Размер видео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показать панель управления
Автовоспроизведение
Автоповтор
ลมสำคัญมาก ผมปั่นจักรยานนี่เข้าใจเลยครับ
เอาจริงๆไม่ใช่นะครับ..... เกี่ยวกับค่า CD ต้องบอกว่า รถน้ำมันถ้าหากจะทำให้ประหยัดแต่ไม่สามารถทำรูปร่างได้เหมือนกันรถไฟฟ้าได้ต่างหากครับ...เช่นถ้ารถน้ำมันลดการต้านลมได้ทำไมไม่ก๊อปแบบรถไฟฟ้าไปใช้กับรถน้ำมันเพื่อการประหยัดและวิ่งได้ไกลขึ้นดีขึ้น....... เพราะมันทำไม่ได้ไง1. กระจังหน้ารถน้ำมันไม่สามารถปิดได้ เพราะต้องการอากาศไประบายความร้อนและใช้เพื่อจุดระเบิด ซึ่งได้อธิบายไปแล้ว...2. ทำไมรถน้ำมันไม่สามารถออกแบบใช้ล้อแม็คแบบปิดทึบได้อย่างรถไฟฟ้าในเมื่อมันก็ลดค่า CD และทำให้ประหยัดน้ำมัน???อันนี้คือเอกลักษณ์ที่ทำได้เฉพาะรถไฟฟ้าไงครับคือ "มันไม่ต้องการอากาศไปลดความร้อนจานเบรค" เอาจริงๆรถไฟฟ้าแทบจะไม่ใช้เบรคเลยก็ว่าได้ใครขับรถไฟฟ้าจะเข้าใจดีว่าการขับรถไฟฟ้าแทบจะไม่ได้เหยียบเบรคเพราะเราจะอาศัยการรีเจนเพื่อชะลอความเร็วแทน...ดังนั้นจานเบรคก็จึงไม่ร้อนเลยแม้กระทั่งขับรถลงเขายังแทบจะไม่ได้เหยียบเบรคเลย...จะเหยียบเบรคเอาจริงๆก็แค่ตอนติดไฟแดง....กับตอนจอดสนิทเอาจริงๆ รถไฟฟ้าคือรูปลักษณ์ในอุดมคติของรถน้ำมันที่อยากจะทำ....แต่ทำไม่ได้ครับจริงๆอีกตัวเลยก็คือ กระจกมองข้าง...ถ้าสามารถใช้กล้องเล็กๆติดไว้แทน แล้วใช้จอมองจากในรถก็น่าจะลดค่า CD ลงไปได้อีกพอสมควร
เห็นด้วย รถทุกคันก็อยากจะลู่ลม แต่รถน้ำมันทำไม่ได้
ข้อมูลดี น่าฟังครับ
เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมต้องมียางรถยนต์สำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพราะจะเป็นยางที่มีสัมประสิทธิ์ความเสียดท้านอากาศต่ำมากๆ เพราะรถไฟฟ้าเป็นรถที่มีประสิทธิภาพสูงมากๆในด้านพลังงาน การที่มีแรงต้านอะไรนิดๆหน่อยๆก็มีผลต่อระยะทางที่ทำได้แบบมีนัยสำคัญ ไม่เหมือนรถน้ำมันที่วัฏจักรกำลังแก๊สของเครื่องยนต์สันดาปมันไม่มีประสิทธิภาพอยู่แล้ว ยางจะใช้เป็นอะไรเลยไม่ได้เกิดผลแบบมีนัยสำคัญมากนักเมื่อเทียบกับรถไฟฟ้า ประโยคนี้ผมไม่ได้กล่าวเอง อันนี้จากปากวิศวกรตัวเทพของเมกา ของช่อง Engineering Explained มาไขข้อสงสัยยางสำหรับรถไฟฟ้าสำคัญอย่างไรรถน้ำมันความหนาแน่นพลังงานน้ำมันก็เปรียบเหมือนคุณมีเงิน 1,000 บาท ถ้าคุณมีนิสัยใช้เงินไม่มีประสิทธิภาพสุรุ่ยสุร่ายอยู่แล้ว ทำเงินหาย 20 บาท ไปกับแรงเสียดทานลมที่ล้อ คงไม่สะท้าน เพราะสุรุ่ยสุร่ายอยู่แล้ว แถมแหล่งพลังงานคุณมีตั้ง 1,000 บาท