เสริมอีกอย่างคือ ชื่อยาวจริงครับ อย่างของเกาคือ We are breaking up , Clash landing on you . จะออกขายในชื่อเกามากกว่า ส่วนของญี่ปุ่นนี่คือถ้าไม่ใช่ที่ดัดแปลงมาจากอนิเมะคือยาวมากกกก แถมไม่มีชื่อแบบภาษาอังกฤษให้คนเขาจำง่ายๆอีก
ดูคลิปจบแล้วต้องเข้ามาคอมเมนต์ด้วยเลย เราคิดว่าเราเป็นคนรุ่นตรงกลางระหว่างคุณเอกกับแอดมินท่านสองท่านค่ะ คือทันเห็นความรุ่งเรืองของซีรีส์ญี่ปุ่นยุคไอทีวี และไอทีวีนั่นแหละที่เริ่มเอาซีรีส์เกาหลีเข้า อย่าง Autumn In My Heart, Winter Love Song ฯลฯ ยุคนั้นเมื่อพูดถึงซีรีส์เกาหลี (รวมถึง MV เกาหลีที่ชอบส่งต่อกันผ่าน e-mail) ทุกคนจะคิดถึงพล็อตที่เศร้ารันทด ร้องไห้ตาบวม ซาบซึ้งตรึงใจ หลังจากนั้นซีรีส์เกาหลีก็เริ่มเข้ามาฉายอย่างต่อเนื่อง เรื่องที่ดังพีคๆ เลยตอนนั้นต้องยกให้ Full House ที่ไม่ได้มาแค่ซีรีส์ แต่ยังมีนิยายแปลขาย เพลงประกอบก็เพราะ แถมมีเพลงเวอร์ชั่นภาษาไทยอีกต่างหาก พระเอกอย่างเรนที่เป็นนักร้องก็วางอัลบั้มไปอีก แถมมี Thailand Version เพิ่มเพลงเวอร์ชั่นที่ร้องเพลงกับปนัดดาอย่าง เพลง I do เข้าไปอีก เรียกว่าตั้งใจมาตีตลาดไทยเลยค่ะ
ยกมือ! จากคนที่ทำงาน production งานถ่ายทำ production ฝั่งญี่ปุ่นเชยมากจริงๆ ต่างกับเกาหลีที่ล่ำกว่ามาก เป็นสไตล์ที่ฝรั่งเองยังต้องมาศึกษา หลังๆ ซีรีย์ไทยบางเรื่องยังถ่ายทำดีกว่าญี่ปุ่นอีก
เห็นด้วยกับพี่เอก ทั้งหมดทั้งมวลมันต้องขึ้นกับกับที่ญี่ปุ่นว่าเขาอยากให้ตัวเองแมสไปมากกว่านี้หรือเปล่า ขึ้นอยุ่กับแรงสนับสนุนและการพรีเซ้นท์ตัวเองอ่ะนะ ปล.ส่วนตัวเราไม่ชอบความแมส เลยดูแต่ซีรี่ย์ญี่ปุ่นตลอด alice in borderlandคือที่สุด
ใครไม่ชอบเราชอบนะ🤣 Alice in borderlands ทำให้เราชอบเคนโตะ ยามาซากิ ไล่ตามดูทุกเรื่อง แล้วก็เริ่มรู้จักนักแสดงหลายคนมากขึ้น ขยายไปดูคนอื่นๆมากขึ้น แต่ไม่นอกใจเคนโตะแน่นอน😘🤣
เราว่าเหตุกนึ่งก็คือชื่อซีรีย์ที่เป็นคำอ่านของภาษาญี่ปุ่น เช่น kikazarukoi แล้วไม่มีชื่ออังกฤษกำกับมาพร้อมกันด้วย เวลาคนจะหาดูมันก็ยากอ่ะค่ะ แต่เกาหลีชื่อซีรีย์เค้าเป็นภาษาอังกฤษเลยงะ มันเลยง่ายกว่า
+1
ญี่ปุ่นลิขสิทธิ์ค่อนข้างแรง การซื้อซีรี่ย์มาฉายในต่างประเทศก็ยากซื้อตัวซีรี่ย์มาบางทีนักแสดงนำไม่สามารถลงรูปโปรโมทได้ก็มี บางคนก็มองว่าทำไมต้องเล่นใหญ่ๆไว้ รีแอคชั่นการแสดงสีหน้าอาการมันดูเว่อร์จัง แต่นี่คือมีแฟนเป็นคนญี่ปุ่นนะ เพื่อนหลายคนก็เป็นคนที่ทำงานที่ญี่ปุ่นรีแอคชั่นก็ประมาณนี้แหละเค้าจะเล่นใหญ่ๆไว้ก่อนคนปกติก็เป็น ญี่ปุ่นคือปิดกั้นเก่งมากนะติ่งนอกเกาะแบบเราคือแทบท้อ ยังจำตอนสมัยต้องเทอาราชิเพราะตามยากได้เลย😂😂😂 นี่ขนาดว่าดีขึ้นมาแล้วบ้างนะแต่ก็นั่นแหละปิดกั้นเก่งอยู่ดี ซีรี่ย์บางเรื่องก็ทำมาจากมังงะบทก็นั่นแหละเบียวบ้างบ้งบ้างก็มี แต่ซีรี่ย์สืบสวนนี่ยกมห้ืญี่ปุ่นนะเราลุ้นระทึกดี ส่วนซีรี่ย์โรแมนติกบางเรื่องคือหวานพอๆกับพี่จีนเลยจ้าหวานตัดขามากกกก🤣🤣🤣
ขำคำว่าหวานตัดขา เห็นภาพ 55555
ซีรีส์ครอบครัวก็ขำน้ำตาเล็ด พอใกล้จบอบอุ่นหัวใจ💗
@@DaisukiPlus บางเรื่องคือดูจบต้องตรวจเบาหวาน หวานเกิ๊น 🤣🤣🤣
เราว่าการแสดงของญี่ปุ่น ค่อนข้างธรรมชาตินะ
ไม่ใช่แนวเล่นใหญ่ เล่นชัด อะไรขนาดนั้น
แต่ที่เห็นเล่นใหญ่ น่าจะเป็นแนวการ์ตูน
แนวยากูซ่า นักเรียนนักเลงตีกัน ซึ่งก็เป็นแนวมังงะ
แต่ถ้าเป็นเรื่องทั่วไปในชีวิตจริง
การแสดงก็เรียล เป็นธรรมชาติอยู่นะ
นักแสดงบางคนตามยากมากมีไอจีแต่ลงรูปเห็นละท้อเลยย อินโทเวดเกิน😂 😢😢
เท่าที่ผมสังเกตได้คือ ทั้งซีรีส์, ภาพยนตร์, เพลง, มังงะ, อะนิเมะ, หนังสือ, กีฬา, เทคโนโลยี, ของกิน, ของใช้, สถานที่ต่างๆ รวมไปถึงผู้คนค่อนข้างที่จะเข้าถึงได้ยากมากครับ
เหมือนทำขึ้นมาเพื่อเฉพาะกลุ่มคนที่ชื่นชอบจริงๆเท่านั้น , แลดูเป็นวัฒนธรรมที่ยังคงยึดติดอยู่กับการปิดกั้น และอนุรักษ์ความเป็นตัวตนเอาไว้, ทำให้เกิดเป็นอุปสรรคในประเด็นดังกล่าวนี้ครับ
แต่หากอยากจะเข้าถึง ก็ต้องเปิดใจให้กว้าง, ลดอคติ แล้วใช้ความรัก, ความพยายาม และความเข้าใจกับทุกอย่างในข้างต้น รวมไปถึงการซึมซับวัฒนธรรม เรียนรู้ และน้อมรับ เพื่อปรับทัศนคติและมุมมองของตัวเรา ให้พร้อมเปิดรับเนื้อหาที่เรากำลังจะติดตามครับ ^^
เป็นกำลังใจให้นะครับ~ พี่สาว~น้องสาว~และคุณเอก แซลมอน!!? >
ผมก็ชอบซีรี่ย์ญี่ปุ่นนะ8-10ตอนรู้สึกไม่ยืดเกินไป แล้วก็รู้สึกเหนื่อยเวลาดูซีรี่ย์เกาหลี20ตอน+ ยืดไปนิดครับ
+1 ค่ะ . . . เราคนนึงที่ดูซีรีย์เกาน้อยมากกก ทั้งชีวิตไม่ถึง 5 เรื่องที่ดูจบ เพราะรู้สึกว่ามันยืดเยื้อมาก เราชอบอะไรที่จบไวไม่ยืด ของญปคือตอบโจทย์เรามาก 😁
อย่างงี้ซีรี่ย์จีนคงดูไม่ได้เลย เห็นว่ามี 40 กว่าตอน เราชอบกระชับๆแบบญี่ปุ่นเหมือนกัน
ซีรี่ย์ปรมาจารย์ลัทธิมาร เราใช้เวลาปีหนึ่งเลยค่ะถึงดูจบ 50 ตอน 😂มันสนุกน่ะ แต่บางครั้งก็เบื่อไม่อยากดูอาทิตย์นี้
ไม่นะ มาตราฐานเกาหลี คือ 16ตอน 20+ที่เห็นคือน้อยมาก ที่เยอะคือจีน เกิน20+ทุกเรื่อง ญี่ปุ่นคือ 10ตอนเป็นส่วนมาก ทำไมญี่ปุ่นไม่ค่อยเป็นที่นิยมคงเพราะตัวละครแอคติ้งที่บางทีดูเวอร์ๆไป เขาคงถนัดอนิเมะมากกว่า ประเทศแต่ล่ะที่เขาก็จุดเด่นของเขาอยู่แล้ว
+
1. ความแอคติ้งนี่แหละครับที่หลายคนหันหน้าหนีกันเลย เพราะบ้านเราไม่ได้มีแอคติ้งที่แบบญี่ปุ่นนี่แหละครับ เราเลยจะคุ้นชินกับการแอคติ้งของจีน เกา มากกว่า พอเจอของญี่ปุ่นไปเลยก็แบบมันเลยโอเวอร์สำหรับบ้านเรา นี่เคยดูแนวโรแมนติกของญี่ปุ่นบอกเลยว่าไม่ไหวจริงๆครับ พวกความรักในโรงเรียน วัยเรียน คือถอดแบบจากมังงะมากเกินไป นางเอกแนวใสๆ พระเอกหนุ่มหล่อ เคยถามเพื่อนที่เคยดูแนวโรแมนติกมาเยอะๆ ทั้งเกาทั้งญี่ปุ่น เพื่อนเคยบอกว่า แนวโรแมนติกของญี่ปุ่นในโรงเรียนมันจะวนอยู่ไม่กี่แนว คือ นางเอกบ้านจน พระเอกหล่อรวย นางเอกสดใส พระเอกเย็นชา ส่วนมากก็จะวนแนวๆนี้จนเพื่อนผมเอียนเลย
2. ดารา ตรงจุดนี้ไม่อยู่ที่หน้าตานะครับ แต่การติดตามแบบที่ทั้งคู่บอกเลย อย่างเกาหลีสมมุติชอบกงยู ก็พิมพ์ใน RUclips ก็เจอแล้วทั้งวาไรตี้ ทั้งอะไร มีไอจี มี Tiktok ถ้าเป็นไอดอลก็มีผลงานเพลงตามง่าย ตามได้ตั้งแต่ห้องซ้อม ชีวิตประจำวัน การแสดงสด ของญี่ปุ่นคืออหาตามไม่ได้เลยครับ สิ่งที่ทำให้คนตามซีรี่ย์หลักๆอย่างแรกก็คือไอดอลนี่แหละครับ แถมเมื่อก่อนเคยเห็นประเด็นที่แฟนบางคนแบบเขาเลือกการแสดงมากกว่าหน้าตา แล้วชอบบอกว่าฝั่งเกามีแต่หล่อพลาสติค หล่อศัลยกรรม ไม่ใช่หน้าแท้ จนหลายคนพาลไม่ชอบดาราญี่ปุ่นไปด้วยก็มี
3. วัฒนธรรมที่แบบไม่โกลบอลคนเลยไม่อินอีก เหมือนที่พี่ๆบอกอ่ะครับ มุขตัวเลขกับชื่อ คนบ้านเราไม่เก็ทจริงๆ ของเกาหลีคือแนวตลกจะฟิลแบบไทยนี่แหละครับ ตลกท่าทางไรแบบนี้คนไทยจะเก็ทแบบนี้มากกว่า
4. พล็อต ถ้านับเฉพาะพล็อตนี่ญี่ปุ่นหลากหลายจริงครับ แต่คนก็ไม่ได้อินด้วยเพราะเทรนในยุคนี้คือแนวแบบอาชีพชิวๆชีวิตประจำวันมันเจาะบ้านเราได้ยากมากก ตอนนั้นแนะนำสาสขายบ้านให้เพื่อน เพื่อนก็ถามกลับมาขายบ้านแล้วยังไงต่อ นี่ก็ไปไม่ถูกเลย ก็มันเน้นขายบ้านแบบเคสบายเคสอ่ะ ไม่รู้จะแนะนำไงดี แต่แนวสืบสวนนี่ทำดีทั้งคู่เลยครับ ให้ดีพอๆกันเลย แถมแนวเกมส์คือนี่เป็น 1 ในคนส่วนใหญ่ที่ชอบสควิดเกมส์มากกว่า เพราะความเข้าถึงง่ายนี่แหละครับ อย่าง Alice คือหลายๆคนที่ตามแบบเพิ่งมาก็จะงงกันเลยว่าเกมส์นี่มันยังไง เล่นยังไง นี่ว่าใน Alice มีแค่เกมส์ที่หาตัวแม่มดตอนท้ายนั้นแหละครับที่ดูแบบไม่คิดไรมาก พอเป็น Squid game มันเลยเจาะคนได้มากกว่า
5. การปิดกั้นยุคก่อนนี่คือบูมมาก itv ช่อง 7 มีหมดเลย แต่พอเป็นยุคของ Internet เข้ามา คนก็อยากตามวัฒนธรรมอื่นบ้าง แบบไอดอล ดารา แต่ก็ยาก แล้วซีรี่ย์หลายๆเรื่องก็ไม่มีในบ้านเรา คนก็ไม่รู้จะตามที่ไหนอีก มีแค่เพลงที่เจาะตบาดบ้านเราได้นานสุดแล้ว เพราะ 48g ในไทยคนบ้านเราก็ตามเยอะอยู่ ของเกาคือเลือกที่จะเดินไปหาเขา เปิดให้ดูทั่วโลก ชอบคนนี้เหรอ เรามีไอจีวงให้ตาม เรามีรายการวาไรตี้ของวงให้ตาม บางรายการคือซับไทยแบบออฟฟิศเชี่ยลเลยเรียกว่าป้อนอาหารเข้าปากให้เลยทีเดียว แต่ของญี่ปุ่นคือ คุณต้องเดินมาหาชั้น อยากสมัครอีเว้นท์ออนไลน์เหรอ บัตรเครดิตญี่ปุ่นนะ ถ้าไม่มีอด คอนเเปะ World tour แต่ก็ไปไม่กี่ประเทศเอง บางทีเห็นนักร้องวงนี้หล่อ จะเข้าไปตามก็ต้องมุด VPN เลยกลายเป็นจุดกระแสไม่ติดนี่แหละครับ
เสริมอีกอย่างคือ ชื่อยาวจริงครับ อย่างของเกาคือ We are breaking up , Clash landing on you . จะออกขายในชื่อเกามากกว่า ส่วนของญี่ปุ่นนี่คือถ้าไม่ใช่ที่ดัดแปลงมาจากอนิเมะคือยาวมากกกก แถมไม่มีชื่อแบบภาษาอังกฤษให้คนเขาจำง่ายๆอีก
ดูคลิปจบแล้วต้องเข้ามาคอมเมนต์ด้วยเลย
เราคิดว่าเราเป็นคนรุ่นตรงกลางระหว่างคุณเอกกับแอดมินท่านสองท่านค่ะ คือทันเห็นความรุ่งเรืองของซีรีส์ญี่ปุ่นยุคไอทีวี และไอทีวีนั่นแหละที่เริ่มเอาซีรีส์เกาหลีเข้า อย่าง Autumn In My Heart, Winter Love Song ฯลฯ
ยุคนั้นเมื่อพูดถึงซีรีส์เกาหลี (รวมถึง MV เกาหลีที่ชอบส่งต่อกันผ่าน e-mail) ทุกคนจะคิดถึงพล็อตที่เศร้ารันทด ร้องไห้ตาบวม ซาบซึ้งตรึงใจ หลังจากนั้นซีรีส์เกาหลีก็เริ่มเข้ามาฉายอย่างต่อเนื่อง เรื่องที่ดังพีคๆ เลยตอนนั้นต้องยกให้ Full House ที่ไม่ได้มาแค่ซีรีส์ แต่ยังมีนิยายแปลขาย เพลงประกอบก็เพราะ แถมมีเพลงเวอร์ชั่นภาษาไทยอีกต่างหาก พระเอกอย่างเรนที่เป็นนักร้องก็วางอัลบั้มไปอีก แถมมี Thailand Version เพิ่มเพลงเวอร์ชั่นที่ร้องเพลงกับปนัดดาอย่าง เพลง I do เข้าไปอีก เรียกว่าตั้งใจมาตีตลาดไทยเลยค่ะ
และช่วงที่ซีรีส์เกาหลีเข้ามาต่อเนื่องกันนี้เอง คนไทยยังพูดเลยว่า
“เมื่อพูดถึงซีรีส์เกาหลี พระรองหล่อกว่าพระเอกเสมอ”
คำพูดนี้อยู่ในยุค Coffee Prince ที่พระเอกคือกงยูเลยนะคะ เราจึงคิดว่าประเด็นหน้าตานักแสดงไม่ใช่ประเด็นหลักนัก แต่เป็นเรื่องของความคุ้นเคยมากกว่า ตอนนั้นคนไทยก็ยังไม่ชินกับหน้าตาของนักแสดงเกาหลี ยังมีคำล้อเลียนมากมาย เหยียดรูปลักษณ์ต่างๆ แต่พอตัดภาพมาทุกวันนี้ก็มองว่าหล่อเท่กันไป
เรื่องการแสดง
เราว่าตรงนี้เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละชาติมากเลยค่ะ
หากเราเจอแอคติ้งเวลาตกใจในซีรีส์ญี่ปุ่นแบบ “เหหหหห………!”
