หนูเคยมีรักทางไกลเหมือนกันค่ะ แฟนเก่าอยู่ที่ NC, USA เรารักกันดีมากเลย หนูและเค้าผลัดกันนอนดึกเพื่อจะได้คุยกัน มันมีความสุขมากๆ แต่วันนึงเขาเลือกจะ ghosting ไปเลย หนูงงมาก สับสนไปหมดว่าเพราะอะไร เหิดอะไรขึ้น เกิดอะไรร้ายแรงกับเขารึป่าว จนวันนึงเขากลับมาบอกหนูว่า ที่เขาหายไปเพราะเขารู้สึกว่าเรารักกันดีนะ เขามีความสุขมากที่มีหนู แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ทรมานมากเหมือนกัน ที่พอเขาอยากกอด อยากได้กำลังใจ อยากพูดคุยแบบสบตากัน in person มันกลับทำไม่ได้ เขาบอกว่าถ้าเขารักเรามากกว่านี้มันคงยากมากเหมือนกัน ตอนนั้นเราเองก็ยังเรียนมหาวิทยาลัยไม่จบ เขาเองเป็นรุ่นน้องเรียนไฮสคูล เราคบกันไปแบบไม่รู้เลยว่าชีวิตนี้เราจะได้เจอกันจริงๆไหม คำสุดท้ายที่เขาบอกเราคือ… I used to be so happy when I missed you but right now it hurts 😢
ผมกับภรรยา ก็เริ่มต้นจากรักทางไกลครับ ห่างกัน8ชม. ได้รู้จักกับเธอผ่านระบบออนไลน์ แรกก็เข้าไปทำความรู้จัก ก็จีบอยู่ปีกว่าได้
ซึ่งก็ไปหาบ้างประมาณ2-3เดือนครั้ง ไปครั้งนึงประมาณ 5-7วัน ก็จะหากิจกรรมทำเช่นไปเที่ยวตจว. กรือเที่ยวในกทม ด้วยความที่แฟนก็ชอบเที่ยวอยู่แล้ว เขาชอบวางแผนเที่ยว ก็ให้เขาวางแพลน แล้วไปด้วยกันสร้างโมเมนท์ดีๆให้จดจำ ช่วงเวลาปกติก็ต่างคนต่างทำงาน ตกกลางคืนคอลกัน แล้วก็แยกย้ายกัน
ผมว่า สิ่งสำคัญ ที่สุดของรักทางไกลคือ ความเชื่อใจ และ ความมั่นคงทางใจด้วย เพราะ อย่างที่อ.บอก มันไกลกัน ไม่รู้เลยว่าเขาทำไรอยู่ นอกจากการคอลกัน ซึ่งต้อง
ใช้ความไว้วางใจกันสูงมาก
อีกอย่างคงเป็นเรื่องของวัยด้วยครับ
เชื่อว่าวัย20-28 ระกทางไกลอาจสำเร็จยาก เพราะ ส่วนมากคนวัยนนี้ มักชอบให้มีแฟนอยู่ใกล้กันมากกว่า
แต่พอเริ่มเข้าโซน30 จะเริ่มแค่ต้องการความมั่นคงและความสบายใจ มากกว่า แต่ก็แล้วแต่คนด้วยครับ
เป็นกำลังใจให้ รักทางไกลทุกคู่นะครับ ผมยังทำให้เป็นจริงได้เลย (เราแต่งงานกันแล้ว)
หูยยย🤍อ่านจบปลื้มปลิ่มแทนเลยค่ะ เคยมีโมเม้นแบบนั้นอยู่ คุยกันต้องใช้ความเชื่อใจ ความมั่นใจ ซื่อสัตย์มากๆจริงๆ แล้วที่สำคัญเราต้องมีคุณค่าที่เราเป็น รักตัวเองจนไม่อิงแอบไปโหยหาตลอดเวลา แต่คุยกันมาได้ปีกว่าอยู่ แต่ยังไม่ถึงขั้นแต่งงานนะคะ🤍😊ยินดีด้วยนะคะ ขอให้รักเป็น Endless Love🥰
หนูเคยมีรักทางไกลเหมือนกันค่ะ แฟนเก่าอยู่ที่ NC, USA เรารักกันดีมากเลย หนูและเค้าผลัดกันนอนดึกเพื่อจะได้คุยกัน มันมีความสุขมากๆ แต่วันนึงเขาเลือกจะ ghosting ไปเลย หนูงงมาก สับสนไปหมดว่าเพราะอะไร เหิดอะไรขึ้น เกิดอะไรร้ายแรงกับเขารึป่าว จนวันนึงเขากลับมาบอกหนูว่า ที่เขาหายไปเพราะเขารู้สึกว่าเรารักกันดีนะ เขามีความสุขมากที่มีหนู
แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ทรมานมากเหมือนกัน ที่พอเขาอยากกอด อยากได้กำลังใจ อยากพูดคุยแบบสบตากัน in person มันกลับทำไม่ได้ เขาบอกว่าถ้าเขารักเรามากกว่านี้มันคงยากมากเหมือนกัน
ตอนนั้นเราเองก็ยังเรียนมหาวิทยาลัยไม่จบ เขาเองเป็นรุ่นน้องเรียนไฮสคูล เราคบกันไปแบบไม่รู้เลยว่าชีวิตนี้เราจะได้เจอกันจริงๆไหม
คำสุดท้ายที่เขาบอกเราคือ…
I used to be so happy when I missed you but right now it hurts 😢
อยากปรึกษา ขอไลน์หรือเฟสบุคได้มั๊ยคะ เศร้าจังเลย เราเป็นแบบแฟนคุณเลย อยากเจอ อยากไปหา มันทรมานที่ทำไม่ได้
😢😢😢
ยินดีกับอาจารย์ชลิดาภรณ์ด้วยครับ ที่ได้เป็น ศาสตราจารย์ แล้ว ♥♥♥
อจ ยินดีด้วยนะคะ🎉
ส่วนตัว คืออยู่ในทั้ง Open relationship and Long distance เราอยู่ไทย เค้าอยู่ญี่ปุ่น เจอกันทุกๆสองเดือน เราบินไป สลับกับเค้าบินมาหา หรือ ไปเจอกันประเทศอื่น มันเวิร์คมากกว่าที่จะอยู่ด้วยกันอีกจริงๆค่ะ ในเชิงที่ทั้งคู่จะเปิดใจให้กันมากกว่า ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่คุยกันตลอดเวลา เหมือนเค้าแทบจะอยู่ด้วยข้างๆ แม้ว่าจะเป็นแค่ข้อความแต่คำพูดมันเหมือนได้ยินเสียงเค้าอยู่ด้วย แต่พอได้มาอยู่ด้วยกันจริงบางทีนานเกินไปมันเริ่มอึดอัด จนคิดว่า เรามีเวลาให้กันสั้นๆ ความสุขในช่วงเวลาแค่นั้นมันพอแล้ว เพราะเราพยายามมากๆที่จะมาเจอกันแต่ละที แล้วแยกย้ายไปมีโลกของตัวเอง เค้าก็มีโลกของเค้า แต่ไม่ใช่ว่าโลกสองใบไม่เคยโคจรมาเจอกัน เราก็มีตัวตนในวงเพื่อนเค้า เพื่อนเราก็รู้จักเค้า
ในส่วนของความเป็น open relationship เราเปิดใจกันมากๆ ที่จะยอมให้อีกฝ่ายไปเจอคนอื่น และเราก็ไปเรื่อย แต่ข้อตกลงคือ ทั้งเค้าและเราจะต้องบอกก่อนเสมอ วันนี้ไปกับผญคนอื่นนะ ไม่ให้มารู้ทีหลัง แฟร์เกมมากๆ โดยไม่มีการหึงหวงมาเกี่ยวข้องค่ะ บางทีก็ประหลาดใจ แฟนก็กล้าบอกทั้งหมดเนาะ ในขณะที่เราเองบ้างก็บอกบ้างก็ไม่ค่ะ 5555
ส่วนตัวผมหลังจากฟังจบ ได้มุมคิดอีกมุม
รักที่ห่างด้วยระยะทาง ยังรู้ว่าไกลแค่ไหน จะเดินทางไปยังไงเพื่อให้ได้เจอกัน
แต่ที่ยากกกกว่าคือ..รักที่ห่างด้วย มุมของความคิด ทัศนคติของครอบครัว มันท้อมากกกก ไม่รู้ว่าทำยังไงและต้องไปต่อไกลแค่ไหนมันจะจบลง และผมก็โชคดี ได้เจอพร้อมกันทั้งสองอย่างเลย รักทางไกลของวัยรุ่นยุค 90 แรกๆก็ จดหมาย พัสดุ กว่าถึงก็รอไปเลย 3 วีค ทั้งค่าส่งอีก แต่ที่เหลือคือ ความงดงามที่จับต้องได้ ยังเอามาเปิดดูให้ลูกๆได้เห็น ต่อมาก็โทรทางไกล อีเมล์หากัน ได้ไอโฟน3 มา สไกด์หากัน ไลน์หากันตอนไอโฟน4. แต่งงานกัน ก็ต้องห่างกันอีก ยังลุ้นแฟนคลอดลูกผ่านไลน์ ขณะที่นั่งประชุมงานตอนกลางวันที่ กทม. ย้อนคิดก็สนุกแต่กว่าลงเอยกันได้ ทั้งท้อและถอยห่างกันไปหลายรอบครับ
