Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
นิพพานคือภพใหม่หราครับ😮😊😅😂พระอรหันต์ยังหิวยังร้องไห้นี่นะ😮55555😅😂
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุค่ะ❤🎉😊
จริงครับให้ดูจิต จิตอยู่ที่ไหน ก็เห็นแต่สอนๆกันให้ดูจิต คนที่เริ่มต้นใหม่เขาจะรู้ได้ไง
จิตว่างเป็นสุข อ.อริยเจ้า
นิพพานัง ปรมัง สุขัง..สาธุ.. สาธุ..สาธุ
สาธูๆคะ
เย็น โปร่ง โล่ง ว่าง ไม่มีสิ่งปรุงแต่ง 🎉 สาธุคะรับ
กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ
กราบนมัสการเจ้าค่ะ
สมาธิแบบอานาปานสติขั้นแรกกายานุปัสสนาสามารถแยกสติกับจิตดูสภาวะไม่คิดเพราะสติกับจิตไม่ได้เชื่อมต่อข้อมูลกันตลอดเวลาก็เลยเกิดสภาวะไม่คิดไม่มีอะไรจะคิดง่ายมากเเค่ฝึกชั้น 1-4ผมสามารถสอนได้เหมือนกันให้เกิดสภาวะนี้สภาวะจิตว่างสภาวะตื่นรู้กายานุปัสสนาถ้าฝึกผ่านก็ได้โสดาบันในตัว
อนุโมทนาสาธุ
สุขวิปัสโกสาธุค่ะ
แก๊งนี้ก๊มีไิ้อ้พระศิวะอีเจ้าแม่กาลีและไอ้พิฆเนศหรือไอ้ไข่มันคือไอ้พระเยซูพระเจ้าและเป็นไอ้องค์คุลิมาลค์ผีบ้าพวกผีงูผีอบายมุขผีอยากดังครอบครัวพวกผีพรามครอบงำบ้าบอของเข้าตัวติ๊งต๊องำร้สาระทั้งทีม
สาธุสาธุสาธุนอ้ม
สาธุ ไม่เห็นก็ว่าไม่เห็น เห็นก็ว่าเห็น แต่ จุดหมายอันเดียวกัน มีทั้งอัตตามีทั้งอนัตตา ไม่มีทั้งอัตตาและอนัตตา ไม่มีอะไรเลย
มั่วมากครับจิตว่างคือไม่คิดไม่มีอะไรจะคิดสภาวะนี้จะเกิดประมาณ 5 วันพอเริ่มคิดถึงเข้าใจขบวนการของจิตกับสติทำงานแค่ฝึกกายานุปัสสนาอานาปานสติขั้นแรกก็เกิดสภาวะนี้แล้ว
ขันธ์ก็ดับแล้ว มันจะมีขันธ์ได้ไง นิพพาน คือการดับสิ้นทุกสิ่ง จะมีเมืองได้ไง บ้าปะเห็นนิพาน ในเมื่อดับสิ้น อานตนะทั้งห้า จะสัมผัสให้เกิดเวทนาขันธ์ย่อมเป็นไปไม่ได้
สาธุครับ สงสัยมานาน
ขอน้อมกราบท่านอาจารยชัยวัฒนเจ้าค่ะ อธิบายได้แจ่มชัดโยมเข้าใจมากขึ้น สาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุค่ะ
อาจารย์ตอบปัญหาที่ติดค้างในใจสงสัยมานานมากครับ กับ มโนยิทธิ
นิพพาน ไม่ใช่การมา การไป ที่สุดโลกนั้นใครๆไม่อาจรู้ อาจถึง อาจเห็นได้ด้วยการไป นิพพานคือความดับ
อนุโมทนาสาธุครับ ท่านอาจารย์ชัยวัฒน์
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
สาธุๆๆค่ะ
สาธุค่า
