ตามความรู้สึกเฉพาะผมที่ Day One ซีรีย์นี้ทุกภาค Dragon Age Origin Complete 9/10 Dragon Age 2 Complete 7/10 Dragon Age lnquisition Not-complete 5/10 Dragon Age The Veilguard Not-complete 3/10
Dragon age ผมถือสนุกทุกภาค แถมได้ยินข่าวจากทางฝั่ง Sony จะ remastered god of war 123ภาค spin off ghost of spatare chain of Olympus ascension ผมเคย ps2 กับ ps3 เนื้อเรื่อง สนุกแถมมีความอลังการครับแถมได้ยินมาบนps5และ pc
จากใจคนที่ตามรีวิวนอกมาหลายช่องหลักๆ
1.เนื้อเรื่องใน DA:O ไม่นับเป็น Canon
2.morrigan ไม่มีการ mention ลูกชายตนเอง
3.Pirate Queen of Easter Sea อย่าง อิซาเบล่า วิดพื้น (โจรสลัดหญิงเคารพกฏ กูจะบ้า)
4.ตัวเลือกตัดสินใจต่างๆ outcome จบเหมือนกัน อย่างฉาก first warden จะลงดาบ archdemon ไม่ว่าตอนเจอครั้งแรกคุณจะเกลี่ยกล่อม หรือ ชกลุง สุดท้าย ลุงแกก็โดนจับในฉากลงดาบอยู่ดี
5.ฉากจบ outcome เหมือนกันหมด คือคุณสามารถหยุด Solas ได้เพียงแต่ what is cost ดูลอก Mass Effect 2 มาทั้งฉากวางแผนก่อนเริ่ม final mission หรือฉากเพื่อนร่วมทีม fail ตามแผนที่วางไว้ กรณีอยากได้ฉากจบแบบ True End ต้องเลือก inquisitor romance solas และทำ companion mission ทุกอัน เหมือน Mass Effect 2 (ถ้าอยากให้ทุกคนรอด)
6.บท rook เป็นคนดีอย่างเดียว ไม่มี evil choice ให้ผู้เล่นเลือกเหมือน 3 ภาคแรก หรือเทียบกับ Mass Effect Series
7.มีการพูดถึงเพศทางเลือก เอาจริงๆ มันเป็นเกมส์ธีม fantasy gender change spell คงหาไม่ยากหรอก ถามพวก blood mage เอาก็ได้ :P
8.ศัตรูหลักๆคือ darkspawn แต่ไม่มี broodmother
สปอยล์
.
.
.
.
.
.
.
- companion quest เพิ่มโอกาสให้เพื่อนรอดในท้ายเกมจริง แต่ไม่จำเป็นต้องทำหรือถ้าจะทำก็ไม่จำเป็นต้องทำให้ครบทุกคน faction strength ก็จะมีส่วนตรงนี้ หรือก็คือ companion quest ไม่ทำ + faction strength เต็ม = เพื่อนรอดได้ หรือ companion quest ทำ + faction strength ไม่เต็ม = เพื่อนรอดได้
- true end พูดยากจังว่าแบบไหนคือ true เพราะตราบเท่าที่ยังไม่มีภาคต่อ ก็ไม่ได้แปลว่าบางอย่าง canon มากกว่าอย่างอื่น เพียงแต่มันจะ satisfy แค่ไหนก็เท่านั้นซึ่งมัน subjective มาก ฉากจบที่เกี่ยวกับ Solas มีอยู่ 4 แบบ (1) เราใช้กำลังบังคับให้ Solas กู้ The Veil (2) เราหลอกให้ Solas กู้ The Veil (3) เราโน้มน้าวให้ Solas กู้ The Veil โดยสมัครใจคนเดียว และ (4) เราโน้มน้าวให้ Solas กู้ The Veil โดยสมัครใจและมี Inquisitor ตัดสินใจไปอยู่ด้วย ซึ่งถ้ามองว่า Solas สมัครใจกู้ The Veil ไม่ว่าจะไปคนเดียวหรือมีเมียติด ก็ไม่เกี่ยวกับ companion quest แต่ต้องทำเควสเคลียร์ Crossroad's corruption แล้วไปคุยหรือสู้กับ Mythal เพื่อให้ได้ Mythal's essence มา (จริง ๆ ไม่แน่ใจเรื่อง Mythal's essence ว่าจำเป็นไหมด้วยซ้ำ แต่ถ้าได้คือค่อนข้างการันตีว่า Solas สมัครใจไปเองแน่นอน เท่าที่เล่นจบและดูมานะ)
