Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
หนังสือ ‘กำเนิดสยามประเทศ รวมบทความจากการทำงานของอาจารย์ศรี ศักร วัลลิโภดม’ โดย สำนักพิมพ์ศิษย์ศรีศักรราคารวมค่าส่ง ๗๖๕ บาท หนังสือขนาด ๒๔ x ๑๖ x ๔.๕ เซนติเมตรจำนวน ๖๙๖ หน้า เย็บสันกี่ พร้อมแผนที่ขนาดใหญ่ ๑ แผ่น พิมพ์สี.สนใจหนังสือ สอบถามและสั่งซื้อได้ที่เพจสยามเทศะฯ : facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid0kEbVuhu36FwUoTmxr5uDJ2Stt6YhmC1LvCWWj4u4CffaDRZVyyFCMn49P4YSUdE2l&id=100072360480833.สำนักพิมพ์ศิษย์ศรีศักร : facebook.com/story.php?story_fbid=122130074918397312&id=61561919369878&_rdr
รัฐเจนลีฟู มีพัฒนาการมาตั้งแต่พศว.ที่ 11 แล้วสลายไปในพศว.ที่ 19 พร้อมกับการเจริญขึ้นมาแทนที่ของรัฐสุโขทัยและรัฐอโยธยา ศูนย์กลางความเจริญของรัฐเจนลีฟูอยู่ที่บริเวณเมืองดงคอน เมืองแพรกศรีราชา เมืองอินทร์บุรี เมืองพรหมบุรี ตรงที่เรียกว่าลุ่มแม่น้ำน้อยและฝั่งตะวันออกแม่น้ำท่าจีนตอนบน (คลองมะขามเฒ่า, แม่น้ำสุพรรณบุรี) ปัจจุบันอยู่ในเขตจังหวัดชัยนาทตะวันตก สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง และอยุธยาตอนบน
แม่น้ำน้อย เป็นแม่น้ำสายเล็ก ๆ ที่แยกจากแม่น้ำเจ้าพระยาตรงบริเวณด้านใต้ตัวเมืองชัยนาท (ก่อนถึงเขื่อนเจ้าพระยา)อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท ไหลไปทางทิศตะวันตกอ้อมลงไปทางใต้ผ่านอำเภอสรรคบุรี เข้าเขตจังหวัดสิงห์บุรี ผ่านอำเภอบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน และอำเภอท่าช้าง แล้วใช้เป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างอำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง กับอำเภอท่าช้างและอำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เข้าเขตจังหวัดอ่างทอง ผ่านอำเภอโพธิ์ทองและอำเภอวิเศษชัยชาญ จากนั้นเข้าเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผ่านอำเภอผักไห่ อำเภอเสนา และอำเภอบางบาล แล้วไปรวมกับแม่น้ำเจ้าพระยาอีกครั้งที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อยมีลำคลองสาขาที่สำคัญชื่อว่าคลองสีบัวทอง ซึ่งไม่ไกลจากลำคลองแห่งนี้ เป็นบริเวณพื้นที่ที่มีการพบว่าเป็นแหล่งฝังศพของคนในยุคหินใหม่อายุราว 3,000 ปี บริเวณที่พบนี้อยู่ในเขตพื้นที่ ตำบลสีบัวทอง อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง จากการสำรวจเบื้องต้นพบวัตถุโบราณหลายชิ้น เช่นกระดูกมนุษย์และสัตว์ ภาชนะดินเผา ลูกปัด อาวุธที่ทำจากสำริด
แม่น้ำท่าจีน เป็นแม่น้ำที่แยกจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท (แยกออกจากแม่น้ำเจ้าพระยาเหนือแม่น้ำน้อย แล้วไหลโอบแม่น้ำน้อยอีกที) โดยมีทิศทางการไหลไปทางตะวันตกแล้วมุ่งลงใต้ผ่านจังหวัดชัยนาท จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดนครปฐม และจังหวัดสมุทรสาคร ก่อนจะไหลออกสู่อ่าวไทยที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร มีความยาวทั้งสิ้นประมาณ 315 กิโลเมตร แม่น้ำท่าจีนเป็นแม่น้ำที่มีชื่อเรียกหลายชื่อ คือ 1. ตอนที่ไหลผ่านจังหวัดชัยนาทเรียกว่า "คลองมะขามเฒ่า" 2.ตอนที่ผ่านจังหวัดสุพรรณบุรีเรียกว่า "แม่น้ำสุพรรณบุรี" 3. ตอนที่ผ่านจังหวัดนครปฐมเรียกว่า "แม่น้ำนครชัยศรี" 4.ตอนที่ไหลผ่านจังหวัดสมุทรสาครลงสู่อ่าวไทยเรียกว่า "แม่น้ำท่าจีน" แม่น้ำท่าจีน มีลำน้ำสาขาที่สำคัญคือคลองจระเข้สามพัน หรือ คลองจรเข้สามพัน และอาจเรียกว่า แม่น้ำจระเข้สามพัน หรือ ลำจระเข้สามพัน ก็ได้ ลำน้ำสายนี้เป็นลำน้ำที่มีต้นน้ำส่วนหนึ่งมาจากภูเขาในเขตอำเภอห้วยกระเจา และอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี และอีกส่วนหนึ่งมาจากแม่น้ำแม่กลอง ช่วงที่ไหลผ่านอำเภอท่าม่วง และอำเภอพนมทวน เดิมราษฎรเรียกว่า แม่น้ำทวน หลังจากนั้นช่วงที่ไหลผ่านอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ราษฎรเรียกว่า "แม่น้ำจรเข้สามพัน" ไหลผ่านหน้าเมืองอู่ทองโบราณไปทางทิศตะวันออก ไปรวมกับลำน้ำท่าว้า-ท่าคอย กลายเป็นลำน้ำสองพี่น้อง แล้วไหลลงแม่น้ำท่าจีน ที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี
