Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
เราไม่ชอบ trace talk ตอนนี้เลย มุมมองของการวิพากวิจารย์ป้ายมันหลากหลายมาก แต่สิ่งที่พวกคุณกำลังจะสื่อคือ ใครที่ตำหนิดูเป็นคนที่ไม่ educate ไม่มีความรู้เรื่องงานศิลปะ งานดีไซน์ แต่ความจริงคือ เงินที่ใช้ในการทำป้ายพวกนี้เป็นของคนกทม.ทุกคน และไม่ใช่ทุกคนต้องรู้เรื่องศิลปะ เงินสามล้านของพวกคุณกับเงินสามล้านของพวกเขาไม่เท่ากัน ถ้าในเมื่อคนบางคนกำลังจะถูกไล่ออกจากห้องเช่า คนบางคนบ้านกำลังถูกยึด คนบางคนต้องออกไปขับแกรบเพื่อได้เงืนมาซื้อข้าวให้ลูก เวลาเห็นภาครัฐใช้เงินกับอะไรที่ไม่ช่วยให้คุณภาพชีวิตเขาดีขึ้น มันแปลกเหรอที่เขาจะรู้สึกไม่ดี วันนี้เราจะมีป้ายสวยทำไม ในเมื่อคนยังตกท่อที่ทางเดินเท้าทุกวัน รถเมล์ยังไม่เคยเพียงพอ น้ำยังท่วมถนนหนทางทุกครั้งที่ฝนตก เราเองรู้สึกอย่างมากกว่า เงินทาสีป้าย เงินค่าดีไซน์พวกนี้ มันมาทำฟุตบาท มันมากำจัดขยะ มันมาแก้ปัญหาสายไฟ/เสาไฟ ได้เท่าไหร่ ถ้าปัญหาที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานยังอยู่ ไม่ว่าจะทำอะไรปลอมๆ สวยๆ มาหลอกตา ก็ไม่น่าชื่นชมอะไรทั้งนั้น
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมาและสุภาพนะคะ สำหรับเจตนารมณ์ของการพูดถึงกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ป้ายและ CI กทม. ทางทีมขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้ค่ะทางทีมไม่ได้มีเจตนาที่จะบอกว่า คนที่ตำหนิดีไซน์นี้คือคนที่ไม่ educated ไม่มีความรู้เรื่องศิลปะ : ทางโฮสต์ได้มีการกล่าวย้ำหลายครั้งว่า ความชอบหรือไม่ชอบเป็นเรื่องปัจเจก แต่สิ่งหนึ่งที่ถ้าใครจะไม่รู้ก็ไม่ใช่เรื่องผิด คือ “ค่าใช้จ่ายในการทำงานของแรงงานสร้างสรรค์“ ซึ่งราคากลางของการจ้างออกแบบ Corporate Identity จำนวน 3 ล้านบาท อาจดูเยอะหากมองในเชิงปัจเจก แต่หากมองในเชิงกระบวนการ การออกแบบ CI ครั้งนี้จะส่งผลต่อการสร้างอัตลักษณ์ของพื้นที่ การดึงดูดนักท่องเที่ยว การออกแบบงานเทศกาลต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในเชิงเศรษฐกิจของเมืองในอนาคต ซึ่งในกระบวนการออกแบบนี้ จำเป็นต้องใช้แรงของดีไซเนอร์ กราฟิก ผู้ค้นคว้าข้อมูล และทีมงานจำนวนมากตลอดทั้งกระบวนการ เราเลยต้องการจะ point out ว่า ค่าใช้จ่ายตรงนี้มันไม่ใช่ราคาที่แพงเกินไป หากมองถึงประโยชน์ที่งานออกแบบนี้จะถูกใช้ในอนาคตแต่ขณะเดียวกัน สื่อบางสำนักก็ต้องการสื่อสารไปในทางที่ทำให้เข้าใจว่า “ป้าย” นี้ป้ายเดียว มีราคาออกแบบ 3 ล้านบาท ซึ่งทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดได้ ซึ่งในฐานะสื่อ พวกเราไม่เห็นด้วยกับการรายงานข่าวเช่นนั้นค่ะในส่วนของเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่ทางกทม.ควรต้องดูแล เป็นเรื่องเร่งด่วนกว่างานดีไซน์ และแต่ละคนมีมุมมอง ความรู้ ความจำเป็นในชีวิตที่ต่างกัน ทางเราเข้าใจดีค่ะ แต่เรามองว่า CI ชุดนี้ คือหนึ่งในแผนการปรับภูมิทัศน์ของเมือง ที่จะกระตุ้นให้ผู้คนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มี awareness ต่อสังคมรอบข้างมากขึ้น ซึ่งมันก็เป็นแง่มุมหนึ่งของการพัฒนาความเป็นอยู่ของชีวิตคนไปพร้อมๆ กับการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ค่ะตัวอย่างหนึ่งที่ CI ชุดนี้ได้ถูกทำแล้ว คือ การใช้ฟอนต์ชุดใหม่มาปรับใช้เข้ากับตัว Artwork ในเพจประชาสัมพันธ์ของสำนักงานเขตบางแห่ง ปรับเข้ากับคาแรกเตอร์ของแอดมินที่เข้าถึงง่ายมากขึ้น การสื่อสารในประเด็น เมาไม่ขับ / สายด่วนสุขภาพจิต / ย้ำเตือนเรื่องสายด่วนไฟไหม้ ฯลฯ การที่โพสต์เหล่านี้ “แมส” ง่ายขึ้น ก็เกิดจากการออกแบบ corporate identity และการออกแบบช่องทางสื่อสารทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการสร้างภาพจำให้ ”เมือง“ friendly กับผู้อยู่อาศัยมากขึ้น ซึ่งหากประชาชนผู้เสียภาษีจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลเช่นกันค่ะทั้งหมดที่กล่าวมา ทางเราต้องการสื่อสารว่าการออกแบบ CI ในราคา 3 ล้านบาทนี้ เป็นสิ่งที่เราต้องจับตามองในระยะยาวค่ะ ว่าจะเวิร์กหรือไม่เวิร์กมากน้อยอย่างไร และการวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิ่งจำเป็นแน่นอนค่ะ ตราบที่ความเห็นเหล่านั้นสามารถช่วยให้คนทำงานได้เห็นจุดที่ต้องปรับแก้ให้เป็นประโยชน์ได้มากขึ้น เท่านั้นเองค่ะขอบคุณสำหรับความเห็นอีกครั้งนะคะ
Corporate Identity คือการออกแบบอัตลักษณ์ให้กับองค์กร ในที่นี้ “องค์กร” คือ “กรุงเทพฯ” โดยใน CI ประกอบด้วย Logo / Font / Color และ Graphic element(หรือเรียกอีกอย่างว่า ภาพประกอบ) โดยองค์ประกอบทั้งหมดที่กล่าวมา จะอยู่ภายใต้ System เดียวกัน เพื่อนำองค์ประกอบเหล่านั้นมาสร้างงานออกแบบใดๆก็ตามในอนาคต ที่ผลิตออกมาภายใต้ร่มใหญ่ซึ่งก็คือ “กรุงเทพ” ซึ่งผลก็คือ จะทำให้งานออกแบบของกรุงเทพมีระบบและภาพจำเดียวกันทั้งหมดเช่น ออกแบบป้ายบอกทาง ป้ายรถเมล์ ออกแบบถังขยะ และอื่นๆซึ่งงานออกแบบที่ดี มีระบบ จะช่วยสร้างให้ชีวิตของคนกรุงเทพใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น เช่น ป้ายรถเมล์ที่สื่อสาร ออกแบบโดยมีระบบดี จะทำให้เราเดินทางได้ง่ายขึ้น ฯลฯเพราะฉะนั้นการใช้งบประมาณไปกับการสร้าง Corporate Identity ไม่ใช่แค่การใช้เงินจ้างคนทาสีป้ายให้สวย แต่คือเงินที่จ้างคนออกแบบสร้างระบบงานดีไซน์ ที่จะนำไปสู่การทำให้เกิดงานออกแบบที่ functional และค่อยๆปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับคนกรุงเทพ ในงานออกแบบต่างๆในอนาคตต่อไปเราจึงเห็นต่างที่คุณบอกว่า CI นี้ “ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้ชีวิตของคนกรุงเทพดีขึ้น” เพราะเราคิดว่าได้ว่าการทำ CI คือการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของทุกงานออกแบบในกรุงเทพ และจะค่อยๆทำให้ชีวิตของคนกรุงเทพดีขึ้น เมื่อ CI ถูกนำไปใช้ต่ออย่างสม่ำเสมอ อย่างถูกต้อง และเหมาะสมในด้านต่างๆค่ะ