พูดจากความเห็น
- เพศทางเลือก ในที่นี้ถ้าหมายถึงทรานส์ เวทมนตร์ไม่ได้ทำได้ทุกอย่าง แล้วการใช้เวทย์ก็น่าจะรู้กันอยู่ว่า mage ในโลกนั้นโดน discriminate แบบไหน อย่างใกล้สุดคือ DAI ก็มีเรื่องนี้โชว์มาแต่แรกเลย แต่ถ้าพูดถึงนอนไบนารีนี่ก็ไม่ใช่อะไรที่เวทมนตร์ทำอะไรได้ เพราะมันคืออัตลักษณ์ที่ไม่ใช่ชายแล้วก็ไม่ใช่หญิง เป็นอะไรที่อยู่กึ่งกลางหรืออยู่นอกการมองว่าต้องเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง ทาชถึงของขึ้นพอแม่พูดว่า Qun ก็มีคำเรียกคนที่รู้สึกว่าเพศตอนนี้ไม่ตรงกับเพศตอนเกิดมาอยู่แล้ว ซึ่งไม่ใช่ ทาชไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นผู้ชาย มันไม่เหมือนกับทรานส์ เพราะงั้นถ้าจะมองว่าเวทมนตร์สลับเพศไปก็จบ มันไม่ได้
@@FrostyFoxOfTheFieryField True End ในที่นี้คือฉากจบที่ดีที่สุดครับ
all ending จริงๆหลุดมาตั้งแต่วันแรกที่ปล่อยลง PC ล่ะ หลักๆคือมี 4 ทางเลือก 1.กล่อม solas ให้ยอมปิดเอง (true end ก็จะมี inquisitor ตามไปด้วย) 2.ส่งมีดปลอมให้ 3.สู้กับ Solas 4.สู้กับ Solas แต่ทีมพังหมด
นี่ยังไม่รวมถึง Post-Credit อย่างมีองค์กรมืดชักใยอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ใหญ่ๆในภาคก่อนหน้าอีกนะ ตอนเห็นฉากนี้ผมนี่ร้องฮ่ะ
ว่ากันตามตรงเลยนะครับ concept ของ non-binary คืออะไรก่อน ? คือคุณไม่อยากเป็นหญิง และไม่อยากเป็นชาย... แล้วอะไรที่สามารถบ่งบอกว่าคุณคือ non-binary ได้ล่ะ ? คือมันฉีกรสนิยมทางเพศ LGBTQ+ ออกไปเลย
Qun ในที่นี้คือ People of Qun รึเปล่าครับ ?
1. หมายถึงเค้า รีวิวกันไม่ใช่ Official ใช่ม่ะครับ ผมคิดว่าด้วยตัวเลือก ภาค 1 มันมีทั้งให้ ตัวเอกตาย หรือ ไม่ตาย พอในภาคใหม่ ไม่ได้ใช้ keep แล้วเลยไม่พูดถึงซะเลยดีกว่าง่ายดี 555
2. เหมือนข้อ 1 พอไม่มี keep การ mention ทางเลือกทุกอย่างที่ผ่านมาจะมีแค่ Inquisitor คนเดียว น่าเสียดายสุดๆ
3. อันนี้ก็ฮา จริง ภาค 2 นี่ตัวแหกกฏเลย แต่อาจจะเพราะเริ่มอายุเยอะไหม แถมเป็นหัวหน้า Lord of fortune อีก เลยต้องทำตามกฏหรือเปล่า เดาเอาครับ 555
4. อันนี้ผมจบแค่รอบเดียวแต่คิดไว้แล้วน่าจะเหมือนกัน แต่อาจจะเปลี่ยนแค่บทสนทนา ช่วงที่เราไปเจอ ลุง First Warden อีกครั้ง ตอนที่ไปหา เหล่า Giffon
5.ผมเลือก inquisitor romance solas และ ก็มี Mythal's essence ครับ น่าจะ True End น่ะ สำหรับรอบแรก แต่ผมอยากจะลองเล่นเองแบบเห็นหลายๆ แบบ มันฟินตรงนี้แหละ ที่ไม่ดูที่อื่นเลย ฮ่าๆ แต่ตรงเหมือน Mass Effect 2 นี่ไม่รู้เลยครับ เพราะไม่เคยเล่น มันดีหรือไม่ดีอันนี้ 555
6. ใช่ตรงนี้แอบเสียดาย รุนแรงสุดก็น่าจะ ต่อยปากลุง First warden ละมั่งทั้งเกม 5555
7. จริงๆ ไม่น่าเป็นประเด็น Woke อ่ะไรเพราะ ถ้าเทียบจริงๆ มันไม่ถึง 5% ของเกมเลยมั่ง กว่าจะเจอก็เกือบจบเกมละ เรื่อง Tassh 555+
8. นั่นสิ แอบหวังว่า จะเจอ รองบอสแบบพวก Architect, Corypheus และ ก็ Broodmother
@@evilbom สปอยล์
.
.
.
.
.
.
.
