This is one of the best clips ever made! You are indeed an enlightened being! I will replay this clip over and over again to digest your thought process. I totally agree with your analysis and you have helped all of us to logically put it in words. Amazing amazing! And thanks very much as always ka 💕🙏🏻
The first day I had on my light sweater again! Pumpkin display is fully on at the farmers market. ALL that Pumpkiny fall feels which I love love love… ❤️💛💚🧡🤎 Interesting, mind-provoking topic today. Similar to one you posted l o n g ago about what you think of (D)eath. I shall be back to share my Two cents! Right now will squeeze in my 30-min cardio, then lunch. Have a Gloriously Beautiful Saturday! 🌻🌻🌻🌻🌻🌻
เราเป็นใคร และมาจากไหน
สวัสดีครับ
ผมชื่อว่าช่วงหนึ่งในชีวิตของคนเรานะครับน่าจะเคยได้ยินคำถามที่ว่าเราคือใครกันแน่ เรามาจากไหน แล้วอะไรทำให้เราเป็นเรานะครับ คำถามเนี่ยบางครั้งเราได้ยินมาตั้งแต่เด็กแล้ว บางครั้งเรามาได้ยินตอนโต บางครั้งเรามาได้ยินในช่วงที่มีการพูดถึงปรัชญาชีวิตแต่เราก็อาจจะไม่ได้คิดอะไรกับมันมากนะครับหรือบางทีคิดมากไปมันก็คิดไม่ออกไม่ค่อยได้คำตอบอะไรแล้วก็ลืมไปนะครับ วันนี้ผมก็เลยอยากจะเอามุมมองของผมมาแบ่งปันนะครับเพราะว่าผมเองก็เคยคิดเกี่ยวข้องกับคำถามคำถามนี้เหมือนกันว่า “ผมคือใครกันแน่ เราคือใครกันแน่นะครับ เรามาจากไหน เรามาจากต่างดาวอะไรอย่างนี้หรือเปล่านะครับ” คำถามเนี้ยผมเคยได้กับตัวเองมาตอนเด็กๆแต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าผมไปได้มาจากไหนนะครับแต่แน่นอนว่าผมว่าทุกคนน่ะคงจะเคยเจอคำถามอย่างนี้นะครับ อันนี่ไม่ใช่กรณีที่นักเลงหาเรื่องนะ “มึงรู้ไหมกูเป็นใคร!” อะไรอย่างนี้อันนี้ไม่ใช่นะครับนั้นก็เป็นคำถามหาเรื่องนะครับ แต่วันนี้เราจะคุยกันจริงๆว่าถ้าเราคิดเรื่องคำถามพวกนี้เนี่ยสมัยผมเด็กๆเนี่ยผมคิดอะไรบ้างนะครับ จริงๆผมเป็นเด็กที่คิดเยอะนะครับคิดลึกไปเรื่อยๆแล้วค่อยๆต่อยอดไปนะแต่ผมมองว่าการคิดแบบนั้นเนี่ยมันน่าจะได้ประโยชน์แล้ววันนี้ผมก็เลยอยากจะเอาวิธีคิดแบบนั้นเนี่ยมาแบ่งปันแล้วลองดูซิว่าเอ๊ะมันมีคนที่คิดเหมือนกับผมหรือเปล่านะครับหรือว่าบางครั้งอาจจะคิดไม่เหมือนกันแต่ว่าเรามาแบ่งปันในเรื่องของความคิดทำให้ได้ประโยชน์กันทั้งคู่นะครับ
1️⃣
เราเริ่มกันเลย “เราคือใครนะครับ?” คำถามที่ควรจะถามจริงๆก็คือว่า “อะไรทำให้เราเป็นเรา อะไรทำให้เราแยกได้ว่าสิ่งนี้คือหมา สิ่งนี้คือแมว สิ่งนี้คือเรา สิ่งนี้คือเพื่อนเรา ถ้าเป็นมนุษย์ด้วยกันอะไรที่ทำให้เราสามารถแยกคนที่ 1 ออกจากคนที่ 2 ได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นฝาแฝดก็ยังสามารถแยกออกจากกันได้” สำหรับคนที่คุ้นเคยถูกไหมครับ ดังนั้นเนี่ยอะไรทำให้เราเป็นเรา?
✴️สิ่งแรกที่คนมองผิวเผินก็จะคิดก็คือหน้าตามันก็ไม่เหมือนกันแล้วแต่ละคนถูกไหมครับ คนนี้กับอีกคนนึงหน้าตาก็ไม่เหมือนกันแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่จะทำให้เขาเป็นเขาจริงหรือเปล่านะครับ ผมก็ลองให้ทุกท่านคิดแบบนี้ดู ในตอนเด็กๆผมเลยลองคิดดูว่าคนเราเนี่ยผมเคยไปเห็นรูปของครูตอนเด็กๆ ครูเคยเอารูปมาให้ดู รูปครูตอนเด็กกับรูปครูตอนนี้มันหน้าตาไม่เหมือนกันถูกไหมครับหน้าตาไม่เหมือนกัน แต่ก็คือคนคนเดียวกันคือครูคนเดิมนั่นแหละครับเพียงแต่หน้าตาไม่เหมือนกันก็แปลว่าถ้าหน้าตาเราเปลี่ยนไปเราก็ยังถือว่าเราเป็นเราอยู่ดีนะ ดังนั้นแปลว่าสิ่งนี่มันไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการที่เราเป็นเราแล้วสิถูกไหมครับ หรือว่าเราเป็นใครแล้วซิ ไม่น่าจะเกี่ยวนะ
ให้ยกตัวอย่างอื่นเพิ่ม เช่นสมมติว่าเพื่อนเราเนี่ยเกิดไปทำเคมีบำบัดมาแล้วหัวโล้นเรายังจำเขาได้ไหมครับว่าเขาคือเขา? ก็ได้นะครับ หรือเกิดอุบัติเหตุขาขาดแขนขาดก็ยังเป็นเขาอยู่ดีนะครับ ดังนั้นพอมาถึงตรงนี้ที่เมื่อกี้เราบอกว่า “ก็แต่ละคนหน้าตามันไม่เหมือนกันมันก็ต้องบอกได้สิว่าคนนี้คือใคร” มันจะไม่ใช่ง่ายอย่างนั้นอีกต่อไปแล้วสิครับถูกไหมครับเพราะว่าเราลองดูรูปร่างลักษณะของเราแม้จะเปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่มันก็ยังคงเป็นเราอยู่ดีนั่นแหละ ทีนี้แล้วยังไงต่อ แล้วเราจะคิดยังไงต่อ?
ตรงนี้แหละครับที่ผมลองเอาวิธีในการตัดออกมาใช้ ตัดออกเนี่ยมันเป็นวิธีอันนึงเหมือนวิธีตัด Choice เวลาที่เราทำข้อสอบนะครับ วิธีการตัดออกเนี่ยผมจะเอามาใช้ในแง่ของการที่เรียงลำดับความสำคัญแบบจริงๆจังๆเหมือนคำถามที่บอกว่า “ถ้าพรุ่งนี้โลกของเราจะแตกเราจะทำอะไรในวันนี้?” ผมก็ใช้คำถามทำนองเดียวกันนะครับกับความคิดเหล่านี้ โอเค…ในเมื่อส่วนต่างๆของร่างกายต่อให้มันหายไป ต่อให้ลักษณะมันไม่เหมือนเดิมมันก็ยังแสดงถึงความเป็นเราอยู่ดีนั่นแหละ แล้วอะไรตรงไหนในร่างกายเราเนี่ยที่มาแสดงถึงความเป็นเรามากที่สุด ตรงไหน?
2️⃣
ดังนั้นคำถามแบบตัดออกของผมก็คือว่าถ้าผมลองถามทุกคนนะครับว่าสมมติร่างกายเราเนี่ยมันจะต้องแหลกสลายไปทั้งหมดเนี่ยให้เราเก็บอวัยวะหรือว่าอะไรก็ได้ในร่างกายเราไว้ 1 อย่างที่แสดงถึงความเป็นตัวตนของเรามากที่สุดเราคิดว่าเราจะเก็บอะไรไว้ครับ?
➡️ก็คงต้องมีคนประหลาดๆขอเก็บส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายไว้นะครับส่วนนั้นส่วนนี้นะครับตอบแบบกวนๆ แต่ผมเชื่อว่าหลายๆคนเนี่ยอาจจะต้องตอบว่าผมอยากจะเก็บสมอง ฉันอยากจะเก็บสมองไว้นะครับเพราะว่ามันแสดงถึงความเป็นตัวตนมากที่สุด แล้วอะไรที่ทำให้เราตอบอย่างนี้ล่ะ? แสดงว่าลึกๆแล้วเนี่ยในจิตใจเรามันก็มองแล้วนะครับว่าจริงๆสิ่งที่น่าจะเป็นตัวตนเรามากที่สุดคืออะไรสักอย่างที่อยู่ในสมอง แต่ว่ามันยังไม่จบแค่นั้นครับ คืออะไรในสมองที่ทำให้เราเป็นเรา อะไรในสมองนะครับ? ความทรงจำ ความสามารถ การตอบสนอง ความคิดความอ่าน มันทำให้เราเป็นเราไหม บุคลิกภาพต่างๆที่ทำให้เกิดขึ้นมาจากสมองมันทำให้เราเป็นเราไหม อันไหนกันแน่นะครับ? ก็ลองมาทำเรื่องสมมติเหมือนเมื่อกี้อีก สมมตินะครับเกิดเราซวยแล้วกัน มีเส้นเลือดแตกในสมองนะครับ แต่ตอนเด็กๆผมไม่ได้คิดเรื่องเส้นเลือดแตกในสมองหรอกครับเพราะว่าผมยังไม่รู้จักเรื่องของการแพทย์แต่ผมจำไม่ได้ว่าผมคิดอะไร แต่ว่าคล้ายๆทำนองนี้ สมมติว่าโดนตีหัวแล้วกันนะครับ แล้วบังเอิญโดนตีหัวแล้วเกิดมีปัญหาที่พูดไม่ได้ พูดไม่ได้ขึ้นมาเฉยๆเลย เรายังคงเป็นเราอยู่ไหม? เป็น ถูกไหมครับ
หรือถ้าเราสูญเสียความสามารถในการทำอะไรสักอย่างไป เช่นเกิดวันดีคืนดีเนี่ยเราเล่นเปียโนเก่งแล้ววันรุ่งขึ้นเราเล่นไม่ได้เลยจากเหตุผลอะไรก็ไม่รู้เรายังคงเป็นเราเหมือนเดิมอยู่ไหม? เป็น ถูกไหมครับ
หรือถ้าเราไปหกล้มแล้วความจำเสื่อม ความจำทั้งหมดที่เราเคยรู้มาเนี่ยเสื่อมจำไม่ได้แม้แต่ชื่อตัวเองจำไม่ได้ว่าตัวเองเนี่ยเกิดที่ไหน พ่อแม่คือใคร เพื่อนสนิทคนไหนที่เรารู้จักนะครับ คู่รักเราคือใคร จำไม่ได้สักอย่าง เรายังถือว่าเราเป็นเราอยู่หรือเปล่า? ถือว่าเป็นนะครับ ถูกไหมครับ เรายังก็ยังตอบว่าเราก็เป็นเรา อย่างนี้ตรงไหนแน่ที่สมอง สิ่งความสามารถอะไรสักอย่างของสมองที่มันบอกว่าเราเป็นเรา เพราะไหนๆเราก็จะเก็บสมองไว้แล้ว ตรงไหนกันแน่ที่มันบ่งบอกแล้วตอบคำถามนี้ ถ้าคิดไม่ออกลองใช้วิธีตัดออกเหมือนเดิมเลยครับ ตัดอะไรออก?
➡️ผมต้องบอกอย่างนี้ สมมตินะครับถ้าเรามีความทรงจำทั้งหมด ความสามารถของเราทั้งหมดที่เราสะสมมาจนถึงตอนนี้ แล้วก็วิธีในการตอบสนองของเรา การมองโลก การตอบสนอง ถ้าเราต้องเลือกเก็บไว้อย่างหนึ่งเราเก็บอะไรไว้? สมมติว่าถ้าเราจำได้ทุกอย่างนะครับ มีความทรงจำทุกอย่างที่เป็นของเราแต่เราตอบสนองไม่เหมือนกับที่เราเคยเป็นมาก่อนทั้งหมดเลยนะครับ เราเจออะไรเราก็ตอบสนองไม่หมด ความชอบความไม่ชอบของเราเปลี่ยนไปหมดเลยนะครับ แล้วก็เวลาที่เราเจออะไรสักอย่างเนี่ยจากที่เราเคยเห็นแล้วเราเห็นด้วยเราก็ไม่เห็นด้วยทุกอย่างเป็นตรงข้ามกับที่เราเป็นอยู่ในตอนนี้แต่สิ่งนึงซึ่งเราเก็บไว้ในหัวได้ก็คือความสามารถแล้วก็ความทรงจำเท่านั้นนอกนั้นไม่ใช่เราหมดเลยนะครับ เรายังถือว่าเราเป็นเราอยู่หรือเปล่านะครับ?
3️⃣
กับอีกแบบนึงความทรงจำเราไม่เหลือแล้วนะครับ ความสามารถที่เราเคยทำได้มันก็ไม่มี แต่เราตอบสนองว่าอันนี้เราชอบนะ อันนี้เราไม่ชอบ สถานที่นี้เราชอบ สถานที่นี้เราไม่ชอบนะครับ คนๆนี้เรารัก คนๆนี้เราเกลียด ท่านคิดว่าอันไหนที่มันจะใกล้เคียงกับการที่เราเป็นเรามากที่สุดถ้าเราต้องสูญเสีย หรือต้องตัดความสามารถอะไรบางอย่างออกจากสมองนะครับ?