ความหนาแน่นพลังงานให้ใช้ให้เปลืองได้เยอะเต็มที่แต่รถไฟฟ้าพลังงานในแบตเหมือนคุณมีเงิน 100 บาท เพราะความหนาแน่นพลังงานที่ต่ำกว่าน้ำมันมาก แต่มีนิสัยใช้ประหยัดมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว ทำเงินหาย 20 บาทไปกับแรงเสียดทานลมที่ล้อเพราะใช้ยางแบบรถน้ำมัน มันก็สะท้านไง นี่คือเหตุผลที่ยางสำหรับรถไฟฟ้าจึงสำคัญ มันช่วยลดจากทำเงินหาย 20 บาท อาจเหลือ 10 บาท
ความต้านทานของอากาศจะเพิ่มขึ้นเป็นกำลังสองของความเร็ว นั่นคือยิ่งวิ่งเร็วก็จะมีความต้านทานของอากาศสูงขึ้นและใช้พลังงานสูงขึ้นตาม
ขอเสริมนิดนึงครับ ปีกเครื่องบินลมที่ผ่านปีกด้านบนวิ่งเร็วกว่าด้านล่างครับ เลยทำให้แรงดันด้านล่างเยอะกว่า ยกตัวปีกขึ้นครับ ด้วยรัก❤
ใช่เลยครับ การออกแบบจะต้องตรงกันข้ามกับปีกเครื่องบิน เพื่อให้รถกดบนพื้นถนนเพื่อความเกาะถนนที่สุด
ติดตามครับ
มีของGAC ion hypercar gtที่ค่าCdเพียง0.19 ดีกว่า Lucid air
เนื้อหาดีครับ
แฝสอบถามครับ กรณี รถติดๆ แบบใน กทม ติดแบบ กระดึ๊บๆ ค่า CD มีผล มากน้อยแค่ไหนครับ
นึกถึง 9arm บ่นเรื่องออฟชั่นล้อของเทสล่าจ่ายเพิ่มเพื่อทำให้รถกินแบตขึ้น แต่ได้ความสวย 😂
คุณเวลน่าจะเอาค่า CD รถน้ำมันทั่วไปมาเปรียบเทียบด้วยครับ จะได้เห็นภาพว่าต่างกันขนาดไหนกับรถ EV
โดยรวมรถแรงๆ จะราว0.2-0.3ขึ้นครับ
ต้องบาลานซ์กันให้ดีระหว่าง การแหวกลม กับ แรงกด ..เพราะถ้าการแหวกลมด้านหน้าดีเกินไป รถอาจจะเหิน หน้าลอยได้ .. ในขณะที่ถ้าแรงกดด้านหน้าดีเกินไป มันก็จะถ่วงรถ ทำให้เราใช้พลังงานมากขึ้นอีกในการวิ่ง 😀
คอยต่อชิ้นส่วนรอบๆ ตัวรถยังมีผล
มาแล้วว
ผมเพิ่งเห็นข่าวช่วงสงกรานต์นี้ รถน้ำมันเกิดอุบัติเหตุ เเล้วติดไฟ คนข้างในรถไฟคลอกเสียชีวิตเลยอยากถามพี่ๆเพิ่มเติมว่า EV ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกัน มันจะเกิดไฟรุกไหม้ ไหมครับ
รูปทรงที่แหวกอากาศดีสุด คืออะไร ลองเอาน้ำ หยดผ่านอากาศดู น้ำเป็นรูปทรงอะไร รูปทรงน้ำแหละ แหวกดีที่สุด "หยดน้ำ" จะคล้ายหยดน้ำหมด หัวรถไฟเร็วๆ *บอกท่านผู้ชมน่ะห๊ะ*
ใครซื้อรถ ev แล้วเปลี่ยนล้อเสียใจด้วยนะครับ
ลมสำคัญมาก ผมปั่นจักรยานนี่เข้าใจเลยครับ
เอาจริงๆไม่ใช่นะครับ..... เกี่ยวกับค่า CD ต้องบอกว่า รถน้ำมันถ้าหากจะทำให้ประหยัดแต่ไม่สามารถทำรูปร่างได้เหมือนกันรถไฟฟ้าได้ต่างหากครับ...เช่นถ้ารถน้ำมันลดการต้านลมได้ทำไมไม่ก๊อปแบบรถไฟฟ้าไปใช้กับรถน้ำมันเพื่อการประหยัดและวิ่งได้ไกลขึ้นดีขึ้น....... เพราะมันทำไม่ได้ไง
1. กระจังหน้ารถน้ำมันไม่สามารถปิดได้ เพราะต้องการอากาศไประบายความร้อนและใช้เพื่อจุดระเบิด ซึ่งได้อธิบายไปแล้ว...
