Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
#สำหรับผู้ไม่สะดวกรับฟังด้วยเสียง#คำตือนของคนโบราณ จะผ่ านไปกี่ปีก็ยังใช้ได้ใครบอ กว่าคำเตือนของคนโบราณนั้นล้าสมัย ไม่สามารถนำมาปรับใช้ได้ แต่บอ กเลยว่าคำเตือนเหล่านั้นไม่เคยห า ยไปไหน มันยังสามารถใช้ได้กับปัจจุบันนี้ ไปดูกันว่าคนโบราณเขาเตือนอะไรไว้ต้นทุนของคนเรานั้น เกิดมาไม่เท่ากันหรอ กนะ ถ้าหากเราไม่มีเหมือนใครเขา เราก็ต้องพย าย าม ให้มากกว่าคนที่เขามีหล า ยๆเท่า ความเหนื่อย เป็นสิ่งที่ใครๆก็ไม่อย ากจะเจอหรอ กนะแต่บางทีมันก็เลี่ยงไม่ได้ เพื่อที่เราจะได้มีทุกอย่ างอย่ างที่หวัง เราก็ต้องยอมเหนื่อยกับมันหน่อย แต่อย่ างน้อยความเหนื่อยนี่แหละ ที่จะทำให้เราอ ดทน และสามารถรับมือกับสิ่งต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้ เพราะว่าความจนมันบังคับเรายังไงล่ะ มันสั่งให้เราต้องสู้ ไม่อย่ างนั้นเราก็จะไม่มีอะไรเลยในชีวิต แตกต่างจากคนที่ เกิดมามีพร้อมทุกอย่ าง คนพวกนี้เขาแทบจะไม่ต้องพย าย ามอะไรเลยแต่เพราะว่าเราเลือ กเกิดไม่ได้ แต่เราเลือ กที่จะกำหนดชีวิตของเราได้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องสู้ ให้ความเหนื่อยมันหล่อหลอมให้เราอ ดทน วันข้างหน้าต่อให้จะเจออะไรที่มันทำให้เหนื่อยแค่ไหน เราก็ไม่หวั่น ให้ความจนมันเป็นแรงขับเคลื่อน ให้เราสู้อย่ างมีความหวัง เพื่อที่จะหนีจากความจนนั้น ให้มันเป็นแรงฮึดสู้ให้กับเรา ไม่ใช่เอามาทำให้ เราหมดกำลังใจที่จะสู้ แล้วสักวันหนึ่งทุกอย่ างมันจะเป็นของเราเอง หลังจากทำงานต่างถิ่น มานาน 20 ปี หนุ่มใหญ่คิดว่าได้เวลากลับบ้านเกิดสักที นายจ้างถามเขาว่า เขาจะขอรับเงินโบนัสทั้ง 20 ปี กลับไป หรือจะรับคำเตือนจากเขา 3 ข้ อเขาขอเวลาคิดหนึ่งคืน ปกติเขาเป็นคนที่รัก และเคารพนายจ้างมาก เพราะนายจ้างเป็นคนเก่ง และรักใคร่ เขาอย่ างลูกหลาน มาตลอด เขาเชื่อว่าคำเตือนจากนายจ้าง ต้องมีคุณค่าต่อเขา แน่นอนรุ่งขึ้น เขาจึงบอ กนายจ้าง ว่าจะขอน้อมรับคำเตือนแทนเงินโบนัสทั้งหมด นายจ้างจึงให้คำเตือนเขาไปดังนี้ 1 อย่ าตัดสินใจด้วยความวู่วามในย ามที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวเพราะอาจทำให้ต้องเสียใจ ไปตลอ ดชีวิตเมื่อ กล่าวคำเตือนเสร็จ2 อย่ าคิดหาทางลัดสู่เป้าหมาย มันเป็นไปได้ย ากทุกอย่ างต้องยืนอยู่บนพื้นฐาน ของความเป็นจริง3 อย่ าเสียเวลาหรือเสี่ยงกับเรื่องเย้ า ย ว นจิตใจ ต้องเข้มแข็ง เพราะอาจทำให้สูญเสียอนาคต
นายจ้างมอบขน มปังให้ไป 3 ก้อน พร้อมกับค่าจ้างเดือนสุดท้าย ก่อนกำชับว่าขน มปังก้อนที่ใหญ่ที่สุด ให้นำออ กมากินหลังจากกลับ ถึงบ้านแล้วเขาเริ่มเดินทางกลับบ้าน หล า ยวันผ่ านไป ขน มปังก้อนแรกกินไปแล้วครึ่งชิ้น เมื่อเดิน มาถึงทางสามแพ่งไม่แน่ใจว่า จะเดินไปทางไหนดีถามคนที่เดินผ่ าน มา คนแรกบอ กให้เขาเดินเส้นทางลัด แม้เส้นทางจะเล็กหน่อย แต่ระยะทางใกล้กว่าเยอะ อีกคนบอ กให้เขาใช้เส้นทางใหญ่จะดีกว่า แม้หนทางจะไกลหน่อยแต่เดินสะดวกและปลอ ดภั ยด้วยใจ ที่คิดถึงเมียที่อยู่ที่บ้านอย ากกลับถึงบ้านไวๆ เขาจึงตัดสินใจ เลือ กเส้นทางลัดเมื่อเดินไปได้ไกล พอสมควรก็มีคนสวนทางมา บอ กให้เขารีบหลบไปให้พ้น มีโจรดักปล้น อยู่ข้างหน้าเขาคิดถึง คำเตือนของนายจ้าง ‘อย่ าคิดหาทางลัด สู่เป้าหมาย’ เขาจึงรีบหันกลับไป ใช้เส้นทางใหญ่ต่อไป เดินต่อไป อีกหล า ยวันขน มปังก้อนที่สองหมด ไปครึ่งชิ้น ตกค่ำหาโรงแรมเล็กๆ ริมทาง พักค้างแรมพอ กลางดึก ได้ยินเสียงร้องเพลงอันแสนไพเราะ จากสตรีนอ กโรงแรมใจจริงอย ากออ กไปดู หน้าสตรีคนนั้น หน่อยเนื่องจากเสียงเพลง ของหล่อนไพเราะจับใจเ หลือเกินแต่พอนึกถึง คำเตือนข้ อที่สองของนายจ้าง ‘อย่ าเสียเวลาหรือเสี่ยงกับสิ่งเย้ายวน’ คิดได้ดังนั้นก็สงบจิตสงบใจหลับต่อไป รุ่งเช้าเดินออ กจากห้องพัก เจ้าของโรงแรมบอ กเขาว่า โชคดีที่เห็นคุณปลอ ดภั ย เมื่อคืน มีแขกออ กมาต ามหาเสียงเพลง ของผู้หญิงถูก เจ้าของเสียงเพลง ซึ่งเป็นหญิงสติฟั่นเฟือน เอามีดไล่ฟั นจนบาดเจ็บสาหัส เดินต่อไปอีกหล า ยวัน ใกล้ถึงบ้านแล้ว ขน มปัง 2 ก้อนแรก ก็หมดพอดี รีบเร่งฝีเท้า กว่าจะเดินทางเข้าถึงหมู่บ้าน ฟ้าก็มืดสนิทแล้ว พอมาถึงหน้าบ้าน กำลังจะยื่นมือเคาะประตู ด้วยความดีใจ ก็ได้ยินเสียงเมียคุยกับผู้ช ายอีกคน ที่อยู่ในบ้านเขาโ ก ร ธจัด แน่ใจว่าเมียต้องมีชู้ แน่นอนระหว่าง ที่เขาไม่อยู่บ้าน เขาจึงคว้ามีดแล้วกำลัง จะพังประตูเข้าบ้าน ก็พอดีนึกถึงคำเตือนข้ อที่ 3 ‘อย่ าตัดสินใจ วู่วามในย ามที่มีอารมณ์ฉุนเฉียว’ พอได้สติก็เลยทรุดตัวลง นั่งอยู่หน้าบ้านทั้งคืน รุ่งเช้าพอแน่ใจ ว่าจะคุมสติ อารมณ์ตนเองได้แล้ว ค่อยตัดสินใจ ไปเคาะประตูเมีย เปิดประตู พอเห็นเขาก็แสดงอาการดีใจอย่ างมาก แต่เขากลับมีใบหน้าที่เรียบเฉยเขาถามเมียว่าผู้ช ายที่อยู่ในบ้านเป็นใคร เมียยิ้มก่อนตอบว่า ก็เป็นลูกช ายของเราไง ฉันคลอ ดลูกหลังจาก ที่คุณจากบ้านไป ไม่กี่เดือน พอดีช ายหนุ่มเดินออ กมาจากห้อง หน้าต าช ายหนุ่มเหมือนพ่อไม่มีผิ ดพ่อลูกได้เจอหน้ากัน ครั้งแรกกอ ดคอกันร้องไห้ ด้วยความตื้นตัน ทั้งพ่อแม่ลูกบนโต๊ะ กินข้าวเขาหยิบ ขน มปังก้อนที่ใหญ่ที่สุด ออ กจากกระเป๋า สัมภาระเตรียมจะแบ่งกันกินกับทุกคนในบ้าน พอฉีกขน มปังออ ก ก็พบว่ามีเงินก้อนโตฝังอยู่ในขน มปังก้อนนั้น ซึ่งก็คือโบนัส ทั้งหมดของเขาตลอ ด 20 ปี เขาเล่าเรื่องคำเตือนทั้งหมด ของนายจ้างให้ลูกเมียฟัง ท่านคือผู้ใหญ่ ที่เขารักและนับถือมาตลอ ด คำเตือนที่ทรงคุณค่า ช่วยให้เขาเดินทางกลับถึงบ้าน ด้วยความปลอ ดภั ยห นี้บุญคุณครั้งนี้เ ป็นสิ่งที่เขาและครอบครัว จะจดจำไม่มีวันลืมคำเตือนทั้ง 3 ข้ อ จึงได้กล า ยเป็นหลักการดำเนินชีวิต ของทุกคนในครอบครัวนี้ ตลอดไปครับ
