Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
คิดว่าเพราะขนส่งสาธารณะมันไม่สามารถคาดเดาได้ค่ะ คนกรุงเทพเลยนิยมขับรถไปเองมากกว่า เช่น ถ้าเรานั่งรถเมล์ไปยืนรอไม่สามารถรู้ได้ว่าเมื่อไหร่จะมา(ไม่นับรวมเวลารถติด)ต้องไปคอยกี่โมงถึงจะไปทันถึงที่หมายในเวลาที่ต้องการ , bts mrt เสียบ่อยเวลาคนใช้เยอะๆ, แท๊กซี่เรียกแล้วไม่ค่อยไป** ที่สำคัญถ้าฝนตกหนักมากๆ ก็จะมีหายนะน้ำท่วมเพิ่มเข้ามาอีก 🤣🤣🤣
ผมว่าเป็นค่านิยมมากกว่าครับ ต่อให้รถไฟฟ้าทั่วถึงทั้งกรุงเทพ ผมคิดว่าค่านิยม มีรถมีบ้าน ไม่มีทางหายไปแน่ๆ
ทั้งชีวิตเคยเจอ bts ดีเล20นาทีครั้งเดียว ไม่เคยเจอเสียเลย สงสัยโชคดีหรอเนี่ยเราก็นั่งบ่อยนะ ไม่ค่อยเสีย หรือจะเสียตอนคนเยอะๆช่วงชั่วโมงเร่งด่วนหรอ
ขับรถส่วนตัวไปเอง มันก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย แต่แลกกับความเป็นส่วนตัวและสดวกสบาย บางคนคิดว่าดีกว่านั่งรถเมล์ รถแท็กซี่ วินมอไซค์ฯลฯ
ข้อเสียรถไฟฟ้าไทยคือมีประเภทเดียวคือเป็นแบบจอดทุกสถานี บางคนรีบจะนั่งแบบรถไฟด่วนก็ไม่มี แบบญี่ปุ่นนี่มีหลายแบบเลย แบบกึ่งด่วน ด่วน ด่วนพิเศษ ชินคันเซน มันจะจอดเฉพาะบางสถานี อะไรแบบนี้ เหมาะสำหรับคนรีบๆ ประหยัดเวลาแต่ของไทย bts จอดทุกสถานีกว่าจะถึง ถึงแม้จะครอบคลุมทั้งกรุงเทพ ก็นั่งกันตาแหกอะเอาจริง สมมุตินั้งจากฝั่งนน จะมา ช่องนนทรี ก็ล่อไป เกือบ2ชมละ
ผมว่าถูกนะครับ นี่คือส่วนที่ต่างกับไต้หวัน ในไทเปนี่คือป้ายรถเมล์บอกเวลาเลยว่า สายที่เรารออีกกี่นาทีจะมาถึงป้าย ไม่งั้นก็เช็คผ่านในแอพได้ มันสะดวกกว่ารถเมล์ไทยมาก ส่วนรถไฟฟ้าในไต้หวันก็ถูกกว่าไทยมากเหมือนกัน อีกอย่างที่สำคัญคือสภาพอากาศ ไทยร้อนมากแม่ นั่งรถตัวเองเปิดแอร์ฉ่ำๆ สบ๊ายย 😄😄
เท่าที่ฟังที่พูดมาคือแม่บ้านของไตหวันจะมีหน้าที่คือดูแลผู้สูงอายุแต่แม่บ้านของเมืองไทยส่วนใหญ่ จะมีหน้าที่คือทำความสะอาดบ้าน ดูแลเรื่องภายในบ้านเมืองไทยถ้าเป็นหน้าที่ดูแลคนจะเป็น พี่เลี้ยง พยาบาลส่วนตัวประมาณนี้ไม่ได้ใช้คำว่าแม่บ้าน
ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ใต้หวัน ฮ่องกง แม่บ้านจะดูแลบ้าน และสามีมีหน้าที่ทำงานนอกบ้าน
@@ไม่บอกหลอกให้งง-ธ1ญ ถ้าพูดว่า พี่แม่บ้าน น่าจะหมายถึง พนักงาน หรือลูกจ้าง ที่มีหน้าที่ ดูแลบ้าน ไม่ได้หมายถึง ภรรยา
@@ไม่บอกหลอกให้งง-ธ1ญ ฮ่องกงแม่ย้านฟิลิปปินส์เยอะมากกกกกกเลยนะคะ
อาหารเจ อาหารมังสวิรัติ ในไทย มีน้อยครับ เหตุเพราะไทยเป็นพุทธแบบ เถรวาท ซึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้าจะไม่มีการห้ามกินเนื้อสัตว์ กินได้แต่ต้องไม่ใช่เนื้อ10อย่างที่ทรงห้าม และไม่ใช่เนื้อที่เราเห็น เราได้ยินว่าเขาฆ่ามาเพื่อเรา ก็คือไปซื้อมากินได้ปกติ แต่ถ้าใครจะกินเจ พระองค์ก็ไม่ได้มีบทบัญญัติที่ห้ามไว้ แต่จะมีคำสอนๆหนึ่งคือเดินทางสายกลางไม่ สุดโต่งไปด้านใดด้านหนึ่ง ดังนั้นทางฝั่งจีนธิเบตเป็นพุทธนิกายมหายาน ก็อาจได้รับอิทธิพล มาจากความเชื่อเดิม เลยมีการกินเจ ที่แพร่หลาย ครับ #สาระก็มา
เขาฆ่าเพื่อเงินครับ จุดประสงค์ของเขา เขาไม่ได้ฆ่าเพื่อเรา
คะแนนวิชาพุทณศาสนาเต็มปายเลย
ที่ว่ามา ท่านตรัสเฉพาะพระภิกษุนะครับเรื่องเนื้อต้องหาม กับการพิจารณาก่อนฉัน ฆราวาสก็มีศีล 5 เป็นแนว คือไม่ซื้อเป็นๆ มาทุบ แบบนั้น
พ.ศ มีอายุมากกว่า ค.ศ.543ปีพี่ก็เอาไปลบไปบวก เวลาอยากรู้ว่าปีนี้คศ.เท่าไรก็เอา ปีพศ ไปลบ543 เช่น(ปีนี้2563-543=2020)
อร้ายยยหลานจ้าน
@@pangch7177 ว่าไงจีมิน😅
อ๋อออออ ขอบคุณนะครับบบบ
ไงงจีมิน&หลานจ้าน😂ทางนี้ของแจมหน่อยนะ5555555
ช่ายยยยย การคิดก็คิดแบบนี้แหละแต่บางทีก็ยังงงๆนิดนึงนะ
รถเมล์ไม่ได้สะดวกขนาดนั้นสำหรับเรา ทั้งร้อนทั้งเหนื่อยตอนรอ กว่าจะมาแต่ละรอบ ระบุเวลาไม่ได้ด้วยBTS MRT ตอนนี้ยังไม่ได้เข้าถึงทุกพื้นที่ คนมีเงินเค้าก็ซื้อรถ สะดวกกว่ามากๆ ไม่เหมือนรถไฟฟ้าใต้ดินญี่ปุ่นที่สามารถลงต่ออีกสายได้ง่ายๆเลย รถเมล์ไทยไม่สามารถระบุเวลาได้ว่าจะมาเมื่อไร แล้วถ้ามาแล้วจะได้ขึ้นไหม กว่าจะได้ขึ้นคันถัดๆไป เรารอนานสุด 3 ชม.เลยกว่าจะได้ขึ้น (ฝนตกตอนเย็นรถติด) เหมือนเล่นเกมวัดดวง เสียเวลากับการเดินทางในกทม ที่สุดเลยค่ะ ดังนั้นขับรถไปเอง รถติดบ้างก็ยังดีกว่านั่งรออย่างไร้จุดหมายแบบนั้นอ่ะนะ
เห็นด้วยทุกอย่าง ขนส่งมันแย่มากจนเรารเคยร้องไหสมัยเรียน
รถเมล์คือคาดเดาไม่ได้เลยว่าจะได้ไปกี่โมง สงสารคนใช้รถเมล์สุด ๆ TT (ในอดีตก็ฉันนี่แหละ)
นอกจากไทย เมียนม่าร์ก็ใช่ปี พ.ศ.เหมือนกับไทยแต่จะนับเพิ่มจากไทยอีก 1 ปี เพราะเมียนมาร์นับตั้งแต่พระพุทธเจ้าสิ้นพระชนม์เลย แต่ไทยนับจากพระพุทธเจ้าสิ้นพระชนม์ไปแล้ว 1 ปีค่ะ
Manowx Maxim โหิพึ่งรู้เลย
ใช่ค่ะ...แสดงว่า ถึงพ.ศ.2563 พระพุทธเจ้าสิ้นไปแล้ว2563+1=2564ปีค่ะ
เดียวนะครับมันต้องใช้ครับว่าปรินิพานไม่ใช่เหลอครับ
เจ๋อก็พึ่งรู้ นับไม่เหมือนกัน
@@kaimanu4101 อ่ออใช่ค่ะ พอดีเรียนมาแต่เลือกใช่คำไม่ถูกค่ะ55
ตุ๊กแกน่ากลัวค่ะคือเราเคยโดยตุ๊กเเกวิ่งไล่ตอนเด็กมันน่ากลัวมากจำได้ว่าร้องลั่นบ้านเลยค่ะ(ตัวมันใหญ่มาก)
เห็นด้วยค่ะ ตุ๊กแกตอนโดนไล่วิ่งหนีเหมือนหนีแรปเตอร์อะ วิ่งอย่างเร็วว 5555
ตอนเด็กพยายามจะจับตุ๊กแกครับจากไม่กลัวพอโดนกัดนิ้วแล้วมันไม่ปล่อยเท่านั้นแหละครับกลัวมาจนทุกวันนี้ 55555
เรากลัวตุ๊กแกกันที่หนายยยย...ruclips.net/video/9GCHoh2ZeMg/видео.html
บางทีเราก็คิดว่าตุ๊กแกวิ่งเร็วกว่าเราอีก55555
แต่ก่อนผมก็กลัวตุ๊กแกนะ แต่จู่ๆพ่อผมไม่รู้ไปโดนผีตัวไหนสิง พ่อหปซื้อตั๊กแกมาเลี้ยง (หมาแมวมีไม่เลี้ยง) แล้วบ้านอะมี2หลัง หลังที่พ่อแม่อยู่ไม่เอาไปปล่อยนะ มาปล่อยใส่บ้านที่ผมอยู่ แรกๆกลัวมากระแวงไปหมด แต่พอหลังๆอยู่ด้วยกันนานๆ น้องไม่อันตรายเลยนะ น้องเฉยๆ นิ่งๆ เงียบๆ จนตอนนี้ไม่กลัวล่ะ
แม่บ้าน ในไทยก็ต้องคนรวยมากๆนะครับถึงจะมีกัน ชนชั้นกลางส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะมีกันหรอกที่อยู่กันอยู่นานๆเพราะวัฒนธรรมที่ไทยค่อนข้างจะพึ่งพิงอาศัยความไว้ใจกันค่อนข้างมากสุดท้ายก็พัฒนาเป็นความผูกพันหรือบุญคุณที่มีต่อกันเลยอยู่ด้วยกันนานๆ
ใช่ ต้องรวยมาก. ชนชั้นกลางอาจจะจ้าง. ให้มาทำ. อาทิตย์ละ 1 วัน. ทุกวันนี้ แม่บ้านพี่เลี้ยงเด็ก. มีแต่พม่า. สาเหตุที่คนไทยไม่ค่อยทำงานเป็นแม่บ้าน. เพราะ. อาจจะ. อยู่บ้านเดียวกันกับเจ้านาย. แล้วก็รู้สึกอึดอัด. อีกอย่างหนึ่ง. แม่บ้าน. ก็ไม่ถูกกัน กับแม่บ้าน. ที่อยู่หลังเดียวกัน. คนขับรถ ไม่ถูกกับ แม่บ้านก็มี ความขัดแย้งมีทุกที่
บ้านเราก็ไม่ได้รวยนะ แต่จ้างแม่บ้านมาดูแลคุณยาย แต่คุณป้าแม่บ้านก็ทำทุกอย่าง งานบ้าน งานสวน และกินนอนอยู่บ้านเรา บ้านเราจ้างได้ 4-5ปีแล้ว
บ้านเราก็ไม่รวยนะ ไม่ได้ถึงร้อยล้านแต่ก็มีแม่บ้านแบบอยู่ประจำคอยดูแลบ้านงับ บ้านเพื่อนเราก็ไม่ได้รวยมาก ก็มีเหมือนกันนะ
@@peed.nananahahaha5782 ส่วนตัวคิดว่าที่คนไทยไม่ทำอาจจะมีความอดทนต่ำ พวกแรงงานพม่าจะมีความอดทนมากกว่าแบบทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองมีเงินส่งเงินกลับบ้านได้ แถมค่าเงินบ้านเราเยอะกว่าบ้านเค้าด้วย เค้าเลยยอมทำ
ไม่นะ บ้านผมก็ไม่ได้รวยระดับ10ล้านขนาดนั้น ก็ยังจ้างมา ตลอด20 กว่าปี เปลี่ยนไป เป้นคนๆ
ผมคิดว่าคนกทม. ที่ไม่ค่อยใช่ขนส่งสาธารณะ เพราะมันไม่สะดวกครับ บ้านอยู่ไกลจากป้ายรถเมล์ BTS MRT แล้วขนส่งสาธารณะพวกนี้อาจจะไม่ได้เข้าถึงทุกพื้นที่จริงๆครับ
อากาศร้อน แล้วยังมาเจอทางเท้าที่แสนสะดวกสบายไปด้วยเสาไฟและร้านค้า คิดได้แล้วก็ข้บรถไปดีกว่า
ใช่ๆๆ เจ๋อว่ารถเมล์เข้าถึงได้ทั่วกรุ่งเทพมากกว่า
@@happygoat666 ร่มพกพาช่วยได้ครับ ผมพกใส่กระเป๋าไว้เลย ไม่ต้องแคร์สายตาคนอื่น ร้อนมากก็กางเลย
อาหารมังสวิรัติที่ไทยถือว่าน้อยค่ะ มองไปที่ไหนก็เจอแต่ร้านหมูกระทะ😢
Painai Nah จิงค่ะ55555
ต้องช่วงเทศกาลกินเจ 555+
ใช่มั้ยๆ เจ๋อต้องเปิดร้านขายอาหารมังฯ แล้วแหละ
@@jerjer687 เปิดเลยจ้า ถ้าอยู่ใกล้ๆจะไปอุดหนุน เพราะต้องกินมังสวิรัติสัปดาห์ละ 2 วัน
ตอบในฐานะคนไทยที่มาอยู่ไทเปนะครับ เรื่องขนส่งมวลชนของไทเปมันสะดวกสบายกว่าที่กรุงเทพฯมาก ๆ รถ MRT ก็ใช้ระบบเดียวกันหมดไม่ต้องเข้าออกระบใหม่ถ้าต้องการเปลี่ยนเส้นทางแบบ BTS กับ MRT ของกรุงเทพฯ ส่วนระเมล์ก็มีป้ายบอกเวลาที่ชัดเจนว่ารถสายที่เรารออีกกี่นาทีจะมา มีจักรยาน Ubike ให้ใช้ต่ออีก ทางเท้าก็กว้างขวางปั่นจักยานบนทางเท้าได้ แล้วค่าโดยสาร MRT ก็ถูกกว่าของไทย เส้นทางก็ครอบคลุม แถมมีส่วนรถให้อีกเวลาใช้รถเมล์ต่อ MRT หรือใช้ MRT ต่อรถเมล์ อยู่ไทเปไม่มีรถส่วนตัวก็สะดวกสบาย ต่างจากกรุงเทพฯค่อนข้างมากครับ
- คนกทม. ใช้ขนส่งมวลชนนะคะ ใช้เยอะด้วย เต็มรถเมล์ MRT BTS นั่นไม่ใช่คนกทม. เหรอ? 55555555 เพียงแต่ถ้ามีรถ แล้วไปทางไม่ติด จะชอบขับรถมากกว่า เพราะมันไม่ร้อน คือเวลาขึ้นรถเมล์ มันร้อนค่ะ เวลาลงรถแล้ว กว่าจะเดินไปถึงที่หมายเหนียวไปทั้งตัว ฟุตบาทก็ห่วยแตก เดินไปนี่ส้นรองเท้าส้นสูงติดตลอด ส้นพังหมดค่ะ - แมลงสาบที่เมืองไทยมีหลายสายพันธุ์ หลัก ๆ มี 2 พันธุ์ ถ้าแมงสาบตามบ้านจะเป็นแบบตัวใหญ่ บินได้เหมือนที่ไต้หวัน แต่ถ้าตามคอนโดหรือโรงแรมจะเป็นอีกพันธุ์นึง มันไม่บิน ตัวเล็ก ๆ สกปรกเหมือนกันแหละ 5555- อาหารมังฯที่ไทยมีน้อย อย่ากินเลย กินปกติดีกว่า อยู่ง่ายกว่าเยอะ
คุณเจ๋อครับคุณยังต้องทำความเข้าใจและศึกษาวิถีชีวิตในไทยให้ลึกกว่านี้คุณอย่าเอาความเคยชินจากที่หนึ่งไปใช้กับอีกที่หนึ่ง ถ้าคุณอยู่เมืองไทยก็ดูว่าเขาดำเนินชีวิตอย่างไรคุณก็ปรับตัว ให้เข้ากับเมืองไทย เวลากล้บไปไต้หวันก็ไปใช้วิถีชีวิตแบบไต้หวัน แค่นี้และ
จริงๆถ้าเจ๋อเจ๋อลองเปลี่ยนเป็นถามที่ร้านว่ามีอาหารเจ หรือทำแบบเจให้ได้มั้ย? จะมีร้านอาหารที่เจ๋อเจ๋อกินได้เพิ่มอีกเยอะเลย อาจจะเป็นเพราะร้านค้าในไทยยังไม่ค่อยชินกับคำว่ามังสวิรัตินะ หรือไม่ก็ไม่แน่ใจว่ามังสวิรัติมันมีข้อห้ามอะไร และเข้าใจว่ามังสวิรัติกับเจไม่เหมือนกัน
ปัจจุบันมันมีกูเกิ้ลนะกดถามในโทรศัพท์ก็คงมีร้านเยอะอยู่
เรื่องขนส่งสาธารณะ ส่วนใหญ่คนที่มีมีรถส่วนตัวจะบอกว่ามันสะดวกกว่า ไม่เหนื่อย เป็นส่วนตัว เราไม่ชอบแมลงสาบมากกกกก ไปอยู่ไต้หวันน่าจะหัวใจวายตาย😰 จิ้งจกเจอบ่อยจนงั้นๆมาก มันไม่เข้ามาใกล้คน เลยไม่กลัว อันนี้ส่วนตัวคิดว่าตุ๊กแกน่ารัก ตอนเด็กๆที่บ้านเก่ามีตุ๊กแกอยู่ตัวนึง กลับมาทีไรก็ร้องทักตลอดเลย ตอนนี้ไม่เจอแล้ว ขำไดโนเสาร์ 55555ที่ไทยไม่ค่อยมีอาหารเจเลย หาแทบไม่เจอเรื่องพี่แม่บ้านมีอยู่ยาวเยอะเหมือนกันยิ่งครอบครัวใหญ่ๆฐานะดี มีลูกเยอะ พี่แม่บ้านอยู่ยาวมาก เรื่องล้างจานให้ดูปกติไปเลย เหมือนงานพื้นฐานแบบกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน
เจ๋อ เจ๋อว่า มันไม่ใช่ตุ๊กแก มันคือจระเข้ ใหญ่มากกก. 5555. เห็นเจ๋อ เจ๋อ แล้วนึกถึง อารมณ์แบบน้องชาย น่ารักดี
5. บ้านที่มีแม่บ้านในไทยไม่ถึงต้องรวยมากๆครับ เป็นระดับประมาณชนชั้นกลางระดับสูง ระดับเถ้าแก่ชนชั้นกลางก็มีได้ มีสองแบบคือมาทำงานเฉพาะกลางวันเหมือนพนักงานออฟฟิศ หรือมีแบบให้อยู่บ้านด้วยกันเลย 24 ชม ค่าจ้างจะต่างกัน
น่ารักค่ะ น่ารักมาก น่ารักจนตอนที่เอารูปขึ้น ต้องโยนมือถือทิ้งเลยค่ะแล้วก็เรื่องแม่บ้าน ต้องรวยค่ะ ถึงจะจ้างแม่บ้านได้ เค้าจะมีที่อยู่มีข้าวให้ด้วย พอได้เข้าทำงาน ถ้าไม่มีปัญหากับเจ้านายหรือเหตุผลอื่นๆ เค้าก็คงไม่ย้ายงานแล้ว มันเป็นงานที่มั่นคงงานนึงเลย แล้วก็ถ้าไม่ได้รวยมากแต่พอมีเงินประมาณนึง ก็จ้างเดือนละครั้ง สัปดาห์ละครั้ง ก็คือจ้างเค้ามาเพื่อทำงานบ้าน ล้างจานก็รวมอยู่ด้วย
สวัสดีครับคุณเจ่อfc..ติดตามอยู่นะครับ...คุณเจ่อ..พูดไทยได้ชัดเจนมากๆครับ...