➡️สมัยเด็กๆเนี่ยผมคิดแบบนี้ครับ ผมคิดว่าถ้าเพื่อนผมคนหนึ่งนะครับ มันจำผมไม่ได้ มันสูญเสียความสามารถในการเล่นกีฬาเล่นอะไรไม่ได้ แต่ถ้าทุกอย่างมันยังปฏิบัติด้วยความชอบความไม่ชอบเหมือนเดิมเป๊ะเลย เรายังพอดูออกว่ามันก็คือมันคนเดิมนั่นแหละไม่ใช่ปีศาจที่ไหนมาสิง จึงทำให้ผมคิดได้เลยว่าการที่เราดูคนเนี่ยเราดูกันที่ไหน? เราดูกันที่คุณค่าของคนข้างในเลย คุณค่าของคนเนี่ยจะเป็นตัวตัดสินว่าคนๆนั้นเนี่ยจะชอบ ไม่ชอบ จะตอบสนองต่อสิ่งต่างๆอย่างไรนะครับ มันก็เลยทำให้ผมลองย้อนกลับไปถึงคำถามตอนต้นเนี่ย คือคำถามตั้งแต่แรกเราคิดมาถึงจุดนี้เราพอบอกได้ว่า “การที่เรามองคนๆนึงเนี่ย เราไม่ได้มองเขาภายนอกนะ ภายนอกเขาก็เป็นอะไรก็ได้ แต่ภายในเขาน่ะสิสำคัญกว่า“
อะไรที่ทำให้เขาเป็นเขา?
➡️คือคุณค่าที่ทำให้เขาเป็นเขานั่นแหละ จะเป็นคุณค่าที่มันดีหรือจะเป็นปีศาจร้ายก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่านั่น! สิ่งที่อยู่ภายในคือเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเราคือใคร คนๆนั้นคือใครนะครับ
แล้วพอคิดมาถึงตรงนี้เราจบแค่นี้หรือเปล่า?
➡️ไม่นะครับ ตามสไตล์ผมตอนเด็กๆเนี่ยผมก็จะเป็นพวกชอบคิดไปเรื่อยๆนะครับลองดูซิว่าเราจะค่อยๆดันความคิดของตัวเองไปได้ไกลแค่ไหนเผลอๆมันก็จะคิดไม่มีทางจบก็ได้นะครับ แต่ระหว่างทางเราก็เก็บเกี่ยวผลของความคิดเรามาเรื่อยๆนะว่าตอนนี้เราพอเข้าใจได้บ้างแล้วว่าจริงๆแล้วอะไรที่ทำให้เราเป็นเราขึ้นมา แล้วความคิดแบบนี้เนี่ยมันทำให้เกิดผลดีขึ้นมาอีกอย่างนึงด้วยนะครับ คือเราจะไม่ค่อยยึดติดเพราะว่าเรารู้นี่ถ้าเรายังคงเป็นเรา เรามีบุคลิกภาพ มีความที่เป็นเราอยู่เนี่ยมันไม่ได้ขึ้นกับรูปลักษณะภายนอกของเรา ต่อให้เราเหี่ยวแห้งไปยังไงเนี่ยเราก็ยังคงเป็นเราอยู่ดีเพราะว่าข้างในมันยังเป็นเรานะครับ ตรงนี้ยังคงเหลืออยู่ ดังนั้นเนี่ยเราก็จะเริ่มรู้สึกยึดติดกับร่างกายของเราลดลง
4️⃣
การตายทำไมมันถึงเศร้า ทำไมคนถึงเสียใจ?
➡️ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าการตายเราเนี่ยนะครับมันเป็นจุดสิ้นสุดของความเป็นเรา ถูกไหมครับ? แต่! มีแต่อีก มันจริงเหรอที่จะเป็นจุดสิ้นสุดของความเป็นเรา ท่านลองคิดดู ถ้าสิ่งที่ทำให้คนๆหนึ่งเป็นคนๆนั้นนะครับ คือคุณค่าที่อยู่ภายในไม่ว่าจะเป็นการมองโลก ความคิดที่ดี สิ่งที่ชอบ สิ่งที่ไม่ชอบ ถ้าเรามองแค่ตรงนี้ อย่างนี้ไม่มีวันตายนะครับ ไม่มีทางตายนะ แล้วไงต่อ! ถ้ามันไม่มีทางตายเนี่ยนะครับลูกหลานของเราเกิดมาหรือว่าลูกหลานของคนอื่นเกิดมามันต้องมีคนที่คล้ายๆกับเรานี่แหละ ความคิดทุกอย่างเนี่ยมันเหมือนกันมันมาประจวบเหมาะแล้วตรงกันเป๊ะเลย มันต้องมีแบบนั้นเกิดมานะครับ อย่างนี้มันก็แปลว่าเราเนี่ยเป็นอมตะซะส่วนหนึ่งเลยนะ มันเจ๋งนะเนี่ยคือสามารถเป็นอมตะได้ด้วยคือยังไงก็ต้องมีความเกิดขึ้นมาอย่างเงี้ย แล้วเนี่ยมันก็คือเหตุผลอีกอย่างนึงซึ่งเอาไปตอบคำถามอีกอย่างหนึ่งได้ว่า ”ความดีกับความเลวมันเกิดมาคู่กัน แสงสว่างกับความมืดกลับมาคู่กัน แล้วมันจะไม่มีทางหายไปไหนด้วยตราบใดที่มนุษย์เรายังอยู่ ไม่มีทางที่คนเราจะนิพพานไปหมดทั้งจักรวาล”
ถามว่ามันตอบคำถามนี้ได้ยังไง?
➡️ท่านลองคิดดู อะไรที่ทำให้เราเป็นเราเมื่อกี้ คุณค่าที่ตัวเราอยู่ข้างใน การตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม การตอบสนองต่อสิ่งต่างๆมันทำให้เราเป็นเรา และสิ่งเหล่านี้มันสามารถเกิดขึ้นมาในช่วงไหนก็ได้ ในช่วงชีวิตตอนไหนก็ได้ รวมทั้งคนอื่นจะมีลักษณะที่คล้ายเราเหมือนเราเป๊ะในอนาคตก็ได้ ดังนั้นแปลว่าถ้าคุณค่าของคุณดีเป็นเทวดาอยู่ข้างในเป็นความดีอยู่ข้างในมันก็จะเกิดอย่างนี้ต่อไปในรุ่นลูกรุ่นหลานรุ่นเหลนต่อๆไปนะครับ ส่วนความชั่วนะครับมันก็เป็นเงาเหมือนกันมันเกิดขึ้นกับเราได้ที่ทำให้คนๆนี้เป็นผู้ร้ายตลอดชาติ มันก็ต้องมีคนที่เกิดมาแล้วบังเอิญมีทุกอย่างที่เป็นแบบนั้นแล้วก็ตอบสนองเป็นทางร้ายตลอดเวลาแล้วก็เกิดอย่างนี้ไปตลอด ก็เลยเป็นการที่บอกได้ว่าแบบนี้เนี่ยมันมีเหตุผลนะครับที่ของแบบนี้แค่คำถามง่ายๆอย่างเดียว มันคิดไปได้เยอะเลยนะครับแบบนี้
5️⃣
ดังนั้นถ้าพูดมาถึงตรงนี้เนี่ยเราลองย้อนกลับมาถามตอนแรกสิเราคือใคร เรามาจากไหน?
➡️เผลอๆแล้วเนี่ยเราคือคนอื่นมาก่อนนะครับ แล้วคนอื่นที่กลายมาเป็นเราเนี่ยคือความรู้สึก การตอบสนองต่างๆ วิธีในการตอบสนองมันทำให้เรากลายมาเป็นเรา มันอาจจะเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่รุ่นไหนก็ไม่รู้แล้วมันบังเอิญมาประกอบกันกลายเป็นเราอีกคนนึงขึ้นมา แล้วการมาประกอบแบบนี้เราอาจจะเป็นร่างของคนอื่นนะครับ คือร่างกายของเราเนี่ยเป็นแค่ที่เก็บสิ่งๆนี้เท่านั้นเองนะครับ เป็นสิ่งที่เก็บสิ่งๆนี้เท่านั้นเอง พอร่างกายแตกสลาย สิ่งๆนั้นมันไปไหน?
➡️อยู่ตรงไหนก็ได้ แล้วเดี๋ยวมันก็จะเกิดขึ้นมาใหม่ถึงแม้มันจะหายไปทางกายภาพ สมองเราบางคนก็จะบอกว่าก็เซลล์มันติดต่อกันทางไฟฟ้าต่างๆทำให้เกิดความทรงจำ ทำให้เกิดภาพอะไรต่างๆขึ้นมา แล้วถ้ามันหยุดตรงนั้นล่ะ ถ้ามันหยุด แต่ว่าสิ่งที่มันเหมือนกันเป๊ะเลยเนี่ยมันไปโผล่ในร่างอื่นล่ะ มันก็ทำให้เกิดเราอีกคนนึงขึ้นมาได้นะครับ แล้วเผลอๆเราก็ไม่ได้มีคนเดียวบนโลกนี้ด้วย อาจจะมีคนที่เหมือนกับเราเป๊ะแล้วคิดว่าน่าจะเป็นเรา แต่ว่าภายนอกเขาไม่เหมือนเราเลยก็ได้ อาจจะมีอย่างนั้นก็ได้นะครับ แล้วผมคิดว่ามันก็ต้องมีด้วยนะครับ
แล้วอีกอย่างหนึ่งเคยมีคนคิดไหมครับว่าทำไมคู่สามีภรรยาบางคู่เนี่ยถึงหน้าตาคล้ายกันจังเลย ทำไมถึงลักษณะนิสัยคล้ายกันจังเลยนะครับเพียงแต่จะมีจุดบางจุดที่แตกต่างกัน?
➡️ครับผมคิดว่าการที่คนเราเนี่ยนะครับประกอบไปด้วยบุคลิกภาพ การตอบสนองต่างๆที่ทำให้เราเป็นเราเนี่ยนะครับมันจะดึงดูดสิ่งที่คล้ายๆกันเข้ามาหากันเพราะว่าการที่มันดึงดูดสิ่งที่แตกต่างกันมากจนเกินไปเข้ามาหากันเนี่ยนะครับมันทำให้วิธีในการที่สื่อสารตอบสนองเนี่ยมันเป็นไปได้ด้วยความยากลำบากนะครับ มันต้องฝึกต้องฝืนอะไรเยอะแยะไปหมดนะครับแต่ถ้ามันเป็นสิ่งที่คล้ายกันมากๆแล้วเนี่ยมันไม่ต้องฝึกไม่ต้องฝืนไม่ต้องอะไรทั้งสิ้นมันเป็นของมันไปอย่างนั้นเองนะครับ นั่นก็คล้ายๆกับการที่มีคนบอกว่าความรักมันไม่ต้องพยายาม มันเป็นของมันเองนะครับ คนเราจะชอบอะไรมันไม่ต้องพยายามจะชอบ มันชอบของมันเองนะครับ มันเป็นไปโดยอัตโนมัติและโดยอัตโนมัติเนี่ยก็คือสิ่งซึ่งทำให้เราเป็นเรา ค้นหาในสิ่งที่เราคล้ายกันมากที่สุดนั่นแหละครับที่ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นหนึ่งในคำตอบนะครับ
ฟังคลิปแล้วส่วนตัวคิดแบบนี้นะคะ...
