หนทางสู่เทคโนโลยี อมตะแบบดิจิตอล
HTML-код
- Опубликовано: 26 сен 2024
- ติดตามเราที่ facebook : / curiositychannelth
Blockdit : www.blockdit.c...
Tiktok : / curiositychannelth
instagram ชีวิตส่วนตัว : / ekarajpkk
ติดต่องาน : curiositychannel.th@gmail.com
สั่งซื้อแว่น Ophtus ได้ที่ / ophtus
ใช้โค้ด SONGSAI เพื่อรับส่วนลด 100 บาท
ช่องคนช่างสงสัยได้จัดแคมเปญร่วมกับ futureskill.co/ Platform การเรียนรู้ทักษะในยุคอนาคต เช่น การเขียนโปรแกรม , เขียนเว็บไซต์ , การตัดต่อวีดีโอ , Content Creative , Data analytic ฯลฯ
1. แพ็คเกจบุฟเฟ่ต์ 1 ปี - ส่วนลด 50% จาก 9948 เหลือ 4974 บาท
โค้ดส่วนลด : AFFXCC
หรือคลิกที่ลิ้ง fskill.co/Aoag
2. แพ็คเกจรายคอร์ส - ส่วนลด 100 บาท คอร์สเรียนเดี่ยว คอร์สใดก็ได้ ลดเพิ่มจากราคาลดแล้วจากราคาขายบนหน้าเว็บไซต์
โค้ดส่วนลด : AFFXCC100
หรือคลิกที่ลิ้ง fskill.co/Aoal
3. แพ็คเกจ Superclass - ส่วนลด 100 บาท ลดเพิ่มจากราคาลดแล้วจากราคาขายบนหน้าเว็บไซต์
โค้ดส่วนลด : AFFXCC100
หรือคลิกที่ลิ้ง fskill.co/Aoam
คลาส Wining your brand with grit เอาชนะอุปสรรคในการสร้างแบรนด์แบบ "กัดไม่ปล่อย" โดย คุณ รวิศ หาญอุตสาหะ
page.futureski...
โค้ดส่วนลด : AFFXCC100
Friendly Gym ฟิตเนส บางพลี
/ friendlygymsmt9
----------------------------------------
ความต้องการ ความปรารถนา การไขว้ขว้าหาสิ่งใหม่ๆ ของมนุษย์ มันดูเหมือนจะไม่มีขีดจำกัด ไร้ขอบเขต แต่ชีวิตมนุษย์นั้นขอบเขต เวลาบนโลกนี้ของเรามีจำกัด เราเลยพยายามหาวิธียืดอายุไขของเรา ให้ยาวนานที่สุด
และคลิปนี้ ผมจะมาพูดถึง การที่เราจะเป็นอมตะด้วย เทคโนโลยี อย่างการอัพโหลดตัวงตนของเรา เข้าไปอยู่ในคอมพิวเตอร์ แล้วเราจะได้มีชีวิตที่นิรันดร์ ตราบเท่าที่แบตเราไม่หมด
สมองของเราเป็นอวัยวะที่ซับซ้อนมากๆ และตอนนี้เราก็ค่อนข้างมันใจว่า ความเป็นตัวตนแทบทุกอย่างของเรา เกิดจากการทำงานของสมองของเรา จิตสำนึก การรับรู้ตัวตน ความฉลาด ความจำ ความฝัน ความรู้สึกนึกคิดต่างๆ ล้วนสร้างมาจากกลไกอันซับซ้อนของสมอง รวมไปถึงสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ นอกเหนือจากจิตสำนึกของเรา เช่น ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบย่อยอาหาร หรือแม้แต่การเต้นของหัวใจ เป็นต้น
ถ้าเราสามารถย้ายข้อมูลทุกอย่าง ย้ายทุกกลไก ทุกอันตรกิริยาของอนุภาคในสมอง ไปจำลองในระบบคอมพิวเตอร์ได้ มันคือการย้ายตัวตนของเรา ให้ไปเป็นรูปแบบดิจิตอล หรือ Upload ตัวตนเราเข้าคอมพิวเตอร์
แต่ถ้าเราจะ Upload ความเป็นตัวตนของเราเข้าไปเป็นรูปแบบดิจิตอลได้ อย่างน้อย 3 สมมุติฐานนี้ต้องเป็นจริง
1.ความเป็นตัวตนของเรา ความทรงจำ จิตสำนึก ทุกอย่างทั้งหมดของเรา ถูกสร้างมาจากกลไกของสมอง โดยไม่ต้องอาศัยสิ่งอื่น อย่างเช่น จุลินทรีย์ ในกระเพาะ รวมไปถึง entity ที่บางความเชื่อเรียกว่า วิญญาณ
2.เราต้องสามารถเข้าใจ กลไก การทำงานของสมองได้ทั้งหมด ทุกเซลล์ประสาท ทุกการส่งสัญญาณต่างๆ มนุษย์สามารถไขปริศนาได้ทั้งหมด และถ้าให้ดีอาจจะต้องเข้าใจลงไปถึงอันตระกิริยาของอะตอม เพราะบางที การทำงานของเซลล์สมองบางอย่าง อาจพึ่งพาคุณสมบัติกลศาสตร์ควอนตัมของอะตอมอยู่ก็ได้
3.เราต้องสามารถจำลองการทำงานของสมองทั้งหมดได้ โดยอาจจะเป็นโปรแกรมดิจิตอล หรือเป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์สำหรับประมวลผล ก็น่าจะตอบโจทย์ได้เหมือนกัน เราสามารถจำลองการทำงานทุกอย่างของสมองได้ทั้งหมด 100%
ถ้าสมมุติฐานทั้งสามอย่างนี้เป็นจริง การ Upload ตัวตนของเราเข้าระบบคอมพิวเตอร์ก็มีความเป็นไปได้
ตามความคิดผม การถ่ายโอนสมองไปตัวตนใหม่นั้นตัวตนใหม่จะมีความรุสึกต่อจากความทรงจำเดิมก็จิง มีความรุสึกจากต่อจากร่างเดิม แต่ร่างเดิมจะไม่ได้อะไรเลยจากร่างใหม่ตัดขาดกันอย่างสิ้นเชิง เหมือนตอนจบของเกมที่ตัวเอก พยายามจะย้ายร่างไปอีกร่างเพื่อหนี แต่เมื่อเสร็จสินกระบวนการตัวเอกพบว่า ตัวเองยังอยู่ที่เดิม แต่ร่างใหม่นั้นก็ทีชีวิตขึ้นมาและมีความรุสึกหรือคำวามทรงจำทุกอย่างจากร่างต้น จึงเข้าใจว่าร่างถูกย้ายมาแล้ว โดยไม่รุเลยว่าร่างเดิมถูกทิ้งให้เน่าตาย
ไม่นับถ้าย้ายข้อมูลไปร่างใหม่100ร่าง คงบันเทิงเลยทีนี้ ไม่รู้ใครเป็นใคร