คลองจระเข้สามพัน หรือ คลองจรเข้สามพัน อาจเรียกว่า แม่น้ำจระเข้สามพัน หรือ ลำจระเข้สามพัน เป็นลำน้ำธรรมชาติมีต้นน้ำส่วนหนึ่งมาจากภูเขาในเขตอำเภอห้วยกระเจา และอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี และอีกส่วนหนึ่งมาจากแม่น้ำแม่กลอง ช่วงที่ไหลผ่านอำเภอท่าม่วง และอำเภอพนมทวน เดิมราษฎรเรียกว่า แม่น้ำทวน หลังจากนั้นช่วงที่ไหลผ่านอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ราษฎรเรียกว่า "แม่น้ำจรเข้สามพัน" ได้ผ่านหน้าเมืองอู่ทองโบราณไปทางทิศตะวันออก แล้วรวมกับลำน้ำท่าว้า-ท่าคอย เป็นลำน้ำสองพี่น้อง ไหลลงแม่น้ำท่าจีน ที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี
แม่น้ำท่าจีน เป็นแม่น้ำที่มีหลายชื่อ คือในเขตจังหวัดชัยนาท เรียกคลองมะขามเฒ่า ในเขตจังหวัดสุพรรณบุรีเรียกแม่น้ำสุพรรณบุรี ในเขตจังหวัดนครปฐม เรียกแม่น้ำนครชัยศรี (ชื่อเดิมของเมืองนครปฐม) และในเขตจังหวัดสมุทรสาครไหลลงอ่าวไทยเรียกแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำท่าจีนมีต้นน้ำที่แยกออกมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตอำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ก่อนที่แม่น้ำเจ้าพระยาจะไหลเข้าสู่เขตอำเภอเมืองชัยนาท เหนือแม่น้ำน้อย ( แม่น้ำน้อยไหลแยกออกจากแม่น้ำเจ้าพระยาทางใต้ของตัวเมืองชัยนาท) โดยไหลไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้โอบแม่น้ำน้อยอีกที ผ่านจังหวัดชัยนาท สุพรรณบุรี นครปฐมและสมุทรสาครลงสู่อ่าวไทย มีความยาวทั้งหมด 315 กิโลเมตร ลำน้ำสาขาที่สำคัญคือแม่น้ำทวน ที่ไหลมาจากภูเขาสูงในเขตอำเภอห้วยกระเจาและอำเภอเลาขวัญ และบางส่วนของแม่น้ำแม่กลองในเขตจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อไหลผ่านตัวเมืองอู่ทองโบราณ ชาวบ้านได่เรียกแม่น้ำสายนี้ว่าแม่น้ำจรเข้สามพัน แล้วไหลไปทางทิศตะวันออกไปรวมกับแม่น้ำท่าว้า กลายเป็นแม่น้ำสองพี่น้องแล้วมารวมกับแม่น้ำท่าจีนลงสู่อ่าวไทย แม่น้ำสำคัญอีกสายหนึ่งคือแม่น้ำบางแก้ว มีต้นน้ำมาจากจังหวัดสุพรรณบุรีไหลผ่านเมืองนครชัยศรี/นครปฐมโบราณ ไปลงแม่น้ำนครชัยศรี/ท่าจีน
แม่น้ำน้อย เป็นแม่น้ำสายเล็กที่แยกออกจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ด้านใต้ตัวเมืองชัยนาท ก่อนถึงเขื่อนเจ้าพระยา แล้วไหลอ้อมไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ผ่านอำเภอสรรคบุรี เข้าเขตจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง แล้วไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยาอีกครั้งที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ขอมไม่ใช่เชื้อชาติ ไม่ใช่คน แต่คือตำแหน่งข้าราชการของสยามในเวลานั้น อ.สมชาย น้อยสาคร นำพิสูจน์ซากอารยธรรมเหล่านี้ได้คะ
เมืองที่อยู่ตอนบนของ ..ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเจ้าพระยา .. เมืองบน ที่ท่าน้ำอ้อย เมืองล่างหางน้ำสาคร ...ดงคอนนั้นอยู่ไม่ห่าง ..และมี เมืองนางเหล็ก และอีกหลายเมืองที่อยู่ในเส้นทางของศรีเทพ
น่าสนใจมาก ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณมากคะ❤❤❤❤❤❤❤
พอไม่มีสิ่งก่อสร้างใหญ่ๆ แบบนครวัด นวชก.กระแสหลัก มองข้ามหมด ฟังอจ.ตีความมา เสียดาย
ศิลปร่วมแบบเขมร
สาระท่งประวัติศาสตร์โบราณคดีเยี่ยมยอดสาธุ
ตอนที่ ๘๓ เจนลีฟู ruclips.net/video/2_oQshdGHR0/видео.htmlsi=YVlu50fgqXn63Is5
真里富国นักวิชาการจีนเชื่อว่า เจนลีฟู อยู่ที่ จันทบุรี
อาณาจักรจุลหรือโจฬะ(เจิ้นลา)มีชาวสยามกับชาวลาวเป็นใหญ่มี2แคว้นใหญ่คือ 1.แคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ)ซึ่งมีเมืองใหญ่อยู่2เมืองคือ 1)เมืองสัมภูปุระโคก(เสียมกก/เจิ้นลาบกมีพื้นที่อยู่ภาคใต้ของลาวและในภาคอีสานของไทย 2)เมืองสัมภูปุระราช(สยามราชหรือเสียมเรียบ/เจิ้นลาน้ำ)มีพื้นที่ใต้เทือกเขาพนมดงรักลงไปจรดทะเลที่มีปราสาทหินนครวัดนครธมตั้งอยู่ 2.