1. คนดี คนเลว เวียนว่ายตายเกิดในโลกนี้อยู่ตลอดเวลา ไม่มีใครไปไหน เจอกันอยู่ตลอดในรูปลักษณ์ที่อาจจะไม่เหมือนเดิม
2. ดังนั้น ในโลกนี้จึงเหมือนกับมีคน 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคนที่มีคุณค่ามีความดีงาม ที่จะเวียนว่ายตายเกิดอยู่อย่างนี้ และ กลุ่มคนที่มีความร้ายกาจอยู่ในตัวซึ่งเขาก็เวียนว่ายตายเกิดอยู่แบบนี้เช่นกัน
3. คนดีจึงมองหาคนดี มีความดึงดูดซึ่งกันและกัน ด้วยความชอบไม่ชอบที่เหมือนกัน ส่วนคนไม่ดีก็มีความดึงดูดเข้าหาความเลวร้ายที่เหมือนกันนั่นเอง
4. ดังนั้น หากคนดีคนหนึ่งได้มีโอกาสได้ส่งต่อความดีต่อไปเรื่อยๆ เผยแผ่ความดีไปยังคนอื่นๆอีกมากมาย ก็เปรียบเสมือนคนดีหนึ่งคนพยายามสร้างคนดีให้เพิ่มขึ้นมาอีกหลายร้อยหลายพันหลายหมื่นคน ทำให้ขยายสังคมของคนดีๆออกไปเรื่อยๆ ตราบนานเท่านาน
ขอบคุณค่ะคุณทริป🙏🥰อาจารย์แทนคือคนดีที่เผยแพร่ความรู้ที่ถูกต้องส่งต่อความรู้ความดีสู่สังคม👍🙏🥰
คุณทริปก็เป็นคนดีที่คอยเสริมเกร็ดความรู้ต่างๆให้ทุกคนทั้งช่องทั่วไปและช่องเมมเบอร์ค่ะ ยกให้คุณทริปเป็นคนดีที่หนึ่งค่ะ👍👏💖🥰😍
@@nung-noppapat ขอบคุณมากค่ะคุณหนึ่ง🙏ช่องอาจารย์ก็ทำให้ได้มาเจอพยาบาลคนเก่งอย่างคุณหนึ่งโดยไม่เคยคิดมาก่อน เหมือนฟ้าลิขิตค่ะ
ยอดเยี่ยมเลยจ้ะคุณทิพย์❤
@@memoritogether ขอบคุณค่ะ🙏
@@FragranzaTrippaชะตาฟ้าลิขิตให้เราได้พบพาน ข้าน้อยขอคารวะท่านพี่ทริปด้วยใจจริง🙏🥰💖😍
เราคือ spiritual creature ค่ะ เราคือธาตุรู้ บางครั้งก็คิดว่า เราคือความคิดของเรา เพราะเราคิด มันจึงมี จริงๆแล้วมันไม่มีอะไร เราคือธรรมชาติ ที่มีกาย จิต ความคิด ทำงานร่วมกันอยู่ พอแยกออกมา เราไม่ได้เป็นอะไรเลย ธรรมชาติล้วน
ภรรยาผมเสียไปเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้เลยครับ ผมดูคลิปนี้แล้วน้ำตาก็ไหล ผมยังคงรอเจอใครสักคนที่มีตัวตนของภรรยา หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกน้า คิดถึงจังครับ
ขอบคุณสำหรับคลิปครับ
เป็นกำลังใจให้นะครับ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
สู้ สู้ ❤ ค่ะ
บอกตรงๆ ว่าตอนแรกคลิกเข้ามาเพราะงงกับหัวข้อค่ะ แต่ฟังไปฟังมาเรื่องนี้เป็นแนวคิดที่น่าสนใจดีค่ะ แล้วก็นึกได้ว่า ตอนเด็กๆ เคยตั้งคำถามกับตัวเองเหมือนกันค่ะว่าทำไมชั้นมาเกิดในร่างนี้ ชื่อนี้ เป็นคนๆ นี้ ตอนเป็นผู้ใหญ่เมื่อก่อนก็คิดสงสัยอยู่บ้างค่ะ จนชีวิตมีเรื่องอื่นต้องคิดต้องทำก็เลยเลิกคิดไป
สิ่งที่ดีที่สุดจากหลายสิ่งที่ดิฉันได้จากคลิปนี้คือวิธีคิดถึงป๊าดิฉันที่เพิ่งจากไปค่ะ ว่าเขาก็ไม่ได้ไปไหน ครึ่งหนึ่งของดิฉันคือเขา แนวคิดและพฤติกรรมบางอย่างของดิฉันก็อาจมาจากเขาไม่มากก็น้อย legacy มันไม่มีวันตายจากไป คิดถึงเขาแล้วน้ำตาไหลค่ะ แต่ต่อจากนี้พอนึกถึงด้วยวิธีคิดของคุณหมอ คงทำให้น้ำตาไหลจากความรู้สึกเศร้ามันน้อยลงได้บ้าง ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ
คุณหมอเป็นใคร มาจากไหน อะไรทำให้หมอแทนเป็นหมอแทน ... ซับซ้อนและยากที่จะตอบให้ครบ จำต้องละไว้ในฐานที่เข้าใจว่าคงมาจากที่ที่ดีซักที่ แต่จาก *495K Sub* ที่น่าชื่นใจวันนี้ + ประสบการณ์ของเรานั้น อาจารย์หมอแทน = คุณหมอผู้เพียรทำประโยชน์มหาศาลให้สาธารณะชนคนไทยด้วยการอุทิศความเชี่ยวชาญ อุทิศเวลาของตนถ่ายทอดความรู้ อย่างไม่เลือกปฏิบัติว่าใครเกลียด-ใครรัก ท่านให้ได้เท่ากันหมด และมุ่งหวังให้ความรู้อันถูกต้องนั้นยั่งยืน คงอยู่ต่อไป
เราเป็นใคร และมาจากไหน คิดว่าไม่สำคัญเท่า เราเป็นใครและสามารถทำอะไรดี ๆ ให้กับตัวเอง ครอบครัว และเป็นประโยชน์กับคนรอบข้างบ้าง เรื่องสำคัญที่สุดที่พ่อสอนเสมอคือต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
ชอบถามตัวเองบ่อย ๆ เหมือนกันค่ะว่าเราเป็นใคร เหมือนเป็นการตรวจสอบตัวเอง ทบทวนตัวเอง คุยกับตัวเอง บางเรื่องที่เคยคิด เคยเชื่อว่าถูกต้อง พอผ่านกาลเวลาและมีประสบการณ์ขึ้น เราอาจจะเจอคำตอบที่ถูกกว่าหรืออาจจะพลิกความเชื่อ ความเข้าใจเดิม ๆ ไปเลย ทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้นทุกครั้งค่ะ
คุณหมอเป็นคนที่มีมุมมองความคิดเชิงวิทยาศาสตร์ ปรัชญาและนามธรรมได้อย่างกลมกล่อม ละเมียดละไม ลึกซึ้ง ผสมผสาน สนุกดีค่ะ ขอบคุณคุณหมอชวนคุยชวนคิดเรื่องนี้ค่ะ
ถ้าหากวันหนึ่งได้เจอคนที่เหมือนตัวเอง คุณหมอจะพูดอะไรกับเค้าคะ?
เราก็เป็น**จิตดวงหนึ่ง**ที่เกิดมาอยู่ในสังสารวัฏ การไปเกิดเป็นอะไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับความนึกคิดและการกระทำของเราค่ะ โดยเมื่อเราเกิดมาเเล้วเมื่อเเรกเกิดจะยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ไปทางไหนดี**จิตเคว้ง**ก็จะยึดสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุดโดยเริ่มยึดมั่นที่ตัวเราก่อน ว่านี่คือเรา เป็นของเราค่ะ 😁
เคยคิดอยู่ค่ะว่าคนเรามาจากไหน ตอนเด็กๆ
ชอบมองบนท้องฟ้า แล้วก็คิดว่า คนถูกส่งมาจากท้องฟ้า
ถามพ่อกับแม่ พ่อกับแม่ก็จะบอกว่า มาจากกอไผ่
พอโตขึ้น ก็เริ่มสวสัยว่า แล้ว บรรพบุรุษ คนแรกๆ ของโลกมาจากไหน
บางคนจะบอกว่า พระเจ้าสร้างขึ้นมา
พอ ได้ติดตาม คำสอนของพระพุทธเจ้าและหลวงตา ได้คำตอบว่า คนเกิดจากกรรม เวียนว่าย ตายเกิด ในร่างใดๆ รูปร่างใดๆ จากกรรม ของเรา ถ้าทางวิทยาศาสตร์ กรรม ก็คือ DNA 🧬 🧬 ของเรา
ร่างกายเหมือนเสื้อผ้า ส่วนจิตวิญญาณ ของเรา ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า ( ร่างกาย ) ตามภพ ตามชาติ ตามกรรม ของตัวเอง
ส่วนสติปัญญา ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ความสนใจ และ ระดับสติ ปัญญา ตาม ภพ ชาติหรือรูปร่างนั้นๆ ที่เราอาศัยร่างกายอยู่
ไม่ว่าจะรูปร่าง ใด คน หรือสัตว์
ส่วนการนิพพาน พระพุทธเจ้า และหลวงตาบอกว่า จะไม่มาเวียนว่ายอีกต่อไป
ทุกคนที่มาเจอกันได้ เกิดจากกรรมที่ทำมาเหมือนๆ กัน เหมือนเวลาครูคัดเด็กเข้าเรียน ในชั้นเรียน อาจไม่ได้เกี่ยวข้องกันมาก่อนแต่มีกรรมเหมือนกัน ก็จะเจอสิ่งเดียวกัน วันเวลา เดียวกันหรือเหมือนกัน เช่น ขึ้นเครื่องบิน ลำเดียวกัน ที่ประสบเหตุ
แต่ถ้า มี ปฏิกิริยาต่อกัน เช่น รัก เกลียด ชอบ นั่นคือ เคย มีกรรมต่อกันมาก่อน
นี่เป็นแค่ ภพชาติเดียว ที่จิต วิญญาญ ในร่างหนึ่งๆ จริงๆ เราผ่านการ เปลี่ยนเสื้อผ้า หรือ รูปร่าง ผ่านมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 4 แสน ภพ ชาติ ด้วยกันทั้งสิ้นค่ะ( ตอนเกิดคือต้นทุนตอนกำเนิด ไม่ใช่ พฤติกรรมปัจจุบัน ซึ่งจะเป็น ทาง นำพาชีวิตไปในอนาคต )
นิสัย เปลี่ยนได้ ตามประสบการณ์ สิ่งแวดล้อม และ ความเป็นอยู่ ขณะที่ อยู่ในร่างนั้นๆ
หรือถ้า สมองเกิดปัญหา นิสัยก็เปลี่ยน
มีจิตวิญญาณเท่านั้นที่ไม่เปลี่ยน แต่ ปฏิกิริยา หรือการกระทำขึ้นกับ ตัวเรา ในภพนั้นๆ ค่ะ
ขอบคุณค่ะ Tany สำหรับ 💙💙💙💙💙💙💖💖💖💖💜💜💜💜 🧬🧬🐶💋💋 🩺👨⚕️ Have a wonderful & happiness moment time together with an adorable Rosy ค่ะ 😃😃🐶💋💋👨⚕️🩺⛅️⛅️🌧️🌧️
Nicely explained. Thank you! 😊
เราไม่เคยคิดอะไรที่ซับซ้อนแบบนี้มาก่อนเลย อาจเพราะเป็นคนคิดอะไรง่ายๆ ในมุมมองของเรา เราคิดว่าทุกอย่างเกิดขึ้นมาจากความไม่สมดุลย์ ดังนั้นจึงไม่มีอะไรเหมือนกัน อาจจะคล้ายมากๆ แต่ก็ต่างอยู่ดี เป็นส้มเหมือนกัน แต่ก็รูปร่าง สี ขนาด รสชาติต่างกัน ใบไม้ทุกใบไม่เหมือนกัน ทรายทุกเม็ดก็ไม่เหมือนกัน
เอาบุคลิกของคนที่เรารัก ทั้งนิสัย ความสามารถทั้ง กีฬา ดนตรี ไปใส่ในโรบอทสักตัวนึง จนโรบอทตัวนั้นพูดโต้ตอบกับเราได้เหมือนคนที่เรารัก วาดรูปได้สวย เล่นกีฬาได้เก่ง ก็ยังไม่ใช่คนคนนั้นอยู่ดี
คน 1 คน ไม่มีใครเหมือน เป็นUnique จะตามหาไปอีกกี่ดาวก็มีคนเดียว ดังนั้นจึงเป็นคนพิเศษ สิ่งพิเศษ
ถ้าใครสักคนที่เรารู้สึกว่าพิเศษจากไป แล้วเราเสียใจมากๆ ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะจะหาจากที่ไหน ก็ไม่มีแล้ว ดังนั้น ให้ความสำคัญต่อกันให้มากๆ เราทุกคนเป็นคนมีค่านะคะ พิเศษเสมอสำหรับจักรวาลนี้ ทำชีวิตให้ดี ให้เต็มที่ และให้คุณค่ากับสิ่งรอบๆ ตัวเพราะทุกอย่างมันก็มี 1 เดียว มีอย่างละชิ้น ใช้ชีวิตให้สมกับที่เป็นคนพิเศษเถอะค่ะ
ไม่ทราบหรอกค่ะว่ามาจากไหน แต่ทราบว่าที่มีอุปนิสัยและพฤติกรรมที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเกิดจากการสั่งสมมาช้านานจากอดีตชาติก็ได้เพราะคนเราไม่ได้เกิดมาชาติเดียวทางพระพุทธศาสนาไม่ว่าความดีหรือความไม่ดีล้วนสะสมอยู่ที่จิตจะเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยมิได้หายไปไหนตราบใดยังไม่เข้าถึงพระนิพพาน
ดังนั้นถ้าชาติต่อไปต้องการเป็นคนเช่นใดก็ต้องสั่งสมเสียแต่ในชาตินี้ บุคคลที่มีธรรมเสมอกันจะสร้างพลังบวกดึงดูดเข้าหากัน คนเราที่พบกันมิใช่เรื่องบังเอิญล้วนเกิดเพราะเหตุปัจจัยที่สั่งสมมา ขอบคุณค่ะ🙏
มีใครเคยดูหนังเรื่อง Jupiter ascending มั้ยครับ คล้ายๆกับที่คุณหมอพูดเลย
เป็นเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์อวกาศที่มีอายุยืนยาวเป็นพันปีจากพันธุกรรมบำบัด มีคนนึงตายจากการถูกฆ่าต่อมาอีกพันปี มีคนที่เหมือนกันเกิดขึ้นมาใหม่ มีความรู้ ทัศนคติ ความรู้สึก หน้าตาคล้ายๆกัน คนรอบๆตัวรู้สึกคุ้นเคยกับคนคนนี้ มันคือจิตวิญญานคุณค่าที่อยู่ภายในมาอยู่ในร่างใหม่ แต่ในหนังหมายถึง DNA ในรูปแบบที่ซ้ำกันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ป้าคิดว่า คุณหมอ มี positive energy -ตั้งแต่เด็ก !!แม้แต่ ความคิด สมัยเด็ก ก็ยัง คิดได้ลึกซึ้งและ มองบวก
ร่างกายคือวิหารของจิต ร่างกายเป็นสมบัติของโลกไม่ใช่ของเรา โลกนี้ได้เมตตาให้จิตได้อาศัยอยู่ชั่วคราวเพื่อหาประสบการณ์ให้จิตได้เรียนรู้และเติบโต
