ดูไปเดาไป (โหราศาสตร์สากล) ตอนที่ 17 มุม
HTML-код
- Опубликовано: 7 сен 2024
- *พูดผิด หน้า 9 พูดโยคเป็นตรีโกณ 2 ครั้ง*
*ดาวพฤหัสเป็นสีส้ม น้ำตาลส่่วนใหญ่ สีฟ้ามีตรงขั้ว*
ดูไปเดาไป
โหราศาสตร์สากล
มุม (มุมสัมพันธ์)
มุมหลัก
1. กุม 0 องศา
2. โยค 60 องศา มุมศุกร์
3. จตุโกณ 90 องศา มุมอังคาร
4. ตรีโกณ 120 องศา มุมพฤหัส
5. เล็ง 180 องศา มุมเสาร์
มุมรอง
1. 30 องศา และ 150 องศา
2. 45 องศา และ 135 องศา
3. 72 องศา และ 144 องศา
หลักการของมุม
ความหมายของมุม
ระยะวังกะ (Orbs) ระยะห่างของดาวที่อนุโลมให้ในการทำมุมดาวเดินหา (Applying aspects) กับ ดาวเดินจาก (Separating aspects)
อาจารย์สอนดีมาก สอนละเอียดมากค่ะ ขอบคุณอาจารย์มากๆ ค่ะ
ขอบคุณอาจารย์ค่ะ อธิบายละเอียดถี่ถ้วน เข้าใจง่ายมากๆเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ 🙏
ขอบคุณมากครับอาจารย์
สวัสดีค่ะ..เพิ่งเจอคลิบนี้ค่ะอาจารย์..ขอบคุณค่ะ
ดีมากครับขอบคุณมากครับอาจารย์
ขอบคุณค่ะอาจารย์ รอทุกคลิปเลยค่ะ มาลงบ่อย ๆ นะค่ะอาจารย์ 🥰 ขอบคุณค่ะ🙏
ขอบคุณอาจารย์ที่ทำคลิปให้ความรู้เรื่องมุมนะครับ เฝ้ารอมานาน ตั้งใจฟ้งจนจบแล้วจะฟังซ้ำอีกเรื่อยๆครับ ติดตามดูไปเดาไปทุกคลิป ชอบมากๆครับ ติดตามและเป็นกำลังใจให้อาจารย์นะครับ 😊😊
ขอบคุณอาจารย์มากนะคะ 🙏🏻
สำหรับความรู้ อธิบายละเอียดมากเลยค่ะ💗✨
ส่วนตัวหนูชอบเสียงอาจารย์ฟังเพลินดีค่ะ
ติดตามเรียนมาตั้งแต่ตอนที่ 1 - 17 เข้าใจชีวิตตัวเองมากขึ้น ว่าทำไมบางเหตุการณ์ถึงเกิดขึ้นกับเรา 😊🌷
การค้นพบตัวเองเป็นลาภอันประเสริฐค่ะ โชคดีนะคะ
ขอบคุณมากเลยค่ะอาจารย์ เนื้อหาแน่นมาก ชอบมากเลยค่ะ ขอบคุณที่แชร์ความรู้ให้ฟรีเลยนะค้า 🙏🥹😍
ยังรอคุณครูมาสอนขั้นตอยการอ่านดวงนะครับ 🙏🏼
อาจต้องรอต่อไปค่ะ ตอนนี้ชีวิตไม่นิ่ง ดาวใหญ่เข้าอีลุงตุงนัง ไม่สามารถค่ะ 😅
@@user-lb3ee2lk7z ก็ยังเวียนฟังคลิปครู Ep 2-3 รอบเลยครับ 😅 รอได้อยู่แล้วครับ พลูโตก็แค่ 10 กว่าปี ครูจะให้ผมดูดาวดวงไหนครับ 😄😆 Anyway Take care นะครับ
ขอบคุณพระคุณอาจารย์มากๆเลยนะคะที่เผยแพร่ความรู้เป็นวิทยาทาน ช่วยให้หนูเข้าใจชีวิตตัวเองได้อีกหลายแง่มุมมากเลยค่ะ ได้รู้ว่าต้องเดินชีวิตไปในทิศทางใหน เลิกสงสัยตัวเอง แล้วหันมาแก้ไขจุดต่างของตัวเองที่ควรแก้ไข นำของดีที่มีในตัวมาใช้ประโยชน์ให้มากขึ้น 🙏🙏🙏