ขอบคุณที่มีหัวข้อนี้ขึ้นมาค่ะ ตอนนี้เราอยู่ใน LDR มาเกือบ 2 ปีแล้ว เรากับแฟนห่างกัน 6 ชม. และใช้ภาษาที่ 2 ในการสื่อสารกัน ซึ่งระดับภาษาของเราและแฟนไม่ได้อยู่ในระดับ advance ทำให้บางช่วงมีการสื่อสารที่ผิดพลาดบ้าง ทำให้เราทั้งคู่ปรับตัวเข้าหากันระดับหนึ่ง ส่วนเรื่องการใช้เวลาร่วมกันจะอยู่ในช่วง~ 1 ปี-1 ปีครึ่ง จะเจอกัน 1 ครั้งใช้เวลาด้วยกันหลักเดือนได้ค่ะ แล้วเวลาจะแยกย้ายไปทำภารกิจชีวิตตัวเอง มันยากมาก (ก.ไก่ร้อยตัว) มันคิดถึงมันโหยหา ไม่อยากแยกกัน และเรื่องความเชื่อใจอันนี้ที่สุดแล้วค่ะ เราทั้งคู่ต้องเชื่อใจและตรงไปตรงมาจริงๆ (e.g. ถ้าเราหายแล้วแฟนโทรมาแต่เราไม่รับ เขาจะรู้โดยอัตโนมัติว่าเรากำลังงีบ-หลับอยู่ 😂) ส่วนเรื่องการมีเป้าหมายร่วมกันก็มองไว้ว่าในระยะยาว จะย้ายมาอยู่ด้วยกันในช่วงที่สถานภาพด้านต่างๆ คงที่ทั้งคู่ ต่อจากนี้ก็คงจะยากตามสเต็ปของ LDR แหละค่ะ ฮือ 🥲👍
เรารู้สึกว่าการปรับตัวและความอดทนเป็นเรื่องสำคัญมากอย่างที่อาจารย์ว่าจริงๆค่ะ ทุกอย่างที่อาจารย์พูดมันจริงมากค่ะ ทั้งช่วงเวลาที่ทุ่มเท ความจริงจังในการใช้เวลาร่วมกัน และการโหยหาช่วงเวลาที่ใช้ด้วยกัน มันมีความยากเฉพาะตัว แต่ก็มีความสุขเหมือนกัน ขอบคุณมากค่ะที่ทำ ep. นี้ออกมา
เคยคุยกับคนต่างชาติคนนึงช่วงโควิด ไม่ได้ไปมาหาสู่เพราะมาตรการยุ่งยากมาก ก็เลยคุยๆกันไปเรื่อยๆ ตกลงกันว่าไว้มาเจอตัวกันเป็นๆก่อนนะค่อยคบกันอย่างจริงจัง แต่เอาจริงๆเราก็ชอบเขาแล้วแหละ
คุยกันทุกวันมาเกือบ2ปี มีโมเม้นดูหนังพร้อมกันแบบเดียวกับที่อ.บอกเลย เขาก็แสดงออกว่าชอบเราเหมือนกัน มีอะไรก็คุยกันทุกอย่าง แต่บางทีเราก็รู้สึกเหมือนเราไม่ได้รู้จักเขาในชีวิตจริงเท่าไหร่ เราเชื่อใจกันปกติ
ตอนมาเจอกันทุกอย่างก็ดูโอเคมาก ตกลงคบกัน วางแผนอนาคตด้วยกัน ผ่านมา1เดือน เขามาบอกเราว่าไปทำคนอื่นท้องช่วงก่อนนัดเจอเราแค่3เดือน พร้อมด้วยข้ออ้างมากมาย เราพยายามจะช่วยเขาหาทางออกให้คสพ.เรายังไปต่อได้ แต่เขาถอดใจแล้วบอกว่า “อยู่ห่างกันแบบนี้ ไม่รู้จะสร้างความเชื่อใจขึ้นมายังไง” สุดท้ายหลังจากเราคิดได้ ก็บอกเลิกตัดการติดต่อทุกอย่าง แต่ก็ยังคุยกับแม่เขานะ เพราะแม่เขาน่ารัก
ตอนนี้เราก็อยู่ในLDRอีกครั้งกับคนใหม่ได้เกือบปีแล้ว คนใหม่บินมาหาที่ไทยตั้งแต่คุยกันครบเดือน ตัดสินใจคบกันแล้วเขาก็บินมาอยู่ไทยอีกเดือนนึง แล้วเราก็ไปเจอเขาที่ตปท.
