดพบโครงกระดูกทวดของทวดตัวเองมาก่อน แต่เค้าก็ยังเชื่อว่าทวดของทวดก็เป็นคนแบบเราแหละ ไม่ใช่ไดโนเสาร์เหมือนที่ขุดพบที่อีสาน😂
ตกลงมี ? หรือไม่มี ?
@@channel-xt6gl ตรรกะโครตแปลก มันเป็นพิธีกรรมตามกันครับเพ่ แล้วพิธีกรรมทางศาสนามีมากี่ปีที่เก็บกระดูกคนตายอ่ะ ทวดเพ่คนไหนที่มีกระดูกก็คือคนนั้นแหละที่อยู่ในช่วงรับพิธีกรรม
ใกล้ความจริงเข้ามาทุกทีๆ ละครับ ตื่นเต้นๆ #บางทีพระอรหันต์ทั้งหลายอาจจะกำเนิดที่สุวรรณภูมินี่แหละ
ไปอ่านคอมเม้นผมจะเข้าใจ
เคยเล่นเกมอันนี้กันไหมครับ ที่ยืนต่อแถวกันสิบคนบ้างยีสิบคนบ้าง แล้วไปกระซิบบอกคำคนที่อยู่ท้ายสุด แล้วให้กระซิบบอกต่อๆกันมาเรื่อยๆจนมาถึงคนแรก แล้วให้คนแรกบอกว่าได้คำว่าอะไร คำนั้นก็ผิดเพี้ยนจากที่คนสุดท้ายได้รับ บอกเล่าเก้าสิบ
นั่นแหละ พระไตรปิฎกสังคยานามา แล้วหลายครั้งก็ย่อมผิดเพี้ยน ไม่งั้นศาสนาพุทธคงไม่แตกเป็น11นิกายจนทุกวันนี้ ยิ่งในไทยเองยังมีนิกายที่คัดลอกเอาแค่บางส่วนมาเผยแพร่แชร์คลิปกันจนหลงทาง
✅️✅️✅️เขาเรียกเกมส์ถ่ายทอดเสียง...ที่คุณอธิบายเปรียบเป็นเกมส์นี้ศัพท์ในทางวิชาการเราเรียกว่า"พลวัต" คือทุกสิ่งย่อมต้องมีพลวัตการปรับเปลี่ยน ปรับประยุกต์ เปลี่ยนแปลง ปรับปรุงให้เหมาะสมไปบ้าง ตามแต่ความนิยมในบริบทของสังคม กาลยุคนั้นๆ
ลองไปศึกษาการสังคยานาพระไตรปิฎกนะครับ ว่าโอกาสในการผิดเพี้ยนมันน้อยมาก ถึงจะมีก็ไม่ได้ผิดในใจความ การที่คุณยกตัวอย่างแบบนั้นมันเกิดจากการอนุมานลอยๆของคุณเอง ส่วนเรื่องนิกายต่างๆมันเริ่มเกิดตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้วครับ ไม่เกี่ยวกับพระไตรปิฎก
แต่ถ้าท่องพร้อมกันทุกวัน ... ย่อมเหมือนเดิมตลอดกาล ชั่วนิจนิรันดร์ นะจ๊ะ ❤❤❤
ยกตัวอย่างเช่น เพลงชาติไทย ( ปัจจุบัน ) ... ไม่ว่าใครก็ตาม ที่ได้ยิน และร้องเพลงพร้อมกันทุกวัน ก็ย่อมร้องเพลงชาติไทย ได้ตรงกันทุกคน ไม่ว่า ชาวบ้าน ชาวเมือง หรือ ชาวเขา .... แม้กระทั่งต่างด้าว คนต่างชาติ ก็ร้องเพลงชาติไทยตรงกันทั้งหมด
..... โปรดพิจารณา เทคนิค วิธีการ ดำเนินการ นะจ๊ะ
บอก9เล่า10 ครับ
สังคยนา(สวดร้องพร้อมกัน)กับเกมถ่ายทอดเสียงมันคนละเรื่องกัน
ไปศึกษาการสังคยนาดูก่อน โอกาสผิดเพี้ยนมีน้อยมาก ผิดแค่เสียงแต่ใจความสำคัญไม่มีเพี้ยน
พระพุทธเจ้าก็เตือนเรื่องนี้ไว้หลายครั้ง ยุคแรกๆเลยให้ท่องจำไม่ให้บันทึก เพราะโอกาสผิดเพี้ยนเรื่องเสียงมันเยอะกว่า
แต่จนถึงปัจจุบัน โอกาสผิดต่างกันก็แค่การออกเสียงของแต่ละประเทศ แต่ใจความสำคัญไม่เคยผิด
นักประวัติศาสตร์ก็ใช้หลักฐานที่เจอพร้อมกับสัณนิฐานเอา เพราะไม่มีใครเคยเห็นด้วยตัวเอง
หลักฐานที่พบสนับสนุนความคิดเห็นของนักวิชาการเมื่อพบหลักฐานใหม่ก็จะมีความคิดเห็นต่างจากเดิมหรือยืนยันความคิดเดิมให้มากขึ้น ต่างจากความคิดที่ไม่มีหลักฐานใดมาสนับสนุน
ประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับ 4 วงการณ์
1. นักประวัติศาสตร์ จะอาศัยตำราเอกสารโบราณ เอกสารโบราณที่ว่า มีทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ มีทั้งใหม่และเก่า แต่ในประเทศไทยใช้เอกสารที่พิมโดยกรมศิลปากรเป็นหลักในการอ้างอิงเพราะเป็นเอกสารที่มาจากราชการ
2. นักโบราณคดีจะใช้หลักฐานจากโบราณวัตถุเป็นตัวอ้างอิง จากรูปแบบ จากอายุของโบราณวัตถุ แหล่งค้นพบ เอามาจำแนก จัดหมวดหมู่ เพื่อหาความเชื่อมโยงเข้ากับตำราทางประวัติศาสตร์
3. นักมานุษยวิทยา จะอาศัยเรื่องเล่าตำนาน ประเพณีวัฒนธรรมความเชื่อศาสนา ภาษา รูปพรรณสัณฐาน เอาสิ่งเหล่านี้มาจำแนกแยกแยะจัดหมวดหมู่ หาความเชื่อมโยง เข้ากับประวัติศาสตร์และโบราณวัตถุ
4. ชีววิทยา มีการใช้ DNA ในการตรวจสอบหาความเชื่อมโยงละหว่างโครงกระดูกโบราณกับคนในปัจจุบัน ตอนนี้ในประเทศไทยมีที่เดียวที่รับผิดชอบคือ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ลองเข้าไปอ่านเพิ่มในเว็บไซต์ได้ ว่า DNA กระดูกโบราณ เหมือนคนไทหรือเขมร
แค่มีบันทึกสมัยสุโขทัยก็ดีแล้ว
มันก็ไม่มีใครเกิดทันซักคนอ่ะครับ แต่มีหลักฐาน แล้วสรุปจากหลักฐาน ก็ย่อมดีกว่านั่งจินตนาการเอาเอง
@@KimKo-it9hy _ _ และมีใครเคยเห็น ไม่ว่าจะความเชื่อทางไหนก็ให้ หลักฐาน อ้างอิง ทั้งหมด
เน้นจารึกหิน เกินไป ก็จะพลาดหลายๆอย่าง การตีความจากคนห่างหลักไม่กี่ร้อยปี กับ คนยุคห่าง2000 กว่าปี ก็ตีความไม่เหมือนกัน อย่างเช่นพระไตรปิฏก ในสมัยนั้นยังไม่มีการจารึกพระไตรปิฎกเป็นลายลักษณ์อักษร การเก็บบันทึกพระไตรปิฎกต้องอาศัยความจำเป็นเครื่องมือสำคัญ อาจารย์ท่องจำพระไตรปิฎกแล้วบอกปากเปล่าแก่ศิษย์ซึ่งจะต้องรับภาระท่องจำกันต่อๆ ไป และเมื่อท่องจำได้ก็มาสวดซักซ้อมพร้อมกัน ทำให้เกิดประเพณีสวดมนต์ การท่องจำและการบอกเล่าต่อๆ กันมาเช่นนี้ เรียกว่า การศึกษาระบบ มุขปาฐะ หมายถึง การเรียนโดยอาศัยคำบอกเล่าจากปากของอาจารย์