แคว้นละโว้(หลอหูหรือลาว)ในภาคกลางของประเทศไทย ในสมัยรัชกาลพระเจ้าสุริยวรมันที่1แห่งราชวงศ์ไศเลนทรา(วรมัน)ของชาวสยาม(ไทย)สามารถรวมแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ)กับแคว้นละโว้(หลอหูหรือลาว)เป็นอาณาจักรเดียวกันเรียกอาณาจักรจุล(โจฬะหรือเจิ้นลา) #อาณาจักรเจินลีฟูเป็นอาณาจักรเดียวกันกับอาณาจักรจุล(#โจฬะหรือเจิ้นลา) ในสมัยรัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่7แห่งราชวงศ์มหิธรปุระ(วรมัน)ของชาวสยาม(ไทย)ยกทัพจากแคว้นละโว้(หลอหูหรือลาวในภาคกลางของประเทศไทยซึ่งเป็นเมืองหลวงเข้าช่วยเหลือเมืองพระนครกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ)เพื่อปราบปรามกองทัพแคว้นจามปาที่โจมตีเมืองพระนครกัมพูชาทำให้แคว้นจามปาพ่ายแพ้ตกเป็นเมืองประเทศราชต่อกองทัพแคว้นละโว้(หลอหูหรือลาว)ของพระเจ้าชัยวรมันที่7ของชาวสยาม(ไทย)ทำให้ชาวจามกับชาวเขมรในแคว้นจามปาถูกพระเจ้าชัยวรมันที่7ของชาวสยาม(ไทย)กวาดต้อนไปเป็นเชลยทาสสร้างปราสาทหินรับใช้ชาวสยาม(ไทย)ในเมืองพระนครกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ) ในสมัยรัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่8แห่งราชวงศ์มหิธรปุของชาวสยาม(ไทย)แห่งอาณาจักรจุล(โจฬะหรือเจิ้นลา)ถูกกองทัพมองโกลโจมตีเมืองพระนครกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ)ทำให้พระเจ้าชัยวรมันที่8ย้ายเมืองหลวงจากเมืองพระนครกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ)ไปอยู่แคว้นละโว้(หลอหูหรือลาว)ในภาคกลางของประเทศไทยเพื่อเป็นฐานที่มั่นต่อสู้กับกองทัพมองโกล พ่อขุนผาเมืองชาวสยามเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)ที่มีที่ตั้งอยู่ในจังหวัดราชบุรีในพื้นที่ฝั่งทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาในภาคกลางของประเทศไทยขึ้นไปจับมือกับพ่อขุนบางกางหาวผู้เป็นชาวลาวเจ้าเมืองบางยาง(นครหิริเงินยางเชียงแสน)ในภาคเหนือของประเทศไทยเพื่อแย่งชิงอำนาจเป็นใหญ่ในภาคกลางของประเทศไทยเพื่อชิงดินแดนเมืองสุโขทัยที่เป็นพื้นที่ของแคว้นละโว้(หลอหู)จึงเกิดการทำสงครามระหว่างกองทัพพ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)ต่อสู้กับกองทัพของพระเจ้าชัยวรมันที่8แห่งราชวงศ์มหิธรปุระ(วรมัน)ของชาวสยามมีแม่ทัพชื่อขอมสบาดโขนรามพงศ์(กลุ่มเจ้าบาทวงศ์ขุนราม)ทำให้พ่อขุนผาเมืองมีชัยชนะเลยยกเมืองสุโขทัยให้พ่อขุนบางกลางหาวชาวลาวเจ้าเมืองบางยาง(เมืองเงินยางเชียงแสน)แล้วพ่อขุนผาเมืองชาวสยามเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)ได้ขึ้นมาเป็นใหญ่ได้เป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรจุล(โจฬะหรือเจิ้นลา)แทนที่พระเจ้าชัยวรมันที่8แห่งราชวงศ์มหิธรปุระ(วรมัน)ที่เป็นพ่อตาและพ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)เป็นองค์เดียวกันกับพระเจ้าอินทรวรมันที่3กษัตริย์เมืองพระนครกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ)แห่งอาณาจักรจุล(โจฬะหรือเจิ้นลา) และในเวลาต่อมาเกิดขบถทาสเกิดขึ้นในเมืองพระนครกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียม)เมื่อตระซ๊อกประแอม(แตงหวาน)เชลยทาสชาวจามหัวหน้าเหล่าทาสชาวเขมรทำการขบถฆ่าพระเจ้าชัยวรมันที่9แห่งราชวงศ์มหิธรปุระ(วรมัน)พร้อมกวาดล้างฆ่านายทาสชาวสยาม(ไทย)ในเมืองพระนครกัมพูชาอย่างโหดร้ายทำให้ชาวสยาม(ไทย)อพยพหนีตายลงเรือไปสร้างเมืองนครศรีธรรมราชซึ่งอดีตคือเมืองตามพรลิงค์ของพระเจ้าสุริยวรมันที่1ของชาวสยาม(ไทย)แต่ส่วนใหญชาวสยาม(ไทย)ในเมืองพระนครกัมพูชาอพยพหนีไปอยู่แคว้นละโว้(หลอหู)ในภาคกลาวของประเทศไทยซึ่งเป็นแคว้นหนึ่งของอาณาจักรจุล(โจฬะหรือเจิ้นลา)ของชาวสยาม(ไทย)เหมือนกัน ในเวลต่อมาสมเด็จพระรามาธิบดีที่1(พระรามอู่ทอง)แห่งแคว้นละโว้อโยธยา)ของชาวสยาม(ไทย)ยกทัพไปปราบปรามชาวเขมรลูกหลานตระซ๊อกประแอม(แตงหวาน)เชลยทาสที่เป็นขบถทาสผู้ฆ่าพระเจ้าชัยวรมันที่9ของชาวสยาม(ไทย)จนพ่ายแพ้ยอมสวามิภักดิ์เป็นเมืองประเทศราชต่อชาวสยาม
อันนี้อ้างอิงจากจารึกไหนครับ สนใจเรื่องเมืองบางยางคือเมืองเงินยางครับคนละยุคสมัยกันเลยไหงเป็นเมืองเดียวกัน
