BMW i5 M60 ดีกว่า Tesla ทุกอย่าง ยกเว้น Software ในราคา x2
HTML-код
- Опубликовано: 5 фев 2025
- 1 วันเต็มๆ กับ BMW i5 M60 รถยนต์ไฟฟ้าที่แรงระดับรถสปอร์ต แต่พกความหรูหรามาแบบจัดเต็ม ทำทุกอย่างดีกว่า Tesla ต่างกันตรง Software ที่ยังด้อยกว่าพอควร ในราคาสูงกว่า 2 เท่า นำเข้าจากเยอรมันทั้งคัน
ติดต่อโฆษณาที่
Email : kritanu.vis@gmail.com
Instagram : Paknamfoto
FB : Paknam536
หัวข้อมีอ้างถึงเทสล่าด้วย เลยอยากแจมด้วย แต่ก่อนยอมรับว่าความคิดว่าเทสล่าเป็นรถที่ภายในเรียบๆเกินไปไม่ชอบเลย แต่หลังจากได้ลองใช้ขับอยู่2วัน กลับชอบความเรียบๆภายในของเทสล่า มันไม่รกและด้วยความเรียบของมันทำให้เราสามารถทำความสะอาดได้ทั่วถึง ตอนนี้ชอบมากสบายตาดี ส่วนซอฟแวร์ เจ๋งสุดแล้ว รอ Y Jupiter
Neptune แทนได้มั้ย 55 Jupiter
@@pu7768เนี่ย ผมรอคุณมาตบมุขอยู่เนี่ย จะแป้กอยู่แล้ว 55555 juniper
ถ้าพูดถึงความเป็นยนตรกรรม เป็นรถยนต์ เป็นยานภาหนะ BMW ชนะแบบไม่ต้องลอง ไม่ต้องขับ ทั้งการออกแบบในแบบของรถที่ควรจะเป็น ลองการใช้งานรับการใช้งานแบบใช้รถยนต์ เทสล่าคือเทคโนโลยีชนะ อย่างเดียวเลยค่ะ ถ้าเทคโนโลยี ไปทางเทสล่าได้เลย ถูกกว่าด้วย แต่ถ้า Petrol head และเงินถึง ยังไงก็มาทาง BMW ค่ะ
ณ ตอนนี้ขอเลือก Tesla model 3 per ชอบมาก
BMW เป็นมาตรฐานรถที่ขับสนุกและขับดี เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกอยู่แล้ว 😊 แต่รถไฟฟ้า มีระบบอิเล็กทรอนิกส์มากและต้องใช้ซอฟต์แวร์มาช่วยจัดการเยอะ ยันช่วยขับขี่แบบ ออโต้ไพลอท 😊 เหมือนโน๊ตบุ๊ก 2 เครื่อง ฮาร์ดแวร์แทบไม่ต่างกัน แต่เครื่องหนึ่งมีโปรแกรมช่วยตัดต่อ ระดับมืออาชีพ ทำให้เครื่องนั้นที่มีซอฟต์แวร์ดีๆ น่าใช้มากกว่าอีกเครื่อง สำหรับผมแล้ว รถยนต์ในอนาคต มีซอฟต์แวร์ที่ดี ช่วยขับ ช่วยเซฟตี้ เป็นสิ่งที่จำเป็นมากครับ😊
เคยไปลองนั่งเบาะแถวหลังของ i5 แล้วนั่งไม่สบายเลย สอบไม่ผ่านอย่างแรง
มันต้องเทียบ model s ไหมครับ i5 เทียบจาก มิติตัวรถ
ส่วน model3 เทียบ sieres3 รึป่าว
ไม่แน่ใจนะครับ
เพราะส่วนที่เกินมายังไงก็ไม่ได้ใช้ ซื้อเทสล่าได้2คันดีกว่า