พระไตรปิฎกถูกเก็บรักษาและถ่ายทอดต่อๆ กันมาด้วยระบบการศึกษาแบบมุขปาฐะนี้จนกระทั่งได้รับการจารึกเป็นลายลักษณ์อักษรลงในใบลานในการสังคายนาครั้งที่ ๔ ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศลังกาใน พ.ศ. ๔๕๐ แล้วทำไมพระเจ้าอโศก เข้ามาเกี่ยวข้องใน คำภีร์ ศาสนาพุทธ ตำนานศาสนาพุทธ
ข้อมูลเกี่ยวกับพระเจ้าอโศกจำนวนมากมาจากตำนานศาสนาพุทธที่แสดงพระองค์เป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ในอุดมคติ เช่น ธรรมเนียมอินเดียเหนือ ตำรา ทิวยาวทาน เป็นหนึ่งในคัมภีร์พระพุทธศาสนาภาษาสันสกฤตประเภทอวทานในยุคเริ่มต้น ไม่ทราบผู้แต่ง คัมภีร์อาจเก่าถึงราวคริสต์ศตวรรษที่ 2 แต่เนื้อเรื่องมีเรื่องราวเก่ากว่านั้นรวบรวมเสร็จไม่น่าจะเกินคริสต์ศตวรรษที่ 4 มีบางส่วนน่าจะเรียบเรียงราว 200 ปีก่อนคริสตกาล เรียบเรียงเสร็จราวคริสต์ศตวรรษที่ 6 และอาจเป็นคัมภีร์พุทธศาสนาเล่มแรก ๆ ที่มีการบันทึกเกี่ยวกับพระเจ้าอโศก และ ธรรมเนียลังกาวงค์ ตำรา ทีปวงศ์ เป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของศรีลังกาเชื่อว่าน่าจะรวบรวมจากอรรถกถาและแหล่งข้อมูลอื่นราวศตวรรษที่ 3 ถึง 4 ก่อนคริสต์ศักราช ทั้งมหาวงศ์และทีปวงศ์ถือเป็นแหล่งข้อมูลการบันทึกประวัติศาสตร์ของศรีลังกาและอินเดียโบราณนอกจากมีความสำคัญในจากการเป็นแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์และตำนาน ยังเป็นงานวรรณกรรมสำคัญทางพุทธศาสนาและวรรณกรรมบาลีในยุคแรก ถึงแม้ไม่ได้อยู่ร่วมสมัยพระเจ้าอโศก เขียนห่างจากยุคพระเจ้าอโศกหลายร้อยปีแต่ก็ยังรู้จัก เขียนเป็นเรื่องราว (ราวกับสามก๊ก ) เรื่องจริงที่เขียนอาจเพิ่มเติมเเต่ง แต่ในอินเดียการมีตัวตนของพระเจ้าอโศกในฐานะจักรพรรดิในประวัติศาสตร์เกือบถูกลืมไปแล้ว แต่นับตั้งแต่การถอดความ จารึก ที่เขียนด้วยอักษรพราหมีใน พุทธศตวรรษ ที่ 21 พระเจ้าอโศกถึงได้รับการยกย่องในฐานะหนึ่งในจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพระองค์หนึ่งของประวัติศาสตร์อินเดีย
ถ้าเหมือนเล่น พูดคำต่อๆกัน คนแรกกะคนสุดท้ายอาจต่างกัน
แต่ถ้า สอนว่า พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันออก และตก ทางตะวันตก..........สอนอิงธรรมชาติเน้นเข้าใจแบบตัวต่อตัว ครู-ศิษย์............ผมว่าก็ยากนะที่จะเพี้ยน
ยกเว้น การเมืองมาแทรกแซง แบบที่ พราหมณ์พยายามแทรกพุทธ
การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ ถ้าไม่มีหลักฐานที่จับต้องได้ ก็จะถือว่าเป็นเพียง "ความคิดเห็น" ครับ ดังนั้นเขาจึงต้องเอาจากจารึก (ซึ่งเป็นหลักฐานที่จับต้องได้ ทุกคนเห็นว่ามีอยู่จริง) เป็นหลักก่อน ส่วนที่เหลือ เป็นเพียงการ "อนุมาน" ซื่งจะถือว่าเป็น "ความคิดเห็น" ครับ
ถ้าเถรวาทก็มาจากลังกาสมัยสุโขทัยเก่ากว่านั้นไม่มีหลักฐานไม่ใข้ประเด็น
@@nokaton สมมติเราอ้างวิทยาศาสตร์ ถามหาหลักฐาน กระบวนการวิทยาศาสตร์ คือการ ตั้งสมมติฐาน และตรวจสอบมัน ผ่านการทดลองซ้ำๆ การที่ตั้งสมมติฐานว่า มีการส่งพระไปตามที่ต่างๆเผยแผ่ธรรมจริงหรือไม่ เราก็ต้องดูว่าแหล่งที่อ้าง มันมีศาสนาที่เผยแผ่ จริงหรือไม่ อย่างไร? ซึ่งก็พบว่า ไทยเรานับถือพุทธมาตั้งแต่สุโขทัย และศาสนาพุทธก็แพร่ ในเขตพื้นที่ ลาว เวียดนาม กัมพูชา ครอบคลุมจีน..........เหล่านี้คือ "หลักฐาน" ที่ยืนยัน สมมติฐาน ในแง่การมองแบบวิทยาศาสตร์ ที่อ้างแล้วไงครับ
@@hopzahoodeenee230 หลักฐานทางวิทยาศาสตร์มีหลักฐานหลายระดับครับ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ หลักฐานเชิงประจักษ์ (empirical evidence) ซึ่งจะมีน้ำหนักมากที่สุด เช่น ถ้าเป็นทางฟิสิก์ empirical evidence ของ อะตอม ก็คือการค้นพบอะตอมเป็นก้อน ๆ ว่ามีจริง ดังนั้นอย่างกรณีนี้ คำถามก็จะต้องแคบมากด้วยเช่น พระเจ้าอโศกได้ส่งพระโสณะมาที่สุวรรณภูมิจริงหรือไม่ ก็ต้องเริ่มพิสูจน์ก่อนว่า พระเจ้าอโศกมีคัวตนจริงหรือไม่ (พบหลุมศพ โครงกระดูก ซากวัง จารึก เหรียญกษาปณ์ ฯลฯ ที่เป็นเครื่องยืนยันได้ไหม) จานั้นก็ต้องหาว่า มีหลักฐานคำสั่งส่งทูต มีการส่งทูตจริงไหม แล้วต่อมาคือ พระโสณะมีตัวตนจริงหรือไม่ (พบหลุมศพ โครงกระดูก จารึก นิวาสถาน ฯลฯ หรือไม่) การทดลองไม่ได้เป็นสาระสำคัญครับ สาระสำคัญของกระบวนการวิทยาศาสตร์คือการตั้งคำถาม (ให้ถูกต้อง) แล้วหาหลักฐานมาให้ได้ครับ การหาหลักฐานสามารถทำได้หลายวิธี เช่น ทำสำรวจ ทำสำมะโน ขุดค้น (ลองนึกถึงพวกนิติวิทยาศาสตร์ดูนะครับ) ส่วน "ทดลอง" เป็นแค่หนึ่งในหลายวิธีของกระบวนการหาหลักฐาน