สภาวะ คือ สัญญานไฟฟ้าในสมองชีวิต คือ ปรากฎการณ์ตามธรรมชาติตถาคต ทรงแสดงสภาพธรรมที่มีจริงประกอบด้วย จิต เจตสิก รูป นิพพาน อันเป็นธรรมอนัตตา ไม่ใช่สัตว์ตัวตน บุคคล เราเขา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของผู้ใดได้ ทั้งไม่มีแก่นหรือ สาระใดๆ ทั้งสิ้น ตถาคต เป็นนักวิทยาศาสตร์เอกของโลก มิใช่ผู้นำจิตวิญญาน พิจารณาได้จากธรรมวิทย์ที่ทรงแสดงความจริงไว้ชอบแล้วกรรม นายเวร การเวียนว่ายตายเกิด ผู้สร้างผู้ดลบันดาล มีมาก่อนตถาคตได้ถือกำเนิด มานานมากในยุคสมัยนั้นคัมภีร์นวโกวาท สำหรับภิกษุผู้ใหม่ มีแต่ธรรมและวินัย ตามสังคยนา 1 นั้นไม่มี สังสารวัฎ วิบากกรรม นายเวร นรก สวรรค์ การเวียนเกิด เวียนตาย ปาฎิหารย์ ไม่มีอรหันต์ หรือ อริยะบุคคลใดเลยแต่น้อย เหตุนีั ตถาคต ย่อมไม่อาจตรัสถึงสิ่งเหลานี้ได้เลย ด้วยเพราะ พุทธองค์ ทรงเป็นผู้ทวนกระแสโลกด้วยวิทยาการศาสตร์แห่งปัญญาเท่านั้น สาธุๆๆ อนุโมทนามิ _/\_
ไม่ใช่ครับ นิพพาน ไม่ใช่อนัตตา พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสเช่นนั้น "อนัตตา" ใช้ได้เฉพาะธรรมชาติฝั่งสังขตะธรรม (สังขตธาตุ) คือ ขันธ์๕ เท่านั้น ใน"นิพพาน" จะไม่มีเกิดปรากฏ-จะไม่มีเสื่อมปรากฏ-เมื่อตั้งอยู่จะไม่มีสภาวะอย่างอื่นปรากฏ (เป็นสุญตา) ความว่างจากขันธ์๕ ครับ
สัตตานังมันเก่ง อธิบายได้หมด แม้แต่นิพพานยังอธิบายได้
การอธิบายได้ ยังชีชัดไม่ได้อาจรู้มาจากตำราหรือคำบอกกล่าวของพระอรหันต์ นอกจากพระอรหันต์ถึงจะรู้ได้
สาธุ
กราบสาธุๆๆ
กราบสาธุครับ
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ🙏🙏🙏🙏🙏
สาธุๆๆ
น้อมกราบในธรรมอ.จารย์สาธุฯค่ะ
สาธุครับ
จิตว่าง อ.อริยเจ้า
สาธุครับอาจาร์ชัยวัฒน์อธิบายได้แจ่มแจ้งและถูกต้องทุกอย่างตามที่ฟังคลิปนี้เพราะได้มีประสบการณ์นิพพาน แบบสุขวิปัสโก จึงไม่มีข้อสงสัย ได้ฝึกสายหลวงปู่มั่น อาจารย์เสาร์ เน้น ศิล สมาธิ ปัญญา (สมถะและวิปัสสนา )ปฏิบัติแบบเดินสายกลางไม่ยากและไม่ง่าย ขออธิบายแค่นี้เดี๋ยวคนไม่เชื่อจะเป็นกรรมเขาเปล่า
ท่านอาจารย์คะ หนูดูจิตแล้วเห็นสภาวะนี้คะ เห็นขันธ์ กับ จิตเดิม แยกขาดออกจากกันอย่างชัดเจน คนละส่วนคนละกอง แล่วก็มีผู้รู้พูดขึ้นว่าทำบุญมากขนาดไหนก็ไปอยู่กองขันธ์ ขณะจิตนั้นนิ่งมากแข็งแกร่งดุจภูภาที่ไม่หวั่นไหว เห็นความรู้สึกที่เชื่อมั่นอย่างบอกไม่ถูก สภาวะแบบนี้เรียกว่าอวิชาขาดกระเด็นออกจากจิต เป็นสภาวะนิพพานไหมคะ
อยู่ในขั้นแยกรูปแยกนามอีกไม่นานก็บรรลุธรรมได้แต่ขั้นไหนอันนี้ต้องดูเองว่าตัวตนหายไปหรือยังมีอยู่
🙏🙏🙏
สาธุเจ้าค่ะ