เหมือนผมตอนแรกผมอยากได้ IX3 M SPORT PRO สรุปผมเอา Xc40 2 ล้าน กับ M3H 1.6 ล้าน เพราะรถ EV ต้องมีสลับขับแล้วก็จริง รถโดนเฉี่ยวทำสีประมาณ 1 เดือน 🤭 ถ้าออก IX3 โดนเฉี่ยวก็ไม่ขัวร์ว่าเขาจะมีรถให้ใช้ไหม
BMW vs Cadillac ค่ายใหนมีเทคโนโลยีที่เหนือชั้นกว่ากัน
ยอมเลือกเทสล่าถ้าเราไม่ได้เป็นมหาเศรษฐี
ผมใช้ iX40 กับ iX2 อยู่ จะบอกว่าจริงๆระบบ Auto One Paddle ของ BMW ไม่มีนะครับ ถ้าจะอธิบายให้ถูกต้องคือ ระบบ Regen ของ BMW มีให้ตั้งค่าอยู่ 4 ระดับ คือ ต่ำ กลาง สูง และ Adaptive ซึ่งต้องเข้าไปตั้งค่าในหัวข้อการขับขี่บนหน้าจอ iDrive
ถ้าต้องการขับแบบ One Paddle เหมือน Tesla Model 3 Highland คือต้องเข้าไปตั้งค่า Regen เป็นระดับสูง หรืออีกวิธีคือ เข้าเกียร์ B
ส่วนในคลิปคือตั้งระบบ Regen เป็น Adaptive คือรถจะเอาเรดาร์ที่ตรวจจับรถคันหน้าเข้ามาร่วมประมวลผลและปรับการ Regen โดยอัตโนมัติ ถ้าถนนโล่ง รถจะปล่อยไหล เพื่อให้ได้ระยะทางวิ่งมากที่สุด และเมื่อเริ่มเข้าใกล้รถคันหน้า รถจะเริ่มปรับระดับการ Regen ให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในการใช้งานบางครั้งถ้าเจอรถปาดหน้าเข้ามากระชั้นชิดในจังหวะที่เรายกคันเร่งอยู่ รถจะ Regen แรงเลย ทำให้คนนั้งเวียนหัวได้ ส่วนตัวแนะนำให้ปรับ Regen เป็นระดับ ต่ำ หรือกลาง กำลังดี แล้วถ้าช่วงไหนอยากขับแบบ One Paddle ค่อยเปลี่ยนเกียร์ไปที่ B ครับ
ขอขอบคุณที่มาแชร์ประสบการครับ
สำหรับพารากราฟสุดท้ายที่พี่อธิบายมา นี่แหละครับคือหลักการ Auto 1 Pedal
เพียงแต่ว่าแต่ละแบรนด์เค้ามีวิธีเรียกระบบของเค้าต่างกันออกไปครับ
รถที่มีระบบเหมือนกันอีกเจ้าคือ Volvo XC40, C40 MY 24 มีเหมือนกันครับ ใช้หลักการเดียวกับพารากราฟที่พี่อธิบายเด้ะๆ เลยครับ
ขอยกตัวอย่างเรื่องชื่อเรียกแต่ละแบรนด์ที่ต่างๆ กัน
อย่างที่เจอกันบ่อยๆ คือระบบ ACC + ADAS + LKAS
บางแบรนด์เรียกระบบกลุ่มนี้รวมกันเป็น Pilot Assist บางแบรนด์เรียกเป็น Autopilot บางแบรนด์เรียกเป็นระบบ EyeSight, Sensing
ถึงยังไง มันคือการให้ผลที่เหมือนกันครับ
ขอบคุณที่เข้ามาแชร์ประสบการกันครับ 🙏
B นึ่ถ้ายกเท้าจะถึงจุดหยุดนิ่งไหมครับ
@@TheKorndodo หยุดครับ
@@TheKorndodo B หน่วงจนหยุดเลยครับ
@@iPeck ขอบคุณมากนะครับ
ผมเลือกที่รถขับให้เราดีกว่า