จิตคือเราอย่างแท้จริงจิตเป็นสมบัติของจักรวาล วันนึงจิตนี้อาจจะกลับไปที่เดิมที่เราจากมา ความตายคือสิงที่น่ากลัวสำหรับมนุษย์ แต่คือสิ่งที่สวยงามของจักรวาล
ผมว่าความเป็นเราเกิดขึ้นเมื่อเราได้รับรู้ผ่านทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ความรู้สึกสุขทุกข์ ความทรงจำและความคิด
ตอนแรกอ่านหัวข้อคิดว่าไม่อะไร แต่พอฟัง มันต้องฟังสองรอบเพราะความคิดแตกกระเจิง
1. รู้สึกเหมือนอาจารย์ กำลังปลอบขวัญคนที่สูญเสีย และคิดว่าตัวเองไม่เหลือใคร เพราะ "ใคร" ของเค้าอาจจะกลับมาในอีก กายอื่น ณ ที่แห่งใด... อันนี้ต้องขอขอบพระคุณ ถ้าเป็นแบบนั้นค่ะ ❤🙏
2. รู้สึกถึงความเชื่อเรื่อง Reborn กายดับสูญไป จิต วิญญาณนั้น ไปยัง กายใหม่แต่ จะด้วยวิธีใด ไม่ทราบได้
3.รู้สึกถึงโลกคู่ขนาน ที่มีใครสักคน ที่เหมือนเราทั้งด้านนิสัย ความคิด คำพูด แม้แต่หน้าตา
4.การถ่ายทอดทางพันธุกรรม นั้นน่าจะอยู่ใน DNA ของเราไหมคะ เคยเห็นรูปทวดของเพื่อน ที่เป็นต้นตระกูล เขาตั้งแต่สมัย ร.2 จนมีรูปถ่าย ลูกหลาน ตอน ร.5 จนเขาปัจจุบัน รูปทรงหน้า ลักษณะ เหมือน หรือคล้ายกันมากค่ะ
สุดท้าย อาจารย์เป็นคนมีความหลากมุม หลากหลาย คุยกับอาจารย์คงไม่เบื่อ เพราะอาจารย์ตอบได้ทุกเรื่อง แต่อาจารย์คงจะเบื่อ สำหรับหลายๆ คำถามซ้ำๆ 😁
ปล. ฝาก ขยี้ ขนโรสิตา ให้ฟูฟ่อง กระเจิง อย่าได้เป็นทรงค่ะ ด้วยความรักนู๋ โรสิตาจริงๆ 🤣
โห..คุณหมอเป็นความคิดที่วิเศษเลย..ตอนเด็ก ๆ พี่ก็เคยคิดเหมือนกันว่าเราคือใคร..และอีกฯลฯ..สับสนมาก..พอฟังคุณหมอทำให้คิดบวกขึ้นเยอะเลย..ปล่อยวางำปอีกเยอะ..ในโลกนี้มีตัวตายตัวแทน..😊😊😊😊
ผมคิดเหมือนหมอเป๊ะเลยครับ ชีวิตมีจุดตบ แต่ความดีไม่มีวันตาย และผมเชื่อในการเวียนว่ายตายเกิดเหมือนกัน
ฟังต้นคลิปแล้วอยากว๊าบบไปท้ายคลิปเลยค่ะ ว่าสรุปอาจารย์หมอคิดอย่างไร🤩
เราเป็นเราแต่เมื่อไรที่เราจำตัวเองไม่ได้ ก็เป็นที่มาของคำถามว่า ฉันเป็นใคร😜 คิดเล่น ๆ ในวันที่สมองไม่สั่งการ ขอเก็บใจได้มั้ยคะ
สถานการณ์ปัจจุบันทำให้มีคำถามค่ะอาจารย์ ว่าพื้นฐานคุณค่าความเป็นตัวตนของเราที่แม้แต่ตัวเราจะบอกได้ว่าอะไรชอบไม่ชอบ เห็นด้วยไม่เห็นด้วย แต่ถ้าวันหนึ่งความเป็นตัวตนเราถูกกดไว้ด้วยสภาพแวดล้อม บุคคลรอบตัว หน้าที่การงาน สรุปเราจะเหลือตัวตนที่สัมผัสได้มั้ยคะ🫡 #แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ จะมีสักกี่คนที่สามารถเลือกในสิ่งต้องการได้ทั้งหมดนะคะ
วันนี้ได้มองย้อนดูตัวเองเลยค่ะ หลายคนถามว่าไม่ย้ายไปทำงานต่างจังหวัดหรอ ด้วยความที่เราเป็นเด็ก ตจว.ก็พอมองเห็นอนาคตตัวเองว่าถ้าไปทำงานตรวจสอบ ตจว.จะต้องเจออะไรบ้าง พูดด้วยเหตุผลเราสู้ บนโต๊ะวางเอกสารเราโอเค แต่ถ้าไม่ใช่ ก็ไม่พร้อมที่จะเจอ
คนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน เค้าทำได้ทุกอย่างแม้ในระหว่างทางจะต้องทำร้ายคนอื่น เค้าก็จะมองไม่เห็น ที่กล้าพูดเพราะเจอมากับตัวเองค่ะ
ระบบหรือองค์กรไม่ได้มีความผิดอะไร อยู่ที่จิตใจและสมองคนในองค์กรต่างหากที่คิดตัดสินใจทำให้ทุกอย่างบิดเบี้ยว
ใช่เลยค่ะอาจารย์ต้องพยายามสร้างคนให้มีแนวคิด แนวร่วม ถ่ายทอดสิ่งดี ๆ แก่กัน ให้สังคมมีคนดีมากกว่าคนไม่ดี #ขอบคุณอาจารย์หมอมากค่ะ ที่หยิบยกหัวข้อนี้มาแชร์ และถ่ายทอดความคิดนะคะ🥰
เป็นเด็กฉลาดคิดอะไรได้ลึกซึ้ง
แต่เด็กนะค่ะคุณหมอ ชอบจังเป็น
อมตะ55 หมอแทนจะเป็นอมตะค่ะ
เคยคิดตอนเด็กๆทำไมเรามาอยู่
ในร่างผู้หญิงคนนี้ทำไมเค้าขี้โรคจังความรักไม่ต้องพยายาม ถ้าเจอ
จิกซอว์ที่ลงตัวอ่ะนะค่ะ ชอบคลิป
แบบนี้คุณหมอพูดได้เจาะลึกดีค่ะ
โคลนนิ่ง คุณหมอไว้เยอะๆเลย
คงจะดีนะค่ะขอบคุณสำหรับ
คลิปดีๆเนื้อหาดีๆค่ะ👍👍👍
ลูกชาย3ขวบครึ่งเคยถามคำถามนี้อยู่หลายครั้ง”เราเป็นเราตั้งแต่เมื่อไหร่ เราเป็นเราได้ยังไง เรามาจากที่ไหน “แม่ก็อธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ไปค่ะ แต่ดูลูกก็ยังไม่ได้คำตอบยังคอยถามอีกหลายครั้ง หลังจากนั้นไม่นาน อยู่ๆเค้าก็พูดขึ้นมาเองค่ะว่า เค้ารู้แล้วว่า ตัวเค้าเองมาจากที่ไหน แล้วเป็นเค้าได้ยังไง คำตอบของเด็ก3ขวบครึ่งคือ ลูกพูดว่า“เราถูกส่งมาทดลองจากดาวดวงอื่นมายังดาวโลก ตัวเค้าเองต่อไปจะเป็นตำรวจทำหน้าที่จับผู้ร้ายแล้วจากนั้นก็จะกลับดาวที่เค้าจากมา เลยถามเล่นๆว่า แล้วคนอื่นๆในบ้านละ มาจากดาวดวงเดียวกันมั้ย ลูกชายตอบว่าไม่ใช่ ไม่ได้อยู่ดวงเดียวกัน ต่างคนต่างมาจากคนละที่แต่มาทดลองเหมือนกัน” เลยถามว่า ไปเอามาจากที่ไหน ใครบอกรึป่าว เค้าบอกว่า เค้ารู้ด้วยตัวเค้าเองไม่มีใครบอก !! จากนั้นลูกก็ไม่เคยถามคำถามนี้อีกเลย 😅😅😅 เค้าน่าจะเหมือนถึง การมีตัวตนเกิดจากการได้ทำหน้าที่ของแต่ละคน
ชอบลูกชายของคุณมากค่ะ ไม่ธรรมดาเลย มนุษย์ทุกคนมี intuition ค่ะ เด็กๆ ยังไม่ถูกความปลอมและสิ่งประดิษฐ์ทางความเชื่อของสังคมเข้าครอบงำ ไม่แปลกที่จะเชื่อมโยงถึง intuition ของตัวเองได้ค่ะ
เป็นเทวดาอยู่ข้างใน มีความดีอยู่ข้างใน ชอบคำพูดนี้มากเลยค่ะอาจารย์หมอ
ดีงามเหลือเกิน เป็นคลิบฮีลใจในยามที่อยู่เพียงลำพังคนเดียวที่เมืองนอกค่ะ
ขอบพระะคุณมากค่ะอาจารย์หมอ💖💖💖
ขอแสดงความยินดีค่ะคุณหมอแทน
ยอดผู้ติดตาม 4.95 แสนคนค่ะ
สถานีต่อไป 4.96 แสนคนค่ะ
ช่อง Doctor Tany ช่องคุณภาพ
ดีต่อสุขภาพกาย สุขภาพใจ
เนื้อหาหลากหลาย ประโยชน์มากมาย
ใกล้ 5 แสนซับแล้วค่ะ
รอคุณหมอมารีวิวนะคะ 🌻🧡🌻
ไม่เคยคิดว่าเราเป็นใครค่ะ แต่เคยคิดว่าเราเกิดมาทำไม ทำไมเราต้องเกิด ทำไมชีวิตเราต้องวนลูบตื่นนอน ทานข้าว ไปทำงาน กลับบ้าน นอน ทำไมเราต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์เหล่านี้
ตอนที่คุณหมอถามว่า อะไรที่บอกว่าเราเป็นเรา ตอนเด็กๆเราคิดว่าคือ วิญญาณ ค่ะ เรามาอยู่ในร่างนี้ ควบคุมร่างนี้ได้ และก็สงสัยต่ออีกว่า ทำไมเราถึงเป็นวิญญาณตัวนี้ แล้วทุกคนจะเป็นวิญญาณกันหมดไหม หรือมีแค่เราคนเดียว แล้วทั้งหมดเป็นแค่ฉาก
ตอนเด็กเราคิดแบบนี้แต่ก็ไม่มีคำตอบค่ะ จำได้เลยว่าชอบคิดตอนจะนอนค่ะ อยากถามผู้ใหญ่แต่ก็ตั้งคำถามไม่เป็น
ต่อมาเลิกคิดได้เมื่อรู้สึกว่า เสียเวลา ดังนั้น พยายามทำดีและสร้างประโยชน์ให้กับสังคมก็พอค่ะ 😊
พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้เรื่องของกฏธรรมชาติ และทรงสอนฯ..ในเรื่องของกฏธรรมชาติ "ปฏิจสมุทปบาท" คือการอาศัยซึ่งกันและกัน อะไรที่ปรากฏมีขึ้นโดยความสัมพันธ์เป็นเหตุมีปัจจัยต่อเนื่องกันมา หรือเรียกว่า ปัจจยการ คืออกาการที่เป็นไปตามเหตุปัจจัย หรืออาการของความเป็นไปตามเหตุปัจจัย มีปัจจัยจึงทำให้เกิดสิ่งๆนั้น และหากไม่มีปัจจัยสิ่งๆนั้นก็จะไม่เกิดขึ้น(ทุกอย่างไม่มีข้อยกเว้น)....ตัวอย่างเช่น ตัวเราเกิดมาได้อย่างไร? นั่นก็เพราะมีเหตุมีปัจจัยที่ทำให้มีเราเกิดขี้นมา มีพ่อแม่เราที่รักกันมามีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน จึงทำให้มีเราเกิดขึ้นมาได้(ตัวเราเกิดจากธาตุต่างๆมารวมกันชั่วคราว วันหนึ่งก็จะแตกดับสลายไปตามกาลเวลา) และหากไม่มีคนใดคนหนึ่ง(พ่อหรือแม่) ตัวเราก็ไม่อาจเกิดขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นไปตามกฏธรรมชาติ เป็นไปตามเหตุปัจจัยนั้นเอง
และกฏธรรมชาติ อีกข้อหนึ่ง คือ "ไตรลักษณ์" (อาการของทุกสรรพสิ่ง)
ไตรลักษณ์ แปลว่า "ลักษณะ 3 อย่าง" หมายถึงสามัญลักษณะ หรือลักษณะที่เสมอกัน หรือข้อกำหนด หรือสิ่งที่มีประจำอยู่ในตัวของสังขารทั้งปวงเป็นธรรมที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ 3 อย่าง ได้แก่ :-
อนิจจตา (อนิจจลักษณะ) - อาการไม่เที่ยง อาการไม่คงที่ อาการไม่ยั่งยืน อาการที่เกิดขึ้นแล้วเสื่อมและสลายไป อาการที่แสดงถึงความเป็นสิ่งไม่เที่ยงของขันธ์.
ทุกขตา (ทุกขลักษณะ) - อาการเป็นทุกข์ อาการที่ถูกบีบคั้นด้วยการเกิดขึ้นและสลายตัว อาการที่กดดัน อาการฝืนและขัดแย้งอยู่ในตัว เพราะปัจจัยที่ปรุงแต่งให้มีสภาพเป็นอย่างนั้นเปลี่ยนแปลงไป จะทำให้คงอยู่ในสภาพนั้นไม่ได้ อาการที่ไม่สมบูรณ์ มีความบกพร่องอยู่ในตัว อาการที่แสดงถึงความเป็นทุกข์ของขันธ์.
อนัตตา (อนัตตลักษณะ) - อาการของอนัตตา อาการของสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตน อาการที่ไม่มีตัวตน อาการที่แสดงถึงความไม่ใช่ใคร ไม่ใช่ของใคร ไม่อยู่ในอำนาจควบคุมของใคร อาการที่แสดงถึงไม่มีตัวตนที่แท้จริงของมันเอง อาการที่แสดงถึงความไม่มีอำนาจแท้จริงในตัวเลย อาการที่แสดงถึงความด้อยสมรรถภาพโดยสิ้นเชิง ไม่มีอำนาจกำลังอะไร ต้องอาศัยพึ่งพิงสิ่งอื่นๆ มากมายจึงมีขึ้นได้.
ลักษณะ 3 อย่างนี้ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สามัญญลักษณะ คือ ลักษณะที่มีเสมอกันแก่สังขารทั้งปวง และเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ธรรมนิยาม คือกฎธรรมดา หรือข้อกำหนดที่แน่นอนของสังขาร
มนุษย์เองก็เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง เป็นการรวมตัวของธาตุต่างๆเพียงชั่วคราว วันหนึ่งก็แตกดับไปตามการเวลา และหากได้แยกทุกส่วนของร่างกายออกไปจนถึงที่สุดแล้ว ก็ไม่มีส่วนไหนที่จะบงบอกถึงความเป็นตัวเราได้เลยว่าอยู่ตรงไหน เป็นเพียงธาตุต่างๆเท่านั้น และชื่อของเราก็เป็นเพียงสิ่งที่สมมุติขึ้นมาตามภาษาสมมุติเช่นกัน การเข้าใจในสภาพของตัวเราอย่างแท้จริง ก็จะเข้าใจในธรรมชาติที่เป็นอยู่จริง เราไม่อาจความคุมความเจ็บไข้ได้ป่วย และความตายได้เลย เป็นกฏธรรมชาติ การเข้าใจและยอมรับได้ และสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเราที่เรียกว่า"ทุกข์"ก็จะเบาบางลง หรือไม่มีผลกระทบต่อจิดใจเรานั้นเอง แต่เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะส่วนใหญ่เรามักจะยึดติดกับตัวของเรา ทำให้ขาดความเข้าใจในกฏของธรรมชาติ พระพุทธเจ้าจึงต้องการสอนฯเรื่องของการดับทุกข์นั่นเอง...