เราก็จะเจอแอคติ้งเวลาตกใจแล้วทวนกลับในซีรีส์เกาหลีแบบ “ฉิ่นจ๊ะ!?” (จริงเหรอ) อ่านแล้วโทนเสียงกับวิธีการแสดงของนักแสดงลอยมาเลยไหมคะ ตอนเราเริ่มดูเราก็คิดว่านักแสดงเกาหลีโอเวอร์แอคติ้งค่ะ ฮ่าๆ แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าเราชินกับวิธีการแสดงแบบนี้ไปแล้ว
สรุปแล้ว
เราว่ามันคือความคุ้นเคยต่อคอนเทนต์มากกว่า
พอได้เสพบ่อยๆ ดูเยอะๆ เลยซึมซับและเข้าใจว่านี่คือซีรีส์ญี่ปุ่นนะ นี่คือซีรีส์เกาหลีนะ จนเริ่มสนุกไปกับการเสพคอนเทนต์เหล่านั้น
คอนเทนต์ญี่ปุ่นดีมากๆ อยู่แล้ว หลายคอนเสปที่ญี่ปุ่นคิดมาก่อนนานแล้ว กลับถูกคนอื่นเอาไปทำต่อจนดังทั่วโลก เป็นเรื่องที่ทั้งน่าเจ็บใจและน่าเสียดายมากค่ะ
ขอเพิ่มเติมอีกวงการนะคะ
อย่างวงการดนตรี ญี่ปุ่นเองเป็นต้นฉบับหลายๆ อย่าง แต่ไม่เคยมีใครรู้ว่าญี่ปุ่นเป็นต้นฉบับ ไหนจะคอนเทนต์การแสดงสดของศิลปิน ขณะที่เกาหลีลงทุกสเตจยันแฟนแคมให้ดูฟรีทั่วโลก ญี่ปุ่นยังหวงคลิปการแสดงเจ๋งๆ ทั้งหลายจนตอนนี้จะเหลือแค่ Music Station รายการเดียวแล้วไหมคะ...
เพราะเราตามทั้ง 2 ฝั่ง เห็นแล้วก็เสียดายแทนญี่ปุ่นค่ะ...
สมัยก่อนตามยากยังไง ทุกวันนี้ยังยากเหมือนเดิม... แต่อย่างน้อยก็ลง MV ตัวเต็มให้ดูแล้วค่ะ....เฮ้อ
ช่วงม.ต้นเราก็ติดซีรีส์เกาหลีค่ะ ยุค เจ้าหญิงวุ่นวาย, Coffee Prince , oh my girl เอามาฉายในช่อง 7 เยอะมากๆ มารัวๆ ต่อกันเลย ช่วงนั้นญี่ปุ่นเลยหายๆไป แต่เราก็กลับมาดูญี่ปุ่นเองโดยตามหาในอินเทอร์เน็ตเนี่ยแหละ 555 ตามยากเย็นจริงๆ
@@DaisukiPlus เราก็ดูซีรีส์เกาหลีถึงช่วงนั้นเหมือนกันค่ะ 🤣
กลับมาดูซีรีส์ญี่ปุ่นยาวๆ เพราะ Nodame Cantabile และเรื่องอื่นๆ ซึ่งหาดูยากมากจริงๆ...🥲
เราก็เป็นคนส่วนน้อยที่ชอบ Alice in Borderland มากกว่า Squid Game ค่ะ
เพื่อนเราที่ชินกับซีรีส์เกาหลีไปแล้ว จะบอกว่า Squid Game สนุกกว่า เดินเรื่องเร็วกว่า ในขณะที่เราคิดตรงข้ามหมดเลย Alice in Borderland สิที่สนุกกว่า เดินเรื่องเร็วกว่า
ต้องยอมรับว่าเกาหลีขายเก่งจริงๆ ค่ะ เอาการละเล่นเด็กมาทำหนังแนวนี้ ขายของได้ไปอีก แต่เราชอบเกมแบบ Alice in Borderland หรืออย่าง Liar Game มันซับซ้อนและว้าวดี 🤣
เฮ้อ หวังว่าญี่ปุ่นจะเลิกทำการตลาดที่ยึดติดกับกรอบแบบเดิมๆ สักทีนะคะ
เลิกบล็อคการเข้าถึงของต่างชาติก่อนเลย!
Autumn in my heart เป็นซีรี่ย์ที่ทำให้เราไม่ดูแนวนี้ของเกาหลีอีกเลย เพราะไม่ถูกจริตอย่างแรง ช่วงแรกๆมันสนุกมากเลยนะ ช่วงที่พระนางเด็กๆอะ พอมาพาร์ทโต ปวดตับจนทนไม่ไหว มันจะเศร้าจะหดหู่อะไรขนาดนั้นจากอินๆกลายเป็นเอือมเลยค่ะ ช่วงนั้นน่าจะมัธยมจำได้
ผมเองก็ชอบ อลิส มากกว่า สควิดเกม เกมที่ใช้เล่นกัน มันดูมีดีเทล รายละเอียดให้น่าติดตามมากกว่า สควิดเกมมันเดาเนื้อเรื่องได้ และเกมที่เล่นกันมันง่ายดูแล้วมันไม่ว้าวเท่าไร
เหมือนกันปริศนาในอลิสมันดูลึกกว่า
ชอบดูซีรีส์ญี่ปุ่นมากค่ะ ถึงแม้จะหาดูยากแต่ก็ยังชอบดูอยู่ดี แต่จริงๆส่วนตัวพึ่งมาดูซีรีส์ญี่ปุ่นได้ไม่นานเลย แต่ก็รู้สึกว่าตัวเราเองก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญการแอคติ้งของนักแสดง หรือ ติดตรงหน้าตาของนักแสดง แล้วก็จุดที่ชอบมากๆคือจบเร็ว ตอนไม่เยอะ ไม่ดูยืดเยื้อ
จากใจคนดูละครญี่ปุ่น เราว่ามีหลายเหตุผลประกอบกัน ทั้งเรื่อง Marketing ความที่แฟน ๆ ที่อื่นตามดูยาก เรื่องการแสดงที่อันนี้ส่วนตัวนะ เราว่านอกจากเรื่องโอเวอร์แอคติ้งซึ่งส่วนตัวเราเข้าใจ แต่ เรารู้สึกว่าโอกาสที่จะเจอนักแสดงที่แสดงไม่ดี (imo) มันมากกว่าเกาหลี โดยเฉพาะนักแสดงรุ่นหลัง ๆ (บางคนก็ดีมากนะแบบน้องสุกิซากิ ฮานะ) ยิ่งสำหรับพวกเรื่องแนวโรแมนติกยุคหลัง ๆ ซีนเข้าพระนางแทบไม่มีเรื่องไหนทำให้อินได้เลยอันนี้ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แบบ มันแปลก ๆ ดูไม่จริง ดูเธอไม่ได้รักกันจริง อีกอย่างคือเรื่องโปรดักชันที่โอ๊ยกี่เรื่อง ๆ ก็พอ ๆ กัน แบบ ชอบพล็อตมากกกก แต่ฉากเป็นฉาก มุมกล้องเชยยยย ซีนพูดคำคมก็ต้องมีแสงสาดมางี้ แบบ มันเชยง่ะ ซีรีส์ไทยหลาย ๆ เรื่องยังถ่ายดูดีกว่ามากก (i.e. แปลรัก) ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องของทุนแหละ เพราะอย่างอลิซหรือพวกละครฟอร์มใหญ่ ๆ หน่อย พวกไทกะก็ถ่ายทำดูดี (+กับคงเป็นการทำงานภายในสไตล์ญี่ปุ่นที่จะเปลี่ยอะไรยาก ๆ หน่อย (???เดา)) อีกอันสำหรับเราคือละครญี่ปุ่นขี้ฉอดอะ แบบมันไม่ subtle เวลาจะมีซีนสอนใจก็คือต้องมีตัวละครนึงพูดโต้ง ๆ ออกมาเลย (//ซูมหน้า //แสงสาด) คือบางทีให้คนดูคิดเองมั่งก็ได้ ส่วนตัวเวลาเจอการให้ “ข้อคิด” แบบตรง ๆ โต้ง ๆ แบบนี้ มันทำให้หลุดออกจาก immersion อะ แบบ เออ มึงคือละครแหละ พูดมาขนาดนี้ส่วนตัวก็คงยังดูละครญี่ปุ่นต่อไปเพราะชอบความเข้มข้นของพวกละครสายอาชีพ (สมจริงมั้ยอีกเรื่อง55555) แกนเรื่องที่แปลกใหม่ และตัวละครที่มีเสน่ห์แบบที่ละครประเทศอื่นให้เราไม่ได้ บ่นเพราะอยากให้เธอแมส55555555
คลิปนี้น่าทำซับญี่ปุ่น กับใส่ description ภาษาญี่ปุ่นนะคะ เผื่อคนญี่ปุ่นเข้ามาดู หรือใครอยากแชร์ให้คนญี่ปุ่นดู
จริงค่ะ
โปรดักชั่นเกาหลีเคยล้าหลังญี่ปุ่นมาก่อน เทียบได้จากเรื่อง หมอจิน ซึ่งเวอร์ชั่นเกาหลีล้าหลังมากๆ เอฟเฟกตอนผ่าตัดต่างๆ เทียบญี่ปุ่นไม่ได้เลยจนผมทนดูไม่ได้
แต่หลังจากหมอจิน จู่ๆ โปรดักชั่นการถ่ายทำของเกาหลีก็พัฒนาก้าวกระโดดมากจนตอนนี้ก้ซับซ้อน ทุ่มทุนสร้างกว่าญี่ปุ่นไปแล้วจริงๆ ตามดูมา 10 ปีก้แปลกใจเหมือนกันว่า จู่ๆ เกาหลีก็พัฒนาก้าวกระโดดมาก แต่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้ล้าหลังลง เพียงแค่ หยุดนิ่งกับที่ ไม่ได้เน้นโปรดักชั่นอลังการแบบเกาหลียุคหลังๆ แต่ก็ยังมีคุณภาพที่ดีอยู่ หลายๆ เรื่องมีการนำเสนอที่ดี แหวกแนว ใหม่ แต่ก็ไม่ได้ใช้โปรดักชั่นอลังการแบบเกาหลี ทำให้หลายๆ คนเข้าใจว่าญี่ปุ่นเชย แต่จริงๆ แล้ว ดีตามมาตรฐานที่ดี แค่ดีแบบนี้มานานไม่พัฒนาจากเดิมแบบเห็นได้ชัดแบบเกาหลี
เรื่องวิธีการตัดต่อของเกาหลีตอนนี้ก็พัฒนาไปไกลกว่าญี่ปุ่นมาก แต่ญี่ปุ่นก็ยังอยู่ในระดับที่ดีกว่าชาติอื่นๆ ในเอเชียอยู่ แต่แค่ตอนนี้เกาหลีเหนือกว่า
เกาหลีเค้าระดับโลกแล้ว ญีปุ่นยังอยู่ที่เดิมอยู่เลย ไม่พัฒนา
ชอบซีรีย์ญี่ปุ่นเหมือนกัน อย่างซีรีย์การแพทย์ อย่าง Team Dragon, Code Blue
ส่วนตัวชอบซีรี่ย์ญี่ปุ่นมากค่ะ (อาจจะมากกว่าเกาหลีนิดๆด้วย) ชอบที่เข้มข้น เนื้อเรื่องซีรี่ย์สั้นกระชับ ไม่เยิ่นเย้อ ถ้าลองเปิดใจดูจะรู้สึกซีรี่ย์ญี่ปุ่นมีเสน่ห์มากๆ แต่จริงมากที่ว่าหาดูยาก! ชอบญี่ปุ่นมากกว่าแต่ได้ดูเกาหลีมากกว่า 😅
ประเด็นนี้น่าสนใจ เห็นด้วยอย่างที่พี่เอกพูดค่ะว่ายุคนี้คนพร้อมจะเสพสื่อที่มีลิขสิทธิ์มากขึ้น พร้อมจ่ายกันมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน
คือญปมีของอยู่ในมืออยู่แล้ว เราชอบดูละครดูหนังญปเพราะความเป็นญปเลยอยากให้มันแมสไปสู่วงกว้างเพราะสิ่งนี้มากกว่าที่จะต้องไปทำตามใคร แต่การตลาดเนี่ยไปลองดูเพื่อนบ้านบ้างก็ได้ว่าเขาทำกันยังไง ติ่งนอกเกาะอยากขายให้คนอื่นใจจะขาดแต่ขายไม่ได้เพราะไม่รู้จะให้ไปดูที่ไหนมันท้อหัวใจที่สุด T_____T
เราทันละครญปยุคช่อง7 ยูบีซีค่ะ ไอทีวีเราเด็กเกินกว่าจะจำได้ว่าทันดูอะไรบ้าง5555 จำได้แค่ว่าดูโนบุตะไปนิดนึงชอบมะพีแล้วก็จำไม่ได้ละ จำได้อีกทีคือโกคุเซนตอนเช้า เสาร์-อาทิตย์ต้องรีบตื่นมาดูการ์ตูนก่อนละก็ค่อยดูโกคุเซนต่อ
บ้านเราติดจานยูบีซีอะ ตอนนั้นเลยมีรายการทีวีญปให้ดู มีละครบ้าง แล้วก็มีช่องเพลงช่องการ์ตูนงี้ เราก็เสพจากทางนั้นเอา เมื่อก่อนที่มันบูมส่วนหนึ่งเพราะมันฉายทางทีวีช่องธรรมดาด้วยแหละ คือยังเป็นยุคที่ทุกคนดูทีวีอยู่มันเลยแมสได้ง่ายกว่า ถ้าเทียบกับปัจจุบันที่คนดูทีวีน้อยลง เสพสื่อออนไลน์มากขึ้นการตลาดญปในSNSแบบเข้าถึงง่ายมันก็น้อยเหลือเกินทำให้มันค่อยๆ จางลง ถ้าปรับตรงนี้ได้เราว่าทางญปก็มีโอกาสพลิกเกมเหมือนกัน
พล็อตนี่มีหลายอย่างที่ญปคิดก่อนทำก่อนเยอะมาก แต่ถามว่าทำไมมันดังไม่เท่ากับของเกาหลี ก็อือนั่นแหละ ฮือ ขายให้ติ่งนอกเกาะเถอะพี่ ไหว้ก็ได้ขอร้องอ้อนวอน
มันเคยมีประเด็นเรื่องสควิตเกมกับอลิสอยู่ในทวิตช่วงนึงค่ะ เอาสองเรื่องมาเทียบกันว่าเรื่องไหนดังกว่า ส่วนตัวเราทีมอลิส (ช่าย)
เราว่าสองเรื่องนี้เป้าหมายในการเล่าเรื่องมันต่างกันอะ ถึงพล็อตมันจะคือการเล่นเกมเพื่อเอาชีวิตรอดแต่เป้าหมายและแรงจูงใจของสองเรื่องมันต่างกัน