#กรรมเรื่องการนินทา ว่าร้าย กล่าวร้ายผู้อื่นการนินทา เป็นการนำเรื่องจริง ที่ไม่ดีของบุคคลอื่นมาพูดใช่ไหมครับ ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกหรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็ไม่ผิดศีลใช่ไหมครับ ?การนินทา คือ พูดเรื่องของคนอื่น ทั้งที่เป็นเรื่องจริง หรือ เรื่องไม่จริงก็ได้ แต่การจะผิดศีลหรือไม่นั้นก็ต้องพิจารณา ถ้าพูดเรื่องไม่จริง เจตนาโกหกให้ผู้อื่นรับทราบในเรื่องของคนอื่น ก็ผิดศีลข้อมุสา แต่แม้กล่าวเรื่องจริงนินทาคนอื่น แต่กล่าวเรื่องจริงด้วยมีเจตนาส่อเ สี ยด ให้คนที่รับฟังไม่ชอบคนนั้น เป็นต้น การกล่าวเรื่องจริงนั้นเป็นอ กุศลก ร ร มบถ ล่วงการพูดส่อเ สี ยด ครับการใส่ร้ า ย หรือ การว่าร้ า ยเป็นการนำเรื่องไม่ดีที่ไม่จริงเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นมาพูดให้บุคคลอื่นรับทราบ เป็นเรื่องที่ผิดศีลแน่นนอน เพราะเป็นการพูดเท็จ ก็เป็นก ร ร มที่ผู้พูดได้กระทำด้วย ความตั้งใจจงใจ ผู้ที่ถูกใส่ร้ า ย หรือ ว่าร้ า ย ก็ได้รับวิบาก ใช่ไหมครับ แต่ถ้าผู้ถูกใส่ร้ า ย ไม่ทุกข์ใจ หรือ เกิดความเดือดร้อนใด ๆ หรือ ไม่ได้รับรู้กับเรื่องที่ถูกใส่ร้ า ย แสดงว่าไม่ได้รับวิบากใช่ไหมครับ ?ก ร ร มของใครก็ของคนนั้น จิตของใครก็ของคนนั้น การมีเจตนาด่า ว่าร้ า ยบุคคลอื่น เจตนาของผู้ว่าร้ า ยมีแล้ว และก็ว่าร้ า ย ก ร ร มนั้นสำเร็จจากตัวผู้กระทำเอง ก็เป็นอันผิดศีล ส่วนการที่คนที่ถูกว่าร้ า ยจะเดือดร้อนหรือไม่นั้นก็เป็นอ กุศลจิตหรือ กุศลจิตของบุคคลที่ถูกว่าร้ า ยเองไม่เกี่ยวกับก ร ร มของผู้ที่ว่าร้ า ยที่ทำสำเร็จแล้วครับ ดังเช่น พระโกกาลิกะ ไปว่าร้ า ยพระอัครสาวกทั้งสอง คือ พระสารีบุตร พระมหาโมคคัลลานะ ท่านเป็นพระอรหันต์ ย่อมไม่เดือดร้อนเกิด อ กุศลเลย แต่พระโกกาลิกะ ก็ได้ทำก ร ร มสำเร็จ ว่าร้ า ยท่านแล้ว ก ร ร มก็ให้ผล เพราะ การผิดศีล ครับ ในกรณีที่ผู้ใส่ร้ า ยนำเรื่องไม่จริงไปพูด โดยคิดว่าเป็นเรื่องจริง ผู้ที่นำไปพูดต่อ ผิดศีลข้อพูดเท็จหรือไม่ ในสังคมออน์ไลน์มีการแ ช ร์เรื่องต่าง ๆ ทั้งเรื่องธรรมะ เรื่องการเมือง เรื่องสุขภาพ มากมายหลายเรื่อง บางเรื่องก็ไม่จริงไม่ถูกต้อง ไม่ทราบเข้าข่ายผิดศีลข้อ กล่าวคำเท็จไหมครับ การพูดเท็จ จะล่วงศีลข้อมุสา จะต้องดูองค์ของข้อนี้ ซึ่งผู้พูดจะต้องรู้ว่า เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ไม่จริง แล้วมีเจตนาโกหกทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าเรื่องนั้นไม่จริง จึงชื่อว่าเป็นการกล่าวมุสาวาท แต่ถ้าไม่รู้ว่าเรื่องนั้นไม่จริง สำคัญว่า เรื่องจริง แ ช ร์ไป ก็ไม่ผิดศีลข้อมุสาวาทแต่อย่างใดก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า ไม่พ้นไปจากอ กุศล เพราะในขณะนั้นจิตเป็นอ กุศล พูดถึงเรื่องของบุคคลอื่นว่า เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ซึ่งไม่เป็นไปกับด้วยประโยชน์เลยแม้แต่น้อย เรื่องที่ควรพูดมีมากมายที่เป็นประโยชน์ แล้วไม่พูด เพราะถูกอ กุศลครอบงำ ในขณะนั้นซึ่งจะแตกต่างไปจากขณะที่เป็นกุศลอย่างแน่นอน ถ้าเป็นคำไม่จริง ก็ผิดศีลข้อพูดเท็จว่าร้ า ย กล่าวร้ า ย ให้ร้ า ย เป็นอ กุศลจิตที่เกิดขึ้น ยิ่งถ้าคำพูดส่อเ สี ยดเพื่อให้ผู้อื่นแตกแยกกัน หรือ คำพูดส่อเ สี ยดเพื่อมุ่งที่จะทำให้ตนเป็นที่รักเป็นที่ไว้วางใจนั้น เป็นวจีทุจริต เป็นอ กุศลก ร ร มบถ เมื่อถึงคราวให้ผลอย่างหนักย่อมทำให้ไปเกิดในอบายภูมิ อย่างเบาเมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ย่อมทำให้แตกจากมิตร คบกับใครไม่นานก็แตกแยกกันโดยมูลแล้ว การพูดส่อเ สี ยด เกิดจากโลภะ ความโลภ ติดข้องยินดี พอใจ บ้าง เกิดจากโทสะ ความโกรธ ความไม่พอใจ บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องของบุคคลผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่อย่างแท้จริง ผู้ถูกว่าร้ า ย เป็นการได้รับผลของก ร ร มที่ตนเองได้กระทำแล้วแต่ถ้าเกิดความทุกข์ใจเ สี ยใจ ก็เป็นการสะสมอ กุศล เป็นของตนเอง ความเข้าใจพระธรรมเท่านั้นที่จะทำให้บุคคลนั้นมีความเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริงและคลายความทุกข์ใจลงได้ ตามกำลังปัญญาของตนก็ควรที่จะมีการพิจารณาใคร่ครวญก่อนว่า เป็นจริงอย่างนั้นหรือไม่ ก่อนที่จะส่งต่อ เพราะถ้าส่งเรื่องที่ไม่จริง ให้กับคนอื่น ก็ไม่เป็นประโยชน์เลย แม้แต่ในเรื่องของธรรมก็ต้องเป็นเรื่องของธรรม ซึ่งเป็นการกล่าวถึงสิ่งที่มีจริง ๆ เท่านั้น ครับ ครับขออนุโมทนา