@@AKN639พ่อขุนรามคำแหงมหาราชเป็นชาวลาวแห่งเมืองสุโขทัยขึ้นไปจับมือกับพ่อขุนเม็งรายมหาราชที่เป็นชาวลาวเพราะเป็นญาติสืบเชื้อสายชาวลาวจักรราช และหลายๆลาวฯลฯแห่งเมืองบางยาง(หิริเงินยางเชียงแสน) เมื่อพ่อขุนผาเมืองชาวสยามเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)ผู้มีอำนาจในภาคกลางของประเทศไทยฝั่งทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาต้องการขยายอำนาจยึดแคว้นละโว้(หลอหูหรือลาว)ที่พระเจ้าชัยวรมันที่8แห่งราชวงศ์มหิธรปุระใช้เมืองละโว้(หลอหู)ในภาคกลางของประเทศไทยทางทิศตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อเป็นเมืองหลวงแทนที่เมืองพระนครกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ)เพื่อต่อสู้กับกองทัพมองโกลทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างดินแดนภาคกลางซึ่งตระกูลของพ่อขุนผาเมืองมีอิทธิพลในภาคกลางของประเทศไทยซึ่งตระกูลพ่อขุนผาเมืองชาวสยามเป็นขุนนางถูกพระเจ้าชัยวรมันที่8ที่เป็นกษัตริย์ของชาวสยามยึดอำนาจไปเพราะพระเจ้าชัยวรมันที่8ต้องการใช้แคว้ละโว้(หลอหู)เป็นเมืองหลวงสู้กับกองทัพมองโกล เสือ2ตัวอยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ได้ทำให้พ่อขุนผาเมืองชาวสยามเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)ต้องขึ้นไปจับมือกับพ่อขุนบางกางหาวเจ้าเมืองบางยาง(นครหิริเงินยางเชียงแสน)ชาวลาวในภาคเหนือของประเทศไทยเพื่อต่อสู้แย่งชิงพื้นที่ภาคกลางของประเทศไทย ผลการต่อสู้ระหว่างพ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)กับพระเจ้าชัยวรมันที่8แห่งราชวงศ์มหิธรปุระ(วรมัน)คือขอมสบาดโขนรามพงศ์(กลุ่มเจ้าบาทวงศ์ขุนรามที่เป็นแม่ทัพของพระเจ้าชัยวรมันที่8พ่ายแพ้ในการแย่งเมืองสุโขทัย#ซึ่งพระเจ้าชัยวรมันที่8อาจเป็นคนเดียวกันกับขอมสบาดโขนรามพงศ์#ที่พ่ายแพ้ให้กับลูกเขยอย่างพ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด(ราชบุรี) เมื่อพ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)ได้ชัยชนะยึดครองเมืองสุโขทัยและพ่อขุนผ่าเมืองเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)ได้ยกเมืองสุโขทัยไปให้พ่อขุนบางกางหาวเจ้าเมืองบางยาง(นครหิริเงินยางเชียงแสน)ได้ครอบครองแทนเพราะพ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)ต้องการเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรจุล(โจฬะหรือเจิ้นลา)แทนพระเจ้าชัยวรมันที่8ที่เป็นพ่อตาและพ่อขุนผาเมืองเป็นองค์เดียวกันกับพระเจ้าอินทรวรมันที3ที่เป็นกษัตริย์แห่งเมืองพระนครกัมพูชาเพราะพระองค์ได้ย้ายเมืองหลวงจากแคว้นละโว้(หลอหู)ในภาคกลางของประเทศไทยกลับไปใช้เมืองพระนครกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ)เป็นเมืองหลวงดังเดิม เมื่อพ่อขุนบางกางหาวเจ้าเมืองบางยาง(นครหิริเงินยางเชียงแสน)ได้มีอำนาจในสุโขทัยทำให้พ่อขุนเม็งราชได้ขึ้นมาเป็นใหญ่ในเมืองบางยางนั่นก็คือเมืองเงินยางเชียงแสนและพ่อขุนเม็งงรายย้ายเมืองหลวงจากเงินยางเชียงแสน(บางยาง)ไปตั้งเมืองหลวงใหม่ที่เชียงใหม่ พระเจ้าสิริชัยเชียงแสน(บางยางหรือเงินยาง)เป็นบรรพบุรุษสายหนึ่งของท้าวอู่ทองและท้าวอู่ทองมีหลายยุคหลายพื้นที่ซึ่งเป็นคนละคนกับสมเด็จพระรามาธิบดีที่1(พระรามอู่ทอง)แต่สมเด็จพระรามาธิบดีที่1(พระรามอู่ทอง)ที่ยกทัพไปปราบปรามชาวเขมรลูกหลานตระซ๊อกประแอม(แตงหวาน)เชลยทาสที่ฆ่าพระเจ้าชัยวรมันที่9แห่งราชวงศ์วรมันแห่งเมืองพระนครกัมพูชาอาจมีบรรพบุษทั้งสายราชวงศ์วรมันแห่งเมืองพระนครกัมพูชากับเชื้อเผ่าลาวแห่งเมืองเงินยางเชียงแสน(บางยาง)เพราะส่วนใหญ่ราชวงศ์สยามกับราชวงศ์ลาวมักแต่งงานกันไปมาดังเข่นสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมีเชื่อลาวแห่งราชวงศ์สุโขทัยของพ่อขุนรามคำแหงไปจากพระราชบิดา(ขุนพิเรนทรเทพ)และสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมีเชื้อชาวสยามจากพระมารดาของพระองค์
@@AKN639 ผมเป็นคนแรกที่บอกว่าเมืองบางยางของพ่อขุนบางกางหาวคือเมืองเงินยางเชียงแสนในภาคเหนือของประเทศไทยนะ ต้นตระกูลของพ่อขุนรามคำแห่งมหาราชเจ้าเมืองสุโขทัยเป็นญาติเชื้อลาวด้วยกันกับพ่อขุนเม็งรายมหาราชที่มีบรรพบุรุษเผ่าลาวจากนครหิริเงินยางเชียงแสนหรือเมืองบางยางซึ่งเมืองเงินยางเชียงแสนกับเมืองบางยางของพ่อขุนบางกางหาวเป็นเมืองเดียวกัน
@@พจน์บัวนาคhug4ix2it6U อ้างอิงจากจารึกหรือบันทึกไหนครับ ทำไมมันข้ามยุคสมัยได้หลายร้อยปีเลยครับ
@@AKN639 ละโว้ เป็นมอญ บอกเป็นลาว อย่างขำ
ตกลงจะพูดเรื่องอะไร
หนังสือ ‘กำเนิดสยามประเทศ รวมบทความจากการทำงานของอาจารย์ศรี ศักร วัลลิโภดม’ โดย สำนักพิมพ์ศิษย์ศรีศักร
ราคารวมค่าส่ง ๗๖๕ บาท หนังสือขนาด ๒๔ x ๑๖ x ๔.๕ เซนติเมตร
จำนวน ๖๙๖ หน้า เย็บสันกี่ พร้อมแผนที่ขนาดใหญ่ ๑ แผ่น พิมพ์สี
.