ตุ๊กแกไม่เคยน่ารักสำหรับเราค่ะ55555 ความรู้สึกคือแบบเดียวกันพี่เลยค่ะ
Patitta kim จริง มันน่ากลัวมาก
ฮ่าาาาาา นึกว่าเจ๋อกลัวคนเดียว
น้อนน่ารักนะ5555
ตุ๊กแกนะเห้ยยยย เอาอะไรมาน่ารักอะ น่ากลัวมากกกกก ร้องก็เสียงดังตัวก็ใหญ่แถมมีจุดๆอีก พอวิ่งทีนึงอย่างกับกองทัพตุ๊กแกวิ่ง ปับๆๆๆ ขนลุก😱
ยิ่งดูยิ่งหลงรักน้องเจ๋อนะคะ น้องน่ารักจัง
1. อยู่ต่างจังหวัดค่ะ แชร์ประสบการณ์ รถสาธารณะ ไม่ค่อยมีค่ะ จะไปไหนไกลๆ ถ้าไม่ขับเองต้องไปจ้างเขาทีละ 500 ขึ้นในตัวจังหวัด ตอนเรียนมัธยมฯเคยมีรถวิ่งผ่านมาปากซอยหน้าบ้านนะคะ แต่หลังๆมาคือชอบไปส่งก่อนถึงบ้าน เกือบกิโลฯทุกที ดังนั้น แถวต่างจังหวัด เด็กส่วนใหญ่จะขับรถจักรยานยนต์เป็นกัน เด็กเล็กสุดที่เคยเห็นคือ 8 ขวบค่ะ ส่วนรถยนต์แล้วแต่บุคคล ส่วนเวลาเข้ากรุงเทพฯ เราก็ชอบรถสาธารณะมากกว่าค่ะ BTS MRT รถเมล์ 2.ส่วนเรื่องตุ๊กแก มันน่ารักแค่บางตัวค่ะ แต่ส่วนใหญ่น่ากลัว มันไม่เหมือนจิ้งจก ที่เราไล่ก็ไป แต่ตุ๊กแกตัวดุๆนี้เราสู้มันมันก็สู้เรานะคะ 3.ส่วนอาหารเจ อาหารมัง ถ้าเราไปร้านอาหารตามสั่ง บางร้านเขาก็ทำให้ได้ค่ะ แต่ที่ไทยเวลาไม่สะดวกเช่น ออกไปกินข้าวกับลูกค้าช่วงนั้นกินมังก็จะมีประเภทเจเขี่ยค่ะ เขี่ยกินแต่ผัก หมูให้เพื่อนที่สนิทกินอะไรแบบนี้ แต่แถวบ้านเราจะมีร้านที่เขาทำทั้งปีอยู่
เล่าเรื่องสนุกมากเลยครับ ภาษาไทยเยี่ยมมากครับ
ที่คนส่วนใหญ่ขับรถหนึ่งเหตุผลเลยคือขนส่งสาธารณะมันไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ค่ะ ถ้าบ้านอยู่ในซอยลึกๆก็ต้องนั่งรถหลายต่อค่ะ เสียค่าเดินทางเยอะ และเราไม่สามารถกะเวลาที่รถเมล์จะมาถึงได้ค่ะ ถ้าไม่มาก็ต้องรอไปเลยนานๆ หนูเคยรอไปสองชั่วโมงเลย ท้อมาก ในตจวก็เหมือนกันค่ะ ขนส่งสาธารณะไม่ได้ครอบคลุมจึงต้องมีรถส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์ อีกอย่างคือค่าเดินทางค่ะ ค่าbts/mrt ก็ถือว่าแพงนะคะถ้ารวมไปกลับ บางคนก็ไม่สามารถขึ้นได้เพราะงบไม่พอ และอีกหลายอย่างค่ะพี่เจ๋อ ถ้ามีรถยนต์ส่วนตัวก็จะเดินทางสะดวกไม่ต้องแย่งกับใคร ไม่ต้องรอนานๆค่ะ
เรื่องตุ๊กแกนะคะ ขอคอนเฟิร์มว่าไม่ใช่คนไทยทุกคนที่จะไม่กบัวตุ๊กแก เราเป็นคนที่กลัวตุ๊กแกมาก ถ้าเจอก็คือเว้นระยะไม่ต่ำกว่า 3 เมตรค่ะ และคนรอบตัว 10 คน มีไม่กลัว 2 คน
ถ้าไปรถไฟฟ้าสะดวกก็ไปรถไฟฟ้าค่ะแต่ถ้าต้องเปลี่ยนรถหลายครั้ง เช่น นั่งมอเตอไซค์ไปรถไฟฟ้าแล้วต่อด้วยTAXI เราเลือกที่จะนั่งTAXIตั้งแต่แรกเลยค่ะ ส่วนรถเมล์ที่ไทยค่อนข้างไม่สะอาด รถติดแล้วก็ไม่ค่อยมีแอร์ ต้องยืนรอรถเมล์นาน+อากาศร้อนค่ะ เลยไม่ค่อยใช้รถเมล์ค่า
คนไทยติดความสะดวกสะบายค่ะ บวกกับระบบขนส่งสาธารณะในไทยยังไม่ได้ดีขนาดนั้น คืออย่างในกทมมีระบบรถไฟฟ้า มีรถเมก็จริง แต่มันก็ยังไม่ได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ยังไม่ได้มีการเชื่อมต่อของระบบขนส่งสาธารณะที่ดีน่ะค่ะ ยิ่งถ้าไปต่างจังหวัดหรือใช้ชีวิตในต่างจังหวัดยิ่งต้องมีรถเลย เพราะเดินทางลำบากกว่ามาก แถมรถสาธารณะไทยไม่มีเวลาแน่นอน บางทีต้องรอรถเป็นชั่วโมงเลยนะ เสียเวลาสุดๆ ทำให้คนไทยติดนิสัยที่จะต้องซื้อรถ ขับรถเองอ่ะค่ะส่วนเรื่องแม่บ้าน ส่วนมากคนไทยตามเมืองใหญ่ จะมีคนที่มารับจ้างเป็นแม่บ้าน มีหลายแบบมากทั้งจ้างประจำอยู่หลายปี ทำงานบ้านทุกอย่างให้ ดูแลผู้สูงอายุ พวกจ้างประจำอันนี้จะเป็นพวกที่บ้านมีฐานะหน่อยค่ะ ส่วนคนในเมืองทั่วไปบางทีก็จะมีแม่บ้านที่เขารับมาดูแลทำความสะอาดให้เป็นครั้งคราวสัปดาห์ละครั้ง หรือเดือนละกี่ครั้งแล้วแต่จะจ้าง ปกติที่ประเทศอื่นไม่มีแบบนี้เหรอคะอาหารมังกับเจ ในไทยมีน้อยจริงค่ะ แล้วส่วนมากคนไทยจะกินเจแค่ช่วงเทศกาลกินเจด้วย ก็ถ้าเป็นมังอาจจะมีทางเลือกในการทานน้อยนิดนึง
1. ถ้าพวกการเปลี่ยน ค.ศ และ พ.ศ โรงเรียนที่ไทยจะสอนแต่เด็กๆเลยค่ะว่าใช้สูตร บวก/ลบ 543 เลยคำนวนง่ายค่า เช่นปีนี้ พ.ศ 2563 ลบด้วย 543 ก็จะได้ ค.ศ 20202. เดาว่าการคมนาคมที่กทม.ไม่ค่อยสะดวกเหมือนที่ไต้หวันมั้งคะ มันก็ยังมีซอย มีบางที่ที่คนไม่ถึง และมันร้อนค่ะ เลยไม่อยากลงเดินต่อ รถเมล์มาไม่ค่อยตรงเวลา อากาศร้อน (ส่วนตัวมีอีกความคิดเห็นค่ะ คือมันค่อนข้างสกปรก...) BTS,MRTราคาสูงอยู่นะคะ ถ้าให้ใช้ไปทำงานทุกวันก็เกือบครึ่งนึงของค่าเงินขั้นต่ำรายวันค่ะ แต่เอาจริงนะคะ เราเป็นคนต่างจังหวัด ก็อิจฉา กทม. มาก อยากมีตัวเลือกการเดินทางเยอะๆบ้าง ลดโลกร้อนด้วย3. เคยมีคนจีนที่มาเรียนภาษาไทย มาเช่าบ้านอยู่ใกล้ๆบ้านค่ะ เขาบอกว่ากลัวตุ๊กแกมากๆๆๆๆ เพราะบ้านเขาไม่มี แล้วเสียงมันดังค่ะ น่าสงสารมาก555555555 4. อาหารเจ/มัง ที่ไทยหาทานยากค่ะ ต้องเป็นร้านเฉพาะ ไม่เหมือนที่ต่างประเทศที่จะมีเมนู vegan/vegetarian ในเมนูปกติด้วย ปล. มันก็จะมีบางคนทานเจในวันพระ (ตาม lunar calendar ค่ะ ทุกๆ full moon กับ moonset ถือว่าเป็นวันพระค่ะ) มีหลายอย่างนะคะการทานเจ/มัง ของคนไทย บนบานบ้าง ทานในวันเกิดบ้าง ด้วยความเชื่อเรื่องอยากทำบุญ5. ที่บ้านเคยมีพี่แม่บ้านค่ะ พ่อแม่ทำงานนอกบ้าน ตอนนั้นเรายังเด็กด้วยเลยมีเพื่อช่วยทำงานบ้าน ดูแลเด็กอะไรแบบนี้ค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็น middle class ขึ้นไป ซึ่งก็พบได้เยอะในครอบครัวที่ทำงานนอกบ้านค่ะ เดี๋ยวนี้ก็จะเจอพวกแม่บ้านรับจ้างรายวันเยอะกว่าค่ะ อาจจะไม่ได้อยู่บ้านด้วยกัน มา1ครั้ง 2ครั้งต่ออาทิตย์ หรือไปกลับ เอาง่ายๆคือคนไทยเริ่มขี้เกียจทำงานบ้านมั้งคะ55555555 และค่าจ้างแม่บ้านไม่แพงมากค่ะ ส่วนใหญ่ถ้าอยู่บ้านด้วยก็จะมาจากประเทศเพื่อนบ้านค่ะ เลยคิดว่าคนไทยเลือกที่จะจ้างแม่บ้านเพราะสะดวก หาง่าย ไม่แพง
1) แนะนำวิธีเปลี่ยนจาก ค.ศ. เป็น พ.ศ. ก็ให้เอา 543 มาบวก เช่น 2020+543 = 2563 หรือเอา 543 มาลบถ้าต้องการเปลี่ยนจาก พ.ศ. เป็น ค.ศ (2563-543 = 2020)2) ค่าแรงคนไทยยังไม่แพงมาก ถ้าเทียบกับชาติตะวันตกหรือแมัแต่ไต้หวัน คนไทยก็ยังสามารถ afford แม่บ้านได้ แต่เดี๋ยวนี้หายากมากขึ้นแล้วเพราะค่าแรงแพงขึ้น ถ้ามีสมัยนี้ก็อาจจะเป็นคนไทยใหญ่หรือคนลาวแล้วคะ3) คนไทยรักสบายและอากาศร้อนด้วย ก็เลยชอบขับรถไปเองกันมากกว่าคะ
สำหรับเราตุ๊กแกน่ากลัวค่ะ ตัวมันใหญ่ม๊ากกก แต่จิ้งจกน่ารักค่ะตัวเล็กตะมุตะมิ เเต่ก็ไม่ชอบอยู่ดีทั้ง2ตัวเลย ถ้าให้ไปสัมผัสตัวมันก็ไม่เอาค่ะ ขยะแขยง สยิ๊ว ขนลุก 😬
น้องตัวนิ่มค่ะ แต่ชอบทำตัวร้ายๆโดยการกระโดดเกาะหลัง
ผมเลิกกลัวตุ๊กแกล่ะ 555+ พ่อเอามาปล่อยเลี้ยงที่บ้าน1ตัว อยู่ด้วยกันมา 2ปีล่ะ นานๆถึงจะเจอกันที ไม่รู้น้องไปหลบอยู่มุมไหน แต่ตอนเอามาปล่อยแรกๆ น้องเดินสำรวจทั่วบ้านเลย ผมเห็นแต่ละทีใจหายตกลงไปตาตุ่มเลย แต่ปัจจุบันเฉยๆไม่กลัว
เจ๋อเห็นด้วยกับคุณเลย จิ้งจกน่ารักดี แต่พอตัวใหญ่ขึ้นมาเป็นตุ๊กแก ก็เริ่มน่ากลัวละ
@@jerjer687 จิ้งจกไม่ได้กลายเป็นตุ๊กแกนะคะ
@@jerjer687 มันคนละสายพันธ์ุเลยครับ จิ้กจกคือจิ้กจก แต่ตุ้กแกตอนตัวเล็กก็น่ากลัวมากเหมือนกัน หัวใหญ่จริงขนาดตัวเล็ก มีลาย สยิวเลย
ตุ๊กแกน่ากลัวมากค่ะ เห็นไม่ได้เลยแค่ได้ยินเสียงก็ขนลุกแล้วว
ที่บ้านหนูก็มีแม่บ้านค่ะ ฐานะปานกลาง แต่ที่มีเพราะว่าแม่ทำงานเช้ากลับมืด ไม่มีเวลาทำอาหารทำความสะอาดเลยต้องจ้าง แม่บ้านคนนี้ก็เหมือนคนในครอบครัวไปแล้วค่ะทำมาเกือบ10ปี
อาหารเจกับอาหารมังสวิรัติในไทยจะมีขายทั่วไปเฉพาะช่วงเทศกาลกินเจครับ ช่วงเวลาปกติอื่นๆคือหายากมาก เขาจะขายกันเฉพาะที่จริงๆ ไม่ได้หาง่ายตามร้านข้างทาง
ที่เคยเห็นหลายๆคนนะคะ ก็ต้องคนไม่มีหนี้ไม่มีสินมีเงินมั่นคงอ่ะค่ะถึงจะจ้างแม่บ้านหรือพี่เลี้ยงอะไรอย่างนี้ คนธรรมดาส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจ้างกัน ละที่เห็นส่วนใหญ่เค้าก็นับถือแม่บ้านเป็นคนสำคัญในครอบครัวเหมือนญาติอะไรอย่างนี้เลยค่ะ เลยพึ่งพาอาศัยกันได้นานเป็น10-20ปี
ชอบการจำลองสถานการณ์ของคุณเจ๋อเจ๋อ ที่ทำคลิปคุยกับตัวเอง น่ารักอ่ะ 😆😆
ที่คนไทยบางส่วนไม่ค่อยใช้ขนส่งต่างเพราะ1ไม่ค่อยทั้วถึงทุกเส้นทาง2ราคาเมื่อเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำค้อนข้างแพง(มาก)3มีไม่พอต่อคนใช้งานในช้วงเวลาเร้งด่วน
ตุ๊กแกไทยน้องว่าถ้ามองดูเฉยๆก็ไม่น่ากลัวนะคะ แต่ถ้ามันวิ่งไล่เมื่อไหร่ก็ไม่อยู่เหมือนกันค่ะ55555555คนที่มองว่าน้องๆน่ารักพวกเค้าอาจจะเป็นพวก reptiles lovers ก็ได้นะคะ อย่างน้องก็มองว่าตุ๊กแกเลี้ยงอย่างพวกตุ๊กแกเสือดาว(หรือที่คนอื่นๆอาจจะรู้จักกันในชื่อตุ๊กแกหน้ายิ้ม) มันก็น่ารักดีนะคะะ
พ่อผมทานมังสวิรัติมา 30 ปีน่าจะได้ ให้ใช้วิธี สั่งเลยครับ ไม่ต้องถามว่ามีอาหารเจไหม เพราะคำตอบคือไม่มีแน่นอน (เจสะอาดใช้ไม่ได้นะ)เช่นไป ฮาจิบังราเมน สั่งชาฮั่งไม่ใส่เนื้อหมู ใส่ซีอิัว ไปเอ็มเค ก็ต้มผักปกติ ไปร้านต้มกลางคืน สั่งโลดผัดผักไม่ใส่เนื้อสัตว์ใส่ซีอิ้วไม่เอาน้ำปลา ผัดเต้าหู้บลาๆ ไปไหนก็ง่ายขึ้นเยอะครับ
ตุ๊กแกน่ารักค่ะ หน้าตา และสีสันสวยงาม😊
ขนส่งธารณไทยไม่สะดวกเท่าไต้หวัน เเล้วก็ BTSกับMRT สถานนีมันมียังไม่ทั่วถึง เเต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนใช้นะทั้งรถเมล์ MRT BTS มีคนใช้ งง ว่าทำไมถึงคิดว่าคนกรุงเทพไม่ใช้?