#อย่าเหยียบคนอื่นให้ต่ำ เพราะมันไม่ได้ทำให้ใจเราสูงขึ้นจริงๆ การพูดจาดู ถู ก หรือเ ห ยี ย ดหย ามคนอื่นนั้น ถือเป็นสิ่งที่ไม่ดี และไม่ควรปฏิบัติเอาเสียเลย เพราะเป็นนิสัยที่ผู้ที่มีการศึกษาหรือปัญญาชนเค้าไม่นิยมทำกันแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ในสังคมปัจจุบัน ที่ยังคงมีการดู ถู กเ ห ยี ย ดหย ามกันให้เห็นอยู่บ่อยๆ ในหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น การล้อเลียน การพูดจาถากถาง ดู ถู กดูแคลนคนที่ด้อยกว่า เพียงเพราะความสนุก สะใจได้สนองกิเลสตัณหาที่ตัวเองกักเก็บมานาน จนล้นออกมาให้ใครๆ ได้เห็นทางการกระทำภายนอก รู้ไหมว่า “การดู ถู ก” เ ห ยี ย ดหย ามคนอื่นบ่อยๆ มันจะกลายเป็นนิสัยที่เราย ากจะสลัดออก หรือบางคนทำไปด้วยความเคยชินก็มีโดยการล้อเลียนหรือเรียกชื่อคนอื่นตามปมด้อยของเขา เช่น บางคนมีรูปร่างเตี้ยก็เรียกเขาว่า ไอ้เตี้ย บางคนแคระแกรนก็เรียกไอ้แคระ ไปสารพัดยิ่งไปกว่านั้นบางคนมีความพิการทางอวัยวะต่างๆของร่างกายก็เรียกซ้ำปมด้อยเขา เช่น ไอ้ดำ ไอ้อ้วน ไอ้เป๋ และอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้แม้ว่าผู้พูดเองจะคิดว่าเป็นเพียงแค่การหยอกล้อ หรือแค่พูดเล่นๆ พอสนุกปาก แต่เชื่อซิ ร้อยทั้งร้อยไม่มีใครชอบหรอก! เพราะเขาล้วนเป็นผู้ถูกกระทำ และถูก ข่ ม เหงทางจิตใจอย่ างย ากที่กล่ำกลืนฝืนทน และบ่อยครั้งที่คนเหล่านี้มีความรู้สึกท้อแท้ทั้งชีวิตและจิตใจในความต่ำต้อยและความไม่เท่าเทียมกันของความเป็นคนในสังคมการ ล้อเลียนเหล่านี้นับว่าเป็นเรื่องที่หนักหนาสากันอยู่พอสมควรสำหรับคนที่ถูกกระทำแต่ที่ร้ า ยแรงไปกว่านั้น เมื่อไม่นานมานี้ มีการด่าว่าดู ถู กแม้กระทั้งคนพิการ นี่ไม่ใช่การล้อเลียนหรือล้อเล่น แต่เป็นการด่าเพื่อความสะใจของผู้ที่มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงและมีอวัยวะครบ 32 เชื่อไหมว่าสิ่งนี้ ยังมีอยู่ในสังคมไทยถือเป็นเรื่องที่น่าอนาถใจอย่ างยิ่ง ที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลยนอกจากการดู ถู กทางด้านร่างกายแล้ว ในสังคมยังมีการดู ถู ก ทั้งในเรื่องของฐานะการศึกษา การเ ห ยี ย ดสีผิว การเทียบชนชั้นต่างๆ นานามาถึงตรงนี้ อย ากให้รู้ว่าการดู ถู กคนอื่นนั้น มันไม่ได้เป็นการทำให้ตัวผู้พูดดูสูงส่งขึ้นหรือได้รับการยอมรับจากสังคมหรอกในทางกลับกัน คนที่พูดนั่นแหละจะยิ่งดูตกต่ำลงอย่ างมากและถูกสังคมประณามถึงพฤติก ร ร มที่แสดงออกมา เพราะสิ่งเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงพื้นฐานของจิตใจ การอบรมเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม การศึกษา ของคนคนนั้นมากเพียงใด จะว่าไปแล้ว คนที่ชอบด่าว่า พูดจาดู ถู ก หรือเ ห ยี ย ดหย ามคนอื่น ก็น่าสงสารและน่าสังเวชอยู่นัยๆ เพราะพวกเขาไม่เคยได้มองเห็นตัวเอง หรือไม่เคยคิดเลยว่า คนเราทุกคนที่เกิดมาก็ล้วนมีค่าด้วยกันทั้งนั้น อาจไม่มีค่ากับคนพูดแต่ก็มีค่ากับพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิทมิตรสหายของเขาเอง หรือเขาอาจมีความสามารถที่แตกต่างกันนั่นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะทุกคนล้วนมีความความสามารถที่ต่างกัน นั่นคือเรื่องจริงและมีอีกหนึ่งเรื่องจริง ที่คนที่ชอบดู ถู กคนอื่นคงอาจจะยังไม่รู้สินะว่า คนเราทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ ล้วนต้อง เจ็บ ต้องแก่ ต้องต า ย ด้วยกันทั้งนั้น แทนที่จะพูดจาดู ถู กเ ห ยี ย ดหย ามให้เจ็บช้ำน้ำใจกัน แต่หันมาพูดจากันดีๆ พูดในสิ่งที่เป็นมงคล ให้เกิดความรักความเมตตาต่อกันจะดีกว่าไหม เพื่อที่จะได้ไม่ต้องสร้าง ความจงเ ก ลี ย ดจงชังและการโกรธแ ค้ นกันไปตลอดชีวิต เพราะคนเราทุกคนก็อย ากอยู่บนโลกนี้ด้วยความสงบสุขกันทั้งนั้น!สุดท้ายนี้ สิ่งที่อย ากจะบอก…คือ การดู ถู กคนอื่นหรือคนที่ด้อยกว่าไม่ใช่ซึ่งที่ดีคุณอาจสนุก หรือสะใจ แต่สิ่งเหล่านี้ มันอยู่บนความทุกข์คนอื่นนะ เพียงแค่คิดก็ทำให้จิตใจเศร้าหมองและขุ่นมัวแล้วดังนั้น ขอให้ทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่ า นระลึกไว้เสมอว่า การดู ถู กเ ห ยี ย ดหย ามคนอื่นนั้น มันเป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำเป็นอย่ างยิ่งและเป็นสิ่งที่คนดีๆ เขาไม่ทำกันค่ะ เพราะฉะนั้น อย่ าทำนะครับ#ขอให้ได้พิจารณาด้วยสติ ด้วยปัญญา ด้วยภูมิธรรม คุณพระรักษาเทวดาคุ้มครอง ขอให้มีความเจริญในธรรม ทุกท่าน ทุกคนครับ
เข้าใจตั้งแต่อายุ24ปีแล้วคะ เข้าวัดถือศีลตลอดมา มีเวลาก็ไปตลอด เพราะชัวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอนเลยสักอย่าง ทุกวันถึงจะปล่อยวางไม่ได้หมด แต่ก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา 😊😊😊😊😊 ทำให้เรามีสติ ประคับประคองใช้ชีวิต ให้ผ่านมาถึงทุกวันนี้คะ
น้อมกราบสาธุอนุโ นาสาธุสาธุครับคุณอานนท์❤❤❤❤
คนเรา เวลา ตกฟาก เวลา ชีวิต แตกต่างกัน นะค๊ะ เคราะห์กรรม ก็ ไม่ เหมือน กัน ควร ทํา สิ่งดีๆ อย่า ทําร้าย จิตใจ ผู้อื่น ชอบฟัง มากค่ะ สาธุ
เตือนสติกับช่วงเวลาชีวิตตอนนี้ได้ดีครับ ,,,🙏🙏🙏
❤❤❤❤❤❤
พบไม้งามเมื่อยามขวานบิ่น/แต่ย้อนอดีตที่ผ่านมาไม่ได้
ชอบทําบุญ ค่ะ ชอบมาก ขนมปัง ทําให้ มีชีวิต ค่ะ
สาธุค่ะ กับ นางสาว ฉัตรมณี ภิรมย์ น้องเติ้ล และ ครอบครัว พ่อ เกรียงไกร ภิรมย์ แม่ อรวรรณ ภิรมย์ จาก ต.เขาขาว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง.