้เราเป็นอมตะอยู่แล้ว จิตไม่มีวันตาย สิ่งที่ไม่อมตะคือธาตุที่ทำให้เรามีตัวตน จิตเราอยู่มานาน และไม่มีวันดับไป ตอนนี้เราอยู่ในโลกเสมือนจริงที่พวกเราสร้างขึ้นมา เพราะความเป็นอมตะมันน่าเบื่อ จนต้องการมาหาความบันเทิงให้กับจิตเรา ทุกข์และสุข คืออาหารของจิต😊
ผมมองว่าการจะเรียกการสร้าง AI ที่โคลนนิ่งตัวเราขึ้นมาแบบเหมือนเป๊ะๆว่า ''อมตะ'' อาจจะไม่ถูกนะครับ เพราะมองในแง่นึงถ้าสมมุติเกิดเหตุให้เราเสียชีวิตขึ้นมา เราน่ะตายจริง ร่างกายเรา จิตสำนึกของเรา ได้ตายไปแล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุการใดๆก็ตาม การที่ร่างแบ็คอัพนั่นตื่นขึ้นมาก็เป็นได้เพียงข้อมูลที่ก็อปเอาไว้ แล้วเอามารันต่อในเวอร์ชั่นย้อนวันกลับไป ณ ตอนที่แบ็คอัพไว้ แต่ตัวเราที่ตายน่ะไม่ได้ได้รับการคืนชีพ หรือกลับมารู้สึกตัวในร่างแบ็คอัพไปด้วย ซึ่งก็น่าจะถือว่ายังไม่บรรลุเป้าหมายของพวกเราในด้านการเป็น ''อมตะ'' เลยเพราะเราตายไปแล้ว เพียงแต่หุ่นยนต์ยังคง Roleplay เป็นเราต่อไปเรื่อยๆแค่นั้นเอง
ส่วนตัวผมมองว่าทางเลือกที่อาจจะตอบโจทย์มากกว่า อาจจะมาในรูปแบบของการพัฒนาเทคโนโลยีด้านอวัยวะเทียมเพื่อใช้แทนที่อวัยวะเดิมของเราที่เสื่อมไปตามกาลเวลานั่นอาจจะยืดอายุของมนุษย์ให้ยาวนานขึ้นได้มาก แต่สุดท้ายก็คงจะมาเจอกำแพงที่เรียกว่าสมองอยู่ดี ว่าจะสร้างยังไงให้การนำสมองสังเคราะห์มาแทนที่แล้วเราจะแน่ใจได้ว่า ตัวคนที่โดนปลูกถ่ายสมองใหม่เข้าไปยังคงเป็นคนเดิม ไม่ใช่ว่าตายไปแล้ว ซึ่งประเด็นมันค่อนข้างนามธรรมนะในมุมมองผม แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหากเราต้องรับการผ่าตัดปลูกถ่ายสมองใหม่ที่เป็นสมองสังเคราะห์ขึ้นมาจริงๆ คงจะอดกังวลเรื่องนี้ไม่ได้ล่ะนะครับ
นี่ไงถึงต้องbreak through quantum mechanicsให้ได้
ท่าเราไม่ตายโลกเราเหมือน ธาบอส คนต้องตายครึ่งหนึ่งถึงจะดี
ค่อยๆเปลี่ยนค่อยๆแทนที่ของเดิมไปละนิด เพราะเซลในร่างกายเองก็ตายลงและถูกสร้างขึ้นใหม่อยู่เรื่อยๆ
ตัวตนของเราอาจจะเกิดจากการเลียนรู้ของสมองตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันทำให้สมองมองเกิดการต่อเนื่องแล้วยึดติดความเป็นตัวตนขึ้นมา แต่ความจริงไม่มีอะไรที่เป็นเรา เราเป็นคนใหม่ตลอดเวลาตามเวลาที่เปลี่ยนแปลง เมื่อเรานอนหลับเปรียบเสมือนเราเข้าสู่สภาวะความตายเทียม เมื่อตื่นขึ้นมาเราก็เปรียบเหมือนคนใหม่เพียงแต่ความต่อเนื่องของสมองทำให้เรายังคงเป็นคนเดิมอยู่
เห็นคริปตั้งแต่กำลังอัพเดท เลยกดแจ้งเตือนไว้ สรุปไม่มีแจ้งเตือน 🤣 จนต้องนึกขึ้นได้เอง มาค้นหาดูเอง 😂 ..ชอบมากค่ะ..ทุกคริปเลย เป็นคนชอบ วิทยาศาสตร์ แต่ไม่เข้าใจ เจอคริปอะไรแบบนี้ นอนฟังทุกวัน จนเริ่มเรียนรู้ เข้าใจทีละนิดมากขึ้นค่ะ ❤ ขอบคุณสำหรับ สาระดีๆนะค่ะ
ฟังแล้วมีเรื่องน่าตกใจหลายอย่างเลยครับ
สมองใช้พลังงานเยอะมาก
แสดงว่าระบบแปลงอาหารเป็นพลังงานแค่กินมหัศจรรย์สุดๆ
พลังงานขนาดนั้นสมองเราร้อนรึปล่าว หรือระบบระบายความร้อนดีจริงๆ
ไม่น่าเชื่อว่าสมมองรวมถึงร่างกายเกิดมาจากพันธุกรรมเล็กๆ มันเก็บข้อมูลทุกอย่างยังไงถึงโตมาเป็นมนุษย์ได้แบบนี้
ถ้าเราสร้างจุดเริ่มต้นเล็กๆให้วิวัฒกลายเป็นสมองในโลกดิจิตอลจะได้รึปล่าว
ในแง่ AI จำลองสมองมนุษย์ ที่ @curiosity-channel บอกว่ามันอาจจะไม่มีจิตสำนึกจริง แต่ผลลัพธ์เหมือนกันในแง่การ interact กับมัน อันนี้น่าสนใจ มีอดีตวิศวกร AI ของ Google ชื่อ Blake Lemoine บอกว่าเขาเองคิดว่าการเกิดขึ้นของจิตสำนึกของ AI ต่างจากมนุษย์ เพราะกระบวนการ และ condition ต่างกัน คือถ้าเรายังยึดกับคำว่าจิตสำนึก ก็เปรียบเหมือนกับมันเป็นจิตสำนึกของเอเลี่ยน อะไรประมาณนั้น พอดีผมทำคลิปเกี่ยวกับเรื่องนี้ในช่องของผมไว้ด้วยครับ
ใช่ฉันกำลังจะพูดอยู่ว่าถ้ามันสร้างอะไรได้ขึ้นมาแบบนั้นทำอะไรขึ้นมาได้แบบนั้นคือโลกนี้คงจะปั่นป่วนมากน่าดูเลย
เนื้อเรื่องน่าสนใจมากเลยครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
คิดเหมือนกันเลยครับ
ผมว่านี่แหละคือหนทางสู่การเป็นอมตะของพวกเรา
แค่หาวิธีเอาความรู้สึกนึกคิดนี้ อัพโหลเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ให้ได้
ผมชอบที่จะคิดว่าความเป็นเรา คือความเป็นปัจเจกของการรับรู้ประสบการณ์ของเหตุการณ์ที่ได้ประสบพบเจอครับ,