ขอบคุณตัวเองมาตลอดที่ตัดสินใจเดินจากคนเก่ามา ที่ตลกคือตอนนัดเจอแม่แฟนเก่าที่ตปท. แกก็เห็นใจเรา แล้วปลอบใจว่า ฉันเชื่อว่าสิ่งที่ดีกว่ากำลังรอเธออยู่แน่ๆ (เอ่อ นั่นลูกชายแม่นะ 😂)
การคบกับคนปัจจุบันทำให้ตระหนักได้ว่า การจะมีLDRข้ามประเทศ ต้องมีเงินด้วย แต่บางทีเงินอย่างเดียวก็ไม่พอ ถ้าประเทศเขาไม่ให้วีซ่า 🥹
รอตอนนี้มานานแล้วเลยค่ะ ดีใจที่ถึงตอนนี้สักที พอฟังถึงตอนนี้แล้วรู้สึกว่าการมีเป้าหมายด้วยกันก็สำคัญ ถ้าเรารู้ว่าจุดที่เราจะเดินต่อไปทั้งคู่คืออะไร ระหว่างทางจะยากแค่ไหนถ้าทั้งคู่พยายามต่อกันก็ไปต่อได้แน่นอน :)
คบ 10 ปีแต่ง อยู่คนละจังหวัด
ช่วงห่างๆ เจอกันปีละ 4-5 ครั้ง
เข้าใจได้ว่าปัญหาของความห่าง ก็แบบนึง ความหนักแน่น สำคัญมาก
เคยนั่งรถทัวร์ ไปเช้า ตี5 เย็นกลับ ถึงเที่ยงคืน เหนื่อยมาก😊
ยอมแพ้ให้จริงๆค่ะ ระยะทางไกลในความสัมพันธ์ ที่มันทำให้คนคนหนึ่งเปลี่ยนไปทั้งใจ หรือมันไม่ชัดเจนตั้งแต่เริ่มแล้วกันนะ 🥺🥺
ความเชื่อใจ trust ในคนรักของเราคือสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ จากคนที่เคยมีประสบการณ์ LDR เมื่อปี2006 ยุคนั้นมีแค่ Msn แค่ช่องทางเดียวไว้คุยกับได้เห็นหน้ากัน กับวิ่งเข้าร้าน internet มันยากมากๆในการติดต่อสื่อสารค่ะ ผิดกับยุคนี้5g..มีทุกช่องทางการติดต่อซึ่งสะดวกมากๆๆ😊
Distance isn't important , it rely on Sincerity.
พึ่งเลิกกันได้อาทิตย์นึงพอดีค่ะ เราไปฝึกงานที่ฮ่องกงสั้นๆ เราได้เจอกัน แล้วตกลงเป็นแฟนกัน อยู่ในช่วงที่ทั้งคู่กำลังจะเรียนจบ เราก็ต้องมาทำงานที่ไทย ส่วนเค้าก็เตรียมจะไปเรียนต่อ พอเป็น Long distance และไม่รู้ว่าเราจะได้กลับมาเจอกันอีกเมื่อไหร่ จริงๆ เราได้ตั๋วฟรีและลางานจะไปหาเค้าแล้ว สุดท้ายความสัมพันธ์ก็ไม่ได้ไปถึงวันนั้น ที่จะได้เจอกันอีก มันต้องใช้ความพยายามมากจริงๆ เค้าบอกเราว่าเค้าไม่มีเวลาและ can’t put effort on it 😭 เราเองก็เหนื่อยที่จะ hold ความสัมพันธ์ และต้องปรับตัวกับการเป็น first jobber ด้วย เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ LDT นะคะ
เราเป็นตัดสินใจไม่ไปต่อเองค่ะ แม้ว่าจะรู้ว่าการสื่อสารมันสามารถช่วยเหลือได้มากกว่าสมัยก่อน แต่ เราเป็นคนให้ความสำคัญเรื่องของ skin shifting ค่ะ เรารู้ตัวว่า เราทนไม่ได้เลย ถ้าจะไม่ได้เจอกันนานมากๆ time zone เอย อะไรเอย หลายปัจจัยที่ควบคุมยากมากค่ะ เรายอมแพ้
นโยบายชีวิตคือ NO LDR เพราะรู้สึกว่าข้อเสียชนะข้อดีไปเยอะมากสำหรับตัวเอง เอาใจช่วยทุกคนที่อยู่ใน LDR ทุกคนนะครับ
ขอบคุณนะคะ🙏
ความสัมพันธ์ทางไกล มีจุดหมายร่วมกัน คุยกันว่าเราต้องการอะไรจากการมีความสัมพันธ์นี้แล้ว แล้วเดินทางไกลด้วยกัน
กำลังคุยกับคนที่กำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศ 2 ปี อีพีนี้ดีมากเลยครับ เปิดมุมมอง และเหมือนได้เตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่(อาจ)จะเกิดขึ้น