อย่างที่บอก true end ไม่จำเป็นต้องทำ companion quest และถ้าบอกว่าดีที่สุดมันก็ subjective อยู่ดีว่าอะไรคือดีที่สุด ถ้าเราเล่น DAI แล้วอยากตบเหม่ง Solas การสู้หรือหลอกให้ Solas กู้ the Veil ก็คือดีที่สุดสำหรับเรา ซึ่งส่วนของ Solas ไม่เกี่ยวอะไรกับการทำ companion quest และถ้าพูดถึงแค่เรื่องเพื่อนเราต้องรอดทุกคนในตอนจบ ก็วนกลับมาเขียนซ้ำให้อ่านอีกทีว่า "มันไม่จำเป็นต้องทำ companion quest"
ถัดไปนี้ไม่เกี่ยวกับเกมละนะ ถ้าใครสนใจตัวเกมก็จบแค่บรรทัดบนอันนั้นแหละ ถถถ
เรื่อง non-binary อย่างแรกเลย เรามาทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนนะ สิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงกันคือ gender identity (คิดว่าคำไทยคืออัตลักษณ์ทางเพศ) ไม่ใช่ sexual orientation (คำไทยจะน่าเป็นรสนิยมทางเพศ)
gender identity คือสิ่งที่เราแสดงออก ส่วน sexual orientation คือคนที่เราชอบ
gender identity แม้หลายครั้งจะสัมพันธ์กันกับ sexual orientation แต่ไม่จำเป็น เช่น โดยทั่วไปเวลาเราพูดกันว่าคนนี้เป็นผู้ชาย นั่นหมายถึงเพศกำเนิดเขาเป็นผู้ชาย เขาใช้ชีวิต แต่งตัว ทำแบบที่โดยทั่วไปมองว่าผู้ชายจะทำ นี่คือ gender identity เป็น cis man คือการแสดงออกตรงกับเพศตอนกำเนิด แต่ถ้าเราพูดถึงว่าเขาชอบใคร นี่คือ sexual orientation ถ้าเขาชอบผู้หญิง นั่นก็คือ sexual orientation เขาเป็น straight ซึ่งก็คือ gender identity กับ sexual orientation เขาไปทางเดียวกัน ถ้าเขาชอบผู้ชาย ก็คือ sexual orientation เป็น gay และโดยทั่วไปคนก็จะมองว่า gender identity กับ sexual orientation เขาไม่ไปด้วยกัน
สเตปถัดมา non-binary คือ gender identity ถ้ามองคร่าว ๆ ก็คือเพศตอนนี้ไม่ตรงกับเพศกำเนิด มันคล้ายกันกับ trans เลย แต่ในขณะที่ trans ชัดเจนว่าถ้าตอนเกิดมาถูกมองว่าเป็นผู้หญิง ถ้าเขาเป็นทรานส์ก็คือตอนนี้ใช้ชีวิตอะไรต่าง ๆ เป็นผู้ชาย gender identity ของเขาก็คือ trans man แต่ non-binary คือไม่ใช่แบบนี้ บางอย่างเขาอาจจะแสดงออกตรงตามเพศกำเนิด บางอย่างอาจแสดงออกแบบไม่ตรงเพศกำเนิด มันก้ำกึ่งปนเปกันไปหมด ถึงมองว่าตัวเองจะเป็นผู้ชายก็ไม่ใช่เป็นผู้หญิงก็ไม่ใช่ แต่ แต่ แต่ แต่ มันไม่ได้แปลว่า non-binary มองว่าโลกนี้ไม่มีผู้ชายไม่มีผู้หญิง บางคนยังมองว่าโลกนี้เป็นระบบ binary อยู่ ก็คือมีผู้ชายซึ่งตรงข้ามกับผู้หญิง เขาแค่ไม่ fit in ว่าตัวเองจะอยู่ในกลุ่มไหนกันแน่ ถึงเรียกตัวเองว่าเป็น non-binary แล้วไม่ได้พยายามเป็นเพศตรงข้ามอย่างที่ทรานส์เป็น และนี่คือทาช