จิต วิญญาณ หมายถึง กองวิญญาณ หรือ จิต เป็นการรู้แจ้งถึงสิ่งต่าง ๆ ผ่านทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ จะรับรู้ได้ต่อเมื่อยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น การรับรู้ต่างๆจะดับไปเมื่อตายแล้ว ไม่อาจรับรู้ใดๆได้อีกต่อไป...(จึงไม่มีคนที่ตายไปแล้วกลับมาบอกอะไรกับเราได้อีก มีเพียงมโนในความฝันของเราเอง)
พระพุทธเจ้าทรงสอนฯเรื่องต่างๆอีกมากมาย และหลายๆเรื่องสอนให้ผู้ที่เป็นพุทธศาสนิกชนควรว่าท่าที่อย่างไร?ในสิ่งต่างๆที่ไม่อาจสัมผัสได้ด้วย จิต วิญญาณ..
หลักธรรมคำสอนเรื่อง “ขันธ์ 5” จะมุ่งเน้นสอนในเรื่องสังขารเป็นหลัก โดยให้มองเห็นความเป็นจริงของสังขารว่านั้นเป็นสิ่งที่ปรุงแต่งขึ้นมา ไม่มีความเที่ยงและก่อให้เกิดทุกข์หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นความอยาก ความยึดมั่นถือมั่นในตนเอง ดังนั้นเมื่อสังขารเกิดขึ้นมาก็ย่อมมีวันสูญสลายไปตามกาลเวลา ดังนั้นขันธ์ 5 จึงหมายถึง กองนามธรรมและรูปธรรม 5 อย่างที่ก่อให้เกิดชีวิตที่เรียกว่า สังขารขึ้นมา โดยประกอบด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ที่รวมกันกลายเป็นชีวิต สามารถแยกออกได้เป็นส่วนที่เป็นรูปคือร่างกาย และส่วนที่เป็นนามคือส่วนที่เป็นความคิดและความรู้สึกที่ก่อให้เกิดทุกข์นั่นเอง
คิดในเชิงพุทธศาสนา+วิทยาศาสตร์ เข้าใจดีค่ะ ความซับซ้อนของจิต เกิดดับ- เกิดดับ ตลอดเวลา
สิ่งที่คิด ,ที่เข้าใจ ,ที่ได้รับรู้ ,มองดู หรือ สัมผัสต้อง อันใด ไม่เคยมีมาก่อนทั้งสิ้น ไม่เคยปรากฏ ที่ใด มาก่อนทั้งสิ้น และไม่ใช่ความทรงจำ หรือเรื่องข้อเท็จจริงอันใด แต่เป็นเรื่องของ สภาพมีชีวิต และ ความเป็น ตัวมนุษย์ . ซึ่งกำลังบ่งบอกถึง การมีอยู่ของ 1.ตัวเราที่จะต้องบอกว่าอย่างไร 2.มีบางสิ่ง 3.อีกหลายๆอย่าง ที่เป็นอย่างไรนั้นเอง ,สำหรับผมนะครับ ความเข้าใจง่ายๆ ที่รู้สึกได้ร่วมกับคิดไปเรื่อยๆ ว่างๆ น่าสนใจมากครับ ❤
ก่อนแต่งงาน จะเห็นแต่ความดีของกันและกัน
แต่งงานแล้วจะ( เริ่ม) เห็นความเลวของกันและกัน ต้องอด ต้องทน ต้องเก็บปาก เก็บคำ
แล้วแต่บุญ กรรม จะอดทนกันไปรอดหรือไม่😊😊😊❤❤❤
มันต้องทรมานขนาดนั้นเลยหรือครับ 😅
@@PJK19แลดูทรมาน😅😅
😅
สวัสดีค่ะคุณหมอธนีย์
สิ่งจำเป็นที่สุดที่ควรรู้คือ ต้องรู้ว่า เราคือใคร เกิดมาทำไม และควรทำอะไร จึงจะได้รับประโยชน์ทั้งตนเองและสังคมมากที่สุด ในการเกิดมาครั้งนี้
คุณหมอเป็นบุคคลนึง ในจำนวนน้อยคน ที่สามารถหาคำตอบ ที่เค้าเรียกว่าไม่เสียชาติเกิดเป็นคนค่ะ
"คนเราเรียนรู้
และพัฒนาตนเอง
จากการพยายามแก้ปัญหา
ที่สำคัญอย่างยิ่ง ก็คือ...
เมื่อเราพยายามแก้ปํญหา
เราก็ได้พัฒนาปัญญา
เพราะเราต้องคิด พอเราคิด
หาทางแก้ปัญหา
ปัญญาก็ค่อยๆ เกิดขึ้นมา...
ถ้าไม่มีปัญหาให้คิด
แล้วปัญญาจะพัฒนาได้อย่างไร"
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ป.อ.ปยุตโต ค่ะ
ขอบคุณมากค่ะคุณหมอแทน
ขอให้คุณหมอมีความสุข
มีทุกข์น้อยที่สุด
จนวันนึงไม่มีทุกข์เลยนะคะ 🌻🧡🌻
ถ้าคุณหมอ Tany มีโอกาสศึกษาพุทธศาสนาอย่างจริงจัง คุณหมออาจจะได้คำตอบ หรือว่าอย่างน้อย ถ้าคุณหมอยังไม่ได้คำตอบ คุณหมอก็จะได้ความเข้าใจ และอาจจะไม่ต้องตั้งคำถามนี้อีกเลยค่ะ
ผมไม่เชื่อในสิ่งที่ศึกษามาโดยผู้อื่นครับ
ตอนเด็กอยู่ๆคำถามนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวค่ะ และยังคงเป็นคำถามค้างในใจอยู่ ซึ่งหาคำตอบไม่ได้ ดีใจค่ะ ที่ได้ฟังคุณหมอพูดเรื่องนี้😊
ความคิดแบบนี้ ไม่เพียงแต่สนุกเลยค่ะ แต่น่าจะทำอย่างมาก เพราะถึงจะไม่ใช่ แต่รับรองว่าไม่เสียหายแน่นอน ขอบคุณความคิดของอาจารย์หมอมากๆค่ะ ดิฉันจะคิดดี ทำดี มีเหตุผล เพราะจะได้เป็นแม่พิมพ์ที่ดี ให้คนดีกระจายมากขึ้นในอนาคต อย่างน้อย ก็ไม่ต้องไปอุบายแน่นอน เข้าใจแล้วค่ะ
🐰🅱️ ขอบพระคุณค่ะครู ครูTanเก่งทุกสิ่งอย่างเลยนะคะ ชอบคลิปนี้ม๊าากค่ะครู เป็นการวิเคราะห์เชิงปรัชญา เป็นการอธิบายสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติโดยใช้หลักวิทยาศาสตร์
🐰🅱️เพิ่งกลับจากหัวหินค่ะครู ไปทำสมาธิริมทะเล🏝️🏖️🧘🏼เหมือนที่ครูเคยสอน ส่งพลังบวกให้ครูด้วยนะคะ กลับมาคุณแม่ไม่ค่อยสบาย แต่แข็งแรงแล้วนะคะ พรุงนี้เช้าจะไปงานแต่งงานกัน แล้วจะเข้ามาเม้นใหม่นะคะครู
🐰🅱️เชื่อค่ะว่าตัวเราเองอาจเป็นจิตวิญญาณเก่าแก่ที่เคยเวียนว่ายตายเกิดหลายภพชาติ มาอาศัยร่างใหม่ ในแต่ละภพชาติ เพื่อพัฒนาจิตวิญญาณให้เติบโตขึ้น
🐰🅱️เชื่อว่าคนที่มีศิลเสมอกัน จะมีพลังดึงดูดเข้าหากัน ทุกๆคนที่มีโอกาสได้รู้จักกัน ดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน จะต้องเคยทำบุญร่วมกันมาในชาติภพก่อนๆอย่างแน่นอน
🐰🅱️จะกลับมาฟังอีกหลายๆรอบแล้วจะเข้ามาเม้นใหม่นะคะครู♥️🐰🅱️🐶🌹
สวัสดีค่ะคุณหมอ ขอบคุณมากคะวันนี้มาแบบสบายมาแชร์เรื่องเราเป็นใครและมาจากไหน ตาเคยมีคำถามนี้กับตัวเองเหมือนกันแต่ยังไม่ได้คำตอบค่ะ😊ตาขอให้คุณหมอมีความสุข สุขภาพแข็งแรงและปลอดภัยนะคะ.🙏❤️🌹
คุณค่าภายในจิตใจ ความดี ของเรา
เมื่อเราจากไป
เราจะย้ายไปอยู่ในหัวใจ❤
ของคนที่รักเราทุกๆคนคนที่เคยใกล้ชิดเคยมองเห็น เคยได้รับสิ่งที่ดีจากเรา❤
กราบขอบพระคุณคุณหมอแทนค่ะ ก่อนเราตอบคำถามอาจารย์ จะบอกว่าถ้าจะเปรียบเนื้อหาของคลิปต่างๆ พบว่าหลายๆคลิปที่เป็น วิชาการ-โรคภัย-ความรู้ มันประหนึ่งคนที่มีอาการ active ออกวิ่งกระโดดโลดแล่น ตื่นตัว แต่คลิปในวันนี้และทำนองนี้เหมือนช่วงที่ cool down หยุดพักสงบนิ่งใต้ต้นไม้ริมบึง ทบทวนสิ่งที่ผ่านมาบนเส้นทางวิ่งของเรา ตกผลึกเพื่อตั้งหลักใหม่ อารมณ์การฟังจะเป็นอย่างนั้น…. เราฟังเรื่องนี้แล้วเรานึกถึงอะไรอย่างหนึ่งแว้บขึ้นมาในหัว ถ้าอาจารย์หมอมายืนถามเราต่อหน้าอย่างในคลิปว่า ‘QUIZ! คุณตอบซิอะไรทำให้คุณเป็นคุณ ถ้าเลือกเก็บคุณจะเก็บอะไรของคุณ’ คำตอบของเราคือ *ขันธ์ 5* ของเรา (เก็บซะครบเลยเธอ) คำเดียวนี่ประกอบด้วย 1.รูป :ร่างกาย พฤติกรรม คุณสมบัติ ส่วนประกอบของรูปธรรม 2.ความรู้สึก:สุข ทุกข์ ดีใจ พอใจ 3. ความทรงจำต่อสิ่งต่างๆ 4. การคิดปรุงแต่ง ตอบสนองสิ่งที่รู้สึกและจดจำมา 5. จิต: การรู้แจ้งผ่านตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ดูเหมือนไม่ยอมเสียอะไรไปเชียวนะ แต่เราคิดว่าความเป็นตัวตน หรือเราเป็นเรา จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ จะมีมันอยู่ขันธ์เดียวก็ตักอะไรไม่ได้นักหนา พอตายเท่านั้นแหละขันธ์หายไปหมด เราเคยอ่านบทความมาอันนึงนานแล้วกล่าวว่า ทารกที่แรกจุติในครรภ์นั้น ต่อเมื่ออายุครรภ์ครบ 4 เดือนโดยประมาณแล้ว มนุษย์น้อยนั้นถึงจะมี ขันธ์ 5 = รับรู้ว่าเค้ามีตัวตน ครรภ์อ่อนกว่านั้นไม่รู้ความมีตน ขันธ์ 5 เลยติดอยู่ในความคิดเราเพราะอย่างนี้ค่ะอาจารย์หมอ
คุณหมอเจอคำตอบเหล่านี้ ได้ตั้งแต่เด็ก ศรัทธาในตัวคุณหมอจริงๆ ดิฉันพึ่งเข้าในว่า รู้จักคำว่าพอ ในตอนอายุเกือบ 50 ปี คะ เมื่อไรคิดว่า พอ รู้สึกมีความรู้สึกสุขใจ ขึ้นมา ขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอคะ😊
สวัสดีอาจารย์แพทย์🙏คุณหมอแทน😍 วันนี้คุณหมอ ตั้งคำถามว่า เราคือใคร? คุณหมอถามตัวเองด้วย
1🧑🦱เราเป็นเรา ดูที่👩🦳หน้าตา ครู ตอนเด็ก และปัจจุบัน หน้าตาไม่เหมือนกัน
🧑2เพื่อนเราเกิดอุบัติเหตุ แขน ขา ขาดไป เพื่อนเรา ก็ยังเป็นเรา
👨🦲3คนเป็นมะเร็งผมร่วง ศรีษะโล้น ก็ยังเป็นเค้า
การตัดทิ้ง เป็นทางเลือกหนึ่งของคุณหมอ เพื่อหาคำตอบ
คุณหมอมีวิธีคิดที่ลึก มาก ๆ ต้องคิดตามดีดีจะเข้าใจ
คุณหมอคิดว่า การมีเพื่อน ที่สูญเสียความสามารถ แต่ยังทำตามปกตินั่นคือ เค้าคือเค้านั่นเอง
❤️คุณหมอมองภายในว่าเค้า หรือเราคือใคร ดูจากข้างใน มิใช่รูปลักษณ์ภายนอก แม้ว่าเราแก่ไปก็เป็นเราอยู่ดี
❤️การตายเป็นจุดสิ้นสุด ของความเป็นเราจริงหรือ คุณหมอคิดต่อ ความคิดนี้ เหมือนคำกล่าวโอวาทของพระพุทธเจ้า เราไม่ได้ตายไปไหน เรายังคงอยู่ในตัวตนของลูกหลาน ความคิดคุณหมอคิดเป๊ะเลยค่ะ👍
เราคือ คนที่เป็นคนอื่นมาก่อนใช่ค่ะ และเราก็จะไปเป็นคนอื่นอีกเมื่อจากโลกไป ตามหลัก ของศาสนาพุทธ เราตาย ร่างกายเน่าเปื่อย จิตวิญญาณ ความคิด ความจำ ความดี ความชั่ว จะไปปรากฏในร่างกายใหม่ คือการเกิดใหม่ วันนี้🌸พูดได้ซึ้งใจ 💘ความรักไม่ต้องพยายาม มันเป็นไปตามธรรมชาติ คนที่จะสื่อสาร กันได้ในคลื่นเดียวกัน จะดึงดูดกัน คนที่คล้าย เรา จะ อยู่ใกล้ เรา เหมือนมีแรงดึงดูด คุณหมอเหมือน แม่เหล็ก ดึงดูด FCเข้ามา ในเรื่องดีดี ที่เห็นตามคุณหมอ เหมือนว่า ทำไมเราไม่ไปตามคนอื่นนะ เพราะ การสื่อสาร คลื่นอาจ ไม่ตรงกัน กับคนอื่น มาตรงคลื่นนี้ คุณหมอแทนค่ะดังนั้นเราฟัง กัน พูดกัน รู้เรื่องทุกอย่างไม่ เห็นแย้งกัน เป็นต้น คุณหมอยังคงอยู่เสมอ อย่างน้อยความดิด บวก คิดดี คิดถูกต้อง ความจริง ส่งผ่านมาที่พวกเราค่ะ วันนี้ได้เห็นความคิดอันลึกซึ้งเกิดตั้งแต่เด็กๆความคิดถูกต่อ ยอดมาวันนี้ ที่คุยให้เราฟัง มีขำตลกบ้าง😆ขอบคุณคุณหมอค่ะ🙏👍❤️
สวัสดีค่ะ คุณหมอแทน
คุณหมอเป็น"นักคิด"มาตั้งแต่เด็กๆเลย สิ่งที่คิดก็เป็นความคิดที่ลึกซึ้งค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณหมอแทน
ความเห็นผม ผมว่าความคิดและความทรงจำ ทำให้เราเป็นเรา ถ้าหากเราคุยกับคนที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์จำอะไรไม่ได้เลย คนๆนี้จะยังเป็นคนที่เราเคยคุยกัน รู้จักกัน ในอดีตอยู่ไหม คล้ายๆกับเวลาคนที่บอกว่าโดนผีเข้า เค้าก็จะพยามแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกนึกคิด ความทรงจำเป็นของคนอื่น จะโดยการแสดง แกล้งทำหรืออะไรก็แล้วแต่ ประมาณนึ้ครับ
อาจารย์ชวนคุยชวนคิดได้สนุก เคยสงสัยเหมือนกันค่ะ ดิฉันคิดว่าร่างกายเราเหมือนตู้เย็น วิญญาณคือ กระแสไฟฟ้า ถ้าตู้เย็นไม่มีไฟฟ้า มันก็ไม่ทำงาน ร่างกายที่ไร้วิญญาณก็คือศพ ดังนั้นชีวิตคือจิตวิญญาณ มีผู้ใหญ่ชอบพูดถึง ขันธ์5ในพระธรรมคำสอน รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ สิ่งที่เราพกพาไปได้ทั้งๆ ที่ตายแล้วน่าจะมีแค่เพียงสิ่งเดียว คือวิญญาณมั้งค่ะ รูปร่างหน้าตานิสัยสันดานทั้งดีและเลวก็หยุดทำงาน เวทนากิเลสตัณหาความอยากเป็นอยากได้อยากมีก็สิ้นสุดลง สัญญาความทรงจำก็เลือนหาย สังขารกายหยาบเขาก็เอาไปเผา เหลือแค่พลังงานเย็นเยือกจับต้องไม่ได้ ที่เราเรียกว่า วิญญาณ/ดวงจิต/ เทวดาองค์ใน ที่กำลังจะ Transform ไปสู่อีกมิตินึง นี่แหละค่ะที่ไปไหนไปกัน จนมีคำพูด เราคือธาตุรู้อมตะเป็นเพียงโฟตอนจิํวๆ ในจักรวาล เมื่อเราจากโลกนี้ไปคนอื่นจะจดจำสิ่งที่เราทำไว้ก่อนตาย ภาพถ่าย ผลงาน ทั้งดีและเลว ดิฉันเกิด Christmas 'eve คุณแม่ก็เสียวัน Christmas 'eve เมื่อหลายปีก่อน มันบังเอิญรึเปล่า ไม่มีใครรู้ เรื่องที่เราคุยกันวันนี้ดิฉันไม่เรียกว่าเพ้อเจ้อนะค่ะ มันคือจินตนาการ และจินตนาการมันสร้างโลกช้วยให้โลกขับเคลื่อนไปข้างหน้า อัฉริยะหลายท่าน มักมีจินตนาการเป็นจุดเริ่มต้น หัวข้อวันนี้สนุกดีค่ะ
นี่ไม่ใช่การคุยเล่นหรือการแบ่งปัน คุณหมอมาสอนเรื่องอะไรบางอย่างโดยที่คนฟังไม่รู้ตัว. สอนได้ดีมากครับ แต่อีกนิดนึงก็เกือบจะหลุดจากความคิดแบบวิทยาศาสตร์ไปครับ.
