ความแตกต่างของ INTP และ INTJ | MBTI
HTML-код
- Опубликовано: 2 окт 2024
- สวัสดีครับเพื่อนๆ คลิปนี้เราจะมาพูดถึงไทป์ที่หลายคนมิสไทป์กันไปมาคือ INTP และ INTJ แล้วมาตอบว่า MBTI เปลี่ยนได้มั้ย มันเริ่มตอนอายุเท่าไหร่ เกิดจากปมรึเปล่า
ฝากกดไลค์ กดแชร์ กด Subscribe ให้ด้วยนะครับผม 🥹
"INTJ ปิ๊งไอเดียขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ" (Eureka moment)
อาจเป็นเพราะตอนที่กำลังคิดเรื่องนึงๆ อยู่แล้วมีอะไรบางอย่างมาเบี่ยงเบนความสนใจ หรือคิดจนเหนื่อย ง่วง และหมดพลังงาน แล้วก็ลืมเรื่องนั้นไปก่อนที่จะได้จดบันทึก เพียงได้แต่เก็บข้อมูลนั้นไว้ในสมอง
ในระหว่างที่พักสมองก็ได้รับข้อมูลใหม่ๆ หรือมีบางอย่างที่ผ่านเข้ามาในระบบประสาทสัมผัส เลยทำให้นึกเรื่องที่คิดแล้ววางทิ้งไว้ออก อย่างช่วงเวลาที่ได้ทำอะไรเพลินๆ ไม่ได้คิดเรื่องอะไรเป็นพิเศษ สิ่งที่คิดค้างเอาไว้อยู่เลยผุดขึ้นมา แม้ตอนหลับ เราเคยฝันถึงอะไรว้าวๆ อย่างเกมที่สนุกสุดๆ (แต่ก็จำรายละเอียดไม่ได้หรอก)
ต่างกับ INTP ที่มีแนวโน้มในการใช้เวลาวิเคราะห์ ครุ่นคิดอย่างจดจ่อจนกระทั่งตกผลึก จบกระบวนการ
ตายตาหลับแล้วค่ะ ในที่สุดก็เจอไทป์ของตัวเองแบบไม่ตั้งข้อสงสัยอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ขอบคุณมากๆค่ะ เราINTPแฟนINTJ บางทีโคตรจะปวดหัว แต่ก็เป็นอะไรที่โคตรลงตัวและสนุกดีเวลาโต้วาทีกัน😂
มาคอนเฟิมเรื่องเวลาเครียดจัดๆจะปล่อยเลย ปล่อยหมด เค้าสู้โหมดช่างแม่ง บางทีก็จะไปชาร์จพลังโดยการออกเที่ยวคนเดียว เป็นช่วงเวลาที่ได้พัฒนา Se กับ Fi ไปในตัว ถ้า intj คนไหนเครียดๆมากๆ เราแนะนำให้ไปเที่ยวเมืองนอกคนเดียว ไม่ก็เดินป่า อย่างน้อยก็ไปต่างจังหวัด ใช้ชีวิตกับการไม่วางแผนกลับมาจะรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมือนเดิม ไปซักอาทิตย์ สองอาทิตย์
"โหมดช่างแม่ง" ❤😂
มันจริงมาก กลับมาแล้วบ้าพลังมากกว่าเดิม
ทำมาแล้ว
INTJ ไม่มีโหมด "ช่างแม่ง" นะครับ
มีแต่โหมด "ค่อยคิด" เพราะรู้ว่าปัญหานั้นๆน่าจะดีกว่าถ้าได้ข้อมูลเพิ่มเติมให้ครบถ้วน หรือได้คำตอบที่ยังไม่น่าพอใจ ด้วยเหตุผลนี้เลยปล่อยวางในการคิดเรื่องนั้น ให้เวลากับมัน รอคำตอบในอนาคต
โหมด "ค่อยคิด" มีประจำใน INTJ เพราะไม่ชอบการตัดสินใจทันทีทันใด เว้นว่าปัญหานั้นง่ายไปหน่อย