เลยไม่ค่อยเข้าใจคนที่อวยอีกเรื่องแล้วกดอีกเรื่องลงเท่าไหร่ แล้วละครบางเรื่องไม่มีพระเอก-นางเอกด้วย มันก็อาจจะไม่ค่อยถูกจริตคนไทยที่ชอบดูละครรักเท่าไหร่ด้วยค่ะ
เรื่องย้อมสีภาพเราว่ามันต้องดูโทนเรื่องด้วยแหละ แต่เราก็เคยเจอบางเรื่องที่มันย้อมสีจนแปลกๆ เหมือนกัน อย่างคาโนะคิเรท้ายๆตอน8 ในเรื่องมันเป็นช่วงเวลาเย็นๆ ภาพก็ย้อมส้มจนเรารู้สึกว่ามันไม่ธรรมชาติเลย ไอเราก็ไม่รู้ว่าญปยามเย็นมันจะส้มขนาดไหนเลยไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมต้องย้อมขนาดนั้น คือทั้งเรื่องเกรดสีดีมาก ติดแค่ตอนเนี๊ย เนี่ยฝังใจจำจนวันนี้เลยอะ55555555555555555555555555 (เคนตี้หล่อมากแต่หน้าก็ส้มมากเหมือนกัน5555555555555555555)
โอเวอร์แอคติ้งเราไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่เพราะเสพมังงะ ดูอนิเมะมามันก็ชินแล้ว แต่เรื่องขอโทษนี่เราเป็น คือเขาขอโทษจนเราที่เป็นคนดูรู้สึกผิดด้วยเลยอะที่ตัวละครต้องขอโทษขนาดนี้555555 มันแบบโอ้ยพอก่อนพี่บ่าว รู้แล้วว่ารู้สึกผิดใจเย็นๆ ก่อน555555
แต่ก็เข้าใจคนที่เขาตกใจหรือรำคาญเหมือนกันนะคะ อาจจะเพราะไม่ชินด้วยส่วนหนึ่งมันเลยรู้สึกแปลกๆ ในใจงี้
พระเอกไม่หล่อนี่อยากบอกว่าแกต้องดูเขาแบบเวอร์ชั่นขยับได้ก่อน อันนี้พูดจริงๆ แค่เห็นรูปพรีวิวหรือตัวอย่างสั้นๆ บางทีมันจะแบบเอ๊ะ อะไรวะนิ แต่ถ้าได้ดูไปสักระยะมันจะเริ่มมาละ เอ้ยไอ่หนุ่มคนนี้ตอนแรกก็เฉยๆ ทำไมขยับแล้วมันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้หยุดดูไม่ได้ คือของแบบนี้ไม่โดนเองไม่เข้าใจจริงๆ นะ มันจะเป็นจังหวะหัวใจเต้นที่แบบว่าโอ้ พระเจ้านี่แหละ คนนี้แหละ!!!!!!!!!!!!!!!! สุดยอด!!!!!!!!!!!!! คักโค่ยยยย!!!!!!!!!!!!!
สุดท้ายคนมันจะไม่ชอบมันก็ไม่ชอบนั่นแหละ ต่อให้เข้าถึงง่ายยังไงเขาก็ไม่ซื้ออยู่ดีเพราะไม่ใช่แนวงี้
ไม่ชอบเลยไม่ดู เราไม่มีปัญหา แต่ไม่ชอบแล้วมาว่ามาเหยียดกันนี่มันก็แปลกอยู่นะ
หวังว่าการออกมาพูดของสุดะครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบ้างเถอะ สาธุบุญคุนพี่ ขอบคุณดาราอย่างพี่พูดสิ่งนั้นออกมาค่ะ
ปล.ไม่เคยเขียนคอมเม้นยาวขนาดนี้ ถ้าอ่านแล้วงงก็ขออภัยค่ะ ทางนี้ก็อธิบายสิ่งที่อยู่ในหัวไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่
ปล.2 คุณน้องสาวมองบางมุมก็แอบคล้ายปูเป้บีเอ็นเคเลยค่ะ เป็นคนตลกเหมือนกันด้วยค่ะ55555555
ญี่ปุ่นเขาน่าจะเน้น อนิเมะมากกว่าถึงขนาดเปิดเพลงอนิเมะในพิธีเปิดโอลิมปิก,ในการแข่งขัน แล้วช่วงหลังๆเริ่มเอาอนิเมะมาทำเป็นคนแสดงเป็น ภาพยนต์ เลยทำให้คนภายนอกเลยเห็นภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นเป็นอนิเมะมากกว่าซีรีย์ แต่ไม่ใช่ว่าซีรีย์ไม่ดีน่ะ เนื้อเรื่องก็ดี ไม่ว่าแนวอะไรเนื้อเรื่อง ผมว่ามันเลยยากที่ซีรีย์ญี่ปุ่นจะแมส แต่ภาพยนตร์ผมว่าแมนน่ะ ของญี่ปุ่น
พระเอกญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ได้หน้าหล่อพิมพ์นิยมหุ่นสูงล่ำมีซิกแพคความหล่อมันอยู่ที่บุคลิกคาแรคเตอร์ ดังนั้นจะเอาใครมาเล่นก็ได้ ถ้าบทมันเขียนดีเราจะค่อยๆหลงรักเค้าจากตัวตนข้างใน เสน่ห์เฉพาะตัว จนมองข้ามหน้าตาในที่สุด
ตรงใจเราทุกเรื่องที่พูดมาเลยค่ะ
จากใจ ผู้ชอบซีรี่ย์ เพลงญี่ปุ่น ตั้งแต่ยุค90 จนถึงปัจจุบัน
90s ขอนั่งตรงนี้
เชอรี่เมจิคเข้า วีทีวี ก็แมสอยู่นะ แต่ก็นั่นแหละเหมือนพลุ
1 litre of tear ยังอยู่ในความทรงจำ น่าเสียดายที่ช่อง Thai pbs ไม่นำซีรี่ส์ญี่ปุ่นมาฉายแล้ว
ชอบที่สั้นกระชับตอนนึง 45 นาที จบซีซั่นในสิบตอน ชอบความที่เค้าหยิบอาชีพมาทำให้มันน่าสนใจได้ทุกอาชีพจริงๆ ทำให้เราสามารถทำความเข้าใจแต่ล่ะอาชีพของคนญี่ปุ่นได้ในระดับนึง
ใครไม่ชอบญี่ปุ่นก็แล้วแต่เค้า คุณได้พลาดอะไรดีๆไป ส่วนใหญ่ที่ไม่ชอบคือชอบดูอย่างอื่นอยู่แล้วละมาดูญี่ปุ่นแบบผิวๆ ถ้าบอกว่าเล่นใหญ่คงดูแค่แนววัยรุ่นมา
สำหรับเราละครญี่ปุ่นอันดับ1ในใจ เค้าสร้างเนื้อหาในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่มีพระเอกนางเอกหน้าตาดีก็ได้ แต่มีแนวคิดคำพูดที่โดนใจเรามากเช่น เราเคยทำงานธนาคาร เราดูฮันซาว่า นาโอกิ คำพูดมันแบบจึ๊กกเข้ามา มันแบบบ เฮ้ยยยย ใช่ อิธนาคารมันเป็นแบบนี้เลย ละเรื่องล่าสุดที่เราดู จำชื่อไม่ได้ ที่โช อาราชิเล่นเป็นครูใหญ่ มีเด็กถามว่าเรียนแคลคูลัส บลาๆๆๆ ไปทำไม ไม่ได้ใช้อะไร ใช้แค่สอบ แต่มันโดนนนเพราะเราก็พูดแบบนี้แหละตอนประถม แต่เรื่องนี้มันหาคำตอบมาให้เราได้ แม้แต่เรื่องน้ำตาหนึ่งลิตร แม่นางเอกพูดถึงบัตรคนพิการ เราคิดมันจะมีประเทศไหนที่คิดประเด็นแล้วพูดอะไรเรียลๆแบบนี้ได้อีก ทุกคำพูดทุกตัวละคร เขียนมาลึกซึ้งอย่างดี เราชอบมาก ดีใจที่ลงNetflix
ยกมือ! จากคนที่ทำงาน production งานถ่ายทำ production ฝั่งญี่ปุ่นเชยมากจริงๆ ต่างกับเกาหลีที่ล่ำกว่ามาก เป็นสไตล์ที่ฝรั่งเองยังต้องมาศึกษา หลังๆ ซีรีย์ไทยบางเรื่องยังถ่ายทำดีกว่าญี่ปุ่นอีก
โดยส่วนตัวเป็นสายฝ่อ ดังนั้นแน่นอนว่าซีรี่ย์ที่ชอบสุดคือซีรี่ย์ฝรั่ง แต่ซีรี่ย์ที่ชอบลองลงมาคือญี่ปุ่น เหตุผลเพราะมันเข้มข้น อะไรที่เกี่ยวกับอาชีพเขาจะทำออกมาละเอียดมากจนเราอินกับอาชีพนั้นๆ ของเขา และเรื่องไหนที่มันจริงมันเรียล คือมันเรียลจริง แต่ก็ต้องฝั่นฝ่ากับการแสดงของเขาหน่อย ดูตอนแรกจะรู้สึกแปลกๆ กับการโอเวอร์แอคติ้ง แต่ด้วยทุกคนเป็นแบบนั้นหมดพอดูไปนานๆ ก็จะชินตากับการแสดงเขาจนดูเป็นเรื่องปกติไป และความจริงการแสดงโอเวอร์มันก็ไม่ใช่แต่ญี่ปุ่นหรอก เกาหลีเองก็เป็น แถมบทลิเกเขาเยอะกว่าญี่ปุ่นด้วย ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้ผมชอบเกาหลีน้อยกว่า เพราะเกาหลีมันเหมือนจะพยายามเป็นซีรี่ย์ฝรั่ง แต่บทยังอ่อนกว่ามาก และมีความไม่สมเหตุสมผลเยอะมาก และหลายครั้งเนื้อเรื่องที่ดูจะจริงจังก็จะมาสะดุดกับบทลิเก เช่น ชอบมีบทที่ตัวละครรวยพาตัวเอกไปซื้อเสื้อแบร์ดแนม(สงสัยเป็นเกาหลีดรีม) หรือมีคาแร็กเตอร์ที่เหมือนตัวการ์ตูนทำพฤติกรรมที่มันไม่เข้ากับเรื่องโผล่มา ที่สำคัญเวลามีใครแนะนำซีรี่ย์เกาให้ผม แล้วชมมันว่าสนุกงั้นงี้ เราก็แบกความหวังไปดูเต็มที่ แล้วมักจะไม่ได้ดั่งหวั่งเสมอ แทบทุกเรื่อง ซึ่งมันไม่ใช่ไม่สนุก มันก็สนุกระดับหนึ่ง แต่มันไม่เท่ากับที่คนอื่นโฆษณา และมีความขัดหูขัดตาในบทและการแสดงของนักแสดงเยอะมาก เยอะกว่าญี่ปึ่นอีก ถ้าเทียบกับซีรี่ย์ไทยที่ดังๆ ผมยังเอียงไปชอบซีรี่ย์ไทยมากกว่าเกาหลีด้วยซ้ำ เพราะซีรี่ย์บ้านเรา ยิ่งสมัยหลังๆ บทเข้มข้น ซับซ้อน มีความกล้า และแน่นอนว่าการแสดงมันเรียลกว่าเกาหลีมาก เพราะซีรี่ย์ไทยมันมีความเป็นหนังสูง นักแสดง ถาพ มันจะออกมาดูจริง ต่างกับละครไทย วิธีการแสดงระหว่างหนังกับละครในบ้านเราจะต่างกัน ซีรี่ย์ไทยจะออกมาแบบหนัง และมีความเป็นซีรี่ย์ฝรั่งกว่าของเกาหลี เกาหลีตอนนี้แค่โชคดีเพราะกำลังเป็นกระแส ดูแล้วย่อยง่ายกว่า และติดตามง่าย เลยได้แสงไปเต็มๆ
ส่วนญี่ปุ่นที่ผมไม่ชอบเลยคือ ตอนจบที่มักไม่สุด โดยเฉพาะแนวรัก คือเข้าใจว่าต้องจบปลายเปิด แต่บางครั้งพอมันจะฟินแล้ว ก็จบเฉย ทำค้าง แล้วมันหงุดหงิดหัวใจ เอ็งช่วยมีอีกสักตอนให้ตัวละครมันได้งุงิกันหน่อยได้ไหม แล้วที่สำคัญต้องกล้าออกจากเซฟโซนตัวเอง ใจกว้างหน่อย การตลาดแบบเก่ามันเชยไปแล้ว อยากกลับมาเป็นขาใหญ่ในสายนี้ต้องกล้าเสี่ยง อย่าลืมประเทศคุณไม่ได้มีแต่อนิเมะ
เมื่อก่อนชอบญี่ปุ่นมาก samurai high school hero doctor heli iryu ฯลฯเกาหลีอะไรไม่รู้จัก จนกระทั่งมาหลังปี
2019 เนี่ยถึงได้มาดูเกาหลีแบบจริงจัง ธีมหนักๆ
เลยเปลี่ยนความคิดไปเลย ในเอเชีย หรือกระทั่งตะวันตกเอง ก็หาอรรถรสแบบนี้ยาก เหมือนเค้าจะพัฒนา way ของตัวเองมาอีกระดับแล้ว
เช่นเรื่อง mouse เนี่ย ผมยกให้ดีสุด top5
ในซีรีส์แนว criminal เลย
ซีรีย์ญี่ปุ่น มันดูอึนๆเหมือนกั๊กๆความรู้สึกอะค่ะ เวลาจะแสดงออกมาเหมือนอารมณ์มันไม่สุด แล้วก็ดูซีเรียสๆกันทั้งเรื่อง ตามสไตล์คนญี่ปุ่นมั้งคะ
เห็นด้วยกับพี่เอก ทั้งหมดทั้งมวลมันต้องขึ้นกับกับที่ญี่ปุ่นว่าเขาอยากให้ตัวเองแมสไปมากกว่านี้หรือเปล่า ขึ้นอยุ่กับแรงสนับสนุนและการพรีเซ้นท์ตัวเองอ่ะนะ ปล.ส่วนตัวเราไม่ชอบความแมส เลยดูแต่ซีรี่ย์ญี่ปุ่นตลอด alice in borderlandคือที่สุด