ถ้าคุณมองอย่างนั้น ก็ไม่ต่างจากจากตอนที่นักการเมืองต่อต้านก็สร้างรถไฟความเร็วสูง แล้วบอกว่า เอาเงินไปไม่ให้มีถนนลูกรังให้หมดก่อนไหม เป็นไง เราจะไม่พัฒนาเลยหรอครับ แล้วเราจะเริ่มโครงการอื่นๆ ได้เมื่อไหร่ ปัญหามันเกิดขึ้นทุกวัน เราสามารถ สร้างแก้ไขไปพร้อมๆ กันได้นะครับ
ในแง่คนทำงาน สามล้านทุกอย่างขนาดนี้ ถูกไม่รู้จะถูกไงละค่ะ เอาถูกกว่านี้คนทำงานล้องห้ายยยยยย ปล. ลองไปดูงบซุ้มเฉลิมพระเกียรตินะคะ แพงกว่าสามล้านเยอะเลย😂
พอเอาไปช่วยน้ำท่วม ก็จะมีคนมาบอก ทำไมไม่เอาไปลงศูนย์เด็กเล็ก😢
เรื่อง CI กรุงเทพนี่สะท้อนมากค่ะ ว่าคนไทยไม่เข้าใจเรื่องงานออกแบบเอาขั้นหนักอะ อย่างอาร์ททอยที่เห่อกันช่วงนี้ก็ทรงเห่อแฟชั่นตามๆกันเฉยๆอะ //และมาแซะว่างบสามล้านแบบไม่รู้ที่มาที่ไปอีก เซ็ง
เห็นด้วยกับความคิดเห็นเรื่องมุมมองกราฟฟิค จากผู้ที่มีความรู้ด้านกราฟฟิค อย่าง salmon มากค่ะ อยากให้คนไทยเปิดกว้างมากขึ้นกว่านี้ ขอบคุณที่เป็นกระบอกเสียงให้กับกราฟฟิคดีไซน์เนอร์ไทยค่ะ
จริง ๆ เรื่อง ci กทมเราว่าโฮสต์ทุกท่านพูดมาตรงประเด็นและย่อยง่ายมากแล้วนะ เขาไม่ได้ว่าใครที่มองว่ามันไม่สวยเลย งานศิลปะมันปัจเจกจริง ๆ แต่เขาแค่ไม่โอเคกับความเห็นที่ค่อนข้างดูถูกคนออกแบบน่ะ ตอนแรกเราเองก็ยอมรับว่าไม่ชอบป้ายใหม่นี่เหมือนกัน แต่ไม่ชอบเพราะแค่เห็นรูปเดียวที่แปะอยู่ตรงรางรถไฟฟ้า ด้วยความที่น้องมันอยู่ไม่ถูกที่อะ สีสันมันสดใสตัดกับคราบมอ ๆ บนราง พอมองดูแล้วค่อนข้างขัดตา แต่พอดูดีไซน์จากที่อื่นที่ไม่ใช่แค่แปะอยู่ตรงนั้นเออมันก็สวยนะ คู่สีก็สวย แถมอีกอย่างพอมองว่า ci มันไม่ใช่แค่ออกแบบมาแล้วแปะ ๆ ไปทั่วเมือง มันต่อยอดได้มากกว่านั้นก็เก็ทเลยว่า 3 ล้านถือว่าค่อนข้างถูกจริงด้วย ส่วนตัวพอฟังโฮสต์พูดแล้วเราได้มองอีกมุมเลยค่ะจากตอนแรกที่รู้สึกไม่ชอบมาก ๆ แล้วนี่ก็หวังว่าระยะยาว ci ตัวนี้อาจจะเป็นภาพจำมาก ๆ เหมือน i love new york ก็ได้นะ ยิ่งตอนนี้สายผลิตก็เริ่มผุดไอเดียเล่นกับชื่อเต็มกรุงเทพกันแล้ว แต่ละคนไอเดียเลิศทั้งนั้นเลย 😂
มุกต้นกล้าจะกลายเป็นสติ๊กเกอร์ของแซลม่อนมั้ยคะ 555555 น้องดูมี potential อ่าา
ฟังจบแล้วนะครับล้อเล่น
Tracetalk ทำให้หายเหงาทุก week เลย ❤
ขอบคุณที่มีคนคิดแบบเราเรื่องป้ายกทม. อึดอัดมากที่คิดแต่งต่างจากคนทั่วไป พี่ๆอธิบายได้ดีมากไปอ่านเจอโพสนึงที่เข้าบอกมาคล้ายๆที่พี่โจ้บอก เค้าบอกว่าป้ายเดิมที่บอกว่า "ชีวิตดีๆที่ลงตัว" ก็ไม่เห็นชอบกัน แต่พอเปลี่ยนก็ด่าว่าแบบเดิมดีกว่า ส่วนตัวเราคิดว่าถ้าตอนแรกกทม.ออกมาให้โหวตหลายๆแบบอาจจะมีปัญหาน้อยลงหน่อย(มั้ยนะ?) (เสียใจมากที่งานออกแบบโดนด้อยค่า บอกCIทั้งเมือง 3ล้านแพง งานออกแบบมันถูกขนาดเหรอ 😢)
ดูปกคลิปนึกว่าต้นกล้า พอเข้าคลิป อ้าว! พี่โจ้ 😅
แฝดสามแซลมอน พี่โจ้ ยศ ต้นกล้า
กฎในการรับคนของบริษัทนี้คือหน้าต้องคล้ายกัน555555
อยากให้คุณต้นกล้าพูดคำว่า "ดูแนวโน้ม" ให้ฟังหน่อยค่ะ
เรื่องดีไซน์กทม.เนี่ย มีคนเปรียบเทียบกับป้ายบางซื่อ 33 ล้าน .... คือป้าย 33 ล้านมันได้ทั้งเมืองไหมเล่าาาาาาาาา เงิน 33 ล้านนั้นได้แค่ป้ายด้วย ดีไซน์สถานีไม่เกี่ยวด้วยซ้ำ
ดู The Act of Killing จบแล้ว แนะนำภาคต่อ คือ The Look of Silence ทีมงานเดียวกัน ได้รางวัลเยอะเหมือนกัน สะเทือนใจเหมือนกัน
ดูได้จากไหนหรอครับ
จากใจคนหนึ่งที่ทำงานในวงการออกแบบ นักออกแบบก็อยากผลิตผลงานสวยๆงามๆกันทั้งนั้น เทสศิลปะก็ส่วนหนึ่ง แต่การดูถูกอาชีพนี้กับการกดราคาอาชีพนี้มันก็ยังคงอยู่ต่อไปจริงๆ หลายคนบอก3ล้านแพง แต่การทำงานด้านนี้มันไม่ใช่แค่คนๆเดียว มันมีทีมงาน มันมีระเวลาการผลิต ค่ากระบวนการความคิด ค่าเสียเวลา และกำไร ก็ควรคำนึงถึงจุดนี้บ้าง ราคางานออกแบบในไทยทุกวันนี้มันน้อยมากๆอยู่แล้วด้วย ถ้าจะให้ต่ำกว่านี้ก็คงไม่เหลือใครที่อยากทำงานออกแบบแล้ว
เข้าใจค่ะว่า CI คืออะไร เข้าใจว่ากรุงเทพควรต้องมี CI และเข้าใจว่าการทำ CI ต้องใช้เงินเยอะ เข้าใจทุกอย่างแต่ก็รู้สึกอยู่ดีว่าดีไซน์ของป้ายมันไม่สวยจริงๆ ไม่มีเอกลักษณ์ ไม่น่าดึงดูด ไม่เข้ากับสภาพแวดล้อม
รับทราบและเข้าใจมากๆ ค่ะ
👏🏻👏🏻👏🏻👏🏻👏🏻👏🏻
ไม่น่าเปิดฟังในที่สาธารณะเลยค่ะ กลั้นขำจนหน้าเบี้ยว ตั้งแต่ต้นเลย
ผ่านมา 9.28 นาทีเริ่มต้นเล่าข่าวได้ 🎉🎉🎉 มันจัด
ถ้ารวมเหล่าตัวโดน คาดว่าห้องจัดรายการน่าจะนั่งกันไม่พอนะคะ 😅
เรื่องป้าย แค่ตัวมันเองสวยไม่เถียง ทำแบรนด์ ทำสตอรี่คือสิ่งที่ดี แต่ที่ไม่ชอบคือการจัดวางที่ไม่ถูกบริบทจุดแลนด์มาร์คเดิมที่เป็นสีขาวซึ่งเป็นภาพจำ ซึ่งมู้ดแอนด์โทนมันลงตัวอยู่แล้ว คิดว่าไม่ควรเปลี่ยนผมเข้าใจว่าหัวใจหลักมันคือฟอนต์ ดังนั้นถ้าจุดอื่นจะเลือกใช้สีอื่นได้ทำไมตรงนั้นจะคงสีเดิมไว้ไม่ได้?