ปูเสื่อนอนรอตอนต่อไปครับ 55555
นอนรอไปก่อนค่ะ เดือนนี้แขกเยอะ แถมต้องเดินทางมาก
ถ้าดาวพฤหัสทำมุม 90 องศากับดาวศุกร์ ซึ่งเป็นดาวคู่มิตร แต่มุมไม่ส่งเสริม อันนี้จะถือว่าดีไหมคะ หรือ หากดาวเสาร์ทำมุมกับองศากับดาวพฤหัส ดาวไม่เป็นมิตรกัน แต่มุมดี จะถือว่าดีไหมคะ
ปกติดาวพฤหัสเป็นดาวดี ไม่ทำร้ายใครตรงๆ ไม่ว่าจะเป็นมุมไหนและทำมุมกับดาวอะไร แต่ถ้ามุมที่ทำเป็นมุมท้าทาย เช่น 90 หรือ 180 องศา เจ้าชะตาก็จะได้อิทธิพลดีมาเกินพอดี เช่น อยู่ดีมีสุขจนกินดีอยู่ดีอ้วนเกิน เมื่อพฤหัสทำมุมกับจันทร์ จันทร์เป็นอารมณ์ พฤหัสอาจทำให้เจ้าชะตาล้นหลามเกินพอดีในเรื่องอารมณ์ ความโอบอ้อมอารีย์ แสดงอารมณ์มากไปเพราะเพราะความรู้สึกมันเกินพอดี อะไรประมาณนี้ จันทร์แปลความหมายได้หลายอย่าง แล้วแต่ว่าความหมายใดจะต้องจริตกับเรา
เสาร์เป็นดาวหนัก เป็นความรับผิดชอบ ขอบเขต ข้อจำกัด เป็นผู้ใหญ่เกินตัว ตลอดไปจนถึงโทษทุกข์ ถ้าเสาร์ทำมุมดี มันจะส่งอิทธิพลให้เจ้าชะตาเป็นคนแบบดาวเสาร์แต่กำลังพอดี เมื่อทำมุมดีกับพฤหัส มันจะทำให้เป็นคนมุ่งมั่น มีโชค ทำอะไรก็พยายามทำให้สำเร็จตามที่ตั้งใจ ถ้าทำมุมแรง มันจะเกินพอดี ทำให้ต้องพยายามหลายเท่า เกิดความรับผิดชอบหนักหน่วง ต้องรับมือกับเรื่องหนักๆ แต่ในที่สุดก็น่าจะไปถึงที่หมายเดียวกัน (ในระยะยาว) แต่กว่าจะมาถึงเส้นไทย ก็อาจสบักสบอมหน่อย หรือมาช้าแบบเต่า ไม่ใช่กระต่าย
ถามถึงพฤหัสศุกร์ ดันไปตอบพฤหัสจันทร์ พฤหัสศุกร์ทำมุมเกินพอดี ก็อาจชอบสบายจนเกินดี (คือขี้เกียจ) หวังโชคลาภมากไป ชอบกินจนอ้วน ชอบสวยงามเกินพอดี อาจทุ่มเงินเพื่อความงามมากไป อาจตกหลุมรักง่ายไป ต้องดูว่าอะไรที่เกี่ยวกับดาวศุกร์มันต้องจริตกับเรา เราก็อาจเก็บตรงนั้นมาเกินพอดี แต่ความโชคดีมีลาภอาจไม่หย่อนลง เพียงแต่อะไรที่ได้มาอาจจ่ายหมด
ตอบละเอียดมากเลยค่ะ เคลียร์มาก ขอบคุณมากค่ะ อาจารย์
ขอบคุณมากคะอาจารย์เข้าใจค่ะคือลัคนาราศีไม่ใช่ราศีคะ
คืออะไรนะคะ? คำว่าราศีไม่ถูกต้องหรือคะ? ลัคนาราศีคือราศีที่ลัคนาตกอยู่หรืออย่างไร?