พึ่งฟังครั้งแรกก็ถูกใจมาก สำหรับข้อคิดดีดี ขอบคุณค่ะ
ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ🙏🙏🙏 ได้ข้อคิดดีๆมากเลยครับ
เยี่ยมเลยค่ะ สาธุ
สาธุธรรม ครับผม น้อมรับ สิ่งดีๆครับผม❤❤❤
เรียน อุตสาหกรรมการโรงแรม และ การ ท่องเที่ยว ค่ะ สาธุ
สาธุ
สาธุๆคะ
สาธุ สาธุ คะท่านอานนท์
กราบสาธุๆๆค่ะ
ขออนุญาติแชร์นะคะ
สาธุ 🙏🏾🙏🏾🙏🏾
สาธุๆๆๆอนุโมทามิ
กราบสาธุค่ะ
ขอบคุณมากนะคะข้อคิดดีดีฟังจบแล้วกลับมาดูตัวเองค่ะ นำไปปรับข้อที่ยังขาด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดค่ะ ส่งต่อให้คนที่เรารักด้วยนะคะ คลิปดีต้องแชร์ค่ะ❤❤❤
น้อมรับคำแนะนำค่ะ❤❤❤❤
ดีค่ะ ขอบคุณมากค่ะสาธุค่ะ
ขอบคุณครับ
❤🙏ที่เขาว่าคนล้มอย่าข้าม❤🙏❤️🙏ขอบคุณคับ❤️🙏
😊น้อมรับคะท่าน😊
ขอบคุณค่ะ😊😊
เป็นคำเตือนที่มีค่ามาก
สาทุ สาทุ สาทุ
ในโลกนี้ไม่มีใครผิดถูกเพราะมีแค่อะไรผิดอะไรถูกต้องเอาตัวรอดในภพชาติและสังสารวัฎไม่มีอะไรมาก
ขอบคุณค่ะอาจารย์สบายใจดีคะฟังแล้ว
ใช่ค่ะ ได้ฟังแล้วรู้สึกสบายใจค่ะ❤❤
สาธุ🙏ค่ะใช่ค่ะดูถูกเหยีอดยามกันมันเป็นสิ่งไม่ดีไม่มีใครปรารถนาค่ะ..🌻🌻🌻
ชฃชชงชชฃชฃงฃชฃชชฃฃชงชชฃฃชชฃชฃฃชชงฃชชฃชงชฃชฃชฃฃฃฃชชชฃฃชฃชชฃชฃชชฃชชฃงชชชชชงชชฃฃชชฃชฃชชฃชชชฃฃชงชชฃชชฃฃงชชชชชชฃฃชฃฃชชชชฃฃชฃชงฃฃชชชชฃฃงงชฃชฃฃชฃฃชฃชงฃชชชฃฃฃชชฃชชฃชฃฃงชฃฃฃฃชงฃฃชฃฃฃงฃชงงชฃชงฃช.ฃงฃฃฃงชชงงงฃง.ฃฃฃฃงง
ฃงฃ
งฃฃฃ
ฃฃง
งงง
สาธุๆเตือนสติใด้ดีคะ
เท้าข้างนึงก้าวลงโลงแล้ว. ยังเข้าใจไม่หมดเลย
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
ทุกสิ่งที่เราได้รับรู้และได้พบเจอไม่ใช่ความบังเอิญเลย เพราะแท้ที่จริงไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์คือเป็นผลการกระทำของเราเองล้วนๆ
สาธุครับ สาธุค่ะ🙏🙏🙏🧚🧚🧚😎
เข้าใจชีวิต คือเหมือนตัวเองถึงจะเข้าใจชีวิต ทำเหมือนตัวเองชอบเหมือนตัวเองจึงจะถูกต้อง
❤❤❤❤❤❤❤
ไม่ทันแล้วคับ ครึ่งชีวิตที่ผ่านมา
เป็นเรื่องปกติ บนเส้นเวลา...และเส้นเวลาก็ มีหลายเส้น....แล้วแต่ จะอยู่เส้นใด ตัววัด คือรู้เท่าปัจจุบัน ด้วย อานาปานสติ......ครับ.
