ปราสาทแห่งนี้ผู้หญิงสร้าง
HTML-код
- Опубликовано: 6 фев 2025
- ปราสาทนารายณ์เจงเวง จังหวัดสกลนคร ถือเป็นอีกโบราณสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ที่เป็นหลักฐานสำคัญ ตอกย้ำว่าดินแดนลุ่มน้ำหนองหารแห่งนี้ คือมหานครใหญ่ มีความเจริญรุ่งเรืองในยุคขอมเรืองอำนาจ โดยกรมศิลปากรระบุว่า ปราสาทนารายณ์เจงเวง น่าจะสร้างใน ราวพุทธศตวรรษ ที่ 16 เป็นศาสนสถานฮินดู เช่นเดียวกันกับปราสาทดุม ปราสาทเชิงชุม ปราสาทภูเพ็ก และอีกหลายสถานที่ ที่ปัจจุบันเหลือเพียงฐานรากปราสาท กระจัดกระจายอยู่โดยรอบ เมืองหนองหาร
ปราสาทนารายณ์เจงเวง ตั้งอยู่ที่บ้านธาตุ ตำบลธาตุนาเวง อ.เมือง จังหวัดสกลนคร สร้างด้วยหินทราย ส่วนฐานก่อด้วยศิลาแลงขนาดใหญ่ องค์เจดีย์รูปทรงสี่เหลี่ยมมีซุ้มประตูแต่ละด้าน ภายใต้ซุ้มข้างบนสลักรูปนารายณ์บรรทมสินธุ์ ประดับด้วย กนกด้านขด มุมทั้งสี่ด้านขององค์พระธาตุ เป็นรูปนาคห้าเศียร รูปสลักหลายภาพมีภาพกองกำลังทหารถืออาวุธ นอกจากนี้ตำนานการสร้างปราสาทแห่งนี้ ยังผูกกับนินาทพื้นบ้าน ปราสาทธาตุนารายเจงเวงเป็นการก่อสร้างของกลุ่มผู้หญิง เพื่อ แข่งขันกับกลุ่มผู้ชาย สร้างปราสาทภูเพ็ก เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
จากบทความในเวปไชค์ yclsakhon.com ของอาจารย์ สรรค์สนธิ บุญไยทยาน นักพิภพวิทยา นักดาราศาสตร์ ได้กล่าวถึงปราสาทนารายณ์เจงเวง โบราณสถานที่สำคัญ ล่วงผ่านมา กว่า 1000 ปี มีอะไรหายไปแล้ว และอะไรกำลังเสี่ยงกับสูญหาย
อันดับแรก
"บาราย หรือสระน้ำ ปกติปราสาทของอาณาจักรขอม จะมีการก่อสร้างบาราย โดยมีจุดประสงค์ความเชื่อ แสดงความหมายถึงทะเลที่อยู่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุ หรือเป็นที่ชำระล้างร่างกาย ในการประกอบพิธีธรรมตามความเชื่อ มาดูปราสาทที่อยู่ใกล้เคียง กับปราสาทนารายเจงเวง เช่นปราสาทเชิงชุม มีบาราย ซึ่งในปัจจุบันเรียกชื่อว่าสระพังทอง ปราสาทดุม มีบารายอยูผั่ง ช้าย-ขวา ของตัวปราสาท ปราสาทภูเพ็ก มีบารายอยู่ไม่ไกลกันกับปราสาท ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา
ปราสาทธาตุนารายเจงเวง ค้นจากภาพถ่ายทางอากาศที่เก่าที่สุดเมื่อปี 2516 ยังคงเห็นภาพบารายรูปร่างสี่เหลี่ยมพืนผ้าทางด้านทิศเหนือของปราสาทนารายณ์ แต่ในปัจจุบันบารายแห่งนี้ อยู่ในพื้นที่ของประชาชน มีการออกโฉนดเรียบร้อย บารายที่เป็นส่วนควบสำคัญของปราสาทนารายเจงเวง ได้หายไป
อันดับที่สอง
ศิวลึงค์และฐานโยนี ซึ่งศิวลึงค์และฐานโยนี ถือเป็นสิ่งที่ต้องมีอยู่คู่กับปราสาทขอม ทุกที่ เพราะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาฮินดู และศาสนาพุทธนิกายมหายาน ปรากฏกว่า ศิวลึงค์และฐานโยนี ของปราสาทนารายเจงเวง ได้สูญหายไป ปัจจุบันมีการนำพระพุทธรูปไปตั้งไว้แทน สิ่งที่ยืนยันว่าปราสาทหลังนี้ต้องมีสิ่งดังกล่าวเพราะมีหลักฐาน "ท่อโสมสูตร" ซึ่งเป็นอุปกรณ์ส่วนควบของศิวลึงค์และโยนี อีกทั้งรูปสลักต่างๆที่หน้าบันและทับหลังก็เต็มไปด้วยเทพของศาสนาฮินดูทั้งสิ้น เช่น พระศิวะ พระวิศนุ พระอินทร์ อนึ่ง ปราสาทหลังนี้หันหน้าตรงกับปรากฏการณ์ "วิษุวัต" ตรงกับวันปีใหม่ของปฏิทินมหาศักราช วันดังกล่าวต้องมีพิธีสำคัญในห้องครรภคฤหัสหรือห้องปรางค์ใหญ่