คำถามนี้ทุกคนถามตัวเองค่ะ เรามาจากไหน เราทำไมต้องมาอยู่บนโลกนี้ ทำไมต้องมีสัตว์ต่างๆ แล้วต้องมาอยู่ มารัก มาเลี้ยงดูกัน วันนี้อยาก ออกความคิดเห็น และพูดในเรื่องคู่รัก ค่ะ 👩❤️👨 เนื้อคู่ ตามศาสนาเราพุทธ เชื่อเรื่อง เนื้อคู่ และแบ่ง ออกเป็นหลาย แบบ ที่พระท่านกล่าว เราจะมีคู่รัก มาทุกชาติทุกภพ ที่เกิดและ จะเจอเนื้อคู่ตามลำดับ บุญบารมี ที่สร้างมาเช่น ? อ้าวคุณหมออย่าว่าเพ้อเจ้อคะ🤭🤭 💞มีคู่บุญบารมี ทำบุญมาไล่ๆกัน เท่าๆกัน มีศีลเสมอกัน
💞คู่กรรมคู่เวร อยู่ด้วยกันแล้วต้องชดใช้กรรมที่สร้างมาด้วยกัน ทั้งกรรมดี และกรรมขั่ว อันนี้ จะดี ความสุข+ความทุกข์ มีอุปสรรค
💞คู่สร้างคู่สม อันนี้มีการกำหนดมาแล้วว่าต้องอยู่ด้วยการ อันนี้มีความสุข ตามการสร้างมาของทั้งคู่
💕คู่รัก คู่ร้าง คือ อยู่ด้วยกันพอใช้กรรม หมดแล้ว ต้องหย่าร้าง แยกกัน ด้วย ความเป็น หรือความตาย
💞คู่รัก เท่าที่จำพระเทศน์ได้
คู่กัน จะอดทนกันได้ แม้พบอุปสรรค รักในความเป็นกันและกัน อยู่กัน ตลอดชีวิต หรือแยกกัน อยู่ที่มีการสร้างบุญร่วมกันต่อเนื่องหรือไม่
ถ้ายังสร้างบุญร่วมบญกัน ในชีวิตคู่ จะทำให้ อยู่กันไปตลอด จึงมีคำว่า ต้องทำบุญร่วมชาติ กันมาจึงมาเจอกัน คนเราเกิดมา มีคู่หลายคนได้ เพราะ หลายชาติที่ผ่านมา อธิษฐานมาเจอกัน และมีการอธิษฐาน หนี กันด้วยก็มี ถ้าอยู่แล้วไมมีความสุข
พระพุทธเจ้าทรงระลึกชาติได้ และพระบอกทุกคนเวียนว่ายตายเกิดมาหลายชาติที่สุดก็วนมาเจอกันอีกอย่างคุณหมอคนกับคนทั่วๆไป คู่สามีหน้าตาคล้ายกัน เพราะชาติหนึ่งเคยเป็นพี่น้องหรือลูกค่ะ ตามคำพระท่านพูด ขอบคุณที่ให้แสดงความคิดเห็นค่ะ ❤️🙏
ชอบความคิดอาจารย์มากค่ะ อาจารย์ใคร่ครวญเรื่องลึกซึ้งแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆเลย ไม่ค่อยเจอคนที่พูดเรื่องแบบนี้ ส่วนตัวมาเริ่มคิดเรื่องแบบนี้ตอนเรียนที่ ตปท อาจเพราะใช้เวลาอยู่คนเดียวเยอะ กลับมาไทยทำกิจวัตรแต่ละวันผ่านไปหมดเวลา55 ขอบคุณที่อาจารย์ทำให้กลับมาคิดและได้ฟังเรื่องลึกซึ้งแบบนี้อีกครั้ง ดีจังค่ะ
อ.เขาเป็นคนไทป์ 5 ครับ ใน Enneagram มันเป็นเรื่องธรรมดาที่คนไทป์นี้คิดอะไรแบบนี้ ประกอบกันด้วยว่าเขาถูกเลี้ยงดูมาแบบได้ส่งเสริมด้านที่เป็นจุดเด่นเป็นพรสวรรค์
ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ สำหรับclipนี้ เป็นclipที่มีประโยชน์อีกคลิปหนึ่ง นอกเหนือจากเรื่องความเจ็บป่วยต่างๆ เป็นแนวคิดเชิงธรรมะ ที่ว่าจากไปเพียงกาย แต่ดวงจิตยังคงอยู่ เพื่อหาที่อยู่ใหม่ต่อไปค่ะ และสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมที่ได้กระทำไว้ ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว แน่นอน ทำดีหรือชั่วตนเองรู้ดีที่สุด ทำดีแล้วไม่มีใครเห็น แต่ตัวเราเห็นเอง ย่อมมีแต่ความสุขใจ ใบหน้าจะอิ่มบุญไม่มีความเศร้าหมองค่ะ
เราคือ ฝุ่นละอองของดวงดาว ส่วนความเป็นตัวเราอัตตาคือ สิ่งที่สมมุติขึ้นมา ทุกอย่างบนโลกนี้คือ สิ่งสมมุติ ส่วนคำถามที่หมอบอกว่าอะไรที่อยากจะเก็บคือ ความทรงจำประสบการณ์อาจเก็บในรูปแบบของข้อมูลครับเพราะสิ่งเหล่านี้จะบ่งบอกถึงตัวเรา เขียนสิ่งที่เป็นเรา เพราะว่าถ้าเราตายไปเป็นร้อยปีพันปี ถ้ามีคนมาเห็นข้อมูลนี้ก็จะรู้จักเรา ปัญหาคือจะเก็บข้อมูลอย่างไร สรุป เราก็คือ ข้อมูล ส่วนร่างกายก็เป็นฝุ่นละอองจองดวงดาว 😊😊😊
สาธุ ค่ะอาจารย์ได้ข้อคิดทางธรรมมากค่ะ สัจธรรมที่เราต้องเจอทุกคน ขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงค่ะ
ขอบคุณนะคะ คุณหมอเป็นคนที่มีความคิดเป็นระบบ ช่างคิด วิเคราะห์ หาเหตุและผลเพื่อหาคำตอบที่เหมาะสมมาสนับสนุนความคิดของตัวเองตั้งแต่เด็กๆ จึงทำให้คุณหมอมีความเป็นอัตลักษณ์มาจนถึงทุกวัันนี้ เห็นด้วยกับที่คุณหมอพูดนะคะว่าคนที่เป็นคู่รักมักจะคล้ายๆกันมีความชอบที่คล้ายๆกัน ซึ่งเป็นกฏของแรงดึงดูดที่จะดึงดูดคนที่มีความชอบคล้ายๆกันมาอยู่ด้วยกัน
คนประเภทเดียวกันมาพบกันเจอกันเช่นคนดีก้จะเจอคนดีเช่นคนที่เข้าวัดทำบุญก้จะเจอกัลยาณมิตร/กัลยาณธรรม คนไม่ดีก้จะเจอแต่คนไม่ดีเช่นคนที่ติดคุกก้จะได้เพื่อนแบบเดียวกัน ส่วนตัวคิดว่าจุดเริ่มต้นจากการที่เราจะเป็นตัวเรานั้น คือจากการเลี้ยงดู อบรมบ่มนิสัยจากครอบครัว คน สังคมและสิ่งแวดล้อมที่เราเติบโตหล่อหลอมทำให้เกิดความซึมซับมาตลอดส่งผลให้ความคิด ความอ่านการกระทำ บุคลิก ลักษณะให้เป็นตัวเราได้ในทุกวันนี้คะ 🙏
สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ เราเป็นใครและมาจากไหน คำถามง่ายๆแต่คิดไปได้เยอะมีหลายเหตุผลที่จะตอบ ความคิดของอาจารย์หมอคิดมาตั้งแต่เด็กว่าอะไรตรงไหนในร่างกายของเราที่มันแสดงถึงความเป็นเรามากที่สุด สมอง ความทรงจำ ความสามารถ การตอบสนอง ความความอ่าน บุคลิก มันทำให้เราเป็นเราใช่หรือไม่ หากเราสูญเสีย ความสามารถ พูดไม่ได้ ความจำเสื่อมจำไม่ได้เราก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเป็นคนอื่นเราก็ยังเป็นเราแล้วตรงไหน คำตอบคือภายนอกเราเป็นอะไรก็ได้แต่ภายในนั่นสำคัญกว่าคือคุณค่าจะเป็นคุณค่าที่มันดีหรือเป็นปีศาจร้ายก็อีกเรื่องหนึ่งสิ่งที่อยู่ภายในเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเราคือใครคนๆนั้นคือใคร ความคิดนี้ทำให้เกิดผลดีคือทำให้เราไม่ค่อยยึดติดเพราะความที่เป็นเรามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับลักษณะภายนอกของเราต่อให้เราเหี่ยวแห้งก็เป็นเราอยู่ดีเพราะข้างในเป็นเรา การตายเศร้าเป็นจุดสิ้นสุดของความเป็นเราแต่ความเป็นเราก็ยังอยู่คือคุณค่าที่อยู่ภาย ในไม่ว่าจะเป็นการมองโลก ความคิดที่ดี สิ่งที่ชอบและไม่ชอบ สิ่งเหล่านี้ไม่มีวันตาย ลูกหลานที่เกิดมามันต้องมีคนที่คล้ายๆเรามีความคิดทุกอย่างเหมือนกันมันมาประจวบกันตรงกันพอดี มันหมายถึงความอมตะและเป็นเหตุผลอีกอย่างที่สามารถเอาไปตอบคำถามอีกอย่างหนึ่งได้ว่าความดีกับความเลวมันคู่กันแสงสว่างกับความมืดคู่กันและไม่มีวันหายไปไหนตราบใดที่มนุษย์เรายังอยู่คนเราคงไม่นิพพานไปหมดทั้งจักรวาล คุณค่าที่อยู่ในตัวเรา การตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม ต่อสิ่งต่างๆที่ทำให้เราเป็นเราสิ่งต่างๆเหล่านี้จะเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของเราไหนก็ได้ คนอื่นจะมีลักษณะคล้ายเราหมือนเราในอนาคตก็ได้ หากคุณค่าของเราดีเป็นเทวดาอยู่ข้างในเป็นความดีอยู่ข้างในมันก็จะเกิดเป็นต่อไปในรุ่นลูกหลาน เหลน ส่วนความชั่วมันก็จะเป็นเงา จากคำถามอาจเป็นได้ว่าเราเป็นคนอื่นและคนอื่นที่กลายมาเป็นเราๆอาจเป็นร่างของคนอื่นร่างกายของเราเป็นเพียงที่เก็บ เราอาจไม่ได้มีคนเดียวบนโลกนี้ด้วยอาจมีคนที่เหมือนเราแต่ภายนอกอาจไม่เหมือนเราก็ได้ ทำไมคู่สามีภรรยาบางคู่มีหน้าตานิสัยคล้ายกันนั่นอาจารย์หมอคิดว่าการที่คนเราประกอบไปด้วยบุคลิกภาพ ตอบสนองสิ่งต่างๆที่ทำให้เราเป็นเรามันจะดึงดูดสิ่งที่คล้ายกันเข้ามาหากันเพราะการที่มันจะดูดสิ่งแตกต่างกันมากจนเกินไปเข้ามาหากันมันทำให้การสื่อสารกันการตอบสนองมันเป็นไปด้วยความยากลำบากต้องฝืนปรับเข้าหากันแต่ถ้าเป็นสิ่งที่คล้ายกันไม่ต้องฝึกไม่ต้องฝืนอะไรมันเป็นของมันเองเหมือนความรักไม่ต้องพยายามมันเป็นของมันเอง ถ้าจะชอบคือชอบจะรักคือรักมันเป็นเองอัตโนมัติคือสิ่งที่เราเป็นเราค้นหาในสิ่งที่เราคล้ายกันมากที่สุดซึ่งน่าจะเป็นคำตอบ *เราไม่ต้องเสียใจเมื่อมีอะไรเกิดขึ้นไม่มีใครอยู่กับเราแล้วในอนาคตยังไงเขาก็เป็นอมตะเขาต้องเกิดมาอีกร่างหนึ่งด้วยลักษณะต่างๆที่เป็นบุคลิกภาพของเขา แล้วเราก็ต้องพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆดำรงความเป็นตัวตนเราไว้ให้มากที่สุดแล้วโอกาสที่จะทำให้มากที่สุดได้นั้นคือการที่เราจะต้องเอาความคิดของเรา บุคลิกภาพ การตอบสนองที่ดีของเราถ่ายทอดให้กับคนอื่นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพราะว่ายิ่งมากเท่าไหร่ทุกคนที่คล้ายๆเรายิ่งมากในอนาคตโอกาสที่จะเกิดความคิดที่เหมือนเราทุกอย่างจะมากขึ้นๆเป็นกลไกอย่างหนึ่งในการดำรงเผ่าพันธุ์ความคิด ความอ่าน การตอบสนองให้มันเหมือนกัน การที่อาจารย์หมอกระจายความคิดมาให้และก็เป็นการดำรงตัวตนอาจารย์หมอไว้ในอนาคต คำถามเราเป็นใครมาจากไหน ดิฉันได้คำตอบจากอาจารย์หมอแล้วค่ะคงเป็นอย่างที่อาจารย์หมอให้ไว้ ดิฉันขอขอบพระคุณอาจารย์หมอเป็นอย่างสูงค่ะที่แบ่งปัน ดีต่อใจค่ะ เราเป็นใครมาจากไหนนั้น ดิฉันคิดแต่เพียงว่าทำไมเราต้องเกิดมาเกิดมาทำไม แท้จริงเราเกิดมาเพราะแม่พ่อเขารักกันก็เท่านั้นเองค่ะไม่ได้คิดไกลไปมากกว่านี้ค่ะ
Thanks!