ปฏิบัติภาวนาแล้วเห็นนิพพานเป็นเมือง...มันเป็นอาการอุปาทานของจิตแล้วครับ โดนจิตหลอกเข้าให้แล้วแบบนั้นน่ะ !! นิพพาน ในขณะที่บุคคลยังมีชีวิตคือพระอรหันต์ในขณะยังไม่ตายครับ เช่น พระพุทธเจ้าและ/หรืออริยสาวกคนอื่นๆ เป็นต้น ส่วน"โสดาบัน" ไม่ต้องกล่าวถึงยังต้องอาคามี(กลับมาเกิด) อีก ครับ. พระพุทธเจ้า ตรัสบอกสอนถึง "นิพพาน" ไว้ ว่า.. สิ่งสิ่งหนึ่ง ซึ่งบุคคลพึงรู้แจ้ง เป็นสิ่งที่ไม่มีปรากฏการณ์ ไม่มีที่สุด แต่มีการปฏิบัติเข้ามาถึงได้โดยรอบนั้น มีอยู่ ในสิ่งสิ่งนั้นแหละ ดิน-น้ำ-ไฟ-ลม ไม่หยั่งลงได้ ในสิ่งนั้นแหละ ความยาว- ความสั้น ความเล็ก-ความใหญ่ ความงาม-ความไม่งาม ไม่หยั่งลงได้ ในสิ่งนั้นแหละ นาม-รูป ย่อมดับสนิท ไม่มีเศษเหลือ นาม-รูป ดับสนิทในสิ่งนี้ เพราะการดับสนิทของวิญญาณ ดังนี้ (สิ่งนี้หรือสิ่งสิ่งหนึ่ง อันเป็นที่ดับสนิทของนามรูป และวิญญาณ คือ "นิพพาน" ) อ้างอิง พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ หน้า๔๘๔ บาลี เกวัฏฏสูตร สี.ที.๙/๒๗๗-๒๘๓/๓๔๓-๓๕๐ (ตรัสแก่เกวัฏฏบุตร ที่ปาวาริ กัมมพวัน เมืองวาลานันทา.) เรา(สาวก)ทั้งหลายจึงต้องเดินตามพระศาสดาครับ จึงจะถูกต้อง-จึงจะเดินตามที่ถูกทางไม่หลงทาง เป็นมิจฉาวิมุตติ ไปแบบหลายๆท่าน ครับ.
จิตไม่เคยว่าง รับรู้ถึงความว่างก็ไม่ว่างแล้วครับ 😂
จิตมันว่างอยู่แล้วครับแต่เดิม ถ้าไปเห็นมันไม่มีอะไรเลย มึแต่ความรู้สึกที่เป็นเนื้อเดียวกันกับความว่าง มีสติเป็นตัวไปเห็น เขาเรียกว่าจิตเห็นจิต แต่ผมเห็นยังไม่แจ่มแจ้งยังมืดอยู่ จิตมันแยกออกจากขันธ์5มา มีขันธ์ 5 ก็ไม่ว่างหรอก ธรรมชาติเกิดดับตลอด ยุบยิบอยู่อย่างนั้น แต่ถ้าสติเห็นจิตแยกออกจากขันธ์เมื่อไรว่างหมด รู้อย่างเดียวไม่เกิดดับ ที่ผมไปเห็นมานะครับ มันเห็นของมันเอง ไม่ได้ทำอะไรอยู่ๆก็ดับวุบไปเห็น ประมาณ 3 ขณะจิต บอกไม่ได้ต้องไปเห็นเองครับ เพราะมันไม่มีอะไรเลย นอกจากความรู้สึกรู้เฉยๆในเนื้อเดียวกับความว่าง ไม่มีใครบรรลุธรรม หรือได้ธรรม ได้นิพพานอะไร
จิตที่ไม่ได้รับการฝึก (จิตของปุถุชน)จะไม่เคยว่างจากขันธ์ทั้ง๔ คือ รูป-เวทนา-สัญญา-สังขาร) ครับ แต่ จิตของบุคคลผู้ที่ได้รับการฝึกภาวนา (อริยบุคคลขั้นต่างๆ) จิต จะว่างจากสิ่งที่หยาบๆ ไปหาสิ่งที่ละเอียดๆขึ้น ครับ เช่น ผู้เข้าเข้าปฐมฌานได้.จิตจะว่างจากนิวรณ์๕ ฯลฯ หากสิ่งสิ่งหนึ่ง(ผู้เดินมรรค)ว่างจากขันธ์๕(รวมทั้งจิตด้วย) ก็=ได้นิพพาน ณ ปัจจุบัน ขณะที่บุคคลนั้นยังมีชีวิตอยู่ ครับ.