วกกลับมาเรื่องในเกมนิด เรื่อง Qun ใช่ หมายถึง People of Qun ส่วนที่เราพูดถึงคือพูดถึงทั้งซีนใน DAV ส่วน companion quest ของทาชที่คุยกับแม่ และบทพูดของ Iron bull ใน DAI ซึ่งทั้งคู่เมนชั่นคำว่า Aqun-athlok ที่หมายถึงคนที่เกิดมาเพศนึงแต่ใช้ชีวิตแบบอีกเพศหนึ่ง เป็นคำที่ Qunari ใช้กันมานาน (หมายถึงมีคำนี้ในภาษาของ Qunari แต่ไม่ได้แปลว่าจะได้รับการยอมรับโดยทั่วไปหรืออะไร) ซึ่งอย่างที่บอกในเรื่อง non-binary ด้านบน ทาชเกิดมาเป็นผู้หญิง แต่ไม่ได้จะใช้ชีวิตแบบผู้ชาย ดังนั้นทาชเลยไม่ใช่ Aqun-athlok และรู้สึกว่าการที่แม่ยกคำนี้มาเป็นการพยายามบีบให้ทาชเป็นสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เป็น เหมือนอย่างที่ทาชเกิดเป็น Qunari แต่โตมาด้วยวิถีแบบ Rivaini หรือการเป็น Adaari ที่น้อยคนมากจะเป็น เลยเป็นประเด็นว่าทำไมปมหลักของทาชคือเรื่องตัวตนของเขา
@@FrostyFoxOfTheFieryField เป็นข้อมูลที่ดีครับ กำลังเล่นรอบ 2 เลย คราวนี้จะเก็บให้ครบทุกอย่างเลยครับ
ตามความรู้สึกเฉพาะผมที่ Day One ซีรีย์นี้ทุกภาค
Dragon Age Origin Complete 9/10
Dragon Age 2 Complete 7/10
Dragon Age lnquisition Not-complete 5/10
Dragon Age The Veilguard Not-complete 3/10
ของผมเรียงแบบนี้ครับ
Dragon Age Origin 9.5/10
Dragon Age 2 8/10
Dragon Age lnquisition 10/10
Dragon Age The Veilguard 9/10 ^ ^
เล่นจบมาแล้วเหมือนกันค่ะ Act 3 ขยี้หัวใจเรามากโดยเฉพาะคนเลือกฉากจบ Solavellan แต่ถ้าถามว่าชอบไหม ก็ใช้ได้ค่ะ ยังไงเราก็ให้ Inquisition No.1 ค่ะ ข้อเสียคือไม่เอาไอเดียเก่าดีๆมาใช้เยอะมาก ลุงเอลองหา Art book อ่านดูนะคะ ความรู้สึกอาจจะเปลี่ยนไปนิดหนึงก็ได้ค่ะ
ส่วนที่ผมช็อคมากสุดนํ้าตาซึมคือ เพื่อนนักเล่าเรื่องของเรามากกว่า มาเฉลยตอนจบ T T
ส่วนผมก็ชอบ ภาค Inquisition มากสุดเหมือนกันครับ 10/10 เลย
ส่วน Artbook นี่จาก Official เหรอครับ
@@A_TheOldman ใช่เลยค่ะ Art Book ของ Offcial ฉากนั้นเราเสียน้ำตาที่สุดเลยค่ะ ปวดตับ
ขอบคุณครับ ส่วนตัวคงรอดลดราคารอบแรก ค่อยจัดมาลองครับ
ได้เลยครับผม ขอบคุณที่เข้ามารับชมนะครับ
เกมนี้ผมให้ 9 นะ ผมเอาไปเทียบกับ ffxvi ซึ่งผมมองว่าเกมนั้นสู้เกมนี้ไม่ได้เลย เล่นได้ตัวเดียวเป็นสิ่งที่ไม่ชอบ แต่ส่วนนี้เกมนี้ทำได้ดีกว่ามาก ระบบเกมการอัพเพื่อนก็ดีกว่าเกมนั้นเยอะ
ffxvi เอาไปทุ่มกับฉากไคจูตีกันซะหมดคับ
ผมไม่เคยเล่น FFXVI ด้วยสิ แต่ถ้าสนุกกว่าก็คุ้มแล้วครับ ^ ^
เป็นที่เจ็บใจสำหรับสายLoreอย่างผมมาก ที่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีเวลากลับไปเล่นภาคInquisitionให้จบด้วยตัวเอง
ด้วยอะไรหลายๆอย่าง ผมคิดว่าคงต้องดูสรุปเอาแล้วล่ะครับ ผมจะรอช่องลุงเอนี่แหละครับ สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะหาได้แล้ว