มีแต่คนเก่งๆๆทั่งนัันน่อ..เอาแต่ทิฎฐิตัวเองเป็นที่ตั้ง😊
ในจารึกอโศกฯ เรื่องเผยแผ่พุทธศาสนาไปในดินแดนต่างๆ อยู่ในจารึกศิลา ฉบับที่ 13 ส่วนเรื่องสังคายนาและจัดการนักบวชนอกศาสนาก็มีหลักฐานชัดเจนในจารึกเสาอโศกฯ ที่สารนาถและอีกหลายที่
ศาสนาพุทธได้เข้ามาถึง สุวรรณภูมิตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้วโดยพ่อค้าจากเมืองพริบพลีที่ไปค้าขายถึง มคธและได้บวชกับพระพุทธมีนามว่าพระปุณณะจากนั้นได้ทูลลากลับบ้านและพระพุทธเจ้าได้ให้โอวาสตามกล่าวไว้ในพระไตรปิฎก
ดูทุกคลิป วีดีโอ ช่องนี้ ดีที่สุด คุณ อดิศักดิ์ ศรีสม ยังเก่งเหมือนเดิม นะครับ
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา (ตถาคต) คือเข้าใจแจ่มแจ้งด้วยใจของตนเอง ว่าสิ่งทั้งปวงไม่มีความยั่งยืน สักวันต้องดับสูญ ไม่มีใครสามารถบังคับได้ เมื่อเข้าใจชัดเจนอย่างนี้แล้ว จิตก็จะคลายความยึดถือ รู้ว่าตนควรจะปฏิบัติต่อสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับตนอย่างไร เท่ากับได้เห็นพระพุทธเจ้า เพราะทรงสั่งสอนเหล่าพุทธบริษัทเช่นนี้เป็นส่วนใหญ่ นี่สำคัญกว่าประวัติความเป็นมาของพระเจ้าอโศก
สาธุค่ะ🙏🙏
ไม่อะ คุณจะเอาสิ่งเหล่านี้ มาลบเลือนการศึกษาประวัติศาสตร์เพื่อสืบเสาะไม่ได้
การจะวิเคราะห์เรื่องศาสนาต้องเคยบวชมีความรู้ ไม่ใช่อ่านเองคิดเอง เพราะจะได้ความรู้แค่มุมเดียว
หรือไปถามพระที่ท่านศึกษาจนแตกฉานอ่านหลายตำรา
จารึกพระเจ้าอโศก ไม่ได้พูดถึงทุกเหตุการณ์ ไม่ใช่ไดอารี่ แต่เป็นคำสั่งสอนทั่วไป และเสาอโศกปักอยู่ตามสังเวชนียสถาน
จะมาพูดเรื่องพระโสณะอุตตระทำไม
ถ้าไม่ชำนาญก็อย่าฟันธง อายคนพม่าที่เข้าศึกษาเข้าใจและพยายามแย่งสุวรรณภูมิกับพระโสณะอุตตระไป เพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่ทางพุทธศาสนาในละแวกนี้และบ่งบอกว่ามาก่อน
ชื่อสนามบิน ถ้าไม่มีบันทึกเรื่องพระโสณะอุตตระสุวรรณภูมิ ท่านคงไม่ตั้งชื่อแบบนั้น จนเขมรยังอิจฉาอยากได้บ้าง
ส่วนคนบอกเถรวาทเพิ่มเติมเนื้อหา
คือเถรวาทรักษาของเดิมมากสุดแล้ว ที่แต่งเติมคือมหายาน
บันทึกเรื่องพระโสณะอุตตระอยู่ในหนังสือศาสนวงศ์และหนังสือสมันตปาสาทิกา หนังสือเรียนพระเณรเปรียญธรรม 7-8 ประโยค
เห็นไหมว่าคนธรรมดาไม่เคยบวช จะเข้าไม่ถึงตำราความรู้
ไปหาอ่านประวัติพุทธศาสนามาสู่สยามของหลวงพ่อประยุทธ วัดญาณเวศกวัน ท่านจะแจกแจงให้ฟังว่าอะไรยังไง
ไปหาอ่านในจารึกพระเจ้าอโศกไม่มีหรอก เพราะไม่ใช่จารึกอวดผลงานตัวเอง แต่เป็นจารึกบอกเล่าเก้าสิบสั่งสอนประชาชน
ต้องอาศัยบันทึกคนอื่น
สรุป ไปหาสิ่งต้องการในที่ไม่มี
หายังไงก็ไม่เจอ😊
อีกอย่างนึง สมัยพระเจ้าอโศก ส่งสมณทูตออกไปเผยแผ่พุทธศาสนาถึง 9 สาย
ถ้าปฏิเสธว่าไม่มีพระโสณะพระอุตตระ
แล้วสายศรีลังกาเป็นลูกชายลูกสาวท่าน
คือพระมหินทเถระและพระสังฆมิตตาเถรี
จะตอบว่ายังไง หรือไม่มีเหมือนกันเพราะในจารึกพระเจ้าอโศกไม่มี😊แล้วใครนำพุทธศาสนามาเผย่แผ่ในศรีลังกา ?
มีแต่เขาพยายามรักษาสายมาเผยแผ่พุทธศาสนาด้วยความภูมิใจ
พยายามแย่งสุวรรณภูมิ แต่บางคนจะทิ้ง พยายามทำให้คนสับสนด้วยรู้ไม่ลึกซึ้ง😊
คงเหมือนดอกบัวที่มีเพียง3เหล่า คือบัวในน้ำ บัวปิ่มน้ำ บัวพ้นน้ำ แต่พอปี2525หัวข้อในพระไตรปิฏกฉบับถาษาไทยบอกว่ามีบัว4เหล่า ทั้งๆที่คำบรรยายก็มีเพียงบัวใต้น้ำ บัวปิ่มน้ำ และบัวพ้นน้ำเหมือนเดิม เลยต้องหามาเติมคือบัวใต้โคลนตม อันนี้เลยไม่ตรงตามเนื้อหาเหมือนเดิม ลักษณะนี้ก็คงคล้ายๆกัน ทั้งๆที่ไม่จำเป็นว่าการออกมาเผยแผ่ธรรมะต้องมีถึง9สาย แค่เผยแผ่มาถึงสุวรรณภูมิก็เป็นอันสมประโยชน์แล้ว
เพราะอะไรทำไมถึง9สาย 10 สาย 20 สายไม่ได้หรอ 9 สายนี่จากไหนไปไหน ใครรู้บอกหน่อย พอรู้อยู่สายเดียวคือ เส้นทางสายไหม
@@คนลุง-ฏ3ศเส้นทางก็มีหลายสาย ไม่มีแต่เส้นทางสายใหม่ เส้นทางสายเพชรเกษมก็มี พหลโยธินก็มี
อย่าเป็นบัวเต่าถุยก็พอ55
@@คนลุง-ฏ3ศพวกไม่รู้ ถามโง่ๆ เขาหมายถึงแดน😂😂
@@เสาวลักษณ์นัฐวุฒิอาจมรสายใต้หมอชิต😊😊
ขอบพระคุณเรื่องเล่า
ถ้าไม่มีคนมาเผยแผ่ แล้วเราจะรู้จักพุทธศาสนาได้อย่างไร ต้องมีที่มา มันถึงมีที่ไป ถ้าไม่มีเหตุ หรือจะมีปัจจัย ที่เห็นกันอยู่ณปัจจุบัน
สวัสดีครับอาจารย์ ขอบคุณครับผม.👍👍👍☘️🍃🍃🍃🍃🍃😊😊⭐⭐⭐⭐⭐
ใครจะส่งหรือไม่ส่ง ไม่มีปัญหา.. ปัจจุบันไทยนับถือศาสนาพุทธอยู่แล้ว ศึกษาปฏิบัติให้ดีก็พอ อย่าไปหลงอดีตให้มากนัก
การที่จะหาที่มาที่ไปของศาสนา ล้วนอยู่ที่ความเชื่อแต่ละบุคคล เพราะทุกอย่างล้วนเป็นประวัติศาสตร์ ที่มีทั้งจริงและไม่จริง .... แต่การเข้ามาของศาสนา เข้ามาเพื่อเปิดทาง ให้ด้านการค้าและการเมืองการปกครอง ถ้าผู้นำอยู่ในความเชื่อด้านศาสนาแล้วก็จะเป็นประโยชน์..