นี่พึ่งมาโดนฝั่งญี่ปุ่นตกค่ะ ปกติอยู่แต่เกา สิ่งที่ต่างกันคือ ของญี่ปุ่นตามยากจริงๆค่ะ ด้วยความที่ไม่แมสก็เลยไม่มีบ้านเบสของศิลปินที่คอยอัพข่าว เวลาจะตามก็ต้องงมๆเอา ดูแต่รูปไปค่ะ กว่าจะได้ดูซีรีย์ที่นักแสดงคนที่ชอบแสดงก็ต้องรอหลายเดือนเลย ไม่มีแอพไหนเอามาลง ก็ต้องรอให้บ้านแฟนเพจแปลให้😭 ส่วนเรื่องหน้าตานักแสดง เรื่องแอคติ้งเราว่ามันแล้วแต่เทส/อคติแต่ละคนเลยค่ะ ถ้าได้มาดูซีรีย์ญี่ปุ่นจริงๆแล้วจะเปลี่ยนความคิดเลย นักแสดงญี่ปุ่นหพอน้าตาละมุนกันทุกคน แบบมีสเน่ห์จริงๆ🥺 ถ้าใครไม่เคยดูต้องมาลองดูก่อนค่ะ 💖💖
ปล.ทางนี้โดนคุณ โยซุเกะ ซุกิโนะตกค่ะ ใครมีช่องทางการติดตาม หรือคอมมูของคุณเค้าก็ส่งต่อมาได้นะคะ ทางนี้ไม่รู้จะตามที่ไหนเลย เดี๋ยวจะลงแดงเอาซักวันค่ะ😭😭🤧
ดีใจที่ตกแฟนเกามาได้ครับ อยากรู้เลยว่าเรื่องอะไรที่ตกแฟนสายเกามาได้
ขอตอบอีกมุมหนึ่งนะครับ ในฐานะที่ผมเองช่วยเชียร์ซีรี่ญี่ปุ่นมาตลอด อยากให้ดังๆเหมือนกันเพราะผมชอบงักกี้มาก ดูทุกเรื่องที่เธอเล่น แต่เอาตรงๆผมว่าพระเอกไม่ค่อยหล่อเลยครับ มันไม่ดึงดูด นางเอกญี่ปุ่นผมว่าไม่มีใครเถียงสวยน่ารักกันทั้งนั้น แต่พระเอกผมว่ามีหล่อสมกับนางเอกที่เล่นด้วยไม่กี่คนเอง แล้วส่วนใหญ่พระเอกญี่ปุ่นไม่พิมนิยมเอเชียเท่าไรไม่เหมือนนางเอกญี่ปุ่น พระเอกทั้งไทย จีน เกาหลียุคปัจจุบันจะหล่อ สูง สมาร์ท หุ่นดี บุคคลิกหล่อไม่แพ้หน้าตา แต่พระเอกญี่ปุนมีแบบนี้จริงๆกี่คน ส่วนใหญ่จะตัวเล็กๆ บางๆ ไม่ค่อยสมาร์ท ทำให้ไม่ถูดจริตคนโดยเฉพาะคนไทยเท่าไร อีกอย่างผมว่ามันตามยากมากๆ คนตามวงการญี่ปุ่นจะรู้กันดีว่าญี่ปุ่นเป็นเมมืองลับแลขนาดไหน ดาราก็ไม่ค่อยเล่นโซเชียล เหนื่อยเลยที่จะตาม
ไม่พูดถึงหน้าตาพระเอก แต่รู้สึกว่าพระเอกญปไม่มีความเป็นชายเลย ตัวเล็ก แล้วก็ผอมอีก
เริ่มดูซีรีส์ญี่ปุ่นเพราะเพจนี้เลยค่ะ ขอบคุณสำหรับซับมากๆเลยนะคะ ตอนนี้ก็เริ่มลามไปตามไอดอลญี่ปุ่นแล้วค่ะ55555555
ฝั่งญี่ปุ่นพล็อตแปลกๆใหม่ๆเยอะมาก บางอาชีพที่ไม่คิดว่าจะมีก็มาเจอในซีรีส์ บางเรื่องก็ได้รู้แบบเจาะลึกถึงอาชีพนั้นๆด้วยค่ะ ส่วนตัวถูกกับซีรีส์ญี่ปุ่นมากกว่าฝั่งจีนกับเกาหลีมันเหมือนเป็นจุดกึ่งกลางในเรื่องจำนวนตอนกับระยะเวลาในแต่ละตอน ไม่มากไปไม่น้อยไปกำลังพอดีค่ะ
เกิดยุคเดียวกับคุณเอก สมัยก่อน ชอบซีรี่ เพลง อนิเมะ ญี่ปุ่นมาก มันเต็มไปด้วยจินตนาการ อิสระทางความคิด เราไม่ติดกับแอคติงแบบคนญี่ปุ่นเลย เพราะความจริงใจมันส่งมาถึงคนดู อย่างโนดาเมะเราสนุกและดูจริงใจดี
ซี่รีคุณยกตัวอย่างมา ทั้งนายกสลับร่างกับลูก เรายังถือว่าเป็นยุคเก่าที่ยังดูได้
แต่ยุคนี้เปิดได้แป๊บเดียวก็ปิดแล้วค่ะ มันเหงา ไม่ยอมรับในตัวเอง หนีไปต่างโลกตลอดเวลา มันกลายเป็นพยายามแปลกเพื่อให้แปลก ไม่ใช่อิสระทางความคิดแบบเดิม และบทหนังมันเป็นสั่งสอนคนดูบ่อยมากๆ เช่น alice ภาค 2 หัวจะปวดมาก เลิกพูดเลิกสอนซักที เทียบกับสมัยก่อนที่จะไม่ได้สอนตรงๆให้พื้นที่ได้คิดได้ตีความเช่น อนิเมะ spirited aways ส่วน liar game , Legal High , Naoki Hanzawa มันมีความสีเทาสูงมากแล้วให้เราได้คิดตกผลึกเอง
ด้วยบทหนังบทพูดสมัยนี้มันเลยทำให้ความจริงใจหายไป ความโอเวอร์แอคอิ้งเลยชัดเจนขึ้นมามากกกกก จนต้องปิดหนีดีกว่า
ซี่รีบ์ญี่ปุ่น สิ่งที่ดูน่าเบื่อคือ
1. ถึงแม่จะดูหลากหลายแนว การดำเนินการแสดงท่าทางจะเป็นเหมือนกันทุกเรื่อง อาจจะเป็นเพราะวัฒนธรรม เช่น นางเอกจะทำอะไร จะค้องมีการแสดงแบบมีการคิดมากอย่างโน้นอย่างนี้ กลัวจะผิดโน้นผิดนี่ หรือพระเอกจะเสียใจ มันจะมีแพทเทิร์นที่เรานึกออกทันทีว่าจะต้องทำท่าอย่างไร เหมือนกันทุกเรื่อง หรือไม่ก้อแสดงออกแบบการ์ตูนเวอร์ๆออกไปซึ่งก้อเป็นแพทเทิร์นเดิมๆเหมือนกัน แล้วพอไปเล่นบทอื่นๆยิ่งทำให้ความรู้สึกว่าแสดงออกแบบเดิมๆอีกแล้ว
2. แฟชั่นชายแบบญี่ปุ่น มันสุดขอบไปหน่อย เช่นแบบเท่ๆคูลๆ จะมีเครื่องประดับเล็กน้อยๆ ใส่เต็มไปหมด เหมือนผู้ชายที่ใส่เครื่องประดับแข่งผู์หญิง หรือแนวแก็งมอไซด๋ ก้อไม่พ้นเสื้อหนังสไตล์เอลวิส จะต้องมีโมฮอกตลอด คงจะมาจากแนวคิดที่ยุคนึงซามูไรผูชายใส่กิโมโนสีฉุดฉาด
ทั้งซีรีย์ ทั้งเพลงอะครับ ชอบแค่ไหนบริษัทเจ้าของไม่เอามาขายก็แค่นั้น จะหาซื้อมาแบบถูกลิขสิทธิ์ในต่างประเทศที่ไม่ใช้ญี่ปุ่นนี้ยากมาก แถมการตลาดนี้ก็แทบไม่ชนใจชาวไกจินนอกเกาะเลย
อาจจะยาวหน่อย แต่พี่สาว น้องสาว พี่เอกแย้งได้เลยนะคะ
คนไทยส่วนมากจะมอง production ซึ่งเรื่องเกาหลีที่เข้าไทยจะ production ใหญ่ มุมกล้อง มุมกว้างเยอะ ญี่ปุ่นก็ใหญ่แต่เรื่องที่เข้าไทยทำให้รู้สึกว่าเล็ก เพราะเป็นเรื่องรักง่าย ๆ
การตั้งชื่อให้จำง่าย แต่ก่อนจำชื่อง่ายมาก ซึ่งชื่อไทยทีมงาน itv ตั้งชื่อเก่งกว่า ThaiPBS ทำให้ติดตลาดง่าย ตั้งชื่อเก่งสุดยกให้ช่อง 7 แมสจำง่ายทั้งญี่ปุ่นและเกาหลี
รสนิยมคนไทยอย่างไรก็ต้องมีเส้นรัก น่าจะมาจากความเคยชินคุ้นเคยจากการเสพย์งาน นิยายที่เข้าไทยในยุคแรกคืองานของ Marry Corelli เรียกบ้าน ๆ ว่าเป็นแนวรักทั่วไป ไทยไม่ได้รับงานคลาสสิคระดับโลกที่มีความซับซ้อนปรัชญาเยอะแยะคิดมากมาแต่แรก ทั้งนิยายหรือละครไทยรวมถึงเรื่องที่คนไทยคุ้นจึงต้องมีพระนางเด่นชัดเพื่อจะดูว่าตามใคร งานยุคทาคูยะจึงตอบโจทย์มาก แม้จะมีแนวอื่นที่ล้ำเข้ามาก็ไม่แมสเท่า แม้แต่เกาหลีเองถ้าพระนางไม่ชัดไม่เด่น ไม่เน้นรัก ถึงแม้บทจะดีมากก็ไม่แมสเช่นกัน และคนไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบจบแบบปลายเปิด ให้คนคิดเองจะไม่ชอบ เป็นทุกชาติแม้แต่นิยายจีนที่ฮิตในไทยตอนนี้ด้วย สนพ.จะตรวจสอบว่าจบอย่างไร บางครั้งจบปลายเปิดซึ่งจีนมองว่าดีแล้ว แต่ไทยที่ต้องเอาใจนักอ่านมองว่าไม่ดี แต่ซื้อมาแปลแล้วก็ต้องเลยตามเลย
บทพระนาง คนไทยส่วนใหญ่ที่ปั่นให้แมสจะชอบบทพระนางมากกว่าเนื้อเรื่องที่สนุกเข้มข้น แม้แต่เกาหลีจะเลื่อนหาดูแต่ฉากพระนาง แต่คนที่ชอบเนื้อเรื่องเข้มข้นจะเข้าใจในส่วนของญี่ปุ่นหรือชาติอื่นแต่ไม่ใช่สายปั่น
รสนิยมคนไทยชอบอะไรที่ย่อยง่าย ไม่ชอบอะไรที่คิดมากตรงกันข้ามกับญี่ปุ่นที่เรื่องแนวนี้จะเรตติ้งดีมาก คนไทยจะชอบดูไปด่าไปได้รู้สึกฉลาดกว่าตัวละคร ถ้าต้องคิดตามตัวละครทีหลังจะไม่ค่อยชอบ ปวดหัวเกินไป ชีวิตคนไทยมีความลำบากอยู่แล้ว ไม่ค่อยชอบชีวิตปกติมีความลำบากต้องพยายามแบบญี่ปุ่น แต่ถ้าเป็นเพราะชาติกำเนิด ชะตากลั่นแกล้งจะยอมรับและเอาใจช่วยอย่างโอชิน และชอบความรวยของตัวละครเพื่อจินตนาการชดเชยชีวิต เรื่องเกาหลีที่พระนางทำงานธรรมดาทั่วไปถึงจะเอาเข้ามา ทำให้เข้าถึงง่ายแต่ก็ไม่แมส นี่พูดเฉพาะความแมสเป็นองค์ประกอบหลัก ๆ เลยนะ ยังไม่ได้ถึงองค์ประกอบเสริม
ในยุค F4ไต้หวันเคยถูกจัดระเบียบตัดยับมาก่อนเพราะสังคมไม่คุ้นชิน เกาหลีเอง itv ก็นำละครแม่บ้านเข้ามาก่อนจะเป็นละคร prime time แต่นำเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนคนไทยค่อย ๆ รู้จักและคุ้นชินไปเอง แดจังกึมช่อง 3 อาจจะดังมาก autumn in my heart itv อาจจะเป็นตำนาน แต่ช่องที่ทำให้แมสสุด ๆ อย่างต่อเนื่อง หลายเรื่องต้องยอมให้ช่อง 7 ในรสนิยมของคนคัดเลือกและตั้งชื่อติดหู ช่อง 7 มีรสนิยมในการคัดนิยายมาทำละคร และคัดซีรีส์ให้ถูกใจรสนิยมคนไทยมาก่อน ซีรีส์ญี่ปุ่นของช่อง 7 ก็ดังมากต่อเนื่องแล้วยังมีรายการ Jzone ช่วยมาหนุนกันอีก
จริง ๆ โดยรวมคิดว่าเป็นการเข้าถึง หาดูยาก และที่นำเข้ามาไม่หลากหลายจนเกิดภาพจำเช่นนั้น ถ้ามีเข้ามามาก ๆ และต่อเนื่องคนจะคุ้นชินไปเองและจะแมสตามไปเอง
การแสดงยุคใหม่ของนักแสดงญี่ปุ่นถูกกำกับออกมาคล้ายเป็นตัวการ์ตูนมากเกินไป และเมื่อแสดงความรู้สึกก็เข้าใจยาก บางทีก็ช้าและนานจนทำให้น่าเบื่อเสมือนไม่ทันยุคสมัยของสากลโลก
ซี่รีย์ญี่ปุ่น หรืออนิเมะ ส่วนตัว ชอบความบรรยากาศที่เค้าสื่อ ไหนจะชนบท หรือ คนเมือง วัฒนธรรม มันดูอิ่มใจ
จริงค่ะ ถ้าซีรี่ส์ญี่ปุ่นยอมทำการตลาด ยอมให้ดูได้ง่ายเหมือนอนิเมะ ยังไงก็แมส คนญี่ปุ่นก็เห็นอยู่แล้วว่าทั้งมังงะและอนิเมะตัวเองแมส ถ้าทำให้ซีรี่ส์มันหาดูง่าย หรือมีชื่อให้จำง่ายๆ เหมือนมังงะอนิเมะ แมสง่ายขึ้นแน่นอน
ตอนนี้มีช่อง muse thailand ใน youtube นะ
@@popunjaja3343 ดูอยู่ค่า หมายถึงซี่รี่ส์มันหาดูยากพอสมควรน่ะค่ะ
คุ้นๆ ว่าเกาหลี เค้ามีกระทรวงที่ทำงานด้านการเผยแพร่วัฒนธรรมโดยเฉพาะเลย คือเกาหลีลุยมาตั้งแต่ สมัยโบอา, เรน, เซเว่น, ชินฮวา, ดงบัง นู่นเลย มันเป็นการร่วมมือกันในระดับรัฐบาล มันเลยปังได้ขนาดนี้