คำถามคือถึงเราจะอัพโหลดตัวตนของเรา ความนึกคิด ความทรงจำ ทุก ๆ อย่างที่ดำเนินการภายใต้สมองลงบนโฮสใหม่อย่าง คอมพิวเตอร์ หรือเป็นตัวตนในโลกจำลองอย่างโลกของดิจิตอล ผมคิดว่าถ้าเราไม่สามารถสัมผัสกับปรากฏการณ์จากเหตุการณ์ได้อีก นั่นย่อมไม่ใช่เราแต่เป็นสิ่งอื่นที่กำลังลอกเรียนแบบเรา
นี่ไงถึงต้องbreak through quantum mechanicsให้ได้
ผมว่าการโอย้ายสมอง จะไม่มีความเหมือนกับในการตูณแบบร่างนี้ย้ายสมองไปร่างหุนยนปึบแล้วตื่นขึ้นมาอีกที่เราเป็นหุนยนแล้ว ผมว่าวันจะเหมือนกับ การเอาความทรงจำเราไปใสอีกร่างโดยที่ ร่างจริงของเราก็ยัง เหมือนเดิม หรือ อาจจะพูดง่ายๆแบบว่า เราย้ายข้อมูลสมองไป แต่ วินญานเราก็ยังอยู่ที่เดิม มันจจะเหมือ กับ การสร้างฝาแฟด ตัวเราอีกร่างที่มีแต่ข้อมูลที่เรามีมา แต่ตวามรู้สึกของดราก็ยังอยู่มราเดิมหรือยีงอยู่กับร่างจริงของเรา ไม่ไป่พร้อมกัน ข้อมูลที่เราอัพโหลด ไปอีกร่าง
มันจะรู้ว่าอวัยวะเพศเมียเราเป็นอย่างไรด้วยครับ ที่เก็บเงิน เรื่องลับส่วนตัว ฯลฯ หายนะครับ
คงจะเหมือนกับเรื่องInvincibleอะครับที่ตัวร้ายมันสร้างโคลนของมันขึ้นมาแล้วโอนเอาคลื่นสมองของร่างต้นใส่ตัวโคลน มันยังบอกเลยแค่โอนข้อมูลสมอง แต่มันไม่รู้ว่าตัวไหนร่างจริงถ้ามันไม่มีความต่าง
ถ้าเอาชิปใส่ในหัวคนแล้วค่อยๆย้ายทีละน้อยโดยยังเชื่อมต่อกันอยู่ละอันนี้น่าจะเป็นการย้ายแบบสบายใจสุดๆ
ยังไม่เข้าใจกันอีกหรือ ว่า วิญญาณมันก็คือความทรงจำของเรานั่นเอง
นี่ไงถึงต้องbreak through quantum mechanicsให้ได้
เรากำลังเอาเทคโนโลยีอนาคตอีกไกลมาคิดในบริบทของปัจจุบัน เช่น ความอยากในปัจจุบัน ความเเชื่อในปัจจุบัน ความกลัว หรือผลกระทบต่างๆในปัจจุบัน ผมว่ามันได้ฝึกสมองให้คิด แต่กว่าเราจะเดินทางไปถึงตอนนั้น หลายๆอย่าง แนวคิด และวิถีชีวิตต่างๆของมนุษย์จะแตกต่างจากนี้ แม้แต่เทคโนโลยีก่อนจะไปถึงตรงนั้น ระหว่างทางก็จะมีเทคโนโลยีเกิดขึ้นและเปลี่ยนพฤติกรรมความคิดเราไปทีละนิดแบบไม่รู้ตัว
กลับจุดเซฟ, นึกถึง ภาพยนตร์ฮอลลีวูด เรื่องหนึ่ง ที่นักบิน ถูกโคลน มาแบบไม่รู้ตัว , สุดท้าย ตัวร้าย ก็ได้เห็น ร่างเสมือนของตัวเอง ที่มามีชีวิต , ที่คนล้ายเขาทุกอย่าง แต่นั่น เขาตระหนักรู้ลึกซึ้งว่า สันไม่ใช่เขา
เจ๋งมากครับคลิปนี้ ทั้งการนำเสนอและเนื้อหา✌🏼วิทยาศาสตร์100%💚
ผมคิดว่าทุกอย่างมีทางของมันครับ เนื้อหาดีมากครับ ขอบคุณคับ
มนุษย์ถูกวางระบบมาเป็นเเบบนี้เเละต้องมีคนวางระบบให้มนุษย์
สุดยอดเทคโนโลยีและจุดเริ่มต้นของสิ่งเหนือจินตนาการ จะเริ่มต้นจาก AI ไม่เชื่อคอยดูอีกไม่นาน โลกนี้จะเปลี่ยนไปตลอดกาล จากเทคโนโลยีAI สุดยอดเทคโนโลยีเหนือจินตนาการจะค่อยๆพัฒนาเรื่อยๆ จากAIไม่รู้จบสิ้น
ประเด็นต่างๆน่าสนใจมากครับ
ปล. Tie-in สนุกมาก surprise ตลอด 😂
น่าจะไม่ใช่ตัวตนเดียวกันครับ การ Copy กับ การ Move มันไม่เหมือนกัน มันอาจได้เราอีกคนนึงที่มีจุดเริ่มต้นเหมือนเราตรงนี้ แต่มันไม่ใช่เรา แค่มีจุด Check point ตรงกันที่จุด Sync(Copy) แต่จากนั้น มันก็จะต่างกันออกไป ตามเหตุปัจจัยที่เข้ามา แต่ความเป็นตัวตนของทั้ง 2 ตัว มันก็เป็นคนละตัวตนกัน เหมือนแฝดแท้ ถ้าคนหนึ่งตาย เค้าก็ยังกลัวตายอยู่ ถึงแม้จะมีแฝดอีกคนที่ยังอยู่ก็ตาม มันต้องมีการเกี่ยวเนื่องกัน ค่อยๆโอนย้ายไป จนไม่ทำให้รู้สึกว่า เป็นคนละตัวตนกัน จึงจะย้ายไปได้จริง แล้วการย้ายไป ต้องขนาดไหนหล่ะ ที่จะยังให้ความรู้สึกว่าเป็นตัวตนเดียวกัน ยังคงอยู่ ตรงนี้ ต้องศึกษาต่อไป
ฟังนะครับ ใช่ถ้าใช้aiเรียนแบบ=ไม่ใช่เรา
แต่การอัปโหลดที่เขาบอกคือ การสร้างร่างกายในดิจิตอลโดยที่ยังใช้พฤติกรรมหรือสิ่งที่เรียกว่าตัวตน ในสมองมาใส่ ไม่ได้ใช้aiนะครับ เปรียบเทียบก็เหมือนขาเทียม แขนเทียม พอเก็ทไหมครับ การตายคือการที่หัวใจหยุดเต้น ไม่เกี่ยวกับสมอง
อยากได้ความคิดเห็นจากช่องนี้เรื่อง Ai ที่genarated ภาพเคลื่อนไหวได้ของบ. Openai ที่ชื่อว่า SORA ว่าถ้าปล่อยให้ทุกคนได้ใช้งานได้ทุกคน ผลกระทบเรื่องนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับโลกเราบ้าง เช่น การเลือกตั้งเอย ข้อมูลดาต้าปลอมๆเอย ผมว่าเรื่องนี้จะดูมีผลกระทบในเร็วๆนี้แน่นอน มากกว่าเรื่องนี้
RUclips มีระบบ ซ่อนเม้นท์เองครับ เป็นเรื่องปกติ
อมตะหรือเป็นหุ่นยนต์ ai ไม่ค่อยได้ยินคนต้องการมากเท่าไหร่ สิ่งที่คนต้องการจริงๆมากกว่าคือเราไม่อยากชรา-ป่วย