มันนี้จริงมากสำหรับเรา- ปัญหาหลักของ BTS MRT คือสถานีน้อยมาก เราไม่สามารถใช้แค่ BTS MRT กับการเดินเท้าไปทุกทีที่อยากไป ไปได้แค่สถานที่สำคัญจริงๆ- ส่วนรถเมล์คือสายซับซ้อนมาก ที่ขึ้น หรือลงจอดซับซ้อน ไม่มีป้ายบอกชัดเจน แถมรถก็คุณภาพไม่ดี แบบที่นั่งได้สบายใจแบบ BTS MRT - รถตู้ คือตัวเลือกที่ดีสำหรับเรา เพราะรอคนไม่นาน ขับตรงไปบังจุดหมายเลย ข้อเสียคือ ยังไม่สามารถไปได้ทุกทีอีกเช่นเคยแต่ตอบโจทย์กว่า BTS- ปัญหาสำคัญอีกข้อนึงของประเทศไทยคือทางท้าวมันไม่ดี เอื้อให้เราเดินได้วันมากๆ
เมืองไทย บางบ้านมีรถส่วนตัวมากกว่าจำนวนสมาชิกคนในบ้านซะอีกนะจ๊ะ
คลิปนี้เจ๋อเจ๋อ เล่นใหญ่รัชดาลัยเทียร์เตอร์ มากครับ🤣🤣🤣
เวลาขับรถลมมันเย็นดีครับสบาย
ชอบตุ๊กแกน่ารักดี ไม่ถึงกับน่ารักแค่ดูมีคาแรคเตอร์ประมาณนั้นชอบเจ๋อเจ๋อนะเล่าสนุกน่ารัก
ขอตอบคำถามที่ถามว่า กรุงเทพมีทั้ง MRT/BTS ทำไมคนกรุงเทพถึงนิยมขับรถยนตร์ส่วนตัวมากกว่า ยาวนิดนึงนะคะ เพราะว่าค่าโดยสารของ MRT/BTS แพงกว่ากว่าน้ำมันรถ หรือแก๊สรถยนตร์ หรือบางทีน้ำมันรถอาจจะแพงกว่านิดหน่อย แต่ไม่ต้องต่อรถหลายสายด้วย เช่นเราเองบ้านอยู่ในซอยค่ะ จะไปสยามต้องนั่งวินมอเตอร์ไซค์ออกมาหน้าปากซอย (10 บาท)ถ้าจะไป BTS ต้องนั่งรถเมล์ (ประมาน10บาท) ไปลงBTS วงเวียนใหญ่ แล้วค่อยต่อไปสถานีสยาม (ประมาน 50+บาท) ไปกลับคิดเป็นประมาน 140 บาท แถมใช้เวลาเกือบ 1 ชม. หรือมากกว่านั้นในกรณีที่รอรถเมล์ไม่มา หรือรถติด และประเทศไทยอากาศร้อนมากเหงื่อออกเยอะ ทำให้หมดอารมณ์เที่ยวอีก ขับรถไปเองสะดวกสบายกว่ามากถ้ารถไม่ติด 30 นาทีก็ถึงแล้ว และรถยนตร์ติดแก๊สแบบของเรา คิดค่าเดินทางไปกลับแค่ประมาน 50+ บาทเองค่ะ ที่สำคัญไม่ต้องทนร้อนด้วย และจะกลับดึกแค่ไหนก็ได้ 😁
ถ้าหากเจ๋อ ไม่ได้เคร่งครัดเรื่องอาหารมังสวิรัติมาก ถึงขนาดต้องแยกภาชนะในการปรุงอาหาร หรือจานชามใส่อาหาร ร้านอาหารตามสั่งที่ไหนก็ทำให้ได้ แค่สั่งอาหารตามปกติแล้วสั่งว่า ไม่ใส่เนื้อสัตว์ เท่านั้นเองครับ เพื่อนผมคนหนึ่งเขาก็ทานมังสวิรัติ เขาก็ทำแบบนี้ และยังให้เปลี่ยนจากใส่น้ำปลาเป็นซีอิ้วแทน
เรื่องเจหรือมังสวิรัติไม่ค่อยมีร้านโดยเฉพาะค่ะ จะมีขายแค่หน้ากินเจเท่านั้น ส่วนใหญ่เวลาสั่งก็จะสั่งกับร้านเองว่าไม่ใส่เนื้อสัตว์ เช่น ต้มยำเห็ด กระเพราเห็ด หรือสั่งที่เป็นผักล้วนเลย เช่น ผัดผักบุ้ง ผัดผักรวมมิตร ผัดยอดอ่อนทานตะวัน
ทอล์คโชว์กับพี่โน๊ตอุดมเลย คงสนุกดี
น้องน่ารัก กดติดตามแล้วนะ
สำหรับเราบ้านก็ฐานะปานกลางจ้างแม่บ้านไว้อยู่ด้วยกันตั้งแต่เราเกิดก็เกือบยี่สิบปีแล้ว อยู่ที่ความสะดวกของแต่ละคนมากกว่าค่ะ เพื่อนเราหลายคนที่บ้านก็จ้างแม่บ้านเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องรวยมากก็ได้ค่ะ บางคนอาจไม่มีเวลามาดูแลบ้านจริงๆการจ้างไว้ก็เป็นเหมือนทางเลือกมากกว่า ของที่บ้านก็มีการจ้างคนดูแลเฉพาะกิจเหมือนกัน เช่นตอนเด็กๆก็จ้างพี่เลี้ยง หรือตอนยายป่วยก็จ้างคนมาดูแล ซึ่งตรงนี้จะทำหน้าที่ต่างจากแม่บ้านค่ะ แม่บ้านก็คือทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับการดูแลบ้าน ถ้าเรากินข้าวจานสองจานล้างเองก็ไม่ผิด แต่รอให้แม่บ้านล้างให้ก็ได้เหมือนกัน
แม่บ้านในไทยมีหลายแบบค่ะ ถ้ารวยมากๆก็จะเหมือนในละครเลยที่อยู่กินบ้านเจ้านายแล้วส่งเงินกลับบ้านอย่างเดียว คำที่เรียกจะเป็น"คนใช้"ซึ่งหลายๆคนอาจจะรู้สึกไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่เพราะเป็นการแบ่งแยกชนชั้น อ้างอิงจากละครก็คือคนกลุ่มนี้ส่วนมากจะเป็นคนต่างจังหวัดไม่มีการศึกษามาทำงานตั้งแต่สาวๆ มีหน้าที่ทำความสะอาดบ้านและทำตามคำสั่งจุกจิกทั่วไปในบ้านค่ะ ความสัมพันธ์จะเป็นแบบนายจ้าง-ลูกจ้างแต่ถ้าเป็นแม่บ้านแบบที่พบเห็นได้ทั่วไปในครอบครัวชนชั้นกลางจะเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือพี่เลี้ยงที่จ้างมาเพราะเป็นครอบครัวขนาดเล็ก พ่อแม่ต้องทำงานไม่มีใครเลี้ยงดูเด็ก พี่เลี้ยงส่วนมากจะอยู่อาศัยในบ้านด้วยเลย ถ้ามีเวลาว่างจากการดูแลเด็กจะช่วยดูแลทำความสะอาดบ้านให้ค่ะ ด้วยความที่เด็กโตมาแบบใกล้ชิดกับพี่เลี้ยงจะทำให้มีความสนิทสนมกันมากกว่า มีความเป็นครอบครัวผสมกับนายจ้าง-ลูกจ้างค่ะ (คนดูแลสูงอายุก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้)แบบที่สองคือแม่บ้านทำความสะอาด กลุ่มนี้จะไม่ได้อยู่อาศัยที่บ้านเราค่ะ แต่จะทำงานเป็นวันๆตามสัญญาจ้าง เช่น มาอาทิตย์ละกี่วัน วันไหนบ้าง ขอบเขตการทำงานมีอะไรบ้าง เท่าที่เจอจะเป็นการแนะนำบอกต่อๆกันค่ะว่าแม่บ้านคนนี้ไว้ใจได้ ทำให้แม่บ้านทำงานหลายหลังในหนึ่งสัปดาห์ เช่น วันจันทร์ทำบ้านA วันอังคารพฤหัสทำบ้านB วันพุธศุกร์ทำบ้านCและแบบสุดท้ายคือเป็นแม่บ้านบริษัทค่ะ ซึ่งการทำงานจะเป็นรูปแบบให้บริษัทจัดการเป็นนายหน้าให้ จะทำเป็นครั้งๆไป หรือเป็นสัญญาระยะยาวแบบกลุ่มก่อนหน้า แต่อาจจะเปลี่ยนคนไปเรื่อยตามที่บริษัทจัดสรรคนค่ะ ไม่เหมือนกับกลุ่มอื่นๆที่จะจ้างคนเดิมตลอดหลายปี เพราะต้องไว้ใจได้ถึงขั้นให้ถือกุญแจบ้านและเข้าออกบ้านได้ในเวลาที่เราไม่อยู่ค่ะ
คนไทยไม่ชอบใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเพราะว่ามันค่อนข้างไม่เป็นระเบียบและแออัด พวกรถไฟฟ้าไม่สามารถเดาได้ว่าจะขัดข้องตอนไหน รถเมล์ต้องมานั่งเดาว่าจะจอดป้ายเราไหม พนัักงานขับขับเป็นยัังไง คนเก็บค่ารถโดยสารสุภาพไหม(ส่วนตัวชอบเจอแบบพูดจาห้วนพูดแดกดันลูกค้า) แท็กซี่ต้องมานั่งเดาว่าคันนี้ส่งแก๊สไหม คันนี้ส่งรถไหม วินมอไซต์บางที่มีนิสัยชอบเเซวผญ. (น่ากลัวมากจริงๆค่ะ) และที่สำคัญรถติดมากก ติดแบบมากก ต้องไปยืนเบียดบนรถเมล์เราเลยคิดว่านั่งติดบนรถส่วนตัวน่าจะดีกว่าค่ะ ไม่นับป้ายรถเมล์ที่แทบกันฝนไม่ได้เวลายืนรอรถเมล์กว่าจะมาก็เปียกโฉก การลงทุนซื้อรถจึงเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นอีดนิ๊ดในประเทศไทย ส่วนเรื่องแม่บ้านอันนี้มักทำเป็นอาชีพเลยค่ะ หน้าที่หลักคือทำงานบ้านคือ(เราว่าทุกคนไม่ชชอบทำงานบ้านนะคะเพราะแบบใช้ชีวิตข้างนอกก็เพลียแล้วน่ะค่ะ) พวกซักผ้า ล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน ก็คือมักถูกจ้างมาทำงานบ้านทัั้งหมดค่ะ ส่วนที่อยู่เป็น 10 ปี คือบางบ้านเขาจะให้แม่บ้านเข้ามาพักในบ้านเลยค่ะซึ่งอยู่ตลอด 24 ชม. ไม่ได้จ้างรายวัน เราคิดว่ามันน่าจะสบายใจกว่าถ้าเราไม่เปลี่ยนแม่บ้านบ่อยเพราะจะได้ไม่มีความกังวลว่าแบบจะถูกขโมยไหมเขาจะตีสัตว์เลี้ยงเราไหมประมาณนี้ค่ะ
- แมงสาบไทยก็บินนะ- พี่แม่บ้านไทยจะเป็นประมาณ house keeper ส่วนคนดูแลผู้สูงอายุ หรือดูแลผู้ป่วย จะเทียบได้กับ caregivers หรือถ้ามีตังหน่อยก็จะจ้างพวกพยาบาลดูแล (nursing care) พวกนี้จะไม่ยุ่งกับงานบ้านเลยจะทำเฉพาะของคนที่เราจ้างเท่านั้น
1. ที่ใช้พ.ศ.เป็นปีราชการเลย คิดว่ามีไทย, พม่า, ศรีลังกา นะครับ แล้วมีลาวกับกัมพูชาที่ใช้ร่วม (แต่ราชการใช้ค.ศ.)2. ถ้าไม่นับรถเมล์ มันเพิ่งมีไม่นานน่ะครับ ไม่ครอบคลุม อย่างบ้านผมก็เพิ่งเปิดไม่ถึงปี แต่ตอนนี้ก็ใช้มากขึ้น ส่วนรถเมล์ ระบบมันจำยาก ไม่ใช่เส้นทางที่ใช้ประจำจะไม่รู้เลยว่าต้องขึ้นยังไง สายไหน บางเส้นทางใกล้ๆแต่ต้องเปลี่ยนสายรถเมล์ก็งงอีก แถมเวลาก็ไม่แน่นอน ถ้าระยะทางประมาณ 2--3 กิโล เดินไปเลยไม่ต้องรอรถเมล์ ยังถึงก่อนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก การขับรถเลยถือว่าสะดวกมาก แถมมีเรื่องแดด เรื่องฝนเป็นปัจจัยเสริมด้วย3. ก็แล้วแต่คนแหละครับ แค่เคยเจอเกาะเสาไฟหน้าบ้านแล้วไม่รู้ตัว เดินผ่านมันร้องข้างๆหูเลย ห่างไม่ถึง 30 เซ็นอันนี้มีสะดุ้งเหมือนกัน4. อาม่า(ที่เสียไปแล้ว)ของผมก็กินแบบ ชูอีสืออู่ซู่ นะครับ วันนั้นแกจะแยกสำรับออกไปกินคนเดียวเลย ส่วนถามว่าหา อาหารมังฯ ยากมั้ย ผมว่ายากระดับนึงนะ ที่หาได้ทั้งปี ผมคิดว่าต้องชุมชนจีนเก่า เช่นเยาวราช หรือโซนตลาดฝั่งธนฯที่อยู่ใกล้แม่น้ำ พวกนี้จะมีอาหารเจขายทั้งปีอยู่บ้าง (แต่หลังๆก็น้อยลง คนจีนรุ่นใหม่ๆไม่ได้กิน) หรือไม่ก็ไปโซนสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆเลย ที่มีเมนูรองรับชาวต่างชาติ แต่ถ้ากินน้ำปลาได้ พวกร้านตามสั่งต่างๆน่าจะพอตอบสนองได้ แค่บอกว่าทำแบบเจ แต่ใส่น้ำปลาได้5. เอาตามมุมมอง เจ๋อเจ๋อเป็นแขก ตามมารยาทเจ้าบ้านจะไม่ให้ทำครับ อย่างมาบ้านผมไม่มีแม่บ้าน ผมก็บอกแค่ว่ากองไว้เดี๋ยวล้างเอง อันนี้เรื่องมารยาท แต่ถ้าเพื่อนสนิทๆมาปาร์ตี้ แล้วมาช่วยทำช่วยล้างอันนี้ก็เป็นอีกเรื่อง แต่ถ้ามีแม่บ้านมันสามารถมองได้ว่า มันรวมอยู่ในค่าจ้างอยุ่แล้วเลยให้แม่บ้านทำ (อย่างบ้านเพื่อนผมก็มี แล้วแม่บ้านจะชอบเพราะงานหนักขึ้นก็จริง แต่จะได้อาหารหรือวัตถุดิบที่เกินมาฟรีๆ หรือถ้าไม่มีอะไร ก็จะให้ทิปพิเศษไป แต่อันนี้ถือว่าเป็นเรื่องของแต่ละบ้าน)
เราก็ทานมังสวิรัติเหมือนกันค่ะ อยากแนะนำร้านชื่อ สุธัญทิพย์ มังสวิรัติ ร้านนี้อาหารเยอะ แล้วก็อร่อยด้วยค่ะ สั่งผ่าน grab get ได้ค่ะ
แม่บ้านที่บ้านอยู่มาจะ25ปีแล้วค่า ที่บ้านเพื่อนๆก็มีแม่บ้านที่อยู่มานานตั้งแต่เด็กแบบนี้เหมือนกันแทบทุกคนเลยค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้วพ่อแม่จะจ้างให้มาดูแลลูกตั้งแต่เล็กๆ พอลูกโตแล้วบางบ้านอาจจะเลิกจ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็คือจ้างต่อ ให้ที่พักอาหารอะไรด้วยเลย บ้านเราคือแทบจะกลายเป็นคนในครอบครัวไปแล้ว555 ไม่รู้บ้านอื่นเป็นแบบบ้านเราหรือเปล่านะคะ
ตุ๊กแกที่บ้านสวนเรามีตัวนึง น่ารักมากใครจะมาทำมันเราจะดุเลยเพราะมันมีประโยชน์มากนะเพราะแมลงในบ้านสวนเราเยอะมากน้องตุ๊กมีประโยชน์นะจ๊ะเจ๋อๆ
-ขอแยกเรื่องเป็นเรื่องขนส่งสาธารณะนะคะ ด้วยความที่เมืองไทยการใช้รถสาธารณะไม่สามารถคาดการณ์เวลาได้เลย บางคนเลยเลือกที่จะใช้รถส่วนตัว แต่BTS/MRT ช่วง rush hourคือแทบจะสิงกันค่ะ คนใช้รถส่วนตัวก็เยอะ ใช้ระบบขนส่งมวลชนก็เยอะค่ะ อีกอย่างคือเส้นทางของการเดินรถต่างๆไม่เชื่อมต่อกันทำให้เสียเวลาและเสียค่าใช้ง่ายแพงขึ้น - เรื่องของแม่บ้าน แม่บ้านที่ไทย หลักๆเลยมีหน้าที่ ทำความสะอาด ล้างจาน อาจจะมีบางบ้าน ซักผ้า ทำอาหารด้วยการดูแลผู้สูงอายุส่วนมากในไทยจะให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมาดูแล จะไม่จ้างคนทั่วไปเท่าไหร่ อิงจากบ้านเรานะคะ อากงของเรา87แล้วต้องทานยาและมีการทำกายภาพบำบัด ดังนั้นเลยต้องอาศัยความชำนาญในด้านนั้นๆ ในการดูแลผู้สูงอายุและขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการจ้างและสัญญาจ้างค่ะ
ในความคิดเรานะคะ- แม่บ้าน = จ้างมาดูแล/ทำความสะอาดบ้าน- คนสวน = จ้างมาตัดหญ้า/ดูแลต้นไม้- พี่เลี้ยงหรือพยาบาล = จ้างมาดูแลคนที่เราอยากให้ดู เช่น พี่เลี้ยงเด็กหรือคนสูงอายุในบ้านส่วนแม่บ้านที่อยู่5-10ปี คือเราว่ามันหาคนที่ไว้ใจได้ยากค่ะ พอทำงานด้วยแล้วโอเคเลยจ้างยาวๆเลยค่ะ😂
เจ๋อเจ๋อทำคลิปน่ารักดี ดูสนุกมากติดตามละน๊า ขอบคุนมากจริงๆ😍
น้องน่ารักจังจะติดตามนะค่ะ
3:25 อาชีพบางอาชีพ require ต้องขับรถเป็นด้วยนะคะ ทำให้การขับรถเป็น skill ที่ควรมีค่ะ7:40 ที่ออฟฟิสพี่มีคนไม่กินเนื้อสัตว์ในวันเกิด เช่น เกิดวันจันทร์ ทุกวันจันทร์ก็ไม่กินเนื้อสัตว์ หรือวันพระ(วันสำคัญทางศาสนาพุทธ) ด้วยค่ะ
เรื่องที่ไม่กินเนื้อสัตว์ในวันเกิด น่าสนใจมากๆเลย พึ่งเคยรู้ครับบบ
@@jerjer687 บางทีเกี่ยวกับความเชื่อบางอย่างค่ะ เช่น บางคนอาจจะไปบนบาน สาบาน ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วได้ผลก็เลยสัญญาว่าจะงดเว้นเนื้อสัตว์ในวันเกิดตัวเองเพื่อตอบแทนพรที่ขอไว้ค่ะ
ส่วนตัวกินมังแบบกินนมไข่วันพระค่ะ ง่ายๆคือไม่กินเนื้อสัตว์ เราว่ามันจำง่ายแถมสะดวกอยู่นะคะ
4:52 อาจจะเพราะบางคนไม่ชอบอยู่ในที่แออัดหรือไม่ก็ไม่ชินกับการอยู่ที่ๆตัวเองไม่ค่อยคุ้นชินอาจจะเพราะมีความสบายใจมากกว่าค่ะเพราะเราขับรถไปเรียน,ทำงาน,เที่ยวกันอยู่แล้วค่ะ
รึเปล่า?