2. ทำไมรถน้ำมันไม่สามารถออกแบบใช้ล้อแม็คแบบปิดทึบได้อย่างรถไฟฟ้าในเมื่อมันก็ลดค่า CD และทำให้ประหยัดน้ำมัน???
อันนี้คือเอกลักษณ์ที่ทำได้เฉพาะรถไฟฟ้าไงครับคือ "มันไม่ต้องการอากาศไปลดความร้อนจานเบรค" เอาจริงๆรถไฟฟ้าแทบจะไม่ใช้เบรคเลยก็ว่าได้ใครขับรถไฟฟ้าจะเข้าใจดีว่าการขับรถไฟฟ้าแทบจะไม่ได้เหยียบเบรคเพราะเราจะอาศัยการรีเจนเพื่อชะลอความเร็วแทน...ดังนั้นจานเบรคก็จึงไม่ร้อนเลยแม้กระทั่งขับรถลงเขายังแทบจะไม่ได้เหยียบเบรคเลย...จะเหยียบเบรคเอาจริงๆก็แค่ตอนติดไฟแดง....กับตอนจอดสนิท
เอาจริงๆ รถไฟฟ้าคือรูปลักษณ์ในอุดมคติของรถน้ำมันที่อยากจะทำ....แต่ทำไม่ได้ครับ
จริงๆอีกตัวเลยก็คือ กระจกมองข้าง...ถ้าสามารถใช้กล้องเล็กๆติดไว้แทน แล้วใช้จอมองจากในรถก็น่าจะลดค่า CD ลงไปได้อีกพอสมควร
เห็นด้วย รถทุกคันก็อยากจะลู่ลม แต่รถน้ำมันทำไม่ได้
ข้อมูลดี น่าฟังครับ
เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมต้องมียางรถยนต์สำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพราะจะเป็นยางที่มีสัมประสิทธิ์ความเสียดท้านอากาศต่ำมากๆ เพราะรถไฟฟ้าเป็นรถที่มีประสิทธิภาพสูงมากๆในด้านพลังงาน การที่มีแรงต้านอะไรนิดๆหน่อยๆก็มีผลต่อระยะทางที่ทำได้แบบมีนัยสำคัญ ไม่เหมือนรถน้ำมันที่วัฏจักรกำลังแก๊สของเครื่องยนต์สันดาปมันไม่มีประสิทธิภาพอยู่แล้ว ยางจะใช้เป็นอะไรเลยไม่ได้เกิดผลแบบมีนัยสำคัญมากนักเมื่อเทียบกับรถไฟฟ้า ประโยคนี้ผมไม่ได้กล่าวเอง อันนี้จากปากวิศวกรตัวเทพของเมกา ของช่อง Engineering Explained มาไขข้อสงสัยยางสำหรับรถไฟฟ้าสำคัญอย่างไร
รถน้ำมันความหนาแน่นพลังงานน้ำมันก็เปรียบเหมือนคุณมีเงิน 1,000 บาท ถ้าคุณมีนิสัยใช้เงินไม่มีประสิทธิภาพสุรุ่ยสุร่ายอยู่แล้ว ทำเงินหาย 20 บาท ไปกับแรงเสียดทานลมที่ล้อ คงไม่สะท้าน เพราะสุรุ่ยสุร่ายอยู่แล้ว แถมแหล่งพลังงานคุณมีตั้ง 1,000 บาท ความหนาแน่นพลังงานให้ใช้ให้เปลืองได้เยอะเต็มที่