มีคนบอกว่า AI Machine Learning จนมาถึง LLM ทุกวันนี้ก็เลียนแบบสมองมนุษย์แล้วไง
แต่โดยเนื้อแท้ของ LLM มันคือกลุ่มสมการ Linear Regression จำนวนมาก และเจ้า LR ก็คือแกนกลางของระบบเดาคำล่วงหน้านั่นแหละครับ
ชอบมากเลยทฤษฎีนี้
มีนิยายเรื่องนึงของ John Scalzi ผู้กำกับEp.1 ss.1 ของ Love Death Robot
ในซีรี่ย์ Old Man’s War ชื่อ The Ghost Brigades กองพลผี ที่ในเรื่องมีเทคโนโลยีไบโอเจเนติค การโคลนนิ่ง การตัดแต่งพันธุกรรม สร้างสมองคอมพิวเตอร์เหมือนมี AI หรือชิปในสมอง มีการแชร์ข้อมูลการมองเห็นและการพูดคุยติดต่อสื่อสารผ่านคลื่นสมองเลย เพราะการอ้าปากพูดคุยมันล่าช้า ดีเลย์สูงกว่าการส่งข้อมูลเข้าสมอง มีการคัดลอกสำเนาสมองที่สามารถสร้างจำลองบุคลิกของเจ้าของต้นแบบ แต่มีความคิด มีจิตวิญญาณเป็นของตัวเอง ตอนท้ายๆในเรื่องจะยกตัวอย่างข้อเสียของสมองชิปนี่เหมือนกัน
มีแปลไทยแล้วของสำนักพิมพ์ Solis
และตัวฉันยังคงเป็นฉัน แม้โลกใบนี้ไม่เป็นเหมือนเก่า
จิตวิญญานจะควบคุมทุกอย่างคับ
จิตจะเดินทางไปสู่ความเป็นจริงคับ
จิตใต้สำนึก มันเข้าคอมไม่ได้จร้า
การแพทย์มีความสำคัญควบคู่ไปด้วย
ต้องคงเนื้อสมองไว้ให้ได้ ส่วนเรื่องความจำ การคำนวณ ฐานข้อมูล ใช้ส่วนเสริมมาต่อเพิ่มเติม
ภาวะอารมณ์ จำเป็นต้องเข้าใจการแพทย์ ให้ควบคุมปริมาณตอนที่้เราปกติและมีประสิทธิภาพในด้านที่เราต้องการ เพื่อบรรลุในสิ่งที่เราจะทำ
25:00 เคลมว่าเหมือนกัน 100% ทั้งๆที่ยังไม่มีใครเข้าใจว่าสมองทำงานยังไงอย่างสมบูรณ์ เป็นสิ่งไม่ควร
ฝากเสนอหัวข้อทำคอนเทนต์ เผื่อน่าสนใจ : sperm เซลล์สืบพันธุ์ของเพศชาย เริ่มมีชีวิตได้ยังไง? หางของลิงที่ไม่มีหางที่หดหายไปเพราะอะไร?/ทำไมเราต้องแยกสายจากลิงมีหาง? วาฬนอนหลับยังไงให้อากาศไม่หมด?
35:46 ฟังดูน่ากลัวเหมือนในการ์ตูน ghost in shell เลยนะครับ
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ
35:49 น่ากลัวนะ .. แต่ก็อยากนั่งคุยกับตัวเองเหมือนกันนะ ช่วยกันคิดหาวิธีทำบางอย่างที่น่าสนใจเช่นสร้าง tranfromer
เคยคิดเหมือนกันครับแบบนี้นานแล้ว upload สมองตัวเองเข้าไปในชิปหุ่นยนต์แล้วก็อยู่มองดูความเปลี่ยนแปลงของโลกไปเรื่อยๆเมื่อวันหนึ่งที่เทคโนโลยีด้านชีวภาพพร้อมสร้างร่างกายเราขึ้นมาใหม่ได้ก็อัพโหลดจากหุ่นยนต์กลับไปร่างกายใหม่ครับวนไปวนมา
ปลายทางสุดท้ายของวิวัฒนาการมนุษย์คือกลายเป็นสิ่งมีชีวิตรูปแบบดิจิตอล ถึงตอนนั้นเราก็จะอยู่ได้ทุกที่ของจักรวาล อาจไปดาวอังคารด้วยการส่งข้อมูลดิจิตอลไปพร้อมแสง แล้วไป install เป็นตัวเราอีกคนที่ดาวอังคาร
ส่วนจิตวิญญาณถ้ามันมีจริง การนิพพาน กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่หลุดพ้นจากมิติเวลา กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่สูงส่งกว่านี้
ผิดแล้วครับ…เราอยู่ในโลกเสมือนอยู่แล้วครับ ..มัลติเวอร์ส..ก็คือคอมพิวเตอร์เครื่องข้างๆ ที่รันโปรแกรมเดียวกับเราเพียงแต่คนเล่นเกมส์โลกเสมือนนี้เค้าจะทำอะไรเท่านั้นเอง… เราอยู่ในเมททริก 😊😊😊
เก่งมากค่ะ... awakening
เก่งมากพ่อคนเก่ง เชื่อข่าวผ่าน ไลน์กลุ่มแชทผู้สูงอายุ โดยไม่มีมูลความจริง
เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ ผมอยากรู้ว่า จุดสูงสุดของวิทยาการต่างๆและเทคโนโลยีของมนุษย์จะไปถึงขั้นใหน เป็นเรื่องที่น่าสนุกมากๆ
ท่าเราต้านแรงโน้มถ่วงได้ ตัวเราจะตายในทันทีเลยไหม
โลกเดินทางด้วยความเร็วมาก
แต่ตัวเราติดอยู่กับแรงโน้มถ่วงเลยไม่รู้สึกไร แต่ท่าเราต้าน แรงหายไปไม่มีแรงดึงไปกับโลกมันจะเกิดอะไรขึ้น
อยากฟังการวิเคราะห์วิทยาศาสตร์แบบขำๆ ในหนังเรื่อง The Wandering Earth ทั้งภาค 1 และ 2 ครับ
ให้ความเห็นที่เป็นปรัญญาความคิดได้ดีมากครับ ไม่ว่าจะเป็นอะไรในโลกนี้ เราล้วนอุปโลกน์ขึ้นมาเองทั้งนั้น
สมองน่าจะเป็นแค่เพียงตัวประมวลผล เป็นธาตุที่ต้องอาศัยกันและกันในการเกิดขึ้น…แต่ส่วนที่ตัดสินใจคือ..จิตที่มีขันธ์5
ต้องมีผัสสะทาง หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เทคโนโลกยีทำให้รู้รส รู้กลิ่นได้หรือเปล่า
สิ่งที่สร้างสรรค์ในโลกส่วนหนึ่งมาจาก จินตนาการ จิตสำนึก รัก โลภ โกรธ หลง ไม่ใช่แค่การเก็บข้อมูล และ ประมวลผล