มีความเห็นหนึ่งที่เจอแล้วคิดว่าอาจจะเป็นเหตุผลที่กทม. เลือกเปลี่ยนสีเป็นสติกเกอร์สีเข้มค่ะ คือ หากผ่านเวลาไปเรื่อยๆ สติกเกอร์พื้นหลังขาว ตัวหนังสือสี อาจเลือนหายไปตามกาลเวลาได้ง่าย ต่างจากสติกเกอร์พื้นหลังสี ที่เมื่อโดนแดดแล้วจางลง จะยังคงความสดของสีไว้ได้ง่ายกว่า แต่อันนี้เป็นการคาดเดาส่วนตัวนะคะ อย่างไรก็ตามคือ มันไม่ผิดเลยค่ะ ที่คุณจะไม่ชอบ
ขอบคุณพี่ธัญที่พูดถึง Rafah ค่ะ
ก็ไม่คิดว่าจะต้องกลั้นขำใน BTS ขนาดนี้ เป็น 10 นาทีที่ทรมานมาก 🤣🤣🤣
ชอบเรื่องเดียวกับTKเลย เเม่สาวเสื้อฟ้าที่ข้าฝันใฝ่🎉
เคยเห็นเรื่อง หน่อไม้ vs เห็ด มีคนทำงานวิจัยจริงจังด้วยว่าอันไหนมีช็อคโกแลตมากกว่ากัน คุ้นๆว่า Trace Talk ก็เคยเล่าไปแล้ว
พี่ ฟาโร ไปต่อในคลิป 5A Brotherhood ของ ลุงไนท์ Gssspotted ไปสุดทางเลยครับอยากพี่ๆ Salmon ร่วมงานกับ คอเย็น ด้วยครับ
เพิ่งมาไล่ฟังย้อนหลังเมื่อมูลค่างานกราฟฟิคที่ไม่เคยถูกเข้าใจโดยคนไทย มารวมกับความเป็นภาครัฐคอมเม้นก็จะประมาณนี้แหละมั้ง ความเป็นภาครัฐมันเป็นพิษกับทุกอย่างจริงๆกับสังคมที่โดนกดทับแบบทุกวันนี้
ดูจบแล้วลงใหม่ได้เลยล้อเล่น
ดูจบแล้วลงใหม่ได้เลยครับ
ไวเกิร
ยังๆๆๆๆ
คลิปนี้รู้สึกผิดหวังกับทัศนคติมาก ๆ ครับ อยากให้มองมุมมองอื่น ๆ ที่กว้างมากกว่านี้อีกนิด ส่วนตัวคิดว่างานศิลป์มันเป็นสิ่งที่วิพากย์วิจารณ์ได้ เพราะแต่ละคนมีมุมมองที่แตกต่างกัน ราคาที่ทำก็ไม่ได้คิดว่าแพงเลยครับแบบ 4-5 ล้านก็คิดว่ามันก็ได้อยู่ครับ ส่วนตัวคิดว่าสวยดีแต่อยากทำให้ดูร่วมสมัยได้มากกว่านี้แหละ แต่ที่คิดว่าพลาดจริง ๆ คือ CI ใหม่ที่ออกมามันดูแบบมองแล้วนึกถึงและสะท้อนความเป็นกทม. ได้ไม่มากพอ นึกภาพแบบคนต่างชาตินึกถึงกทม. แล้วสิ่งแรกที่เข้ามาในหัวคืออะไร สีเขียว สีม่วงเหรอ มันเห็นแล้วจดจำได้ แต่ไม่เข้าใจและมันสื่อสารต่อได้ยาก เหมือน concept จะดีนะ แต่มันไม่ relate มากพอ ขนาดเราที่เห็นยังไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร รู้แค่สีเขียวที่เป็นสีตราสัญลักษณ์ของกทม. มองวัชระอะไรนั่นไม่ออกเลย ถ้าจะเป็นแบบนี้อาจจะออก textline เพิ่มเติมที่นำเอาสีเขียวหรือสีม่วงมาตีความหมายต่อได้น่าจะช่วยได้ดีครับ ส่วนตัวคิดว่า City of Life แบบเก่าเราว่ามันสะท้อนความเป็นกทม. และสื่อความหมายได้ดีกว่า นึกภาพเราเป็นชาวต่างชาติพอนึกถึงกทม. แบบ City of Life ก็ผุดขึ้นมาในหัวเลย ส่วนตัวคิดว่าเอาอันเก่ามาปรับ design ใหม่แล้วเอามาเป็น CI ของกทม. ให้มันต่อเนื่องเพื่อเป็นภาพจำไปมันง่ายกว่าด้วยครับ ไม่ต้องมาเริ่มใหม่ เพราะ City of Life มันค่อนข้างมีชื่อจนนักท่องเที่ยวมาตามถ่ายรูปอยู่แล้ว ส่วนเรื่องถังขยะที่มี mock up ออกมา นึกถึงคนที่เห็นงานออกมาเขาก็คิดว่าจะเปลี่ยนให้ถังขยะเป็นแบบนี้ทั่วกทม. ซึ่งใครจะไปรู้ว่าจะไม่ทำ เพราะแบบมันออกมาแล้วมันส่อไปในแง่ที่จะเปลี่ยนมากกว่า ส่วนตัวคิดว่าคนออกแบบควรทำการบ้านอีกนิดคือมันสวยแต่สื่อความหมายกับสีที่เป็นสากลได้ค่อนข้างยาก ยิ่งคนไทยก็งง ๆ ยังต้องมองป้ายก่อนทิ้งอยู่ อาจจะลดทอนลวดลายหรือเปลี่ยนลวดลายให้เป็นสีเดียวไปเลยจะทำให้ดูออกง่ายมากขึ้นอีกนิด
ผิดหวังที่คลิปนี้มองไม่กว้าง แล้วที่พิมพ์มานี่มันมุมมองกว้างแล้วเหรอครับ
@@SalmonPodcast ขอบคุณมากครับสำหรับการตอบกลับดี ๆ ครับ
แล้วในคลิปเราบอกตรงไหนคะ ว่างานศิลป์วิจารณ์ไม่ได้?