โอ๊ยย คุณหมอ เจอคำถามแรกมา
‘อะไรทำให้เราเป็นเรา’ ทำให้แยกแยะได้แม้กระทั่งเป็นฝาแฝด ขนลุกอ่ะ น้ำตาไหล🥹
‘ความดีงาม’เป็นคำตอบในใจ มันผุดขึ้นมาคำเดียวเลย
❤🎧😊ต้องเก้บสเปิม อ.ธานีไว้ ให้ดี😊😮🎉
ขอคิดต่างค่ะ เราคิดว่าความชอบอะไร ไม่ชอบอะไร หรือความเป็นตัวเรามันเกิดจากสภาพแวดล้อม และประสบการณ์ที่คนๆนั้นได้พบเจอและการเติบโตมา
การจะบอกว่าคนที่ชอบคล้ายๆเรา นิสัยคล้ายๆเราอาจจะเคยเป็นเราในอดีตอาจจะต้องมีแะไรที่พิสูจน์ความเชื่อมโยงกันได้มากกว่านั้นอ่าค่ะ ^^
แต่มุมมองคุณหมอก็น่าสนใจค่ะ ที่ใช้ความเป็นตัวเองเป็นจุดเชื่อมโยง แค่ว่าเทคโนโลยีเราสามารถพิสูจน์อะไรได้มากกว่านั้นก็คงจะดีค่ะ
ชื่นชอบหัวข้อที่หลากหลาย ที่คุณหมอนำมาบอกเล่าและแบ่งปันค่ะ
เคยพูดทีเล่นทีจริง กับลูกๆ อยู่ค่อนข้างบ่อยว่าเมื่อถึงเวลาหนึ่ง พ่อจะกลับดวงดาว ที่จากมา หากถึงวัยอันสมควร อย่าใส่สายยางยื้อพ่อไวนะ มันทรมานครับคุณหมอ 😂😂❤❤
This is one of the best clips ever made! You are indeed an enlightened being! I will replay this clip over and over again to digest your thought process. I totally agree with your analysis and you have helped all of us to logically put it in words. Amazing amazing! And thanks very much as always ka 💕🙏🏻
ชอบแนวคิดค่ะ ตามฟังมาหลายคลิบ ถ้าคุณหมอ ได้ไปปฏิบัติธรรม คงอยากฟังวิเคราะห์พุทธศาสนาเชิงวิทยาศาสตร์น่ะคะ 😊
ชอบมากค่ะที่คุณหมอได้มาชวนคุยเรื่องนี้ ❤ คุณหมอมาชวนคุยบ่อยๆนะคะ 😊 จากคนที่รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง พอได้ฟังคุณหมอบ่อยๆ เหมือนกับว่าได้ซึมซับความคิดที่ดีจากคุณหมอ แล้วทำให้เป็นคนที่เห็นคุณค่าของตัวเองมากขึ้น แคร์คนอื่นน้อยลง ดีมากๆเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
"เรา" คือสภาพ functional อย่างหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นจากการทำงานร่วมกันของสภาวะ functional หลายๆอย่าง เช่น input ทางตา หู จมูก ลิ้น ผิวหนัง ข้อต่อ receptor ต่างๆ และ input ที่มาจากสภาพ functional ของสมองเอง ( input ทางใจ ) ร่วมกันเกิดเป็นความรู้สึกขึ้นมาว่านี่คือ "เรา" เช่น รู้สึกว่าร่างกายนี้คือเรา เป็นของๆเรา เราไม่อยากให้มันไม่ดี เราบังคับมันได้ มันเป็นของๆเรา (เหมือนเล่นเกมส์แล้วบังคับมันได้ แอบเกิดความรู้สึกว่าตัวละครในเกมส์คือตัวเราขึ้นมา ทำให้เวลาโดนผู้เล่นอื่นทำร้ายแล้วมีโมโหได้ เกิดอารมณ์ต่างๆ เกิดความโกรธไม่ชอบใจขึ้นมาเมื่อมันไม่ได้อย่างใจ เกิดความอยากขึ้นมาเพื่อจะทำให้มันดีขึ้น สวยขึ้น เก่งขึ้น) สภาพ functional ต่างๆที่เป็นปัจจัย ทำให้เกิดการ lock ว่าเป็นเรา แบ่งได้เป็น รูป (สภาวะทาง physics เช่น สสาร พลังงาน แขน ขา ก้อนเนื้อ ผม ขน เล็บ เสื้อผ้า ฯลฯ) เวทนา (สภาวะทาง functional ที่ทำให้ทุกข์ได้ สุขได้ อันนี้ก็ทำให้เกิดความยึดว่าเป็นเรา) สัญญา (memories) สังขาร (สภาวะ functional ที่ผสมรวมกันจนทำให้คิดได้ อยากได้ เกลียดได้ ชอบได้ เศร้าได้) และวิญญาณ (สภาวะรับรู้ input เข้ามาทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ) เหล่านี้เป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ทำให้เกิดสภาวะ lock ยึดว่ามันต้องมี "เรา" ต้องมี "me" ที่เที่ยงแท้ มั่นคง ถาวร และไม่อยากให้มันเปลี่ยนแปลงไป ไม่อยากให้มันบาดเจ็บ ไม่อยากให้มันสลายหายไป เกิดสิ่งที่เรียกว่า "อัตตานุทิฏฐิ" หรืออีกนัยนึงคือ "สักกายทิฏฐิ" ในทางพุทธไม่จบแค่นั้น
เมื่อเกิดสิ่งเหล่านี้ ทำให้ นามรูป วนเวียนแทบจะไม่จบไม่สิ้น เหนี่ยวนำให้เกิด "ตัวรู้ผสมตัวถูกรู้" ขึ้นมาเป็นวัฏจักรยาวนาน หาเบื้องต้นเบื้องปลายได้โดยยาก แล้วถ้าเป็นดังนี้จริง ถามว่าสภาวะแบบนี้มีปัญหาหรือไม่ ? ตอบว่าปัญหาขึ้นอยู่กับมุมมอง หากยินดีพอใจใน loop นี้ เราเคยตายมาแล้วเคยเกิดมาแล้ว เคยแต่งงานมาแล้ว เคยมีลูกมาแล้ว เคยพบเคยจาก เคยแก่ เคยตาย เคยป่วย เคยเป็นขอทาน เคยเป็นเศรษฐี เคยทุกข์เคยสุขมาแล้วแทบจะทุกอย่าง ทั้งแบบนี้หรือยิ่งกว่านี้ แล้วเรายังไม่อิ่มไม่เบื่อไม่พอ ก็เป็นสิทธิของเราที่จะ go on ต่อไป หากแต่เรามองว่า มีเหตุผลเพียงพอทีเดียว ที่จะเบื่อหน่าย ที่จะคลายกำหนัด ที่จะพอ ที่จะหยุดและหลุดพ้น ก็หากเป็นเช่นนั้น พระพุทธองค์ทรงตรัสถึงทาง (มรรค) ไว้ให้แล้ว เสมือนเป็นแผนที่ ให้ลองเอาไปเดินตามทาง (ปฏิบัติ) เพื่อหลุดพ้นไปจากสภาวะ lock loop นี้ได้
(ผมเคยทั้งศึกษา สะสม และปฏิบัติจริงจังแล้ว ยังไม่พ้นครับ แต่เคยปฏิบัติลึกขึ้นไปเรื่อยๆ ระหว่างทางได้เห็น mark ต่างๆปรากฏขึ้น ตรงตามในแผนที่ระบุไว้ การเอาแผนที่ฉบับ copy มาทดลองเดินดู เป็นทางเดียวที่จะพิสูจน์ได้ว่าแผนที่ฉบับนี้ แม้มันจะเป็นฉบับ xerox คัดลอกมาหลายสมัย แต่เนื้อหาในนั้นของจริงหรือไม่ และ it's work หรือไม่ ซึ่งสำหรับผมตอนนี้ไม่สงสัยแล้วครับ)
💐ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะอาจารย์💐
🎉ตอนนี้ผู้ติดตาม 4.95 แสนคนแล้วค่ะ🎉
🤩👍❤️
เห็นด้วยกับอ.หมอที่บอกว่าคนที่เป็นคู่รักกัน จะมีอะไรหลายอย่างคล้ายกันแม้กระทั่งหน้าตาก็จะคล้ายๆกัน การปรับตัวที่ไม่ต้องพยายามและเป็นunitที่เชื่อมต่อกันง่ายเช่นเดียวกับพลังงานลบก็จะไหลรวมมาอยู่ในอีกฝ่ายหนึ่ง เชื่อว่าคนเราเวลาตายแล้วดับสลายแค่กายหยาบแต่ความรู้สึกนึกคิดก็คงไม่หายไปใหนอาจจะล่องลอยและถูกเก็บไว้ที่ใหนสักแห่งจนถึงวันที่จะมี factor. บางอย่างที่จะทำให้มีการreborn แต่ที่สำคัญอยู่ที่ปัจจุบันทุกคนต้องช่วยสร้าง positive energy เอาไว้ อย่างที่่เราชาวพุทธเชื่อว่ากรรมเกิดจากการทำความชั่วมันไม่ไปใหน แต่เราทำให้ effect. ของมันเบาบางลงได้ โดยสร้างกรรมดีให้เยอะๆมากขึ้นเรื่อยๆ ขออภัยครับที่ร่ายยาวไปครับ😅
สวัสดีค่ะคุณหมอ🙏🏼😊
สำหรับนู๋ตอนเด็กๆจะยังไม่เคยคิดว่าเราเป็นใคร มาจากที่ไหน แต่เคยคิดว่า ทำไมเราต้องเกิดมา เกิดมาทำอะไร และจะทำยังไงไม่ให้เกิดมาอีกค่ะ😂 ตอนนี้ก็ยังคงหาคำตอบนั้นต่อไปค่ะ😁
ผมชอบคำถามนี้ ขอบคุณมากนะครับ อาจารย์กล่าวอย่างมีเหตุผล ผมก็คิดแบบนี้ ความคิด ความถนัด ความชอบ สิ่งนี้ไม่มีวันตาย นี่อาจจะเป็นเหตุผลได้ว่า ทำไมบางคนไม่ใช่ญาติแต่ช่างดีกับเราเหลือเกิน
ตอนเด็กๆ ก็เคยคิดเหมือนหมอเนี่ยแหล่ะ คิดต่อว่า เกิดมาเพื่ออะไร จำได้ ตอนนั้น อยู่ป.2 แต่ก็ไม่ได้หาคำตอบอะไร พอได้อ่านหนังสือศาสนาพุทธ ก็พอเข้าใจ สิ่งที่หมอแทนสื่อในคลิบนี้ คล้ายๆ คำสอนในพุทธศาสนาค่ะ ไม่รู้ว่าใครคิดยังไงนะคะ ขอบคุณที่ทำคลิบดีๆ มีสาระ ถึงแม้บางคลิปจะไม่เห็นด้วยค่ะ Have a nice day, take care!!!