ขอบคุณอาจารย์ที่ไขข้อข้องใจให้ครับคำพูดของอาจารย์ทลายข้อสงสัยผมแล้วครับ😊😊😊
สาธุเจ้าค่ะ
สาธุค่ะ
ละอะไรได้แล้วแม้จะน้อยนิดแต่ก็ต้องปฏิบัติต่อไปเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง
กราบสาธุๆๆครับ
ผู้อยู่นิ่งไม่ไหวติงคือใจผู้คิดปรุงแต่งตลอดเวลาคือจิตเด้อถ้าถึงแล้วมันแยกกันออกผู้นิ่งกับผู้ปรุงคิด
มันมีแค่สติกับจิตครับท่านท่านอธิบายท่านบอกว่าอาการของจิตมันไม่ใช่อาการของจิตมันเป็นสติส่วนข้อมูลพิจิตรปรุงแต่งมันไม่มีอาการของจิตมีแต่มีแต่ข้อมูลที่สติคือสติส่วนข้อมูลถ้าจิตไปจับสติส่วนข้อมูลก็คือการเกิดมันไม่มีจิตรู้จิตอะไรหรอกครับจิตเกิดจิตดับมันมีแค่แค่สติส่งข้อมูลให้กับจิตที่เขาเกิดสภาวะจิตว่างก็คือแยกสติส่วนข้อมูลออกจากจิตเกิดจากการฝึกอานาปานสติขั้นกายหยาบแค่นั้นเอง
นิพพานคือภพใหม่หราครับ😮😊😅😂
พระอรหันต์ยังหิวยังร้องไห้นี่นะ😮55555😅😂
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุค่ะ
❤🎉😊
จริงครับให้ดูจิต จิตอยู่ที่ไหน ก็เห็นแต่สอนๆกันให้ดูจิต คนที่เริ่มต้นใหม่เขาจะรู้ได้ไง
จิตว่างเป็นสุข อ.อริยเจ้า
นิพพานัง ปรมัง สุขัง..สาธุ.. สาธุ..สาธุ
สาธูๆคะ
เย็น โปร่ง โล่ง ว่าง ไม่มีสิ่งปรุงแต่ง 🎉 สาธุคะรับ
กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ
กราบนมัสการเจ้าค่ะ
สมาธิแบบอานาปานสติขั้นแรกกายานุปัสสนาสามารถแยกสติกับจิตดูสภาวะไม่คิดเพราะสติกับจิตไม่ได้เชื่อมต่อข้อมูลกันตลอดเวลาก็เลยเกิดสภาวะไม่คิดไม่มีอะไรจะคิดง่ายมากเเค่ฝึกชั้น 1-4ผมสามารถสอนได้เหมือนกันให้เกิดสภาวะนี้สภาวะจิตว่างสภาวะตื่นรู้กายานุปัสสนาถ้าฝึกผ่านก็ได้โสดาบันในตัว
อนุโมทนาสาธุ
สุขวิปัสโก
สาธุค่ะ
แก๊งนี้ก๊มีไิ้อ้พระศิวะอีเจ้าแม่กาลีและไอ้พิฆเนศหรือไอ้ไข่มันคือไอ้พระเยซูพระเจ้าและเป็นไอ้องค์คุลิมาลค์ผีบ้าพวกผีงูผีอบายมุขผีอยากดังครอบครัวพวกผีพรามครอบงำบ้าบอของเข้าตัวติ๊งต๊องำร้สาระทั้งทีม
สาธุสาธุสาธุนอ้ม
สาธุ ไม่เห็นก็ว่าไม่เห็น เห็นก็ว่าเห็น แต่ จุดหมายอันเดียวกัน มีทั้งอัตตามีทั้งอนัตตา ไม่มีทั้งอัตตาและอนัตตา ไม่มีอะไรเลย
มั่วมากครับจิตว่างคือไม่คิดไม่มีอะไรจะคิดสภาวะนี้จะเกิดประมาณ 5 วันพอเริ่มคิดถึงเข้าใจขบวนการของจิตกับสติทำงานแค่ฝึกกายานุปัสสนาอานาปานสติขั้นแรกก็เกิดสภาวะนี้แล้ว