ที่คุณพูดมามันก็อยู่ในขอบเขตที่วิจารณ์กันได้ตามความชอบเหมือนที่โฮสต์บอกนี่ครับ เลยไม่เข้าใจว่าผิดหวังเรื่องอะไรนะฮะ
@@SalmonPodcast ในคลิปไม่มีส่วนไหนที่บอกว่างานศิลป์วิจารณ์ไม่ได้ สิ่งที่บอกว่าอยากให้มองมุนอื่นที่กว้างอีกนิดคือ 1. ที่คุณยชญ์พูดประมาณว่า ถ้าเราจะวิเคราะห์เหตุผลของการมาซึ่งดีไซน์นี้มันก็แฟร์มาก ๆ แต่การทำแบบนี้มันก็ไม่นำไปสู่อะไรเท่าไร >> ส่วนตัวคิดว่าถ้ารับฟังคำจาร เลือกเอาอันที่มีประโยชน์ แล้วมองดูว่าสิ่งที่ได้รับวิจารคืออะไร เราสามารถนำมันไปปรับปรุง หรือเพิ่มเติมอะไรในอนาคตได้บ้างที่จะทำให้ CI ของกทม. ต่อยอกไปได้ไกลแล้ว มี impact ที่มากขึ้นครับส่วนที่ 2 คือเรื่องของลายที่ถังขยะ ที่คุณชมพูดว่ามันจะมีคนที่บอกประมาณว่าถังขยะควรจะคงสีตามประเภทที่เข้าใจกันเป้นสากลอยู่แล้ว ซึ่งจริง ๆ คือชมเข้าใจว่าคนที่เขาทำ คือเขาทำ mock up ขึ้นมาเค้าอาจจะไม่ได้ฟีลแบบว่ามึงต้องทำถังขยะแบบที่กูออกแบบให้อ่ะ มันเป็นแค่ mock up >> มุมมองผมคิดว่างานออกแบบที่ทำมา มันควรจะเอามาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ สร้างสรรค์ หรือสร้างแรงบันดาลใจอะไรก็แล้วแต่ นั่นเป็นเหตุผลที่มีการออกแบบ แล้วงานออกแบบส่วนนี้มันอยู่ในชิ้นงานที่จ่ายเงินจากภาษีของประชาชน แล้วถ้าออกแบบโดยไม่คำนึงถึงการที่จะเอามาใช้ได้จริง นั่นหมายถึงว่างานออกแบบทำมาได้ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ แล้วเงินที่จ่ายไปคือต้องจ่ายส่วนนี้ไปทำไม แทนที่จะเอาทรัพยากรส่วนนั้นมาออกแบบถังขยะ เอาไปออกแบบสิ่งอื่นที่นำไปใช้งานได้จรงิ ๆ จะดีมากกว่า ถ้าเงินส่วนนี้จ่ายจากเงินส่วนตัวผมจะไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ
เรื่อง CI นี่อาจจะมีผลนะ เช่น ผมชอบลิเวอร์พูล ผมก็จะชอบโลโก้นี้ สีแดงเฉดนี้ มองไปปุ้บจะดูออกทันทีว่า นี่แดงลิเวอร์พูล และก็จะไม่ชอบแดงอีกเฉดนึง อะไรแบบนี้ป่ะคับ, อย่าง CI กทม. คือแบบถูกเปลี่ยนไง ก็เลยกลายเป็นคนชอบบ้างไม่ชอบบ้าง
เนี่ย มีพูดถึงเรื่องจั่วหัวข่าวที่ดูรุนแรงเพื่อเรียกยอด กับ ข่าวสวนสัตว์น้องหลุดออกมาแล้วตัวเองก้อพูดเองว่าไปสุดทางไปมั้ยกับการให้ปิดสวนสัตว์แล้วthe matter เขียนเรื่องปิดโซนขายสัตว์ในจตุจักรและสัมภาษณ์องค์กรขอทานเอาความสงสารมาขาย ไตร่ตรองตอนลงข่าวแล้วจริงหรอคะ
จิงโจ้ใส่นวมมีมาตั้งแต่สมัยทอมเจอรี่, ลูนีตูนแล้วคับ
จิงโจ้ ได้สนุกกับผจญภัยครั้ง สุดท้าย ดีกว่าไปอยู่ในกรง (จิงโจ้ไม่ได้กล่าว)
ต้นกล้าาา เราก็ชอบหมานคร เหมือนกันเพราะซื้อหนังสือมาอ่านละชอบ
เราก็ชอบ แค่เปิดมาด้วยเพลง ก่อน ฝนตกเป็นหมวกกันน็อคก็ชอบละ
ชอบต้นกล้า METHOD จัด 555555555555
พี่โจ้บอก กุอีกแล้ว 555555
เรื่องป้ายนี่ จิง ให้ค่าราวกับว่าเป็รูปปั้นคนสำคัญ นี่ว่าผิดเรื่องสุดๆๆๆๆ
ขนมเห็ดกับหน่อไม้ต่างกันที่แป้งตรงกลางค่ะ เห็ดจะเป็นขนมปังกรอบแต่หน่อไม้เป็นเหมือนฟิลคุกกี้มากกว่า ใดๆคือเราทีมเห็ดสุดใจแม้คนรอบตัวจะชอบแต่หน่อไม้ก็ตาม🥹
อิจฉาแฟนต้นกล้า😊😊😊😊
เรื่องราคาออกแบบป้ายกทม.อันนี้เข้าใจ แต่ออกแบบมาแล้วคนกทม.ส่วนใหญ่ไม่ชอบใจอันนี้ควรเข้าใจไหม
มันไม่ใช่ว่าหน่วยงานรัฐจะจ้างใครทำงาน แล้วพอโดนแขวนในอินเทอร์เน็ตแล้วจะมายกเลิกได้ตามใจชอบอะค่ะ เพราะ CI นี้มันไม่ได้ผิดกฎหมาย ไม่ได้ละเมิดใคร เงินก็เสียไปแล้ว มันถอดถอนไม่ได้แล้ว ถ้าลอกทิ้งตามความเห็นคุณ ก็เหมือนเอาภาษีคุณไปละลายน้ำอีก เปลืองของค่ะฝ่ายจัดซื้อจัดจ้าง ประมูลงานกันมา คิดว่าถ้าไม่ชอบใจ อาจจะต้องลองไปสมัครงานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่รับผิดชอบในเรื่องการจัดหาทีมออกแบบพวกนี้นะคะอีกอย่าง ชอบไม่ชอบ สวยไม่สวย นี่ความเห็นใครคะ คนส่วนใหญ่ที่คุณเห็นบนโซเชียล มันใช่คนส่วนใหญ่ที่อาศัยในกทม. จริงๆ รึเปล่า หรือเราใช้มุมมองของชนชั้นกลางตัดสินว่าชาวเน็ต=คนกรุงเทพฯ จริงๆ ??? ลองคิดดีๆ นะคะ
พี่ฟาโรนี้ใช่ พี่ฟาโร 5Aไหมครับ
ใช่เลยครับ
ปั่นสะหลุดเลย5555
🤣ท่านทราบแล้ว
กทม (องค์กร) ไม่ควรมอง landmark เป็นทรัพย์สินขององค์กร ถึงจะต้องใช้ CI เดียวกัน
แต่รางรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เป็นพื้นที่ติดสติกเกอร์นี้ ก็เป็นพื้นที่ในการดูแลของกทม. นะคะ 🥺🥺🥺----BTS สายสีเขียว หมอชิต-สำโรง (สายสุขุมวิท) เปิดให้บริการตั้งแต่ ธันวาคม 2542 “โดยมี กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าของ” และมอบสัมปทานให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ภายใต้กลุ่มบีทีเอส เป็นผู้ดูแลระบบให้บริการการเดินรถทั้งหมดข้อมูลจาก www.bangkokbiznews.com/business/economic/1031381#google_vignette
สงสารคุณต้นกล้า😂
อาจจะไม่ค่อยเท่นะดูจบแล้วล้อเล่น
ดูจบแล้วล้อเล่น
ดูจบแล้วลบคลิปรายการทิ้งได้เลยครับ//นี่ มาอีกขั้น ล้อเล่นนะครับๆ
ฟังแล้วเหมือนต้นกล้าโดนบูลลี่ตลอดเลย
เรียกว่าเป็นมุกตลกของทางทีมที่เล่นกันภายในมากกว่าค่ะ จริงๆ ตอนที่เล่นกันก็มีการเช็คกันตลอด อย่างตอนที่จุฬจะหยิบเรื่องนี้มาเล่า ก็ขออนุญาตจากคุณต้นกล้าเรียบร้อยค่ะ
สวัสดีครับ
5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555 ร่วมๆดีมาก
💯
คนเลือกมาได้ไงไง ก็มันไม่สวย ไง
ทุกคนก็เลยย้ำอยู่ในคลิปตลอดนะคะ ว่าชอบไม่ชอบ สวยไม่สวย มันแล้วแต่คนมองค่ะ
งานออกแบบมันมีอะไรมากกว่าแค่คำว่าสวยไม่สวยนะครับ
รสนิยม เป็นเรื่องที่สอนกันไม่ได้ เราโทษ รสนิยม คนเลือก ไม่ได้โทษคนออกแบบ
รสนิยมสอนได้ครับ