แต่รถไฟฟ้าพลังงานในแบตเหมือนคุณมีเงิน 100 บาท เพราะความหนาแน่นพลังงานที่ต่ำกว่าน้ำมันมาก แต่มีนิสัยใช้ประหยัดมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว ทำเงินหาย 20 บาทไปกับแรงเสียดทานลมที่ล้อเพราะใช้ยางแบบรถน้ำมัน มันก็สะท้านไง นี่คือเหตุผลที่ยางสำหรับรถไฟฟ้าจึงสำคัญ มันช่วยลดจากทำเงินหาย 20 บาท อาจเหลือ 10 บาท
ความต้านทานของอากาศจะเพิ่มขึ้นเป็นกำลังสองของความเร็ว นั่นคือยิ่งวิ่งเร็วก็จะมีความต้านทานของอากาศสูงขึ้นและใช้พลังงานสูงขึ้นตาม
ขอเสริมนิดนึงครับ ปีกเครื่องบินลมที่ผ่านปีกด้านบนวิ่งเร็วกว่าด้านล่างครับ เลยทำให้แรงดันด้านล่างเยอะกว่า ยกตัวปีกขึ้นครับ ด้วยรัก❤
ใช่เลยครับ การออกแบบจะต้องตรงกันข้ามกับปีกเครื่องบิน เพื่อให้รถกดบนพื้นถนนเพื่อความเกาะถนนที่สุด
ติดตามครับ
มีของGAC ion hypercar gtที่ค่าCdเพียง0.19
ดีกว่า Lucid air
เนื้อหาดีครับ
แฝสอบถามครับ กรณี รถติดๆ แบบใน กทม ติดแบบ กระดึ๊บๆ ค่า CD มีผล มากน้อยแค่ไหนครับ
นึกถึง 9arm บ่นเรื่องออฟชั่นล้อของเทสล่า
จ่ายเพิ่มเพื่อทำให้รถกินแบตขึ้น แต่ได้ความสวย 😂
คุณเวลน่าจะเอาค่า CD รถน้ำมันทั่วไปมาเปรียบเทียบด้วยครับ จะได้เห็นภาพว่าต่างกันขนาดไหนกับรถ EV
โดยรวมรถแรงๆ จะราว0.2-0.3ขึ้นครับ
ต้องบาลานซ์กันให้ดีระหว่าง การแหวกลม กับ แรงกด ..
เพราะถ้าการแหวกลมด้านหน้าดีเกินไป รถอาจจะเหิน หน้าลอยได้ .. ในขณะที่ถ้าแรงกดด้านหน้าดีเกินไป มันก็จะถ่วงรถ ทำให้เราใช้พลังงานมากขึ้นอีกในการวิ่ง 😀
คอยต่อชิ้นส่วนรอบๆ ตัวรถยังมีผล
มาแล้วว
ผมเพิ่งเห็นข่าวช่วงสงกรานต์นี้ รถน้ำมันเกิดอุบัติเหตุ เเล้วติดไฟ คนข้างในรถไฟคลอกเสียชีวิต
เลยอยากถามพี่ๆเพิ่มเติมว่า EV ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกัน มันจะเกิดไฟรุกไหม้ ไหมครับ
รูปทรงที่แหวกอากาศดีสุด คืออะไร ลองเอาน้ำ หยดผ่านอากาศดู น้ำเป็นรูปทรงอะไร รูปทรงน้ำแหละ แหวกดีที่สุด "หยดน้ำ" จะคล้ายหยดน้ำหมด หัวรถไฟเร็วๆ *บอกท่านผู้ชมน่ะห๊ะ*
ใครซื้อรถ ev แล้วเปลี่ยนล้อเสียใจด้วยนะครับ