เข้าใจคุณละ ที่คุณพูดถึง… โหรอินเดียบางทียึดจันทร์เป็นภพ1 เรียก “ราชี” ถ้ายึดลัคนาเป็นภพ1 เรียก “หลักน่า” ที่คุณเรียก ลัคนาราศีคงเป็นคำเรียกตามโหรอินเดีย
ถ้าเป็นโหราศาสตร์สากล เขาไม่ยึดดาวจันทร์เป็นหลักเลย ราศีคือ จักรราศี ทั้ง 12 ลัคนาจะตกอยู่ตรงไหน ภพ1 เริ่มตรงนั้น แต่คำว่า “ราศี” ก็ยังหมายถึง จักราศีทั้ง 12 อยู่ดีค่ะ
แล้วก็ดูถ้วนเข็มนาฬิกาค่ะ
ของฝรั่งดูทวนเข็มนาฬิกาเสมอ ของไทยเห็นทวนเข็มเสมอเหมือนกัน แต่ ของอินเดียไม่แน่ บางทีตามเข็ม บางทีทวนเข็ม ให้ไล่ราศีเป็นหลัก จากเมษแล้วต้องไปพฤษภ เมถุน กรกฎ ฯลฯ
โหรอินเดียเห็นวิธีเขียนดวงหลายแบบ แบบทางใต้ (เป็นสี่เหลี่ยม บางอันอ่านตามเข็ม บางอันอ่านทวนเข็ม) แบบทางเหนือ ซึ่งเป็นขนมเปียกปูนที่ดูยากกว่าเพราะไม่คุ้น
☆ ในภาคพยากรณ์ จักราศี มี 3 แบบใหญ่
คือ - อ่านดาวลอย - อ่านดวงด้วยดาวเจ้าเรือน - ใช้วิธี 1+2
☆ และ เครื่องมือช่วยอ่านดวง ตัวสำคัญมาก ของ จักราศีไทย
คือ ทักษาคู่ธาตุ / ตรียางค์จักร / นวางค์จักร
☆ ส่วนวิธีย่อยๆ ที่น่าศึกษา และ นำมาประยุคต์ใช้ร่วม
คือ การอ่านแบบภารตะ ในเรื่องดาวประ / การอ่านแบบ 10 ลัคน์
ในคลิปที่ทำขึ้น เป็นการทำตามตำราสากลแบบง่ายๆ กลืนง่าย คล่องคอ นำไปใช้ได้ทันที ทายคร่าวๆ ใช้เวลาน้อย แต่แม่นใช้ได้ คลิปที่ทำขึ้นไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ลึกซึ้งหรือซับซ้อน
ที่ไม่พูดถึงโหราศาสตร์ไทยมากนัก เพราะเราก็ไม่ได้ลึกซึ้งโหราศาสตร์อินเดีย โหราศาสตร์ไทยนั้นมาจากอินเดีย อยากรู้ว่าไทยสอนโหราศาสตร์กันอย่างไร ต้องค้นลึกลงไปว่าศัพท์คำไหนมาจากภาษาอินเดียว่าอะไร แต่เรารู้โหราศาสตร์อินเดียพอแค่เอาตัวรอด ไม่ได้สนใจจะศึกษาจริงจัง เพราะอินเดียทำโหราศาสตร์ให้ยากโดยใช่เหตุ อินเดียยังใช้ปฏิทิน 100 ปีโบราณที่อิงกับนักษัตร Nakshatras เลยต้องหาเรื่องอธิบายเยอะกว่าปกติ แถมตำราอินเดียก็มีอยู่หลากหลาย อินเดียเหนือ อินเดียใต้ ภาษาที่ใช้ก็ไม่ตรงกัน บางทีแต่ละตำราก็มีรายละเอียดต่างกัน แม้แต่การเขียนดวง แต่ละภาคเขามีวิธีเขียนดวงของตัวเอง บางภาคเขียนวนซ้าย บางภาควนขวา บางภาคเขียนเป็นรูปข้าวหลามตัด เรียนหมอดูแขกแล้วปวดหัว เพราะไม่มีอะไรตายตัว
โหราศาสตร์ไทยนำคำศัพท์และตำราภาษาแขกมาใช้เลยทำให้กลืนยากตามกัน แถมเวลาแปลงจากภาษาอินเดียมาเป็นไทย บางทีเพี้ยนไปจากรูปศัพท์เดิมหรือบางทีเดาไม่ได้ว่านำคำศัพท์มาจากแขกภาคไหน แต่ถ้าอยากรู้จักตำราโหราศาสตร์ไทยจริงๆ ต้องลงไปดูความหมายที่แท้จริงของคำศัพท์แต่ละคำ ถ้ารู้ต้นตอ ก็จะเข้าใจได้ดีขึ้น อย่างคำว่า
