พม่า ผู้โอหังต้องรับกรรม หลังจากตีกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่2
HTML-код
- Опубликовано: 8 фев 2025
- สงครามสยามจีนอังกฤษกำราบ #ความโอหังของพม่า
การสงครามครั้งนี้เริ่มขึ้นในระหว่างการทำสงครามของอาณาจักรโก้นบองกับอาณาจักรอยุธยา และยาวไปจนถึงการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง ใน พ.ศ. 2310 ในพงศาวดารพม่าระบุว่า พระเจ้ามังระมีพระราชสาส์นให้นายทหารและแม่ทัพในสงครามคราวนี่เร่งรีบกระทำการ และรีบเดินทางกลับอังวะเพื่อที่จะเตรียมการรับสงครามคราวนี้[ต้องการอ้างอิง]
เหตุแห่งสงครามมาจากความขัดแย้งระหว่าง #พม่ากับจีน ในเรื่องหัวเมืองไทใหญ่ ซึ่งกองทัพพม่าได้ยกเข้าดินแดนไทใหญ่และรุกคืบไปเรื่อยๆ ทำให้พวกเจ้าฟ้าไทใหญ่ได้ไปขอความช่วยเหลือจากจีน ซึ่งทั้งสองมีพรมแดนติดต่อกันระหว่างจีนกับพม่าทางมณฑลยูนนานในปัจจุบัน ซึ่งเคยมีปัญหามาก่อนตั้งแต่ยุคพระเจ้าบุเรงนองแห่งราชวงศ์ตองอู โดยในครั้งนี้ราชวงศ์ชิงซึ่งปกครองโดยจักรพรรดิเฉียนหลง ได้ส่งกองทหารจากแปดกองธงอันเกรียงไกรเข้าทำลายพม่าแต่ก็ต้องผิดหวังทุกครั้ง โดยในระหว่างสงคราม หลิวเจ้าแม่ทัพกองธงเขียว (บุกครั้งที่ 1) หยางอิงจวี่แห่งกองธงเขียว (บุกครั้งที่ 2) รวมถึงพระนัดดาหมิงรุ่ยแห่งกองธงเหลือง (ขึ้นตรงต่อฮ่องเต้) ขุนพลเอกแห่งราชวงศ์ชิงผู้พิชิตมองโกลและเติร์ก (บุกครั้งที่ 3) ต้องฆ่าตัวตายหนีความอัปยศเพราะความพ่ายแพ้ โดยในการบุกครั้งที่ 4 จักรพรรดิเฉียนหลงได้เรียกเสนาบดีระดับสูงให้มารวมตัวกันครั้งใหญ่ที่สุดในยุคของพระองค์ ประกอบด้วยองค์มนตรีฟู่เหิงแห่งกองธงเหลืองขลิบซึ่งเป็นลุงของหมิงรุ่ยผู้มีประสบการณ์ในการรบกับมองโกลมาแล้วอย่างโชกโชน พร้อมด้วยเสนาบดีอีกหลายนายเช่น เสนาบดีกรมกลาโหมอากุ้ยแห่งกองธงขาว(ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นบิดาบุญธรรมของจักรพรรดิเจี่ยชิ่งเช่นเดียวกับฟู่เหิง) [10] แม่ทัพใหญ่อาหลีกุ่น รวมทั้งเอ้อหนิงสมุหเทศาภิบาลมณฑลยูนนานและกุ้ยโจว (ภายหลังได้รับแต่งตั้งเป็นเสนาบดีกรมกลาโหม) ให้เตรียมการบุกพม่าเป็นครั้งที่ 4 และทำพิธีส่งกองทัพนี้อย่างยิ่งใหญ่โดยจักพรรดิเฉียนหลงเป็นประธานในพิธี กองทัพนี้ประกอบไปด้วยกำลังพลจากทั้งแปดกองธงและกองธงเขียว ในครั้งนี้กองทัพต้าชิงสามารถรุกเข้าไปในดินแดนของพม่าได้ลึกพอสมควร แต่กองทัพของเนเมียวสีหบดีก็กลับมาได้ทัน สงครามเป็นไปอย่างดุเดือดสุดท้ายกองทัพพม่าสามารถล้อมกองทัพต้าชิงเอาไว้ได้ แต่อะแซหวุ่นกี้ได้ตัดสินใจยุติสงครามที่เปล่าประโยชน์ครั้งนี้ลง ด้วยการบีบให้กองทัพต้าชิงซึ่งติดอยู่ในวงล้อมตัดสินใจเจรจา