ถ้าคุณสามารถช่างแม่งได้ ปล่อยให้ปัญหาในอนาคตมาถึงตัวคุณ เที่ยวเมืองนอกชิลๆ คุณก็ไม่น่าจะใช่ INTJ
ยิ่งคุณหยุดคิดเรื่องวางแผนได้เกิน 1 วัน คุณก็ยิ่งไม่ใช่ INTJ แล้วครับ
@@ilovewatching5118 ช่างแม่งในทีนี้คือ พักไว้ก่อน และค่อยมาต่อตอนสมองปลอดโปร่ง
ถ้าจะให้ตรงจริง ๆ ต้องเอา J เข้ามาในตัวแปรด้วย โดยเฉพาะคนที่ติดมือถือหรือคอมพิวเตอร์ ส่งผลให้คนติดเครื่องมือพวกนี้เหมือนกับจะกลายเป็น P แต่จริง ๆ ต้องลองเอาตัวเองออกมาแบบไม่แตะโทรศัพท์หรือเทคโนโลยีเลย 1 วันแล้วสังเกตตัวเองดู ผมลองทำแล้วเวลาที่ผมมีเวลา ว่าง ๆ แผนในหัวจะเต็มไปหมดกลายเป็นว่าบ้านกลายเป็นห้องสมุดไปเลย เรียบร้อยมาก กลายเป็นเรารับรู้ได้ว่า Ni กับ Te เราเด่นจริง ๆ เวลาอยู่กับตัวเองจริง ๆ ไม่ได้ใช้สมาธิไปกับอย่างอื่น แต่พอติดมือถือจะทำให้เราไม่มีเวลาจัดการความคิดมากพอแล้วไปทำแบบทดสอบอีกมันเละเลยคราวนี้
ว้าว ทฤษฎีนี้ น่าลองมากๆ ค่ะ เรายังสงสัยอยู่ระหว่าง 2 type นี้ คือแบบทำไมมันไม่ reach ถึง conclusion สักทีนะ เราเป็นอันไหนกันแน่ ดูมันทุกวันจนจะเรียนได้แล้วค่ะ 555
เวลาเราเครียดจะลุกขึ้นมาย้ายตู้ย้ายเตียง ย้ายโต๊ะ ทำความสะอาดบ้าน ตอนตี1ตี2 พอทำเสร็จก็หลับได้ เลยคิดว่าเป็นintj
มีแนวโน้มที่จะเป็น Se grip สูง ถ้าไม่ใช่ INTJ ก็ INFJ ครับ
INTJ ตั้งใจคิดเกินไปไม่ได้ครับ ส่วนมากความคิดดีๆจะเข้ามาในหัวระหว่างขับรถเปิดเพลง jazz เบาๆฟัง พอปิดเพลงเพื่อคิดต่อก็คิดไม่ออก ต้องเปิดเพลงต่อถึงจะคิดออกครับ 😅
หลุดโพกัสแล้วความคิดหาย
เรา INTJ จ๋าเลย มีความเป็นตัวร้ายในหนัง marvels อีกต่างหาก มุ่งมั่นมาก จนบางครั้งลืมเห็นใจคนอื่นรู้สึกว่าการสนอารมณ์คนอื่นมันน่ารำคาญ
ผม INTP มีพี่เป็น INTJ
มา confirm ความแม่นยำของคลิปคร้าบ
ขอบคุณมากๆเลยคร้าบ
Ni หนักเลย หลายครั้งที่อาบน้ำนอน หรือขับรถอยู่แล้วถนนโล่ง ๆ คำตอบจากคำถามที่เคยติดไว้จะเด้งขึ้นมา เหมือนตอนนั้นกำลังจะคิดโปรเจคบทหนังทำส่งอาจารย์แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออกยิ่งเครียดยิ่งคิดไม่ออกจน จนหนทางเลยปล่อยให้เพื่อนคิดกันหลังจากนั้นไม่นานตอนกำลังนอน บทหนังก็เด้งเข้ามาในหัวแล้วมาตั้งแต่ต้นจนจบเลยแล้วเนื้อเรื่องชื่อมโยงกันหมด ตอนนั้นคิดว่าประหลาดมาก หรือตอนสอบเห็นข้อสอบแล้วทำไม่ได้ ตอนนั้นก็ปล่อยไป แต่พอนอนอยู่บ้านซักพักโจทย์นั้นก็เด้งขึ้นมาพร้อมกับวิธีคิดที่บังเอิญคิดได้ แล้วได้แต่เสียดายว่าทำไมไม่คิดแบบนี้ตอนแรก หรือ นอนอยู่ดี ๆ ไม่ได้มีเรื่องราวอะไร เพลงเด้งขึ้นมาในหัวกลายเป็นว่าแต่งเพลงใหม่ได้เฉยต้องเอาโทรศัพท์มาอัดร้องก่อนจะนอน 55555