สนใจหนังสือ สอบถามและสั่งซื้อได้ที่
เพจสยามเทศะฯ : facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid0kEbVuhu36FwUoTmxr5uDJ2Stt6YhmC1LvCWWj4u4CffaDRZVyyFCMn49P4YSUdE2l&id=100072360480833
.
สำนักพิมพ์ศิษย์ศรีศักร : facebook.com/story.php?story_fbid=122130074918397312&id=61561919369878&_rdr
รัฐเจนลีฟู มีพัฒนาการมาตั้งแต่พศว.ที่ 11 แล้วสลายไปในพศว.ที่ 19 พร้อมกับการเจริญขึ้นมาแทนที่ของรัฐสุโขทัยและรัฐอโยธยา ศูนย์กลางความเจริญของรัฐเจนลีฟูอยู่ที่บริเวณเมืองดงคอน เมืองแพรกศรีราชา เมืองอินทร์บุรี เมืองพรหมบุรี ตรงที่เรียกว่าลุ่มแม่น้ำน้อยและฝั่งตะวันออกแม่น้ำท่าจีนตอนบน (คลองมะขามเฒ่า, แม่น้ำสุพรรณบุรี) ปัจจุบันอยู่ในเขตจังหวัดชัยนาทตะวันตก สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง และอยุธยาตอนบน
แม่น้ำน้อย เป็นแม่น้ำสายเล็ก ๆ ที่แยกจากแม่น้ำเจ้าพระยาตรงบริเวณด้านใต้ตัวเมืองชัยนาท (ก่อนถึงเขื่อนเจ้าพระยา)อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท ไหลไปทางทิศตะวันตกอ้อมลงไปทางใต้ผ่านอำเภอสรรคบุรี เข้าเขตจังหวัดสิงห์บุรี ผ่านอำเภอบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน และอำเภอท่าช้าง แล้วใช้เป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างอำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง กับอำเภอท่าช้างและอำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เข้าเขตจังหวัดอ่างทอง ผ่านอำเภอโพธิ์ทองและอำเภอวิเศษชัยชาญ จากนั้นเข้าเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผ่านอำเภอผักไห่ อำเภอเสนา และอำเภอบางบาล แล้วไปรวมกับแม่น้ำเจ้าพระยาอีกครั้งที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
แม่น้ำน้อยมีลำคลองสาขาที่สำคัญชื่อว่าคลองสีบัวทอง ซึ่งไม่ไกลจากลำคลองแห่งนี้ เป็นบริเวณพื้นที่ที่มีการพบว่าเป็นแหล่งฝังศพของคนในยุคหินใหม่อายุราว 3,000 ปี บริเวณที่พบนี้อยู่ในเขตพื้นที่ ตำบลสีบัวทอง อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง จากการสำรวจเบื้องต้นพบวัตถุโบราณหลายชิ้น เช่นกระดูกมนุษย์และสัตว์ ภาชนะดินเผา ลูกปัด อาวุธที่ทำจากสำริด
แม่น้ำท่าจีน เป็นแม่น้ำที่แยกจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท (แยกออกจากแม่น้ำเจ้าพระยาเหนือแม่น้ำน้อย แล้วไหลโอบแม่น้ำน้อยอีกที) โดยมีทิศทางการไหลไปทางตะวันตกแล้วมุ่งลงใต้ผ่านจังหวัดชัยนาท จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดนครปฐม และจังหวัดสมุทรสาคร ก่อนจะไหลออกสู่อ่าวไทยที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร มีความยาวทั้งสิ้นประมาณ 315 กิโลเมตร
แม่น้ำท่าจีนเป็นแม่น้ำที่มีชื่อเรียกหลายชื่อ คือ
1. ตอนที่ไหลผ่านจังหวัดชัยนาทเรียกว่า "คลองมะขามเฒ่า"
2.ตอนที่ผ่านจังหวัดสุพรรณบุรีเรียกว่า "แม่น้ำสุพรรณบุรี"
3. ตอนที่ผ่านจังหวัดนครปฐมเรียกว่า "แม่น้ำนครชัยศรี"
4.ตอนที่ไหลผ่านจังหวัดสมุทรสาครลงสู่อ่าวไทยเรียกว่า "แม่น้ำท่าจีน"
แม่น้ำท่าจีน มีลำน้ำสาขาที่สำคัญคือคลองจระเข้สามพัน หรือ คลองจรเข้สามพัน และอาจเรียกว่า แม่น้ำจระเข้สามพัน หรือ ลำจระเข้สามพัน ก็ได้ ลำน้ำสายนี้เป็นลำน้ำที่มีต้นน้ำส่วนหนึ่งมาจากภูเขาในเขตอำเภอห้วยกระเจา และอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี และอีกส่วนหนึ่งมาจากแม่น้ำแม่กลอง ช่วงที่ไหลผ่านอำเภอท่าม่วง และอำเภอพนมทวน เดิมราษฎรเรียกว่า แม่น้ำทวน หลังจากนั้นช่วงที่ไหลผ่านอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ราษฎรเรียกว่า "แม่น้ำจรเข้สามพัน" ไหลผ่านหน้าเมืองอู่ทองโบราณไปทางทิศตะวันออก ไปรวมกับลำน้ำท่าว้า-ท่าคอย กลายเป็นลำน้ำสองพี่น้อง แล้วไหลลงแม่น้ำท่าจีน ที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี
คลองจระเข้สามพัน หรือ คลองจรเข้สามพัน อาจเรียกว่า แม่น้ำจระเข้สามพัน หรือ ลำจระเข้สามพัน เป็นลำน้ำธรรมชาติมีต้นน้ำส่วนหนึ่งมาจากภูเขาในเขตอำเภอห้วยกระเจา และอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี และอีกส่วนหนึ่งมาจากแม่น้ำแม่กลอง ช่วงที่ไหลผ่านอำเภอท่าม่วง และอำเภอพนมทวน เดิมราษฎรเรียกว่า แม่น้ำทวน หลังจากนั้นช่วงที่ไหลผ่านอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ราษฎรเรียกว่า "แม่น้ำจรเข้สามพัน" ได้ผ่านหน้าเมืองอู่ทองโบราณไปทางทิศตะวันออก แล้วรวมกับลำน้ำท่าว้า-ท่าคอย เป็นลำน้ำสองพี่น้อง ไหลลงแม่น้ำท่าจีน ที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี
แม่น้ำท่าจีน เป็นแม่น้ำที่มีหลายชื่อ คือในเขตจังหวัดชัยนาท เรียกคลองมะขามเฒ่า ในเขตจังหวัดสุพรรณบุรีเรียกแม่น้ำสุพรรณบุรี ในเขตจังหวัดนครปฐม เรียกแม่น้ำนครชัยศรี (ชื่อเดิมของเมืองนครปฐม) และในเขตจังหวัดสมุทรสาครไหลลงอ่าวไทยเรียกแม่น้ำท่าจีน
แม่น้ำท่าจีนมีต้นน้ำที่แยกออกมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตอำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ก่อนที่แม่น้ำเจ้าพระยาจะไหลเข้าสู่เขตอำเภอเมืองชัยนาท เหนือแม่น้ำน้อย ( แม่น้ำน้อยไหลแยกออกจากแม่น้ำเจ้าพระยาทางใต้ของตัวเมืองชัยนาท) โดยไหลไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้โอบแม่น้ำน้อยอีกที ผ่านจังหวัดชัยนาท สุพรรณบุรี นครปฐมและสมุทรสาครลงสู่อ่าวไทย มีความยาวทั้งหมด 315 กิโลเมตร ลำน้ำสาขาที่สำคัญคือแม่น้ำทวน ที่ไหลมาจากภูเขาสูงในเขตอำเภอห้วยกระเจาและอำเภอเลาขวัญ และบางส่วนของแม่น้ำแม่กลองในเขตจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อไหลผ่านตัวเมืองอู่ทองโบราณ ชาวบ้านได่เรียกแม่น้ำสายนี้ว่าแม่น้ำจรเข้สามพัน แล้วไหลไปทางทิศตะวันออกไปรวมกับแม่น้ำท่าว้า กลายเป็นแม่น้ำสองพี่น้องแล้วมารวมกับแม่น้ำท่าจีนลงสู่อ่าวไทย
แม่น้ำสำคัญอีกสายหนึ่งคือแม่น้ำบางแก้ว มีต้นน้ำมาจากจังหวัดสุพรรณบุรีไหลผ่านเมืองนครชัยศรี/นครปฐมโบราณ ไปลงแม่น้ำนครชัยศรี/ท่าจีน
แม่น้ำน้อย เป็นแม่น้ำสายเล็กที่แยกออกจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ด้านใต้ตัวเมืองชัยนาท ก่อนถึงเขื่อนเจ้าพระยา แล้วไหลอ้อมไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ผ่านอำเภอสรรคบุรี เข้าเขตจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง แล้วไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยาอีกครั้งที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ขอมไม่ใช่เชื้อชาติ ไม่ใช่คน แต่คือตำแหน่งข้าราชการของสยามในเวลานั้น อ.สมชาย น้อยสาคร นำพิสูจน์ซากอารยธรรมเหล่านี้ได้คะ
เมืองที่อยู่ตอนบนของ ..ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเจ้าพระยา .. เมืองบน ที่ท่าน้ำอ้อย เมืองล่างหางน้ำสาคร ...ดงคอนนั้นอยู่ไม่ห่าง ..และมี เมืองนางเหล็ก และอีกหลายเมืองที่อยู่ในเส้นทางของศรีเทพ
น่าสนใจมาก ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณมากคะ❤❤❤❤❤❤❤
พอไม่มีสิ่งก่อสร้างใหญ่ๆ แบบนครวัด นวชก.กระแสหลัก มองข้ามหมด ฟังอจ.ตีความมา เสียดาย
ศิลปร่วมแบบเขมร
สาระท่งประวัติศาสตร์โบราณคดีเยี่ยมยอดสาธุ
ตอนที่ ๘๓ เจนลีฟู ruclips.net/video/2_oQshdGHR0/видео.htmlsi=YVlu50fgqXn63Is5
真里富国
นักวิชาการจีนเชื่อว่า เจนลีฟู อยู่ที่ จันทบุรี
อาณาจักรจุลหรือโจฬะ(เจิ้นลา)มีชาวสยามกับชาวลาวเป็นใหญ่มี2แคว้นใหญ่คือ
1.แคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ)ซึ่งมีเมืองใหญ่อยู่2เมืองคือ
1)เมืองสัมภูปุระโคก(เสียมกก/เจิ้นลาบกมีพื้นที่อยู่ภาคใต้ของลาวและในภาคอีสานของไทย
2)เมืองสัมภูปุระราช(สยามราชหรือเสียมเรียบ/เจิ้นลาน้ำ)มีพื้นที่ใต้เทือกเขาพนมดงรักลงไปจรดทะเลที่มีปราสาทหินนครวัดนครธมตั้งอยู่
2.แคว้นละโว้(หลอหูหรือลาว)ในภาคกลางของประเทศไทย
ในสมัยรัชกาลพระเจ้าสุริยวรมันที่1แห่งราชวงศ์ไศเลนทรา(วรมัน)ของชาวสยาม(ไทย)สามารถรวมแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ)กับแคว้นละโว้(หลอหูหรือลาว)เป็นอาณาจักรเดียวกันเรียกอาณาจักรจุล(โจฬะหรือเจิ้นลา)
#อาณาจักรเจินลีฟูเป็นอาณาจักรเดียวกันกับอาณาจักรจุล(#โจฬะหรือเจิ้นลา)
ในสมัยรัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่7แห่งราชวงศ์มหิธรปุระ(วรมัน)ของชาวสยาม(ไทย)ยกทัพจากแคว้นละโว้(หลอหูหรือลาวในภาคกลางของประเทศไทยซึ่งเป็นเมืองหลวงเข้าช่วยเหลือเมืองพระนครกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ)เพื่อปราบปรามกองทัพแคว้นจามปาที่โจมตีเมืองพระนครกัมพูชาทำให้แคว้นจามปาพ่ายแพ้ตกเป็นเมืองประเทศราชต่อกองทัพแคว้นละโว้(หลอหูหรือลาว)ของพระเจ้าชัยวรมันที่7ของชาวสยาม(ไทย)ทำให้ชาวจามกับชาวเขมรในแคว้นจามปาถูกพระเจ้าชัยวรมันที่7ของชาวสยาม(ไทย)กวาดต้อนไปเป็นเชลยทาสสร้างปราสาทหินรับใช้ชาวสยาม(ไทย)ในเมืองพระนครกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ)
ในสมัยรัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่8แห่งราชวงศ์มหิธรปุของชาวสยาม(ไทย)แห่งอาณาจักรจุล(โจฬะหรือเจิ้นลา)ถูกกองทัพมองโกลโจมตีเมืองพระนครกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ)ทำให้พระเจ้าชัยวรมันที่8ย้ายเมืองหลวงจากเมืองพระนครกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ)ไปอยู่แคว้นละโว้(หลอหูหรือลาว)ในภาคกลางของประเทศไทยเพื่อเป็นฐานที่มั่นต่อสู้กับกองทัพมองโกล
พ่อขุนผาเมืองชาวสยามเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)ที่มีที่ตั้งอยู่ในจังหวัดราชบุรีในพื้นที่ฝั่งทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาในภาคกลางของประเทศไทยขึ้นไปจับมือกับพ่อขุนบางกางหาวผู้เป็นชาวลาวเจ้าเมืองบางยาง(นครหิริเงินยางเชียงแสน)ในภาคเหนือของประเทศไทยเพื่อแย่งชิงอำนาจเป็นใหญ่ในภาคกลางของประเทศไทยเพื่อชิงดินแดนเมืองสุโขทัยที่เป็นพื้นที่ของแคว้นละโว้(หลอหู)จึงเกิดการทำสงครามระหว่างกองทัพพ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)ต่อสู้กับกองทัพของพระเจ้าชัยวรมันที่8แห่งราชวงศ์มหิธรปุระ(วรมัน)ของชาวสยามมีแม่ทัพชื่อขอมสบาดโขนรามพงศ์(กลุ่มเจ้าบาทวงศ์ขุนราม)ทำให้พ่อขุนผาเมืองมีชัยชนะเลยยกเมืองสุโขทัยให้พ่อขุนบางกลางหาวชาวลาวเจ้าเมืองบางยาง(เมืองเงินยางเชียงแสน)แล้วพ่อขุนผาเมืองชาวสยามเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)ได้ขึ้นมาเป็นใหญ่ได้เป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรจุล(โจฬะหรือเจิ้นลา)แทนที่พระเจ้าชัยวรมันที่8แห่งราชวงศ์มหิธรปุระ(วรมัน)ที่เป็นพ่อตาและพ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)เป็นองค์เดียวกันกับพระเจ้าอินทรวรมันที่3กษัตริย์เมืองพระนครกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ)แห่งอาณาจักรจุล(โจฬะหรือเจิ้นลา)
และในเวลาต่อมาเกิดขบถทาสเกิดขึ้นในเมืองพระนครกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียม)เมื่อตระซ๊อกประแอม(แตงหวาน)เชลยทาสชาวจามหัวหน้าเหล่าทาสชาวเขมรทำการขบถฆ่าพระเจ้าชัยวรมันที่9แห่งราชวงศ์มหิธรปุระ(วรมัน)พร้อมกวาดล้างฆ่านายทาสชาวสยาม(ไทย)ในเมืองพระนครกัมพูชาอย่างโหดร้ายทำให้ชาวสยาม(ไทย)อพยพหนีตายลงเรือไปสร้างเมืองนครศรีธรรมราชซึ่งอดีตคือเมืองตามพรลิงค์ของพระเจ้าสุริยวรมันที่1ของชาวสยาม(ไทย)แต่ส่วนใหญชาวสยาม(ไทย)ในเมืองพระนครกัมพูชาอพยพหนีไปอยู่แคว้นละโว้(หลอหู)ในภาคกลาวของประเทศไทยซึ่งเป็นแคว้นหนึ่งของอาณาจักรจุล(โจฬะหรือเจิ้นลา)ของชาวสยาม(ไทย)เหมือนกัน
ในเวลต่อมาสมเด็จพระรามาธิบดีที่1(พระรามอู่ทอง)แห่งแคว้นละโว้อโยธยา)ของชาวสยาม(ไทย)ยกทัพไปปราบปรามชาวเขมรลูกหลานตระซ๊อกประแอม(แตงหวาน)เชลยทาสที่เป็นขบถทาสผู้ฆ่าพระเจ้าชัยวรมันที่9ของชาวสยาม(ไทย)จนพ่ายแพ้ยอมสวามิภักดิ์เป็นเมืองประเทศราชต่อชาวสยาม
อันนี้อ้างอิงจากจารึกไหนครับ สนใจเรื่องเมืองบางยางคือเมืองเงินยางครับ
คนละยุคสมัยกันเลยไหงเป็นเมืองเดียวกัน
@@AKN639พ่อขุนรามคำแหงมหาราชเป็นชาวลาวแห่งเมืองสุโขทัยขึ้นไปจับมือกับพ่อขุนเม็งรายมหาราชที่เป็นชาวลาวเพราะเป็นญาติสืบเชื้อสายชาวลาวจักรราช และหลายๆลาวฯลฯแห่งเมืองบางยาง(หิริเงินยางเชียงแสน)