ทีนี้ ผมเป็นคนนึงที่ดูซีรีส์หลากชาติมาก ทั้งจีน,ญี่ปุ่น,เกาหลี เอาส่วนตัว ผมว่าซีรีส์เกาหลีมันทัชใจได้ง่ายกว่าของญี่ปุ่น คือของญี่ปุ่นผมดูได้ เพราะอ่านการ์ตูนมา แต่พอลองให้เพื่อนดู ยกตัวอย่าง อลิสก็ได้ มันดูได้แปบๆ มันก็เปิดเกมส์เล่นเฉย มันบอกว่า นี่อะไรน่ะ การ์ตูนเหรอ ผมให้มันลองดูเพราะมันชอบสควิชเกมส์ ผมเลยรู้สึกว่า ถ้าบางคนที้ไม่ชินลักษณะการแสดงออกของคยญี่ปุ่น เค้าจะรู้สึกแปลกๆ เวลาดู ส่วนเรื่องหน้าตา ผู้หญิงคงไม่ต้องพูดถึง 55 แต่ผู้ชายเพื่อนผมชอบนะ บอกหล่อดี แต่เกาหลีหุ่นจะดูแมนกว่า ประมาณนี้
พระเอกซีรี่ส์ญี่ปุ่นนี่ถ้าเราเปิดใจยอมรับในความไม่หล่อเพอร์เฟคของเค้าได้นะ จากนั้นถ้าไปเจอเค้าเวอร์ชั่นถ่ายแบบเท่ๆในนิตยสารทีหลัง หืมตายๆๆๆ เพราะในซีรี่ส์เนี่ยบางทีมันดาวน์ความหล่อลงมา ต้องแต่งให้โทรม หน้ามันๆ เพื่อให้เข้ากับบทที่แสดง
ขออวดได้มั้ย ตอนม.2 ได้ไปดู Johnny's Jr ที่งานดนตรีที่พัทยาด้วย ทักกี้ สึบาสะ คัตตุน ฯลฯ อยู่หน้าเวทีเลย
ซีรี่ย์ญี่ปุ่นเราชอบเนื้อเรื่อง วิธีเล่าเรื่อง การแสดง ตอนนี้ดูแค่ที่มีในnetflix กับช่องไทยพีบีเอสค่ะ ซีรี่ย์ญี่ปุ่นมีเสน่ห์มาก ๆ ไม่อยากให้ปรับเปลี่ยนอะไรเลย แต่อยากให้หาดูได้ง่ายกว่านี้หน่อย😅
ส่วนซีรี่ย์เกาหลี ช่วงเริ่มดู(ยี่สิบกว่าปีก่อนโน้นค่ะ😂) พล็อตคล้ายละครไทย ให้น้ำหนักกับเลิฟไลน์มากจนบางครั้งก็เฝือค่ะ แต่ยุคหลังมีเนื้อเรื่องที่ซับซ้อนและหลากหลาย หาดูง่าย จนต้องเลือกดู และเคยชินในที่สุด ส่วนตัวชอบทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีค่ะ ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกรึเปล่าว่าเสน่ห์ของซีรี่ย์ญี่ปุ่นคือความเป็นญี่ปุ่นและดูเหมือนจะต้องการคงตัวตนไว้ ส่วนซีรี่ย์เกาหลีสร้างให้เข้าถึงง่ายทั้งเนื้อเรื่องและช่องทางรับชม จนทำให้เราเคยชิน และดูเหมือนเค้าจะต้องการส่งออกค่ะ :)
ชอบ Series ญี่ปุ่นมากกก แต่ อยากว่าแหละ ตามยากกกกสุดๆ ฮือ ทุกวันนี้ก็ยังชอบอยู่
เรื่องแรกที่เราดูคือ GOKUSEN ที่ฉายช่อง 7 ตอนนั้นอยู่ม.1 แล้วคือเหมือนเป็นความประทับใจ แล้วก็ดูซีรีย์ญี่ปุ่มาเรื่อยๆ ชอบพอตของหนังที่ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังรักโรแมนติกอย่างเดียว
ปล.เราก็ชอบอลิซมากกว่า หนังแนวๆเอาชีวิตรอดนี่ญี่ปุ่นทำมาหลายเรื่องแล้วเสียดายที่ไม่แมสในประเทศไทย
สมัยยุค 70-80 ญี่ปุ่นก็เคยบูมครับ ของพูดในยุค80 ละครสมัยก่อนรัชฟิล์มทีวีจะนำมาฉายในช่อง 5 เคยได้ดูงานขาวแดง ที่ช่อง9 เอามาฉายย้อนหลัง ส่วนเพลงก็มี FM88 ที่เริ่มนำเข้ามา ก่อนถึงยุค Tokyocalling ซึ่งส่งผลให้ ยุคนั้นมีนักร้อง และวงญี่ปุ่น เข้ามาเล่นคอนเสิร์ตในไทย ซึ่งส่วนมากจะเป็นศิลปินค่าย Sony
ส่วนการเสพสื่อในสมัยนั้น ถ้านิตยสารก็จะมี รีวิวทีวี และทีวีรีวิว เพี้ยน(นิตยสารแนวล้อเลียนที่มี คอลัมน์เกี่ยวกับบันเทิงญี่ปุ่น) ส่วนรายการบันเทิง นอกจากสื่่อหลักที่นานๆจะเอาซีรีย์ หรือรายการทีวีมาฉายแล้ว ช่องทางที่จะได้ชมก็ ต้องไปหาเช่า Video ตามร้านให้เช่าของคนญี่ปุ่น หรือ ไปซื้อ Video เขาอัดขายจากร้านลูกแมว (ชั้น 3 มาบุญครอง)
ส่วนเพลง พวกเทป ซีดี ก็หาซื้อจากร้าน Solar House , แมงป่อง, ชั้นใต้ดินอินทรา หรือ ไทไดมารุ
ผมว่าที่ไม่แมสในไทยคิดว่า ความนิยมสมัยนี้ ตลาดคนชอบซีรีย์ญี่ปุ่นน้อย จนทำให้สื่อหลักๆไม่ซื้อมานำเสนอ เพราะมันไม่คุ้มทุน เอาแค่ใน Netflix ยังมีให้ดูน้อยกว่าเกาหลีเลย
*เคราะห์กรรมของคนชอบญี่ปุ่น สมัยก่อนนี่ต้องมีความพยายามอย่างมากในการหาเสพ ไม่เหมือนสมัยนี้ที่หาเสพได้ง่าย มีเพจทำซัพดีๆทำฟรีก็เยอะแยะ อย่าง Aiolos
ญี่ปุ่นเหมือนรักแรกนะคะ คือเคยรักเค้ามานานมากแต่เค้าไม่เคยสนใจเราเลยจนเราเริ่มชินชา ^^" กลับกันกับเกาหลีเหมือนรักครั้งล่าสุดที่เข้าใจเรามากกว่า ไม่แปลกเลยที่ปัจจุบันจะมีใจให้ทางนี้มากกว่าไปแล้วเค้าขอโทดนะ ^^" นี่พูดจากใจเด็กยุค 80 ที่ดูมาหมดแล้วทั้งนั้นทั้งซีรีส์ญี่ปุ่นยุคบุกเบิก หนังจีนชุดทีวีบี ถ้าญี่ปุ่นอยากโกอินเตอร์จริงก็ต้องเปิดใจยอมรับข้อเสียก่อน ถ้าคิดว่าซีรีส์เราหลากหลายแล้ว ก็ไปดูของเกาหลีนะคะหลากหลายกว่ามากๆ มุมกล้องดีกว่าโปรดักชั่นส่วนมากดีกว่า บทหลายเรื่องดีมากหาดูง่ายกว่าก็ไม่แปลกที่จะแมสกว่า เอาแค่ดาราญี่ปุ่นเองหลายคนชอบดูซีรีส์เกาหลีนี่ก็บอกอะไรได้หลายๆอย่างแล้วนะ ถ้าคิดว่าเรามีดีอยู่แล้วแต่คนอื่นยังไม่เห็นก็น่าจะยากที่จะไปต่อได้ค่ะ แต่จริงๆญี่ปุ่นเป็นเจ้าของพล๊อตดีๆหลายเรื่องเลยอย่างพวกซีรีส์หมอ code blue ไรงี้สนุกมากจำได้ แต่ตอนนั้นไม่เห็นสนใจจะส่งออกกันเลยโดนเกาหลีหยิบยืมโน่นนิดนี่หน่อยเอามาทำเป็นของตัวเอง จนในที่สุดกลับกันญี่ปุ่นต้องมีซื้อซีรีส์หมอของเกาหลี (good doctor?)ไปทำไปอี้ก ก็เจ็บใจแทนเหมือนกันนะคะ แต่ยังไงก็เป็น กลจ ให้ค่ะ ช่วยเอาซีรีส์ปัจจุบันเข้า netflix เยอะๆหน่อยจะได้หาดูง่ายหน่อย
จากที่สังเกต คนไทยชอบรสจัดจ้าน ละครต้องฟาดๆเฟียสๆ แรงมาแรงกลับ สะใจ รักก็ต้องฟินมากๆ หักหลังแก้แค้นก็ต้องเชือดเฉือน ต้องดราม่าเยอะๆ แบบนี้คนไทยชอบ ซึ่งวัฒนธรรมละครจีน เกาหลี เข้ากับจริตคนไทยนิยม แต่ญี่ปุ่นวิธีคิด วัฒนธรรมจะไม่ค่อยคล้ายคนไทย คิดหลายชั้นซับซ้อน เก็บงำความรู้สึก ปากอย่างใจอย่าง และไม่ค่อยเน้นเส้นเรื่องความรักพระนางเท่าไหร่นัก ไม่เป็นไปตามสูตรลิเก คนชั่วต้องรับกรรม พระนางต้องลงเอยกัน คนที่ไม่ถูกจริตก็จะไม่สนุก แต่ถ้าคนชอบคือชอบแบบเหนียวแน่นไปเลย หลายคอมเมนท์ที่มีปัญหากับจุดนั้นจุดนี้แต่สำหรับคนที่เค้าชอบก็มองว่ามันไม่เห็นเป็นปัญหาเลย พยายามยกเหตุผลมากมาย มันก็แค่ลางเนื้อชอบลางยา ส่วนตัวชอบละครญี่ปุ่นมากๆ ได้แนวคิดมุมมองปรัชญาเอามาใช้ในชีวิตได้เยอะเลย
เอาจริงๆก่อนดูละครญี่ปุ่น เราดูหนังจีนมาก่อนนะ เปาบุ้นจิ้นงี้ หลายๆเรื่อง แต่เด็กเกินจำชื่อเรื่องไม่ได้เลย ต่อมาเราก็ดูละครญี่ปุ่น เรื่องแรกที่ดูคือสลับร่างสร้างรัก พระเอกนางเอกสลับร่างกัน สนุกมากกกกก เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่เลยแหละ เรื่องต่อมาคือ ปมปริศนาที่นางาเซะ โทโมจะเล่น หล่อสุดๆ ยกให้เป็นสามีเลยค่ะ ตอนนั้นอยู่ป.5 สาเหตุที่ชอบละครญี่ปุ่นมีเยอะแยะมากมายพูไม่หมด แต่สรุปรวมๆคือ ชอบเพราะความเป็นญี่ปุ่น ชอบทุกอย่างอ่ะ ข่าวคราวดาราญี่ปุ่นตามจาก เจ-สปาย
พอไอทีวีเอาหนังเกาหลีมา เรื่อง Autumn In My Heart เราก็ติดเรื่องนี้มากเลย แต่เรื่องต่อๆมาไม่ดูแล้ว รู้สึกว่ามันไม่ใช่สไตล์เรา 5555
ตอนนี้เรากลับไปดูหนังจีนมาได้สักพักละ
เชื่อไหม จนทุกวันนี้เราก็ยังมีสามีคนเดียวนะ พระเอกคนอื่นๆต่อให้หล่อแค่ไหนก็เป็นได้แค่พระเอก 55555
เอ้อ มีคนเคยบอกว่า ตอนนี้คนที่ยังตามดูละครหรือดาราศิลปินญี่ปุ่นอยู่ คือคนที่ชอบจริงๆ เป็นการชอบที่จริงจังมาก
ดูซีรี่ส์ญี่ปุ่นจากอาชีพและพล็อตเลย ชอบตรงวิธีการเล่าเรื่องอาชีพต่างๆให้มีความสำคัญ ทำให้คนทำอาชีพต่างๆหัวใจพองโตได้เลย หรือรักในอาชีพ ภูมิใจในสิ่งที่ทำขึ้นมาทันที เก่งมากจริงๆ ตรงจุดนี้ และเวลาเขาเล่าเรื่องอาชีพเราจะเห็นการทำอาชีพนั้นจริงๆ การเล่าเรื่องมีความละมุนละไม ละเมียดต่างๆ และอย่างเอกบอกเลยชอบมีคำคมหรือมุมมองอะไรให้ได้คิดสอดแทรกอยู่ตลอด
หลายๆซีรี่ส์ในต่างประเทศไม่ว่ายุโรปหรือเอเชีย น้อยมากๆที่จะลงลึกในเนื้ออาชีพ ส่วนใหญ่เลยมักจะเล่าเรื่องในชีวิตของตัวเอกนอกเวลาการทำงานหรือตรงความสัมพันธ์หรือตรงความรักเสียมากกว่า
เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ชอบพล็อตหลากหลายมากๆค่ะ แบบว่า แนวสืบสวน แนวทำอาหาร แนวโรงเรียนตีกัน แต่พอโตมา (แก่แล้ว) เริ่มมีเรื่องเครียดเยอะ เลยดูเฉพาะแนวความรัก น่ารักมุมิ เพราะมันทัชใจ และอารมณ์เบาๆดีค่ะ
เราดู ญป จนชินกับความสั้นจบไว พอไปดู series ตะวันตก แล้วเหนื่อยค่ะ เพราะมันยาว ยาวไม่พอมีหลาย season อีก
หลังๆ 8 ตอนจบ พวก stanger thing ไรงี้ แถมมาอาทิตย์ละตอน
เราชอบซีรีย์ญี่ปุ่นมากๆ หนังก็ชอบแต่ตามยากมาก ฮื่อออออ ร้องไห้น้ำตาไหล
หลักๆ ผมว่าด้วยความที่ญี่ปุ่นสร้างจักรวารของตัวเอง ทั้งเข้าถึงยาก บางเรื่องเข้าใจยาก ต้องมีความรู้เกี่ยวกับญี่ปุ่นพอสมควร ถึงจะอิน หรือ เข้าใจ ต่างจากทางเกาหลี ที่ทำค่อนข้าง universal มากกว่า เล่าเรื่องในแบบที่คุ้นเคยกว่า
