จะกล่าวแบบนั้นก็มีส่วนถูกแต่ไม่ทั้งหมด..... ตามความหมายเดิมของมัน ทั้งแบบ X และ Y ใช้กรองสัญญาณรบกวนความถี่สูงตรงไฟ AC ทั้งที่มาจากภายนอกหรืออาจเกิดจากภายในเครื่องก็ได้ ไม่ได้ใช้เกณณ์ว่ามาจากภายนอกหรือภายในการแบ่งชนิด แต่ใช้เกณฑ์ลักษณะการต่อในการแบ่งชนิดแทนครับที่ต้องแบ่งเพื่อความปลอดภัยตอนที่คาปาซิเตอร์มันเสียคือป้องกันไม่ให้ไฟรั่วลงโครงที่เป็นโลหะแล้วซ๊อตคนครับ ถ้าจะต่อลงโครงเครื่องหรือต่อลงกราวน์ต้องแบบ Y เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น นิวทรัล-ลงกราวน์ หรือ ไลน์ลงกราวน์เครื่อง ที่มาตรฐานกำหนดแบบ Y เนื่องจากตอนมันเสียจะเสียแบบขาดเท่านั้นเมื่อเสียแบบขาดไฟก็จะไม่รั่วลงโครงไม่อันตรายไม่ซ๊อตคนที่จับโครงเครื่อง.... ไฟ AC 2 สายตามบ้าน...จะเป็นสายไลน์และนิวทรอลจะใช้แบบ X หรือ Y ก็ได้เนื่องจากเป็นจุดที่คนไม่ได้มีโอกาสสัมผัส ลองดูในช่วงท้ายๆคลิปจะแสดงรูปจุดต่อใช้งานที่ต่างกัน
มีรายละเอียดตามนี้ครับอ้างอิงตามผู้ผลิต C โดย C ชนิด X และ Y ออกแบบมาใช้กับไฟ AC เพื่อลดสัญญาณรบกวนออกจากไฟ AC โดยชนิด X และ Y มีลักษณะการต่อใช้งานที่ต่างกัน นอกจากนั้น C ชนิด X ยังมีการแบ่งระดับย่อยเป็น X1 X2 X3 ตามคุณสมบัติระดับการทนต่อแรงดันไฟ เช่นกัน ชนิด Y ก็จะมีระดับ Y1 Y2 Y3 โดย C บางรุ่นออกแบบมาให้ผ่านมาตรฐานการใช้งานทั้งแบบ X และ Y ในตัวเดียวเลยก็มีต้องดูที่ป้ายข้อความในตัวมัน
ขอบคุณครับ กำลังเรียนเลย😊😊😊
ขอบคุณที่ดูคลิบนี้ ผมคนจะยุคเก่าแล้ว ...กำลังเรียนดีเลยครับ คนยุคใหม่ ลองไปสำรวจการทำงานก่อนล่วงหน้า หัวข้อที่เรียนและเรื่องที่เรียนจะได้ตรงกับที่ใช้งานจริงๆให้มากที่สุด .... ใช้สอบด้วย + จะใช้ทำงานจริงๆด้วย เรียนแบบนี้สนุก ขับเคลื่อนด้วยการตรงเป้า
😇ขอบคุณ ? อยากรู้มานานแล้ว🥰
ข อบคุณความรู้ครับ พื้นฐานดีมากครับ
อาจารย์ครับผมขอสอบถามเพิ่มเติมหน่อยครับ
คาปาซิเตอร์แบบ x ใช้กรองความถี่สูงที่มาจากไฟ ACก่อนเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าใช่ไหมครับ
คาปาซิเตอร์แบบYใช้กรองความถี่สูงที่เกิดจากเครื่องใช้ไฟฟ้าก่อนที่จะออกสู่ภายนอกเครื่องใช้ไฟฟ้าใช่ไหมครับ
ขอบพระคุณครับอาจารย์
จะกล่าวแบบนั้นก็มีส่วนถูกแต่ไม่ทั้งหมด.....