สงครามสิ้นสุดลงด้วยการเจรจาและบรรลุสนธิสัญญาก้องโตน โดยยึดเอาแนวเขตพรมแดนเดิม[11] โดยทั้งสองฝ่ายต่างอ้างชัยชนะในสงครามครั้งนี้ และสงครามครั้งนี้ยังทำให้พระเกียรติยศของพระเจ้ามังระเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด หลังจากก่อนหน้านี้กองทัพของพระองค์ก็สามารถพิชิตอยุธยาได้ในเวลาไล่เลี่ยกัน รวมถึงอะแซหวุ่นกี้แม่ทัพฝ่ายพม่าเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมา ก่อนที่จะมีบทบาทสำคัญต่อมาอีกหลายครั้งในภายหลังทั้งทางด้านการเมืองและการศึกสงคราม
เรื่องเล่าจากบันทึก เล่าเรื่องต่างๆที่มีสาระและน่าสนใจ ประวัติศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญต่างๆ รวมถึงธรรมะคำสอนต่างๆ
ไทยเราหลังเสียกรุง
กษัตริย์ไทยฉลาดมาก
แบะขุนนางก็มีความ
สามัคคีรวมพลังความคิด
ต่อสู้กับพวกฝรั่งหาก
เราใข้กำลังคงสู้พวกฝรั่ง
ไม่ได้แน่ จึงค้าสมาคม
กับฝรั่งทุกขาติเพื่อให้คาน
อำนาจต่อกัน จึงรอดพ้น
ไม่เป็นเมืองขึ้นของพวกฝรั่งชาติใด...
โดยสายตาของผมคิดว่าผู้ที่มีบทบาทมากที่สุดก็คือ2สมเด็จเจ้าพระยาพ่อลูกคือสมเด็จเจ้าพระยามหาประยูรวงศ์(ดิส บุนนาค), สมเด็จเจ้าพระยามหาบรมศรีสุริยวงศ์(ช่วง บุนนาค)ผู้ต้นคิดการนำเสนอให้ส่งบุตรหลานของในหลวงรัชกาลที่ ๓ และรัชกาลที่ ๔ ให้ไปเรียนรู้วิวัฒนาการของฝรั่ง(โดยเฉพาะอังกฤษ)เพื่อนำกลับมาพัฒนาการสยามประเทศและต่อเนื่องเห็นผลมากที่สุดในยุคในรัชกาลที่ ๕ อีกทั้งยังดำเนินการทางการทูตทำให้สยามประเทศรอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษและฝรั่งเศสถึงแม้จะเสียดินแดน(ที่สยามไปบุกยึดมา)ไปก็ตาม
แต่ไทยก็เสียดินแดนไปมากมาย
สมัยยุคล่าอาณานิคม.อังกฤษ.ฝรั่งเศส
ถ้าวันนั้นพม่าไม่เผากรุง วันนี้เราก็จะไม่มีราชวงค์จักรี
บาปตกมาถึงแล้ว...เผาพระพุทธรูปไม่เกรงกลัวบาป
ทำให้เห็นว่า ชาตินักรบที่ยอมหักแต่ไม่ยอมงอ มีจุดจบยังไง
ทุกวันนี้พม่ากลายเป็นประเทศด้อยพัฒนาเฉยเลย คนประเทศก็ทำสงครามกันเอง
พม่าชอบทำสงคราม ยุคปัจจุบันก็ยังอยู่ในภาวะสงคราม
ไม่มีชนไดชอบการสงครามหลอก มันเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะอยากตายก่อนวัยอันควร
สมน้ำน่า
คนของเขาเหี้ยมกว่าคนไทยมาก (ไม่ได้ว่าคนทั้งปท) นะ
ไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อนอย่างละเอียด ทราบแต่คร่าวๆว่ารบกับจีน
ขอบคุณสำหรับข้อมูล
ทำให้มีอรรถรสมากยิ่งขึ้นในการอ่านและฟัง
ทำให้คิดว่า ถ้าตอนนั้น ไทยมีปืนที่จะยิงสู้กับพม่า คงไม่ต้องไสช้างชนกันเพียงอย่างเดียว