ส่วนตัวชอบเพราะชินกับพล๊อตเรื่อง หรือ การเล่าเรื่องครับ เพราะโตมากับ manga และ anime เลยไม่มีปัญหา บวกกับเคยไปเที่ยวหลายครั้ง แล้วประทับใจมาก เลยทำให้ต้องขวนขวายหาซี่รีย์มาดู (ไปเกาหลีหลายครั้งเหมือนกัน แต่ค่อนข้างไม่ประทับใจ)
แต่หลายๆ เรื่องไม่ค่อยชอบความปากหนักของพระเอกครับ กว่าจะพูดจะจากัน พระรอง เพื่อนพระเอก คาบนางเอกไปกินก่อนตลอด ดูแล้วหงุดหงิด
ยกมือค่าาา ยุค itv เรื่องแรกที่ดู คือ dragon sakura ,โนบูตะ
จากนั้นก็ผ่านยุคโหลดจากอินเตอร์เนตบ้านไร่ popcorn ,livejournal
จนมาถึงปัจจุบัน แฟนเพจเฟสบุค
ทีมอลิสเหมือนกันเลยค่ะ ชอบทั้งเกม โปรดักชั่น ความหักมุม มากกว่าเกมปลาหมึกอีกค่ะ
ใช่เลยย ตอนอยู่ที่ไทยหาดูยากมากจริงๆ ขนาดหาแบบไม่มีซับยังยากเลย :(
ส่วนตัวแก้ด้วยการย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นแทน ตอนนี้อยากดูอันไหนก็ดูได้ทันที แต่แอบเปลืองค่า streaming service มาก (ต้องสมัครหลายอัน)
คนญี่ปุ่นต้องรู้จักรีแลกซ์เหมือนยูทูปคนญี่ปุ่นที่อยู่เมืองไทย..คือ จะเป็นคนที่ผ่อนคลาย คนและเพื่อนสามารถเข้าถึงได้ พยายามมีโลกส่วนตัวให้น้อยลง สื่อสารกับชาวโลกให้มากขึ้น และมีความมั่นใจมากขึ้น ละลายพฤติกรรมตัวเองให้มากขึ้น พยายามออกจากกรอบสังคมญี่ปุ่นบ้าง
จริงๆ เมื่อก่อน ตอน 80-90 ก็จะมีสิงห์สาวนักสืบ ที่จำได้นะ ติดเหมือนกัน หลังๆ ช่วง 90 ก็มีหลายเรื่อง แต่ต้องบอกซีรี่ย์ญี่ปุ่นดูจริงจังเกินไปหน่อย ไม่ค่อยเพ้อฝันเหมือนเกาหลี
สายญี่ปุ่นเหมือนกัน และชอบ alice in borderland มากกว่าเหมือนกันฮะ ก็อย่างว่าแหละ มีแต่แฟนคลับเดนตายเท่านั้นที่ตามญี่ปุ่น 55555
จะแมสหรือไม่แมส ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประเทศไทยประเทศเดียว มันต้องแมสในหลายๆประเทศด้วย
ยกตัวอย่างเช่นซีรี่ย์วายไทย คือมันแมสจากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่งต่อๆกันไป กลายเป็นกระแสขนาดใหญ่ขึ้นมา แม้แต่ประเทศญี่ปุ่นเองก็ต้านกระแสนี้ไว้ไม่ได้ ทำให้ซีรี่ย์ไทยปรากฎอยู่หน้าจอทีวีประเทศญี่ปุ่นหลายเรื่องมาก พอกลายเป็นกระแสขนาดใหญ่ขึ้นมา ทำให้มีเงินทุนสนับสนุนเข้ามามาก กลายเป็นว่าซีรี่ย์ไทยสามารถหาดูได้ง่าย บางเรื่องก็ดูฟรีไปเลยกลายเป็น Soft power ขึ้นมาในระดับโลกได้
ไทยทำถูกนะ ถ้าไม่เล่นเบอร์นี้ก็ไม่รู้จะให้แมสยังไง GMM มาทำคอนเทนท์ละครซีรี่ย์หลังชาวบ้านด้วย แข่งเรตติ้งไม่ได้ก็ลง RUclips มันซะเลยแถมซับให้ด้วย พอดังติดกระแสแล้ว ขายงานมีตรัวๆ ขายกู้ด หาสปอน แล้วคือในซีรี่ย์ขายของเก่งมาก 555
ด้วยวัฒนธรรม บุคลิกและอุปนิสัยของไทยเราด้วยค่ะ
ไทยเราไม่สร้างช่องว่างระหว่างศิลปินกับแฟนๆที่
มากจนเกินไป มากจนจับต้องไม่ได้
จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน
เค้าวางโพซิชั่นดารานักร้องไว้สูงส่งมากเกิน
คนชอบ ก็ชอบไป ต้องเปย์ถึงจะได้เห็นได้ดู
ส่วนของไทย ความน่ารัก กันเอง ความชิลๆ
มันทำให้คนสัมผัสตัวตนของศิลปินง่าย
เดินถนนทั่วไป ต่อคิวขึ้นรถไฟ พอเจอขอถ่ายรูปก็ให้
คุย ยิ้ม แซวกันได้ มีอินเทอร์แรคกับคนดู กับแฟนๆ
ทำให้ต่างชาติรู้สึกว่า ตามศิลปินไทยแล้วรู้สึกใกล้ชิด
รู้สึกเหมือนมีเพื่อน มีพี่ มีน้อง มีลูก มีหลานเพิ่มขึ้น
แล้วศิลปินเรา มีความธรรมชาติค่อนข้างมาก
ไม่ค่อยถูกสร้างคาแรคเตอร์อะไรแบบเกาหลี
สมกับความเป็นประเทศไทย ที่มีความอิสระ
@@Namminoman เมื่อก่อนดาราไทยก็เข้าถึงยากมากค่ะ แต่เราตามกระแสเดียวกับอเมริกา ดาราเมกาก็ไม่ได้เข้าถึงยากและมีความเป็นตัวของตัวเอง กระแสในอเมริกาเป็นแบบไหนไทยก็จะเป็นคล้ายๆกัน
ซีรีส์ญี่ปุ่นพล็อตหลากหลายก็จริง แต่เส้นการเดินเรื่องจะคล้ายๆ กัน อย่างเช่น แนวสืบสวนฆาตรกรรม สุดท้ายแล้วคนร้ายมักจะเป็นคนที่ตัวเอกไว้ใจ เชื่อใจที่สุด หรือถ้าเป็นแนวรักดารม่าก็จะต้องจบแบบที่ไม่พระเอกก็นางเอกตาย ทั้งที่การสร้างเรื่องดราม่าหรือทำให้โศกเศร้า มันมีอะไรให้เล่นมากกว่าความตาย อีกเรื่องหนึ่งคือซีรีส์ญี่ปุ่นชอบเล่นกับการหักมุม ซึ่งใน1เรื่อง ส่วนใหญ่จะเกิดการหักมุมมากกว่า1ครั้ง บางครั้งคนดูเอาใจช่วยตัวละครอยู่ พอพล็อตมันพลิกไปจากที่คนดูคิด คนดูก็จะรู้สึกเหมือนอกหัก พอเรื่องมันพลิกหลายๆ รอบ ด้วยความตั้งใจอยากให้ลุ้น อยากให้เดาเรื่องไม่ถูก แต่ในขณะเดียวกัน มันทำให้คนดูรู้สึกเหมือนถูกหักอกซ้ำๆ และหมดกำลังใจในการเอาใจช่วยตัวละคร ความอินที่มีต่อเนื้อเรื่องก็จะค่อยๆ ลดลงไปด้วย ที่ได้เห็นหลายครั้งจากซีรีส์ญี่ปุ่นคือบางทีพลิกพล็อตไปหลายรอบจนเสียความเป็นธรรมชาติของเรื่องราวไป ง่ายๆ คือ เรื่องมันดูประดิษฐ์มากเกินไป คนรุ่นหลายสิบปีก่อนอาจจะชอบในความว้าว ความคาดไม่ถึง แต่คนในยุคหลังๆ จะชอบเรื่องราวที่มีความใกล้ตัว ดูสมจริง ดูเกิดขึ้นได้จริงในชีวิตมากกว่า เลยอาจเป็นเหตุผลหนึ่งความนิยมของซีรีส์ญี่ปุ่นลดลงจากแต่ก่อนก็ได้
ชอบเหตุการณ์สมมติต้นคลิปมากค่ะ 55555 ส่วนตัวพึ่งมาดูซีรีส์ญปเมื่อช่วงไม่กี่ปีนี้ ชอบที่ตอนน้อยดี ดูแปบๆจบ แล้วก็ชอบตรงที่มันรีเลทกับเรา อย่างเรื่องที่ตัวละครเป็นคนธรรมดา เป็นพนงออฟฟิศ ก็รู้สึกว่ามันมีคนแบบนี้จริงๆในชีวิตจริง ก็อย่างที่ว่ามันหาดูยาก อยากให้ญปส่งออกมากว่านี้จริงๆ
ใช่เลยยยย !!!
จะร้องงงงง
ช่องของการติดตามยากมาก
พี่เริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นตอนปี 1989 ตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้วอะไรที่เป็นรายการจากญี่ปุ่นแทบไม่ค่อยมีออกทางทีวีในไทย มีแต่การ์ตูนต่างๆกับโอชิน แต่หลังจากเริ่มเรียนแล้วจึงรู้ลู่ทางในการหาซีรี่ยส์หรือรายการญี่ปุ่นมาดู มันคือร้านเช่าวีดิโอนั่นเอง
*ยุคนั้นโมเดลธุรกิจยังเป็นร้านเช่าวีดิโอกัน (ยังไม่ใช่ streaming แบบปัจจุบัน) ต้นกำเนิดจาก Blockbusters ของอเมริกา ร้านเช่าวีดิโอในไทยส่วนใหญ่เป็นซีรี่ยส์ฮ่องกงที่กำลังฮิตมากยุคนั้น อย่างที่อเมริการ้านขายของของคนไทยก็จะมีให้เช่าวีดิโอละครไทยให้คนไทยที่นั่นดู
- ฉะนั้นในทำนองเดียวกัน ร้านเช่าวีดิโอญี่ปุ่นในไทย กลุ่มลูกค้าหลักของเค้า คือ คนญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานในไทยและครอบครัวของเค้า (ช่วงนั้นบริษัทญี่ปุ่นเข้ามาตั้งในไทยเยอะ) มีหลายร้านตามย่านที่คนญี่ปุ่นทำงานหรือพักอาศัย ซึ่งก็เป็นย่านใจกลางเมือง สะดวกพอสมควร แต่ไม่แมส
- ราคาค่าเช่าถือว่าแพงสำหรับนักศึกษาอย่างเรา และดูได้แค่ไม่กี่วันก็ต้องไปคืน เลยไม่ค่อยได้เช่า ดูไม่ทันต้องทำการบ้าน 😅
- อุปสรรคที่สำคัญสุด คือภาษา เนื่องจากมันสำหรับให้คนญี่ปุ่นดูเป็นหลักและยุคนั้นยังไม่มี subtitle จ้า ขนาดเรียนจน 4 ปีแล้วยังฟังได้ไม่ถึงครึ่ง 😂
แชร์มาให้น้องๆ เห็นภาพวัยรุ่นยุคพี่ ❤
ละครญี่ปุ่น นี่เข้ามาทุกสมัยนะคะ ต้นยุค70 ตอนนั้นก็อายุ10กว่า เรื่อง เคนโด้ ตอนนั้นก็ดังมากค่ะ ในปีใกล้ๆกัน ก็มี โอชิน และอื่นๆ เยอะเลยค่ะ สมัยนั้น ญีปุ่นดังในระดับนึง แต่อาจไม่ละครเท่าฮ่องกง
ยุค 80ก็ยังเข้ามาเรื่อยๆนะคะ เช่น สิงห์สาวนักสืบ
แล้วก็มีมาเรื่อยๆ ยุค90 ข่วงเย็นๆ ก็ ช่องสามค่ะ ฉันนี่แหละเรโกะในปี2536 ต่อๆมาก็อีกหลายเรื่อง สามคู่ชู้ชื่น ขอเพียงรัก อดีตฝันวันวาน สวรรค์ลำเอียง และเยอะมากๆ แล้วทุกอย่างก็หยุดลงไปสักสั้นๆไม่นาน ไอทีวีก้มาเริ่มฉายค่ะ แต่มาค่อนข้างดึกเลยค่ะ ดูบ้างไม่ดูบ้าง อายุเริ่มเยอะและ ง่วงไวค่ะ หลังๆมาก็ไม่ค่อยได้ตามแล้วหล่ะค่ะ
ละครที่ชอบ มักเป็นละครยาว朝ドラ ตั้งแต่โอชิน หลังๆ ก็มี เคเบิ้ล นำเข้ามาเรื่อยๆ ดูแทบทุกเรื่อง บางเรื่องก็ช่องปกติ
ส่วนตัว ละครญี่ปุ่นในยุคหลังๆ มีความหลากหลายด้านพล็อต มีความสร้างสรรค์มาก แต่ไม่ค่อยดราม่าแบบ ละครไทย เกาหลี แต่ ละครยาว朝ドラ ก็ยังคงเน้นดราม่า ดิฉันเลยชอบดูค่ะ
เห็นด้วยกับที่บอกว่า ญี่ปุ่นทำขายคนในชาติ ไม่ได้ตั้งใจขายคนนอกประเทศ
สำหรับตัวเราค่อนข้างติดเรื่องแอคติ้งของญี่ปุ่น มันดูไม่รีเลทกับชีวิตเราเท่าไหร่ค่ะ จริตเค้ามันญี่ปุ่นอ่ะ ในขณะที่ของฝั่งเการู้สึกธรรมชาติ ดูแล้วเก็ทมากกว่า
เรื่องความหล่อ เราว่าเทสคนประเทศเค้าค่อนข้างยูนีค สังเกตจากรายการ produce101 เวอร์ญี่ปุ่น คนที่เรามองว่าหล่อน่ารักในรายการกลับไม่ป๊อบ แต่บางคนที่ป๊อบ ทางเราก็แอบขมวดคิ้ว
แต่ที่ชอบของทางญี่ปุ่นคือบทกระชับ มี 10 ตอน ชอบมาก คิดว่ากำลังพอดี ทางเกาหลี มี 16 ตอน บางทีสนุกแค่ครึ่งแรก ครึ่งหลังไม่ไหว เทก็เยอะ หลายเรื่อง