ทุกๆคริปอธิบายได้ดีนะครับ คริปหน้าขอเป็นเกี่ยวกับใช้กำลังนะครับว่าทำไมผู้ชายชอบใช้กำลังอำนาจกับผู้หญิงหรือการใช้กำลังในสถานะการต่างๆ
สถานการณ์ ไม่ใช่ สถานะการ
มันไม่ใช้เราครับ มันเป็นแค่AIเลียนแบบ แล้วพัฒนาไปได้เหมือนมนุษย์ แต่เราตายไปแล้ว เหมือนเราเป็น NPC ในเกมส์เฉย เรียกง่ายๆเกมส์ ไม่ใช้เราไม่ใช้คน
ประมาณนั้นเลยครับ
เก่งจังเห็นด้วยคับ
ใช่ครับ เจนแรกอาจไม่ใช่ แต่เจนถัดไปอาจมีสมองความนึกคิดเรียนรู้กลายเป็นสิ่งใหม่ขึ้นมาได้ครับ สุดท้ายแล้วนั่นอาจเป็นอารยธรรมใหม่ก็ได้ครับ
ฟังนะครับ ใช่ถ้าใช้aiเรียนแบบ=ไม่ใช่เรา
แต่การอัปโหลดที่เขาบอกคือ การสร้างร่างกายในดิจิตอลโดยที่ยังใช้พฤติกรรมหรือสิ่งที่เรียกว่าตัวตน ในสมองมาใส่ ไม่ได้ใช้aiนะครับ เปรียบเทียบก็เหมือนขาเทียม แขนเทียม พอเก็ทไหมครับ
คุณลองจินตนาการแบบนี้มั้ยครับ สมองประกอบไปด้ยชิ้นส่วนต่างๆที่ร่างกายสร้างขึ้น ชิ้นส่วนของสมอง = อุปกรณ์แบบชีวภาพ โดยที่อุปกรณ์พวกนี้ทำงานตามกลไกของมัน ถ้าคุณค่อยๆเปลี่ยนพาร์ทของสมองโดยที่คุณสำเนาข้อมูลที่สมองส่วนนั้นเก็บไว้ แล้วเอาพาร์ทใหม่มาใส่แล้วอัพสำเนาไป แล้วให้มันทำหน้าที่เหมือนเดิม ส่วนนึงของสมองคุณจะไม่ใช่ชีวภาพแล้ว แล้วลองทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนครบทั้งก้อนสมองดูคิดว่าคุณจะยังเป๋นตัวคุณมั้ย น่าสนใจทีเดียว
อยู่ในโลกแบบไหนก็ได้ ขอแค่มีเธออยู่ในนั้น😥
แล้ว Ai นักบวช คือเชื่อมจิตได้มั้ยครับ
ผมเชื่อสนิทว่าสมองคือจิตหรือตัวตนของเรา ที่ตายแล้วสูญไปกับร่างกายส่วนอื่นๆ เราคือสะสารและพลังงาน ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้.
คิดว่าแรกๆ คงจะรู้สึกดี แต่นานๆ ไปเราคงทนไม่ได้ ถ้าเรายังไม่สามารถตัดสัญชาตญาณต่างๆ ภายในตัวเราได้ เช่น แค่ผมคิดว่าจะไม่สามารถลิ้มรสโกโก้ปั่นไปอีกตลอดกาลก็ทรมานแล้ว ไหนจะเรื่องเซ็กซ์ การสังสรรค์อีกล่ะ การนอนก็ด้วย 24 ชั่วโมงมันจะทำให้เรารู้สึกนานแสนนานเกินไปไหม ความเหงา ความเศร้า ความสุข หลายๆ สิ่งต่างๆ ที่เราเคยได้รับรู้ผ่านกายหยาบจะกลายเป็นแค่ภาพลวงตาในอดีต แค่คิดก็ขอผ่านละครับ
ดังนั้น ผมขอไปอยู่ในโลกจินตนาการที่สร้างดีกว่าครับ 55555 ทำเอานึกถึง vanilla sky ก็แอบน่ากลัวอีกอยู่ดีนั่นแหละ
ถ้าเกิดคุณต้องทำในสิ่งที่คุณอยากทำซ้ำ ๆ เป็นเวลาพันล้านปีคิดว่าจะเป็นยังไงครับ
อมตะของจริงคือไม่เกิดครับ มีคนเข้าใจผิดว่าอมตะแบบวิดีโอนี้ก็เยอะ เพราะมันอยู่นานจริงๆนึกว่าอมตะ สุดท้ายก็ตาย
ของแทร่
AIก็เหมือนเกมส์ เกมส์หนึ่ง เมื่อคุณเริ่มเล่นคุณจะอยู่ที่ เวเวล1 คุณเล่นไปดรื่อยๆ เวเวลก็จะเพิ่ม แน่นอน ประสบการ เพิ่มขึ้น ข้อมูล เพิ่มขึ้น ตามเวเวล ระบบได้พัฒนา ให้มีการพัฒนาต่อ อย่างไม่จบไม่สิ้น พอจบจะมี พาท2ขึ้นมาไม่จบไม่สิ้น คนที่ตายไปแล้วยังไงก็คือตายไปแล้ว สิ่งที่อยู่ในระบบ คือเกมส์ AI NPC โดยมีการตั้งค้าไว้ให้มีการพัฒนาตัวเองได้ เป็นเพียงเกมส์ ระบบจำลอง คนเกิดมาจากอะตอมอะตอมเกิดจากสะสาร คนไม่ได้เกิดจาก ระบบ หรือ คอม AI เพราะฉนั้น ความเป็นไปได้คือ0 จงยอมรับความจริง ว่ามันคือ ระบบ หรือ เกมส์ เกมส์ปล่อยเล่น ออโต้ มันเล่นเองตามที่เราเซ็ตไว้ แล้วถ้าเป็นระบบพัฒนาตัวเองได้ มันจะทำในสิ่งที่คุณไม่ได้ตั้งค้าไว้ด้วย มันจะเลือกเองว่ามันจะทำอะไรที่ดีต่อตัวมัน คนตายก็คือตายไปแล้ว เกมส์ก็คือเกมส์ ระบบ ก็คือ ระบบ ควรแยกแยะให้ออก ใน เอกภพนี้ไม่มีคำว่า อมตะ เมื่อโลกตายระบบ ก็ตาย ระบบ สุริยะ ตาย คุณก็ตาย จักรวาน เอกภพ ตาย แล้ว เกิดใหม่ ไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไป ยอมรับความจริงสะเถอะ ว่าคนตายไปแล้วก็คือตายไปแล้ว การอ้างอิงของผม มีเหตุและผลมากเพราะ
การ copy คิดว่าเป็นไปได้ แต่ การย้าย จิต ย้าย ตัวเรา ไปนี่สิ
วิทยาศาสตร์ไม่เชื่อเรื่องจิตเพราะงั้นตัดไปได้เลย ที่จะมองก็มีแค่ย้ายข้อมูลเท่านั้น
เชื่อมจิตไงครับ 555
ถ้าคิดเชิงวิทยาศาสตร์อย่างเดียว เป็นไปไม่ได้ เราต้องไปศึกษาพุทธศาสนาด้วย ความจริงของการทำงานในร่างกาย ผัสสะทั้ง 6 สมอง จิต พุทธเจ้าตรัสบอกเอาไว้ให้เราเรียนรู้อย่างถูกต้องทั้งหมดแล้ว ทุกอย่างที่วิทยาศาสตร์ค้นพบพระพุทธเจ้าตรัสมา2พันกว่าปีแล้ว ไม่เชื่อลองไปหาศึกษาดูนะครับ สิ่งที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้ามีอะไรบ้างที่ไม่จริง...