48:35 ใครอยากฟังเรื่องราวพี่ฟาโรห์ต่อจากเหตุการณ์นี้ตามไปที่ลุงไนท์ได้เลยครับ ruclips.net/video/M21fW-j8Bqk/видео.htmlsi=znP4rjuM9kyPNG5l
จริง ลุงไนท์เล่าไว้เราฮามาก55555
พี่ธัญตัวจริงแน่นอนเพราะใส่เสื้อลาย
ตกใจพี่จุฬผมเพิ่งเห็นหน้าเจ้าของเสียงในกล้องสวยกว่าในกล้องอีกครับล้อเล่น
เราไม่ชอบ trace talk ตอนนี้เลย มุมมองของการวิพากวิจารย์ป้ายมันหลากหลายมาก แต่สิ่งที่พวกคุณกำลังจะสื่อคือ ใครที่ตำหนิดูเป็นคนที่ไม่ educate ไม่มีความรู้เรื่องงานศิลปะ งานดีไซน์ แต่ความจริงคือ เงินที่ใช้ในการทำป้ายพวกนี้เป็นของคนกทม.ทุกคน และไม่ใช่ทุกคนต้องรู้เรื่องศิลปะ เงินสามล้านของพวกคุณกับเงินสามล้านของพวกเขาไม่เท่ากัน ถ้าในเมื่อคนบางคนกำลังจะถูกไล่ออกจากห้องเช่า คนบางคนบ้านกำลังถูกยึด คนบางคนต้องออกไปขับแกรบเพื่อได้เงืนมาซื้อข้าวให้ลูก เวลาเห็นภาครัฐใช้เงินกับอะไรที่ไม่ช่วยให้คุณภาพชีวิตเขาดีขึ้น มันแปลกเหรอที่เขาจะรู้สึกไม่ดี วันนี้เราจะมีป้ายสวยทำไม ในเมื่อคนยังตกท่อที่ทางเดินเท้าทุกวัน รถเมล์ยังไม่เคยเพียงพอ น้ำยังท่วมถนนหนทางทุกครั้งที่ฝนตก เราเองรู้สึกอย่างมากกว่า เงินทาสีป้าย เงินค่าดีไซน์พวกนี้ มันมาทำฟุตบาท มันมากำจัดขยะ มันมาแก้ปัญหาสายไฟ/เสาไฟ ได้เท่าไหร่ ถ้าปัญหาที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานยังอยู่ ไม่ว่าจะทำอะไรปลอมๆ สวยๆ มาหลอกตา ก็ไม่น่าชื่นชมอะไรทั้งนั้น
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมาและสุภาพนะคะ สำหรับเจตนารมณ์ของการพูดถึงกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ป้ายและ CI กทม. ทางทีมขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้ค่ะ
ทางทีมไม่ได้มีเจตนาที่จะบอกว่า คนที่ตำหนิดีไซน์นี้คือคนที่ไม่ educated ไม่มีความรู้เรื่องศิลปะ : ทางโฮสต์ได้มีการกล่าวย้ำหลายครั้งว่า ความชอบหรือไม่ชอบเป็นเรื่องปัจเจก แต่สิ่งหนึ่งที่ถ้าใครจะไม่รู้ก็ไม่ใช่เรื่องผิด คือ “ค่าใช้จ่ายในการทำงานของแรงงานสร้างสรรค์“ ซึ่งราคากลางของการจ้างออกแบบ Corporate Identity จำนวน 3 ล้านบาท อาจดูเยอะหากมองในเชิงปัจเจก แต่หากมองในเชิงกระบวนการ การออกแบบ CI ครั้งนี้จะส่งผลต่อการสร้างอัตลักษณ์ของพื้นที่ การดึงดูดนักท่องเที่ยว การออกแบบงานเทศกาลต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในเชิงเศรษฐกิจของเมืองในอนาคต ซึ่งในกระบวนการออกแบบนี้ จำเป็นต้องใช้แรงของดีไซเนอร์ กราฟิก ผู้ค้นคว้าข้อมูล และทีมงานจำนวนมากตลอดทั้งกระบวนการ เราเลยต้องการจะ point out ว่า ค่าใช้จ่ายตรงนี้มันไม่ใช่ราคาที่แพงเกินไป หากมองถึงประโยชน์ที่งานออกแบบนี้จะถูกใช้ในอนาคต
แต่ขณะเดียวกัน สื่อบางสำนักก็ต้องการสื่อสารไปในทางที่ทำให้เข้าใจว่า “ป้าย” นี้ป้ายเดียว มีราคาออกแบบ 3 ล้านบาท ซึ่งทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดได้ ซึ่งในฐานะสื่อ พวกเราไม่เห็นด้วยกับการรายงานข่าวเช่นนั้นค่ะ
ในส่วนของเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่ทางกทม.ควรต้องดูแล เป็นเรื่องเร่งด่วนกว่างานดีไซน์ และแต่ละคนมีมุมมอง ความรู้ ความจำเป็นในชีวิตที่ต่างกัน ทางเราเข้าใจดีค่ะ แต่เรามองว่า CI ชุดนี้ คือหนึ่งในแผนการปรับภูมิทัศน์ของเมือง ที่จะกระตุ้นให้ผู้คนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มี awareness ต่อสังคมรอบข้างมากขึ้น ซึ่งมันก็เป็นแง่มุมหนึ่งของการพัฒนาความเป็นอยู่ของชีวิตคนไปพร้อมๆ กับการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ค่ะ
ตัวอย่างหนึ่งที่ CI ชุดนี้ได้ถูกทำแล้ว คือ การใช้ฟอนต์ชุดใหม่มาปรับใช้เข้ากับตัว Artwork ในเพจประชาสัมพันธ์ของสำนักงานเขตบางแห่ง ปรับเข้ากับคาแรกเตอร์ของแอดมินที่เข้าถึงง่ายมากขึ้น การสื่อสารในประเด็น เมาไม่ขับ / สายด่วนสุขภาพจิต / ย้ำเตือนเรื่องสายด่วนไฟไหม้ ฯลฯ การที่โพสต์เหล่านี้ “แมส” ง่ายขึ้น ก็เกิดจากการออกแบบ corporate identity และการออกแบบช่องทางสื่อสารทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการสร้างภาพจำให้ ”เมือง“ friendly กับผู้อยู่อาศัยมากขึ้น ซึ่งหากประชาชนผู้เสียภาษีจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลเช่นกันค่ะ
ทั้งหมดที่กล่าวมา ทางเราต้องการสื่อสารว่าการออกแบบ CI ในราคา 3 ล้านบาทนี้ เป็นสิ่งที่เราต้องจับตามองในระยะยาวค่ะ ว่าจะเวิร์กหรือไม่เวิร์กมากน้อยอย่างไร และการวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิ่งจำเป็นแน่นอนค่ะ ตราบที่ความเห็นเหล่านั้นสามารถช่วยให้คนทำงานได้เห็นจุดที่ต้องปรับแก้ให้เป็นประโยชน์ได้มากขึ้น เท่านั้นเองค่ะ
ขอบคุณสำหรับความเห็นอีกครั้งนะคะ
Corporate Identity คือการออกแบบอัตลักษณ์ให้กับองค์กร ในที่นี้ “องค์กร” คือ “กรุงเทพฯ” โดยใน CI ประกอบด้วย Logo / Font / Color และ Graphic element(หรือเรียกอีกอย่างว่า ภาพประกอบ) โดยองค์ประกอบทั้งหมดที่กล่าวมา จะอยู่ภายใต้ System เดียวกัน เพื่อนำองค์ประกอบเหล่านั้นมาสร้างงานออกแบบใดๆก็ตามในอนาคต ที่ผลิตออกมาภายใต้ร่มใหญ่ซึ่งก็คือ “กรุงเทพ” ซึ่งผลก็คือ จะทำให้งานออกแบบของกรุงเทพมีระบบและภาพจำเดียวกันทั้งหมด
เช่น ออกแบบป้ายบอกทาง ป้ายรถเมล์ ออกแบบถังขยะ และอื่นๆ
ซึ่งงานออกแบบที่ดี มีระบบ จะช่วยสร้างให้ชีวิตของคนกรุงเทพใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น เช่น ป้ายรถเมล์ที่สื่อสาร ออกแบบโดยมีระบบดี จะทำให้เราเดินทางได้ง่ายขึ้น ฯลฯ