อีกข้อคืออาจดูแปลกๆ แต่สำหรับเรา เราติดมากคือทรงผมของตัวละคร ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่ทำจากมังงะตาหวาน จะติดเป็นพิเศษ เพราะทรงผมของตัวละครจะถอดมาจากในมังงะเป๊ะ บางทรงแบบให้มันอยู่แค่ในมังงะเถอะ ไม่เข้ากับหน้าพระเอกสุดๆ ทนดูไม่ได้ ใจไม่อยุ่กับเนื้อเรื่อง ในขณะที่เกาหลีจะปรับเปลี่ยนให้ดูร่วมสมัยเหมาะกับบุคลิกตัวละครมากกว่า
ก่อนหน้านี้เป็นสายเคป๊อบ เพิ่งมาสายซีรีส์ญปได้ไม่นาน เรื่องความหล่อยอมรับเลยว่าแว๊บแรกนี่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเหมือนกันแต่พอเข้าถึงปุ๊บ เหมือนได้ตรัสรู้อะไรซักอย่าง เคป๊อบนี่คือตามมาหลายปีแล้วแต่ตกได้อยู่มัดจริงๆวงเดียวด้วยซ้ำ พอเปิดใจกับพระเอกญปคือโดนตกเรื่อยๆเลย พระเอกญปมีเสน่ห์มากกกก ถ้าตามค.เห็นคือค.หล่อพระเอกญปอาจจะเข้าถึงยาก แต่พอได้ลองเข้าถึงแล้วจะติดใจมาก555555
ความน้ำเน่าแบบเกาหลีมันถูกจริตคนไทยมากกว่ามั้ง 🤣 ง่ายๆหมอจิน ผมชอบ ver.ญี่ปุ่นมากแต่น้องสาวผม 3 คนบอกน่าเบื่อมาก แต่ผมว่าเกาหลีมันทำเสียของกลายเป็นหนังน้ำเน่าไปเลย
ชอบซีรีย์ญี่ปุ่นมากๆครับ
kieta hatsukoi ชอบเรื่องนี้มากพึ่งดูไป
ญี่ปุ่นมีหลายแนว แต่หลายเรื่องเนื้อเรื่องค่อนข้างและมีแนวคิดที่เข้าถึงยาก นอกจากจะหาดูบากแล้วยังมีแนวคิดที่ยากจะเข้าถึง การแสดงของนักแสดงบางทีก็โอเว่อร์แอีกติ้ง โดยเฉพาะหน้าตาตอนตกใจ การอุทานที่เป็นลักษณะเฉพาะชาติเลย การแสดงบทหวานก็ไปไม่สุด ทำให้ส่วนตัวดูซีรีย์ญี่ปุนน้อย ในขณะที่ซีรีย์ชาติอื่นเข้าถึงง่ายและมีการแปลทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเข้าถึงง่าย และมีให้เลือกเยอะ
ซีรี่ย์ญี่ปุ่นเป็นอะไรที่สนุกนะคะ แต่บางเรื่องที่เป็นแนวสืบสวนเนื้อเรื่องจะค่อนข้างยืดยาว แล้วก็ทำออกมาให้เข้าใจยากบ้างอะไรแบบนี้ แต่ก็สนุกดีนั่นแหละค่ะสำหรับเรา ทั้งอนิเมะ ซีรี่ย์ หนังเลย
ติดตาม ทุกคอนเทนต์ ช่องนี้สนุกดีครับ
นี้ดูทีจะหลับ เรื่องก็ไม่ได้เยอะตอนนะแต่ดูไม่ค่อยจะจบตอน บางเรื่องเหตุและผลก็แปลกๆสงสัยเป็นวัฒนธรรมของเขา น้อยเรื่องที่จะดูจบเรื่อง พอเรื่องไหนสนุกก็สนุกไปเลยนะ
ค่าลิขสิทธิ์แพง เข้าถึงยากกว่าซีรีย์เกาหลี กว่าจะดูแบบถูกลิขสิทธิ์ได้ต้องรอให้เก่าเป็นปี เพราะเค้าเน้นขายคนในประเทศก็พอแล้ว แต่ยุคปัจจุบันมีสตรีมมิ่งดีขึ้นเยอะแล้ว
แต่ใครติดญี่ปุ่นก็จะดูอย่างอื่นไม่แมสเหมือนกันนะครับ เช่นเรา ติดเมะมังงะญี่ปุ่นแต่เด็กเล็กๆ โตมาพอดูซีรีย์ก็ไม่อินเกาหลี จีน ไทย ดูได้แต่ญี่ปุ่น,กับเทศฝั่งเมกาอะของชาติอื่นไม่แมสไม่อินเลย เกาหลีที่ว่าแมสโคตรๆบ้านเรา เราก็ไม่อินไม่สนุก😑 เมื่อก่อนเราไม่ดูซีรีย์ไม่ดูละครเลย ดูแต่การ์ตูนอนิเมะกับหนังใหญ่ แต่พอได้ดู Umechan Sensei คุณหมอหน้าใสหัวใจนักสู้ ที่ตอนนั้นน่าจะราว2014 ThaiPBSบ้านเราเอามาฉายพากษ์ไทยก็ติดญี่ปุ่นยาวมาเลย มันดีมากกกกกกก ยิ่งหาดูเพิ่มมันยิ่งดีย์อะซีรีย์ญี่ปุ่น
เราติดญี่ปุ่น แต่เราก็ดูเกาหลีด้วย แต่เรื่องที่เรารู้สึกสนุกก็จะเป็นเรื่องที่ไม่แมสในไทย
ส่วนของฝรั่งนี่ ไม่อินเลยจ้าาา
ดูซีรี่ส์เกาหลีไม่ได้เลยไม่ถูกจริต ดูทีไรดูไม่จบซักที ส่วนนึงที่ชอบดูซีรี่ส์ญี่ปุ่นเพราะมันเรียล บ้านเรือน ผู้คนหน้าตาตัวละครดูเรียลสมบทบาท คาแรคเตอร์นี้เป็นคนธรรมดาloser ก็หน้าตาธรรมดา จริงๆบ้านจนก็คืออยู่ห้องพักรูหนูจริงๆ ทุกอย่างสมจริงตามบท
จะว่าไปซีรี่ย์ญี่ปุ่นผมไม่เคยดูเลยนะ # ถ้าไม่นับโทคุ เหมือนประเทศญี่ปุ่นจะไม่ได้เน้นดันหนังและซีรี่ย์เท่าไหร่ แต่จะไปเน้นดันเกมส์ มังงะ อนิเมะ และ นิยาย มากกว่า หนังญี่ปุ่นส่วนใหญ่ที่เป็นกระแสหลักก็มาจาก มังงะ ด้วย
ส่วนตัวเราก็เคยดูซีรีย์ทั้ง จีน ญี่ปุ่นเกาหลี ฝรั่งนะ แต่บ่อยๆสุดก็ จีน ฝรั่ง ญี่ปุ่นนิดหน่อย แต่ละประเทศเค้าก็จะมีเอกลักษณ์ต่างกันเลย แต่ถ้าพูดถึงญี่ปุ่น เราชอบแนวอาชีพแบบเกี่ยวกับหมอ ทนาย อะไรพวกนี้ไปเลยแบบเข้มข้น แนวรักๆก็ดูบ้าง แต่รู้สึกตะหงิดทุกครั้งเวลาเจอแอคติ้ง/รีแอคชั่นของตัวละคร คือแบบ 1,000,000/100 เล่นเบอร์ใหญ่มากแม่ แต่ก็พอเข้าใจว่ามันคือลักษณะนิสัยของคนประเทศเค้า มันอาจจะไม่ถูกจริตเราเอง ส่วนหน้าตานักแสดง เราว่าขึ้นอยู่กับไทป์ของคนมองซะมากกว่า เราก็เลือกดูซีรีย์จากพล็อตและหน้าตานักแสดงเหมือนกัน555555 ปล.ตรรกะหรือคาแรคเตอร์ตัวละครบางตัวเราดูก็มีแบบ อีหยังวะ แปลกๆนะ เหมือนกัน คนแบบนี้มันมีอยู่ในชีวิตจริงด้วยหรอ 😂 แต่ที่ต้องให้คะแนนเต็มเลยคือ ซีรีย์ญี่ปุ่นสร้างแรงบันดาลใจให้ได้เสมอเวลาดู ❤️
ชอบพล็อตกับบทที่ใส่มาครับไอเดียจะค่อยข้างครีเอต โดยเฉพาะแนวๆทริลเลอร์ หรือสืบสวนสอบสวน แต่ส่วนตัวที่ไม่อินเพราะอัตลักษณ์บางอย่างของคนญี่ปุ่นค่อนข้างไม่เป็นสากลทำให้บางทีเราดูไม่คุ้นตา เช่น การตกใจ การขอโทษ หรือการแสดงออก แต่เขาไม่ผิดนะครับ แค่ไม่คุ้นตาเฉยๆซึ่งไอความไม่คุ้นตาเนี่ยผมคิดว่าน่าจะเป็นประเด็นสำคัญประเด็นหนึ่งที่ทำให้ไม่แมสในระดับสากลครับ (มันจะฟีลเหมือนดูละครเวที)
ในทางกลับกันถ้าเป็นแนวทริลเลอร์หรือแฟนตาซีหน่อยๆเนี่ย ผมไม่มีปัญหาเลยนะกับการแสดงลักษณะนี้ ออกจะดีเลยด้วยซ้ำครับ
สำหรับเรา เราชอบซีรีส์ญี่ปุ่น บท โปรดัคชั่นดีกว่าเกาหลี แต่ที่ขาดคือ love scene ดราม่า, ชื่อเรื่องเป็นคำศัพท์ญี่ปุ่นทับศัพท์ไปอีก จำยก อาทิ F4 เป็น Hana Yori Dunko 555
เราชอบ ซีรี่ญี่ปุ่น ซีรี่จีน ซีรี่ฮ่องกง ซีรี่เกาหลี เรา เฉยๆ
ผมก็ชอบ alice in borderland มากกว่า squid game เหมือนกันรู้สึกมันสนุกกว่าน่าตื่นเต้นกว่าของเกาหลีมันเน้นดราม่าเกินไป
ตามดูซีรีย์ญี่ปุ่นมาตั้งแต่อายุ 50 ปี ที่แล้ว สมัยนั้นดูเรื่องเคนโด้ ทุกวันนี้ก็ตามดูซีรีย์ญี่ปุ่นอยู่บ้างบางเรื่อง ดูที่เนื้อเรื่องเป็นหลักถ้าน่าสนใจก็จะดู
เราชอบญี่ปุ่น ตั้งแต่เล็กก็คืออ่านการ์ตูนญี่ปุ่น เราว่าเพราะความรู้วัฒนธรรมเรื่องเล่าต่างๆ ส่วนหนึ่ง ทำให้เราชอบความสั้นกระชับ แล้วก็ซีนอารมณ์ต่างๆ ทั้งเหตุผลที่ทำไมคนดีๆ ก็ร้ายได้ การกล้าตีแผ่การทุจริต การขยายความ จริงๆแนวการ์ตูนใหม่ๆที่เป็นซีรี่ย์เราก็ไม่ค่อยได้ดูนะ แต่ถ้าเป็นซีรี่ย์อาชีพ การตั้งใจทำงาน เรากลับว่าญี่ปุ่นทำได้สนุกมาก ความซับซ้อนอย่างhanzawa ที่ต้องดูแบบไม่กระพริบตา มันสนุก ส่วนฉากรักเราก็ชอบที่มันมีน้อย อย่างช่วงเข้าใจผิดกันก็จะมีการเคลียร์ทั้งๆที่ญี่ปุ่นไม่ค่อยสื่อสารกันตรงๆ แต่จังหวะในการเฉลยเรื่องมันได้ ส่วนตัวเราชอบหุ่นดาราญี่ปุ่นมากผู้ชายไม่กล้ามปู ผอมและสไตล์การแต่งตัว มันดูอยู่ในชีวิตประจำวัน ชอบความมีฤดูของละครด้วย น้อยเรื่องมากที่จะไม่ชอบ ซีรี่ย์ทาคุยะสนุก แต่เราชอบการแสดงของพี่โจ มากกว่านิดนึง เราว่าถ้าดูที่ตัวเนื้อเรื่องมันจะไปต่อได้เรื่อยๆแล้วเราว่าส่วนเติมเต็มของญี่ปุ่นๆเพื่อนๆ อาจารย์ เจ้าของบาร์ ที่ผ่านชีวิตมีประสบการณ์มันทำให้เรื่องกลม รวมถึงความคิดที่ว่าต้องทำให้ได้ให้ดี เรามันคนธรรมดา แต่มันมีก้าวผ่าน ส่วนคนเก่งก็มั่นใจจนลืมคนรอบข้างจนผิดพลาดได้ เหมือนหนูกับราชสีห์ มันเลยเป็นความสนุก แต่เราชอบเรื่องเล่าแนวเรื่อยๆชีวิตประจำวันมาก ซึ่งคนจะเบื่อหนังแนวนี้ แต่เราชอบคนที่คิดแปลกๆ มันทำให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ขอบคุณสำหรับคอนเทนท์ค่ะ อ๋อ เราเซนสืีฟมาก บ้างเรื่องดูแล้วร้องไห้ทุกตอน เอาไว้เคลียร์ต่อมน้ำตาดี
ได้ชม ซีรี่ย์ญี่ปุ่น แนวร้านอาหาร รู้สึกดี ชอบมาก เรื่อง Midnight Dinner กับ อิซากายะ นี้มีแต่รัก แนวดราม่าและแนะนำเมนูอาหารเครื่องดื่ม เรื่องอื่นๆ เช่น อร่อยเดียวดาย ก็ดีแต่บางทีก็ไม่เข้าใจเนื้อหา ครับ
เพราะซีรีย์ญี่ปุ่นทำมาเพื่อคนญี่ปุ่น ดูได้แค่คนญี่ปุ่นมันหาดูได้ยากอะ ถ้าไม่ได้ชอบจริงๆคงไม่หาดูเวลาคนเรามันมีอะไรให้ทำอีกเยอะเราเลยเลือกเสพสื่อที่เราสามารถเข้าถึงได้ง่ายแล้วมีความหลากหลายให้เลือกมากกว่า
ชอบทั้ง เกาหลี และ ญี่ปุ่น เลยค่ะ
ซีรีย์ญี่ปุ่น ค่อนข้างปิดกั้น
ทำให้ คนที่อยู่ ตปท. ไม่สามารถดูได้
ซีรีย์ญี่ปุ่น บางเรื่อง พระ - นาง เคมีไม่เข้ากัน พระเอกหล่อมากกก แต่นางเอก..... ทำให้เท และไม่อยากดูค่ะ
นางเอกบางคน หน้าซ้ำมาก
คนดูเบื่อค่ะ
เราขอออกความเห็นในมุมมองของเราจาก 4 ข้อที่ได้พูดถึง นะคะจะเรียงเป็นหัวข้อตามลำดับค่ะ
1) ปัจจุบันซีรีย์และหนังญี่ปุ่นเราว่าหาดูได้ง่ายขึ้น กว่าเมื่อก่อนเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการนำมาแปลซับไทย การนำหนังหรือรายแอ็คชั่นเข้ามาฉายในโรงภาพยนตร์โดยมี ค่ายชั้นนำให้เสียงพากย์ไทย หรือทางด้านซีรีย์ญี่ปุ่นเอง ที่เห็นหน้าตอนนี้ นำมาทำพากย์ไทย แหมเรื่องที่เอามาทำอาจจะฉายจบไปประมาณ 1-2 ปีแล้ว ก็รู้สึกดีและสนุกค่ะส่วนตัวเป็นคนที่ชอบดูอะไรเข้าใจง่ายจำนวนตอนไม่มากเข้าถึงได้ง่ายค่ะ