อีกอย่างวัตถุทางกายภาพที่ผมเกลียดที่สุดจะเป็น ของเหลวที่ไม่ใช่น้ำเปล่าบริสุทธิ์กับของแข็งที่นับไม่ได้ เพราะมันจัดการยาก ส่วนทางนามธรรมจะไม่ชอบอารมณ์ตัวเองเวลาที่เผลอเคลิ้มตามสิ่งรอบข้างโดยควบคุมไม่ได้
สติหรือสำนึกของ Ti มันหยั่งลงถึงกระบวนการประมวลผลข้อมูลนั้นๆ เพราะ Ti เองก็ชอบที่จะเข้าใจการทำงานของสิ่งนั้นๆ
ในขณะที่ Ni เน้นที่ผลลัพธ์เสียมากกว่า สติหรือสำนึกจึงไม่ได้หยั่งลงถึงกระบวนการทำงาน ปล่อยให้วิธีการได้ผลลัพธ์เป็นแค่เพียงการทำงานของจิตใต้สำนึก
ขอความต่างของ INTJ กับ ENTJ
เราว่า MBTI จริงๆ มันเปลี่ยนได้ตลอด มันคือในส่วนของกระบวนการทางความคิดและปกติคนเราก็มักเปลี่ยนเสมอในทุกๆวัน มันเหมือนการที่เราเจอโลกมากขึ้น ความคิดที่มีมันก็มากขึ้น บางอย่างในความคิดก็แตกต่างไปจากเดิม จากสุดโต่งก๋ผ่อนลง จากที่ผ่อนลงก็ตึงจนเกินไป แต่เข้าใจได้ถ้าตะศึกษาไว้เป็นความรู้
จริงๆ MBTI ถ้าเราอิงจากทฤษฎี Big 5 ยังไงก็เปลี่ยนครับผม เช่น บางครั้งเราเข้าสังคม เราก็เป็น Extrovert เราอยากเก็บตัวไม่อยากเจอใครเราก็เป็น Introvert เช่นเว็บ 16 personalities ถ้าเราอ่าเนื้อหาข้อมูลเว็บไซต์เราจะเจอว่าเว็บนี้จะใช้เป็นทฤษฎี Big5 แต่ถ้าเราศึกษาจริงๆ MBTI มันไม่ใช่ Big5 แต่มันคือเรื่องของ Cognitive function ครับ MBTI เป็นเรื่องของ Unconscious ซึ่งมันเป็นกระบวนการที่ฝังอยู่ในจิตไร้สำนึก เราไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงมันได้ แต่การที่เราแสดงออกหรือแนวคิดเราเปลี่ยนไปมันคือเรื่องของ behavior หรือพฤติกรรมครับ คือ สมมติเราพยายามเปลี่ยนตัวเองแค่ไหน หรือเจอประสบการณ์มากมาย มันก็จะเปลี่ยนได้แค่นิสัยที่แสดงออกมาและพฤติกรรมบางอย่างของเรา เราอาจจะนิ่งขึ้น ปลงขึ้น หรือจริงจังขึ้น นั่นเพราะประสบการณ์มันทำให้เราต้องปรับตัว แต่ MBTI มันมากกว่านั้น ตัวอย่างการทำงานของ cognitive function เช่น สมมติว่าเราเห็นขวดน้ำขวดหนึ่งที่เปิดยากมากๆมาวางตรงหน้าเราจะทำยังไงกับมัน บางคนอาจจะไม่สนใจ บางคนอาจจะสงสัย บางคนอาจจะลองเปิด บางคนอาจจะจินตนาการว่าน้ำขวดนี้คืออะไร น้ำขวดนี้จะสร้างให้มันเปิดยากๆทำไม เป็นต้น