เพราะฉะนั้นการใช้งบประมาณไปกับการสร้าง Corporate Identity ไม่ใช่แค่การใช้เงินจ้างคนทาสีป้ายให้สวย แต่คือเงินที่จ้างคนออกแบบสร้างระบบงานดีไซน์ ที่จะนำไปสู่การทำให้เกิดงานออกแบบที่ functional และค่อยๆปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับคนกรุงเทพ ในงานออกแบบต่างๆในอนาคตต่อไป
เราจึงเห็นต่างที่คุณบอกว่า CI นี้ “ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้ชีวิตของคนกรุงเทพดีขึ้น” เพราะเราคิดว่าได้ว่าการทำ CI คือการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของทุกงานออกแบบในกรุงเทพ และจะค่อยๆทำให้ชีวิตของคนกรุงเทพดีขึ้น เมื่อ CI ถูกนำไปใช้ต่ออย่างสม่ำเสมอ อย่างถูกต้อง และเหมาะสมในด้านต่างๆค่ะ
ถ้าคุณมองอย่างนั้น ก็ไม่ต่างจากจากตอนที่นักการเมืองต่อต้านก็สร้างรถไฟความเร็วสูง แล้วบอกว่า เอาเงินไปไม่ให้มีถนนลูกรังให้หมดก่อนไหม เป็นไง เราจะไม่พัฒนาเลยหรอครับ แล้วเราจะเริ่มโครงการอื่นๆ ได้เมื่อไหร่ ปัญหามันเกิดขึ้นทุกวัน เราสามารถ สร้างแก้ไขไปพร้อมๆ กันได้นะครับ
ในแง่คนทำงาน สามล้านทุกอย่างขนาดนี้ ถูกไม่รู้จะถูกไงละค่ะ
เอาถูกกว่านี้คนทำงานล้องห้ายยยยยย
ปล. ลองไปดูงบซุ้มเฉลิมพระเกียรตินะคะ แพงกว่าสามล้านเยอะเลย😂
พอเอาไปช่วยน้ำท่วม ก็จะมีคนมาบอก ทำไมไม่เอาไปลงศูนย์เด็กเล็ก😢
เรื่อง CI กรุงเทพนี่สะท้อนมากค่ะ ว่าคนไทยไม่เข้าใจเรื่องงานออกแบบเอาขั้นหนักอะ อย่างอาร์ททอยที่เห่อกันช่วงนี้ก็ทรงเห่อแฟชั่นตามๆกันเฉยๆอะ //และมาแซะว่างบสามล้านแบบไม่รู้ที่มาที่ไปอีก เซ็ง
เห็นด้วยกับความคิดเห็นเรื่องมุมมองกราฟฟิค จากผู้ที่มีความรู้ด้านกราฟฟิค อย่าง salmon มากค่ะ อยากให้คนไทยเปิดกว้างมากขึ้นกว่านี้ ขอบคุณที่เป็นกระบอกเสียงให้กับกราฟฟิคดีไซน์เนอร์ไทยค่ะ
จริง ๆ เรื่อง ci กทมเราว่าโฮสต์ทุกท่านพูดมาตรงประเด็นและย่อยง่ายมากแล้วนะ เขาไม่ได้ว่าใครที่มองว่ามันไม่สวยเลย งานศิลปะมันปัจเจกจริง ๆ แต่เขาแค่ไม่โอเคกับความเห็นที่ค่อนข้างดูถูกคนออกแบบน่ะ ตอนแรกเราเองก็ยอมรับว่าไม่ชอบป้ายใหม่นี่เหมือนกัน แต่ไม่ชอบเพราะแค่เห็นรูปเดียวที่แปะอยู่ตรงรางรถไฟฟ้า ด้วยความที่น้องมันอยู่ไม่ถูกที่อะ สีสันมันสดใสตัดกับคราบมอ ๆ บนราง พอมองดูแล้วค่อนข้างขัดตา แต่พอดูดีไซน์จากที่อื่นที่ไม่ใช่แค่แปะอยู่ตรงนั้นเออมันก็สวยนะ คู่สีก็สวย แถมอีกอย่างพอมองว่า ci มันไม่ใช่แค่ออกแบบมาแล้วแปะ ๆ ไปทั่วเมือง มันต่อยอดได้มากกว่านั้นก็เก็ทเลยว่า 3 ล้านถือว่าค่อนข้างถูกจริงด้วย ส่วนตัวพอฟังโฮสต์พูดแล้วเราได้มองอีกมุมเลยค่ะจากตอนแรกที่รู้สึกไม่ชอบมาก ๆ แล้วนี่ก็หวังว่าระยะยาว ci ตัวนี้อาจจะเป็นภาพจำมาก ๆ เหมือน i love new york ก็ได้นะ ยิ่งตอนนี้สายผลิตก็เริ่มผุดไอเดียเล่นกับชื่อเต็มกรุงเทพกันแล้ว แต่ละคนไอเดียเลิศทั้งนั้นเลย 😂
มุกต้นกล้าจะกลายเป็นสติ๊กเกอร์ของแซลม่อนมั้ยคะ 555555 น้องดูมี potential อ่าา
ฟังจบแล้วนะครับล้อเล่น
Tracetalk ทำให้หายเหงาทุก week เลย ❤
ขอบคุณที่มีคนคิดแบบเราเรื่องป้ายกทม. อึดอัดมากที่คิดแต่งต่างจากคนทั่วไป พี่ๆอธิบายได้ดีมาก
ไปอ่านเจอโพสนึงที่เข้าบอกมาคล้ายๆที่พี่โจ้บอก เค้าบอกว่าป้ายเดิมที่บอกว่า "ชีวิตดีๆที่ลงตัว" ก็ไม่เห็นชอบกัน แต่พอเปลี่ยนก็ด่าว่าแบบเดิมดีกว่า ส่วนตัวเราคิดว่าถ้าตอนแรกกทม.ออกมาให้โหวตหลายๆแบบอาจจะมีปัญหาน้อยลงหน่อย(มั้ยนะ?) (เสียใจมากที่งานออกแบบโดนด้อยค่า บอกCIทั้งเมือง 3ล้านแพง งานออกแบบมันถูกขนาดเหรอ 😢)
ดูปกคลิปนึกว่าต้นกล้า พอเข้าคลิป อ้าว! พี่โจ้ 😅
แฝดสามแซลมอน พี่โจ้ ยศ ต้นกล้า
กฎในการรับคนของบริษัทนี้คือหน้าต้องคล้ายกัน555555
อยากให้คุณต้นกล้าพูดคำว่า "ดูแนวโน้ม" ให้ฟังหน่อยค่ะ
เรื่องดีไซน์กทม.เนี่ย มีคนเปรียบเทียบกับป้ายบางซื่อ 33 ล้าน .... คือป้าย 33 ล้านมันได้ทั้งเมืองไหมเล่าาาาาาาาา เงิน 33 ล้านนั้นได้แค่ป้ายด้วย ดีไซน์สถานีไม่เกี่ยวด้วยซ้ำ
ดู The Act of Killing จบแล้ว แนะนำภาคต่อ คือ The Look of Silence
ทีมงานเดียวกัน ได้รางวัลเยอะเหมือนกัน สะเทือนใจเหมือนกัน
ดูได้จากไหนหรอครับ
จากใจคนหนึ่งที่ทำงานในวงการออกแบบ นักออกแบบก็อยากผลิตผลงานสวยๆงามๆกันทั้งนั้น เทสศิลปะก็ส่วนหนึ่ง แต่การดูถูกอาชีพนี้กับการกดราคาอาชีพนี้มันก็ยังคงอยู่ต่อไปจริงๆ หลายคนบอก3ล้านแพง แต่การทำงานด้านนี้มันไม่ใช่แค่คนๆเดียว มันมีทีมงาน มันมีระเวลาการผลิต ค่ากระบวนการความคิด ค่าเสียเวลา และกำไร ก็ควรคำนึงถึงจุดนี้บ้าง ราคางานออกแบบในไทยทุกวันนี้มันน้อยมากๆอยู่แล้วด้วย ถ้าจะให้ต่ำกว่านี้ก็คงไม่เหลือใครที่อยากทำงานออกแบบแล้ว
เข้าใจค่ะว่า CI คืออะไร เข้าใจว่ากรุงเทพควรต้องมี CI และเข้าใจว่าการทำ CI ต้องใช้เงินเยอะ เข้าใจทุกอย่างแต่ก็รู้สึกอยู่ดีว่าดีไซน์ของป้ายมันไม่สวยจริงๆ ไม่มีเอกลักษณ์ ไม่น่าดึงดูด ไม่เข้ากับสภาพแวดล้อม
รับทราบและเข้าใจมากๆ ค่ะ
👏🏻👏🏻👏🏻👏🏻👏🏻👏🏻
ไม่น่าเปิดฟังในที่สาธารณะเลยค่ะ กลั้นขำจนหน้าเบี้ยว ตั้งแต่ต้นเลย
ผ่านมา 9.28 นาทีเริ่มต้นเล่าข่าวได้ 🎉🎉🎉 มันจัด
ถ้ารวมเหล่าตัวโดน คาดว่าห้องจัดรายการน่าจะนั่งกันไม่พอนะคะ 😅
เรื่องป้าย แค่ตัวมันเองสวยไม่เถียง ทำแบรนด์ ทำสตอรี่คือสิ่งที่ดี แต่ที่ไม่ชอบคือการจัดวางที่ไม่ถูกบริบท
จุดแลนด์มาร์คเดิมที่เป็นสีขาวซึ่งเป็นภาพจำ ซึ่งมู้ดแอนด์โทนมันลงตัวอยู่แล้ว คิดว่าไม่ควรเปลี่ยน
ผมเข้าใจว่าหัวใจหลักมันคือฟอนต์ ดังนั้นถ้าจุดอื่นจะเลือกใช้สีอื่นได้ทำไมตรงนั้นจะคงสีเดิมไว้ไม่ได้?