-ในเรื่องพระไตรปิฎก การถกเถียงเรื่องเนื่อหาคำสอน ถ้าเราศึกษาดีๆแล้ว ทุกคำสอนล้วนถูกเขียนขึ้นจากกลุ่มที่มีอำนาจ ... พระไตรปิฎกล้วนแต่เป็น วรรณกรรม ที่เขียนขึ้นตามบริบทของการเมืองนั้นๆ ให้สอดคล้องกัน
"ผู้อันเป็นที่รักของทวยเทพ" ถ้าเชื่อว่าพุทธคือศาสนาอเทวนิยมคงไม่ต้องตรึกตรองว่านับถืออะไรให้ยาก ทำไมพระไตรปิฎกไม่เกิดในสมัยพระพุทธเจ้ายังอยู่ทั้งที่เชื่อว่าเป็นสัพพัญญู ไม่มีจารึกธรรมเลยจนผิดสังเกตจนอาจเป็นข้อห้ามด้วยซ้ำ ตรึงไว้ด้วยกาลามสูตรข้อสี่ - มา ปิฏกสมฺปทาเนน - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีในตำรา ยิ่งตำราเกิดหลังพันปีดูเอาเถิดใครจะรู้ว่าสนทนากันไว้อย่างไร ถอดมาเป็นพุทธวจนได้เฉย ทั้งที่สังคายนาก็แปลว่าสวดพร้อมกัน
ขอบพระคุณมากครับ 🙂🙏
เมื่อแรกก็มั่นในตำราต่างๆ
ต่อมาก็มาห่างจากของจริง โอ้ประวัติศาสตร์จริง+เท็จ
ขอบคุณทีมงานมากๆครับ
ขอบคุณที่จัดทำคลิปEP.นี้นะคร้าบ😇😇😇😇😇😇😇
อย่าพึงวิวาทะกันเลย ใดๆ มันก็เป็นเพียงสมมุติฐาน มันยังอนุมานไม่ได้ ฟังหูไว้หู นะท่านผู้เจริญ
Ep.นี้มาแล้วดีเลย ต่อไปทำเรื่อง พระไตรปิฎกมีในเสาอโศกหรือไม่
สาเหตุ เป็นตวามปราถนาดีแท้ๆ ผลกระทบจึงเกิดเป็นการแสดงใฟ้เห็นในปัจจุบันหากไม่แก่ตอนนี้อนาคตห็จะหายไป
พระสมณฑูตที่พระโมคคัลลีปุตตติสสะมหาเถระ และพระเจ้าอโศก (พุทธ) ส่งไปยังดินแดนสุวรรณภูมิ ( คูบัว ราชบุรี เพชรบุรี นครปฐม กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ) ประกอบด้วยภิกษุ 5 รูป คือ พระโสณะ พระฌานียะ พระภูริยะ พระอุตตระ และพระมูนียะ ซึ่งสามารถสวดปาฏิโมกข์ได้ พร้อมบริวารเป็นอุบาสก อุบาสิกา รวม 38 คน ที่ต้องมีพระอย่างน้อย 5 รูป เพราะตามธรรมวินัย การจะบวชให้กุลบุตรได้ ต้องมีพระภิกษุ 5 รุปขึ้นไป ถึงบวชให้นาคได้ กษัตริย์ที่ครองเมืองสุวรรณภูมิสมัยนั้นคือ พระเจ้าตวันอธิราช
หลักฐานระดับ ?
มีแต่นิทานมี่แต่งหลังเหตุการณ์นั้นนับพันปี ที่ระบุเรื่องนี้ แต่บนเสาอโศกไม่มีพูดถึง
@@ramesesptolemy4865มันเป็นความเชื่อ ของเค้า ที่เล่าต่อๆๆกันมา แบบไม่รู้เรื่อง ก็เลยเข้าใจว่าเป็นจริงดูขลังคนต้นเรื่อง ไม่รู้ ตายเกิดไปกี่รอบแล้ว คนต่อๆมาก็เชื่อ ไปตามนั้น ยากจะแก้ไข พอมีคนแย้ง ก็จะไม่พอใจ โกรธ หาว่าทำลาย ศาสนา ปล่อยไปเหอะ ช่างมัน
เรื่องกระเบื้องคูบัวก็เชื่อไม่ได้ จึงต้องห้ามมาตลอด
ติดตามครับ ขอวคุณครับ🙂🙂🙂🙂🙂🙂
คิดถึงรายการนี้มาก❤❤❤
เห็นด้วยครับ เรื่องประวัติศาสตร์ ต้องใช้หลักฐาน มายืนยัน มีน้ำหนัก กว่าคำพูดเยอะ แต่งขึ้นเองในลังกา พศ1000 ในหลักฐานมาจากไหนครับ
ขอบคุณทีมงานมากครับที่นำเรื่องราวของพุทธศาสนามานำเสนอทำให้ได้รับข้อมูลใหม่ๆน่าสนใจมากครับ❤
พระตถาคตตรัสสอนไว้ ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟังอะไรมา อย่าคิดว่าสิ่งนี้เท่านั้นจริงสิ่งอื่นเปล่า อดีตผ่านไปแล้วอนาคตยังมาไม่ถึงให้อยู่กับปัจจุบันทำกุศล
ให้เกิดอย่าประมาทชีวิตนั้นแสนสั้นแค่ลมหายใจเข้าลมหายใจออก กุศลที่แท้จริงคือ สติปัฏฐาน4
คนในปัจจุบันเที่ยวไปคาดเดาเรื่องราวในอดีตถูกบ้างผิดบ้าง อย่าเหมารวมว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริง ทุกสิ่งล้วนแต่ไม่แน่นอน
ทันเหตุการณ์จริงๆ ช่วงนี้ข่าวเหรียญพระเจ้าอโศกกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่พอดี
เหรียญพวกนี้ ก็อปปี้ได้ไหม ?
โดยใช้เทคโนโลยีปัจจุบัน
ใดๆแล้วการมีศาสนาก็คือทำให้เป็นคนดีความดีทำให้คนมีความสุข อย่างอื่นตามที่เห็นมาล้วนนำความเชื่อแปรเปลี่ยนเป็นงมงาย
เขาต้องเอามาตรวจค่าความเก่า ถ้าทำใหม่จะรู้ง่าย
คำถาม คือ .... ถ้าเอามวลสารเก่า มาทำ จะตรวจอย่างไร ? ว่าเป็นของจริง ของก็อปปี้
.... เพราะ ตรวจอายุมวลสาร ก็จะได้อายุเก่าแน่นอนอยู่แล้ว
... มันต้องมีองค์ประกอบอื่น มาตรวจร่วมด้วย เช่น ตัวอักษร หรือ ลวดลายสถาปัตยกรรม
@@High_Tab มวลสารเก่าที่ปนเปื้อนด้วย สารDNA หรือ สารที่ไม่ใช่ เขารู้ค่าของเก่า มิใช่มวลสารที่ไม่ถึง 2000ปี คนที่จะทำให้ได้ 2000ปี อัพๆ คงเป็นระดับเทพ
ชอบมากครับ
❤❤❤ ถ้าพระธรรมวินัยจักเป็นศาสดาแทนตถาคตยังอยู่หัวใจพุทธอยู่❤❤❤
ศาสนาเข้ามาไทยตั้งแต่พศ.5แล้ว❤❤❤
ตามบันทึกราชทูตกรีกประจำสำนักโมริยะ พระเจ้าอโศกมีลูกคนเดียวคือเจ้าชายตาบอดชื่อกุณาละ ไม่มีลูกผู้หญิงเหมือนตามบันทึกของพระไตรปิฏก ส่วนเรื่องจารึกของพระเจ้าอโศกที่จารึกบนเสาและบนหินมีแต่การกล่าวถึงการทำบุญถวายถ้ำให้นักบวชเชน ไม่มีการจารึกว่าสร้างเจดีย์84000แห่ง การสังคายนาครั้งที่3 การส่งสมณทูต9สาย เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ควรจารึกอย่างยิ่ง แล้วหันกลับมาดูจดหมายเหตุจากราชทูตกรีก ก้อไม่ได้บันทึกเรื่องเหล่านี้รวมทั้งการกล่าวถึงของนักบวชในศาสนาพุทธที่โกนหัวโล้นแล้วนุ่งห่มด้วยผ้าสีเหลืองส้มหรือน้ำตาล
พระโสณะ และพระอุตระ เท่าที่เคยเรียนมา มาเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ดินแดนสุวรรณภูมิ แถบอินโดจีน หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครับ
สวัสดีรายการค่ะ