2) การใช้แสงสีและภาพในการถ่ายทำ
อันนี้เราแอบไม่ชอบอยู่เหมือนกันจากประสบการณ์ส่วนตัวในการดูไลฟ์แอ็คชั่นบางเรื่อง ต้องขอบอกว่าภาพ ทำโทนสีออกมามืด ทำให้ยากต่อการดูว่าค่ะ หรือไม่ก็ฟุ้งเกิน อยากให้ปรับเป็นโทนสีเบาดูง่ายสบายตา
3) นักแสดงญี่ปุ่นเล่นใหญ่
อันนี้เราบอกเลยว่าเราไม่เห็นด้วยเพราะว่าโดยธรรมชาติญี่ปุ่นเป็นคนแบบนั้นอยู่แล้วอันนี้แล้วเข้าใจโดยอัตโนมัติจากการดูอนิเมะ หรือรายการท่องเที่ยวญี่ปุ่นและอื่นๆ ไม่ซีเรียสเลย เข้าใจบริบทและธรรมชาติของชาวญี่ปุ่นค่ะ
4 เรื่องหน้าตาของเหล่านักแสดงหรือคู่พระนาง อันนี้เราว่าแล้วแต่บุคคลนะ ขึ้นอยู่กับแนวของหนังหรือซีรี่ส์ด้วยว่า จะให้ออกมาเป็นแบบไหน บางคนชอบพูดว่าฝ่ายชายหล่อฝ่ายหญิงไม่สวยหรืออาจจะสลับกัน อีกมุมมองหนึ่ง อันนี้เราเคยได้ยินบทควดามมาจากที่ 1 นะ ไม่ว่าจะเป็นอนิเมะหนังซีรี่ย์หรือตลอดไปจะถึงหนัง AV ก็ตาม เขาไม่อยากทำให้ดูเพอร์เฟคเกินไปไงทำให้คนดูอย่างเรานั้นเข้าถึงได้ง่าย หากทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบจนเกินไป แน่นอนว่าคนดูอย่างเราๆ ก็คงมีความคิดว่าเรื่องแบบนี้มันอาจจะไม่เกิดขึ้นจริง หรือบางคนก็คิดต่างกันแหละว่าแบบนี้แหละสมบูรณ์แบบที่สุดแล้วก็นานาจิตตัง ส่วนเนื้อหาในตอนจบ อันนี้เราก็แอบเซ็งบางเรื่องเหมือนกันเพราะจบไปเปิดหรือไม่เคลียร์ แต่บางเรื่องก็ทำให้คิดว่าเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว
ทั้งด้านของชื่อเรื่องบอกเลยว่าเป็นปัญหาอย่างมากในการค้นหา เวลาดู แน่นอนว่าเราใช้เป็นคำอ่านโรมันจิได้ แต่ความยาวนี่ไม่ไหวจริงๆ อย่างน้อยก็อยากให้เป็นเหมือนสมัยเมื่อก่อนหรือแบบต่างประเทศ ที่มีชื่อสำรองเป็นภาษาอังกฤษที่สั้น คือพูดขึ้นมาปุ๊บก็รู้เลยว่าเป็นเรื่องนี้
สุดท้ายนี้เราขอฝาก อธิบายและขอร้องกับคนที่เข้าวงการ
หรือมือใหม่ อันนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยเห็นและเคยได้ยิน // แอบระบาย
ไม่ควรเอาไปเปรียบเทียบว่าประเทศนั้นดีกว่าหล่อกว่าหรือมาก่อนและมาหลัง คือได้ยินบ่อยมาก
และอันนี้เราโกรธสุด ตั้งแต่เคยดูและเคยได้ยินมา จะไม่กล่าวอ้างอย่างเจาะจง ไปดูช่องแห่งหนึ่ง ไม่รู้ว่าเพิ่งเข้าวงการซีรีส์หรืออยากได้ยอดวิว โดยการโปรโมทคลิปคุณว่า แนะนำซีรีย์ญี่ปุ่นที่มีฉาก 18+ เกือบจะมีอะไรกัน โดยที่ Series แต่ละเรื่องที่หยิบยกและพูดถึงขึ้นมานั้น แน่นอนมันอาจจะมีแต่มันคงไม่มีไปถึงอะไรแบบนั้น บางเรื่องแทบจะเป็นแนวความรักดูสบายๆด้วยซ้ำ และที่เจ็บที่สุดคือการได้ยินว่าประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อด้วยเรื่องแบบนั้น เ"ฮ้ย You "!!
คือเราเข้าใจนะว่าประเทศญี่ปุ่น อีกหนึ่งประเทศที่มีอุตสาหกรรมด้านหนัง AV และเปิดเผยเรื่องแบบนี้ แต่ไม่ควรไปเอาเหมารวมกับ อุตสาหกรรมด้านอื่นไม่ใช่หรอมันไม่ใช่จะเป็นอย่างนี้ทั้งหมดหนี้ ก็ยังงงว่าทำไมคนเรามองโลกได้มุมแคบจัง
ฝากให้คิดว่าคนเราไม่ควรตัดสินอะไร โดยรวมทั้งหมดจากการเห็นแค่อย่างเดียว
จงอยู่กับความชื่นชอบของคุณโดยไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน หากต้องการแนะนำหรือเผยแพร่โปรดให้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และ ไม่ควรไปเปรียบเทียบกับคนที่คิดเห็นต่าง จากเรา หากได้ยินอย่าตอบโต้ฟังและปล่อยวาง
ส่วนตัวรู้สึกว่าซีรีย์ญี่ปุ่นมีความเครียดแฝงแม้กระทั่งซีรีย์ตลก ย่อยยากในความรู้สึกค่ะ
ตอนเราเด็ก ๆ ทันยุค VDO กันไหมคะ ? ช่วงแรกจริง ๆ การ์ตูน อะนิเมะ - ซีรีย์ หาเช่าจากร้านเช่าวีดีโอได้นะ
(หลายร้านก็อัดจากทีวี ก็พอหาเช่าได้นะ)
1.ถ้าเป็นเพราะหาดูยาก งั้นตอนนี้ที่ซีรีส์ญี่ปุ่นเข้าเนตฟลิก ดูง่ายแล้ว เรื่องนั้นๆ
ก็ต้องดังมาก ติดเทรน แต่กลับเงียบกริบ แสดงว่าไม่ใช่
.
2.ถ้าชื่อเรื่องจำยาก เนตฟลิกจะตั้งเป็นชื่ออังกฤษสั้นๆ ให้อยู่แล้ว แถมพวกอนิเมเถื่อนที่ดังๆ หลายเรื่องคนก็จำเป็นชื่อญี่ปุ่นยาวๆ แสดงว่าไม่น่าใช่
.
3.ถ้าแอคติ้งญี่ปุ่นชอบเล่นใหญ่?
โห เกาหลีก็ไม่ได้น้อยนะพี่
.
4.ถ้าจำนวนตอนสั้น งั้นทำไมสควิดเกม 8 ตอนยัง ปังล่ะ
.
.
จริงๆ มันก็เพราะหลายๆ ข้อข้างบนรวมกัน แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดคือเนื้อเรื่อง
ละครญี่ปุ่นจะลุ่มลึก ซับซ้อน เปรียบเป็นคนคือพูดน้อย ฟอร์มเยอะ เย็นชา ปากร้าย ใจดี พูดอะไรต้องคิดตาม ทำให้เข้าถึงยาก เหมาะกับรสนิยมการเสพละครของคนญี่ปุ่น ไม่เหมือนเกาหลีเปรียบเป็นคนคือ อบอุ่น ใจดี เข้าถึงง่าย แสดงออกตรงๆ ไม่ซับซ้อนเท่า มันก็เลยแมสกว่า
พอแมสกว่ามันก็เลยมีฐานแฟนเหนียวแน่น
.
ความหมายของสุดะ ผมคิดว่าเค้าตั้งใจจะบอกวงการบันเทิงญี่ปุ่นว่า เลิกทำตัวหยิ่งทะนง ฟอร์มจัด เข้าถึงยาก(สำหรับคนส่วนใหญ่)ได้แล้ว ปรับตัวลงมาหาคนดูแบบเกาหลีเค้าสักที
โอ้ว ลึกซึ้ง
ชอบซีรีย์ญี่ปุ่นมาก แต่หาดูได้ยากจริงค่ะ
ตอนนี้อยากดู nobunaga concerto ไม่รู้จะไปหาดูจากไหนค่ะ T.T
การเข้าถึงยากกว่าด้วยค่ะ แต่ละเรื่องชื่อยาวๆทั้งนั้น เวลาจะหาชื่อเรื่องก้ยาก ถ้าคนไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นก้ต้องจำตัวโรมันจิยาวๆไปหาด้วย อีกอย่างดาราญี่ปุ่นช่องทางการติดตามข่าวสารก้มีจำกัด ดูในยูทูปก้ไม่มีซับให้ เวลาเค้าคุยอะไรก้ได้แต่มองภาพอย่างเดียว คนไม่ได้ภาษาอย่างเราคือจบค่ะ
สมัยเมื่อ 10-20 ปีก่อน สื่อญี่ปุ่นแมสไปทั่วโลกคะแต่การปิดกั้นจากญี่ปุ่นเยอะมาก จนรู้สึกท้อเลยคะ สมัยก่อนทั้งซีรี่ย์,เพลง,การ์ตูน ชอบมาก
โตมากับหนัง ซีรี่ย์ การ์ตูน เพลงญี่ปุ่น เลยชอบอะไรญี่ปุ่นมากกว่า ภาษาก็ติดหู ฟังมาจนชิน เรื่องแอ็คติ้งการแสดง เป็นเรื่องรองลงมา ฉนั้นเลยชอบของญี่ปุ่นมากๆ
ซีรี่ส์ญี่ปุ่นเสียเปรียบซีรี่ย์เกาหลีตรงที่ 1. หน้าตานักแสดง (อันนี้สำหรับบางคน ไม่ใช่กับเรา) 2. แอคติ้งที่ไม่ค่อยธรรมชาติ เหมือนออกมาจากมังงะ (อันนี้เราเห็นด้วย มันขนลุก) 3. หาดูยากมาก
แต่!!!!! ซีรี่ส์ญี่ปุ่นกินใจกว่ามาก บีบหัวใจกว่ามากกกกกกกก ดูแล้วตราตรึง จุดนี้เราว่าซีรี่ส์เกาหลีน้อยเรื่องที่จะทำได้
เราชอบซีรี่ย์ญี่ปุ่นเพียงแต่หาซับไทยยาก แนวมัธยมยังไงก็ชอบของญี่ปุ่นสุด
อยุ่มาตั้งแต่ยุค ทักกี้สุดหล่อปากแดง แสดงแล้วกร๊ดๆตลอด จนหลุดมาเกาหลี ปากแดงเหมือนกัน แต่มาจากลิป ส่วนตัวงานที่แตกต่างของเกาหลีกับญีปุ่นตอนนี้คือ งานภาพ โทนสีหนัง มุมกล้อง ตรงนี้แหละ ที่ต่างกันจริงๆ
ผมเป็นผู้ชายแท้นะ แต่ผมก็สัมผัสได้เหมือนกันว่าผู้ชายเกาหลีหล่อกว่าจริงๆ ความเหลี่ยมมุมของใบหน้าพระเอกเกาหลีมองแล้วอบอุ่นกว่าหน้าเล็กๆแหลมๆแบบพระเอกญี่ปุ่นจริงๆ
ถ้าซีรี่ หมอ,การเมือง,นักสืบ ไอ้พวกที่ต้องใช้หัวในการดูผมยกให้ญี่ปุ่นเลยสนุกเยอะมากแต่หาดูยากจริงอย่าว่าแต่แบบถูกลิขสิทธิ์เลยแบบเถื่อนก็หายากไม่มีคนทำซัปไม่มีคนปล่อย ทั้งๆที่ซีรี่ญี่ปุ่นมีอะไรให้ว้าวเยอะมากมีอะไรแปลกๆที่เราไม่เคยเห็นเยอะมาก
ส่วนตัวคิดว่าซีรีส์ญี่ปุ่นจะชอบถึงจุด hook-up (ติดงอมแงม) ค่อนข้างช้าครับ แต่พอพ้นจุดนี้ไปจะสนุกแทบทุกเรื่องที่ดูเลย
กับนักแสดงจะชอบมีหน้าตาออกไปทาง สวยพิศ/หล่อพิศกันเยอะ (นี่ก็ความเห็นส่วนตัวนะครับ)
ไม่ได้เน้นหน้าตาดาราดึงดูด หรือเหล่าเรื่องแบบกินด่วนย่อยง่ายฟาสต์ฟู้ดตามซีรีส์ประเทศรอบข้าง
ที่ผมพูดแบบนี้เพราะ 2 เดือนที่ผ่านมาดูไปจะ 20 เรื่อง และผมก็ binge (รวดเดียวจบ)ทุกเรื่อง
หมดเกลี้ยงทั้งใน Netflix กับในเว็บแฟนซํบของเจ้าของเพจ (ขอบพระคุณหยาดเหงื่อแรงกายมา ณ ที่นี้ด้วยครับ)
จากที่ก่อนหน้านี้ก็ตามแต่kpop ซีรีส์ก็ดูเกาหลีจีน เพิ่งได้ตามซีรีส์ญี่ปุ่นช่วงปีที่แล้วเพราะเพจนี้เลย(โดนริวเซย์ตก555) หลังจากนั้นก็เริ่มชอบไอดอลญี่ปุ่น คือบอกตรงๆว่าตามยากจริงๆ คลิปลงยูทูปบางทีแม้แต่ซับEngยังไม่มี ในส่วนของซีรีส์ก็หาดูยากมาก แต่ชอบซีรีส์ญี่ปุ่นตรงที่จบเร็ว และส่วนตัวนักแสดงญี่ปุ่นนี่สเปคเลย555 หล่อ มีเสน่ห์มากกก หลงผช.ญี่ปุ่นหนักมาก
เข้าใจเลยค่ะ หื้อออออ ตามยากจริง แต่ผู้ชายหล่อเลยต้องยอม แงงงง
ใครไม่ชอบเราชอบนะ🤣 Alice in borderlands ทำให้เราชอบเคนโตะ ยามาซากิ ไล่ตามดูทุกเรื่อง แล้วก็เริ่มรู้จักนักแสดงหลายคนมากขึ้น ขยายไปดูคนอื่นๆมากขึ้น แต่ไม่นอกใจเคนโตะแน่นอน😘🤣