นิ่ง สงบ
สว.แล้วเพิ่งเข้าใจมากแต่ยังไม่หมดเลย😂😂😂
❤ผมรู้หมดแล้วครับอาจารย์ทุกคำผมเปิดฟังแค่ 1 รอบผมก็จำได้หมดแล้วทำไมจะให้ผมเปิดแล้วเปิดอีก
🙏🙏🙏
🥰😍😘❤❤❤❤❤❤❤❤❤
📌ปักไว้ฟัง
🙏🙏🙏👍👍👍👍👍👍👍👍👍👍♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️
สาธุคะ
ขอบคุณค่ะ
ไม่เคยนึดลบผิดก็ย่อหนิ่งทะนงตนกับใครค่ะเพราะสำเหนียกสำรวมจิตกายวาจาของเรายั่เสมอค่ะว่าเราเกิดมาจากดินค่ะต่อให้ไปได้สุงขนาดไหนจะกลับมาตำ่วุดชั้นก้ไม่ยี่หระกับมันคาะเพาะนี่คือธรรมดาของโลกคาะมีขึ้นก้อต้องมีลงมีลงก้อย่อมมีขึ้นค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
❤บุญต่อบุญสาธุๆ🙏🙏🙏🌹🌹🌹🌹💎💎💎💎💎💸💸💸💸💸💸💸🌈☁🥰☁🥰☁🥰☁🥰☁⛰️🏞🐉🐉
สาธุครับ
สาธุค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ🙏🙏🙏
ผิดถูกสุกทุกข์จนมีดีชั้วเกิดตายสวรรน์กับนรก
สาธุค่ะ
สาธุๆๆค่ะ
#สำหรับผู้ไม่สะดวกรับฟังด้วยเสียง
#คำตือนของคนโบราณ จะผ่ านไปกี่ปีก็ยังใช้ได้
ใครบอ กว่าคำเตือนของคนโบราณนั้นล้าสมัย ไม่สามารถนำมาปรับใช้ได้ แต่บอ กเลยว่าคำเตือนเหล่านั้นไม่เคยห า ยไปไหน มันยังสามารถใช้ได้กับปัจจุบันนี้ ไปดูกันว่าคนโบราณเขาเตือนอะไรไว้
ต้นทุนของคนเรานั้น เกิดมาไม่เท่ากันหรอ กนะ ถ้าหากเราไม่มีเหมือนใครเขา เราก็ต้องพย าย าม ให้มากกว่าคนที่เขามีหล า ยๆเท่า ความเหนื่อย เป็นสิ่งที่ใครๆก็ไม่อย ากจะเจอหรอ กนะ
แต่บางทีมันก็เลี่ยงไม่ได้ เพื่อที่เราจะได้มีทุกอย่ างอย่ างที่หวัง เราก็ต้องยอมเหนื่อยกับมันหน่อย แต่อย่ างน้อยความเหนื่อยนี่แหละ ที่จะทำให้เราอ ดทน และสามารถรับมือกับสิ่งต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้
เพราะว่าความจนมันบังคับเรายังไงล่ะ มันสั่งให้เราต้องสู้ ไม่อย่ างนั้นเราก็จะไม่มีอะไรเลยในชีวิต แตกต่างจากคนที่ เกิดมามีพร้อมทุกอย่ าง คนพวกนี้เขาแทบจะไม่ต้องพย าย ามอะไรเลย
แต่เพราะว่าเราเลือ กเกิดไม่ได้ แต่เราเลือ กที่จะกำหนดชีวิตของเราได้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องสู้ ให้ความเหนื่อยมันหล่อหลอมให้เราอ ดทน วันข้างหน้าต่อให้จะเจออะไรที่มันทำให้เหนื่อยแค่ไหน เราก็ไม่หวั่น ให้ความจนมันเป็นแรงขับเคลื่อน ให้เราสู้อย่ างมีความหวัง เพื่อที่จะหนีจากความจนนั้น ให้มันเป็นแรงฮึดสู้ให้กับเรา ไม่ใช่เอามาทำให้ เราหมดกำลังใจที่จะสู้ แล้วสักวันหนึ่งทุกอย่ างมันจะเป็นของเราเอง หลังจากทำงานต่างถิ่น มานาน 20 ปี หนุ่มใหญ่คิดว่าได้เวลากลับบ้านเกิดสักที นายจ้างถามเขาว่า เขาจะขอรับเงินโบนัสทั้ง 20 ปี กลับไป หรือจะรับคำเตือนจากเขา 3 ข้ อเขาขอเวลาคิดหนึ่งคืน ปกติเขาเป็นคนที่รัก และเคารพนายจ้างมาก เพราะนายจ้างเป็นคนเก่ง และรักใคร่ เขาอย่ างลูกหลาน มาตลอด
เขาเชื่อว่าคำเตือนจากนายจ้าง ต้องมีคุณค่าต่อเขา แน่นอนรุ่งขึ้น เขาจึงบอ กนายจ้าง ว่าจะขอน้อมรับคำเตือนแทนเงินโบนัสทั้งหมด นายจ้างจึงให้คำเตือนเขาไปดังนี้
1 อย่ าตัดสินใจด้วยความวู่วามในย ามที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวเพราะอาจทำให้ต้องเสียใจ ไปตลอ ดชีวิตเมื่อ กล่าวคำเตือนเสร็จ
2 อย่ าคิดหาทางลัดสู่เป้าหมาย มันเป็นไปได้ย ากทุกอย่ างต้องยืนอยู่บนพื้นฐาน ของความเป็นจริง
3 อย่ าเสียเวลาหรือเสี่ยงกับเรื่องเย้ า ย ว นจิตใจ ต้องเข้มแข็ง เพราะอาจทำให้สูญเสียอนาคต
นายจ้างมอบขน มปังให้ไป 3 ก้อน พร้อมกับค่าจ้างเดือนสุดท้าย ก่อนกำชับว่าขน มปังก้อนที่ใหญ่ที่สุด ให้นำออ กมากินหลังจากกลับ ถึงบ้านแล้วเขาเริ่มเดินทางกลับบ้าน หล า ยวันผ่ านไป ขน มปังก้อนแรกกินไปแล้วครึ่งชิ้น เมื่อเดิน มาถึงทางสามแพ่งไม่แน่ใจว่า จะเดินไปทางไหนดีถามคนที่เดินผ่ าน มา คนแรกบอ กให้เขาเดินเส้นทางลัด แม้เส้นทางจะเล็กหน่อย แต่ระยะทางใกล้กว่าเยอะ อีกคนบอ กให้เขาใช้เส้นทางใหญ่จะดีกว่า แม้หนทางจะไกลหน่อย
แต่เดินสะดวกและปลอ ดภั ยด้วยใจ ที่คิดถึงเมียที่อยู่ที่บ้านอย ากกลับถึงบ้านไวๆ เขาจึงตัดสินใจ เลือ กเส้นทางลัดเมื่อเดินไปได้ไกล พอสมควรก็มีคนสวนทางมา บอ กให้เขารีบหลบไปให้พ้น มีโจรดักปล้น อยู่ข้างหน้าเขาคิดถึง คำเตือนของนายจ้าง ‘อย่ าคิดหาทางลัด สู่เป้าหมาย’ เขาจึงรีบหันกลับไป ใช้เส้นทางใหญ่ต่อไป เดินต่อไป อีกหล า ยวันขน มปังก้อนที่สองหมด ไปครึ่งชิ้น ตกค่ำหาโรงแรมเล็กๆ ริมทาง พักค้างแรมพอ กลางดึก ได้ยินเสียงร้องเพลงอันแสนไพเราะ จากสตรีนอ กโรงแรมใจจริงอย ากออ กไปดู หน้าสตรีคนนั้น หน่อยเนื่องจากเสียงเพลง ของหล่อนไพเราะจับใจเ หลือเกินแต่พอนึกถึง คำเตือนข้ อที่สองของนายจ้าง ‘อย่ าเสียเวลาหรือเสี่ยงกับสิ่งเย้ายวน’ คิดได้ดังนั้นก็สงบจิตสงบใจหลับต่อไป รุ่งเช้าเดินออ กจากห้องพัก เจ้าของโรงแรมบอ กเขาว่า โชคดีที่เห็นคุณปลอ ดภั ย เมื่อคืน มีแขกออ กมาต ามหาเสียงเพลง ของผู้หญิงถูก เจ้าของเสียงเพลง ซึ่งเป็นหญิงสติฟั่นเฟือน เอามีดไล่ฟั นจนบาดเจ็บสาหัส เดินต่อไปอีกหล า ยวัน ใกล้ถึงบ้านแล้ว ขน มปัง 2 ก้อนแรก ก็หมดพอดี รีบเร่งฝีเท้า กว่าจะเดินทางเข้าถึงหมู่บ้าน ฟ้าก็มืดสนิทแล้ว