แต่ที่พบมีคนไปท้าส่ามเณรว่าเเฝไหนเสวยทุกข์ทันทีก่อน และมโนกรรมเป็นรูปเสวยทุกข์ต่อหน้าพระเจ้าอโศกแต่แปบเดียวมีคนเดินมาจากไหนไม่รู้ส่าเสวยทุกข์ต่อหน้าพระเจ้าอโศกของจริงและมาหลายคนและมีเมืองหนึ่งหรือประเทศใดไม่รู้มืดมิด และมีหลายเรื่องด้วย มีพระมาขออภัยได้ยินว่าไม่ได้โกรธแต่ก็ได้ยินว่าไม่มีอภัยเพราะว่าไม่มีความโกรธ และเคยเห็นเคยได้ยินมีน้ามาขอตัดไข่หรือทวารเบา อย่างนี้ก็ยอมรับว่าเป็นความจริง
จากที่ผมเคยศึกษาเรื่องการเผยแพร่ศาสนา พระเจ้าอโศกท่านเสียหลังพระพุทธเจ้า253ปี ท่านส่งคนมาเผยแพร่จริงแต่ท่านส่งมาอีกเมืองนึง เลยบอกว่าไม่ได้มาสุวรรณภูมิก็ถูกแล้วครับ ผมจำที่ไม่ได้แล้วแต่แถวๆภาคเหนือปัจุบันนี่แหละ มีเจ้าเมืองทางเหนือตอนนั้นคอยตอนรับอย่างสวยงามเพราะมีหลักฐานจากพระเสวียนจั๊ง หรือพระถังซัมจั๊ง ที่นักวิชาการไม่เจอคือบันทึกอักษรใส่กระดาษ ไม่ใช่หิน คนเผยแพร่เขาคงไม่แบกหินมาปรักหรอกครับ (ถ้าพูดถึงกระดาษตอนนั้นจีนทำขายครับถ้าเล่ายาวแน่) สรุป คือ ที่เราไม่เคยพบเจออย่าด่วนสรุปว่ามันไม่มีนะครับ
ส่วนตัวผมเชื่อว่าส่งทูตมากว่า9สายด้วยซ้ำครับ
พระสมัยราชวงศ์ฮั้นใกล้เคียงยุคพระเจ้าอโศกมีหลักฐานว่าพุทธศาสนาเริ่มเข้าไปแล้ว
หลังผ่านไปหลาย100ปีพระเจ้าฮั้นหมิงอยากรู้เรื่องพุทธแบบสมบูรณ์จึงส่งทูตไปอินเดียแล้วได้พระสงฆ์กับมาจีน2รูป
ส่วนดินแดนสุวรรณภูมิผมเชื่อว่าเป็นแถวพม่ามากกว่า
เพราะเคยฟัง ดร.มโน เลาหวานิช
แกบอกว่า พระไตรปิฎกพม่าเหมือนกับพุทธในอินเดียมากกว่าไทย
ส่วนพระไตรปิฎกไทยเหมือนกับศรีลังกามากกว่า
หลักฐานอะไรที่เกี่ยวกับการส่งทูตมาเผยแพร่ในสุวรรณภูมิของพระเจ้าอโศก หลักฐานร่วมสมัยไม่มีเลย หายังไงก็หาไม่เจอ มีแต่หลักฐานหลังสมัยไปเกือบพันปี เชื่อได้ยังไง ทั้งที่มันไม่ชัดเจน แต่ดันไปเชื่อ ขัดกับหลักพุทธชัดๆ
👏👏👏👏
คลิปนี้ ทำให้นึกถึง นักประวัติศาสตร์ท่านหนึ่ง แกบอกว่าเรื่องตำนานรักระหว่าง มะเมียะ - กับจ้าวศุขเกษม นั้นไม่มีจริง เป็นแค่เรื่องแต่ง. เหตุผลสรุปของแกก็คือ เพราะแกได้เดินทางไปสืบหา ในถิ่นบ้านเดิมของมะเมียะแล้ว สอบถามคนแถวนั้นหลายรุ่น ก็ไม่มีใครรู้จักเรื่องนี้เลย. เออ..สรุปง่ายดีจัง. // แต่แกน่าจะคิดให้ลึกไปอีกหน่อยว่า ตอนนั้น จ้าวศุขเกษม ยังเป็นหนุ่มวัยรุ่นอยู่เลย. แล้วเดินทางไปศึกษาในแดนถิ่น ที่จ้าวทางเมืองไทยไม่อยากให้ไป. แล้วแถมยังแอบไปคบหาสาวมะเมียะ ชอบพอกันอีก ซึ่งเป็นกฎข้อห้ามทั้งนั้น. จึงขอถามว่า...แล้วถ้าเป็นตัวเรา. เราจะคบกับมะเมียะอย่างเปิดเผย ให้ชาวบ้านร้านตลาดรู้กันไปทั่วเลย หรือว่าเราจะปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอดดี ?? คำตอบก็ไม่ยากอยู่แล้ว. แต่นัก ปวศ.ท่านนั้น แกไม่คิดแฮะ แกสรุปง่ายๆ ว่า ไม่รู้ไปสืบมาแล้ว ไม่มีใครรู้จักมะเมี๊ยะกับจ้าวศุขเกษม ก็จบแค่นั้น. // แต่ตามที่รู้ก็คือ เรื่องนี้เป็นเรื่องบอกต่อกันมาทางปาก โดยจ้าวหญิงในวังของเชียงใหม่ท่านหนึ่ง (จำชื่อไม่ได้) ซึ่งแน่นอนว่า ไม่มีใครอยากให้เรื่องเศร้าแบบนี้เกิดขึ้น ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง. เขาจึงปล่อยให้เรื่องนี้เป็นความลับ และเลือนหายไปโดยไม่มีการบันทึกในหนังสือพงศาวดารใดๆ . แล้วคนชาวบ้านร้านตลาดที่พม่า บ้านเดิมของมะเมี๊ยะ เขาจะไปรู้เรื่องนี้ได้ยังไง... เนาะ !!
ตัวอักษรที่จารึก ลงแผ่นหิน เป็นอักษรเมื่อ 2,000 ปี ซึ่งเลิกใช้แล้วใน ยุคปัจจุบัน และเสาอโศก ที่ยังหลงเหลืออยู่ที่สมบูรณ์อยู่หลายต้น ...พอจะเชื่ออยู่ได้ถึงแม้จะไม่ร้อยเปอร์เซนต์..
จัดเป็นประวัติศาสตร์เชิงตำนาน ..จริง💯%เท็จ💯%ประโยชน์จะมีแก่มหาชนก็หาไม่ นั่นมันมิใช่ข้อสำคัญใดใด..เสียเวลาเปล่า.!!!
ทางสายญาณบอก ขอมคืออารยัน ถ้าเป็นงั้นจิงก็พอเข้าใจได้
อารยัน ผิวขาว ที่ปกครองอินเดีย เป็นไปได้ที่ชนชั้นสูงอารยัน จะมีเป็นเจ้าแถบบ้านเราด้วย
วัฒนธรรมส่งต่อมา จากสายชนชั้นสูงอารยัน
รักรายการนี้จัง ❤
❤❤
เป้าประสงค์ ของพุทธศาสนิกชน ที่เกาะลังกา ได้จารเป็นคัมภีร์นั้น เพื่อให้พุทธศาสนา ได้เผยแผ่ดำรงตั้งมั่นและอนุเคราะห์แก่ชาวโลก ได้พบสัจจะธรรมอันตถาคตตรัสไว้ดีแล้ว ให้เราได้ศึกษาและสัมมาปฏิบัติ ตามปณิธาณพระศาสดา คือสงเคราะห์ให้ชาวโลกได้ ใช้ในชีวิต คือ เห็นทุกข์ ลดทุกข์ เข้าใจทุกข์ ลดทุกข์ ละทุกข์ เลิกทุกข์ ถ้าอริยะสงฆ์ในลังกา ไม่ทำอะไรเลยคือ พุทะศาสนาเราหายแน่ เพราะ อินเดียตอนนั้น ผู้ปกครองอันเชื่อสิ่งอื่น ล้างผลาญ ทำลายจนไม่เหลือแล้วครับ โยมทั้งหลาย ? แต่พุทธศาสนาเรายืดยุุ่นเข้ากับพื้นที่ในชุมชนพื้นเมืองดั่งเดิม ให้อยุ้่ร่วมกันได้ อย่ามามัวแต่หาว่า เรื่องจริง เรือ่งแต่งเลย เพราะพระอริยะสงฆ์ในลังกา ท่านเล็งเห็นประโยชน์ อันมีแต่เราทั้งหลายนับไม่ได้ครับ พิจารณาโดยวิญญูชน ถ้าตอนนั้นท่านไม่ทำอะไรเลย เราคงไม่มีพระพุทะศาสนาในถิ่นแผ่นดินนี้ที่เราเกิด สาธุ อนุโมทนา ของให้ญาติโยม มีสุขภาพกำลังใจกำลังกาย สมบูรณ์ตามอัตภาพของท่านเถิด อายุ วรรณะ สุขะ พละ เจริญพร หลวงพี่ นกขมิ้น
ขอบคุณทีมงานนะคะ
สิ่งไม่เห็น สิ่งที่ไม่มีในบันทึก ไม่ใช่มันไม่มี
ตามประวัติศาสตร์ตะวันตก
พระนามเต็มของจักรพรรดิอโศกคือ
เทวนามปรียาอโศก
(พระเจ้าปรียาทรชีผู้เป็นที่รักของเหล่าทวยเทพ)
รัชสมัยของพระองค์อยู่ระหว่าง 269 ปีก่อนคริสตกาลถึง 232 ปีก่อนคริสตกาล
หรือ
2,294 ปีก่อน