-ส่วนตัวเราว่าใช้รถส่วนตัวสะดวกกว่า-อาหารมังสวิรัติไม่ค่อยมีขายเยอะอาจเพราะคนไทยไม่ค่อยนิยมทาน-ตุ๊กแก!!!! มันน่ากลัวมากกกกกกก-เท่าที่ฟังเจ่อเจ๋อพูดแม่บ้านที่ไต้หวันคงจะทำหน้าที่คนละแบบกับที่ไทย จากที่เจ่อเจ๋อพูด พี่แม่บ้านของไต้หวันอาจจะมีหน้าที่แค่ดูแลอาม่าอากง แต่ที่ไทยส่วนใหญ่พี่แม่บ้านจะทำทุกอย่าง ทำความสะอาดให้ ทำความสะอาดบ้าน ทำกับข้าว ล้างจาน ซักผ้า ดูแลเราอำนวยความสะดวกทุกอย่างให้เรา ประมาณนี้ค่าาา
ขนส่งสาธารณะในกรุงเทพค่อนข้างไม่ทั่วถึงและไม่สะดวกมากๆๆๆๆๆค่ะ ใจจริงอยากใช้รถไฟฟ้านะคะ แต่ด้วยความที่บ้านเราอยู่ชานเมืองจากบ้านเราสถานีBtsที่ใกล้ที่สุดคือวงเวียนใหญ่ซึ่งกว่าจะถึงก็ต่อรถ3ต่อ ใช้เวลาประมาณ1ชม.กว่าๆกว่าจะถึงBtsค่ะ ไม่มีMrtด้วยนะคะเศร้ามากๆ รถเมล์ยิ่งไม่สะดวก ต้องเผื่อเวลาเป็นชั่วโมงเพราะไม่รู้จะมาตอนไหน ถ้ามีการพัฒนาให้ดีได้สักครึ่งนึงของไต้หวัน ญี่ปุ่นคนใช้เพิ่มแน่นอนค่ะ เบื่อกับการหาที่จอดรถมากๆ😂
- แมงสาบที่ไทยก็บินได้ค่ะ แต่ไม่ได้บินบ่อย เคยเจอตอนอยู่หอพัก กริ๊ดยาวเลยทีเดียวววว 555- ตุ๊กแกเป็นสัตว์ที่น่ากลัวมาก คนไทยส่วนใหญ่ก็กลัวส่วนตัวถ้าเจอคือร้องไห้เลย กลัวมากๆค่ะ ถ้ามีมันคือไม่มีเรามันเป็นสัตว์ที่สู้คน เคยให้คนมาจับออกจากบ้าน แล้วมันขู่ คือน่ากลัวมากกกกก 😱😱😱
มันแพง นั่งหลายต่อ มอไซด์ สองแถว รถเมล์ bts กว่าจะถึง หัวฟู
ติดตามครับรุ้สึกได้ความรุ้
1.ตุ๊กแกเป็นอะไรที่น่ากลัวมากค่ะ จิ้งจกเราก็กลัว คืออยู่ในบ้านไม่ได้เลย ต้องให้แฟนจับออกไป 2.อาหารเจหรือมังสวิรัติในไทยน้อยมากกกก น้อยจริงๆ จะมีเยอะแค่ช่วงเทศกาลกินเจ คงเป็นเพราะไม่ค่อยมีคนกินค่ะ ถ้าอยากกินเจต้องทำเอง ไม่ก็พี่ง 7/11 อย่างเดียวเลย
เรื่องขนส่งสาธารณะ เราว่าเป็นเพราะว่าขนส่งสาธารณะ ยังไม่มากพอที่จะเข้าถึงคนทุกพื้นที่ให้เดินทางสะดวกสบายได้ค่ะ เช่นรถไฟฟ้าสายจะค่อนข้างน้อย ถ้าเทียบกับประเทศอื่น ต้องเดินทางหลายต่อ เสียเงินหลายรอบกว่าจะถึงที่หมาย หรือถ้ารถเมล์ ก็ไม่ค่อยสะดวกค่ะ เพราะหลายสายไม่มี GPS.ทำให้คาดเดาไม่ได้ว่าจะถึงเมื่อไร อากาศก็ร้อน คนเลยชอบขับรถส่วนตัวกันมากกว่า
เรากลัวตุ๊กแกนะ แต่เพื่อนบางคนบอกว่าน่ารักอ่ะ5555 บางคนเค้าชอบสัตว์พวกนี้ เห็นใน ig story มันหยิบจิ้งจกในบ้านมาเป็นสัตว์เลี้ยงเชียว
จะบอกว่า ช้านกลัวตุ๊กแกมากที่สุด มันหลอนมาก คือ มาก ๆๆๆๆ ออกไป๊!!!
เคยไปกินร้านสุกี้หยูอี้ไหมครับ ตรงสถานี mrt หัวลำโพง
มีน้อยคะ เราเคยกินมังส ทุกวันจันทร์ สั่งร้านตามสั่งทำเป็นมังส เช่นผัดผักบุ้งไข่เจียว
1มีระบบ ร.ศ. ด้วยนะคะ เรียกว่า รัตนโกสินทร์ศก นับโดยการเริ่มตั้งราชวงศ์จักรี2ระบบการเดินทางไม่ทั่วถึงแล้วค่าบริการแพงค่ะ3ตุ๊กแกน่ารัก จิ้งจกก็น่ารัก 4อาหารเจ มีน้อยมากค่ะ แค่อาหารมังฯยังน้อยเลยค่ะ เรากินมังฯแบบต้องเขี่ยเนื้อสัตว์5เราจ่ายค่าจ้างเขาค่ะ เขาเลยถือเป็นหน้าที่
5ปีพูดไทยเก่งมากคร่า👌👍🤗
ขอบคุณที่ไม่เอาภาพตุ๊กแกขึ้น ไม่งั้นโทรศัพท์ร่วงแน่เขากลัวมาก สยอง
พี่เจ๋อเจ๋อคับบอกพฤติกรรมที่ไม่ควรทําเวลาไปเที่ยวไต้หวันหน่อยคับผมอยากรู้มากกกกกกเพราะถ้าโคควิดหายผมจะไปไต้หวัน❤️❤️❤️
เราก็เคยไปกินข้าวบ้านเพื่อนแล้วจะล้างจานให้ แต่พี่แม่บ้านก็มาแย่งล้างเพราะถ้าเราทำเหมือนเราแย่งหน้าที่เขา เขาอาจจะโดนเจ้าของบ้านดุเอาได้ เราจะช่วยล้างก็ตอนแม่บ้านลาแล้ว เรากับเพื่อน(เจ้าของบ้าน)ช่วยกันล้าง
1. ระบบปีคนไทยส่วนใหญ่น่าจะชินกับทั้ง 2 ระบบ เพราะในทีวีหรือตามข่าวก็พอมีให้เห็นบ้างส่วนผมก็มีหลายระบบในหัว ที่ใช้บ่อยๆ ก็ 3 ระบบ (พ.ศ./ค.ศ./รัชศกญี่ปุ่น) นานๆ ใช้ทีอีกหลายระบบ (ร.ศ./หมินกั๋ว/รัศศกเก่าๆ ของญี่ปุ่น)เพราะว่าสะสมเหรียญ เวลาหยิบเหรียญเก่าๆ ขึ้นมาดูต้องอ่านปีแล้วคำนวณอายุเหรียญให้ได้ แล้วถ้าอ่านเลขอาหรับกับเลขพม่าได้ก็สบาย2. เรื่องขับรถประเทศไทยมันร้อนมาก ไม่มีใครอยากเดินไปไหนมาไหนถ้าไม่จำเป็น รถไฟฟ้าก็ไม่ทั่วถึงแล้วก็แพง รถเมล์ก็ช้าและการบริการก็ไม่ค่อยดี ยิ่งในกรุงเทพ มันต้องไปเบียดกับคนบนรถเมล์รถไฟฟ้าและในกรุงเทพ ซอยเล็กยิบย่อยเยอะมาก ถ้าบ้านอยู่ในซอยลึกแล้วต้องเดินทาง 3 ต่อ 4 ต่อจะเสียเงินและเสียเวลามาก แถมร้อนและเบียดเสียดอีกเป็นเหตุผลที่ทำให้คนจำนวนหนึ่งเลือกที่จะใช้รถส่วนตัว แม้จะขับไปเซเว่นปากซอย เป็นเครื่องแสดงฐานะด้วยอีกประการคือรถเมล์ ถ้าไม่เก่งจริงคือหลงทางแน่ เลขเดียวกันวิ่งคนละทาง ไปถึงบ้างไม่ถึงบ้าง ต่อรถตรงไหน นั่งเลยป้ายจะแก้ปัญหายังไง และอื่นๆส่วนผมก็ขับรถไม่เป็นและไม่อยากขับ ชอบรถเมล์และศึกษาเส้นทางมานาน แล้วรอบบ้านป้ายรถเมล์เยอะ เลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการเดินทาง3. สัตว์ในบ้านส่วนตัวเป็นที่ไม่ชอบ 害虫 ยุง แมลงวัน แมลงสาบ แล้วในบ้านก็เยอะ ผมเลยชอบสัตว์ที่กำจัด 害虫 ประเภท แมงมุม จิ้งจกนี่ขอเชิญในบ้าน มาอยู่เยอะๆส่วนตุ๊กแก ขอให้ไม่มาร้องรบกวนก็พอ ไม่นานมานี้เคยช่วยตุ๊กแกที่เข้าไปติดกาวดักแมลงสาบ พยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วย พอช่วยได้ก็เชิญไปไว้ในจุดที่มีแมลงสาบ ตอนนั้นรู้สึกคุ้มมากที่ได้ช่วยสัตว์โลกที่จะมากำจัดแมลงในบ้านต่อ4. อาหารเจ/มังในไทยคนไม่นิยมกินมัง/เจ จะกินก็ตามเทศกาลกินเจเท่านั้น บางร้านอาจมีเมนูมัง/เจที่พอกินได้ถ้าไม่เคร่ง พวกร้านตามสั่งถ้าบอกว่ากินมัง/เจเขาก็ทำให้ได้ก็อาจจะต้องปรับตัว ลดความเคร่ง ไม่รู้ไม่เห็นก็กินๆ ไป หรือไม่ก็หาร้านเจ้าประจำที่เขาทำให้เรากินได้ ถ้าเคร่งมากจริงๆ ก็น่าจะต้องทำกินเองส่วนตัวไม่กินมัง/เจ แต่ในเทศกาลกินเจจะกินบางมื้อ ก็หมูปลอมมันอร่อยกว่าหมูจริง หรืออาจมีเอาเจมาใส่หมูที่บ้าน คือกินเน้นอร่อยเป็นที่ตั้ง5. แม่บ้านมีแต่ครอบครัวระดับกลางบนขึ้นไปเท่านั้นถึงจะมีแม่บ้านได้ บ้านที่เงินเดือนถึงก็จ้างแม่บ้านเพื่อที่จะได้มีเวลาส่วนตัวมากขึ้น ไม่ต้องมาซักผ้า รีดผ้า ล้างจาน กวาดบ้าน รดน้ำต้นไม้ เองจะมีเวลาไปพักผ่อนหรือทำงานอดิเรกได้ ก็คือจ่ายเงินซื้อเวลานั่นแหละแล้วเจ้าบ้านก็อยากได้แม่บ้านดี แม่บ้านก็อยากได้เจ้าบ้านดี ถ้าหากันเจอก็จะอยู่กันยาว 10 ปี 20 ปี คืออยู่จนเป็นสมาชิกในบ้านคือเปลี่ยนบ้านก็อาจจะไม่ได้เงินเดือนเพิ่ม แถมต้องไปลุ้นว่าจะได้เจ้าบ้านดีไม่ดีอีก เลยจะเปลี่ยนแม่บ้านเฉพาะเวลาจำเป็นนั่นแหละ
ส่วนตัวใช้รถยนต์มาตั้งแต่มหาลัย และไม่ชอบใช้ขนส่งสาธารณะเพราะเหตุผลหลักคือ "ร้อน"ร้อนตั้งแต่ 1.เดินออกจากบ้าน บ้านเราอยู่ซอยลึก2.รอมอเตอร์ไซค์ นั่งมอเตอร์ไซค์3.รอรถเมล์ ถ้าโชคดีวันนี้ได้ไปรถแอร์ก็ดีหน่อย4.MRT BTS ต่อให้มีแอร์ ระหว่างสถานีจุดหมายก็ร้อนอยู่ดีสุดท้ายถึงที่หมาย เหงื่อออก ตัวเหม็นเลยเลือกใช้รถมากกว่า เพราะตั้งแต่ต้น จนถึงที่หมาย เราไม่ต้องเจออากาศร้อนเลยเรื่องคาดเดาเวลาไม่ได้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งบางที มอไซค์ก็ไม่มี รถเมล์ก็ไม่มา สุดท้าย กลับมาเอารถไป มั่นใจกว่าครับ
ทำคลิปได้ฮามากครับ 🤣🤣🤣
โอ๊ยยยย ไม่น่าดูแมลงสาปที่เจ๋อๆเอาขึ้นจอเลย น่ากลัวมากกกหลอนเลยค่ะ
คนไทยชอบขับรถมาก เวลาขับรถมันรู้สึกสนุก เพลิดเพลิน ใกล้แค่ไหนก็จะขับรถไป หาเรื่องให้ต้องขับรถไป ไม่มีธุระอะไรเป็นข้ออ้าง ก็ไปขับรถเล่นชมเมือง ชมนกชมไม้ซะงั้น คนรอบตัวผมเป็นแบบนี้ทุกคน แม้แต่คนจนไม่มีรถแต่ก็ขับรถเป็นกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นอาชีพได้และยังมีความต้องการสูง คนไทยชอบซิ่งชอบแว้นกัน นอกนั้นก็ต้องการอวดสาว แสดงฐานะ
กลัวจิ้งจกกับตุ๊กเเกหนักมากค่ะ ที่สุดเลย
เพิ่งเจอคลิปเจ๋อเจ๋อ น่ารัก และทำคลิปออกมาสนุกน่าติดตามมากค่ะ จะย้อนดูให้หมด และคอยติดตามคลิปใหม่ๆด้วยค่า
อาหารมังน้อยมากค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำพริก ผักต้มอะค่ะ (แต่บางน้ำพริกก็มีเนื้อสัตว์ต้องดูดีๆค่ะ) อันนี้ต่างจังหวัดนะคะ แต่ถ้าเจอก็คืออร่อยนะคะ
ในความคิดเรา คนไทยพึ่งจะมีbts mrt ค่ะ ยังปรับตัวไม่ได้เพราะมันยังไม่สะดวกมาก พึ่งมาสะดวกขึ้นก็ไม่กี่ปีนี้เอง วัยทำงานตอนนี้สมัยเด็กก็เห็นพ่อแม่ขับรถส่วนตัวพาไปไหนต่อไหน มันก็เลยติดการใช่รถส่วนตัวมั้งคะ
อาหารเจหรือมังสวิรัติ คิดว่ามีน้อยมากๆค่ะ แต่ปัจจุบันนี้ก็นิยมมากขึ้นค่ะ อย่างไรก็ดีปกติแล้วถ้าเป็นร้านอาหารตามสั่ง หรือร้านอาหารบางแห่ง เค้าสามารถปรับเปลี่ยนสูตรเป็นแบบมังสวิรัติได้ค่ะ
คิดว่าที่ตุ๊กแกที่ดูน่ารักอาจจะเป็นเพราะตอนที่ถูกตุ๊กแกงับ มันจะเป็นรอยรูปหัวใจอ่ะค่ะ มันดูน่ารักดีนะค่ะ5555
อาหารมังสวิรัติในไทยมีน้อยค่ะ ส่วนมากถ้าหากจังหวัดไหนมีสถานธรรม จังหวัดนั้นถึงจะมีร้านขายอาหารเจเยอะค่ะ เช่นในตัวเมืองของจังหวัดอุบลราชธานีร้านขายอาหารเจและมังสวิรัติมีเยอะมากค่ะ เพราะมีสถานธรรมเยอะ(ฝอถัง)
ตุ๊กแกน่ารักดีค่ะ มีสีสันแล้วก็ไม่ทำร้ายเราด้วยนะ....คนน่ากลัวกว่าเย้อะเลย
ตกใจเรื่องแม่บ้านค่ะ ที่บ้านก็มีแม่บ้านดูแลแม่แต่จะอยู่กันไม่นาน แค่ ครึ่งปี อย่างมากก็ 1ปีเปลี่ยนคนใหม่ ไม่เหมือนอย่างที่เจ่อ เจ๋อ พบค่ะ
แม่บ้านที่ครอบครัวไทยจ้างกัน10ปีขึ้นไป ส่วนมากจะเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะแล้วถ้าแม่บ้านที่อยู่นานๆคือไม่ได้เปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น เขาก็พาลูกมาอยู่ด้วย ครอบครัวเจ้านายบางครอบครัวก็ส่งเสียเลี้ยงดูลูกเขาให้ได้เรียนต่อด้วย ถ้าเป็นแม่บ้านที่อยู่กับครอบครัวนายจ้างเลยส่วนมากจะมีแม่บ้าน2คนขึ้นไป งานที่ทำก็มากกว่าทำความสะอาดบ้าน กับดูแลผู้สูงอายุ ซักผ้า รีดผ้า ทำอาหาร ครบทุกอย่าง นายจ้างใช้ชีวิตสบายๆเลยแต่เดี๋ยวนี้สะดวกมากขึ้นตรงที่มีบริษัทข้างนอกที่เราสามารถจ้างแม่บ้านเป็นรายครั้งได้ ตรงนี้คนที่จ้างไม่ต้องรวยมากก็จ้างได้เพราะแม่บ้านไม่ได้มาอยู่ที่บ้านคนจ้างถาวร คนจ้างก็สะดวกด้วย จ้างทำความสะอาดสัปดาห์ละครั้ง/2ครั้ง แบบนี้ส่วนมากจะจ้างเฉพาะทำความสะอาดบ้าน หรืออาจจะล้างจานด้วยแล้วแต่เรารีเควส และที่บริษัทเขามีให้จ้าง แต่ไม่ได้ทำครบวงจรทุกอย่างแบบแม่บ้านที่นายจ้างจ้างประจำให้อยู่ในบ้าน💕ส่วนเรื่องกินเจในไทยยังมีร้านเจน้อย ส่วนมากจะขายแค่ช่วงเทศกาลกินเจ ถ้าเจ๋อเจ๋อจะไปกินอาหารที่ร้าน ลองโทรถามเขาว่า ไม่ทราบว่าสั่งทำอาหารเจได้มั้ย 2-3เมนู เอาไม่มีเนื้อสัตว์ บางร้านเขาก็จะทำให้ได้นะคะอันนี้จะเหมือนที่มาเลเซียกับสิงคโปร์ที่เราเคยไปคือร้านไม่ใช่ร้านเจแต่เขาจะทำเมนูเจให้ถ้าลูกค้ารีเควสมา
จริงๆแล้วคนไทยก็ใช้รถสาธารณะเป็นปกติอยู่แล้วค่ะ คนแน่นมากๆ เป็นช่วงเวลาเช้าและเย็นค่ะ เป็นช่วงเวลาเร่งรีบต้องรีบเข้างาน เข้าโรงเรียน และช่วงเวลาเลิกงาน เลิกเรียนค่ะ เจ๋อเจ๋ออาจจะแค่ใช้รถช่วงอื่นค่ะ ก็เลยคิดว่าคนไทยไม่ค่อยใช้รถสาธารณะค่ะ
เกิดมา20กว่าปีก็ยังกลัวจิ้งจกตุ๊กแกอยู่เลย55555 ส่วนเรื่องแม่บ้าน ถึงที่บ้านจะมีแต่เราก็ล้างเองตลอดนะ รู้สึกเกรงใจเหมือนกัน แต่ถ้ามีเพื่อนมีคนอื่นมาบ้านก็จะไม่ให้แขกล้างเลย ก็จะให้แม่บ้านหรือเรานี้แหละจัดการเอง
เกย์ไทยบางส่วน ก่อนคบจะถามว่า ‘ไปทำงานยังไงคับ’ ‘ไปยังไงคับ’ กลายๆว่าขับรถเป็นป่ะ มีรถป่ะคนไทยรักสบายคับ อะไรก็ได้ที่เร็ว ไม่ลำบาก ไปไหนก็ได้ เลยนิยมขับรถกันอีกอย่าง pubic transportation มีเส้นทางไปไม่ค่อยเยอะ ไม่ค่อยสะอาด คนเยอะและคาดเดาเวลาไม่ได้ด้วย
กลัวตุ๊กแก เพราะเสียงร้องของตุ๊กแกนั้น หลอนมาก~~ ครับ
สมัยเด็ก ตอนผมอายุประมาณ 9-10 ขวบ ผมกำลังกินข้าวนั่งดูทีวี (ดูการ์ตูนช่อง 9) แล้วมีตุ๊กแกตกลงมาเกาะหัว (ตอนนั้นตัดผมสั้นเกรียน ตามวัยตอนนั้น) แล้วผมก็เอามือดึงตุ๊กแก (ซึ่งมันดึงยากมาก ตีนตุ๊กแกมันเหนียว) แล้วเขวี้ยงใส่กำแพง จนตุ๊กแกตกใจวิ่งหนี หลังจากนั้นก็ไม่เคยกลัวตุ๊กแกเลย (ซึ่งปกติคนเจอแบบนี้จะเป็นปม และกลัว แต่ผมกลับไม่กลัวเลย) แถมยังเคยไปจับตุ๊กแก ไปปล่อย ให้หลายๆคนด้วย