สวัสดีค่ะคุณหมอ คนช่างคิด ช่างสงสัยใคร่รู้ฯลฯ ขออนุญาต ตอบบ้างนะคะ Who am i ??? เราก็คือเรา นั่นละ มาจากไหน ถ้าตอบจากการเรียนรู้ ก็ต้องตอบว่า มาจากไข่ที่ขาวสอาดของแม่ ที่มาผสมกับสเปิร์มตัวเก่งของพ่อ ทำให้เกิดการปฏิสนธิ เป็นเอ็มบริโอ (ตัวอ่อน) แล้วเจริญเติบโตตามสายพันธ์อยู่ในครรภ์ของแม่ 9 เดือน ก็เคลื่อนคล้อยออกมาเป็นตัวเรา นั่นเอง 😁😁😁 ก่อนแสดงความคิดเห็น ก็ได้อ่านเม้นท์ของเพื่อนๆทำให้ทราบว่า ผู้ติดตามคลิป ของคุณหมอ ล้วนมีภูมิความรู้มากๆ กันทุกท่านทุกคน ทั้งทางโลกและทางธรรม 👍👍👍 ความจริงไม่มีใครทราบหรอกนะคะ ว่า"เราคือใคร มาจากไหน" ขอบคุณคุณหมอ ที่ช่วยให้พวกเราได้มีจินตนาการ🍉🍉🍉
คหสต ผมว่าความเป็นเราอาจไม่มีจริงครับ
ลองมองความหลากหลายทางชีวภาพของสิ่งมีชีวิตอื่นๆจนถึงจุลชีพที่มีจำนวนเป็นอนันต์ มันเหมือนหรือต่างกันโดยเหตุปัจจัยและความน่าจะเป็นเท่านั้น
***
สิ่งที่ทำให้ใจผมเป็นสุขคือ "การปล่อยวางความเป็นเรา" และดำเนินชีวิตให้ดีที่สุดตาม "หน้าที่และบริบท" ภายใต้กาลเวลาที่เป็นอนันต์ของจักรวาลนี้
เมื่อปล่อยวางความเป็นเราได้ เราจะเห็นทุกสรรพสิ่งดำเนินไปภายใต้มุมมองที่มากกว่าการแบ่งแยกว่าของเขาหรือของเรา ซึ่งทำให้ลดความยึดมั่นถือมั่น, ลดละความเห็นแก่ตัว และมีจิตใจที่ผ่องใสมากขึ้นครับ
เพิ่งจะติดตามคุณหมอคะ.ชอบฟังทุกเรื่องที่หมอเล่าบางทีท้อก็หาหัวข้อที่หมอเล่าไว้เพื่อสร้างกำลังใจ
กำลังจะทำงานพอดี เดี๋ยวเปิดฟังเลย ได้เวลาบันเทิงแบบมีสาระแล้วจ้า 👍🏻✨
ชอบหัวข้อแนวๆนี้มากค่ะขอบคุณนะคะ
เยี่ยมครับ ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์นะครับ ส่วนตัวผมก็เคยคิดแบบนี้ และก็สนุกที่ได้คิดแบบนี้เช่นกัน
ขอบคุณคะ อาจารย์หมอ.😊
หัวข้อนี้ อยากฟังมากที่สุด
เพราะ เป็นสัจธรรม ภายในที่มองด้วยใจ
สวัสดีค่ะ ฟังแล้วก็รู้สึกเห็นด้วยเลยเพราะว่าคนเราที่ได้พบได้รู้จักช่วยเหลือกันไม่ใช่เหตุบังเอิญ ต้องเคยมีความเกี่ยวพันกันมาก่อนนะคะ บางครั้งเจอคนที่ไม่เคยเจอมาก่อนแต่กลับรู้สึกคุ้นเคยกันมากๆ ถูกชะตา หรือเวลาตกทุกข์ได้ยากก็มีคนมาช่วยเหลือ เคยเจอจริงๆค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ
เราเป็นใครมาจากไหน?
ขอบพระคุณอ.หมอ แชร์ให้ฟัง
ดีมากมาก ๆ 🙏💜
คุณหมอช่างคิดจริงๆค่ะ ❤
สวัสดีค่ะคุณหมอ ขอบคุณที่แบ่งปันความคิด ขอให้คุณหมอมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ😊😍😍
😊🌼🍃สวัสดีค่ะ 🙏
นั่นสิคะ เราเป็นใคร หัวข้อน่าสนใจค่ะ ถึงบ้านจะฟัง
นะคะ ขอบคุณมากค่ะ
@ เอี้องมะลิ
สวัสดียามรักค่ะคุณครู
ถ้าเราไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร
แล้วคนอื่นจะรู้ได้ไงคะ 😊⚘❤⚘
@ Doctor Tany
ขอบคุณมากค่ะคุณหมอแทน
ทำงานหนักแล้ว..พักผ่อนมากๆนะคะ 🌻🧡🌻
@@boomsong5729
😁💖 ขอบคุณมากนะคะ
ไม่เป็นไรค่ะ เป็นการสกรีน
คนที่จะเข้ามาหาเราไปในตัว
อยากรู้จัก รู้นิสัยเราก็ต้อง
พยายามหน่อยค่ะ 555
อย่าหมั่นไส้นะคะ เคยเจอจริงๆ
ค่ะ บางครั้งเราคิดว่าเราเป็นแบบ
นี้ แต่มันไม่ใช่ บางครั้งบางเรื่อง
เพื่อนสนิทรู้จักเรามากกว่าตัวเรา
อีกค่ะ อิอิ พักผ่อนอย่างมีความสุข
นะคะ
ขอบคุณ คุณหมอ มากคะ น่าคิด กับคลิปนี้คะ แปลกแต่จริงคะ
เป็นความคิดที่น่าสนใจและดีมาก ๆ เลยค่ะ อ่านเมนต์ก็น่าสนใจมาก ๆ ด้วย
สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ4.95แสนผู้ติดตามแล้วชอบเสื้ออาจารย์หมอตัวนี้มากใส่เมื่อไหร่ก็เท่ตลอดถึงจะใส่มานานก็ยังชอบอย่าไห้ขาดง่ายนะคะขอบคุณที่มาแบ่งปันความรู้ในวันนี้ค่ะ
สวัสดีค่ะ อาจารย์หมอ สิ่งที่เคยคิดคือคนทำไมถึงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าคนเราตาย 1 คนแล้วถ้ามีการเวียนมาเกิด ก็น่าจะเกิดเป็นคนอีก 1 คน ฉะนั้นถ้าในโลกนี้เคยมีอยู่สมมุติว่า 1 ล้านคน ก็น่ามีแค่ 1 ล้านคนเท่าเดิมที่ตายแล้วเกิดเวียนไปเวียนมา แต่คิดว่าที่ผ่านมาน่าจะมีประชากรเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วคนที่เพิ่มมานี้ มาจากไหน เป็นอะไรมาเกิด ก็เลยอยากเรียนถามว่าอาจารย์คิดอย่างไรกับประเด็นนี้ หรือว่าเป็นการเข้าใจผิดว่าคนในโลกมีเพิ่มมากขึ้น ความจริงคือมีจำนวนเท่าเดิมตั้งแต่มีโลกอุบัติขึ้นมา เป็นความสงสัยตั้งแต่ตอนเด็ก ตอนนี้ก็ยังสงสัยอยู่ ขอบคุณมากค่ะ
เราเป็นใคร สู่การเป็นคนดีที่สร้างขึ้นเพื่อพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งๆขึ้น คือคำตอบที่จะทำให้เราตั้งใจทำดีด้วยการพัฒนาตัวเองจนถึงวันที่แตกสลายไปเอง ขอบพระคุณที่เหนี่ยวนำไปสู่ความสุขสงบ ในจิตใจจุดหมายที่จะไม่ทุกข์เศร้ากับความผิดหวังเสียใจ พัฒนาตัวเอง
คุณหมอเคยเสียดายมั้ยคะกับความรู้ที่อุตส่าห์เรียนมามากมาย ถ้าตายไปแล้วต้องเริ่มใหม่หมดเลย แล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำได้ดีแบบในชาตินี้หรือเปล่า แต่ถ้าคุณหมอในชาติหน้าได้เห็น RUclips ของ DrTany อาจจะคุ้นๆบ้างนะคะ คนนี้พูดดีจัง มีอะไรคล้ายๆเราเลย เราอยากโตมาเก่งแบบเขาจัง แล้วเด็กคนนั้นก็จะได้รับพลังให้สามารถเรียนรู้เรื่องการแพทย์ได้อีกครั้ง เราเชื่อแบบนี้ค่ะ คนที่เก่งอะไรแล้วมันจะติดตัวไปทุกๆชาติได้ค่ะ ดังนั้นชาตินี้ต้องพัฒนาตัวเอง และทำดีมากๆ เป็นพื้นฐานให้ชาติหน้าค่ะ
ไม่เคยคิดอะไรครับ
ชอบที่คุณหมอมีทำคลิปแนวนี้ออกมาบ้างนะคะ เรา คือ กาย จิต กายดับแต่จิตไม่ดับเวียนว่ายตายเกิดมานานค่ะ อย่างที่คุณหมอพูดคือ กรรมที่ทำไปกับจิตนั่นแหละค่ะ
Thank you 🙏🏻 so much ⭐️👨🏼⚕️⭐️
I want to be a doctor. 👨🏼⚕️
ขอยคุณค่ะ🙏
เป็นเเนวคิดที่น่าสนใจมาก ทำให้ฉลาดขึ้นเเละดูปล่อยวาง
จริงๆ ค่ะ พี่ก็ชอบตั้งคำถามกับตัวเองบ่อยๆ😀
เรา ในที่นื้ คือ จิตวิญญาณในตน มั่งค่ะ
เสี้อหมอ ลายสวยคะ
❤🙏❤️ขอบคุณมากค่ะ
ผมมองว่า core value ของคนมันเปลี่ยนได้นะ การตัดสินจากความรู้สึกก็ยังยอมรับว่าคนๆนั้นเป็นคนๆเดิมถ้าหากรับรู้ถึงเปลี่ยนผ่านใดๆของคนๆนั้น
ส่วนใหญ่คนเราไม่ค่อยเปลี่ยน corevalue ตัวเองก็จริงครับ แต่มันก็มีไม่น้อยเลยที่เปลี่ยนได้ ผมมองว่าการนิยามว่าใครคือใครมันมีเรื่องของ “การรับรู้ถึงคนๆนั้นตามกาลเวลา” มาเกี่ยวด้วย เราไม่ได้มองว่าคนๆนึงต้องมี value เดิมเสมอ แต่ในตัวความรู้สึกที่ใช้ตัดสิน มันสามารถเข้าใจได้ว่าเป็นคนๆเดิมแม้จะไม่เหมือนเดิมตามกาลเวลา
ทั้งนี้ทั้งนั้น ในโลกนี้ก็มีหลายนิยามที่ใช้วัดว่าแก่นของคนๆนึงมันคืออะไร แต่ผมคิดว่านิยามที่ผมพูดไปนี่ตรงกับสัญชาติญาณ(ส่วนตัว)มากที่สุดแล้วครับ
คุณหมอละเอียด ถี่ถ้วนมากค่ะ มีเหตุมีผล 🙏😍😍
ขอบพระคุณค่ะคุณหมอ
อาจารย์หมอ❤ ครับ
อาการฝันเปียก เกิดขึ้นกับผู้ชายในวัยไหนครับ หรือว่า ไม่เกี่ยวกับวัย #เพราะ เวลานี้ผมอายุ32ปีแล้ว ก็ยังมี ฝันเปียกอยู่ครับ❤
วัยไหนก็มีได้ครับ แค่วัยรุ่นมีมากกว่าก็เท่านั้น
ขอบคุณครับอาจารย์หมอ
ถ้าเรือที่เปลี่ยนอะไหล่ที่ซ่อมแซมไปจนครบชิ้นส่วนทั้งลำ เรือลำนั้นจะเป็นเรือลำเดิมมั้ยคับ(เคยได้ยินคำถามเชิงปรัชญานี้มาก่อนครับ)
เราเกิดจากการผสมสารอินทรีย์จากสิ่งมีชีวิตต่างๆแม้แต่จากคนรุ่นก่อนที่ตายไป จากการกินส่งต่อกันมา หากความน่าจะเป็นที่สารอินทรีย์จะผสมกันจนเหมือนคนที่เคยเกิดมาก่อน คนที่เกิดมาใหม่จะใช่คนก่อนหน้านั้นมั้ยคับ
ส่วนตัวคิดว่า เราคือ สิ่งที่คนที่เรามีความสัมพันธ์ด้วยบอกถึงตัวเรา เค้าจำเราในแบบไหน เหมือนที่เราระบุสัตว์เลี้ยงของเราได้ว่านี่คือหมาของเรา ไม่ใช่ที่นิสัย หรือภายนอกซะทีเดียว แต่จากการที่เราเคยมีความสัมพันธ์กับมันมา
ชอบวิธีคิดของคุณหมอมากเลยครับ
The first day I had on my light sweater again! Pumpkin display is fully on at the farmers market.
ALL that Pumpkiny fall feels which I love love love… ❤️💛💚🧡🤎
Interesting, mind-provoking topic today. Similar to one you posted l o n g ago about what you think of (D)eath.
I shall be back to share my Two cents! Right now will squeeze in my 30-min cardio, then lunch.
Have a Gloriously Beautiful Saturday!
🌻🌻🌻🌻🌻🌻
สวัสดีครับคุณหมอ
ขอบคุณมากครับ🙏✨
เสียดายค่ะคุณหมอ แม่ไม่มีลูกจึงไม่มีหลานไปด้วยดังนั้นแม่ก็สิ้นสูญตามร่างที่สลายตามการเวลาไป แม่เลยไม่มีคำว่าอมตะเพราะไม่มีวันที่จะมีใครมาเหมือนแม่ได้เลย😢แต่สักวันแม่จากไปอาจจะไม่เหลือแม้แต่จะพูดถึงเรา🥺