พอมาถึงหน้าบ้าน กำลังจะยื่นมือเคาะประตู ด้วยความดีใจ ก็ได้ยินเสียงเมียคุยกับผู้ช ายอีกคน ที่อยู่ในบ้านเขาโ ก ร ธจัด แน่ใจว่าเมียต้องมีชู้ แน่นอนระหว่าง ที่เขาไม่อยู่บ้าน เขาจึงคว้ามีดแล้วกำลัง จะพังประตูเข้าบ้าน ก็พอดีนึก
ถึงคำเตือนข้ อที่ 3 ‘อย่ าตัดสินใจ วู่วามในย ามที่มีอารมณ์ฉุนเฉียว’ พอได้สติก็เลยทรุดตัวลง นั่งอยู่หน้าบ้านทั้งคืน รุ่งเช้าพอแน่ใจ ว่าจะคุมสติ อารมณ์ตนเองได้แล้ว ค่อยตัดสินใจ ไปเคาะประตูเมีย เปิดประตู พอเห็นเขาก็แสดงอาการดีใจอย่ างมาก แต่เขากลับมีใบหน้าที่เรียบเฉยเขาถามเมียว่าผู้ช ายที่อยู่ในบ้านเป็นใคร เมียยิ้มก่อนตอบว่า ก็เป็นลูกช ายของเราไง ฉันคลอ ดลูกหลังจาก ที่คุณจากบ้านไป ไม่กี่เดือน พอดีช ายหนุ่มเดินออ กมาจากห้อง หน้าต าช ายหนุ่มเหมือนพ่อไม่มีผิ ด
พ่อลูกได้เจอหน้ากัน ครั้งแรกกอ ดคอกันร้องไห้ ด้วยความตื้นตัน ทั้งพ่อแม่ลูกบนโต๊ะ กินข้าวเขาหยิบ ขน มปังก้อนที่ใหญ่ที่สุด ออ กจากกระเป๋า สัมภาระเตรียมจะแบ่งกันกินกับทุกคนในบ้าน พอฉีกขน มปังออ ก ก็พบว่ามีเงินก้อนโต
ฝังอยู่ในขน มปังก้อนนั้น ซึ่งก็คือโบนัส ทั้งหมดของเขาตลอ ด 20 ปี เขาเล่าเรื่องคำเตือนทั้งหมด ของนายจ้างให้ลูกเมียฟัง ท่านคือผู้ใหญ่ ที่เขารักและนับถือมาตลอ ด คำเตือนที่ทรงคุณค่า ช่วยให้เขาเดินทางกลับถึงบ้าน ด้วยความปลอ ดภั ย
ห นี้บุญคุณครั้งนี้เ ป็นสิ่งที่เขาและครอบครัว จะจดจำไม่มีวันลืมคำเตือนทั้ง 3 ข้ อ จึงได้กล า ยเป็นหลักการดำเนินชีวิต ของทุกคนในครอบครัวนี้ ตลอดไปครับ
#กรรมเรื่องการนินทา ว่าร้าย กล่าวร้ายผู้อื่น
การนินทา เป็นการนำเรื่องจริง ที่ไม่ดีของบุคคลอื่นมาพูดใช่ไหมครับ ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกหรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็ไม่ผิดศีลใช่ไหมครับ ?
การนินทา คือ พูดเรื่องของคนอื่น ทั้งที่เป็นเรื่องจริง หรือ เรื่องไม่จริงก็ได้ แต่การจะผิดศีลหรือไม่นั้นก็ต้องพิจารณา ถ้าพูดเรื่องไม่จริง เจตนาโกหกให้ผู้อื่นรับทราบในเรื่องของคนอื่น ก็ผิดศีลข้อมุสา แต่แม้กล่าวเรื่องจริงนินทาคนอื่น แต่กล่าวเรื่องจริงด้วยมีเจตนาส่อเ สี ยด ให้คนที่รับฟังไม่ชอบคนนั้น เป็นต้น การกล่าวเรื่องจริงนั้นเป็นอ กุศลก ร ร มบถ ล่วงการพูดส่อเ สี ยด ครับ
การใส่ร้ า ย หรือ การว่าร้ า ยเป็นการนำเรื่องไม่ดีที่ไม่จริงเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นมาพูดให้บุคคลอื่นรับทราบ เป็นเรื่องที่ผิดศีลแน่นนอน เพราะเป็นการพูดเท็จ ก็เป็นก ร ร มที่ผู้พูดได้กระทำด้วย ความตั้งใจจงใจ ผู้ที่ถูกใส่ร้ า ย หรือ ว่าร้ า ย ก็ได้รับวิบาก ใช่ไหมครับ แต่ถ้าผู้ถูกใส่ร้ า ย ไม่ทุกข์ใจ หรือ เกิดความเดือดร้อนใด ๆ หรือ ไม่ได้รับรู้กับเรื่องที่ถูกใส่ร้ า ย แสดงว่าไม่ได้รับวิบากใช่ไหมครับ ?
ก ร ร มของใครก็ของคนนั้น จิตของใครก็ของคนนั้น การมีเจตนาด่า ว่าร้ า ยบุคคลอื่น เจตนาของผู้ว่าร้ า ยมีแล้ว และก็ว่าร้ า ย ก ร ร มนั้นสำเร็จจากตัวผู้กระทำเอง ก็เป็นอันผิดศีล ส่วนการที่คนที่ถูกว่าร้ า ยจะเดือดร้อนหรือไม่นั้นก็เป็นอ กุศลจิตหรือ กุศลจิตของบุคคลที่ถูกว่าร้ า ยเอง
ไม่เกี่ยวกับก ร ร มของผู้ที่ว่าร้ า ยที่ทำสำเร็จแล้วครับ ดังเช่น พระโกกาลิกะ ไปว่าร้ า ยพระอัครสาวกทั้งสอง คือ พระสารีบุตร พระมหาโมคคัลลานะ ท่านเป็นพระอรหันต์ ย่อมไม่เดือดร้อนเกิด อ กุศลเลย แต่พระโกกาลิกะ ก็ได้ทำก ร ร มสำเร็จ ว่าร้ า ยท่านแล้ว ก ร ร มก็ให้ผล เพราะ การผิดศีล ครับ ในกรณีที่ผู้ใส่ร้ า ยนำเรื่องไม่จริงไปพูด โดยคิดว่าเป็นเรื่องจริง ผู้ที่นำไปพูดต่อ ผิดศีลข้อพูดเท็จหรือไม่ ในสังคมออน์ไลน์มีการแ ช ร์เรื่องต่าง ๆ ทั้งเรื่องธรรมะ เรื่องการเมือง เรื่องสุขภาพ มากมายหลายเรื่อง บางเรื่องก็ไม่จริงไม่ถูกต้อง ไม่ทราบเข้าข่ายผิดศีลข้อ กล่าวคำเท็จไหมครับ การพูดเท็จ จะล่วงศีลข้อมุสา จะต้องดูองค์ของข้อนี้ ซึ่งผู้พูดจะต้องรู้ว่า เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ไม่จริง แล้วมีเจตนาโกหกทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าเรื่องนั้นไม่จริง จึงชื่อว่าเป็นการกล่าวมุสาวาท แต่ถ้าไม่รู้ว่าเรื่องนั้นไม่จริง สำคัญว่า เรื่องจริง แ ช ร์ไป ก็ไม่ผิดศีลข้อมุสาวาทแต่อย่างใด
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า ไม่พ้นไปจากอ กุศล เพราะในขณะนั้นจิตเป็นอ กุศล พูดถึงเรื่องของบุคคลอื่นว่า เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ซึ่งไม่เป็นไปกับด้วยประโยชน์เลยแม้แต่น้อย เรื่องที่ควรพูดมีมากมายที่เป็นประโยชน์ แล้วไม่พูด เพราะถูกอ กุศลครอบงำ ในขณะนั้นซึ่งจะแตกต่างไปจากขณะที่เป็นกุศลอย่างแน่นอน ถ้าเป็นคำไม่จริง ก็ผิดศีลข้อพูดเท็จ