เหนื่อยจนท้อ ต้องรออีกนานเท่าไหร่
ความรัก ของเรามันคงสุดทาง
เหนื่อยเพียงไหน
เมื่อมันยิ่งรอ ยิ่งหมดความหวัง
ความฝัน คงไม่มีวันเป็นจริง
ไม่น่าเชื่อนะครับผมกับแฟนคบกันมา2ปี แต่งงานกันมาอีก4ปี มีลูกด้วยกัน2คน บ้าน 1 หลัง แต่เราอยู่คนละที่ทำงานคนละจังหวัด พยายามกลับไปหาบ่อยที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ บ่อยครั้งก็มีทะเลาะกันบ้าง พากันไปเที่ยว หาของอร่อยกิน ซึ่งผมคิดว่าความสัมพันธ์ทางไกลแบบนี้ ต้องเชื่อใจกัน ไว้ใจกัน ถ้าตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่ด้วยกันก็ต้องไปให้ตลอด และแน่นอนครับสักวันเราก็ต้องอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ ^^
เคยมีแฟนคนไต้หวัน ตอนอยู่ด้วยกัน เขาชอบพูดว่า อ้วน เรียกแมวน้ำอ้วนแทนชื่อทุกวัน ชอบหาว่าผมไม่เป็นผู้ใหญ่ ไม่รับผิดชอบบ่อยๆ ตอนนั้นทนได้ ก็เก็บไว้ พอเขากลับไต้หวัน ความอดทนเราไม่มีแล้ว เรารักเขาน้อยลง และไม่รักเขาแล้ว เลยบอกเลิก เราก็รู้สึกผิดที่เลิกกับเขา แต่เราไม่ไหว รู้สึก self esteemถดถอย กินยาซึมเศร้า ไม่อยากตื่นมาเจออะไรแบบนี้ เหนื่อยกับชีวิด ซึ่งเขาโกรธมาก ไม่คุยกับเรา และเขาไม่ขอโทษ ไม่รู้สึกผิดที่พูดกับเราแบบนั้น ตอนแรกก็เสียใจ แต่ไปเรื่อยๆ เราก็รู้สึกโล่งอก เราก็ย้อนคิดว่า ถ้าไม่ใช่แฟน เป็นเพื่อน ก็จะถอยห่างไม่อยากรู้จักคนที่ชอบพูดจาไม่ดีกับคนอื่น และถ้าเป็นคนอื่นที่พูดกับเรา เช่น คนในเฟสบุคที่มาคอมเมนต์ว่า อ้วน ทั้งที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ก็บล็อกไป จริงๆก็อยากถามว่า มึงเป็นเหี้ยอะไร ในใจก็อยากจะ body shaming รูปร่างหน้าตามันเหมือนกัน แต่ไม่ทำดีกว่า ไม่ดี
ตัวเราเองก็เคยบอกแฟนเก่าว่า เราไม่ชอบ มันคือ body shaming ถ้าเขายังทำอีก แสดงว่าเขาไม่ได้รักเรา และมีความสุขบนความทุกข์ของเรา ซึ่งเราจะทดในใจว่า ทนได้เท่าไหร่เท่านั้น ไม่บอกครัั้งที่ 4 5 6 และที่เลิกกัน ก็คิดว่า เราจะไม่รู้สึกเกลียดเขามากกว่านี้ เราจะไม่ทนอีก แต่ถ้าเขาเกลียดเรา เพราะเลิกกับมัน คือช่างแม่งแระ
เหมือนฟังอาจารย์มาเล่าชีวิตเราเลย คบกับแฟนแบบLDRมา6ปีแล้วค่ะ ยิ่งช่วงโควิดปิดประเทศไม่ได้เจอกัน2ปี6เดือน เป็นช่วงที่หนักที่สุดเลยค่ะ แต่ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เวลาไปเที่ยว คาเฟ่ กินข้าว ดูหนังก็คือนัดแฟนvdo call แล้วเขาก็ออกไปทำเหมือนกัน ทำแบบนี้มาตลอด6ปีเลย บางทีต่อให้ไม่มีอะไรคุยก็ vdo call ทิ้งไว้ เขาก็เห็นว่าเรานั่งทำงานทำอะไรของตัวเองไป แค่หันไปมองจอเห็นเขาก็รู้สึกดีแล้ว แล้วก็ต้องหมั่นเติมความหวานให้กันด้วย ต่อให้อยู่ไกลก็ทำให้เห็นว่าชั้นดูแลเธอได้นะ คู่เราชอบส่งอาหารให้กันทาง grab ต่อให้อยู่คนละประเทศก็ทำได้ บางทีก็ส่งไปให้ที่ทำงานเวลาเขาขึ้นเวร ส่งของที่เขาชอบ มีช่วงที่เขาไม่สบายก็ส่งยา ส่งวิตามินไปให้ทาง grab คือสะดวกมาก ได้ทันที อยากขอบคุณเทคโนโลยีสมัยนี้จริงๆ ส่วนเรื่องการสื่อสารกับการเข้าใจกันสำคัญที่สุด ต้องเชื่อใจกันทั้งสองฝ่ายค่ะ ไม่งั้นคือไม่รอดจริงๆ คอยหมั่นเช็คความรู้สึกกันและกันตลอด และต้องมีเป้าหมายเดียวกันด้วยว่าจะมาอยู่ด้วยกันเมื่อไหร่ เป็นกำลังใจให้LDRทุกคู่นะคะ
อีกอย่างนึงคือคู่เราติดสกินชิพหนักมากทั้งคู่ มันทรมานมากค่ะ แต่ความรู้สึกมันบอกว่าเป็นคนอื่นไม่ได้จริงๆก็เลยสู้มาถึง6ปี แต่สำหรับใครที่อยู่ในLDR แล้วเหนื่อยจริงๆ รู้สึกฝืน ไม่อยากไปต่อควรบอกอีกฝ่ายนะคะ อย่ายื้อเลย ให้เขาไปเจอคนอื่นดีกว่า มันเสียเวลาค่ะ
ตอนนี้มีldr เหนื่อยมากเลยค่ะ เพราะก่อนเค้าจะไปเป็นเพื่อนเป็นทุกอย่างในชีวิต พอเค้าไปแล้วรู้สึกเหมือนถูกทิ้ง
รู้สึกเริ่มจะเหนื่อยแล้วค่ะ แต่พยายามจะหาจุดยุติอยู่ค่ะ
เหนื่อยจริงๆครับ มันเหมือนขาดกำลังใจในบางโมเม้นของชีวิตเลย
ไม่ได้ใช้เวลาร่วมกัน ในช่วงที่ชีวิตพบเจอ ความทุกข์ ความสุข
ใช่ค่ะ ความระแวงในความสัมพันธ์จบทุกอย่างจริงๆ แต่พอหยุดมันก็เบาสบายไปอีกแบบนะคะ :)
ตอนนี้เราอยู่ใน LDR ระหว่างไทยกับอเมริกา แฟนเป็นคนไทยที่ไปทำงานที่นั่น เวลาที่จะได้คอลคุยกัน คือ หลังบ่ายโมง(เวลาไทย) มันจะเป็นช่วงเวลาที่เขาเลิกงาน และกำลังจะนอน แต่เขาก้อจะโทรหาเวลานี้ตลอด ก่อนหน้านี้ เขาอยู่ไต้หวัน เวลาไทยกับไต้หวันมันห่างกัน1ชม. แต่ตอนนี้ ห่างกัน 15ชม. ถามว่า เวลาเป็นอุปสรรคมั้ย มันก้อมีบ้าง เราสองคนก้อปรับตัวกัน เราก้อจะพยายามเข้าใจเขา เข้าใจในลักษณะการทำงานของเขา ว่าเป็นยังไง เราเองก้อจะไม่หงุดหงิดไม่โวยวาย แต่สิ่งนึงที่เขาทำให้เราสัมผัสได้ว่า ความสัมพันธ์นี้มันมีเป้าหมายนะ นั่นคือความเสมอต้นเสมอปลาย และความเชื่อใจที่เขาและเรามอบให้กัน
คืนไหนที่เราสองคนไม่เข้าใจกัน เราก้อดึงสติตัวเองกลับมาก่อน และก่อนจะวางสาย ไม่ว่าจะยังงัย อากัปกิริยาท่าทางจะไม่โอเคแค่ไหน เราสองคนก้อจะเอ่ยคำว่ารักออกมาในทุกๆคืน เผื่อให้รู้ว่า เราสองคนจับมือกันอยู่ตลอดเวลานะ เลยไม่เคยมีฟีลว่า อยากปล่อยมือ ... ทุกความรักมีความทุกข์มากทุกข์น้อยอยู่ในนั้นเสมอค่ะ ... ภาวนาจิตใจตัวเองให้เข้มแข็ง มองและยอมรับความจริงให้ได้มากที่สุด
ระยะห่างทางกายค่ะ พอใจในความสม่ำเสมอก็มีความสุขค่ะ ไทยแลนด์ กับสเปนค่ะ
❤❤อยากบอกว่าเสียงอ.ชลิดา บำบัดใจได้นะคะ ฟังเพลินรู้สึกว่าเข็มแข็ง แต่ก็อบอุ่นด้วยค่ะ
รายการนี้ดีมาก ช่วยเปิดมุมมองหลายๆแง่มุมของความสัมพันธ์ ทำไปต่อเรื่อยๆเลยนะคะ
ถ้ายังไม่มีอย่ามี ถ้ามีแล้วก็สู้ๆ
ยากค่ะ ยังไงก็ยากกว่าอยู่ด้วยกัน
บอกให้อย่าเริ่มความสัมพันธ์แบบทางไกลหรอคะ มันทำไม่ได้หรอก แรกๆก็ไม่คิดอะไรเวลาผ่านไปมันก็ผูกพันไปแล้ว ความรักความชอบมันหอมหวานด้วย ใครจะห้ามได้ลง