ขันธ์ก็ดับแล้ว มันจะมีขันธ์ได้ไง นิพพาน คือการดับสิ้นทุกสิ่ง จะมีเมืองได้ไง บ้าปะเห็นนิพาน ในเมื่อดับสิ้น อานตนะทั้งห้า จะสัมผัสให้เกิดเวทนาขันธ์ย่อมเป็นไปไม่ได้
สาธุครับ สงสัยมานาน
ขอน้อมกราบท่านอาจารยชัยวัฒนเจ้าค่ะ อธิบายได้แจ่มชัดโยมเข้าใจมากขึ้น สาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุค่ะ
อาจารย์ตอบปัญหาที่ติดค้างในใจสงสัยมานานมากครับ กับ มโนยิทธิ
นิพพาน ไม่ใช่การมา การไป ที่สุดโลกนั้นใครๆไม่อาจรู้ อาจถึง อาจเห็นได้ด้วยการไป นิพพานคือความดับ
อนุโมทนาสาธุครับ ท่านอาจารย์ชัยวัฒน์
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
สาธุๆๆค่ะ
สาธุค่า
สภาวะ คือ สัญญานไฟฟ้าในสมอง
ชีวิต คือ ปรากฎการณ์ตามธรรมชาติ
ตถาคต ทรงแสดงสภาพธรรมที่มีจริง
ประกอบด้วย จิต เจตสิก รูป นิพพาน
อันเป็นธรรมอนัตตา ไม่ใช่สัตว์
ตัวตน บุคคล เราเขา ไม่อยู่ในอำนาจ
บังคับบัญชาของผู้ใดได้ ทั้งไม่มีแก่น
หรือ สาระใดๆ ทั้งสิ้น
ตถาคต เป็นนักวิทยาศาสตร์เอกของโลก
มิใช่ผู้นำจิตวิญญาน พิจารณาได้จาก
ธรรมวิทย์ที่ทรงแสดงความจริงไว้ชอบแล้ว
กรรม นายเวร การเวียนว่ายตายเกิด ผู้สร้าง
ผู้ดลบันดาล มีมาก่อนตถาคตได้ถือกำเนิด
มานานมากในยุคสมัยนั้น
คัมภีร์นวโกวาท สำหรับภิกษุผู้ใหม่
มีแต่ธรรมและวินัย ตามสังคยนา 1 นั้น
ไม่มี สังสารวัฎ วิบากกรรม นายเวร
นรก สวรรค์ การเวียนเกิด เวียนตาย
ปาฎิหารย์ ไม่มีอรหันต์ หรือ อริยะบุคคล
ใดเลยแต่น้อย เหตุนีั ตถาคต ย่อม
ไม่อาจตรัสถึงสิ่งเหลานี้ได้เลย ด้วยเพราะ
พุทธองค์ ทรงเป็นผู้ทวนกระแสโลกด้วย
วิทยาการศาสตร์แห่งปัญญาเท่านั้น
สาธุๆๆ อนุโมทนามิ _/\_
ไม่ใช่ครับ นิพพาน ไม่ใช่อนัตตา พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสเช่นนั้น
"อนัตตา" ใช้ได้เฉพาะธรรมชาติฝั่งสังขตะธรรม (สังขตธาตุ) คือ ขันธ์๕ เท่านั้น ใน"นิพพาน" จะไม่มีเกิดปรากฏ-จะไม่มีเสื่อมปรากฏ-เมื่อตั้งอยู่จะไม่มีสภาวะอย่างอื่นปรากฏ (เป็นสุญตา) ความว่างจากขันธ์๕ ครับ
สัตตานังมันเก่ง อธิบายได้หมด แม้แต่นิพพานยังอธิบายได้
การอธิบายได้ ยังชีชัดไม่ได้อาจรู้มาจากตำราหรือคำบอกกล่าวของพระอรหันต์ นอกจากพระอรหันต์ถึงจะรู้ได้