คือวาดภาพการสู้รบรว ไทยกับพม่าในตอนนั้น ทหารไทยคงเหนื่อยมากมาก คงยอมตายอยู่แล้ว
คือเอาชีวิตแลกชีวิต เป็นการเสียสละอย่างสูง
ตามเรื่องราวที่แอดมินนำเสนอนี้ เห็นได้ว่าหลังพม่ามีชัยเหนือกรุงศรีอยุธยาแล้ว รีบนำไพร่พลและเชลยและทรัพย์สินกลับพม่าเพื่อรับศึกจีนที่ขยายอิทธิพลลงมา จึงเป็นคุณให้พระเจ้าตากสินมหาราชกู้เอกราชสยามได้อย่างรวดเร็วครับ21:30
พม่าเก่งในด้านสงคราม
ไม่ใช่เลย จีนโดนโรคเขตร้อน ส่วนสยามมีไส้ศึก
ไทยเก่งๆๆๆๆมากเรื่องการทูต
ชัยชนะทำให้ผู้ชนะหยิ่งผยอง
ในประเทศเพื่อนบ้านไทยกับพม่าน่าจะรบพุ่งกันมากที่สุดแล้วมั่งครับ..ขอบคุณแอดมินที่นำเรื่องราวมาเล่าให้ฟังนะครับ
เมื่อเสือปลา ปะทะ สิงโต
พม่าไม่มีทางชนะอังกฤษได้เพราะอาวุธยุทโธปกรณ์ต่อให้กินให้ทนให้ได้แสนถึง 3-4 แสนก็ไม่ชนะเพราะอังกฤษมีอาวุธร้ายแรงปืนไฟที่สามารถยิงได้หลายครั้งละมากๆพม่าหรือตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ
เค้าเคยรบชนะจีน เคยบวก มองโกล เคยถล่มกรุงศรีอยุธยา เลยไม่กลัวใคร 555 เลยไม่เห็น อังกฤษ อยู่ในสายตา เหนือฟ้ายังมีฟ้า อะแซหวุ่นกี้ ผู้รบชนะจีน ต้องมาเสียท่าให้ ร.๑ กลับบ้านโดนปลด & ถูกเนรเทศ
ความรู้เรื่องคู่รบไม่มี การข่าวไม่ชัดเจน เอาเรื่องเก่าที่ว่ารบชนะไทย ยันเสมอจีนได้ พม่าเลยห้าวมาก เลยรบกับฝรั่ง แล้วก็เสียเมือง ไทยเราก็เลยเก็บเป็นข้อมูล เสียแผ่นดิน แต่ไม่เสียเมือง
อีกหน่อยประเทศไทยจะครองโลก
คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับไทยก็แค่แสดงความคิดเห็นนิดเดียวเอง
จีนกำลังระบายพลเรือนเข้าสู่ประเทศไทยอย่างช้าๆ ทั้ง กทม เชี่ยงไหม่ ฯ ข่าวนี้น่ากลัวมาก.
อยุธยาไม่น่าพลาด
นี่ถ้า พระเจ้ามังระ, อะแซหวุ่นกี้, เหมียวสีหปาเต๊ะ มังมหานรธา, มังฆ้องนรธา สามารถอยู่ได้ถึงยุคพระเจ้าปดุง ผมว่าอังกฤษสู้ไม่ได้ แน่เลย
อาวุธเหนือกว่าก็ชนะเกินครึ่งไปแล้วครับ
ยังไงก็แพ้ครับอาวุทต่างกัน
พม่ามาเก่งฝ่ายเดียวไม่ได้
พม่ายกทัพไป60000อังกฤษมีแค่พันกว่าๆแต่มีอาวุธทันสมัย แต่พม่าพ่ายแพ้ไม่เป็นท่า
บาปกรรมของบรรพบุรุษชาวพม่าที่ เผากรุงศรีฯ //บ้านเมืองเขาจึงแตกแยกเช่นนี้และต่อไป
ข
ไม่ใช่แค่เผากรุงศรีพม่าทำศึกสงครามมามากรวบรวมเผ่าพันธ์ต่างๆเข้าไว้ในแผ่นดินก็คงฆ่าคนไปมิใช่น้อยและว่าตามหลักกรรมทหารพม่าตายด้วยจิตทีคิดถึงแต่การสู้รบเกิดมาใหม่ก็กลับมารบต่อไม่หยุด
สิ่งใดมีความเกิด สิ่งนั้นย่อมดับไปเปนธรรมดา ตถาคตมิอาจกล่าวคำเท็จ
รบกวนไปศึกษาประวัติศาสตร์ให้ละเอียดแล้วจะได้รู้ว่าใครเป็นคนเผากรุงศรีอยุธยาแต่ที่แน่ๆไม่ใช่พม่าฝ่ายเดียวหรอก