รักแท้ แพ้ใกล้ชิด ค่ะ
กำลังมี LDR กับผู้ชายคนละวัฒนธรรม แบบ ญี่ปุ่น อยู่ค่ะ ที่ทำแต่งาน ไม่โทรหาเป็นเกทอบเดือน ตอบวันละข้อความ ถามว่าเลิกกันไหมก็ไม่เลิก เหนื่อยมากค่ะ ไม่รู้จะไปต่อยังไง 😂
เทคโนโลยีช่วยให้ ldr ง่ายขึ้น แต่ส่วนตัวผมไม่เอาเด็ดขาด เพราะมันไม่มี physical touch สกินชิพสำหรับผมสำคัญมากต่อชีวิตคู่
เคยมีคสพldrกับแฟนที่อยู่SFค่ะ คบมา5ปีเวลาห่างกัน14ชมได้ เคล็ดลับที่ทำให้ คสพ มันเวิคคือทุกขุั้นตอนที่อาจารย์บอกจริงๆ แต่ตอนนั้นไม่รุ้นะคะแค่รักกันก้อตั้งเป้าหมายว่าอยากใช้เวลาด้วยกันแบบตัวเป็นๆให้มีคุณภาพที่สุด มีเป้าหมายในการอยู่ด้วยกัน สื่อสาร นัดกินข้าวผ่านzoomประจำ555 แต่ที่เลิกกันไปเพราะความเชื่อใจมันพังทลาย แล้วมันสร้างขึ้นมาใหม่ไม่ได้อีกแล้ว เพราะLDRมันใช้พลังงาน ใช้เวลา ใช้ความทุ่มเทเยอะจริงๆ พอมันพังเราก็ไม่เหลือกำลังใจจะสร้างขี้นมาใหม่อีก ตรงความเชื่อใจนี่ก็ไม่ใช่ความผิดของเค้านะคะ เป็นที่เราด้วยที่มีissueเรื่องนี้อยู่เองด้วย มันเลยไปต่อไม่ได้จริงๆค่ะ
แต่นี่ก็เหมือนจะคลิกกับคนที่อยู่ตปท.อีกแล้ว เห็นแววความเหนื่อยมาแต่ไกล เฮ้ออออ
ไปไม่รอดค่ะ เลิกทั้งๆที่รักเพราะไม่มีอนาคตที่จะได้อยู่ด้วยกันค่ะ TT
เพิ่งเลิกไม่กี่วันก่อนเช่นกันครับ เป็น LDR ครั้งแรกของผมด้วย ยากจริงๆ ครับ และไม่รู้จริงๆ ว่าอนาคตจะได้อยู่ด้วยกันไหม
ปัญหาคืออระยะทาง หรือเวลา😢
มันต้องพยายามทั้งสองฝ่าย :) ฝ่ายเดียวไม่มีทางรอด TT
ตัวหนูไปอยู่ต่างประเทศไม่ได้เจอกันมา 10 เดือน อีกแค่ 4 เดือนเราก็จะกลับไปไทยถาวรแล้ว ตลอดเวลาคือน่ารักมาก เหมือนอยู่ข้างๆกันตลอดเวลา มีความสุขมากๆค่ะ แต่ประมาณ 1-2 เดือนก่อนหน้าที่จะเลือกกัน เขาเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเลยค่ะ ค่อยๆลดลง เราก็เรียกร้องมากขึ้น จนต่างคนต่างบั่นทอน จนกระทั่ง เขาค่อยๆเปลี่ยนไปมากๆ ในเรื่องของการไปไหนไม่บอก ตั้งสเตตัสที่ไม่ได้หมายถึงเราเลย เริ่มมีเรื่องที่คิดว่าบอกเราแล้วแต่จริงๆยังไม่ได้บอก เรื่องการแสดงความสบายใจเชื่อใจ โทรหาตอนกลางคืนเป็น 10 สายไม่รับ ไปเที่ยวกลางคืนไม่บอก จนเราไม่ไหว เราบอกเลิก แต่ก็ยังคิดว่า เออมันยังคุยกันได้นะ ปรับกันได้ ยังรักยังอยากง้อเขาอยู่เพราะอีกนิดเดียวเราก็จะได้เจอกันแล้ว เราอาจจะงี่เง่าเกินไป แต่พอเลิกมาแค่ 1 อาทิตย์ เขาเปิดตัวคนใหม่เลยค่ะ เจ็บปวดม๊ากกกกกกก ความนอกใจ คุยซ้อน โดยคนที่อยู่ไกลให้ความไว้ใจ 100% ใจร้ายมากเลยนะคะ ตอนที่เรายังไม่รู้ ยังไม่ตาสว่างคือเหมือนใจสลายแบบเป็นเสี่ยงๆเลยค่ะ แต่พอมารู้ทีหลัง มันเจ็บกว่าที่คือมีแค่เราที่ต้องมาฮีล เสียใจคนเดียวในขณะที่เค้ามีความสุขกับคนใหม่โดยที่ไม่ต้องเสียใจอะไรเลย ฮืออออออออออ หากใครมี LDR หากรู้สึกไม่ไหวแล้ว เหงาเกินไปหรือรอไม่ไหว ขอร้องให้บอกอีกคนตรงๆเถอะค่ะ อย่าไปแอบคุยแอบนอกใจเผื่อเลือกเลยค่ะ มันไม่แฟร์กับอีกฝ่ายเลยจริงๆ ยิ่งมารู้ทีหลังคือเขาอาจจะมีบาดแผลในเรื่องความเชื่อใจได้เลย ฝากไว้ด้วยนะคะ ไม่อยากให้ใครต้องมาเสียใจแบบหนูเสียใจจริงๆค่ะ