สาธุ
กราบสาธุๆๆ
กราบสาธุครับ
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ🙏🙏🙏🙏🙏
สาธุๆๆ
น้อมกราบในธรรมอ.จารย์สาธุฯค่ะ
สาธุครับ
จิตว่าง อ.อริยเจ้า
สาธุครับอาจาร์ชัยวัฒน์อธิบายได้แจ่มแจ้งและถูกต้องทุกอย่างตามที่ฟังคลิปนี้เพราะได้มีประสบการณ์นิพพาน แบบสุขวิปัสโก จึงไม่มีข้อสงสัย ได้ฝึกสายหลวงปู่มั่น อาจารย์เสาร์ เน้น ศิล สมาธิ ปัญญา (สมถะและวิปัสสนา )ปฏิบัติแบบเดินสายกลางไม่ยากและไม่ง่าย ขออธิบายแค่นี้เดี๋ยวคนไม่เชื่อจะเป็นกรรมเขาเปล่า
ท่านอาจารย์คะ หนูดูจิตแล้วเห็นสภาวะนี้คะ เห็นขันธ์ กับ จิตเดิม แยกขาดออกจากกันอย่างชัดเจน คนละส่วนคนละกอง แล่วก็มีผู้รู้พูดขึ้นว่าทำบุญมากขนาดไหนก็ไปอยู่กองขันธ์ ขณะจิตนั้นนิ่งมากแข็งแกร่งดุจภูภาที่ไม่หวั่นไหว เห็นความรู้สึกที่เชื่อมั่นอย่างบอกไม่ถูก สภาวะแบบนี้เรียกว่าอวิชาขาดกระเด็นออกจากจิต เป็นสภาวะนิพพานไหมคะ
อยู่ในขั้นแยกรูปแยกนามอีกไม่นานก็บรรลุธรรมได้แต่ขั้นไหนอันนี้ต้องดูเองว่าตัวตนหายไปหรือยังมีอยู่
🙏🙏🙏
สาธุเจ้าค่ะ
ปฏิบัติภาวนาแล้วเห็นนิพพานเป็นเมือง...มันเป็นอาการอุปาทานของจิตแล้วครับ โดนจิตหลอกเข้าให้แล้วแบบนั้นน่ะ !!
นิพพาน ในขณะที่บุคคลยังมีชีวิตคือพระอรหันต์ในขณะยังไม่ตายครับ เช่น พระพุทธเจ้าและ/หรืออริยสาวกคนอื่นๆ เป็นต้น ส่วน"โสดาบัน" ไม่ต้องกล่าวถึงยังต้องอาคามี(กลับมาเกิด) อีก ครับ.
พระพุทธเจ้า ตรัสบอกสอนถึง "นิพพาน" ไว้ ว่า..
สิ่งสิ่งหนึ่ง ซึ่งบุคคลพึงรู้แจ้ง เป็นสิ่งที่ไม่มีปรากฏการณ์ ไม่มีที่สุด แต่มีการปฏิบัติเข้ามาถึงได้โดยรอบนั้น มีอยู่
ในสิ่งสิ่งนั้นแหละ
ดิน-น้ำ-ไฟ-ลม ไม่หยั่งลงได้
ในสิ่งนั้นแหละ
ความยาว- ความสั้น ความเล็ก-ความใหญ่ ความงาม-ความไม่งาม ไม่หยั่งลงได้
ในสิ่งนั้นแหละ
นาม-รูป ย่อมดับสนิท ไม่มีเศษเหลือ นาม-รูป ดับสนิทในสิ่งนี้ เพราะการดับสนิทของวิญญาณ ดังนี้
(สิ่งนี้หรือสิ่งสิ่งหนึ่ง อันเป็นที่ดับสนิทของนามรูป และวิญญาณ คือ "นิพพาน" )
อ้างอิง
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ หน้า๔๘๔
บาลี เกวัฏฏสูตร สี.ที.๙/๒๗๗-๒๘๓/๓๔๓-๓๕๐
(ตรัสแก่เกวัฏฏบุตร ที่ปาวาริ กัมมพวัน เมืองวาลานันทา.)