ว่าด้วยภาษาอังกฤษ จีน และไทยThrow-EnglishThink-Thai ทิ้ง โยน ทิ้งขว้างThim-Laos Yon(โยน)-Thai, Yeng(扔)-Chinese
คิดว่าเพราะขนส่งสาธารณะมันไม่สามารถคาดเดาได้ค่ะ คนกรุงเทพเลยนิยมขับรถไปเองมากกว่า เช่น ถ้าเรานั่งรถเมล์ไปยืนรอไม่สามารถรู้ได้ว่าเมื่อไหร่จะมา(ไม่นับรวมเวลารถติด)ต้องไปคอยกี่โมงถึงจะไปทันถึงที่หมายในเวลาที่ต้องการ , bts mrt เสียบ่อยเวลาคนใช้เยอะๆ, แท๊กซี่เรียกแล้วไม่ค่อยไป
** ที่สำคัญถ้าฝนตกหนักมากๆ ก็จะมีหายนะน้ำท่วมเพิ่มเข้ามาอีก 🤣🤣🤣
ผมว่าเป็นค่านิยมมากกว่าครับ ต่อให้รถไฟฟ้าทั่วถึงทั้งกรุงเทพ ผมคิดว่าค่านิยม มีรถมีบ้าน ไม่มีทางหายไปแน่ๆ
ทั้งชีวิตเคยเจอ bts ดีเล20นาทีครั้งเดียว ไม่เคยเจอเสียเลย สงสัยโชคดีหรอเนี่ยเราก็นั่งบ่อยนะ ไม่ค่อยเสีย หรือจะเสียตอนคนเยอะๆช่วงชั่วโมงเร่งด่วนหรอ
ขับรถส่วนตัวไปเอง มันก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย แต่แลกกับความเป็นส่วนตัวและสดวกสบาย บางคนคิดว่าดีกว่านั่งรถเมล์ รถแท็กซี่ วินมอไซค์ฯลฯ
ข้อเสียรถไฟฟ้าไทยคือมีประเภทเดียวคือเป็นแบบจอดทุกสถานี บางคนรีบจะนั่งแบบรถไฟด่วนก็ไม่มี แบบญี่ปุ่นนี่มีหลายแบบเลย แบบกึ่งด่วน ด่วน ด่วนพิเศษ ชินคันเซน มันจะจอดเฉพาะบางสถานี อะไรแบบนี้ เหมาะสำหรับคนรีบๆ ประหยัดเวลาแต่ของไทย bts จอดทุกสถานีกว่าจะถึง ถึงแม้จะครอบคลุมทั้งกรุงเทพ ก็นั่งกันตาแหกอะเอาจริง สมมุตินั้งจากฝั่งนน จะมา ช่องนนทรี ก็ล่อไป เกือบ2ชมละ
ผมว่าถูกนะครับ นี่คือส่วนที่ต่างกับไต้หวัน ในไทเปนี่คือป้ายรถเมล์บอกเวลาเลยว่า สายที่เรารออีกกี่นาทีจะมาถึงป้าย ไม่งั้นก็เช็คผ่านในแอพได้ มันสะดวกกว่ารถเมล์ไทยมาก ส่วนรถไฟฟ้าในไต้หวันก็ถูกกว่าไทยมากเหมือนกัน อีกอย่างที่สำคัญคือสภาพอากาศ ไทยร้อนมากแม่ นั่งรถตัวเองเปิดแอร์ฉ่ำๆ สบ๊ายย 😄😄
เท่าที่ฟังที่พูดมาคือแม่บ้านของไตหวันจะมีหน้าที่คือดูแลผู้สูงอายุแต่แม่บ้านของเมืองไทยส่วนใหญ่ จะมีหน้าที่คือทำความสะอาดบ้าน ดูแลเรื่องภายในบ้าน
เมืองไทยถ้าเป็นหน้าที่ดูแลคนจะเป็น พี่เลี้ยง พยาบาลส่วนตัวประมาณนี้ไม่ได้ใช้คำว่าแม่บ้าน
ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ใต้หวัน ฮ่องกง แม่บ้านจะดูแลบ้าน และสามีมีหน้าที่ทำงานนอกบ้าน
@@ไม่บอกหลอกให้งง-ธ1ญ ถ้าพูดว่า พี่แม่บ้าน น่าจะหมายถึง พนักงาน หรือลูกจ้าง ที่มีหน้าที่ ดูแลบ้าน
ไม่ได้หมายถึง ภรรยา
@@ไม่บอกหลอกให้งง-ธ1ญ ฮ่องกงแม่ย้านฟิลิปปินส์เยอะมากกกกกกเลยนะคะ
อาหารเจ อาหารมังสวิรัติ ในไทย มีน้อยครับ เหตุเพราะไทยเป็นพุทธแบบ เถรวาท ซึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้าจะไม่มีการห้ามกินเนื้อสัตว์ กินได้แต่ต้องไม่ใช่เนื้อ10อย่างที่ทรงห้าม และไม่ใช่เนื้อที่เราเห็น เราได้ยินว่าเขาฆ่ามาเพื่อเรา ก็คือไปซื้อมากินได้ปกติ แต่ถ้าใครจะกินเจ พระองค์ก็ไม่ได้มีบทบัญญัติที่ห้ามไว้ แต่จะมีคำสอนๆหนึ่งคือเดินทางสายกลางไม่ สุดโต่งไปด้านใดด้านหนึ่ง
ดังนั้นทางฝั่งจีนธิเบตเป็นพุทธนิกายมหายาน ก็อาจได้รับอิทธิพล มาจากความเชื่อเดิม เลยมีการกินเจ ที่แพร่หลาย ครับ #สาระก็มา
เขาฆ่าเพื่อเงินครับ จุดประสงค์ของเขา เขาไม่ได้ฆ่าเพื่อเรา
คะแนนวิชาพุทณศาสนาเต็มปายเลย
ที่ว่ามา ท่านตรัสเฉพาะพระภิกษุนะครับเรื่องเนื้อต้องหาม กับการพิจารณาก่อนฉัน ฆราวาสก็มีศีล 5 เป็นแนว คือไม่ซื้อเป็นๆ มาทุบ แบบนั้น
พ.ศ มีอายุมากกว่า ค.ศ.543ปี
พี่ก็เอาไปลบไปบวก เวลาอยากรู้ว่าปีนี้คศ.เท่าไรก็เอา ปีพศ ไปลบ543 เช่น(ปีนี้2563-543=2020)
อร้ายยยหลานจ้าน
@@pangch7177 ว่าไงจีมิน😅
อ๋อออออ ขอบคุณนะครับบบบ
ไงงจีมิน&หลานจ้าน😂ทางนี้ของแจมหน่อยนะ5555555
ช่ายยยยย การคิดก็คิดแบบนี้แหละแต่บางทีก็ยังงงๆนิดนึงนะ
รถเมล์ไม่ได้สะดวกขนาดนั้นสำหรับเรา ทั้งร้อนทั้งเหนื่อยตอนรอ กว่าจะมาแต่ละรอบ ระบุเวลาไม่ได้ด้วย
BTS MRT ตอนนี้ยังไม่ได้เข้าถึงทุกพื้นที่ คนมีเงินเค้าก็ซื้อรถ สะดวกกว่ามากๆ ไม่เหมือนรถไฟฟ้าใต้ดินญี่ปุ่นที่สามารถลงต่ออีกสายได้ง่ายๆเลย
รถเมล์ไทยไม่สามารถระบุเวลาได้ว่าจะมาเมื่อไร แล้วถ้ามาแล้วจะได้ขึ้นไหม กว่าจะได้ขึ้นคันถัดๆไป เรารอนานสุด 3 ชม.เลยกว่าจะได้ขึ้น (ฝนตกตอนเย็นรถติด) เหมือนเล่นเกมวัดดวง เสียเวลากับการเดินทางในกทม ที่สุดเลยค่ะ ดังนั้นขับรถไปเอง รถติดบ้างก็ยังดีกว่านั่งรออย่างไร้จุดหมายแบบนั้นอ่ะนะ
เห็นด้วยทุกอย่าง ขนส่งมันแย่มากจนเรารเคยร้องไหสมัยเรียน
รถเมล์คือคาดเดาไม่ได้เลยว่าจะได้ไปกี่โมง สงสารคนใช้รถเมล์สุด ๆ TT (ในอดีตก็ฉันนี่แหละ)
นอกจากไทย เมียนม่าร์ก็ใช่ปี พ.ศ.เหมือนกับไทยแต่จะนับเพิ่มจากไทยอีก 1 ปี เพราะเมียนมาร์นับตั้งแต่พระพุทธเจ้าสิ้นพระชนม์เลย แต่ไทยนับจากพระพุทธเจ้าสิ้นพระชนม์ไปแล้ว 1 ปีค่ะ
Manowx Maxim โหิพึ่งรู้เลย
ใช่ค่ะ...แสดงว่า ถึงพ.ศ.2563 พระพุทธเจ้าสิ้นไปแล้ว2563+1=2564ปีค่ะ
เดียวนะครับมันต้องใช้ครับว่าปรินิพานไม่ใช่เหลอครับ
เจ๋อก็พึ่งรู้ นับไม่เหมือนกัน
@@kaimanu4101 อ่ออใช่ค่ะ พอดีเรียนมาแต่เลือกใช่คำไม่ถูกค่ะ55
ตุ๊กแกน่ากลัวค่ะคือเราเคยโดยตุ๊กเเกวิ่งไล่ตอนเด็กมันน่ากลัวมากจำได้ว่าร้องลั่นบ้านเลยค่ะ(ตัวมันใหญ่มาก)
เห็นด้วยค่ะ ตุ๊กแกตอนโดนไล่วิ่งหนีเหมือนหนีแรปเตอร์อะ วิ่งอย่างเร็วว 5555
ตอนเด็กพยายามจะจับตุ๊กแกครับจากไม่กลัวพอโดนกัดนิ้วแล้วมันไม่ปล่อยเท่านั้นแหละครับกลัวมาจนทุกวันนี้ 55555
เรากลัวตุ๊กแกกันที่หนายยยย...
ruclips.net/video/9GCHoh2ZeMg/видео.html
บางทีเราก็คิดว่าตุ๊กแกวิ่งเร็วกว่าเราอีก55555
แต่ก่อนผมก็กลัวตุ๊กแกนะ แต่จู่ๆพ่อผมไม่รู้ไปโดนผีตัวไหนสิง พ่อหปซื้อตั๊กแกมาเลี้ยง (หมาแมวมีไม่เลี้ยง) แล้วบ้านอะมี2หลัง หลังที่พ่อแม่อยู่ไม่เอาไปปล่อยนะ มาปล่อยใส่บ้านที่ผมอยู่ แรกๆกลัวมากระแวงไปหมด แต่พอหลังๆอยู่ด้วยกันนานๆ น้องไม่อันตรายเลยนะ น้องเฉยๆ นิ่งๆ เงียบๆ จนตอนนี้ไม่กลัวล่ะ
แม่บ้าน ในไทยก็ต้องคนรวยมากๆนะครับถึงจะมีกัน ชนชั้นกลางส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะมีกันหรอกที่อยู่กันอยู่นานๆเพราะวัฒนธรรมที่ไทยค่อนข้างจะพึ่งพิงอาศัยความไว้ใจกันค่อนข้างมากสุดท้ายก็พัฒนาเป็นความผูกพันหรือบุญคุณที่มีต่อกันเลยอยู่ด้วยกันนานๆ
ใช่ ต้องรวยมาก. ชนชั้นกลางอาจจะจ้าง. ให้มาทำ. อาทิตย์ละ 1 วัน. ทุกวันนี้ แม่บ้านพี่เลี้ยงเด็ก. มีแต่พม่า. สาเหตุที่คนไทยไม่ค่อยทำงานเป็นแม่บ้าน. เพราะ. อาจจะ. อยู่บ้านเดียวกันกับเจ้านาย. แล้วก็รู้สึกอึดอัด. อีกอย่างหนึ่ง. แม่บ้าน. ก็ไม่ถูกกัน กับแม่บ้าน. ที่อยู่หลังเดียวกัน. คนขับรถ ไม่ถูกกับ แม่บ้านก็มี ความขัดแย้งมีทุกที่
บ้านเราก็ไม่ได้รวยนะ แต่จ้างแม่บ้านมาดูแลคุณยาย แต่คุณป้าแม่บ้านก็ทำทุกอย่าง งานบ้าน งานสวน และกินนอนอยู่บ้านเรา บ้านเราจ้างได้ 4-5ปีแล้ว
บ้านเราก็ไม่รวยนะ ไม่ได้ถึงร้อยล้านแต่ก็มีแม่บ้านแบบอยู่ประจำคอยดูแลบ้านงับ บ้านเพื่อนเราก็ไม่ได้รวยมาก ก็มีเหมือนกันนะ
@@peed.nananahahaha5782 ส่วนตัวคิดว่าที่คนไทยไม่ทำอาจจะมีความอดทนต่ำ พวกแรงงานพม่าจะมีความอดทนมากกว่าแบบทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองมีเงินส่งเงินกลับบ้านได้ แถมค่าเงินบ้านเราเยอะกว่าบ้านเค้าด้วย เค้าเลยยอมทำ
ไม่นะ บ้านผมก็ไม่ได้รวยระดับ10ล้านขนาดนั้น ก็ยังจ้างมา ตลอด20 กว่าปี เปลี่ยนไป เป้นคนๆ
ผมคิดว่าคนกทม. ที่ไม่ค่อยใช่ขนส่งสาธารณะ เพราะมันไม่สะดวกครับ บ้านอยู่ไกลจากป้ายรถเมล์ BTS MRT แล้วขนส่งสาธารณะพวกนี้อาจจะไม่ได้เข้าถึงทุกพื้นที่จริงๆครับ
อากาศร้อน แล้วยังมาเจอทางเท้าที่แสนสะดวกสบายไปด้วยเสาไฟและร้านค้า คิดได้แล้วก็ข้บรถไปดีกว่า
ใช่ๆๆ เจ๋อว่ารถเมล์เข้าถึงได้ทั่วกรุ่งเทพมากกว่า
@@happygoat666 ร่มพกพาช่วยได้ครับ ผมพกใส่กระเป๋าไว้เลย ไม่ต้องแคร์สายตาคนอื่น ร้อนมากก็กางเลย
อาหารมังสวิรัติที่ไทยถือว่าน้อยค่ะ มองไปที่ไหนก็เจอแต่ร้านหมูกระทะ😢
Painai Nah จิงค่ะ55555
ต้องช่วงเทศกาลกินเจ 555+
ใช่มั้ยๆ เจ๋อต้องเปิดร้านขายอาหารมังฯ แล้วแหละ
@@jerjer687
เปิดเลยจ้า ถ้าอยู่ใกล้ๆจะไปอุดหนุน เพราะต้องกินมังสวิรัติสัปดาห์ละ 2 วัน
ตอบในฐานะคนไทยที่มาอยู่ไทเปนะครับ เรื่องขนส่งมวลชนของไทเปมันสะดวกสบายกว่าที่กรุงเทพฯมาก ๆ รถ MRT ก็ใช้ระบบเดียวกันหมดไม่ต้องเข้าออกระบใหม่ถ้าต้องการเปลี่ยนเส้นทางแบบ BTS กับ MRT ของกรุงเทพฯ ส่วนระเมล์ก็มีป้ายบอกเวลาที่ชัดเจนว่ารถสายที่เรารออีกกี่นาทีจะมา มีจักรยาน Ubike ให้ใช้ต่ออีก ทางเท้าก็กว้างขวางปั่นจักยานบนทางเท้าได้ แล้วค่าโดยสาร MRT ก็ถูกกว่าของไทย เส้นทางก็ครอบคลุม แถมมีส่วนรถให้อีกเวลาใช้รถเมล์ต่อ MRT หรือใช้ MRT ต่อรถเมล์ อยู่ไทเปไม่มีรถส่วนตัวก็สะดวกสบาย ต่างจากกรุงเทพฯค่อนข้างมากครับ
- คนกทม. ใช้ขนส่งมวลชนนะคะ ใช้เยอะด้วย เต็มรถเมล์ MRT BTS นั่นไม่ใช่คนกทม. เหรอ? 55555555 เพียงแต่ถ้ามีรถ แล้วไปทางไม่ติด จะชอบขับรถมากกว่า เพราะมันไม่ร้อน คือเวลาขึ้นรถเมล์ มันร้อนค่ะ เวลาลงรถแล้ว กว่าจะเดินไปถึงที่หมายเหนียวไปทั้งตัว ฟุตบาทก็ห่วยแตก เดินไปนี่ส้นรองเท้าส้นสูงติดตลอด ส้นพังหมดค่ะ
- แมลงสาบที่เมืองไทยมีหลายสายพันธุ์ หลัก ๆ มี 2 พันธุ์ ถ้าแมงสาบตามบ้านจะเป็นแบบตัวใหญ่ บินได้เหมือนที่ไต้หวัน
แต่ถ้าตามคอนโดหรือโรงแรมจะเป็นอีกพันธุ์นึง มันไม่บิน ตัวเล็ก ๆ สกปรกเหมือนกันแหละ 5555
- อาหารมังฯที่ไทยมีน้อย อย่ากินเลย กินปกติดีกว่า อยู่ง่ายกว่าเยอะ
คุณเจ๋อครับคุณยังต้องทำความเข้าใจและศึกษา
วิถีชีวิตในไทยให้ลึกกว่านี้
คุณอย่าเอาความเคยชินจากที่หนึ่งไปใช้กับอีกที่หนึ่ง ถ้าคุณอยู่เมืองไทย
ก็ดูว่าเขาดำเนินชีวิตอย่างไรคุณก็ปรับตัว ให้เข้ากับเมืองไทย เวลากล้บไปไต้หวันก็ไปใช้วิถี
ชีวิตแบบไต้หวัน แค่นี้และ
จริงๆถ้าเจ๋อเจ๋อลองเปลี่ยนเป็นถามที่ร้านว่ามีอาหารเจ หรือทำแบบเจให้ได้มั้ย? จะมีร้านอาหารที่เจ๋อเจ๋อกินได้เพิ่มอีกเยอะเลย อาจจะเป็นเพราะร้านค้าในไทยยังไม่ค่อยชินกับคำว่ามังสวิรัตินะ หรือไม่ก็ไม่แน่ใจว่ามังสวิรัติมันมีข้อห้ามอะไร และเข้าใจว่ามังสวิรัติกับเจไม่เหมือนกัน
ปัจจุบันมันมีกูเกิ้ลนะกดถามในโทรศัพท์ก็คงมีร้านเยอะอยู่
เรื่องขนส่งสาธารณะ ส่วนใหญ่คนที่มีมีรถส่วนตัวจะบอกว่ามันสะดวกกว่า ไม่เหนื่อย เป็นส่วนตัว
เราไม่ชอบแมลงสาบมากกกกก ไปอยู่ไต้หวันน่าจะหัวใจวายตาย😰 จิ้งจกเจอบ่อยจนงั้นๆมาก มันไม่เข้ามาใกล้คน เลยไม่กลัว
อันนี้ส่วนตัวคิดว่าตุ๊กแกน่ารัก ตอนเด็กๆที่บ้านเก่ามีตุ๊กแกอยู่ตัวนึง กลับมาทีไรก็ร้องทักตลอดเลย ตอนนี้ไม่เจอแล้ว
ขำไดโนเสาร์ 55555
ที่ไทยไม่ค่อยมีอาหารเจเลย หาแทบไม่เจอ
เรื่องพี่แม่บ้านมีอยู่ยาวเยอะเหมือนกันยิ่งครอบครัวใหญ่ๆฐานะดี มีลูกเยอะ พี่แม่บ้านอยู่ยาวมาก เรื่องล้างจานให้ดูปกติไปเลย เหมือนงานพื้นฐานแบบกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน
เจ๋อ เจ๋อว่า มันไม่ใช่ตุ๊กแก มันคือจระเข้ ใหญ่มากกก. 5555. เห็นเจ๋อ เจ๋อ แล้วนึกถึง อารมณ์แบบน้องชาย น่ารักดี
5. บ้านที่มีแม่บ้านในไทยไม่ถึงต้องรวยมากๆครับ เป็นระดับประมาณชนชั้นกลางระดับสูง ระดับเถ้าแก่ชนชั้นกลางก็มีได้ มีสองแบบคือมาทำงานเฉพาะกลางวันเหมือนพนักงานออฟฟิศ หรือมีแบบให้อยู่บ้านด้วยกันเลย 24 ชม ค่าจ้างจะต่างกัน
น่ารักค่ะ น่ารักมาก น่ารักจนตอนที่เอารูปขึ้น ต้องโยนมือถือทิ้งเลยค่ะ
แล้วก็เรื่องแม่บ้าน ต้องรวยค่ะ ถึงจะจ้างแม่บ้านได้ เค้าจะมีที่อยู่มีข้าวให้ด้วย พอได้เข้าทำงาน ถ้าไม่มีปัญหากับเจ้านายหรือเหตุผลอื่นๆ เค้าก็คงไม่ย้ายงานแล้ว มันเป็นงานที่มั่นคงงานนึงเลย แล้วก็ถ้าไม่ได้รวยมากแต่พอมีเงินประมาณนึง ก็จ้างเดือนละครั้ง สัปดาห์ละครั้ง ก็คือจ้างเค้ามาเพื่อทำงานบ้าน ล้างจานก็รวมอยู่ด้วย
สวัสดีครับคุณเจ่อ
fc..ติดตามอยู่นะครับ...คุณเจ่อ..พูด
ไทยได้ชัดเจน
มากๆครับ...