ตามความหมายเดิมของมัน ทั้งแบบ X และ Y ใช้กรองสัญญาณรบกวนความถี่สูงตรงไฟ AC ทั้งที่มาจากภายนอกหรืออาจเกิดจากภายในเครื่องก็ได้ ไม่ได้ใช้เกณณ์ว่ามาจากภายนอกหรือภายในการแบ่งชนิด แต่ใช้เกณฑ์ลักษณะการต่อในการแบ่งชนิดแทนครับที่ต้องแบ่งเพื่อความปลอดภัยตอนที่คาปาซิเตอร์มันเสียคือป้องกันไม่ให้ไฟรั่วลงโครงที่เป็นโลหะแล้วซ๊อตคนครับ ถ้าจะต่อลงโครงเครื่องหรือต่อลงกราวน์ต้องแบบ Y เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น นิวทรัล-ลงกราวน์ หรือ ไลน์ลงกราวน์เครื่อง ที่มาตรฐานกำหนดแบบ Y เนื่องจากตอนมันเสียจะเสียแบบขาดเท่านั้นเมื่อเสียแบบขาดไฟก็จะไม่รั่วลงโครงไม่อันตรายไม่ซ๊อตคนที่จับโครงเครื่อง.... ไฟ AC 2 สายตามบ้าน...จะเป็นสายไลน์และนิวทรอลจะใช้แบบ X หรือ Y ก็ได้เนื่องจากเป็นจุดที่คนไม่ได้มีโอกาสสัมผัส ลองดูในช่วงท้ายๆคลิปจะแสดงรูปจุดต่อใช้งานที่ต่างกัน
@@electech_8889 ขอบพระคุณครับอาจารย์
ช่วยแนะนำ เบอร์ C ที่จะเอามาทำปลั๊กพ่วงป้องกันไฟกระชาก ที่ใช้ร่วมกับวาริสเตอร์ทีครับ
วาริสเตอร์ใช้กับไฟ 220Vac ปลั๊กพ่วงมักเป็นเบอร์ 20D431K = 275V ทนแรงดันปกติ ได้ถึง 275Vac Max กำลังดีเพื่อให้มันไม่เสียง่ายและตัดเร็วเกินไป ช่วงแรงดันที่วาริสเตอร์เบอร์นี้จะตัดแรงดันคือ 387V - 473Vac ดังนั้นใช้ Capacitor Class X ที่ทนแรงดันได้ 530V หรือ 760V มีผลิตขายและหาง่าย แนะนำอย่างนี้โดยที่ไม่ต้องมีการคำนวณ พวกปลั๊กพ่วงส่วนมากมัน 10A ให้ไปสังเกตภาคจ่ายไฟแบบสวิตชิ่งวัตต์สูงหน่อย อันที่มีชื่อต้นๆในวงการ เขาจะทำการทดสอบและคำนวณ เลือกค่ามาแล้ว ใช้ค่ามาตรฐานตามนั้นได้เลย C นี้จะอยู่จุดไฟ AC ไฟเข้า ข้อสังเกต วาริสเตอร์จะเป็นตัวใหญ่ 20D =20mm ส่วน C ก็จะเป็นตัวใหญ่หน่อยเช่นกันเพื่อให้ใช้ทนและปลอดภัยยิ่งขึ้น อุปกรณ์ป้องกันพวกนี้มันต้องมีการคำนวณ ต่อลองทดสอบกับแรงดันซึ่งเครื่องมือทดสอบนี้ระดับโรงงานจึงจะมี คนทั่วไปก็สังเกตค่าที่โรงงานเขาใช้กันแทน
ชอบมากได้ความรู้มากกกกเลย
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากๆครับ
ยอดเยี่ยมครับ
ขอบคุณท่านอาจารย์มากๆครับผม
ตัวเสียmex/tenta mkp 0.1uf 275vac กับ ตัวใหม่mex/tenta mkp 0.22uf 275vac ใส่เเทนกันได้มั้ยคับ😆
