Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
สาธุ❤สาธุ❤สาธุ
น้อมกราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ🙏🙏🙏
ສາທຸ ສາທຸ ສາທຸ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻
กราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ
23:49
สาธุค่ะ
สาธุ.ครับในคำสอนของตถาคต.สาธุ.ครับอาจารย์คึกฤทธิ์ที่เคารพอย่างสูงที่นำคำตถาคตมาเปิดเผยครับ
สาธุ❤❤❤
สาธุสาธุสาธุอนุโมทามิครับ
อนุโมทนาบุญรัตน5ทุกท่าน
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
ท่านเป็นพรมจรรย์ของพวกเราทั่งหลายขอขอบคุณท่านพระอาจารย์เป็นอย่างมากที่นำคำพระพุทธเจ้าแท้ๆมาถ่ายทอดให้แก่มหาชนทั่งหลายได้ยินได้ฟัง.ถ้าไม่มีท่านผมคงไม่รอด.นรกแน่ๆ.ผมขอบคุณพระอาจารย์มากครับขอบคุณครับสาธุๆๆ
ขอโทษนะคะ ไม่น่าใส่เสียงดนตรีเข้าไปเลย❤
🙏🙏🙏
ช
สาธุดีมากเลยค่ะเอาพระสูตรทุกๆพระสูตรมาอธิบายให้มากขึ้นพระสูตรไหนไม่เข้าใจพอฟังแล้วเริ่มเข้าใจค่ะสาธุสาธุ
ธรรมชาติของสัตว์หรือ สัตตานัง ไม่มีรูปร่างหรือตัวตน และธรรมชาติของสัตว์คือมองเห็นและคิดเป็น ผู้มีตาทิพย์ก็มองไม่ออกระหว่างอากาศกับสัตตานัง ซึ่งสัจจายังเคลื่อนไหวไปมาได้ เหมือน อากาศแต่ไม่ใช่อากาศ(นี้แหละที่พระพุทธเจ้าบอกว่ารูปที่เรามองเห็นมันเป็นส่วนหนึ่งของขันธ์ห้า พระพุทธเจ้าถึงตรัสว่าขันธ์ห้าไม่ใช่สัตว์ และสัตว์ไม่ใช่ขันธ์ห้า ลักษณะธรรมชาติของสัตว์มีแต่มองเห็นและคิดเป็นและเคลื่อนไปมาได้ แม้ผู้มีตาทิพย์ก็มองไม่เห็นเพราะแยกได้ไม่ได้ระหว่างอากาศสัตว์ถ้าสัตว์ที่ไม่มีรูปถ้าเขาพูดด้วยก็จะได้ยินแต่เสียง ลักษณะพิเศษของสัตว์คือปฏิจจสมุปบาทสามตัวข้างบนคือ เป็นนามล้วนๆ ยังไม่มีรูปคือ 1อวิชชาปัจจยา สังขาราคือมีความไม่รู้ จึงคิดสงสัย คือสงสัยทุกอย่างมองเห็น สังขาระปัจจยาวิญญาณัง เพราะมีความสงสัย จึงมีความรู้สึกนึกคิดอยากรู้อยากเห็นและอยากสัมผัส เป็นต้น ทีนี้ครั้งแรกสัตว์จึงเริ่มมีตัวตนแบบ โอปปาติกะ เช่นเทวดาพรหม คือถ้าใครทำฌานรูปฌาน และอรูปฌาน จะนึกให้มีตัวปรากฎหรือให้ตัวหายไปตามสภาวะธรรมชาติได้ คือการมีตัวคือการบังคับให้ปรากฏไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ แต่การหายไปของรูปร่างกายนั้นธรรมชาติมันเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว และที่สำคัญที่ที่พระพุทธเจ้ากล่าวเรื่องลักษณะของนิพพานคำสุดท้ายก็คือ การดับสนิทของนามรูป เพราะความดับของวิญญาณแล. สรุปถ้ารู้จักขันธ์ห้า และรู้จักทุกข์โทษของขันธ์ห้าว่าไม่ใช่ตัวตนของเราแล้ว จะเหลืออีกสามตัวบนของปฏิจจสมุปบาท แล้ววางใจหรือความรู้ต่างๆที่พระพุทธเจ้าท่านเปรียบเหมือนแพที่เราอาศัยข้ามฝาก เมื่อข้ามได้แล้วจึงให้ทิ้งคือปัญญาทั้งหมดไป จิตมโนวิญญาณจึงดับสนิท (ผมเข้ามาช่วยเสริมพุทธวจน ผมเป็นโพธิสัตว์ ไม่ต้องเชื่อก็ได้แต่อยากให้พิจารณาดูว่าผมรู้ตามพุทธวจนหรือไม่)
สาธุสาธุสาธุค่ะ
สาธุๆๆเจ้าค่ะพระคุณเจ้ายมยายขออนุโมทนาสาธุกับพี่น้องของเราท่านขเ้าใจในสายปฎิจจสมุปบาทตอนนี้ยายนั่งฟังพุทธวจนอยู่ฟังทางวิทยุพระองค์พูดญาณวัตถุ๔๔ยายอาสัยความจำพระองค์ให้หัวข้อมายายนั่งฟังอยู่กระท้อมหัลงสวน๓ชั้วโมงยายจะยกญาณวัตถุ๔๔หัวข้อแรก๑ญาณคือความรู้ในชรามรณะญาณคือความรู้ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งชรามรณะญาณคือความรู้ในความดับไม่เหลือแห่งชรามรณะญาณคือความรู้ในข้อปฎิบัติเคื่รองทำสัตว์ให้หลูถึงความดับไม่เหืลอแห่งชรามรณะเอานี้ก่อนยายเขียนผิดขออภัยนะค่ะสาธุๆๆเจ้าค่า
สาธุค่ะคุณยาย
สาธุ❤สาธุ❤สาธุ
น้อมกราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ🙏🙏🙏
ສາທຸ ສາທຸ ສາທຸ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻
กราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ
23:49
สาธุค่ะ
สาธุ.ครับในคำสอนของตถาคต.สาธุ.ครับอาจารย์คึกฤทธิ์ที่เคารพอย่างสูงที่นำคำตถาคตมาเปิดเผยครับ
สาธุ❤❤❤
สาธุสาธุสาธุอนุโมทามิครับ
อนุโมทนาบุญรัตน5ทุกท่าน
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
ท่านเป็นพรมจรรย์ของพวกเราทั่งหลายขอขอบคุณท่านพระอาจารย์เป็นอย่างมากที่นำคำพระพุทธเจ้าแท้ๆมาถ่ายทอดให้แก่มหาชนทั่งหลายได้ยินได้ฟัง.ถ้าไม่มีท่านผมคงไม่รอด.นรกแน่ๆ.ผมขอบคุณพระอาจารย์มากครับขอบคุณครับสาธุๆๆ
ขอโทษนะคะ ไม่น่าใส่เสียงดนตรีเข้าไปเลย❤
🙏🙏🙏
ช
สาธุดีมากเลยค่ะเอาพระสูตรทุกๆพระสูตรมาอธิบายให้มากขึ้นพระสูตรไหนไม่เข้าใจพอฟังแล้วเริ่มเข้าใจค่ะสาธุสาธุ