กราบขอบคุณเลยครับผม พยายามจะรวบรวมข้อมูลให้ดีที่สุดค๊าบ
ผมเสียดายระบบ combat จาก Inquisition มาก ผสม Action กับ Tactical ได้ลงตัวสุดๆ แต่ภาคนี้สู้ไฟต์นึงโคตรอิ่มมัน Action เกิน😂
ผมเสียดายการควบคุมเพื่อนเรามาก ถ้า action แบบนี้ แล้วสลับตัวได้ นี่น่าจะมันส์สุดๆ แล้วก็เพิ่มหลอดเลือดให้เพื่อนด้วย มันจะได้เหมือนไปเป็นทีมหน่อย 55
อัพเกรด Merchant ร้านไหนดีครับ ผมเลือกไม่ถูกเลย ว่าร้านไหนควรลงทุนอัพให้เต็มก่อนร้านแรก
ขึ้นอยู่กับคลาส และสายที่จะเล่นครับ ลองไปส่องของเกราะแดง หรือ ชุดแต่งตัวก่อนก็ได้ครับว่า ตรงกับสายที่อยากเล่นไหมครับ แต่ แนะนำให้ลองดู Dock town กับ Treviso ไว้ก่อนครับเพราะเล่นไปซักพักจะมีเหตุให้ไม่สามารถ ซื้อของเมืองใดเมืองหนึ่ง ที่เราไม่ไปช่วยได้อีกครับ
ผมชอบ เนื้อเรื่องภาคนี้นะ (เล่นแบบจบ secret คิดว่าน่าจะเป็นจบดีสุด)
เนื้อเรื่อง 9/10 เฉลยปมเยอะ ที่มา ดวอฟ เอลฟ์ เดอะเวล
กราฟฟิค 7/10
เกมเพลย์ 7/10
ปริศนา 7/10
เฉลี่ย 7.5
สำหรับแฟนเกมถ้า เน้นเนื้อเรื่องผมว่า ok นะ รับได้
ใช่ครับแค่เนื้อเรื่องก็เพลินแล้ว
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ แต่ถึงอย่างงั้นผมก็คงไม่เล่นอยู่ดี การออกแบบตัวละครไม่โดนใจเอาซะเลย
เพื่อนไม่มีวันตายนี่เอ๊ะมากครับ😢
เอ๊ะ จริงครับ เล่นมาเกือบครึ่งเกม ก็ว่า ทำไมไม่ตายซักที 5555
เป็นกำลังใจให้ครับ แม้ว่าผมจะไม่ชอบ Woke แต่ผมรัก RPG ขอบคุณสำหรับบทวิจารณ์ที่ตรงไปตรงมาตามหัวใจตัวเองครับ หลังดูแล้วผมคิดว่าคงซี้อเก็บครับแต่คงหลังลดราคาครับ 😄😄😄
ขอบคุณมากที่เข้ามารับชมครับผม จะทำผลงานดีๆ มาให้รับชมเรื่อยๆ ครับ ส่วนเรื่องรีวิว ผมปล่อยไปตามหัวใจ ครับ 5555
Dragon age ผมถือสนุกทุกภาค แถมได้ยินข่าวจากทางฝั่ง Sony จะ remastered god of war 123ภาค spin off ghost of spatare chain of Olympus ascension ผมเคย ps2 กับ ps3 เนื้อเรื่อง สนุกแถมมีความอลังการครับแถมได้ยินมาบนps5และ pc
รอเชียร์ให้มีสรุปเนื้อเรื่องแบบที่ผ่านมาครับ
ผมเล่นมาทุกภาคตั้งก่ะสมัยวัย20ปี ภาคนี้ยังเล่นไม่จบเล่นได้วันล่ะชั่วโมงนิดๆแถมไม่ได้สามารถเล่นได้ทุกวัน เกมเพลย์ก็ไม่ค่อยถูกใจเท่าไรผมชอบแบบภาคเก่าๆมากกว่าลุงแก่แล้วทำอะไรเร็วๆไม่ทัน55+
แล้วที่เสียดายอีกอย่างวาริคเป็นตัวละครที่ผมชอบมาก โผล่มาภาคสองก็กวงติงได้ใจเสียดายภาคนี้นอนเจ็บอยู่บนเตียง ส่วนพวกชุดก่ะท่าบางทีก็ดูลิเกไปนิดอย่างลุงเผ่าอีกาที่เป็นสายมีดคู่มีแบบปีกเวทข้างหลังแต่เคลื่อนไหวบนพื้นดิน ฉากคัทซีนนั้นผมแอบขำหน่อยๆ(ล่าสุดเล่นถึงตรงนี้ครับ)
ได้เลยครับจัดทำแน่นอนครับ สรุปเนื้อเรื่องรอติดตามได้เลยครับ
ถ้าลดราคา 70% จะซื้อครับขัดใจบทพูดบางครั้งน้อยถึงคลิ่นจัดเลย