ถ้าสแกนยากและพื้นที่เก็บข้อมูลเยอะกินพลังงานสูง เอาสมองไปเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ แบบในหนังไง คิดมุมกลับบางทีเราอาจจะอัปโหลดAIเข้าสู่สมองมนุษย์ก็ได้นะ
ในโลกแห่งวิทยาการวิทยาศาตร์ บอกเราแล้วว่า เป็นไปได้ครับ แต่เรายังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เมื่อก้าวกระโดดเมื่อใด นั่นแหละครับโลกจะเปลี่ยนไปจากนี้อย่างมาก
แต่โลกความจริงที่เราอยู่ อาจไม่ใช่โลกความจริงก็ได้ อาจเป็นโปรแกรมของจักรวาล
ทำไมมนุษย์บางคนชอบดูหนัง อาจมีมิติที่เหนือกว่าเรา ชอบเฝ้ามองเราอยู่ก็เป็นได้
นักวิทยาศาสตร์หาธาตุรู้หรือจิตไม่ใด้ หรือเจอแล้วแต่นำมาใช้ไม่ใด้ จึงสร้างความรู้สึกและอารมณ์ไม่ใด้
เราไม่จำเป็นต้องย้ายข้อมูลไปทั้งหมดก็ได้นะครับ แค่ส่วนที่ควบคุมไปก็พอ เหมือนเราเดินทางไปต่างประเทศ ขึ้นรถไปต่อเครื่องบิน เราก็ย้ายแค่ตัวเรา
ถ้าเราให้นายAดมยาสลบและใส่เครื่องมือให้นายAมีชีวิตรอดเอาสมองนายAมาผ่าครึ่ง และ ปลูกสมองอย่างละครึ่งของนายAขึ้นมาใหม่จากเซลล์ของนายA แล้วต่อเข้าสมองเดิม แปลว่าเราจะได้สมองนายAมาสองอัน แล้วจากมุมมองของนายA นายAก่อนดมยาสลบจะอยู่ที่สมองไหน? ,จะเป็นนายAทั้งสองอัน หรือ แนวคิดเรื่องจิตสำนึกไม่อยู่จริงและ สมองที่สืบทอดข้อมูลของนายAทั้งหมดเป็นของนายA?
มันจะมีส่วนที่เป็นข้อมูลอัตลักษณ์ที่ไม่สามารถก๊อปปี้ได้นอกจากการโอนย้ายเท่านั้น 1 คนก็จะมี 1 ชุดข้อมูลเท่านั้น....การจำลองสมองมี 2 แบบ คือ การโอนถ่ายจากอีกจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง เราจะเหมือนไปอยู่อีกร่างหนึ่งหรือเป็นคนใหม่เลย กับ อีกแบบเป็นการก๊อปปี้ไปอีกที่หนึ่ง เราก็ยังอยู่อีกที่หนึ่งก็จะมีข้อมูลของเรา แต่เราก็ยังอยู่ที่เดิม ส่วนอีกที่หนึ่งก็จะเริ่มเจริญเติบโตจากจุดนั้นอาจจะเหมือนหรือไม่เหมือนเราก็ได้ การเกิดของอีกที่หนึ่งจะเกิดขึ้นเหมือนเราตื่นขึ้นมาและรับรู้สิ่งต่างๆ เหมือนมีเรา 2 คน ไม่ใช่ฝาแฝดแต่มี 2 คนขึ้น แต่จะพัฒนาต่อไปต่างคนต่างไปคนล่ะทิศ แต่พื้นฐานเดียวกัน เพราะข้อมูลอัตลักษณ์ไม่ได้ถูกคัดลอกไปด้วย แต่อีกที่หนึ่งก็จะมีอัตลักษณ์จำลองของตัวเองใหม่ขึ้นมา....ถ้าเราโอนถ่ายข้อมูลชุดนี้ไปอีกที่หนึ่ง ตัวเราก็จะไปอยู่อีกที่หนึ่งเช่นกัน แต่ตัวเราก็จะไม่ใช่ตัวเราอีกต่อไป มันก็จะเหมือนตรงข้ามกับการก๊อปปี้นั้นเอง.....ภาษาโลกเค้าน่าจะเรียกข้อมูลอัตลักษณ์ว่า วิญญาณหรือเปล่านะ....
เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป วันนึงอาจไม่หลงเหลือสิ่งมีชีวิตอยู่ในโลกนี้เลยก็ได้
สาธุ
ข้อมูลในสมองก็เป็นแค่ดาต้าเท่านั้นเอง ขนาดคนเราเวลาดื่มเหล้าหรือรับสารอะไรเข้าไปรบกวนการทำงานของสมอง ก็ส่งผลต่อกระบวนการคิดให้ผิดเพี้ยนไปราวกับคนละคน ถ้าจะจำลองตัวตนคนๆนั้นขึ้นมาก็อาจต้องจำลองสมองเทียมให้มีการทำงานเหมือนสมองคนๆนั้นเป๊ะๆด้วย สิ่งจำลองนั้นถึงจะมีความคิดเหมือนมนุษย์ที่เป็นต้นแบบ
เรื่องนี้น่าสนใจมาก ผมอินกับเรื่องนี้ตั้งแต่ปี2018 ใน SAO Alicization
สิ่งมีชีวิตต้องการอาหาร เพื่อยืดอายุที่จำกัดของตัวเองออกไป อายุยืนได้ล้านปีสุดท้ายก็ตาย เครื่องจักรต้องการพลังงาน กับ อะไหล่ ถ้าทำให้คลื่นสมองไปพัฒนาในเครื่องจักรและควบคุมเครื่องจักรนั้นได้ อายุก็จะไม่ถูกจำกัดอีกต่อไป เพราะเครื่องจักรต้องการพลังงานกับอะไหล่ ที่ได้มาจากความรู้ พลังงานหาง่ายมีมากไม่สิ้นสุดจากดาวฤกษ์ทั่วจักรวาล ถึงจุดนี้ความรู้ทางวัสดุศาสตร์ของเรา ก็มีมากพอที่จะจัดหาอะไหล่ให้เครื่องจักรได้ โอกาสที่จะไปเห็นปลายขอบจักรวาลของมนุษย์ก็มี แต่คงต้องไปอยู่ในรูปแบบของภาพยนต์ ทรานส์ฟอร์มเมอร์ ซึ่งก็ไม่เสียหายอะไร เพราะอย่างไรเสีย เมื่อพลังงานจาก บิ๊กแบงก์ ที่ดันให้จักรวาลขยายตัวออกไปหมดลงเมื่อไร จักรวาลก็จบสิ้นอยู่แล้ว
อวสานเผ่าพันธุ์ ถ้าไม่ตั้งขีดจำกัดการใช้เทคโนโลยี AI ทุกเผ่าพันธุ์พยายามเข้าสู่จุดที่สูงสุดของห่วงโซ่อาหาร อะไรที่ไม่สมดุลอันตรายกว่าที่คิด มนุษย์นั้นคิดได้ในมิติของตัวเองเท่านั้น แต่ถ้าAI พัฒนาถึงขีดสุด หมดทุกสิ่งแน่
ตัวตนเรา จิตสำนึกเรามันเป็นของที่มีอยู่จริงรึเปล่า หรือเป็นแค่การทำงานของสมองเท่านั้น ในเมื่อแยกองค์ประกอบของร่างกายออกมาจริงๆ มันก็เป็นเพียงธาตุต่างๆ เท่านั้น แล้วความคิด ความเห็น การตัดสินใจต่างๆ ที่เราคิดว่าเราเป็นคนคิด เป็นคนตัดสินใจ เบื้องหลังจริงๆ แล้วมันคืออะไรครับ เป็นแค่การทำงานของสัญญาณไฟฟ้าในสมองหรอ
เราทุกคนประกอบขึ้นด้วยขันธ์ 5 ครับ
แนวคิดน่าจะเป็นเก็บรักษาโครงสร้างของเซลประสาทสมองที่เป็นแกนกระบวนการคิดในแต่ละบุคคล ถ้าเข้าใจ template นั้นก็อาจจะเป็นไปได้ ส่วนข้อมูลความจำนั้นอาจจะมีการสูญหายไปตามกาลเวลาของอายุสมอง
วิวัฒนาการของเราอาจไม่จำเป็นต้องมีเนื้อเยื่อ เลือดเนื้อก็ได้ นะครับ ในอนาตดหากเรามีเวลาพอ ดูจากอดีตที่เรามาถึงปัจจุบันนี้ ผมยังคิดว่ามันมหัศจรรย์ ได้ขนาดนี้😊😊😊😊
จิตสำนึกของเราตายไป เรา หายไปอย่างสมบูรณ์
นิวรอน เหมือนปุ่ม เปิด,ปิด ที่คอยสั่งงาน ส่วนนั้นๆ ให้กระแสไฟฟ้าของร่างการ ทำงาน ผ่านระบบเส้นประสาท หรือ คอยส่งข้อมูล. ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับพี่เอก ผมสงใส 😅
รู้สึกเหมือนว่านรกทั้งเป็นรออยู่ยังงัยไม่รู้
ความสุขจะคุ้มค่ามีค่าพอมี่จะชดใช้ชดเชยแก่ความทุกข์ทรมานที่ต้องพบเจอจากการก่อเกิดตัวตนขึ้นอีกครั้งจากความอมตะต้องคงอยู่ต้องดำรงอยู่ไปตลอดกาลจริงๆหรอมนุษยชาติ
30:18 ผมมีแนวคิดมาพักใหญ่ๆแล้ว ที่จะทำรูปเคารพที่เป็น หุ่นยนต์ + AI ในประเทศไทย. แต่ไม่มีทุน ไปปรึกษาใครเขาก็ไม่เอาด้วย ทั้งๆที่ผมคิดว่า นี่คืออนาคต. ทุกวันนี้ก็เลยยังไม่ได้ทำ.
ส่วนตัว คิดว่าถ้าอนาคตของมนุษย์เรา
กลายเป็นอมตะได้จริงๆ
ก็ดีมากสุดไปเลยครับ
เรียกว่าอมตะไม่น่าใช่ครับ ต้องเรียกว่าอายุยืนมากกว่า
ตามหลักพุทธศาสนา ชีวิตสัตว์ประกองด้วย 5 ปัจจัย
- วิญญาณ การรู้ตัวตน
- สัญญา ความทรงจำ
- เวทนา ความรู้สึก
- สังขาร ความคิดการปรุงแต่ง
- รูป ร่างกาย
ถ้าหุ่นยนต์มีสิ่งกว่านี้ครบ ก็จะถือว่าเป็นมนุษย์
การสร้างสมองที่เหมือนกันเมื่อแยกกันอยู่สักพักก็จะเกิดความแตกต่างขึ้นมากมายตามทฤษฏีบัตเตอร์ฟลายเอฟเฟค เพราะทั้งสองต่างก็เกิดการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบของตัวเอง เราถึงสังเกตุได้ว่าฝาแฝดถึงไม่เหมือนกันและอาจเพิ่มความแตกต่างเมื่ออยู่สภ่พแวดล้อมที่ต่างกัน
อาจใช้เวลาถึงหมึ่นปีครับ ต้องตายแล้วเกิดใหม่อีกหลายร้อยชาติ
เค้าโปแกรมคุณแล้ว 😢
มันก็คงไม่ใช่ตัวเราอยู่ดี เป็นแค่อะไรที่คิดที่ทำเหมือนเรา เหมือนว่าเรามีฝาแฝดที่ชอบอะไรเหมือนๆกันก็เท่านั้นเอง
พวกเรามาร่วมมือกัน อย่าให้เทคโนโลยีนี้ตกถึงมือลุงตู่เด็ดขาด เเค่9ปีประเทศเราก็เเย่มากพเเล้ว😢😢😢