รายการนี้ลงตัวมาก ฟังเพลิน อาจารย์อธิบายแบบภาษากันเองแต่ก็ได้สาระ รับส่งกันดี
เคยแล้ว ครับ คอลกันบอกรายละเอียด ให้เขาดูชีวิตประจำวันตลอด ผลคือ ก้โรแมนติกนิดนึง
แต่โดนไล่ออกจากที่ทำงานครับ ตื่นมาพิมๆแต่งตัว ไปสาย ทำงานว่างก้ตอบ ไม่ว่างบางทีก้แวะตอบ 5555 จากจะได้เมียเป็นได้หางานใหม่แทน 55 ทุกวันนี้อยุ่คนเดียวแหละดีละครับ😂🤣🤣
เคยอยู่ด้วยกันตลอดเวลาแต่ตอนนี้กำลังอยู่ในสถานะอยู่คนละจังหวัดตอนแรกคิดถึงเหมือนไม่ชินกับความห่างแต่พอคุยกันทุกวันกลับรู้ว่าเราอยู่ได้ตอนนี้กลัวว่าตัวเองจะอยู่คนเดียวได้ทั้งทีายังรักกัน
เราเคยนัดตี้หมูทะกับเพื่อนในแก๊งเราค่ะ เป็นมื้อกลางวัน มีอยู่ที่กรุงเทพ นครศรีธรรมราช ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นัดเวลากัน กินไปเม๊ามอยไป โดยที่ทุกคนอยู่หน้าเตาของตัวเอง ก็สนุกดีนะคะ 5555555555
ep. นี้จบฉวยยยยน้าคุณนุ้ย 🥰 ฟังรายการนี้ตลอด road trip ไม่เบื่อเลยค่า 😘👍
อยากให้พูดเรื่องของคนแอบรักด้วยจังค่ะ 😊😊😊
พี่รักเธอนะนัดพระรามเก้า❤
ทำ LDR มาจะสี่ปีแล้ว เห็นด้วยเทคโลยีและความเชื่อใจมีส่วนสำคัญจริงๆค่ะ
กรุงเทพ เมลเบิร์น แล้วอายุมากกว่าเค้า 9 ปีคะ 😅 หวาด แต่ไม่หวั่นคะ คือต้องคิด +++
เพื่อนเยอะนะคะ อิอิ 😂😂
14:22 ต่อให้ไม่อยู่ไกล ก็เล่าลงรายละเอียดหน่อยเถิ้ด ขอบคุณอาจารย์ที่พูดถึงประเด็นนี้ค่า 😂
มันเสียเรื่อง skinship กับ sex ครับ ^^
อยากจะให้อาจารย์พูดถึงเวลาจีบกันออนไลน์ครับ รูปจริงแหละ แต่งรูปบ้าง แต่พอไปเจอไม่ตรงปกแล้วเทเลย
นี่เปิดวิดิโอคอลค้างไว้เลยค่ะตอนนอน 🤣
คบกับแฟนมาเกือบ4ปี เราอยู่ปริมณฑลเขาอยู่กรุงเทพ ได้เจอกันเดือนละ1-2ครั้ง ทั้งๆที่ก็ไม่ได้ไกลกันเลย แต่เขาบอกงานยุ่ง แต่โทรคุยกันทั้งวันทั้งคืน มีความสุขกันมาก ไม่มีปัญหาอะไรกันเลย จนหลังปีใหม่เขาเริ่มติดเพื่อนหนักมาก ไปบ้านเพื่อนทุกวันกลับมาได้คุยกันวันละ2ชม. สุดท้ายทะเลาะหนักแต่ก็คุยกันทุกวันปกติ จนเขาขอเวลาอยู่คนเดียว เราเลยหายไป1อาทิตย์ พอโทรกลับไปสุดท้ายเราจับได้เขาไปคุยกับน้องสาวเพื่อนคนนั้น ไปรับ-ส่งกันทุกวัน อยู่ด้วยกันทุกวัน ตั้งแต่วันที่เราทะเลาะกัน
ทั้งๆที่น้องสาวเพื่อนก็มีแฟนอยู่แล้ว และเขาก็สนิทกับแฟนของน้องสาว เขาสองคนทำไปได้ไงไม่รู้ นี่ผ่านมาเดือนนึงแล้ว เขาก็ยังแอบคบกันอยู่
ทุกคนก็พูดว่าเพราะเราอยู่ไกลกันเลยเกิดเรื่องแบบนี้ ซึ่งเราก็คิดว่าทั้งใช่และไม่ใช่ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเกือบ4ปี ไม่เคยมีเรื่องนอกใจกันใดๆ แต่มันก็ใช่ที่ไกลกันแล้ว ตอนเขาเศร้าเราไม่สามารถปลอบเขาได้ น้องสาวเพื่อนเลยไปปลอบเขาและกลายเป็นว่าเขาสองคนเลยไปแอบคบกัน