ตุ๊กแกไม่เคยน่ารักสำหรับเราค่ะ55555 ความรู้สึกคือแบบเดียวกันพี่เลยค่ะ
Patitta kim จริง มันน่ากลัวมาก
ฮ่าาาาาา นึกว่าเจ๋อกลัวคนเดียว
น้อนน่ารักนะ5555
ตุ๊กแกนะเห้ยยยย เอาอะไรมาน่ารักอะ น่ากลัวมากกกกก ร้องก็เสียงดังตัวก็ใหญ่แถมมีจุดๆอีก พอวิ่งทีนึงอย่างกับกองทัพตุ๊กแกวิ่ง ปับๆๆๆ ขนลุก😱
ยิ่งดูยิ่งหลงรักน้องเจ๋อนะคะ น้องน่ารักจัง
1. อยู่ต่างจังหวัดค่ะ แชร์ประสบการณ์ รถสาธารณะ ไม่ค่อยมีค่ะ จะไปไหนไกลๆ ถ้าไม่ขับเองต้องไปจ้างเขาทีละ 500 ขึ้นในตัวจังหวัด ตอนเรียนมัธยมฯเคยมีรถวิ่งผ่านมาปากซอยหน้าบ้านนะคะ แต่หลังๆมาคือชอบไปส่งก่อนถึงบ้าน เกือบกิโลฯทุกที ดังนั้น แถวต่างจังหวัด เด็กส่วนใหญ่จะขับรถจักรยานยนต์เป็นกัน เด็กเล็กสุดที่เคยเห็นคือ 8 ขวบค่ะ ส่วนรถยนต์แล้วแต่บุคคล ส่วนเวลาเข้ากรุงเทพฯ เราก็ชอบรถสาธารณะมากกว่าค่ะ BTS MRT รถเมล์
2.ส่วนเรื่องตุ๊กแก มันน่ารักแค่บางตัวค่ะ แต่ส่วนใหญ่น่ากลัว มันไม่เหมือนจิ้งจก ที่เราไล่ก็ไป แต่ตุ๊กแกตัวดุๆนี้เราสู้มันมันก็สู้เรานะคะ
3.ส่วนอาหารเจ อาหารมัง ถ้าเราไปร้านอาหารตามสั่ง บางร้านเขาก็ทำให้ได้ค่ะ แต่ที่ไทยเวลาไม่สะดวกเช่น ออกไปกินข้าวกับลูกค้าช่วงนั้นกินมังก็จะมีประเภทเจเขี่ยค่ะ เขี่ยกินแต่ผัก หมูให้เพื่อนที่สนิทกินอะไรแบบนี้ แต่แถวบ้านเราจะมีร้านที่เขาทำทั้งปีอยู่
เล่าเรื่องสนุกมากเลยครับ ภาษาไทยเยี่ยมมากครับ
ที่คนส่วนใหญ่ขับรถหนึ่งเหตุผลเลยคือขนส่งสาธารณะมันไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ค่ะ ถ้าบ้านอยู่ในซอยลึกๆก็ต้องนั่งรถหลายต่อค่ะ เสียค่าเดินทางเยอะ และเราไม่สามารถกะเวลาที่รถเมล์จะมาถึงได้ค่ะ ถ้าไม่มาก็ต้องรอไปเลยนานๆ หนูเคยรอไปสองชั่วโมงเลย ท้อมาก ในตจวก็เหมือนกันค่ะ ขนส่งสาธารณะไม่ได้ครอบคลุมจึงต้องมีรถส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์ อีกอย่างคือค่าเดินทางค่ะ ค่าbts/mrt ก็ถือว่าแพงนะคะถ้ารวมไปกลับ บางคนก็ไม่สามารถขึ้นได้เพราะงบไม่พอ และอีกหลายอย่างค่ะพี่เจ๋อ ถ้ามีรถยนต์ส่วนตัวก็จะเดินทางสะดวกไม่ต้องแย่งกับใคร ไม่ต้องรอนานๆค่ะ
เรื่องตุ๊กแกนะคะ ขอคอนเฟิร์มว่าไม่ใช่คนไทยทุกคนที่จะไม่กบัวตุ๊กแก เราเป็นคนที่กลัวตุ๊กแกมาก ถ้าเจอก็คือเว้นระยะไม่ต่ำกว่า 3 เมตรค่ะ และคนรอบตัว 10 คน มีไม่กลัว 2 คน
ถ้าไปรถไฟฟ้าสะดวกก็ไปรถไฟฟ้าค่ะแต่ถ้าต้องเปลี่ยนรถหลายครั้ง เช่น นั่งมอเตอไซค์ไปรถไฟฟ้าแล้วต่อด้วยTAXI เราเลือกที่จะนั่งTAXIตั้งแต่แรกเลยค่ะ ส่วนรถเมล์ที่ไทยค่อนข้างไม่สะอาด รถติดแล้วก็ไม่ค่อยมีแอร์ ต้องยืนรอรถเมล์นาน+อากาศร้อนค่ะ เลยไม่ค่อยใช้รถเมล์ค่า
คนไทยติดความสะดวกสะบายค่ะ บวกกับระบบขนส่งสาธารณะในไทยยังไม่ได้ดีขนาดนั้น คืออย่างในกทมมีระบบรถไฟฟ้า มีรถเมก็จริง แต่มันก็ยังไม่ได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ยังไม่ได้มีการเชื่อมต่อของระบบขนส่งสาธารณะที่ดีน่ะค่ะ ยิ่งถ้าไปต่างจังหวัดหรือใช้ชีวิตในต่างจังหวัดยิ่งต้องมีรถเลย เพราะเดินทางลำบากกว่ามาก แถมรถสาธารณะไทยไม่มีเวลาแน่นอน บางทีต้องรอรถเป็นชั่วโมงเลยนะ เสียเวลาสุดๆ ทำให้คนไทยติดนิสัยที่จะต้องซื้อรถ ขับรถเองอ่ะค่ะ
ส่วนเรื่องแม่บ้าน ส่วนมากคนไทยตามเมืองใหญ่ จะมีคนที่มารับจ้างเป็นแม่บ้าน มีหลายแบบมากทั้งจ้างประจำอยู่หลายปี ทำงานบ้านทุกอย่างให้ ดูแลผู้สูงอายุ พวกจ้างประจำอันนี้จะเป็นพวกที่บ้านมีฐานะหน่อยค่ะ ส่วนคนในเมืองทั่วไปบางทีก็จะมีแม่บ้านที่เขารับมาดูแลทำความสะอาดให้เป็นครั้งคราวสัปดาห์ละครั้ง หรือเดือนละกี่ครั้งแล้วแต่จะจ้าง ปกติที่ประเทศอื่นไม่มีแบบนี้เหรอคะ
อาหารมังกับเจ ในไทยมีน้อยจริงค่ะ แล้วส่วนมากคนไทยจะกินเจแค่ช่วงเทศกาลกินเจด้วย ก็ถ้าเป็นมังอาจจะมีทางเลือกในการทานน้อยนิดนึง
1. ถ้าพวกการเปลี่ยน ค.ศ และ พ.ศ โรงเรียนที่ไทยจะสอนแต่เด็กๆเลยค่ะว่าใช้สูตร บวก/ลบ 543 เลยคำนวนง่ายค่า เช่นปีนี้ พ.ศ 2563 ลบด้วย 543 ก็จะได้ ค.ศ 2020
2. เดาว่าการคมนาคมที่กทม.ไม่ค่อยสะดวกเหมือนที่ไต้หวันมั้งคะ มันก็ยังมีซอย มีบางที่ที่คนไม่ถึง และมันร้อนค่ะ เลยไม่อยากลงเดินต่อ รถเมล์มาไม่ค่อยตรงเวลา อากาศร้อน (ส่วนตัวมีอีกความคิดเห็นค่ะ คือมันค่อนข้างสกปรก...) BTS,MRTราคาสูงอยู่นะคะ ถ้าให้ใช้ไปทำงานทุกวันก็เกือบครึ่งนึงของค่าเงินขั้นต่ำรายวันค่ะ แต่เอาจริงนะคะ เราเป็นคนต่างจังหวัด ก็อิจฉา กทม. มาก อยากมีตัวเลือกการเดินทางเยอะๆบ้าง ลดโลกร้อนด้วย
3. เคยมีคนจีนที่มาเรียนภาษาไทย มาเช่าบ้านอยู่ใกล้ๆบ้านค่ะ เขาบอกว่ากลัวตุ๊กแกมากๆๆๆๆ เพราะบ้านเขาไม่มี แล้วเสียงมันดังค่ะ น่าสงสารมาก555555555
4. อาหารเจ/มัง ที่ไทยหาทานยากค่ะ ต้องเป็นร้านเฉพาะ ไม่เหมือนที่ต่างประเทศที่จะมีเมนู vegan/vegetarian ในเมนูปกติด้วย
ปล. มันก็จะมีบางคนทานเจในวันพระ (ตาม lunar calendar ค่ะ ทุกๆ full moon กับ moonset ถือว่าเป็นวันพระค่ะ) มีหลายอย่างนะคะการทานเจ/มัง ของคนไทย บนบานบ้าง ทานในวันเกิดบ้าง ด้วยความเชื่อเรื่องอยากทำบุญ
5. ที่บ้านเคยมีพี่แม่บ้านค่ะ พ่อแม่ทำงานนอกบ้าน ตอนนั้นเรายังเด็กด้วยเลยมีเพื่อช่วยทำงานบ้าน ดูแลเด็กอะไรแบบนี้ค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็น middle class ขึ้นไป ซึ่งก็พบได้เยอะในครอบครัวที่ทำงานนอกบ้านค่ะ เดี๋ยวนี้ก็จะเจอพวกแม่บ้านรับจ้างรายวันเยอะกว่าค่ะ อาจจะไม่ได้อยู่บ้านด้วยกัน มา1ครั้ง 2ครั้งต่ออาทิตย์ หรือไปกลับ เอาง่ายๆคือคนไทยเริ่มขี้เกียจทำงานบ้านมั้งคะ55555555 และค่าจ้างแม่บ้านไม่แพงมากค่ะ ส่วนใหญ่ถ้าอยู่บ้านด้วยก็จะมาจากประเทศเพื่อนบ้านค่ะ เลยคิดว่าคนไทยเลือกที่จะจ้างแม่บ้านเพราะสะดวก หาง่าย ไม่แพง
1) แนะนำวิธีเปลี่ยนจาก ค.ศ. เป็น พ.ศ. ก็ให้เอา 543 มาบวก เช่น 2020+543 = 2563 หรือเอา 543 มาลบถ้าต้องการเปลี่ยนจาก พ.ศ. เป็น ค.ศ (2563-543 = 2020)
2) ค่าแรงคนไทยยังไม่แพงมาก ถ้าเทียบกับชาติตะวันตกหรือแมัแต่ไต้หวัน คนไทยก็ยังสามารถ afford แม่บ้านได้ แต่เดี๋ยวนี้หายากมากขึ้นแล้วเพราะค่าแรงแพงขึ้น ถ้ามีสมัยนี้ก็อาจจะเป็นคนไทยใหญ่หรือคนลาวแล้วคะ
3) คนไทยรักสบายและอากาศร้อนด้วย ก็เลยชอบขับรถไปเองกันมากกว่าคะ
สำหรับเราตุ๊กแกน่ากลัวค่ะ ตัวมันใหญ่ม๊ากกก แต่จิ้งจกน่ารักค่ะตัวเล็กตะมุตะมิ เเต่ก็ไม่ชอบอยู่ดีทั้ง2ตัวเลย ถ้าให้ไปสัมผัสตัวมันก็ไม่เอาค่ะ ขยะแขยง สยิ๊ว ขนลุก 😬
น้องตัวนิ่มค่ะ แต่ชอบทำตัวร้ายๆโดยการกระโดดเกาะหลัง
ผมเลิกกลัวตุ๊กแกล่ะ 555+ พ่อเอามาปล่อยเลี้ยงที่บ้าน1ตัว อยู่ด้วยกันมา 2ปีล่ะ นานๆถึงจะเจอกันที ไม่รู้น้องไปหลบอยู่มุมไหน แต่ตอนเอามาปล่อยแรกๆ น้องเดินสำรวจทั่วบ้านเลย ผมเห็นแต่ละทีใจหายตกลงไปตาตุ่มเลย แต่ปัจจุบันเฉยๆไม่กลัว
เจ๋อเห็นด้วยกับคุณเลย จิ้งจกน่ารักดี แต่พอตัวใหญ่ขึ้นมาเป็นตุ๊กแก ก็เริ่มน่ากลัวละ
@@jerjer687 จิ้งจกไม่ได้กลายเป็นตุ๊กแกนะคะ
@@jerjer687 มันคนละสายพันธ์ุเลยครับ จิ้กจกคือจิ้กจก แต่ตุ้กแกตอนตัวเล็กก็น่ากลัวมากเหมือนกัน หัวใหญ่จริงขนาดตัวเล็ก มีลาย สยิวเลย
ตุ๊กแกน่ากลัวมากค่ะ เห็นไม่ได้เลยแค่ได้ยินเสียงก็ขนลุกแล้วว
ที่บ้านหนูก็มีแม่บ้านค่ะ ฐานะปานกลาง แต่ที่มีเพราะว่าแม่ทำงานเช้ากลับมืด ไม่มีเวลาทำอาหารทำความสะอาดเลยต้องจ้าง แม่บ้านคนนี้ก็เหมือนคนในครอบครัวไปแล้วค่ะทำมาเกือบ10ปี
อาหารเจกับอาหารมังสวิรัติในไทยจะมีขายทั่วไปเฉพาะช่วงเทศกาลกินเจครับ ช่วงเวลาปกติอื่นๆคือหายากมาก เขาจะขายกันเฉพาะที่จริงๆ ไม่ได้หาง่ายตามร้านข้างทาง
ที่เคยเห็นหลายๆคนนะคะ ก็ต้องคนไม่มีหนี้ไม่มีสินมีเงินมั่นคงอ่ะค่ะถึงจะจ้างแม่บ้านหรือพี่เลี้ยงอะไรอย่างนี้ คนธรรมดาส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจ้างกัน ละที่เห็นส่วนใหญ่เค้าก็นับถือแม่บ้านเป็นคนสำคัญในครอบครัวเหมือนญาติอะไรอย่างนี้เลยค่ะ เลยพึ่งพาอาศัยกันได้นานเป็น10-20ปี
ชอบการจำลองสถานการณ์ของคุณเจ๋อเจ๋อ ที่ทำคลิปคุยกับตัวเอง น่ารักอ่ะ 😆😆
ที่คนไทยบางส่วนไม่ค่อยใช้ขนส่งต่างเพราะ
1ไม่ค่อยทั้วถึงทุกเส้นทาง
2ราคาเมื่อเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำค้อนข้างแพง(มาก)
3มีไม่พอต่อคนใช้งานในช้วงเวลาเร้งด่วน
ตุ๊กแกไทยน้องว่าถ้ามองดูเฉยๆก็ไม่น่ากลัวนะคะ แต่ถ้ามันวิ่งไล่เมื่อไหร่ก็ไม่อยู่เหมือนกันค่ะ55555555
คนที่มองว่าน้องๆน่ารักพวกเค้าอาจจะเป็นพวก reptiles lovers ก็ได้นะคะ อย่างน้องก็มองว่าตุ๊กแกเลี้ยงอย่างพวกตุ๊กแกเสือดาว(หรือที่คนอื่นๆอาจจะรู้จักกันในชื่อตุ๊กแกหน้ายิ้ม) มันก็น่ารักดีนะคะะ
พ่อผมทานมังสวิรัติมา 30 ปีน่าจะได้ ให้ใช้วิธี สั่งเลยครับ ไม่ต้องถามว่ามีอาหารเจไหม เพราะคำตอบคือไม่มีแน่นอน (เจสะอาดใช้ไม่ได้นะ)
เช่นไป ฮาจิบังราเมน สั่งชาฮั่งไม่ใส่เนื้อหมู ใส่ซีอิัว ไปเอ็มเค ก็ต้มผักปกติ ไปร้านต้มกลางคืน สั่งโลดผัดผักไม่ใส่เนื้อสัตว์ใส่ซีอิ้วไม่เอาน้ำปลา ผัดเต้าหู้บลาๆ ไปไหนก็ง่ายขึ้นเยอะครับ
ตุ๊กแกน่ารักค่ะ หน้าตา และสีสันสวยงาม😊
ขนส่งธารณไทยไม่สะดวกเท่าไต้หวัน เเล้วก็ BTSกับMRT สถานนีมันมียังไม่ทั่วถึง เเต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนใช้นะทั้งรถเมล์ MRT BTS มีคนใช้ งง ว่าทำไมถึงคิดว่าคนกรุงเทพไม่ใช้?