@@Spiritrovertจิตไร้สำนึกคืออะไรครับ
คือคำสั่งของสมองที่อยู่เหนือการควบคุมที่เราจะรู้ได้ครับผม มันทำงานแบบอัตโนมัติ ซึ่งมันสามารถอธิบายได้ในรูปแบบของ Dominant Function หรือฟังก์ชันหลักของเรา สมมติเราเป็น INTJ ที่มีฟังก์ชันหลักเป็น ฟังก์ชัน Ni ต่อให้เราจะพยายามไม่ใช้มัน มันก็จะใช้อยู่ดีครับ เสริมนิดหน่อยครับ Cognitive function ถ้าอิงตามงานวิจัยมันก็คือพฤติกรรมแบบสุ่มเลยครับ ส่วนงานวิจัยต้องลองไปหาเอาครับ ถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะเป็น paper ของ คาร์ล ยุง เนี่ยแหละมั้งครับ คือเราเกิดมาพร้อมฟังก์ชันชุดนั้นๆเลย ถ้า อิงตามงานนั้นก็เหมือนเราถูกสุ่มมาแล้วว่าเราต้องใช้ฟังก์ชันนั้นๆ เพื่อให้เข้ากับกระบวนการดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ให้มากที่สุด เพราะทุกฟังก์ชันมีความจำเป็นหมด ในอดีตไม่รู้กี่หมื่นปีอาจจะมีมนุษย์มากกว่านี้ ถ้าปัจจุบันหลักๆก็คงมี 16 แบบไม่นับรวม Enneagramหรืออื่นๆ มันเปลี่ยนไม่ได้แต่พัฒนาได้ ถ้าอิงตามหลักศาสนาหรือด้านจิตวิญาณ ก็คงอธิบายว่าเราถูกกำหนดมาให้เป็นแบบนั้นเพื่ออะไรบางอย่างและนำไปสู่อะไรบางอย่าง
เปลี่ยนไม่ได้ครับ มันเป็นกระบวนการในสทองแบบปัจเจก ถ้า MBTI เปลี้ยนได้ นั่นหมายความว่า คุณจะเป็นเหมือนคนอื่นได้ ภายในเวลาแค่วันเดียว
อ่านแล้วไปคิดนะครับ คนที่ความจำเสื่อม ต่อให้ความจำเสื่อม ก็จะมีกระบวนความคิดเหมือนเดิม ที่เปลี่ยนไปจะเป็นนิสัยครับ เพราะนิสัยเป็นอิงกับประสบการณ์ในอดีต ไม่เหมือนกระบวนการคิดที่มันคือปัจเจกของเราตั้งแต่เกิดจนถึงวันตาย
ทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก แค่เปลี่ยน ตัวท้ายตัวเดียว J กับ P นิสัยต่างกันคนละขั้ว Function เรียงต่างกันหมด มีตัวที่ 3 T กับ Fe ที่เปลี่ยนน้อยสุด เปลี่ยนแค่อันกลาง
ทำ mbti แล้ว ได้intjมาตลอด แต่แอบมาดูคลิปนี้แล้ว เริ่มรู้สึกว่า intpก้แอบเหมือนตัวเราเลยค่ะ โดยเฉพาะเวลาอยู่ในช่วงเครียด จริงอยู่ที่ว่าจะปลีกตัวกลายเป็นคนสันโดษ แต่ก็มีความรู้สึกว่าตัวเองก็แอบหมกหมุ่นกับเหตุการณ์ในอดีตเหมือนกัน 🥲
แบบทดสอบอาจจะพลาดได้ลองไปดูช่องนี้LUOWเขาสอนหาmbtiเข้าใจง่ายหาง่ายมาก mbtiที่ได้ตรงชัวๆ
จะมีinfp และinfjไหมครับ
กำลังคิดว่าจะทำต่ออยู่เลยครับ ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับผม
มีเบียวฟังชั่นมั้ยครับ วัยรุ่นเจน z มีเยอะ😂
ขอ intj กับ istj
กระจ่างมาก ๆ ขอบคุณนะคะ
จริง
อยากรู้เหตุผลของ Ni อะแต่ละฟังก์ชั่นมันน่าจะเชื่อมโยงกันไม่ใช่เหรอ พอคนที่มองโลก ใช้ Se ในการตัดสินใจก็จะมี ni พอจะอธิบายให้เชื่อมตรงนีเได้ไหมแบบพวกที่ให้คุณค่ากับรูปธรรมสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าชัดเจน ชอบใช้ประสาทสัมผัส เป็นไปได้ไหมที่พวกเขาไม่ได้คิดเชื่อมโยงแบบ Ne ละลงมือทำก่อน แล้วค่อยกลับมาตั้งเป็นคำคมข้อคิดเรียนรู้สิ่งที่จะเกิดในอนาคตจากที้ได้รูเมาหรือประสบการณ์ที่ปฎิบัติลงไป ไม่อยากให้มันดูเป็นพลังเวทมนตร์
ลองฟังคลิปนี้ดูนะครับผม เผื่อจะพอช่วยให้คำตอบได้ครับ
(Ni)เราเห็นอนาคตไม่ได้เพราะเราแค่ยังไม่ได้ปลดล็อคสิ่งนี้... | MBTI
ruclips.net/video/qtiyxL1_lUo/видео.html
@@Spiritrovert มันเป็นไปได้ไหมอะที่เขาเอ๋อ ชอบใช้ชีวิต man of the world จนแบบ ค่อยมาคิดทีหลังอะ แล้วได้แง่คิดจดจำเป็นประสบการณ์ เลยทำให้เหมือนคาดการณ์อนาคตได้ Ni ตัวแรกๆ ก็สนใจและเห็นได้ไวกว่าจากคนอื่นทำอะไร Ni ตัวหลัง ไม่ค่อยเข้าใจ
@@Spiritrovert มันมาจากติตไร้สำนึกเป็นไปได้ไหมที่เพราะว่า มันทำไปแล้วอะ Se เคยทำเคยเห็นมีประสบการณ์แต่มันอค่อยากทำไม่ได้คิดอะไรในตอนนั้น แล้วมันก็ทำให้เขาฉุกคิดได้ทีหลัง มาเป็นแพทเทิร์นเข้าใจชีวิต จากประสบการณ์
@@MznfjfMshfir อย่างที่ จขม อธิบายเลยครับผม Ni กับ Se ก็ทำงานในแง่นั้นเหมือนกัน คือโดยปกติแล้ว Ni และ Se เนี่ยจะทำงานคู่กันครับ อย่างที่ จขม เม้นอธิบายมาว่า Se รับรู้สิ่งที่เคยกระทำไปแล้วอาจจะไม่ได้จดจำช่วงเวลาที่กระทำไป พอผ่านช่วงเวลาไประยะนึง Ni อาจจะดึงขึ้นมา แต่ดึงมาเพียงแค่อารมณ์เท่านั้น มันทำให้ตัวผู้ใช้ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร มันมีที่มาจากไหน จึงต้องตีความตามแบบเฉพาะแต่ละบุคคลประมาณนั้นครับ
@@MznfjfMshfir แต่ Ni มันลึกลับตรงส่วนที่ บางทีมันดึงอารมณ์จากจิตไร้สำนึกสะสมที่ถูกส่งต่อมาจากบรรพบุรุษด้วย ทำให้บางที Ni user ไม่จำเป็นต้องรับรู้ผ่านประสบการณ์ในช่วงชีวิตของตัวเองเลยก็ได้ครับ ส่วนตัวผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่าการดึงอารมณ์จากจิตไร้สำนึกสะสมขึ้นมาเนี่ยมันรู้สึกอย่างไร เพราะผมไม่ใช่ผู้ใช้ Ni ครับ ได้เพียงแธิบายตามหลักทฤษฎี ประมาณนั้นครับผม