มีความเห็นหนึ่งที่เจอแล้วคิดว่าอาจจะเป็นเหตุผลที่กทม. เลือกเปลี่ยนสีเป็นสติกเกอร์สีเข้มค่ะ คือ หากผ่านเวลาไปเรื่อยๆ สติกเกอร์พื้นหลังขาว ตัวหนังสือสี อาจเลือนหายไปตามกาลเวลาได้ง่าย ต่างจากสติกเกอร์พื้นหลังสี ที่เมื่อโดนแดดแล้วจางลง จะยังคงความสดของสีไว้ได้ง่ายกว่า แต่อันนี้เป็นการคาดเดาส่วนตัวนะคะ อย่างไรก็ตามคือ มันไม่ผิดเลยค่ะ ที่คุณจะไม่ชอบ
ขอบคุณพี่ธัญที่พูดถึง Rafah ค่ะ
ก็ไม่คิดว่าจะต้องกลั้นขำใน BTS ขนาดนี้ เป็น 10 นาทีที่ทรมานมาก 🤣🤣🤣
ชอบเรื่องเดียวกับTKเลย เเม่สาวเสื้อฟ้าที่ข้าฝันใฝ่🎉
เคยเห็นเรื่อง หน่อไม้ vs เห็ด มีคนทำงานวิจัยจริงจังด้วยว่าอันไหนมีช็อคโกแลตมากกว่ากัน คุ้นๆว่า Trace Talk ก็เคยเล่าไปแล้ว
พี่ ฟาโร ไปต่อในคลิป 5A Brotherhood ของ ลุงไนท์ Gssspotted ไปสุดทางเลยครับ
อยากพี่ๆ Salmon ร่วมงานกับ คอเย็น ด้วยครับ
เพิ่งมาไล่ฟังย้อนหลัง
เมื่อมูลค่างานกราฟฟิคที่ไม่เคยถูกเข้าใจโดยคนไทย มารวมกับความเป็นภาครัฐ
คอมเม้นก็จะประมาณนี้แหละมั้ง ความเป็นภาครัฐมันเป็นพิษกับทุกอย่างจริงๆกับสังคมที่โดนกดทับแบบทุกวันนี้
ดูจบแล้วลงใหม่ได้เลยล้อเล่น
ดูจบแล้วลงใหม่ได้เลยครับ
ไวเกิร
ยังๆๆๆๆ
คลิปนี้รู้สึกผิดหวังกับทัศนคติมาก ๆ ครับ อยากให้มองมุมมองอื่น ๆ ที่กว้างมากกว่านี้อีกนิด ส่วนตัวคิดว่างานศิลป์มันเป็นสิ่งที่วิพากย์วิจารณ์ได้ เพราะแต่ละคนมีมุมมองที่แตกต่างกัน ราคาที่ทำก็ไม่ได้คิดว่าแพงเลยครับแบบ 4-5 ล้านก็คิดว่ามันก็ได้อยู่ครับ ส่วนตัวคิดว่าสวยดีแต่อยากทำให้ดูร่วมสมัยได้มากกว่านี้แหละ แต่ที่คิดว่าพลาดจริง ๆ คือ CI ใหม่ที่ออกมามันดูแบบมองแล้วนึกถึงและสะท้อนความเป็นกทม. ได้ไม่มากพอ นึกภาพแบบคนต่างชาตินึกถึงกทม. แล้วสิ่งแรกที่เข้ามาในหัวคืออะไร สีเขียว สีม่วงเหรอ มันเห็นแล้วจดจำได้ แต่ไม่เข้าใจและมันสื่อสารต่อได้ยาก เหมือน concept จะดีนะ แต่มันไม่ relate มากพอ ขนาดเราที่เห็นยังไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร รู้แค่สีเขียวที่เป็นสีตราสัญลักษณ์ของกทม. มองวัชระอะไรนั่นไม่ออกเลย ถ้าจะเป็นแบบนี้อาจจะออก textline เพิ่มเติมที่นำเอาสีเขียวหรือสีม่วงมาตีความหมายต่อได้น่าจะช่วยได้ดีครับ ส่วนตัวคิดว่า City of Life แบบเก่าเราว่ามันสะท้อนความเป็นกทม. และสื่อความหมายได้ดีกว่า นึกภาพเราเป็นชาวต่างชาติพอนึกถึงกทม. แบบ City of Life ก็ผุดขึ้นมาในหัวเลย ส่วนตัวคิดว่าเอาอันเก่ามาปรับ design ใหม่แล้วเอามาเป็น CI ของกทม. ให้มันต่อเนื่องเพื่อเป็นภาพจำไปมันง่ายกว่าด้วยครับ ไม่ต้องมาเริ่มใหม่ เพราะ City of Life มันค่อนข้างมีชื่อจนนักท่องเที่ยวมาตามถ่ายรูปอยู่แล้ว ส่วนเรื่องถังขยะที่มี mock up ออกมา นึกถึงคนที่เห็นงานออกมาเขาก็คิดว่าจะเปลี่ยนให้ถังขยะเป็นแบบนี้ทั่วกทม. ซึ่งใครจะไปรู้ว่าจะไม่ทำ เพราะแบบมันออกมาแล้วมันส่อไปในแง่ที่จะเปลี่ยนมากกว่า ส่วนตัวคิดว่าคนออกแบบควรทำการบ้านอีกนิดคือมันสวยแต่สื่อความหมายกับสีที่เป็นสากลได้ค่อนข้างยาก ยิ่งคนไทยก็งง ๆ ยังต้องมองป้ายก่อนทิ้งอยู่ อาจจะลดทอนลวดลายหรือเปลี่ยนลวดลายให้เป็นสีเดียวไปเลยจะทำให้ดูออกง่ายมากขึ้นอีกนิด
ผิดหวังที่คลิปนี้มองไม่กว้าง แล้วที่พิมพ์มานี่มันมุมมองกว้างแล้วเหรอครับ
@@SalmonPodcast ขอบคุณมากครับสำหรับการตอบกลับดี ๆ ครับ
แล้วในคลิปเราบอกตรงไหนคะ ว่างานศิลป์วิจารณ์ไม่ได้?