- อันดับแรกเรื่องวัสดุเป็น MKP ชนิดเดียวกัน OK ใช้ได้ - อันดับสองให้ช่วยเช็คว่าเป็น คลาส X เหมือนกันไหม ? จะใช้งานกับไฟ AC จุดสายไลน์นิวตรอนต้องเป็นคลาส X ที่ตัวจะมีเขียนบอกไว้ว่า X ถ้าคลาสเหมือนกันใชได้ - อันดับ 3 เรื่องค่าความจุ ถ้าใช้ทำหน้าที่บายพาส ค่า 0.1uF จะกรองความถี่เป็นความถี่ย่านสูงกว่า ส่วน 0.22uF จะกรองความถี่สูงย่านต่ำลงมา โดย หลักทั่วไป C ทำหน้าที่บายพาสใช้ C ค่าใกล้เคียงได้
@@electech_8889 ตัวเก่า MKP 0.1uf K X2 275VAC 40/100/21
ตัวใหม่ MKP 0.22uf K X2 275VAC 40/100/21
สองตัวนี้ต่างกันย่างไรครับ
สรุปสั้นๆจุดต่อใช้งานต่างกันครับและลักษณะการเสียมาตรฐานความปลอดภัยกำหนดไว้ให้เสียต่างกันครับ ในคลิปจะมีรูปจุดต่อ
แล้วต้องใช้ค่าเท่าไรครับสำหรับกรองไฟ คำนวณอย่างไง
ช่วยปรับปรุงหน่อยครับ
ขอบคุณครับที่รับชมคลิบ ผมทำแบบมือสมัครเล่นและเป็นคนออกจะยุคเก่า ถือว่าช่องได้บรรลุเป้าหมายแล้วได้แบ่งบันข้อมูลเท่าทีทำได้ คงไม่ได้ปรับปรุงไปมากกว่านี้ ที่ทำงานประจำสถานที่ถ่ายทำและเวลาเรียบเรียงข้อมูลไม่ได้ ผมเห็นของต่างประเทศดีมาก ต้องให้คนรุ่นใหม่ที่เขามีทีมงานและมีเวลา ที่จบมาด้านการสอนทำสื่อใช้คอมจะเปะเลย เพราะคนรุ่นใหม่ทำภาพกราฟฟิกภาพประกอบดีมาก อุปสรรคในการทำคลิบแนวนี้คือ
1) ต้องมีเวลาเรียบเรียงข้อมูล 2) ต้องมีทีมงานทำภาพทำวีดีโออะนิเมชั่นประกอบ 3) สถานที่ถ่ายทำต้องได้ 4) ต้องมีทุนหรือการสนับสนุน
ให้ความรู้ดี มากๆ ครับ ขอบคุณ
cnของลำโพงเล็กขาดต่อยังไงครับหาไม่เจอ
มียูทูบเบอร์ท่านนึงบอกว่า X2 คือ C 2ตัวอนุกรมกันครับ(ตัวนึงช็อตตัว2ยังทำงาน) ยังไงกัน แล้ว X กับ Y ในตัวเดียวกันก็มี
มีรายละเอียดตามนี้ครับอ้างอิงตามผู้ผลิต C โดย C ชนิด X และ Y ออกแบบมาใช้กับไฟ AC เพื่อลดสัญญาณรบกวนออกจากไฟ AC โดยชนิด X และ Y มีลักษณะการต่อใช้งานที่ต่างกัน นอกจากนั้น C ชนิด X ยังมีการแบ่งระดับย่อยเป็น X1 X2 X3 ตามคุณสมบัติระดับการทนต่อแรงดันไฟ เช่นกัน ชนิด Y ก็จะมีระดับ Y1 Y2 Y3 โดย C บางรุ่นออกแบบมาให้ผ่านมาตรฐานการใช้งานทั้งแบบ X และ Y ในตัวเดียวเลยก็มีต้องดูที่ป้ายข้อความในตัวมัน
@@electech_8889 ขอบคุณครับ
ดู Video ที่น่าสนใจอื่นๆ ต่อ จาก Playlist นี้
ruclips.net/p/PLdcRmbw5ZqKooPf0QKspbaDl3nFLn6tgv
ดูว่าเป็น cx หรือ cy ยังไงเหรอครับ
ที่ตัว C จะมีข้อความระบุไว้ว่า X1 หรือ X2 , Y1 หรือ Y2 ครับ ต้องใช้ C แบบเดิมมีขายเยอะ C แบบนี้ มักใช้กับไฟ AC แถวๆวงจรพาวเวอร์ซัพพลาย
5
สวัสดีครับพี่
สวัสดีครับ เม้นที่ 1