เรา(สาวก)ทั้งหลายจึงต้องเดินตามพระศาสดาครับ จึงจะถูกต้อง-จึงจะเดินตามที่ถูกทางไม่หลงทาง เป็นมิจฉาวิมุตติ ไปแบบหลายๆท่าน ครับ.
จิตไม่เคยว่าง รับรู้ถึงความว่างก็ไม่ว่างแล้วครับ 😂
จิตมันว่างอยู่แล้วครับแต่เดิม ถ้าไปเห็นมันไม่มีอะไรเลย มึแต่ความรู้สึกที่เป็นเนื้อเดียวกันกับความว่าง มีสติเป็นตัวไปเห็น เขาเรียกว่าจิตเห็นจิต แต่ผมเห็นยังไม่แจ่มแจ้งยังมืดอยู่ จิตมันแยกออกจากขันธ์5มา มีขันธ์ 5 ก็ไม่ว่างหรอก ธรรมชาติเกิดดับตลอด ยุบยิบอยู่อย่างนั้น แต่ถ้าสติเห็นจิตแยกออกจากขันธ์เมื่อไรว่างหมด รู้อย่างเดียวไม่เกิดดับ ที่ผมไปเห็นมานะครับ มันเห็นของมันเอง ไม่ได้ทำอะไรอยู่ๆก็ดับวุบไปเห็น ประมาณ 3 ขณะจิต บอกไม่ได้ต้องไปเห็นเองครับ เพราะมันไม่มีอะไรเลย นอกจากความรู้สึกรู้เฉยๆในเนื้อเดียวกับความว่าง ไม่มีใครบรรลุธรรม หรือได้ธรรม ได้นิพพานอะไร
จิตที่ไม่ได้รับการฝึก (จิตของปุถุชน)จะไม่เคยว่างจากขันธ์ทั้ง๔ คือ รูป-เวทนา-สัญญา-สังขาร) ครับ
แต่ จิตของบุคคลผู้ที่ได้รับการฝึกภาวนา (อริยบุคคลขั้นต่างๆ) จิต จะว่างจากสิ่งที่หยาบๆ ไปหาสิ่งที่ละเอียดๆขึ้น ครับ
เช่น ผู้เข้าเข้าปฐมฌานได้.จิตจะว่างจากนิวรณ์๕ ฯลฯ
หากสิ่งสิ่งหนึ่ง(ผู้เดินมรรค)ว่างจากขันธ์๕(รวมทั้งจิตด้วย) ก็=ได้นิพพาน ณ ปัจจุบัน ขณะที่บุคคลนั้นยังมีชีวิตอยู่ ครับ.
ขอบคุณอาจารย์ที่ไขข้อข้องใจให้ครับ
คำพูดของอาจารย์ทลายข้อสงสัยผมแล้วครับ😊😊😊
กราบสาธุค่ะ
สาธุเจ้าค่ะ
สาธุค่ะ
ละอะไรได้แล้วแม้จะน้อยนิดแต่ก็ต้องปฏิบัติต่อไปเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง
กราบสาธุๆๆครับ
ผู้อยู่นิ่งไม่ไหวติงคือใจผู้คิดปรุงแต่งตลอดเวลาคือจิตเด้อถ้าถึงแล้วมันแยกกันออกผู้นิ่งกับผู้ปรุงคิด
กราบสาธุค่ะ
มันมีแค่สติกับจิตครับท่านท่านอธิบายท่านบอกว่าอาการของจิตมันไม่ใช่อาการของจิตมันเป็นสติส่วนข้อมูลพิจิตรปรุงแต่งมันไม่มีอาการของจิตมีแต่มีแต่ข้อมูลที่สติคือสติส่วนข้อมูลถ้าจิตไปจับสติส่วนข้อมูลก็คือการเกิดมันไม่มีจิตรู้จิตอะไรหรอกครับจิตเกิดจิตดับมันมีแค่แค่สติส่งข้อมูลให้กับจิตที่เขาเกิดสภาวะจิตว่างก็คือแยกสติส่วนข้อมูลออกจากจิตเกิดจากการฝึกอานาปานสติขั้นกายหยาบแค่นั้นเอง