"โหรา" มาจากคำว่า Hora ซึ่งมาจากรากศัพท์ภาษากรีก (Hora หมายถึง Hour ที่แปลว่าชั่วโมง) อย่าลืมว่า โหราศาสตร์อินเดียนั้นมาจากกรีก จากอียิปต์ จากเปอร์เซีย คำศัพท์หลายคำในภาษาอินเดียก็ทับศัพท์มาจากภาษาดั้งเดิม (เวลาเข้าไปฟังหมอดูอินเดียบรรยาย เขาจะบอกเลยว่าคำนั้นคำนี้มาจากภาษากรีก คำนี้มาจากอียิปต์) แขกนำคำว่า "โหรา" มาใช้ในหลายความหมาย ความหมายหนึ่งหมายถึง ศาสตร์ที่ใช้ดวงดาวเป็นเครื่องส่องทาง (ปัจจุบันหมอดูอินเดียเรียกโหราศาสตร์ของเขาว่า Vedic เวดิค น่าจะเป็นไทยว่า "พระเวทย์" บางภาคก็เรียก Jyotish โจดิส) อีกความหมายหนึ่งของโหรา คือการพยากรณ์แบบตอบคำถามว่า "ใช่" หรือ "ไม่ใช่" เช่น ของหายจะเจอไหม คำตอบตามการดูดวงโหราพยากรณ์คือ "เจอ" หรือ "ไม่เจอ"
"ตรียางค์" น่าจะมาจากคำว่า "Drekkanas" (ตรีคาน) รากศัพท์มาจากภาษาอียิปต์ หมอดูฝรั่งเรียก decans คือการแบ่งราศีออกเป็น 3 ส่วนย่อย แต่ละส่วนมีเจ้าเรือนย่อยเป็นดาวประจำราศีที่มีธาตุเดียวกัน เช่น ราศีเมษธาตุไฟ แบ่งเป็น 3 decans decan1 (0-10 องศา) เป็นส่วนของดาวอังคาร (ดาวประจำราศีเมษ) decan2 (11-20 องศา) เป็นส่วนของดาวอาทิตย์ (ดาวประจำของราศีสิงห์) และ decan3 (21-20 องศา) เป็นส่วนของดาวพฤหัส (ดาวเจ้าเรือนราศีธนู) พอเริ่มพฤภษก็ต้องใช้ดาวที่เป็นเจ้าเรือนของราศีธาตุดิน ส่วนที่ 1 ของพฤภษคุมด้วยดาวศุกร์ จากนั้นก็เป็นดาวพุธ (ราศีกันย์) และดาวเสาร์ (ราศีมังกร) จากนั้นก็ไล่ไปเรื่อยๆ
"นวางค์" เหมือนจะมาจากคำว่า Navamsa (นวัมซา) คือ การแบ่ง 9 คำว่า Navamsa เป็นการเอาดวงเกิดมาแบ่ง 9 แล้วเขียนเป็นดวงใหม่ หมอดูแขกเขาเอาดวงเกิดมาแตกเป็นดวงย่อยเยอะแยะ Navamsa เป็นหนึ่งในดวงย่อยเรียก D9 ตัวอย่างดวงย่อยที่ใช้ประกอบการดูดวงเกิด D1 ก็เช่น
1. Navamsa (D9) ดวงที่สร้างขึ้นใหม่โดยแบ่งราศีเป็น 9 ส่วน เอาไว้ใช้ดูเนื้อคู่และไว้ยืนยันดวงเกิด บางคนดวงเกิดอาจไม่ดี แต่ถ้าดวง D9 ดี ชีวิตก็อาจร้ายกลายเป็นดี ถ้าดีทั้งคู่ก็ฉลุย ถ้าดวงเกิดดีแต่ D9 ไม่ดี อนาคตก็อาจไม่ดี หมอดูแขกบอกถ้าดูดวงเกิด D1 อย่างเดียวจะไม่แม่น ต้องเอา D9 มาประกอบ (แขกเชื่อว่า การแบ่งราศีเป็น 9 ส่วนนั้นให้ความหมายถึงโชค เพราะภพ 9 เป็นภพโชค มีดาวพฤหัสดาวโชคใหญ่เป็นดาวประจำ)
2. Hora แบ่ง 2 (D2) ไว้ดูว่ารวยหรือไม่รวย เพราะภพ 2 คือภพเงิน ดาวศุกร์โชคเล็กเป็นดาวประจำ (นี่เป็นอีกความหมายหนึ่งของคำว่า "โหรา")
3. D10 ไว้ดูเรื่องการงาน เพราะภพ 10 เป็นภพการงาน ชื่อเสียง มีดาวเสาร์เป็นดาวประจำ
4. ฯลฯ เพราะมีอีกเป็นสิบ
พอเท่านี้ก่อน พูดเยอะกลืนยาก