ธรรมชาติของสัตว์หรือ สัตตานัง ไม่มีรูปร่างหรือตัวตน และธรรมชาติของสัตว์คือมองเห็นและคิดเป็น ผู้มีตาทิพย์ก็มองไม่ออกระหว่างอากาศกับสัตตานัง ซึ่งสัจจายังเคลื่อนไหวไปมาได้ เหมือน อากาศแต่ไม่ใช่อากาศ(นี้แหละที่พระพุทธเจ้าบอกว่ารูปที่เรามองเห็นมันเป็นส่วนหนึ่งของขันธ์ห้า พระพุทธเจ้าถึงตรัสว่าขันธ์ห้าไม่ใช่สัตว์ และสัตว์ไม่ใช่ขันธ์ห้า ลักษณะธรรมชาติของสัตว์มีแต่มองเห็นและคิดเป็นและเคลื่อนไปมาได้ แม้ผู้มีตาทิพย์ก็มองไม่เห็นเพราะแยกได้ไม่ได้ระหว่างอากาศสัตว์ถ้าสัตว์ที่ไม่มีรูปถ้าเขาพูดด้วยก็จะได้ยินแต่เสียง ลักษณะพิเศษของสัตว์คือปฏิจจสมุปบาทสามตัวข้างบนคือ เป็นนามล้วนๆ ยังไม่มีรูปคือ 1อวิชชาปัจจยา สังขาราคือมีความไม่รู้ จึงคิดสงสัย คือสงสัยทุกอย่างมองเห็น สังขาระปัจจยาวิญญาณัง เพราะมีความสงสัย จึงมีความรู้สึกนึกคิดอยากรู้อยากเห็นและอยากสัมผัส เป็นต้น ทีนี้ครั้งแรกสัตว์จึงเริ่มมีตัวตนแบบ โอปปาติกะ เช่นเทวดาพรหม คือถ้าใครทำฌานรูปฌาน และอรูปฌาน จะนึกให้มีตัวปรากฎหรือให้ตัวหายไปตามสภาวะธรรมชาติได้ คือการมีตัวคือการบังคับให้ปรากฏไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ แต่การหายไปของรูปร่างกายนั้นธรรมชาติมันเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว และที่สำคัญที่ที่พระพุทธเจ้ากล่าวเรื่องลักษณะของนิพพานคำสุดท้ายก็คือ การดับสนิทของนามรูป เพราะความดับของวิญญาณแล. สรุปถ้ารู้จักขันธ์ห้า และรู้จักทุกข์โทษของขันธ์ห้าว่าไม่ใช่ตัวตนของเราแล้ว จะเหลืออีกสามตัวบนของปฏิจจสมุปบาท แล้ววางใจหรือความรู้ต่างๆที่พระพุทธเจ้าท่านเปรียบเหมือนแพที่เราอาศัยข้ามฝาก เมื่อข้ามได้แล้วจึงให้ทิ้งคือปัญญาทั้งหมดไป จิตมโนวิญญาณจึงดับสนิท (ผมเข้ามาช่วยเสริมพุทธวจน ผมเป็นโพธิสัตว์ ไม่ต้องเชื่อก็ได้แต่อยากให้พิจารณาดูว่าผมรู้ตามพุทธวจนหรือไม่)
สาธุสาธุสาธุค่ะ
สาธุๆๆเจ้าค่ะพระคุณเจ้ายมยายขออนุโมทนาสาธุกับพี่น้องของเราท่านขเ้าใจในสายปฎิจจสมุปบาทตอนนี้ยายนั่งฟังพุทธวจนอยู่ฟังทางวิทยุพระองค์พูดญาณวัตถุ๔๔ยายอาสัยความจำพระองค์ให้หัวข้อมายายนั่งฟังอยู่กระท้อมหัลงสวน๓ชั้วโมงยายจะยกญาณวัตถุ๔๔หัวข้อแรก๑ญาณคือความรู้ในชรามรณะญาณคือความรู้ในเหตุให้เกิดขึ้นแห่งชรามรณะญาณคือความรู้ในความดับไม่เหลือแห่งชรามรณะญาณคือความรู้ในข้อปฎิบัติเคื่รองทำสัตว์ให้หลูถึงความดับไม่เหืลอแห่งชรามรณะเอานี้ก่อนยายเขียนผิดขออภัยนะค่ะสาธุๆๆเจ้าค่า
สาธุค่ะคุณยาย