เมื่อพ่อขุนผาเมืองชาวสยามเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)ผู้มีอำนาจในภาคกลางของประเทศไทยฝั่งทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาต้องการขยายอำนาจยึดแคว้นละโว้(หลอหูหรือลาว)ที่พระเจ้าชัยวรมันที่8แห่งราชวงศ์มหิธรปุระใช้เมืองละโว้(หลอหู)ในภาคกลางของประเทศไทยทางทิศตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อเป็นเมืองหลวงแทนที่เมืองพระนครกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ)เพื่อต่อสู้กับกองทัพมองโกลทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างดินแดนภาคกลางซึ่งตระกูลของพ่อขุนผาเมืองมีอิทธิพลในภาคกลางของประเทศไทยซึ่งตระกูลพ่อขุนผาเมืองชาวสยามเป็นขุนนางถูกพระเจ้าชัยวรมันที่8ที่เป็นกษัตริย์ของชาวสยามยึดอำนาจไปเพราะพระเจ้าชัยวรมันที่8ต้องการใช้แคว้ละโว้(หลอหู)เป็นเมืองหลวงสู้กับกองทัพมองโกล
เสือ2ตัวอยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ได้ทำให้พ่อขุนผาเมืองชาวสยามเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)ต้องขึ้นไปจับมือกับพ่อขุนบางกางหาวเจ้าเมืองบางยาง(นครหิริเงินยางเชียงแสน)ชาวลาวในภาคเหนือของประเทศไทยเพื่อต่อสู้แย่งชิงพื้นที่ภาคกลางของประเทศไทย
ผลการต่อสู้ระหว่างพ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)กับพระเจ้าชัยวรมันที่8แห่งราชวงศ์มหิธรปุระ(วรมัน)คือขอมสบาดโขนรามพงศ์(กลุ่มเจ้าบาทวงศ์ขุนรามที่เป็นแม่ทัพของพระเจ้าชัยวรมันที่8พ่ายแพ้ในการแย่งเมืองสุโขทัย#ซึ่งพระเจ้าชัยวรมันที่8อาจเป็นคนเดียวกันกับขอมสบาดโขนรามพงศ์#ที่พ่ายแพ้ให้กับลูกเขยอย่างพ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)
เมื่อพ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)ได้ชัยชนะยึดครองเมืองสุโขทัยและพ่อขุนผ่าเมืองเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)ได้ยกเมืองสุโขทัยไปให้พ่อขุนบางกางหาวเจ้าเมืองบางยาง(นครหิริเงินยางเชียงแสน)ได้ครอบครองแทนเพราะพ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด(ราชบุรี)ต้องการเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรจุล(โจฬะหรือเจิ้นลา)แทนพระเจ้าชัยวรมันที่8ที่เป็นพ่อตาและพ่อขุนผาเมืองเป็นองค์เดียวกันกับพระเจ้าอินทรวรมันที3ที่เป็นกษัตริย์แห่งเมืองพระนครกัมพูชาเพราะพระองค์ได้ย้ายเมืองหลวงจากแคว้นละโว้(หลอหู)ในภาคกลางของประเทศไทยกลับไปใช้เมืองพระนครกัมพูชาแห่งแคว้นสัมภูปุระ(สยามราชหรือเสียมเรียบ)เป็นเมืองหลวงดังเดิม
เมื่อพ่อขุนบางกางหาวเจ้าเมืองบางยาง(นครหิริเงินยางเชียงแสน)ได้มีอำนาจในสุโขทัยทำให้พ่อขุนเม็งราชได้ขึ้นมาเป็นใหญ่ในเมืองบางยางนั่นก็คือเมืองเงินยางเชียงแสนและพ่อขุนเม็งงรายย้ายเมืองหลวงจากเงินยางเชียงแสน(บางยาง)ไปตั้งเมืองหลวงใหม่ที่เชียงใหม่
พระเจ้าสิริชัยเชียงแสน(บางยางหรือเงินยาง)เป็นบรรพบุรุษสายหนึ่งของท้าวอู่ทองและท้าวอู่ทองมีหลายยุคหลายพื้นที่ซึ่งเป็นคนละคนกับสมเด็จพระรามาธิบดีที่1(พระรามอู่ทอง)แต่สมเด็จพระรามาธิบดีที่1(พระรามอู่ทอง)ที่ยกทัพไปปราบปรามชาวเขมรลูกหลานตระซ๊อกประแอม(แตงหวาน)เชลยทาสที่ฆ่าพระเจ้าชัยวรมันที่9แห่งราชวงศ์วรมันแห่งเมืองพระนครกัมพูชาอาจมีบรรพบุษทั้งสายราชวงศ์วรมันแห่งเมืองพระนครกัมพูชากับเชื้อเผ่าลาวแห่งเมืองเงินยางเชียงแสน(บางยาง)เพราะส่วนใหญ่ราชวงศ์สยามกับราชวงศ์ลาวมักแต่งงานกันไปมาดังเข่นสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมีเชื่อลาวแห่งราชวงศ์สุโขทัยของพ่อขุนรามคำแหงไปจากพระราชบิดา(ขุนพิเรนทรเทพ)และสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมีเชื้อชาวสยามจากพระมารดาของพระองค์
@@AKN639 ผมเป็นคนแรกที่บอกว่าเมืองบางยางของพ่อขุนบางกางหาวคือเมืองเงินยางเชียงแสนในภาคเหนือของประเทศไทยนะ
ต้นตระกูลของพ่อขุนรามคำแห่งมหาราชเจ้าเมืองสุโขทัยเป็นญาติเชื้อลาวด้วยกันกับพ่อขุนเม็งรายมหาราชที่มีบรรพบุรุษเผ่าลาวจากนครหิริเงินยางเชียงแสนหรือเมืองบางยางซึ่งเมืองเงินยางเชียงแสนกับเมืองบางยางของพ่อขุนบางกางหาวเป็นเมืองเดียวกัน
@@พจน์บัวนาคhug4ix2it6U อ้างอิงจากจารึกหรือบันทึกไหนครับ ทำไมมันข้ามยุคสมัยได้หลายร้อยปีเลยครับ
@@AKN639 ละโว้ เป็นมอญ บอกเป็นลาว อย่างขำ
ตกลงจะพูดเรื่องอะไร