ถึง 2,257 ปีก่อน
ประวัติศาสตร์ฟังหูไว้หูดูให้บันเทิงพอเป็นแนว...แม้เรื่องเมื่อวาน2คนยังพูด2อย่าง😅😅😅😅😅
เป็นที่น่า เสียดายว่าพระคัมภีร์สมันตะปาสถายิกานั้น เป็นพระคัมภีร์กอยู่ในชั้นเปรียญธรรม6 ประโยค ซึ่งผู้ต้องมีสติปัญญาและมีความเก่งพอสมควรที่จะเรียนถึงในชั้นนี้ได้ หากภาษาบาลีหรือภาษามคธเหล่านั่น ไม่ได้ถูกแปลเป็นภาษาไทย เชื่อเถอะ99.99% ไม่มีใครสามารถรับรู้เพราะบาลีที่ได้รับการแปลจาก มคธ เป็นไทย ทั้งอรรถและพยัชนะ ยังยาก คุณพ่อดิฉันอดีต มหาเปรียญธรรญ3ประโยคท่านยังเรียนไม่ถึงชั้นนี้เลยเจ้าค่ะ
เปรียญธรรม 3 ประโยค คือเด็กๆนะ แค่มูลฐาน
ชอบดูมากเลยครับ
เรื่องของเรื่องก็คือนักวิชาการ ไม่ยอมรับกอกระเบื่องจารย์😂😂😂😂😂
นี่ก็งง เหมือนกัน ทำไมไม่มีใครเอามาพูดเลย
@@Prapatpong-f9kนักวิชาการ บางที่ก็ตัวบิดเบือนประวัติศาสตร์
มันเป็นของทำขึ้นใหม่ครับ พระอ่ำมันแต่งนิยายหลอกคนให้เชื่อ ให้นับถือมันครับ พระมักมากในยศลาภอย่าไปให้ค่าครับ
พระเจ้าอโสกในชมพูทวีปนับถือสาสนาพุทธ
พระเจ้าอโศกในอินเดียนับถือเชน คนละองค์กัน
หรือแค่ เปลี่ยนมานับถือ หรือ นับถือคู่ ก็เป็นได้นิ ไม่จำเป็นต้องแค่ 1เดียว
อิสลามสมัยนี้ยังมีนับถือศาสนาอื่นเลย หรือบางคนนับถือ5ศาสนาก็มี คือ ถ้าดีก็นับถือ
ชมพูทวีปกับอินเดียต่างกันยังไงครับ
@@AKN639 ชัมพูทวีปคือโลก
ก็ถ้าไม่มีลูกปัดเหล่านั้นในอินเดีย แต่มีในแถบบ้านเรา งั้นเราก็คิดอีกมุมหนึ่งว่า สิ่งเหล่านี้มีอยู่ในบ้านเราอยู่แล้ว และพุทธศาสนา อาจเกิดขึ้นในบ้านเราเอง ได้มั้ยครับ
ดีมากครับ
สวัสดีครับ ติดตามครับ
😆 ชอบคอมเม้นท์ ในนี้หลายคนที่แสดงความคิดเห็นได้อย่าง.... สนุกสนาน
เหนืออื่นใด ต้องชม ทีมงานที่ นำเสนอข้อมูลที่เป็นอีกด้านของชุดข้อมูลเดิมให้มาถกกัน
เป็นกำลังใจให้ทีมงานผลิตงานดีๆแบบนี้ต่อไปครับ
ผมสงสัยไอ้ชื่อเมืองโบราณที่กล่าวมามันอยู่ในอินเดียจริงหรือเปล่าหรือจริงๆแล้วชมพูทวีปมันกว้างกว่านั้น เช่นโจละในบันทึกจีนก็มีคำว่าเจนละซึ่งเจนละในบันทึกจีนมันคือภาคอิสานกับสปปลาว ส่วนลังกาทวีปมันไม่น่าจะใช่ศรีลังกาแต่มันควรจะเป็นดินแดนที่อยู่ภายใต้การปกครองของเมืองที่ชื่อว่าลังกาซึ่งเมืองลังกาสุกะก็อยู่ภาคใต้ของไทยที่เราเรียกว่าสุวรรณภูมิ ลังกาสุกะปกครองชาวมาลายูทุกหมู่เกาะนั่นควรจะเรียกว่าลังกาทวีปมากกว่าที่จะเป็นศรีลังกา
มาดูประวัติศาสตร์บ้านเรากลิงคะมาปกครองภาคใต้สร้างเมืองลังกาสุกะเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลก่อนขยายอำนาจขึ้นมาปกครองมอญกับลั๊วะดังนั้นกลิงคะต้องมีอำนาจกินพื้นที่มาก ถ้าพระเจ้าอโศกจะตีกลิงคะจึงต้องมีกำลังพลและแนวร่วมทัดเทียมกันดังนั้นพุกามกับสยามไปจนถึงน่านจ้าวคือสิ่งที่พระเจ้าอโศกต้องเอามาเป็นแนวร่วมในการเอาชนะกลิงคะ
หลักฐานมีเยอะแยะ ที่คุณพิมพ์มา ต้องการจะสื่ออะไรล่ะ พูดมาให้ชัดเจนเลยครับ
@alexjoessss8853 การขีดเส้นแบ่งประเทศพึ่งมีสมัยตะวันตกเข้ามาล่าอาณานิคมและตำราวิชาการพึ่งถูกเขียนมาไม่ถึงสองร้อยปีซึ่งเราไม่รู้เลยว่าคนที่เริ่มศึกษาเอาไว้วางกรอบการศึกษายังไงและถ้าคนแรกผิดคนที่สองที่ศึกษาต่อก็จะผิดตามไปด้วย ที่ผมพูดคือความสมเหตุสมผล ในเมื่อกลิงคะครองอำนาจการค้าทางทะเลจนรวยกว่ามคธและสามารถขยายอำนาจมาปกครองมอญกับลั๊วะได้นั่นหมายถึงกำลังรบของกลิงคะมีมากกว่ามคธแน่นอน
เอาหลักการง่ายๆคือศาสนา ภาษา วัฒนะธรรมจะมากับผู้ปกครองการที่สยามทำไมลงไปตั้งเมืองที่มีชื่อว่าศรีธรรมโศก(ศรี+ธรรม+อโศก+ราชา)ปกครองอำนาจแทนลังกาสุกะ นั่นหมายถึงพระเจ้าอโศกต้องมีอำนาจเหนือสยาม ในแนวทางเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบขนาดพื้นที่กับจำนวนประชากรแล้วสยามทำไมกล้าลงมายึดละโว้กับทวารวดีที่อยู่ภายใต้อำนาจกลิงคะทั้งๆที่แคว้นฮั่นที่ใหญ่และแข็งแกร่งกว่าสยามยังไม่กล้าทำนั่นหมายถึงสยามจะต้องมีผู้ที่หนุ่นใหญ่กว่าหรือเทียบเท่ากลิงคะและในหน้าประวัติศาสตร์ก็มีพระเจ้าอโศกคนเดียวที่เคยปราบกลิงคะแถมบันทึกจีนก็มีบอกว่ามีราชาที่ปกครองราชาพันคนซึ่งผมมองยังไงก็คือพระเจ้าอโศกคนเดียวเท่านั้น
@@วินัยท่อนทอง คุณสื่อถึงอะไร พิมพ์มาให้ชัดเจนเลยครับ เป็นเรื่องอะไรกันแน่
@@alexjoessss8853 การสงคราม วัฒนะธรรม ศาสนา ภาษามันเป็นสิ่งที่แกะออกจากกันไม่ได้เพราะมันจะไปไหนก็ต้องไปด้วยกันและสิ่งเหล่านี้มันเป็นของผู้มีอำนาจในการปกครอง ที่ผมจะสื่อคือศาสนาพุทธเข้ามาในประเทศไทยหรืออุษาคเณไม่ได้เข้ามาทางการค้าหรือการให้พระเดินทางมาเผยแผ่ศาสนาแต่ในอดีตบรรพชนของเราเคยตกอยู่ใต้อำนาจการปกครองและเป็นส่วนหนึ่งของชมพูทวีป
@@วินัยท่อนทอง คุณจะพูดถึงเรื่องเส้นเขตแดนหรือเรื่องอะไรกันแน่ครับ
ไม่ปรากฏไม่ได้แปลว่าไม่มี อาจจะลืม อาจจะไว้จารึกภายหลังแต่ตายก่อน ถ้าไม่มาเผยแผ่ศาสนาในสยามแล้วใครจะนำมา
พวกอวดวิชา...เถียงกัน..❤🎉😢
ต้องไปหาข้อมูล พระสงฆ์ 9 สายต่อที่ ศรีลังกา ถ้าไม่พบเลย แสดงว่าเป็นเรื่องแต่งขึ้นของคนโบราณ บริบทตอนนั้น จำผิดๆถูกๆเล่าตามกันมา ไม่ได้บันทึกไว้ จนกว่าจะพบเจอธรรมจักรภายหลัง ยุคทราวดี ถือว่า โอเค เก่าแก่มากแล้ว 1500ปีขึ้นไป
+1
ก็ต้องยกขบวน ไปหาข้อมูลที่ ศรีลังกาเพิ่มเติม ว่า ใครบันทึก ... บันทึกจากอะไร ?