ว่าร้ า ย กล่าวร้ า ย ให้ร้ า ย เป็นอ กุศลจิตที่เกิดขึ้น ยิ่งถ้าคำพูดส่อเ สี ยดเพื่อให้ผู้อื่นแตกแยกกัน หรือ คำพูดส่อเ สี ยดเพื่อมุ่งที่จะทำให้ตนเป็นที่รักเป็นที่ไว้วางใจนั้น เป็นวจีทุจริต เป็นอ กุศลก ร ร มบถ เมื่อถึงคราวให้ผลอย่างหนักย่อมทำให้ไปเกิดในอบายภูมิ อย่างเบาเมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ย่อมทำให้แตกจากมิตร คบกับใครไม่นานก็แตกแยกกัน
โดยมูลแล้ว การพูดส่อเ สี ยด เกิดจากโลภะ ความโลภ ติดข้องยินดี พอใจ บ้าง เกิดจากโทสะ ความโกรธ ความไม่พอใจ บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องของบุคคลผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่อย่างแท้จริง ผู้ถูกว่าร้ า ย เป็นการได้รับผลของก ร ร มที่ตนเองได้กระทำแล้ว
แต่ถ้าเกิดความทุกข์ใจเ สี ยใจ ก็เป็นการสะสมอ กุศล เป็นของตนเอง ความเข้าใจพระธรรมเท่านั้นที่จะทำให้บุคคลนั้นมีความเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริงและคลายความทุกข์ใจลงได้ ตามกำลังปัญญาของตน
ก็ควรที่จะมีการพิจารณาใคร่ครวญก่อนว่า เป็นจริงอย่างนั้นหรือไม่ ก่อนที่จะส่งต่อ เพราะถ้าส่งเรื่องที่ไม่จริง ให้กับคนอื่น ก็ไม่เป็นประโยชน์เลย แม้แต่ในเรื่องของธรรมก็ต้องเป็นเรื่องของธรรม ซึ่งเป็นการกล่าวถึงสิ่งที่มีจริง ๆ เท่านั้น ครับ ครับขออนุโมทนา
#อย่าเหยียบคนอื่นให้ต่ำ เพราะมันไม่ได้ทำให้ใจเราสูงขึ้น
จริงๆ การพูดจาดู ถู ก หรือเ ห ยี ย ดหย ามคนอื่นนั้น ถือเป็นสิ่งที่ไม่ดี และไม่ควรปฏิบัติเอาเสียเลย
เพราะเป็นนิสัยที่ผู้ที่มีการศึกษาหรือปัญญาชนเค้าไม่นิยมทำกันแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ในสังคมปัจจุบัน ที่ยังคงมีการดู ถู กเ ห ยี ย ดหย ามกันให้เห็นอยู่บ่อยๆ ในหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น การล้อเลียน การพูดจาถากถาง ดู ถู กดูแคลนคนที่ด้อยกว่า เพียงเพราะความสนุก สะใจ
ได้สนองกิเลสตัณหาที่ตัวเองกักเก็บมานาน จนล้นออกมาให้ใครๆ ได้เห็นทางการกระทำภายนอก รู้ไหมว่า “การดู ถู ก” เ ห ยี ย ดหย ามคนอื่นบ่อยๆ มันจะกลายเป็นนิสัยที่เราย ากจะสลัดออก หรือบางคนทำไปด้วยความเคยชินก็มีโดยการล้อเลียนหรือเรียกชื่อคนอื่นตามปมด้อยของเขา เช่น บางคนมีรูปร่างเตี้ยก็เรียกเขาว่า ไอ้เตี้ย บางคนแคระแกรนก็เรียกไอ้แคระ ไปสารพัด
ยิ่งไปกว่านั้นบางคนมีความพิการทางอวัยวะต่างๆของร่างกายก็เรียกซ้ำปมด้อยเขา เช่น ไอ้ดำ ไอ้อ้วน ไอ้เป๋ และอื่นๆ อีกมากมาย
สิ่งเหล่านี้แม้ว่าผู้พูดเองจะคิดว่าเป็นเพียงแค่การหยอกล้อ หรือแค่พูดเล่นๆ พอสนุกปาก แต่เชื่อซิ ร้อยทั้งร้อยไม่มีใครชอบหรอก! เพราะเขาล้วนเป็นผู้ถูกกระทำ และถูก ข่ ม เหงทางจิตใจอย่ างย ากที่กล่ำกลืนฝืนทน และบ่อยครั้งที่คนเหล่านี้มีความรู้สึกท้อแท้ทั้งชีวิตและจิตใจในความต่ำต้อยและความไม่เท่าเทียมกันของความเป็นคนในสังคมการ ล้อเลียนเหล่านี้นับว่าเป็นเรื่องที่หนักหนาสากันอยู่พอสมควรสำหรับคนที่ถูกกระทำ
แต่ที่ร้ า ยแรงไปกว่านั้น เมื่อไม่นานมานี้ มีการด่าว่าดู ถู กแม้กระทั้งคนพิการ นี่ไม่ใช่การล้อเลียนหรือล้อเล่น แต่เป็นการด่าเพื่อความสะใจของผู้ที่มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงและมีอวัยวะครบ 32 เชื่อไหมว่าสิ่งนี้
ยังมีอยู่ในสังคมไทยถือเป็นเรื่องที่น่าอนาถใจอย่ างยิ่ง ที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย
นอกจากการดู ถู กทางด้านร่างกายแล้ว ในสังคมยังมีการดู ถู ก ทั้งในเรื่องของฐานะ
การศึกษา การเ ห ยี ย ดสีผิว การเทียบชนชั้นต่างๆ นานา
มาถึงตรงนี้ อย ากให้รู้ว่าการดู ถู กคนอื่นนั้น มันไม่ได้เป็นการทำให้ตัวผู้พูดดูสูงส่งขึ้น
หรือได้รับการยอมรับจากสังคมหรอกในทางกลับกัน คนที่พูดนั่นแหละจะยิ่งดูตกต่ำลงอย่ างมาก
และถูกสังคมประณามถึงพฤติก ร ร มที่แสดงออกมา เพราะสิ่งเหล่านี้
มันเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงพื้นฐานของจิตใจ การอบรมเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม การศึกษา ของคนคนนั้นมากเพียงใด จะว่าไปแล้ว คนที่ชอบด่าว่า พูดจาดู ถู ก หรือเ ห ยี ย ดหย ามคนอื่น ก็น่าสงสารและน่าสังเวชอยู่นัยๆ เพราะพวกเขาไม่เคยได้มองเห็นตัวเอง หรือไม่เคยคิดเลยว่า คนเราทุกคนที่เกิดมาก็ล้วนมีค่าด้วยกันทั้งนั้น
อาจไม่มีค่ากับคนพูดแต่ก็มีค่ากับพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิทมิตรสหายของเขาเอง หรือเขาอาจมีความสามารถที่แตกต่างกัน
นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะทุกคนล้วนมีความความสามารถที่ต่างกัน นั่นคือเรื่องจริงและมีอีกหนึ่งเรื่องจริง ที่คนที่ชอบดู ถู กคนอื่นคงอาจจะยังไม่รู้สินะว่า คนเราทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ ล้วนต้อง เจ็บ ต้องแก่ ต้องต า ย ด้วยกันทั้งนั้น แทนที่จะพูดจาดู ถู กเ ห ยี ย ดหย ามให้เจ็บช้ำน้ำใจกัน แต่หันมาพูดจากันดีๆ พูดในสิ่งที่เป็นมงคล ให้เกิดความรักความเมตตาต่อกันจะดีกว่าไหม เพื่อที่จะได้ไม่ต้องสร้าง
ความจงเ ก ลี ย ดจงชังและการโกรธแ ค้ นกันไปตลอดชีวิต เพราะคนเราทุกคนก็อย ากอยู่บนโลกนี้ด้วยความสงบสุขกันทั้งนั้น!