ที่คุณพูดมามันก็อยู่ในขอบเขตที่วิจารณ์กันได้ตามความชอบเหมือนที่โฮสต์บอกนี่ครับ เลยไม่เข้าใจว่าผิดหวังเรื่องอะไรนะฮะ
@@SalmonPodcast ในคลิปไม่มีส่วนไหนที่บอกว่างานศิลป์วิจารณ์ไม่ได้ สิ่งที่บอกว่าอยากให้มองมุนอื่นที่กว้างอีกนิดคือ
1. ที่คุณยชญ์พูดประมาณว่า ถ้าเราจะวิเคราะห์เหตุผลของการมาซึ่งดีไซน์นี้มันก็แฟร์มาก ๆ แต่การทำแบบนี้มันก็ไม่นำไปสู่อะไรเท่าไร >> ส่วนตัวคิดว่าถ้ารับฟังคำจาร เลือกเอาอันที่มีประโยชน์ แล้วมองดูว่าสิ่งที่ได้รับวิจารคืออะไร เราสามารถนำมันไปปรับปรุง หรือเพิ่มเติมอะไรในอนาคตได้บ้างที่จะทำให้ CI ของกทม. ต่อยอกไปได้ไกลแล้ว มี impact ที่มากขึ้นครับ
ส่วนที่ 2 คือเรื่องของลายที่ถังขยะ ที่คุณชมพูดว่ามันจะมีคนที่บอกประมาณว่าถังขยะควรจะคงสีตามประเภทที่เข้าใจกันเป้นสากลอยู่แล้ว ซึ่งจริง ๆ คือชมเข้าใจว่าคนที่เขาทำ คือเขาทำ mock up ขึ้นมาเค้าอาจจะไม่ได้ฟีลแบบว่ามึงต้องทำถังขยะแบบที่กูออกแบบให้อ่ะ มันเป็นแค่ mock up >> มุมมองผมคิดว่างานออกแบบที่ทำมา มันควรจะเอามาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ สร้างสรรค์ หรือสร้างแรงบันดาลใจอะไรก็แล้วแต่ นั่นเป็นเหตุผลที่มีการออกแบบ แล้วงานออกแบบส่วนนี้มันอยู่ในชิ้นงานที่จ่ายเงินจากภาษีของประชาชน แล้วถ้าออกแบบโดยไม่คำนึงถึงการที่จะเอามาใช้ได้จริง นั่นหมายถึงว่างานออกแบบทำมาได้ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ แล้วเงินที่จ่ายไปคือต้องจ่ายส่วนนี้ไปทำไม แทนที่จะเอาทรัพยากรส่วนนั้นมาออกแบบถังขยะ เอาไปออกแบบสิ่งอื่นที่นำไปใช้งานได้จรงิ ๆ จะดีมากกว่า ถ้าเงินส่วนนี้จ่ายจากเงินส่วนตัวผมจะไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ
เรื่อง CI นี่อาจจะมีผลนะ เช่น ผมชอบลิเวอร์พูล ผมก็จะชอบโลโก้นี้ สีแดงเฉดนี้ มองไปปุ้บจะดูออกทันทีว่า นี่แดงลิเวอร์พูล และก็จะไม่ชอบแดงอีกเฉดนึง อะไรแบบนี้ป่ะคับ, อย่าง CI กทม. คือแบบถูกเปลี่ยนไง ก็เลยกลายเป็นคนชอบบ้างไม่ชอบบ้าง
เนี่ย มีพูดถึงเรื่องจั่วหัวข่าวที่ดูรุนแรงเพื่อเรียกยอด กับ ข่าวสวนสัตว์น้องหลุดออกมาแล้วตัวเองก้อพูดเองว่าไปสุดทางไปมั้ยกับการให้ปิดสวนสัตว์
แล้วthe matter เขียนเรื่องปิดโซนขายสัตว์ในจตุจักรและสัมภาษณ์องค์กรขอทานเอาความสงสารมาขาย ไตร่ตรองตอนลงข่าวแล้วจริงหรอคะ
จิงโจ้ใส่นวมมีมาตั้งแต่สมัยทอมเจอรี่, ลูนีตูนแล้วคับ
จิงโจ้ ได้สนุกกับผจญภัยครั้ง สุดท้าย ดีกว่าไปอยู่ในกรง (จิงโจ้ไม่ได้กล่าว)
ต้นกล้าาา เราก็ชอบหมานคร เหมือนกัน
เพราะซื้อหนังสือมาอ่านละชอบ
เราก็ชอบ แค่เปิดมาด้วยเพลง ก่อน ฝนตกเป็นหมวกกันน็อคก็ชอบละ
ชอบต้นกล้า METHOD จัด 555555555555
พี่โจ้บอก กุอีกแล้ว 555555
เรื่องป้ายนี่ จิง ให้ค่าราวกับว่าเป็รูปปั้นคนสำคัญ นี่ว่าผิดเรื่องสุดๆๆๆๆ
ขนมเห็ดกับหน่อไม้ต่างกันที่แป้งตรงกลางค่ะ เห็ดจะเป็นขนมปังกรอบแต่หน่อไม้เป็นเหมือนฟิลคุกกี้มากกว่า ใดๆคือเราทีมเห็ดสุดใจแม้คนรอบตัวจะชอบแต่หน่อไม้ก็ตาม🥹
อิจฉาแฟนต้นกล้า😊😊😊😊
เรื่องราคาออกแบบป้ายกทม.อันนี้เข้าใจ แต่ออกแบบมาแล้วคนกทม.ส่วนใหญ่ไม่ชอบใจอันนี้ควรเข้าใจไหม
มันไม่ใช่ว่าหน่วยงานรัฐจะจ้างใครทำงาน แล้วพอโดนแขวนในอินเทอร์เน็ตแล้วจะมายกเลิกได้ตามใจชอบอะค่ะ เพราะ CI นี้มันไม่ได้ผิดกฎหมาย ไม่ได้ละเมิดใคร เงินก็เสียไปแล้ว มันถอดถอนไม่ได้แล้ว ถ้าลอกทิ้งตามความเห็นคุณ ก็เหมือนเอาภาษีคุณไปละลายน้ำอีก เปลืองของค่ะ
ฝ่ายจัดซื้อจัดจ้าง ประมูลงานกันมา คิดว่าถ้าไม่ชอบใจ อาจจะต้องลองไปสมัครงานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่รับผิดชอบในเรื่องการจัดหาทีมออกแบบพวกนี้นะคะ
อีกอย่าง ชอบไม่ชอบ สวยไม่สวย นี่ความเห็นใครคะ คนส่วนใหญ่ที่คุณเห็นบนโซเชียล มันใช่คนส่วนใหญ่ที่อาศัยในกทม. จริงๆ รึเปล่า หรือเราใช้มุมมองของชนชั้นกลางตัดสินว่าชาวเน็ต=คนกรุงเทพฯ จริงๆ ??? ลองคิดดีๆ นะคะ
พี่ฟาโรนี้ใช่ พี่ฟาโร 5Aไหมครับ
ใช่เลยครับ
ปั่นสะหลุดเลย5555
🤣ท่านทราบแล้ว
กทม (องค์กร) ไม่ควรมอง landmark เป็นทรัพย์สินขององค์กร ถึงจะต้องใช้ CI เดียวกัน
แต่รางรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เป็นพื้นที่ติดสติกเกอร์นี้ ก็เป็นพื้นที่ในการดูแลของกทม. นะคะ 🥺🥺🥺
----
BTS สายสีเขียว หมอชิต-สำโรง (สายสุขุมวิท) เปิดให้บริการตั้งแต่ ธันวาคม 2542 “โดยมี กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าของ” และมอบสัมปทานให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ภายใต้กลุ่มบีทีเอส เป็นผู้ดูแลระบบให้บริการการเดินรถทั้งหมด
ข้อมูลจาก www.bangkokbiznews.com/business/economic/1031381#google_vignette
สงสารคุณต้นกล้า😂
อาจจะไม่ค่อยเท่นะดูจบแล้วล้อเล่น
ดูจบแล้วล้อเล่น
ดูจบแล้วลบคลิปรายการทิ้งได้เลยครับ
//นี่ มาอีกขั้น ล้อเล่นนะครับๆ
ฟังแล้วเหมือนต้นกล้าโดนบูลลี่ตลอดเลย
เรียกว่าเป็นมุกตลกของทางทีมที่เล่นกันภายในมากกว่าค่ะ จริงๆ ตอนที่เล่นกันก็มีการเช็คกันตลอด อย่างตอนที่จุฬจะหยิบเรื่องนี้มาเล่า ก็ขออนุญาตจากคุณต้นกล้าเรียบร้อยค่ะ
สวัสดีครับ
5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555 ร่วมๆดีมาก
💯
คนเลือกมาได้ไงไง ก็มันไม่สวย ไง
ทุกคนก็เลยย้ำอยู่ในคลิปตลอดนะคะ ว่าชอบไม่ชอบ สวยไม่สวย มันแล้วแต่คนมองค่ะ
งานออกแบบมันมีอะไรมากกว่าแค่คำว่าสวยไม่สวยนะครับ
รสนิยม เป็นเรื่องที่สอนกันไม่ได้ เราโทษ รสนิยม คนเลือก ไม่ได้โทษคนออกแบบ
รสนิยมสอนได้ครับ
48:35 ใครอยากฟังเรื่องราวพี่ฟาโรห์ต่อจากเหตุการณ์นี้ตามไปที่ลุงไนท์ได้เลยครับ ruclips.net/video/M21fW-j8Bqk/видео.htmlsi=znP4rjuM9kyPNG5l
จริง ลุงไนท์เล่าไว้เราฮามาก55555
พี่ธัญตัวจริงแน่นอนเพราะใส่เสื้อลาย
ตกใจพี่จุฬผมเพิ่งเห็นหน้าเจ้าของเสียงในกล้องสวยกว่าในกล้องอีกครับล้อเล่น