ส่วนตัวฟังรีวิวแล้วมีใจแอบอยากกลับไปเล่นอยู่นะครับ (เล่นได้ไม่ถึง 2 ชม. แล้วกดรีฟันด์ไปก่อน)
อันนี้อยากถามลุงเอเพิ่มเติมครับเพราะส่วนที่ผมรับไม่ได้แล้วกดรีฟันด์ไม่ใช่เรื่อง Woke นะ แต่เป็นเรื่องของ Dialog
หลายๆรีวิวบอกว่า Dialog ห่วย ซึ่งส่วนตัวผมเองลองแล้วเจอ 2 ชม.แรกไปก็รับไม่ได้จนต้องกดรีฟันด์เหมือนกัน
(ที่เจอส่วนตัวช่วงต้นเกม รู้สึกบทสนทนามันดูไม่ค่อยธรรมชาติเหมือน fanmade + พยายามจะ educate คนเล่นมากไปหน่อย)
ตรงนี้ลุงเอมีความคิดเห็นยังไงครับ
อีกข้อนึงผมว่าถ้าเทียบ Taash vs Dorian มันค่อนข้างต่างกันนะ
Dorian มันมีชั้นเชิงในการเล่าเรื่องมากกว่าจะค่อยๆเข้าประเด็นแล้วใช้คำพูด "I prefer a company of men"
vs. Taash มาถึงเปิดมากลางตรงกินข้าวว่า "I'm non-binary"
ซึ่งดูไม่ค่อยเข้ากับบริบทของตัวเกมเท่าไหร่หนะครับ ซึ่งอันนี้ผมก็โบ้ยความผิดให้ไดอะล็อคด้วยเหมือนกัน)
เรื่อง dialogue ส่วนตัวมองว่ามันสู้ทั้ง 3 ภาคไม่ได้ครับ ตํ่ากว่ามาตราฐานของ Dragon Age มันก็พอฟังไปเรื่อยๆ ได้นะสำหรับผม อาจเป็นเพราะช่วงจะเริ่มเล่นผมไม่ได้ดูข้อมูลอะไรเยอะ หรือ ไปเสพรีวิวที่ไหนมาก่อน ปล่อยหัวโล่งๆ เล่นแบบไม่ขาดหวัง ไม่ได้มีเกทณ์จากข้อมูลไหนมากำกับไว้ว่าตรงไหนดีไม่ดี
และช่วงต้นเกมยาวไปถึงช่วง เจอ Solas ใน The Fade ช่วงนั้นผมเล่นไปประมาณ 8-9 รอบ เพราะต้องทำ Contents สร้างตัวละคร ก็ได้ลองเลือกทุกบทสนทนา ที่ไม่ซํ้ากันเลย ลองจนครบในช่วงนี้ ก็ฟังดูมีข้อมูลที่เซอไพรส อยุ๋นะครับ ในการคุยกะ Solas ส่วนตัวลุงเอง เลยไม่ได้ติดอะไร อ่านได้ฟังได้เรื่อยๆ ครับ แม้ว่าตอนนี้เล่นรอบ 2 แล้ว ก็ยังไม่ได้กดข้าม dialogue ไหนเลยครับ
ส่วนเรื่อง Tassh เอาจริงๆ มันไม่ได้มีแค่ที่ผมเอามาให้ดูครับ ก่อนที่จะเข้า คัทซีนนี้ มี 2-3 คัทซีนปูเรื่องมาก่อน tassh ได้เข้ามาพูดกับ Rook เรื่อง เพศภาพตัวเค้าเอง มาปรึกษาว่าควรพูดกะแม่ไหม และมี พูดคุยกับ Neve เรื่องชุดผู้หญิง ด้วยนิสัย Tassh เป็นประมาณ ลูกที่ถูกเลี้ยงมาแบบในกรอบ เพราะด้วยพลังพิเศษที่มีไม่เหมือนคุนารีคนอื่น เลยเหมือนจะถูกห้าม และเป็นเด็กเก็บกดหน่อยๆ พอโตมาเลยอยากทำไรก็ทำ อยากมีอิสระ และที่คัทซีนโต๊ะอาหาร แม่ Tassh เล่าเรื่องพาลูกหลบหนี บลาๆ เนี่ยแหละ Tassh ก็ พูดขึ้นมาเลย ว่าเค้าอยากเป็นอะไร ซึ่งก็คือจุดประสงค์ที่เค้าพาแม่มาที่นี่ เพื่อมาบอก ว่าเค้าอยากเป็นอะไร เค้าเป็นคนชัดเจน อย่างที่ผมบอกในคลิป ภาคนี้ปูเนื้อเรื่อง Companions ได้ลึกกว่าทุกภาค แต่ ไม่ใช่ทุกคนจะชอบครับ
ไม่ชอบตอนเริ่มเนื้อเรื่องไม่หลากหลายเหมือนภาคเก่า แต่หลังๆ โอเคเลย
ใช่ครับ ผมนี่อยากให้สร้าง เนื้อเรื่องแต่ละ Faction ช่วง Varric ไปเจอ Rook มาก ก่อนจะเริ่มเกมเหมือน ภาค Origin