มันนี้จริงมากสำหรับเรา
- ปัญหาหลักของ BTS MRT คือสถานีน้อยมาก เราไม่สามารถใช้แค่ BTS MRT กับการเดินเท้าไปทุกทีที่อยากไป ไปได้แค่สถานที่สำคัญจริงๆ
- ส่วนรถเมล์คือสายซับซ้อนมาก ที่ขึ้น หรือลงจอดซับซ้อน ไม่มีป้ายบอกชัดเจน แถมรถก็คุณภาพไม่ดี แบบที่นั่งได้สบายใจแบบ BTS MRT
- รถตู้ คือตัวเลือกที่ดีสำหรับเรา เพราะรอคนไม่นาน ขับตรงไปบังจุดหมายเลย ข้อเสียคือ ยังไม่สามารถไปได้ทุกทีอีกเช่นเคยแต่ตอบโจทย์กว่า BTS
- ปัญหาสำคัญอีกข้อนึงของประเทศไทยคือทางท้าวมันไม่ดี เอื้อให้เราเดินได้วันมากๆ
เมืองไทย บางบ้านมีรถส่วนตัวมากกว่าจำนวนสมาชิกคนในบ้านซะอีกนะจ๊ะ
คลิปนี้เจ๋อเจ๋อ เล่นใหญ่รัชดาลัยเทียร์เตอร์ มากครับ🤣🤣🤣
เวลาขับรถลมมันเย็นดีครับสบาย
ชอบตุ๊กแกน่ารักดี ไม่ถึงกับน่ารัก
แค่ดูมีคาแรคเตอร์ประมาณนั้น
ชอบเจ๋อเจ๋อนะเล่าสนุกน่ารัก
ขอตอบคำถามที่ถามว่า กรุงเทพมีทั้ง MRT/BTS ทำไมคนกรุงเทพถึงนิยมขับรถยนตร์ส่วนตัวมากกว่า ยาวนิดนึงนะคะ เพราะว่าค่าโดยสารของ MRT/BTS แพงกว่ากว่าน้ำมันรถ หรือแก๊สรถยนตร์ หรือบางทีน้ำมันรถอาจจะแพงกว่านิดหน่อย แต่ไม่ต้องต่อรถหลายสายด้วย เช่นเราเองบ้านอยู่ในซอยค่ะ จะไปสยามต้องนั่งวินมอเตอร์ไซค์ออกมาหน้าปากซอย (10 บาท)ถ้าจะไป BTS ต้องนั่งรถเมล์ (ประมาน10บาท) ไปลงBTS วงเวียนใหญ่ แล้วค่อยต่อไปสถานีสยาม (ประมาน 50+บาท) ไปกลับคิดเป็นประมาน 140 บาท แถมใช้เวลาเกือบ 1 ชม. หรือมากกว่านั้นในกรณีที่รอรถเมล์ไม่มา หรือรถติด และประเทศไทยอากาศร้อนมากเหงื่อออกเยอะ ทำให้หมดอารมณ์เที่ยวอีก ขับรถไปเองสะดวกสบายกว่ามากถ้ารถไม่ติด 30 นาทีก็ถึงแล้ว และรถยนตร์ติดแก๊สแบบของเรา คิดค่าเดินทางไปกลับแค่ประมาน 50+ บาทเองค่ะ ที่สำคัญไม่ต้องทนร้อนด้วย และจะกลับดึกแค่ไหนก็ได้ 😁
ถ้าหากเจ๋อ ไม่ได้เคร่งครัดเรื่องอาหารมังสวิรัติมาก ถึงขนาดต้องแยกภาชนะในการปรุงอาหาร หรือจานชามใส่อาหาร ร้านอาหารตามสั่งที่ไหนก็ทำให้ได้ แค่สั่งอาหารตามปกติแล้วสั่งว่า ไม่ใส่เนื้อสัตว์ เท่านั้นเองครับ เพื่อนผมคนหนึ่งเขาก็ทานมังสวิรัติ เขาก็ทำแบบนี้ และยังให้เปลี่ยนจากใส่น้ำปลาเป็นซีอิ้วแทน
เรื่องเจหรือมังสวิรัติไม่ค่อยมีร้านโดยเฉพาะค่ะ จะมีขายแค่หน้ากินเจเท่านั้น ส่วนใหญ่เวลาสั่งก็จะสั่งกับร้านเองว่าไม่ใส่เนื้อสัตว์ เช่น ต้มยำเห็ด กระเพราเห็ด หรือสั่งที่เป็นผักล้วนเลย เช่น ผัดผักบุ้ง ผัดผักรวมมิตร ผัดยอดอ่อนทานตะวัน
ทอล์คโชว์กับพี่โน๊ตอุดมเลย คงสนุกดี
น้องน่ารัก กดติดตามแล้วนะ
สำหรับเราบ้านก็ฐานะปานกลางจ้างแม่บ้านไว้อยู่ด้วยกันตั้งแต่เราเกิดก็เกือบยี่สิบปีแล้ว อยู่ที่ความสะดวกของแต่ละคนมากกว่าค่ะ เพื่อนเราหลายคนที่บ้านก็จ้างแม่บ้านเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องรวยมากก็ได้ค่ะ บางคนอาจไม่มีเวลามาดูแลบ้านจริงๆการจ้างไว้ก็เป็นเหมือนทางเลือกมากกว่า ของที่บ้านก็มีการจ้างคนดูแลเฉพาะกิจเหมือนกัน เช่นตอนเด็กๆก็จ้างพี่เลี้ยง หรือตอนยายป่วยก็จ้างคนมาดูแล ซึ่งตรงนี้จะทำหน้าที่ต่างจากแม่บ้านค่ะ แม่บ้านก็คือทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับการดูแลบ้าน ถ้าเรากินข้าวจานสองจานล้างเองก็ไม่ผิด แต่รอให้แม่บ้านล้างให้ก็ได้เหมือนกัน
แม่บ้านในไทยมีหลายแบบค่ะ ถ้ารวยมากๆก็จะเหมือนในละครเลยที่อยู่กินบ้านเจ้านายแล้วส่งเงินกลับบ้านอย่างเดียว คำที่เรียกจะเป็น"คนใช้"ซึ่งหลายๆคนอาจจะรู้สึกไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่เพราะเป็นการแบ่งแยกชนชั้น อ้างอิงจากละครก็คือคนกลุ่มนี้ส่วนมากจะเป็นคนต่างจังหวัดไม่มีการศึกษามาทำงานตั้งแต่สาวๆ มีหน้าที่ทำความสะอาดบ้านและทำตามคำสั่งจุกจิกทั่วไปในบ้านค่ะ ความสัมพันธ์จะเป็นแบบนายจ้าง-ลูกจ้าง
แต่ถ้าเป็นแม่บ้านแบบที่พบเห็นได้ทั่วไปในครอบครัวชนชั้นกลางจะเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือพี่เลี้ยงที่จ้างมาเพราะเป็นครอบครัวขนาดเล็ก พ่อแม่ต้องทำงานไม่มีใครเลี้ยงดูเด็ก พี่เลี้ยงส่วนมากจะอยู่อาศัยในบ้านด้วยเลย ถ้ามีเวลาว่างจากการดูแลเด็กจะช่วยดูแลทำความสะอาดบ้านให้ค่ะ ด้วยความที่เด็กโตมาแบบใกล้ชิดกับพี่เลี้ยงจะทำให้มีความสนิทสนมกันมากกว่า มีความเป็นครอบครัวผสมกับนายจ้าง-ลูกจ้างค่ะ (คนดูแลสูงอายุก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้)
แบบที่สองคือแม่บ้านทำความสะอาด กลุ่มนี้จะไม่ได้อยู่อาศัยที่บ้านเราค่ะ แต่จะทำงานเป็นวันๆตามสัญญาจ้าง เช่น มาอาทิตย์ละกี่วัน วันไหนบ้าง ขอบเขตการทำงานมีอะไรบ้าง เท่าที่เจอจะเป็นการแนะนำบอกต่อๆกันค่ะว่าแม่บ้านคนนี้ไว้ใจได้ ทำให้แม่บ้านทำงานหลายหลังในหนึ่งสัปดาห์ เช่น วันจันทร์ทำบ้านA วันอังคารพฤหัสทำบ้านB วันพุธศุกร์ทำบ้านC
และแบบสุดท้ายคือเป็นแม่บ้านบริษัทค่ะ ซึ่งการทำงานจะเป็นรูปแบบให้บริษัทจัดการเป็นนายหน้าให้ จะทำเป็นครั้งๆไป หรือเป็นสัญญาระยะยาวแบบกลุ่มก่อนหน้า แต่อาจจะเปลี่ยนคนไปเรื่อยตามที่บริษัทจัดสรรคนค่ะ ไม่เหมือนกับกลุ่มอื่นๆที่จะจ้างคนเดิมตลอดหลายปี เพราะต้องไว้ใจได้ถึงขั้นให้ถือกุญแจบ้านและเข้าออกบ้านได้ในเวลาที่เราไม่อยู่ค่ะ
คนไทยไม่ชอบใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเพราะว่ามันค่อนข้างไม่เป็นระเบียบและแออัด พวกรถไฟฟ้าไม่สามารถเดาได้ว่าจะขัดข้องตอนไหน รถเมล์ต้องมานั่งเดาว่าจะจอดป้ายเราไหม พนัักงานขับขับเป็นยัังไง คนเก็บค่ารถโดยสารสุภาพไหม(ส่วนตัวชอบเจอแบบพูดจาห้วนพูดแดกดันลูกค้า) แท็กซี่ต้องมานั่งเดาว่าคันนี้ส่งแก๊สไหม คันนี้ส่งรถไหม วินมอไซต์บางที่มีนิสัยชอบเเซวผญ. (น่ากลัวมากจริงๆค่ะ) และที่สำคัญรถติดมากก ติดแบบมากก ต้องไปยืนเบียดบนรถเมล์เราเลยคิดว่านั่งติดบนรถส่วนตัวน่าจะดีกว่าค่ะ ไม่นับป้ายรถเมล์ที่แทบกันฝนไม่ได้เวลายืนรอรถเมล์กว่าจะมาก็เปียกโฉก การลงทุนซื้อรถจึงเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นอีดนิ๊ดในประเทศไทย ส่วนเรื่องแม่บ้านอันนี้มักทำเป็นอาชีพเลยค่ะ หน้าที่หลักคือทำงานบ้านคือ(เราว่าทุกคนไม่ชชอบทำงานบ้านนะคะเพราะแบบใช้ชีวิตข้างนอกก็เพลียแล้วน่ะค่ะ) พวกซักผ้า ล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน ก็คือมักถูกจ้างมาทำงานบ้านทัั้งหมดค่ะ ส่วนที่อยู่เป็น 10 ปี คือบางบ้านเขาจะให้แม่บ้านเข้ามาพักในบ้านเลยค่ะซึ่งอยู่ตลอด 24 ชม. ไม่ได้จ้างรายวัน เราคิดว่ามันน่าจะสบายใจกว่าถ้าเราไม่เปลี่ยนแม่บ้านบ่อยเพราะจะได้ไม่มีความกังวลว่าแบบจะถูกขโมยไหมเขาจะตีสัตว์เลี้ยงเราไหมประมาณนี้ค่ะ
- แมงสาบไทยก็บินนะ
- พี่แม่บ้านไทยจะเป็นประมาณ house keeper ส่วนคนดูแลผู้สูงอายุ หรือดูแลผู้ป่วย จะเทียบได้กับ caregivers หรือถ้ามีตังหน่อยก็จะจ้างพวกพยาบาลดูแล (nursing care) พวกนี้จะไม่ยุ่งกับงานบ้านเลยจะทำเฉพาะของคนที่เราจ้างเท่านั้น
1. ที่ใช้พ.ศ.เป็นปีราชการเลย คิดว่ามีไทย, พม่า, ศรีลังกา นะครับ แล้วมีลาวกับกัมพูชาที่ใช้ร่วม (แต่ราชการใช้ค.ศ.)
2. ถ้าไม่นับรถเมล์ มันเพิ่งมีไม่นานน่ะครับ ไม่ครอบคลุม อย่างบ้านผมก็เพิ่งเปิดไม่ถึงปี แต่ตอนนี้ก็ใช้มากขึ้น ส่วนรถเมล์ ระบบมันจำยาก ไม่ใช่เส้นทางที่ใช้ประจำจะไม่รู้เลยว่าต้องขึ้นยังไง สายไหน บางเส้นทางใกล้ๆแต่ต้องเปลี่ยนสายรถเมล์ก็งงอีก แถมเวลาก็ไม่แน่นอน ถ้าระยะทางประมาณ 2--3 กิโล เดินไปเลยไม่ต้องรอรถเมล์ ยังถึงก่อนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก การขับรถเลยถือว่าสะดวกมาก แถมมีเรื่องแดด เรื่องฝนเป็นปัจจัยเสริมด้วย
3. ก็แล้วแต่คนแหละครับ แค่เคยเจอเกาะเสาไฟหน้าบ้านแล้วไม่รู้ตัว เดินผ่านมันร้องข้างๆหูเลย ห่างไม่ถึง 30 เซ็นอันนี้มีสะดุ้งเหมือนกัน
4. อาม่า(ที่เสียไปแล้ว)ของผมก็กินแบบ ชูอีสืออู่ซู่ นะครับ วันนั้นแกจะแยกสำรับออกไปกินคนเดียวเลย ส่วนถามว่าหา อาหารมังฯ ยากมั้ย ผมว่ายากระดับนึงนะ ที่หาได้ทั้งปี ผมคิดว่าต้องชุมชนจีนเก่า เช่นเยาวราช หรือโซนตลาดฝั่งธนฯที่อยู่ใกล้แม่น้ำ พวกนี้จะมีอาหารเจขายทั้งปีอยู่บ้าง (แต่หลังๆก็น้อยลง คนจีนรุ่นใหม่ๆไม่ได้กิน) หรือไม่ก็ไปโซนสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆเลย ที่มีเมนูรองรับชาวต่างชาติ แต่ถ้ากินน้ำปลาได้ พวกร้านตามสั่งต่างๆน่าจะพอตอบสนองได้ แค่บอกว่าทำแบบเจ แต่ใส่น้ำปลาได้
5. เอาตามมุมมอง เจ๋อเจ๋อเป็นแขก ตามมารยาทเจ้าบ้านจะไม่ให้ทำครับ อย่างมาบ้านผมไม่มีแม่บ้าน ผมก็บอกแค่ว่ากองไว้เดี๋ยวล้างเอง อันนี้เรื่องมารยาท แต่ถ้าเพื่อนสนิทๆมาปาร์ตี้ แล้วมาช่วยทำช่วยล้างอันนี้ก็เป็นอีกเรื่อง แต่ถ้ามีแม่บ้านมันสามารถมองได้ว่า มันรวมอยู่ในค่าจ้างอยุ่แล้วเลยให้แม่บ้านทำ (อย่างบ้านเพื่อนผมก็มี แล้วแม่บ้านจะชอบเพราะงานหนักขึ้นก็จริง แต่จะได้อาหารหรือวัตถุดิบที่เกินมาฟรีๆ หรือถ้าไม่มีอะไร ก็จะให้ทิปพิเศษไป แต่อันนี้ถือว่าเป็นเรื่องของแต่ละบ้าน)
เราก็ทานมังสวิรัติเหมือนกันค่ะ อยากแนะนำร้านชื่อ สุธัญทิพย์ มังสวิรัติ ร้านนี้อาหารเยอะ แล้วก็อร่อยด้วยค่ะ สั่งผ่าน grab get ได้ค่ะ
แม่บ้านที่บ้านอยู่มาจะ25ปีแล้วค่า ที่บ้านเพื่อนๆก็มีแม่บ้านที่อยู่มานานตั้งแต่เด็กแบบนี้เหมือนกันแทบทุกคนเลยค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้วพ่อแม่จะจ้างให้มาดูแลลูกตั้งแต่เล็กๆ พอลูกโตแล้วบางบ้านอาจจะเลิกจ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็คือจ้างต่อ ให้ที่พักอาหารอะไรด้วยเลย บ้านเราคือแทบจะกลายเป็นคนในครอบครัวไปแล้ว555 ไม่รู้บ้านอื่นเป็นแบบบ้านเราหรือเปล่านะคะ
ตุ๊กแกที่บ้านสวนเรามีตัวนึง น่ารักมากใครจะมาทำมันเราจะดุเลยเพราะมันมีประโยชน์มากนะเพราะแมลงในบ้านสวนเราเยอะมากน้องตุ๊กมีประโยชน์นะจ๊ะเจ๋อๆ
-ขอแยกเรื่องเป็นเรื่องขนส่งสาธารณะนะคะ
ด้วยความที่เมืองไทยการใช้รถสาธารณะไม่สามารถคาดการณ์เวลาได้เลย บางคนเลยเลือกที่จะใช้รถส่วนตัว แต่BTS/MRT ช่วง rush hourคือแทบจะสิงกันค่ะ คนใช้รถส่วนตัวก็เยอะ ใช้ระบบขนส่งมวลชนก็เยอะค่ะ อีกอย่างคือเส้นทางของการเดินรถต่างๆไม่เชื่อมต่อกันทำให้เสียเวลาและเสียค่าใช้ง่ายแพงขึ้น
- เรื่องของแม่บ้าน
แม่บ้านที่ไทย หลักๆเลยมีหน้าที่ ทำความสะอาด ล้างจาน อาจจะมีบางบ้าน ซักผ้า ทำอาหารด้วย
การดูแลผู้สูงอายุส่วนมากในไทยจะให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมาดูแล จะไม่จ้างคนทั่วไปเท่าไหร่ อิงจากบ้านเรานะคะ อากงของเรา87แล้วต้องทานยาและมีการทำกายภาพบำบัด ดังนั้นเลยต้องอาศัยความชำนาญในด้านนั้นๆ ในการดูแลผู้สูงอายุและขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการจ้างและสัญญาจ้างค่ะ
ในความคิดเรานะคะ
- แม่บ้าน = จ้างมาดูแล/ทำความสะอาดบ้าน
- คนสวน = จ้างมาตัดหญ้า/ดูแลต้นไม้
- พี่เลี้ยงหรือพยาบาล = จ้างมาดูแลคนที่เราอยากให้ดู เช่น พี่เลี้ยงเด็กหรือคนสูงอายุในบ้าน
ส่วนแม่บ้านที่อยู่5-10ปี คือเราว่ามันหาคนที่ไว้ใจได้
ยากค่ะ พอทำงานด้วยแล้วโอเคเลยจ้างยาวๆเลยค่ะ😂
เจ๋อเจ๋อทำคลิปน่ารักดี ดูสนุกมากติดตามละน๊า ขอบคุนมากจริงๆ😍
น้องน่ารักจังจะติดตามนะค่ะ
3:25 อาชีพบางอาชีพ require ต้องขับรถเป็นด้วยนะคะ ทำให้การขับรถเป็น skill ที่ควรมีค่ะ
7:40 ที่ออฟฟิสพี่มีคนไม่กินเนื้อสัตว์ในวันเกิด เช่น เกิดวันจันทร์ ทุกวันจันทร์ก็ไม่กินเนื้อสัตว์ หรือวันพระ(วันสำคัญทางศาสนาพุทธ) ด้วยค่ะ
เรื่องที่ไม่กินเนื้อสัตว์ในวันเกิด น่าสนใจมากๆเลย พึ่งเคยรู้ครับบบ
@@jerjer687 บางทีเกี่ยวกับความเชื่อบางอย่างค่ะ เช่น บางคนอาจจะไปบนบาน สาบาน ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วได้ผลก็เลยสัญญาว่าจะงดเว้นเนื้อสัตว์ในวันเกิดตัวเองเพื่อตอบแทนพรที่ขอไว้ค่ะ
ส่วนตัวกินมังแบบกินนมไข่วันพระค่ะ ง่ายๆคือไม่กินเนื้อสัตว์ เราว่ามันจำง่ายแถมสะดวกอยู่นะคะ
4:52 อาจจะเพราะบางคนไม่ชอบอยู่ในที่แออัดหรือไม่ก็ไม่ชินกับการอยู่ที่ๆตัวเองไม่ค่อยคุ้นชินอาจจะเพราะมีความสบายใจมากกว่าค่ะเพราะเราขับรถไปเรียน,ทำงาน,เที่ยวกันอยู่แล้วค่ะ
รึเปล่า?