คำถามคือ "ทำไมต้องมานั่งแต่งเรื่องนี้ขึ้น เมื่อ 2,500ปีที่แล้ว"
การที่แถบประเทศนี้นับถือพุทธ มาตั้งแต่มีชาติกันมา ก็ชัดอยู่แล้ว
ดี
แล้วใครส่งมา ศิลานั้นเป็นของเจ้าอโศกจริงแท้แค่ไหน พวกคุณก็ไม่ได้เป็นคนแกะหินนั้น คนยืนยันก็ไม้ได้แกะหินนั้น เพราะการปกครอง และการศาสนา ขับเคี่ยวและแย่งชิง หักหารทำร้ายกันอย่าหนัก พวกคุณไปเชื่อถือหินแกะ แต่ไม่ยอมรับรอยพระพุธทบาท อันนี้มันก็ชดเจนมากพอแล้ว จงอยู่กับปัจบัน ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา
ถ้ามีการค้าขายกับอินเดีย การเผยแผ่ศาสนาก็ย่อมทำได้ครับ
เราจะเชื่อได้ยังไงกัน ว่า คนที่เขียนบันทึกในสมัยพระเจ้าอโศกนั้น ได้เขียนไว้อย่างครบถ้วนตามจริง เเละบันทึกนั้น ก็ไม่ได้มีลายเซนต์ของพระเจ้าอโศกรับรองไว้ ว่าเปนบันทึกที่ครบถ้วนถูกต้อง สมัยนั้นคนที่บันทึกนั้นอาจจะเปนพราหม ที่ไม่ค่อยจะชอบใจพุทธศาสนานัก และอาจจะไม่ค่อยจะถูกเส้นกับพระเจ้าอโศกนัก ในราชสำนักของพระเจ้าอโศก เองก็มีพราหม ฮินดู อยู่มากกมาย
อย่าไปแย้ง ไปสงสัยนะ เดี๋ยวจะถูกว่า ทำลายพระศาสนา ของพวกเค้า
@@sakathi7693 ใช่ แย้งไปสงสัยไป แล้วไม่มีประโยชน์อะไรกะใคร เราก็ไม่ต้องไปแย้ง / อะไรที่พูดไปแล้ว ทำไปแล้ว แต่ไม่เกิดประโยชน์กะใครนั้น พุทธเจ้าก็ไม่ทำ
คนสมัยก่อน เขาไม่มีเวลาส่วนตัวครับ เป็นทาสทังหมด ทำงานตามสั่ง และถูกตรวจงานตามสั่ง ถ้าไม่ทำตาย
ถ้ารู้จักกองทัพต้นทางโมกุล 1 เกิดการบุกอินเดียทั้งหมดไปทั่ว ยังไม่แยกประเทศ ได้บุกทำลายวัด มหาลัย ขนสมบัติ ทำลายสถานอย่างหนัก ถ้ารอด เป็นไปได้ 30% ที่เหลือไม่เหลือแล้ว
2ถ้าที่มีอยู่ ก็ฝรั่งล่าดินแดนก็ขนไปขายกินละ พวกนักสะสมโบราณวัตถุชอบๆ
ยุคนั้นไม่มีแนวคิดเรื่องลายเซ็นด้วยซ้ำ จะเซ็นได้ยังไงก่อน?
ถ้ามีก็มีใกล้เคียงสุดคือตราประทับ หรือจะเป็นตราของกษัตริย์ ก็แล้วแต่ว่าจารึกหรือเขียนลงกับอะไร
พวกบันทึกก็มีปัญหาเรื่องการคัดลอกที่คัดลอกกันมา แต่ไม่เอาลายเซ็น(ถ้ามี) คัดเนื้อหาะแปลมาหมดเมื่อเปลี่ยนภาษา
จารึกก็มีทำลายและ อาจจะไม่ครบตามที่ท่านพอใจ
เป็นไปได้เมื่อพระเจ้าอโศกไม่นับถือก็ไม่จำเป็นต้องจารึกไว้ ..
การที่ในบ้านเรามีพระอรหันต์เกิดขึ้น นั่นหมายถึงเรารับคำสอนของพระพุทธเจ้ามาแบบถูกต้องแน่นอน ส่วนจะมาถึงโดยวิธีการใดนั้น ก็รับฟังตามหลักฐานที่นักประวัติศาสตร์หลายๆท่านค้นคว้ามาครับ
อันนี้เรียนถามด้วยความสงสัย การที่จะบอกว่า พระสงฆ์ยุคหลังพระพุทธเจ้า บรรลุอรหันต์ ใครเป็นคน confirm ละรู้ได้ไงว่าเป็นอรหันต์จริงๆครับ
@@tontonychai3352 ไม่มีครับ ปุถุชนเดาๆลือๆกันเอง สมีทั้งหลาย ต่อให้เป็นของปลอม ถ้าจับไม่ได้/ตายลงก่อนคนจับได้ ลูกศิษย์ก็จะยืนยันว่า สำเร็จมรรคผล ใครตั้งคำถาม จะหาว่าลบหลู่ครับ
การจะสำเร็จมรรคผล ธรรม มันละเอียดเหนือวิสัยปุถุชน แค่เทศน์เก๋ๆ ทำท่าสำรวมเฉยๆ มันไม่พอ คนธรรมดาไม่มีปัญญาแยกออกแน่นอน
การจะวินิจฉัย ว่าใครสำเร็จอรหันต์ได้ คนๆนั้น ต้องสำเร็จมรรคผลเองก่อนจึงตัดสินคนอื่นได้ ไม่ก็ต้องให้คนที่ พระพุทธเจ้ายืนยัน หรือตัวพระพุทธเจ้าเองยืนยัน เป็นคนชี้ลงไปได้ แล้วกติกานี้ มีสิทธิ์เกิดในยุคหลังไหม? ก็ไม่
@@tontonychai3352ตามกฎพุทธว่าจะมีระดับไหน แค่เปิดเนตเอาสิ ถามลุงกู๋😅😅
@tontonychai3352 คนที่บอกได้มีแต่พระอรหันต์ด้วยกันครับ สำหรับผมพระที่ถือศึลครบ 227 ก็กราบได้เต็มหัวใจแล้วครับ
@@panupholonprom7763เฮ้อ….หายากปานงมเข็มในบ่อน้ำ
การสร้างเสาอโศกของพระเจ้าอโศกเป็นแท่งหิน หมายจะให้เป็นถาวรวัตถุ ถึงผ่านมาเป็นพันปีแลเว แต่ก็ยังคงหลงเหลือร่องรอยของเสาหิน
การส่งสมณทูต 9 สายเพื่อเผยแพร่ศาสนาเป็นเรื่องใหญ่ เป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ของตัวพระมหากษัตริย์ แล้วเหตุใดการประกาศความยิ่งใหญ่นี้ ถึงไม่มีในเสาอโศก ทั้งที่เป็นของพระเจ้าอโศกเอง
คหสต.แต่การนับถือพุทธศาสนาในภาคเหนือ(ล้านนา)
น่าจะได้รับอิทธิพลที่แผ่ลงมาจากทางตอนเหนือตั้งแต่จีนลงมา สิบสองปันนา พม่า จนมาถึงล้านนา
คงไม่ใช่แผ่อิทธิพลจากสุวรรณภูมิ ขึ้นไปสุโขทัย ล้านนาแล้วไปถึงพม่าแน่นอน
ดูได้จากจารีตและข้อวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์ในล้านนา(ในอดีต)ที่ต่างกับพระสงฆ์ในภาคภาคกลางอย่างชัดเจน ยกตัวอย่าง ครูบาศรีวิชัย เป็นต้น
(สมัยก่อนพระทางเหนือจะมี สำเนียงบทสวด ภาษา ตัวอักษร ที่คล้ายกับสิบสองปันนาและพม่ามากกว่า )