เล่นมาทุกภาค เห็นด้วยว่าภาคนี้มันจริงงับ
ใครมาบ่นเรื่องบทสนทนาทันสมัยไปก็บอกเลยว่าอลิสแตร์กับโอห์เกรนภาค 1 ก็พูดทันสมัยเหมือนกันแต่ไม่เห็นมีใครมีปัญหาเลยตอนนั้น (ยังจำอลิสแตร์เล่นมุข ZAP! Frog time! ได้อยู่เลย สำนวนนึกว่าซิตคอมในทีวี)
ทาชเปิดตัวกับแม่ตรงๆ คือโคตรเรียล ตรงคาแรกเตอร์และคิดว่าน่าจะคล้ายสถานการณ์ในชีวิตจริง คือ ใครมันจะมาอ้อมมาค้อมวะ ยิ่งเป็นคนตรงๆ แบบทาชแล้ว (แต่พวกไม่ได้เล่น/เล่นน้อยก็รู้จักทาชแค่ผิวเผินแล้วรีบด่วนตัดสินจากคลิปยาวไม่ถึงชม. ทั้งๆ ที่เกมยาวเป็นสิบๆ ชั่วโมง 555)
อีกอย่างคือเหยียดกันไปเองหรือเปล่า? เป็นชายชอบหญิงพูดได้ตรงๆ ไม่เป็นไร หรือพาแฟนมาเปิดตัวกับแม่ได้เลยไม่เป็นไร แต่พอเปิดตัวกับแม่ว่าเป็น lgbt ตรงๆ ปุ๊ปมีปัญหาทันที แต่ปากเรียกร้องความเท่าเทียม? 555 เหยียดก็บอกตรงๆ ว่าเหยียดก็ได้นะ ฉากดอเรียนกับพ่อคำพูดแรงพอๆ กับฉากทาชกับแม่อีกแล้วสองฉากนี้ก็กระแทกอารมณ์พอๆ กัน ไม่เห็นจะมีใครมีปัญหาเลยตอนนั้น สื่อสมัยนี้สอนให้เหยียดมากขึ้นหรอ? มันควรจะพัฒนาไปข้างหน้าป่ะ สมัยก่อนฉากแบบนี้เนื้อหาแบบนี้ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร 🙄
100 ชม. ละ ยังไม่จบเลย เก็บทุกเควสต์ย่อยก่อนเดินเควสต์หลัก
สุดมากครับ ผมกำลังเล่นรอบ 2 แบบเก็บทุกเควสเหมือนกันครับ
ติดตรงที่ แต่างตัวละครไม่สวย กับความโว้คที่ยัดเข้ามา รอลดราคาครับ ค่อยจัด
ฟังแล้วดูไม่ได้แย่เลย ติดที่ตัวโมเดลมันแปลกกับเกมที่เป็นเส้นตรง แต่เอาจริงๆแค่รู้ว่ามันคลายปมหลายอย่างก็เริ่มอยากซื้อมาเล่นแล้ว😊
ต้องลองเล่นเองครับ ชอบไม่ชอบอยู่ที่ตัวเราค๊าบบ
ระบบการต่อสู้สนุก ภาพสวย ถ้าจะติก็ชุดไม่ค่อยสวย กับมุมกล้อง
ถ้าตัดสองเรืองนั้นผมว่าเกมสนุก
ชุดลิเกไปนิด 5555
@A_TheOldman ครับจริง มันดูหนา ดูเกินๆๆๆ ผมว่าถ้าทำชุดสวยๆๆขายดีกว่านี้แน่ๆๆๆ
แล้ว dai เต็มสิบให้กี่คะแนนฮะ
DAI คือ No1 ครับสำหรับผม 10/10
จาก dark fantasy สู่ gay fantasy
มันก็ หลากสี มาตั้งแต่ภาคแรกแล้วนะครับ 555
@ ภาค origin เหมือนเกย์ แอ๊บแมน หลังๆเหมือนกะเทยตัวแม่🤣🤣🤣
D E E P . D A R K . F A N T A S Y ตะหากครับ ๕๕๕๕๕
เบลล่า โดนเนิฟนม มอริแกนก็โดนเนิฟนม เนิฟความมีเสน่ห์ของสาวๆไปเยอะมาก -*- ผมให้ แค่ 7.9 ครับ ผู้กำกับจงใจเนิฟตัวละครหญิงชัดเจนมาก เรื่องเกมเพลย์ยังดีที่มีคนเก่าๆมาช่วยไม่งั้นพังแน่ๆ ทำสาวๆให้ฟินๆแบบ the witcher 3 หน่อยก็ไม่ได้ ลูกเล่นช้อยเลือกน้อยมากจะทำเลวๆก็ไม่ได้ด้ายตรงนี้ก็เป้นจุดนึงที่ไม่ชอบเลย เนื้อเรื่องโอเค ฉากโอเคหมด
concept ผู้หญิงไม่ใช่ วัตถุทางเพศครับ คือจะดูรู้เลยว่า หน้าตาตัวละครจัดเต็มมาก แต่ Body นี่คือแบบ....