@@sukchaiw หมายถึงโจรคนจีนคนไทยที่มาผสมโรงเผาเอาสมบัติใช่ไหมคนพวกนี้เผาจนอยุทธยาล่มเลยเหรอเอาจริงๆการโจมตีเมืองต่างๆสมัยก่อนหลายครั้งมักจบลงที่การเผาเมืองต้อนเชลยเพื่อทำให้ข้าศึกอ่อนแอไม่สามารถกลับมารวมตัวเอาคืนได้แล้วคุณคิดว่าพม่าจะเผาแบบเล็กๆน้อยๆเหรอหลังจากที่ล้อมอยุทธยามาเป็นปีเพราะอะไรต้องทำแบบนั้นอย่างน้อยก็ต้องเผาที่สำคัญๆแหล่ะและยิ่งมีศึกจีนอยู่อีกด้านที่ไม่รู้ว่าจะกลับมาจัดการกับด้านนี้ได้ไหมถ้าอยุทธยากลับมารวมตัวสู้กลับได้อีกถ้าเป็นคุณคุณคิดว่าคุณจะทำยังไงก่อนไป..ใช่ที่มันเป็นบริบทของสงครามยุคนั้นเราคงใช้มาตราฐานของคนยุคนี้ไปตัดสินไม่ได้เราได้แค่เรียนรู้รับทราบเท่านั้น สำหรับนักประวัติศาสตร์ หรือนักวิชาการการไม่มีอคติมีความเที่ยงตรงเป็นเรื่องดีเพราะเป้าหมายของนักวิชาการคือเรื่องจริงความจริง
นักวางแผนการรบพม่าสมัยนั้นสุดยอดจริงๆ...
โอ๊วๆๆๆ..เพิ่งรู้นะเนี้ยย..พม่านี่เก่งกาจกว่าที่เราคิดจริงๆ..ฟาดไทยเจ้าเดียวซะที่ไหน ..พ่อฟาดทั้งไทย ฟาดทั้งจีน ฟาดทั้งอินเดีย ฟาดทั้งอังกฤษ..นี่ถ้าไม่เปิดศึกรอบด้วนขนาดนี้ อังกฤษอาจเอาไม่ลงก็ได้นะ ..555
พม่า กับ สยาม แค่สองชาตินี้นี่แหละที่ผมคิดว่ามีอำนาจมากจนถึงขั้นสูงที่สุดในแถบอาเซียน
แต่พม่าพี่แกห้าวเกิน สุดท้ายสภาพก็เป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน 😂
ก็เพราะความชั่วเป็นเหตุสังเกตุได้คนพม่าโดยสันดานเป็นคนเหี้ยมโหดผิดมนุตย์มนาแถมละโมบตะกระตะกรามหวังกินรวบทั่งแผ่นดินโดยเฉพราะไทยมันอยากจะกินตับไทยจนกลายเป๋นประมาทนี่ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนไทยใจชั่วบางคนที่ขายชาติชังชาตืนะมันก็ไม่มีทางทีจะมาทำลายกรุงศรีอยุทธยาได้หรอกแต่ปัจจุบันไทยก็ยังมีคนเลวที่พร้อมจะขายชาติก็ยังคงมีอยู่นะอยากจะรู้เหมีอนว่าทำไมจึงไมารักแป่นดินเกิด
ก็พม่าเขาเคยยิ่งใหญ่มาก่อน
ก็เล่นหลายบาทาก็เลยเละมาจนถึงทุกวันนี้งัย556
พม่าเคยรุ่งเรืองที่สุดในย่านนี้มาก่อนครับ สมฉายาผู้ชนะสิบทิศ
สมมุติว่า ถ้ากรุงศรีฯไม่แตก ไทยเราคงไม่รอด ตกเป็นเมืองขึ้นชาติตะวันตก แค่ความเห็นส่วนตัวนะครับ
ไทยเก่งเรื่องการฑูติ เจรจาอยู่แล้วครับ ไม่น่าจะเป็นเมืองขึ้นได้ง่ายๆ
้ดีครับ ถ้าตอนนั้น เป็นเมืองขึ้นตะวันตก เมืองอยุธยาจะไม่โดนเผา
@@__-is9ug บางทีชัยชนะ อาจทำให้ไทยเราห้าวและฮึกเหิม ก็มีแววพังแบบพม่าได้ครับ
@@somsakpanjing3228 ดูรอบๆบ้านเราที่โดนฝรั่งยึดสิครับ เราอาจพังยับกว่านั้นก็ได้