อันดับสาม
ทัศนีภาพปรากฏการณ์ "อาทิตย์อุทัย" ในวันสำคัญของปฏิทินมหาศักราช "วิษุวัต" ถูกบดบังสิ้นเชิงโดยพระอุโบสถของวัดพุทธที่สร้างขึ้นภายหลัง เชื่อว่าบรรพชนผู้สร้างปราสาทหลังนี้ตั้งใจให้แสงอาทิตย์เช้าตรู่ในปรากฏการณ์ดังกล่าวส่องเข้าไปยังศิวะลึงค์เพื่อสร้างพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู จากผลการตรวจสอบด้วยอุปกรณ์ GPS พบว่าปราสาทหันตรงไปที่มุมกวาด 90 องศา ตรงกับทิศตะวันออกแท้
อันดับสี่
สุ่มเสี่ยงต่อการเสียหายหรือสาบสูญ ได้แก่ภาพสลักอายุพันปีบนก้อนหินที่วางระเกะระกะอยู่ในคอกไม้ ตากแดดตากฝนมานานกว่า 40 ปี ภาพสลักเหล่านี้มีสิทธิ์หลุดเข้าไปในตลาดค้าของโบราณและเข้าไปอยู่ในมือของนักสะสมของเก่า ...... โดยความเห็นของ อาจารย์ สรรค์สนธิ บุญโยทยาน ว่า ควรจะมีการเก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์ ให้มีการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี เช่น พิพิธภัณฑ์เมืองสกล ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร หรือ พิพิธภัณฑ์ภูพาน ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร
บทความนี้มีเจตนาบันทึกภาพเหตุการณ์สำคัญ เรื่องราว และสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับปราสาทนารายณ์เจงเวงไว้เป็นข้อมูลให้ลูกหลานได้ศึกษาในแง่มุมเชิงวิทยาศาสตร์ และเป็นการเชิญชวนให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องช่วยกันดูแลรักษาตามหลักวิชาการ เช่น นำภาพสลักบนก้อนหินทรายไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์เพื่อให้เกิดการศึกษาเรื่องราวประวัติศาสตร์จากวัตถุพยาน และปลุกจิตสำนึกของลูกหลานให้รู้จักคุณค่าแห่งรากวัฒนธรรมของบรรพชน
ท่านอาจารย์ก็ดำเนินการเลย เป็นหัวเรือใหญ่นำเลย จะเสนออย่างไรให้ใครเป็นคนทำสานต่อให้สมบัติของชาติ ที่ประเมินมูลค่าไม่ได้เหล่านี้ ไม่สูญหาย เก็บไว้ให้ลูกหลานศึกษาต่อๆไป ถ้าพวกท่านเหล่าอาจารย์ ไม่ดำเนินการไม่มีใครหน่อยงานไหนสนใจหลอก ไม่งั้นไม่เห็นมากองแบบนี้หลอก ตากแดดตากฝน เอาไม้ไผ่มารอบไว้ ไม่เห็นคุณค่าอะไรเลย การขนย้ายก็ไม่ระวังทำให้แตกเสียหายหมด หน่วยงานต่างๆก็ไม่สนใจสมบัติชาติเกิดมาเป็นร้อยปีพันปีแล้ว
มนต์เสน่ห์ของสกลนคร รักษาไว้ค่ะ❤❤❤
น่าเสียดายอย่างยิ่งครับ
ที่สิ่งสำคัญของปราสาทได้จางหายไปที่ละอย่าง😢
เป็นกำลังใจให้อาจารย์ครับ คนปัจุบันเห็นเเก่ตัวครับ ไม่เห็นความสำคัญของดีๆบ้านตัวเอง เลย ตอนนี้ยังทันฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยครับ
ขับผ่านก็ก้อนหินที่โดนเอามาทิ้งดีๆนี่เอง เสียของโดยแท้เลยค่ะ
น่าเสียดาย มันผิดตั้งแต่แรกแล้ว ที่ในบริเวณที่เป็นเขตโบราณสถาน มีผู้ที่สามารถเข้าไปมีสิทธิ์เข้าครอบครองได้เกิดจากเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ละเลย หรืออาจมีส่วนได้เสียกับพื้นที่นั้นก็อาจเป็นได้ ไม่ได้มีการกันเขตให้เป็นโราณสถานให้ชัดเจน ดูแล้วจะเหมือนเมืองนครปฐม ที่บอกว่าอาจเป็นแหล่งศูนย์กลางอารยธรรมสมัยทวารวดี ซึ่งน่าจะมีบริเณที่กว้างใหญ่ จากปฐมเจดีย์ถึงเจดีย์พระประโทน ก็ยังเห็นมีแต่เจดีย์2องค์ และซากอิฐซากปรัก อยู่ข้างถนนข้างบิ๊กซีทางไปเมืองกาญ ที่ไม่สามารถขุดค้น ให้ได้รู้เห็นแนวผังเมือง ที่อาจจะกว้างใหญ่ เพื่อให้เชื่อมโยงต่อ ให้เห็นชัดเจนได้ เป็นแต่สันนิษฐานว่าเป็น จุดหนึ่งของอารยธรรมสมัยทวารวดี เท่านั้น เป็นที่น่าเสียดาย
นี้แหละผู้รู้จริง
ขอเป็นกำลังใจและติดตาม อาจารย์ทุกท่านค่ะ ขอบคุณที่นำสาระความรู้ให้คนรุ่นใหม่ได้ตระหนักถึงคุณค่าและสมบัติของชาติสืบต่อไปค่ะ กราบทุกท่านจากใจค่ะ ❤️🙏
เอาไป้เก็บในพิพิธภัณฑ์ค่ะ หรือไม่ก็ทำหลังคาครอบไว้เสียดาย
🙏สวัสดีครับ
ทำไมไม่ทำหลังคาคลุมไว้คะ!?
จริงครับควรเอาไปไว้พิพิธภัณ
ขอบคุณ อาจารย์ทุ่มเท เพื่อลูกหลานไทยครับ
ผู้ว่าราชการจังหวัด ควรหางบประมาณมาพัฒนาครับ กราบละครับ
เยี่ยมครับอาจารย์
เห็นด้วยนะค่ะอาจารย์
นับถือ และติดตาม
อ.สรรค์ มาก ❤❤❤
❤❤❤
🙏😊ดาวเพ็กดาวหมูชังครับ😊
👍🙏
ขอบคุณความรู้ค่ะ🙏
ทำไมปล่อยให้ไปก่อสร้างในเขตโบราณสถานได้ สิ่งปลูกสร้างใหม่ควรต้องรื้อออก แล้วจัดการโบราณสถานให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่หินทุกก้อนจะมีคุณค่าทางโบราณคดีนะครับ เราควรช่วยเหลือกันรักษาไว้
ขอบคุณครับผม...
ตัวปราสาทกว้างยาวกี่เมตรครับผมไม่เคยไปดูครับทั้งที่อยู่ใกล้กันแต่มาอยู่กรุงเทพหลายสิบปีละครับFCครับ
ไปถึงสกลนครเลย ขอม
❤❤❤❤
ิถูกที่ 1 จะไปมุงให้ งวดนี้หล่ะ
❤❤❤👍👍👍
น่าจะรื้อแล้วมาประกอบใหม่ คนรุ่นก่อนทำได้ไว้ไม่ดีเลย ดูสมัยนี้อนัสติโลซีส ทำได้ดีกว่ามาก
เจ้าหน้าที่รัฐทำอะไรอยู่แค่ขนย้ายทำบัญชีไว้กันสูญหายเอาไปไว้ที่ศูญวัฒธรรมไว้ก่อน
ต้องใส่จิตรวิญญาณ
พระภิกษุที่อยู่แถวนั้นก็ไม่มีความรู้ไม่มีความศรัทธาในโบราณสถาน
ลาว เถรวาท
คนพวกนี้จะคิดว่า ขอม คือ เขมร จึงไม่ชอบ
ลาวเถรวาท ไม่ได้มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ใด ๆ ทั้งสิ้น
ยังโชคดีที่ทำกั้นคอกไว้ให้ต่างกับหลายวัด
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ขอบคุณข้อมูลความรู้ติดตามค่ะ🙏
อยากให้ผู้ที่รับผิดชอบเก็บรักษาไว้ให้รุ่นลูกหลานได้รู้เข้าใจเสียดาย
สบายดีบ่ครับอาจารย์ฟังอาจารย์พูดแล้วได้ความรู้มากครับ
เดี๋ยวถูกยึดเอาไปเป็นวัดหาประโยชน์
ลาว เถรวาท
มันทำลายทุกอย่าง
เพราะเขาขาดความรู้