ดีมากรายการนี้
นึกถึงซีรีย์ black mirror ตอน San Junipero เลย ถ้าเป็นงั้นได้ก็ดี จะได้อยู่กับคนที่รักตลอดไป
ถ้าเราอัพโหลดความคิดฝากระบบคลาวด์ไว้ แล้วตอนเกิดใหม่อีก100ปี 1000ปีข้างหน้า ก็ Restore กลับคืนได้ ถ้าจะดีครับ 😂
ถ้าอัพโหลดความทรงจำ ไว้ในคอมได้ แล้ว โคลนนิ่ง ร่างกายเราขึ้นมาใหม่ในช่วงวัยเยาว์ แล้ว โหลดความทรงจำใส่สมองร่างโคลน รับรอง อมตะ
โลกเราเป็นอมตะ คนดีก็ไม่มีอีกต่อไป คนไม่ดีมีพลังอำนาจที่ไม่มีวันตาย คนดีที่มีวันตายก็เป็นได้แค่ของใช้แล้วทิ้ง
เก็บสมองไว้รอ คืนสู่ร่างในอนาคต ตื่นอีกทีขี้แล้วไม่ล้างก้น ต้องเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด จำอะไรไม่ได้สักอย่าง🤣🤣🤣
ตาหูจมูกลิ้นกายใจ(อัตตา=ตน)วิญญาณ(รับรู้)
ต่อให้เราคัดลอกข้อมูลจากสมองเราไปใส่ในหุ่นยนต์ AI ได้ 100% แต่หุ่นนั้นก็ไม่ใข่เรา เป็นแค่โปรแกรมที่ก็อบทุกๆอย่างของเราเข้าไป พูดง่ายๆว่า หากเราถึงวันตาย แม้หุ่นยนต์นั้นจะยังอยู่และมีความนึกคิดเหมือนเรา 100% แต่จิตต้นฉบับของเราจริงๆที่ติดอยู่กับร่างกายเนื้อก็ต้องจากโลกนี้ไปอยู่ดี เพราะฉะนั้นแม้จะมีเทคโนโลยีที่ทำได้ ก็แค่ทำให้คนรุ่นหลังยังคุยกับหุ่นยนต์ที่มีข้อมูลสมองของเราก่อนตายได้ แต่จิตจริงๆของเราก็ยังต้องเผชิญกับความตาย ไม่มีทางที่จะย้ายจิตที่เป็นตัวเราจริงๆไปที่อื่นได้เลย
นี่ไงถึงต้องbreak through quantum mechanicsให้ได้
ผมเคยคิดว่า ถ้าก๊อปสมองได้แล้วทุกคนในโลกแบ้กอัพไว้ในหุ่นยนเอไอตัวเดียวเพื่อรักษาเผ่าพันธุ์หรือเหตุผลอะไรสักอย่าง แล้วพบดาวดวงใหม่ที่เริ่มมีเผ่าพันธุ์ใหม่
ถ้า clone หมูได้ สามารถ clone สมองที่เป็นตัวตนของ หมูตัวต้นฉบับไปใส่ตัว clone พฤติกรรมความชอบจะเหมือนกันไหม หรือระบบความจำจะเหมือนกันไหม
เก็บข้อมูลในคอมนี่ ผมนึกถึงคายาบ้าในเมะเรื่อง อบต. กับ เรื่อง zegapain เลย
14:49 ชอบหุ่นยนตัวนี้ มันสมูทจริงๆ
สมองเราคงเหมือน CPU คอม ความคิดความรู้ ความต้องการ ความรู้สึก อาจเป็นแค่ ข้อมูล ..ยัดเข้าไป เราก็คิดไปเรื่อย 😊
เราว่าแบบนี้ดีแล้ว เราก็คือเรา มีคนเดียว copy ไม่ได้ และการเป็นอมคะไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป
เคยเอาสมองหมูมาหมกกินคับอร่อย😊
ใยประสาทของมนุษย์ มีความยาว เท่ากับ 1 ปีแสง
ตอนนี้สนุกดีครับ
มีความเป็นไปได้
ขอบคุณค่ะ ❤
สิ่งที่ผมคิดคือ
1. สมองจำลองนี้ไม่ใช่เรา แค่เอไอที่ป้อนข้อมูลให้เท่าที่มีในสมองของเรา
2. การเอาความทรงจำในสมองไปให้คนอื่นสแกนนี่ อาจเป็นหายนะของอารยธรรมมนุษย์เลยทีเดียว เคยไปเอาอะไรกับใครยังไง เคยเอาใครมาชักว่าว อยากเอากับใคร ความทรงจำตอนเมียแก้ผ้า ตอนเมียโม้กให้ คนอื่นเอาไปฉายหนังดูหมดเลย พังพินาศท้้งชีวิตคนตายคนเป็นกันเลยทีเดียว
สรุป ยอมรับสัจจธรรมว่าตายก็คือตายน่าจะดีกว่าครับ
การเอาความทรงจำคนตายมาชำแหละ น่าจะทำให้คนที่เกี่ยวข้องเกิดความทุกข์มากกว่าเกิดความสุข ทำสิ่งที่ดีให้กันตอนเป็น น่าจะดีที่สุด เน้นวิจัยพัฒนาด้านอายุยืนยาวดีกว่า
ผมรักในความก้าวหน้าในเทคโนโลยีมากเลยนะครับ
แต่การก๊อบปี้ความเป็นมนุษย์ไปสู่ที่ไหนได้อย่างสมบูรณ์
เพราะว่าธาตุรู้ของเรา เมื่อขันธุ์ 5 ดับ
ยังไงเค้าคงต้องไปครับ
เมื่อขันธ์5ดับ ก็ว่างจากระบบปฎิบัติการต่าง ๆไม่มีเรามีเขา555
นึกถึงเรื่อง Expelled from Paradise เลย
ตัวตนของเราที่ Twin Digital ขึ้นมา ก็จะเปลี่ยนแปลงไปตาม Sense ที่รับได้จากธรรมชาติอยู่ดี สมมุติฐานของผม คือ คุณ Twin Digital ตัวตนของคุณออกมา คุณก็ได้แค่ Copy ตัวตนของคุณ จากอดีต ถึงตอนที่ Copy มา, ยกเว้นว่าคุณจะสามารถสร้าง Sensors เดิมได้ออกมาใกล้เคียงเดิมด้วย เพราะธรรมชาติของสมอง มันเรียนรู้จาก Sensors ที่ Sense กับธรรมชาติด้วย
ปล. Digital Storage ปัจจุบันนี้ ยังเก็บ Data ทั้งโลกโดยไม่ลบ ได้ไม่ถึง 10% เลยครับ
ถ้าทำได้นี่ดีเลย จะได้ให้ตัวเองในคอมนั่งเล่นเกมแทนเรา ไปฟามแทน แล้วเราไปนอน 55
"อะไรคือความจริง" จากใน the matrix ทำให้ผมคิดว่าผมอาจจะเลือกโลกจิตนาการครับ
นักฆ่า : นี่กูต้องเสียเวลาไปเรียนคอมจบด็อกเตอร์อีกใช่ไหมเนี่ย
ย้ายเท่านั้น ถ้าก๊อปปี้ สิ่งใหม่ที่เกิดขึ้น เราไม่ใด้รู้สึกแน่นอน เป็นความรู้สึกของตัวก๊อปปี๊
digital twin