-ส่วนตัวเราว่าใช้รถส่วนตัวสะดวกกว่า
-อาหารมังสวิรัติไม่ค่อยมีขายเยอะอาจเพราะคนไทยไม่ค่อยนิยมทาน
-ตุ๊กแก!!!! มันน่ากลัวมากกกกกกก
-เท่าที่ฟังเจ่อเจ๋อพูดแม่บ้านที่ไต้หวันคงจะทำหน้าที่คนละแบบกับที่ไทย จากที่เจ่อเจ๋อพูด พี่แม่บ้านของไต้หวันอาจจะมีหน้าที่แค่ดูแลอาม่าอากง แต่ที่ไทยส่วนใหญ่พี่แม่บ้านจะทำทุกอย่าง ทำความสะอาดให้ ทำความสะอาดบ้าน ทำกับข้าว ล้างจาน ซักผ้า ดูแลเราอำนวยความสะดวกทุกอย่างให้เรา ประมาณนี้ค่าาา
ขนส่งสาธารณะในกรุงเทพค่อนข้างไม่ทั่วถึงและไม่สะดวกมากๆๆๆๆๆค่ะ ใจจริงอยากใช้รถไฟฟ้านะคะ แต่ด้วยความที่บ้านเราอยู่ชานเมืองจากบ้านเราสถานีBtsที่ใกล้ที่สุดคือวงเวียนใหญ่ซึ่งกว่าจะถึงก็ต่อรถ3ต่อ ใช้เวลาประมาณ1ชม.กว่าๆกว่าจะถึงBtsค่ะ ไม่มีMrtด้วยนะคะเศร้ามากๆ รถเมล์ยิ่งไม่สะดวก ต้องเผื่อเวลาเป็นชั่วโมงเพราะไม่รู้จะมาตอนไหน ถ้ามีการพัฒนาให้ดีได้สักครึ่งนึงของไต้หวัน ญี่ปุ่นคนใช้เพิ่มแน่นอนค่ะ เบื่อกับการหาที่จอดรถมากๆ😂
- แมงสาบที่ไทยก็บินได้ค่ะ แต่ไม่ได้บินบ่อย
เคยเจอตอนอยู่หอพัก กริ๊ดยาวเลยทีเดียวววว 555
- ตุ๊กแกเป็นสัตว์ที่น่ากลัวมาก คนไทยส่วนใหญ่ก็กลัว
ส่วนตัวถ้าเจอคือร้องไห้เลย กลัวมากๆค่ะ ถ้ามีมันคือไม่มีเรา
มันเป็นสัตว์ที่สู้คน เคยให้คนมาจับออกจากบ้าน แล้วมันขู่ คือน่ากลัวมากกกกก 😱😱😱
มันแพง นั่งหลายต่อ มอไซด์ สองแถว รถเมล์ bts กว่าจะถึง หัวฟู
ติดตามครับรุ้สึกได้ความรุ้
1.ตุ๊กแกเป็นอะไรที่น่ากลัวมากค่ะ จิ้งจกเราก็กลัว คืออยู่ในบ้านไม่ได้เลย ต้องให้แฟนจับออกไป
2.อาหารเจหรือมังสวิรัติในไทยน้อยมากกกก น้อยจริงๆ จะมีเยอะแค่ช่วงเทศกาลกินเจ คงเป็นเพราะไม่ค่อยมีคนกินค่ะ ถ้าอยากกินเจต้องทำเอง ไม่ก็พี่ง 7/11 อย่างเดียวเลย
เรื่องขนส่งสาธารณะ เราว่าเป็นเพราะว่าขนส่งสาธารณะ ยังไม่มากพอที่จะเข้าถึงคนทุกพื้นที่ให้เดินทางสะดวกสบายได้ค่ะ เช่นรถไฟฟ้าสายจะค่อนข้างน้อย ถ้าเทียบกับประเทศอื่น ต้องเดินทางหลายต่อ เสียเงินหลายรอบกว่าจะถึงที่หมาย หรือถ้ารถเมล์ ก็ไม่ค่อยสะดวกค่ะ เพราะหลายสายไม่มี GPS.ทำให้คาดเดาไม่ได้ว่าจะถึงเมื่อไร อากาศก็ร้อน คนเลยชอบขับรถส่วนตัวกันมากกว่า
เรากลัวตุ๊กแกนะ แต่เพื่อนบางคนบอกว่าน่ารักอ่ะ5555 บางคนเค้าชอบสัตว์พวกนี้ เห็นใน ig story มันหยิบจิ้งจกในบ้านมาเป็นสัตว์เลี้ยงเชียว
จะบอกว่า ช้านกลัวตุ๊กแกมากที่สุด มันหลอนมาก คือ มาก ๆๆๆๆ ออกไป๊!!!
เคยไปกินร้านสุกี้หยูอี้ไหมครับ ตรงสถานี mrt หัวลำโพง
มีน้อยคะ เราเคยกินมังส ทุกวันจันทร์ สั่งร้านตามสั่งทำเป็นมังส เช่นผัดผักบุ้งไข่เจียว
1มีระบบ ร.ศ. ด้วยนะคะ เรียกว่า รัตนโกสินทร์ศก นับโดยการเริ่มตั้งราชวงศ์จักรี
2ระบบการเดินทางไม่ทั่วถึงแล้วค่าบริการแพงค่ะ
3ตุ๊กแกน่ารัก จิ้งจกก็น่ารัก
4อาหารเจ มีน้อยมากค่ะ แค่อาหารมังฯยังน้อยเลยค่ะ เรากินมังฯแบบต้องเขี่ยเนื้อสัตว์
5เราจ่ายค่าจ้างเขาค่ะ เขาเลยถือเป็นหน้าที่
5ปีพูดไทยเก่งมากคร่า👌👍🤗
ขอบคุณที่ไม่เอาภาพตุ๊กแกขึ้น ไม่งั้นโทรศัพท์ร่วงแน่
เขากลัวมาก สยอง
พี่เจ๋อเจ๋อคับบอกพฤติกรรมที่ไม่ควรทําเวลาไปเที่ยวไต้หวันหน่อยคับผมอยากรู้มากกกกกกเพราะถ้าโคควิดหายผมจะไปไต้หวัน❤️❤️❤️
เราก็เคยไปกินข้าวบ้านเพื่อนแล้วจะล้างจานให้ แต่พี่แม่บ้านก็มาแย่งล้างเพราะถ้าเราทำเหมือนเราแย่งหน้าที่เขา เขาอาจจะโดนเจ้าของบ้านดุเอาได้ เราจะช่วยล้างก็ตอนแม่บ้านลาแล้ว เรากับเพื่อน(เจ้าของบ้าน)ช่วยกันล้าง
1. ระบบปี
คนไทยส่วนใหญ่น่าจะชินกับทั้ง 2 ระบบ เพราะในทีวีหรือตามข่าวก็พอมีให้เห็นบ้าง
ส่วนผมก็มีหลายระบบในหัว ที่ใช้บ่อยๆ ก็ 3 ระบบ (พ.ศ./ค.ศ./รัชศกญี่ปุ่น) นานๆ ใช้ทีอีกหลายระบบ (ร.ศ./หมินกั๋ว/รัศศกเก่าๆ ของญี่ปุ่น)
เพราะว่าสะสมเหรียญ เวลาหยิบเหรียญเก่าๆ ขึ้นมาดูต้องอ่านปีแล้วคำนวณอายุเหรียญให้ได้ แล้วถ้าอ่านเลขอาหรับกับเลขพม่าได้ก็สบาย
2. เรื่องขับรถ
ประเทศไทยมันร้อนมาก ไม่มีใครอยากเดินไปไหนมาไหนถ้าไม่จำเป็น รถไฟฟ้าก็ไม่ทั่วถึงแล้วก็แพง รถเมล์ก็ช้าและการบริการก็ไม่ค่อยดี ยิ่งในกรุงเทพ มันต้องไปเบียดกับคนบนรถเมล์รถไฟฟ้า
และในกรุงเทพ ซอยเล็กยิบย่อยเยอะมาก ถ้าบ้านอยู่ในซอยลึกแล้วต้องเดินทาง 3 ต่อ 4 ต่อจะเสียเงินและเสียเวลามาก แถมร้อนและเบียดเสียดอีก
เป็นเหตุผลที่ทำให้คนจำนวนหนึ่งเลือกที่จะใช้รถส่วนตัว แม้จะขับไปเซเว่นปากซอย เป็นเครื่องแสดงฐานะด้วย
อีกประการคือรถเมล์ ถ้าไม่เก่งจริงคือหลงทางแน่ เลขเดียวกันวิ่งคนละทาง ไปถึงบ้างไม่ถึงบ้าง ต่อรถตรงไหน นั่งเลยป้ายจะแก้ปัญหายังไง และอื่นๆ
ส่วนผมก็ขับรถไม่เป็นและไม่อยากขับ ชอบรถเมล์และศึกษาเส้นทางมานาน แล้วรอบบ้านป้ายรถเมล์เยอะ เลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการเดินทาง
3. สัตว์ในบ้าน
ส่วนตัวเป็นที่ไม่ชอบ 害虫 ยุง แมลงวัน แมลงสาบ แล้วในบ้านก็เยอะ ผมเลยชอบสัตว์ที่กำจัด 害虫 ประเภท แมงมุม จิ้งจกนี่ขอเชิญในบ้าน มาอยู่เยอะๆ
ส่วนตุ๊กแก ขอให้ไม่มาร้องรบกวนก็พอ ไม่นานมานี้เคยช่วยตุ๊กแกที่เข้าไปติดกาวดักแมลงสาบ พยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วย พอช่วยได้ก็เชิญไปไว้ในจุดที่มีแมลงสาบ ตอนนั้นรู้สึกคุ้มมากที่ได้ช่วยสัตว์โลกที่จะมากำจัดแมลงในบ้านต่อ
4. อาหารเจ/มัง
ในไทยคนไม่นิยมกินมัง/เจ จะกินก็ตามเทศกาลกินเจเท่านั้น บางร้านอาจมีเมนูมัง/เจที่พอกินได้ถ้าไม่เคร่ง พวกร้านตามสั่งถ้าบอกว่ากินมัง/เจเขาก็ทำให้ได้
ก็อาจจะต้องปรับตัว ลดความเคร่ง ไม่รู้ไม่เห็นก็กินๆ ไป หรือไม่ก็หาร้านเจ้าประจำที่เขาทำให้เรากินได้ ถ้าเคร่งมากจริงๆ ก็น่าจะต้องทำกินเอง
ส่วนตัวไม่กินมัง/เจ แต่ในเทศกาลกินเจจะกินบางมื้อ ก็หมูปลอมมันอร่อยกว่าหมูจริง หรืออาจมีเอาเจมาใส่หมูที่บ้าน คือกินเน้นอร่อยเป็นที่ตั้ง
5. แม่บ้าน
มีแต่ครอบครัวระดับกลางบนขึ้นไปเท่านั้นถึงจะมีแม่บ้านได้ บ้านที่เงินเดือนถึงก็จ้างแม่บ้านเพื่อที่จะได้มีเวลาส่วนตัวมากขึ้น ไม่ต้องมาซักผ้า รีดผ้า ล้างจาน กวาดบ้าน รดน้ำต้นไม้ เอง
จะมีเวลาไปพักผ่อนหรือทำงานอดิเรกได้ ก็คือจ่ายเงินซื้อเวลานั่นแหละ
แล้วเจ้าบ้านก็อยากได้แม่บ้านดี แม่บ้านก็อยากได้เจ้าบ้านดี ถ้าหากันเจอก็จะอยู่กันยาว 10 ปี 20 ปี คืออยู่จนเป็นสมาชิกในบ้าน
คือเปลี่ยนบ้านก็อาจจะไม่ได้เงินเดือนเพิ่ม แถมต้องไปลุ้นว่าจะได้เจ้าบ้านดีไม่ดีอีก เลยจะเปลี่ยนแม่บ้านเฉพาะเวลาจำเป็นนั่นแหละ
ส่วนตัวใช้รถยนต์มาตั้งแต่มหาลัย และไม่ชอบใช้ขนส่งสาธารณะเพราะเหตุผลหลักคือ "ร้อน"
ร้อนตั้งแต่
1.เดินออกจากบ้าน บ้านเราอยู่ซอยลึก
2.รอมอเตอร์ไซค์ นั่งมอเตอร์ไซค์
3.รอรถเมล์ ถ้าโชคดีวันนี้ได้ไปรถแอร์ก็ดีหน่อย
4.MRT BTS ต่อให้มีแอร์ ระหว่างสถานีจุดหมายก็ร้อนอยู่ดี
สุดท้ายถึงที่หมาย เหงื่อออก ตัวเหม็น
เลยเลือกใช้รถมากกว่า เพราะตั้งแต่ต้น จนถึงที่หมาย เราไม่ต้องเจออากาศร้อนเลย
เรื่องคาดเดาเวลาไม่ได้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง
บางที มอไซค์ก็ไม่มี รถเมล์ก็ไม่มา สุดท้าย กลับมาเอารถไป มั่นใจกว่าครับ
ทำคลิปได้ฮามากครับ 🤣🤣🤣
โอ๊ยยยย ไม่น่าดูแมลงสาปที่เจ๋อๆเอาขึ้นจอเลย น่ากลัวมากกกหลอนเลยค่ะ
คนไทยชอบขับรถมาก เวลาขับรถมันรู้สึกสนุก เพลิดเพลิน ใกล้แค่ไหนก็จะขับรถไป หาเรื่องให้ต้องขับรถไป ไม่มีธุระอะไรเป็นข้ออ้าง ก็ไปขับรถเล่นชมเมือง ชมนกชมไม้ซะงั้น คนรอบตัวผมเป็นแบบนี้ทุกคน แม้แต่คนจนไม่มีรถแต่ก็ขับรถเป็นกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นอาชีพได้และยังมีความต้องการสูง คนไทยชอบซิ่งชอบแว้นกัน นอกนั้นก็ต้องการอวดสาว แสดงฐานะ
กลัวจิ้งจกกับตุ๊กเเกหนักมากค่ะ ที่สุดเลย
เพิ่งเจอคลิปเจ๋อเจ๋อ น่ารัก และทำคลิปออกมาสนุกน่าติดตามมากค่ะ จะย้อนดูให้หมด และคอยติดตามคลิปใหม่ๆด้วยค่า
อาหารมังน้อยมากค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำพริก ผักต้มอะค่ะ (แต่บางน้ำพริกก็มีเนื้อสัตว์ต้องดูดีๆค่ะ) อันนี้ต่างจังหวัดนะคะ แต่ถ้าเจอก็คืออร่อยนะคะ
ในความคิดเรา คนไทยพึ่งจะมีbts mrt ค่ะ ยังปรับตัวไม่ได้เพราะมันยังไม่สะดวกมาก พึ่งมาสะดวกขึ้นก็ไม่กี่ปีนี้เอง วัยทำงานตอนนี้สมัยเด็กก็เห็นพ่อแม่ขับรถส่วนตัวพาไปไหนต่อไหน มันก็เลยติดการใช่รถส่วนตัวมั้งคะ
อาหารเจหรือมังสวิรัติ คิดว่ามีน้อยมากๆค่ะ แต่ปัจจุบันนี้ก็นิยมมากขึ้นค่ะ อย่างไรก็ดีปกติแล้วถ้าเป็นร้านอาหารตามสั่ง หรือร้านอาหารบางแห่ง เค้าสามารถปรับเปลี่ยนสูตรเป็นแบบมังสวิรัติได้ค่ะ
คิดว่าที่ตุ๊กแกที่ดูน่ารักอาจจะเป็นเพราะตอนที่ถูกตุ๊กแกงับ มันจะเป็นรอยรูปหัวใจอ่ะค่ะ มันดูน่ารักดีนะค่ะ5555
อาหารมังสวิรัติในไทยมีน้อยค่ะ ส่วนมากถ้าหากจังหวัดไหนมีสถานธรรม จังหวัดนั้นถึงจะมีร้านขายอาหารเจเยอะค่ะ เช่นในตัวเมืองของจังหวัดอุบลราชธานีร้านขายอาหารเจและมังสวิรัติมีเยอะมากค่ะ เพราะมีสถานธรรมเยอะ(ฝอถัง)
ตุ๊กแกน่ารักดีค่ะ มีสีสันแล้วก็ไม่ทำร้ายเราด้วยนะ....คนน่ากลัวกว่าเย้อะเลย
ตกใจเรื่องแม่บ้านค่ะ ที่บ้านก็มีแม่บ้านดูแลแม่แต่จะอยู่กันไม่นาน แค่ ครึ่งปี อย่างมากก็ 1ปีเปลี่ยนคนใหม่ ไม่เหมือนอย่างที่เจ่อ เจ๋อ พบค่ะ
แม่บ้านที่ครอบครัวไทยจ้างกัน10ปีขึ้นไป ส่วนมากจะเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะแล้วถ้าแม่บ้านที่อยู่นานๆคือไม่ได้เปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น เขาก็พาลูกมาอยู่ด้วย ครอบครัวเจ้านายบางครอบครัวก็ส่งเสียเลี้ยงดูลูกเขาให้ได้เรียนต่อด้วย ถ้าเป็นแม่บ้านที่อยู่กับครอบครัวนายจ้างเลยส่วนมากจะมีแม่บ้าน2คนขึ้นไป งานที่ทำก็มากกว่าทำความสะอาดบ้าน กับดูแลผู้สูงอายุ ซักผ้า รีดผ้า ทำอาหาร ครบทุกอย่าง นายจ้างใช้ชีวิตสบายๆเลย
แต่เดี๋ยวนี้สะดวกมากขึ้นตรงที่มีบริษัทข้างนอกที่เราสามารถจ้างแม่บ้านเป็นรายครั้งได้ ตรงนี้คนที่จ้างไม่ต้องรวยมากก็จ้างได้เพราะแม่บ้านไม่ได้มาอยู่ที่บ้านคนจ้างถาวร คนจ้างก็สะดวกด้วย จ้างทำความสะอาดสัปดาห์ละครั้ง/2ครั้ง แบบนี้ส่วนมากจะจ้างเฉพาะทำความสะอาดบ้าน หรืออาจจะล้างจานด้วยแล้วแต่เรารีเควส และที่บริษัทเขามีให้จ้าง แต่ไม่ได้ทำครบวงจรทุกอย่างแบบแม่บ้านที่นายจ้างจ้างประจำให้อยู่ในบ้าน
💕ส่วนเรื่องกินเจในไทยยังมีร้านเจน้อย ส่วนมากจะขายแค่ช่วงเทศกาลกินเจ ถ้าเจ๋อเจ๋อจะไปกินอาหารที่ร้าน ลองโทรถามเขาว่า ไม่ทราบว่าสั่งทำอาหารเจได้มั้ย 2-3เมนู เอาไม่มีเนื้อสัตว์ บางร้านเขาก็จะทำให้ได้นะคะ
อันนี้จะเหมือนที่มาเลเซียกับสิงคโปร์ที่เราเคยไปคือร้านไม่ใช่ร้านเจแต่เขาจะทำเมนูเจให้ถ้าลูกค้ารีเควสมา
จริงๆแล้วคนไทยก็ใช้รถสาธารณะเป็นปกติอยู่แล้วค่ะ คนแน่นมากๆ เป็นช่วงเวลาเช้าและเย็นค่ะ เป็นช่วงเวลาเร่งรีบต้องรีบเข้างาน เข้าโรงเรียน และช่วงเวลาเลิกงาน เลิกเรียนค่ะ เจ๋อเจ๋ออาจจะแค่ใช้รถช่วงอื่นค่ะ ก็เลยคิดว่าคนไทยไม่ค่อยใช้รถสาธารณะค่ะ
เกิดมา20กว่าปีก็ยังกลัวจิ้งจกตุ๊กแกอยู่เลย55555
ส่วนเรื่องแม่บ้าน ถึงที่บ้านจะมีแต่เราก็ล้างเองตลอดนะ รู้สึกเกรงใจเหมือนกัน แต่ถ้ามีเพื่อนมีคนอื่นมาบ้านก็จะไม่ให้แขกล้างเลย ก็จะให้แม่บ้านหรือเรานี้แหละจัดการเอง
เกย์ไทยบางส่วน ก่อนคบจะถามว่า ‘ไปทำงานยังไงคับ’ ‘ไปยังไงคับ’ กลายๆว่าขับรถเป็นป่ะ มีรถป่ะ
คนไทยรักสบายคับ อะไรก็ได้ที่เร็ว ไม่ลำบาก ไปไหนก็ได้ เลยนิยมขับรถกัน
อีกอย่าง pubic transportation มีเส้นทางไปไม่ค่อยเยอะ ไม่ค่อยสะอาด คนเยอะและคาดเดาเวลาไม่ได้ด้วย
กลัวตุ๊กแก เพราะเสียงร้องของตุ๊กแกนั้น หลอนมาก~~ ครับ
สมัยเด็ก ตอนผมอายุประมาณ 9-10 ขวบ ผมกำลังกินข้าวนั่งดูทีวี (ดูการ์ตูนช่อง 9) แล้วมีตุ๊กแกตกลงมาเกาะหัว (ตอนนั้นตัดผมสั้นเกรียน ตามวัยตอนนั้น) แล้วผมก็เอามือดึงตุ๊กแก (ซึ่งมันดึงยากมาก ตีนตุ๊กแกมันเหนียว) แล้วเขวี้ยงใส่กำแพง จนตุ๊กแกตกใจวิ่งหนี หลังจากนั้นก็ไม่เคยกลัวตุ๊กแกเลย (ซึ่งปกติคนเจอแบบนี้จะเป็นปม และกลัว แต่ผมกลับไม่กลัวเลย) แถมยังเคยไปจับตุ๊กแก ไปปล่อย ให้หลายๆคนด้วย
ว่าด้วยภาษาอังกฤษ จีน และไทย
Throw-English
Think-Thai ทิ้ง โยน ทิ้งขว้าง
Thim-Laos
Yon(โยน)-Thai, Yeng(扔)-Chinese