สุดท้ายนี้ สิ่งที่อย ากจะบอก…คือ การดู ถู กคนอื่นหรือคนที่ด้อยกว่าไม่ใช่ซึ่งที่ดี
คุณอาจสนุก หรือสะใจ แต่สิ่งเหล่านี้ มันอยู่บนความทุกข์คนอื่นนะ เพียงแค่คิดก็ทำให้จิตใจเศร้าหมองและขุ่นมัวแล้ว
ดังนั้น ขอให้ทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่ า นระลึกไว้เสมอว่า การดู ถู กเ ห ยี ย ดหย ามคนอื่นนั้น มันเป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำเป็นอย่ างยิ่ง
และเป็นสิ่งที่คนดีๆ เขาไม่ทำกันค่ะ เพราะฉะนั้น อย่ าทำนะครับ
#ขอให้ได้พิจารณาด้วยสติ ด้วยปัญญา ด้วยภูมิธรรม คุณพระรักษาเทวดาคุ้มครอง ขอให้มีความเจริญในธรรม ทุกท่าน ทุกคนครับ
เข้าใจตั้งแต่อายุ24ปีแล้วคะ เข้าวัดถือศีลตลอดมา มีเวลาก็ไปตลอด เพราะชัวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอนเลยสักอย่าง ทุกวันถึงจะปล่อยวางไม่ได้หมด แต่ก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา 😊😊😊😊😊 ทำให้เรามีสติ ประคับประคองใช้ชีวิต ให้ผ่านมาถึงทุกวันนี้คะ
น้อมกราบสาธุอนุโ นาสาธุสาธุครับคุณอานนท์❤❤❤❤
คนเรา เวลา ตกฟาก เวลา ชีวิต แตกต่างกัน นะค๊ะ เคราะห์กรรม ก็ ไม่ เหมือน กัน ควร ทํา สิ่งดีๆ อย่า ทําร้าย จิตใจ ผู้อื่น ชอบฟัง มากค่ะ สาธุ
เตือนสติกับช่วงเวลาชีวิตตอนนี้ได้ดีครับ ,,,🙏🙏🙏
❤❤❤❤❤❤
พบไม้งามเมื่อยามขวานบิ่น/แต่ย้อนอดีตที่ผ่านมาไม่ได้
ชอบทําบุญ ค่ะ ชอบมาก ขนมปัง ทําให้ มีชีวิต ค่ะ
สาธุค่ะ กับ นางสาว ฉัตรมณี ภิรมย์ น้องเติ้ล และ ครอบครัว พ่อ เกรียงไกร ภิรมย์ แม่ อรวรรณ ภิรมย์ จาก ต.เขาขาว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง.
พึ่งฟังครั้งแรกก็ถูกใจมาก สำหรับข้อคิดดีดี ขอบคุณค่ะ
ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ🙏🙏🙏 ได้ข้อคิดดีๆมากเลยครับ
เยี่ยมเลยค่ะ สาธุ
สาธุธรรม ครับผม น้อมรับ สิ่งดีๆครับผม❤❤❤
เรียน อุตสาหกรรมการโรงแรม และ การ ท่องเที่ยว ค่ะ สาธุ
สาธุ
สาธุๆคะ
สาธุ สาธุ คะท่านอานนท์
กราบสาธุๆๆค่ะ
ขออนุญาติแชร์นะคะ
สาธุ 🙏🏾🙏🏾🙏🏾
สาธุๆๆๆอนุโมทามิ
กราบสาธุค่ะ
ขอบคุณมากนะคะข้อคิดดีดี
ฟังจบแล้วกลับมาดูตัวเองค่ะ นำไปปรับข้อที่ยังขาด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดค่ะ ส่งต่อให้คนที่เรารักด้วยนะคะ คลิปดีต้องแชร์ค่ะ❤❤❤
น้อมรับคำแนะนำค่ะ❤❤❤❤
ดีค่ะ ขอบคุณมากค่ะสาธุค่ะ
ขอบคุณครับ
❤🙏ที่เขาว่าคนล้มอย่าข้าม❤🙏
❤️🙏ขอบคุณคับ❤️🙏
😊น้อมรับคะท่าน😊
ขอบคุณค่ะ😊😊
เป็นคำเตือนที่มีค่ามาก
สาทุ สาทุ สาทุ
ในโลกนี้ไม่มีใครผิดถูกเพราะมีแค่อะไรผิดอะไรถูกต้องเอาตัวรอดในภพชาติและสังสารวัฎไม่มีอะไรมาก
ขอบคุณค่ะอาจารย์สบายใจดีคะฟังแล้ว
ใช่ค่ะ ได้ฟังแล้วรู้สึกสบายใจค่ะ❤❤
สาธุ🙏ค่ะใช่ค่ะดูถูกเหยีอดยามกันมันเป็นสิ่งไม่ดีไม่มีใครปรารถนาค่ะ..🌻🌻🌻
ชฃชชงชชฃชฃงฃชฃชชฃฃชงชชฃฃชชฃชฃฃชชงฃชชฃชงชฃชฃชฃฃฃฃชชชฃฃชฃชชฃชฃชชฃชชฃงชชชชชงชชฃฃชชฃชฃชชฃชชชฃฃชงชชฃชชฃฃงชชชชชชฃฃชฃฃชชชชฃฃชฃชงฃฃชชชชฃฃงงชฃชฃฃชฃฃชฃชงฃชชชฃฃฃชชฃชชฃชฃฃงชฃฃฃฃชงฃฃชฃฃฃงฃชงงชฃชงฃช.ฃงฃฃฃงชชงงงฃง.ฃฃฃฃงง
ฃงฃ
งฃฃฃ
ฃฃง
งงง
สาธุๆเตือนสติใด้ดีคะ
เท้าข้างนึงก้าวลงโลงแล้ว. ยังเข้าใจไม่หมดเลย
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
ทุกสิ่งที่เราได้รับรู้และได้พบเจอไม่ใช่ความบังเอิญเลย เพราะแท้ที่จริงไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์คือเป็นผลการกระทำของเราเองล้วนๆ
สาธุครับ สาธุค่ะ🙏🙏🙏🧚🧚🧚😎
เข้าใจชีวิต คือเหมือนตัวเองถึงจะเข้าใจชีวิต ทำเหมือนตัวเองชอบเหมือนตัวเองจึงจะถูกต้อง
❤❤❤❤❤❤❤
ไม่ทันแล้วคับ ครึ่งชีวิตที่ผ่านมา
เป็นเรื่องปกติ บนเส้นเวลา...
และเส้นเวลาก็ มีหลายเส้น....แล้วแต่ จะอยู่เส้นใด
ตัววัด คือรู้เท่าปัจจุบัน ด้วย อานาปานสติ......ครับ.
นิ่ง สงบ
สว.แล้วเพิ่งเข้าใจมากแต่ยังไม่หมดเลย😂😂😂
❤ผมรู้หมดแล้วครับอาจารย์ทุกคำผมเปิดฟังแค่ 1 รอบผมก็จำได้หมดแล้วทำไมจะให้ผมเปิดแล้วเปิดอีก
🙏🙏🙏
🥰😍😘❤❤❤❤❤❤❤❤❤
📌ปักไว้ฟัง
🙏🙏🙏👍👍👍👍👍👍👍👍👍👍♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️
สาธุคะ
สาธุ
ขอบคุณค่ะ
ไม่เคยนึดลบผิดก็ย่อหนิ่งทะนงตนกับใครค่ะเพราะสำเหนียกสำรวมจิตกายวาจาของเรายั่เสมอค่ะว่าเราเกิดมาจากดินค่ะต่อให้ไปได้สุงขนาดไหนจะกลับมาตำ่วุดชั้นก้ไม่ยี่หระกับมันคาะเพาะนี่คือธรรมดาของโลกคาะมีขึ้นก้อต้องมีลงมีลงก้อย่อมมีขึ้นค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
🙏🙏🙏
❤บุญต่อบุญสาธุๆ🙏🙏🙏🌹🌹🌹🌹💎💎💎💎💎💸💸💸💸💸💸💸🌈☁🥰☁🥰☁🥰☁🥰☁⛰️🏞🐉🐉
สาธุครับ
สาธุค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ🙏🙏🙏
ผิดถูกสุกทุกข์จนมีดีชั้วเกิดตายสวรรน์กับนรก
สาธุค่ะ
สาธุๆๆค่ะ
สาธุๆๆค่ะ