ถ้าอยุธยาไม่เสียแก่พม่า ตอนปี พ.ศ. 2310 และถ้าพระเจ้าเอกทัศน์ถ้าไม่ถูกยึดอำนาจเสียก่อนอยุธยาก็คงไม่ได้เข้มแข็งขึ้น สุดท้ายก็จะเสียอยุธยาแก่พม่าในสมัยพระเจ้าปะดุงอยู่ดี และถ้าขับไล่พม่าไม่สำเร็จและพม่าตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ดินแดนแถบภาคกลางและภาคเหนือก็จะตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษไปด้วย ส่วนทางด้านอีสานฝรั่งเศสคงหาโอกาสเข้าครอบครองแบบง่ายๆ ส่วนทางภาคใต้อังกฤษก็คงหาโอกาสผนวกรวมกับคาบสมุทรมลายู ถึงตอนนั้นต่อให้ในอนาคตประเทศไทยได้เอกราชคืนมาแต่คงไม่เหมือนปัจจุบันแน่นอน
บาปกรรมมีจริงพม่าไม่มีวันสงบครับ
วันน.ี้น
วันที่เท่านั้นเท่านี้เอาหลักฐานท่ไหน
เค้าคงไม่มโนสร้างขึ้นมาเองเหมือนเขมรหรอก ทั้งทิ่ความจริงเขมรไม่เคยรบชนะใคร ดีแต่ลอบกัด
เพียบ จีน ฝรั่ง มีบันทึก สัญญาปางหลวงรู้จักไหมมีจริง ร.1พระเจ้าตากมีจริง อังกฤษบุกพม่าก็จริงและผลประวัติศาสตร์ก็เห็นอยู่ปัจจุบัน
ราชวงศ์สุดท้ายชื่อ คองบอง อันนี้ก็จริงไม่มโน
พม่าตอนนี้ก็กำลังแตกแยกออก
เป็นหลายๆแคว้น เพราะว่าขาด
ศูนย์รวมจิตใจ จึงไม่เป็นอันหนึ่ง
อันเดียวกัน เป็นจุดอ่อนที่ทำให้
เป็นสงครามตัวแทนของ2ค่าย
มหาอำนาจ
ตอนนี้อ่อนแอสุดขีด สู้ไทยไม่ได้ สู้ไทยใหญ่ยังไม่ได้เลย
ผู้ชนะสิบทิศ นั้นคือสมญานาม ของกษัตริย์พม่า
เฉพาะที่ชื่อบุเรงนององค์เดียวเท่านั้น
ขอบคุณอังกฤษที่ทำไห้พม่าอ่อนแอไทยเราเลยเป็นไทย
จริง อังกฤษเขาช่วยประเทศไทยนะ ต้องมองลึกๆ
เหรอ... แล้วทีเอาแผ่นดินเราไปหล่ะ
ขอบคุณอังกฤษเนี่ยนะ😅
@@wariyapromjairan2947 นั้นมันฝรั่งเศสครับ ที่เอาไป.
ไทยไม่อยากสู้กับอังกฤษและฝรั่งเศสยอมยกดินแดนให้ตามที่อังกฤษและฝรั่งเศสต้องการ
ถึงอย่างไร่พม่าก็ไม่มีความสูขเพราะกรรมร้อยขาคนกรุงศีไปเป็นทาสก็เท่ากับร้อยขาตัวเองใว้เป็นหมื่นปีทุกวันนึ้ก็ไม่เคยเห็นพม่ามีความสูข
การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นแต่อดีตจนถึงปัจจุบันคนไทยก็ยังเหมือนเดิมไม่ลดละในเรื่องนี้เห็นฝ่ายตรงข้ามได้ดีเป็นไม่ได้
ว่าไปพม่าก็เก่งเอาตัวรอดจากจีนได้ตลอด
และแล้วการรวบรวมแว่นแคว้นต่างๆของพม่าทำให้เกิดปัญหาในการบริหารประเทศจนเป็นเหตุเกิดสงครามกลางเมืองจนมาถึงปัจจุบันและถ้ากษัตริย์พม่าแต่ละพระองค์ไม่กระหายสงครามก็คงจะอยู่อย่างสงบสุขแน่นอน
พม่ามันแน่มากกล้ารบศึก2ด้านในคราเดียวกันบุเรงนองยังไม่กล้าทำแบบนี้ขงเบ้งก็ยังไม่ยอมก่อศึก2ด้านนับว่าไอ้มังระมันกล้าจริงๆยังงี้ถ้าไม่มีจีนมาลดทอนกำลังสงสัยไทยจะรับมือมันไม่ได้แน่
อยากให้น้องๆที่ไม่ได้เรียนประวัติศาสตร์มาฟังบ้างค่ะ