ความบ้าบอนี่ก็ไปลามไปถึงน้อง ทีฟ่า ใน FF7 เช่นกัน
ตอนสร้างตัวผมจัดนม Max แล้วแต่พอใส่ชุด... หายหมดเลย
Witcher 3 นี่ เค้าเน้นขายทางนั้นเป็นหลักอะนะ ความสวย นม ตูดต้องจัดเต็ม ลุงแกรอล แกฟาดหมด 555+
ตัวเลือกนี่ขัดใจเหมือนกันครับ อาจเพราะโดน เนิฟเป็น ตีมการ์ตูน เลย ต้องโลกสวยตามไปด้วย 555
@@dnssnss331 กด Max เหมือนกันครับ ได้แค่นี้ 5555
ชอบเห็นรีวิวหลายๆแบบครับ แต่ผมเล่นภาค 2 ว่าห่วยแล้ว เจอ inquisition ซื้อมาพร้อม pack คู่ adromeda กากมากๆทั้งคู่ ภาคนี้ไม่เอาแล้วครับ
ผมก็มีหลายเกมที่ซื้อมาเล่นแล้ว refund เหมือนกันครับ ฟังรีวิวอย่างดี เล่นเองไม่ไหวไม่ใช่แนว
ภาค3ดีมากผมก็จบยากสุดทุกคลาส
Masterpiece อันดับหนึ่งของผมเหมือนกันครับ
กลายเป็นเกมแสงวูบวาบ
เกมแห่งสายรุ้ง เจ็ดสีครับ
เล่นจบแล้วเหมือนกัน คือต้องบอกว่า รีวิวของฝรั่งที่ด่ากันเยอะๆ เรื่องประเด็นฉากวิดพื้น กับเนื้องเรื่องของ Taash อะ เราว่ามันเป็นส่วนเล็กๆ มากๆ ของเนื้อเรื่องทั้งหมดในเกมนี้เลยอะ แบบ 0.1% ประมาณนี้เลย คืออุปทานหมู่กันหมด บางคนบอกมีแต่ฉาก woke ตลอดทั้งเกม คือมันไม่ใช่มั้ย พูดไปเรื่อยเอามัน จริงๆ มันนิดเดียวเอง
ส่วนตัวที่ไม่ชอบในเกมนี้คือเหมือนลุงเอเลย สัดส่วนรูปร่างตัวละครมันแปลกๆ มันดูตัวสั้นๆ การ์ตูนๆ ไปนิดนึง
ใช่เลยครับตอนฟังดราม่าแรกๆ ก็แอบคิดนะ ถ้ามันจริงนี่ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน แต่พอเล่นเอง ผมนี่เน้นทำเควส tassh ทุกเควสเลย เอาให้รู้ กลายเป็นอะไรเนี่ย กว่าจะเจอฉากวิดพื้นท้ายๆ เกมละ และ มันก็ไม่ใช่อย่างที่โจมตีกันเลย ถึงว่า ลองเองดีที่สุดครับผม
เล่นจบละเล่นต่อได้ยาวๆมั้ยเเบบไม่เริ่มใหม่
จบแล้วจบเลยครับ ต้องเริ่มใหม่อย่างเดียวฮะ
@ เซ๊นเลย น่าจะทำให้เล่นต่อได้ยาวๆๆไปหาเก็บของทียังไม่ได้ไป เบื่อตรงต้องเล่นใหม่นี้ละ
DA The Veilguard เนื้อเรื่องเข้มข้นมาก กราฟิกอนิเมชั่น Pixar ไม่เรียลเหมือนภาคก่อนๆ แต่ภาพสวยมาก ระบบต่อสู้สนุกดี เพราะเล่น RPG ได้ทุกแนว แต่ก็เสียดายที่ไม่เป็น Tactical แล้ว เรื่อง Woke เฉยๆ เพราะก็ Woke มาตลอดเกมส์นี้ ระบบชุดเกราะชอบภาค 3 มากว่าที่ตกแต่งได้อิสระ MAP ให้ฟิลเหมือนภาค 2 แต่มันไม่ซ้ำซาก และขนาดใหญ่มากๆ มี puzzle ให้แก้ประปรายไม่ยาก ตัวละครแต่งได้ละเอียดมาก สวยหุ่นดีได้ สรุปว่าชอบ 8/10
เรียงคะแนนตามภาค เล่นจบทุกภาค
DA Origin 9/10
- ชอบที่เนื้อเรื่องดาร์คมาก เพื่อนร่วมทีมน่าจดจำ กราฟิกอาจจะดรอปหน่อยสำหรับยุคนี้ ต่อสู้เป็น Tactical คือดี เลือดสาด ไม่รวดเร็วเหมือนภาคหลัง
DA 2 7.5/10
- เนื้อเรื่องดี ระบบต่อสู้สะใจ เลือดสาด เสียงดาบฟันได้ฟิลมาก ตัวเอก ญ สวย เพื่อนร่วมทีมก็น่าจดจำ ชุดเกราะสวย เสียเรื่องแมพซ้ำ กราฟิกธรรมดา
DA lnquisition 8.7/10
- ชอบความ Open world ทั้งเกมเน้นวางแผนทั้งการต่อสู้แสะทรัพยากร เลือดสาดน้อยลง ปรับชุดเกราะละเอียด คาสซานด้าโคตรเท่ห์ มีพาร์ทการเมืองด้วย ตีมังกรสนุก
ข้อเสีย กราฟิกตัวละคร Pixar จริงๆ ครับ ผมติดข้อเดียวเลยจริงๆ แต่ถ้าให้เทียบทุกภาค ชอบภาคไหนมากสุด ผมชอบ DA Inquisition นะ ผม ให้ 10/10 เลย ^ ^