ล้านนารับพุทธศาสนาจากกลุ่มวัฒนธรรมมอญหริภุญไชยเป็นพื้นฐาน จากนั้นต่อมารับลังกาวงศ์จากสุโขทัย นิยมเรียกนิกายลังกาวงศ์เก่า หรือนิกายวัดสวนดอก ผ่านมาอีกประมาณหนึ่งมีพระสงฆ์ไปบวชเรียนจากลังกาโดยตรง แล้วพยายามกลับมาปฏิรูปศาสนา (คล้าย ๆ ธรรมยุติ ปัจจุบัน) เกิดเป็นนิกายลังกาวงศ์ใหม่ หรือ นิกายวัดป่าแดง สองนิกายนี้ก็ดำรงอยู่เรื่อยมาจนแตกออกเป็นนิกายย่อย ๆ อีกมากมาย แต่ละเมืองก็มีนิกาย มีวัตรต่างกันไป เมื่อเวลาผ่านไปหลายร้อยปี ส่วนนิกายของครูบาศรีวิชัย ห่างจากยุคลังกาวงศ์เก่า ลังกาวงศ์ใหม่ ไป 500-600 ปี ยากที่จะเชื่อมโยงไปถึงล้านนายุคโบราณ แต่พื้นเพท่านเป็นคนลำพูน ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีการกวาดต้อนชาวไทลื้อ โดยเฉพาะชาวเมืองยองมาอยู่มาก ทำให้นิกายของครูบาศรีวิชัยจะมีลักษณะใกลี้เคียงกับนิกายของเมืองยอง ซึ่งอยู่ใกล้ 12 ปันนา
@@nokaton 🙏ขอบคุณมากๆที่เข้ามาให้ข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องนะครับ
@@nokaton ปัจจุบันเราเรียกนิกายลังกาวงศ์ใหม่ที่รับมาเป็น นิกายสยามวงศ์ ใช่หรือไม่ครับ
ทางตอนเหนือ ๆ
พอรับพุทธเจ้าไป ก็เริ่มเผาศพ แต่ก็เผาเฉพาะพระภิกษุ ( พวกไทยใหญ่ก็ยังใช้กันอยู่ )
ส่วนชาวบ้าน ยังฝังศพเหมือนเดิม
นั่นแสดงว่า พุทธ เริ่มจากใต้ขึ้นเหนือ ชัวร์ ๆ ( ไม่ใช่จากเหนือลงใต้ )
ในภาคกลางเองก็มีการวิวัฒน์ปรับเปลี่ยนหลายครั้งในวิถีของตัวเอง ซึ่งในที่สุดเราก็อาจจะไม่จำเป็นต้องนับเป็นลักษณะอ้างอิงก็ได้
การศึกษาด้านโบรานคดีไทย ยังรอคนรุ่นใหม่สานต่อ อยู่นะ
เรื่องพระโสณะและพระอุตตมะมีบันทึกใน ก.เบื้องจารที่ลป.อ่ำค้นพบมีเก็บไว้ที่วัดโสมนัส เป็นก.เบื้องจารสมัยพศ.๒๖๘
ห่างกันนานขนาดนั้น มันจะผิดเพี้ยนไป ก็ไม่
แปลก เพราะอาจเป็นแค่คำพูด ปากต่อปากที่
ฟังกันมาอีกที ขนาดศิลาจารึกแท้ๆ ก็ใช่ว่าจะ
เป็นเรื่องจริง..
ท่านพระอาจารย์มั่น (ภูริทัตโต) เคยพูดเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า สมัยพระโสณะ กับพระอุตตระ มาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในแคว้นสุวรรณภูมิ คือ นครปฐมเดี๋ยวนี้ // ท่านพระอาจารย์มั่น (ภูริทัตโต) นี้ได้เป็นสามเณรน้อยมาด้วย ท่านพระอาจารย์ว่า สมัยนั้นท่าน ข้องคาอยู่ในการปรารถนาพุทธภูมิ ท่านจึงไม่ได้สำเร็จมรรคผลอะไร // ท่านกล่าวว่า สมัยนั้นน้ำทะเลขึ้นไปจรดกับจังหวัดสระบุรี หรือเขาวงพระจันทร์ ส่วนพระโสณะ และพระอุตตระ นั้นชอบใช้ไม้เท้าทางกก (ทางต้น) เป็น ๘ เหลื่อม ทางปลายนั้นเป็น ๑๖ เหลื่อม // อ้างอิงคัดลอกมาจาก บันทึกส่วนตัวของ พระครูสังวรศีลวัตร (หลวงปู่อุ่น ชาคโร) เปิดเผยความลึกลับของท่านอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ
@@SuthepSonghahasong-y2r แบบนี้พระมุสาละครับ สมัยน้ำทะเลไปจรดสระบุรีนี่มันราวหมื่นปีก่อน พระพุทธเจ้าโคตมยังเป็นวุ้นอยู่เลย
@@AKN639 ปาบกรรมหนักแล้ว. รีบขอขมาท่านซะ. เตือนด้วยความหวังดีครับ.
@@AKN639 ถ้าคุณไม่นับถือพุทธ ไม่รู้เรื่องคำสอนของพุทธ ก็อย่ามายุ่งกับชาวพุทธเลยครับ. เตือนด้วยความหวังดีจริงๆ ครับ. บาปกรรมครับ.
@@SuthepSonghahasong-y2r หลักฐานทางธรณีวิทยามันบอกแบบนั้นครับ ถ้าหลวงปู่มั่นพูดแบบนั้นก็มุสา ถ้าไม่ได้พูดไอ้คนพูดก็มุสา
ศีล5 ยังทำไม่ได้อย่าเรียกตัวเองว่านับถือพุทธศาสนาครับ
ความแตกต่าง ระหว่างคว่าความเชื่อกับความจริง ย่อมมีความต่างกันจริงไหม แต่เรื่องนี้ไม่สำคัญ😊😊
อยากดูเรื่องราวเกาะแกร์ครับ
สาธุ
พระพุทธเจ้า เป็นเจ้าชาย เป็นคนธรรมดา เหมือนไม่ใช่ธรรมดา ไม่แสวงภายนอก แต่ค้นหาภายใน ไม่มีอะไรเหนือธรรมชาติ คือ ธรรมะ สัจจะ ความจริง หนึ่งเดียว แม้แต่ภพภูมิ ก็สยบใน สัจจะธรรม
รับพุทธศาสนาเป็นเรื่องเป็นราว มาจากมอญ ลังกา 😮ฝ่าย เถรวาท หลังยุคทราวดี
อยากได้เสื้อครับสวยดี สั่งได้ไหมครับ
พระสงฆ์ เดินทางกันเอง พระสงฆ์ในยุคนั้นเดินทางเก่ง จะอาศัยเรือเดินทาง หรือเดินทางด้วยเท้า ธุดงค์ ไปทั่วดินแดน
ใช่ เหมือนจะสื่อว่า ทำไมไม่ลงทะเบียนสมัยนั้น?
(สาวก ล้านคน จะมาจารึก? ไม่มีในจารึก ก็เลยพยายามบอกว่าไม่มี ทั้งๆที่ ปัจจุบันเราก็เป็นพุทธ หรือใช้คำว่า "เรื่องแต่งขึ้น"ก็ชัดเจตนา)
@@hopzahoodeenee230 ก่อนหน้า คณะ อโศก 200-300ปี พระสงฆ์ธุดงค์ไปหลายดินแดนแล้ว เชื่อแต่ประวัติศาสตร์ ว่าเพิ่ง มาตอน อโศก
ชอบภาพสร้างจาก AI ครับ
เอาเป็นว่าถ้าเค้นความจริง และด้วยหลักฐานของโลกที่เจริญแล้วในปัจจุบัญ คนรับผิดชอบเรื่องราวนี้ที่เรารับรู้ เรียนรู้อาจจะต้องหมายถึงเจ้าแผ่นดินองค์หนึ่งที่พยายามสร้างเรื่องราวขึ้นมาเอง แต่โดยเหตุผลใดก็มิอาจทราบได้
ในที่สุดก็มีคนกล้าทำอะไรแบบนี้สะที เรื่องส่วนใหญ่แต่งขึ้นหลังตั้งพันปี **** กาลามสูตรไหมล่ะครับ
สุดยอดจริงๆครับ ท้าทายความเชื่อเดิมแบบ โละทิ้งเลย แต่ก็ต้องทำเพราะหลักฐานมันบอกและความจริงจะทำให้เราเข้าใจตัวเรามากขึ้น