Видео

ทำไมต้องเป็น adv ครับ

เป็นคอร์สเนื้อหาเดียวกันครับ

ที่กำลังจะออกใหม่ในปลายเดือนนี้คือ เจาะเนื้อหาและเทคนิคการทำข้อสอบ TOEFL iTP นะครับ (กำลังสอนอยู่ ยังไม่เสร็จครับ)

แม้จะโฆษณษาเยอะ แต่เนื้อหาก็ไม่เคยลดนะครับ โฆษณาเอย เล่าเรื่องเอย พูดเล่นเอย เป็นส่วนหนึ่งของการสอนของผมครับ ต้องขออภัยด้วย เป็นมาสามสิบปีแล้ว คงแก้ยากครับ อิๆ

เออใช่ครับ ความจริงใกล้เคียงกับเงื่อนไขที่ สาม มากกว่านะ ต้องแก้เป็น might have enjoyed (ความหมายอาจจะไม่ค่อยสมบูรณ์หน่อย แต่โครงสร้างเหมาะกว่าเงื่อนไขที่ 2 ครับ)

@@dr.naressurasith7115 ขอบคุณมากค่า ตอบเร็วมากก 🙏🙏🙏

ขอบคุณครับ

ไม่มีเอกสารให้โหลด ครับ เป็นคอร์สทำจำหน่ายผ่านทาง www.skillane.com และ www.chulabookcourse.com ครับ นี่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นครับ อีกอย่างคอร์สนี้อยู่ในระหว่างสอนครับ ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ คงพร้อมวางจำหน่ายในเดือนหน้าครับ

ยินดีครับ ขอให้สอบผ่านนะครับ ติดตามหลาย ๆ คลิป ก็จะได้ความเข้าใจยิ่งขึ้นครับ

กำลังจะเข้าโรงพิมพ์ครับ คงต้องรออีกหน่อยครับ

@@dr.naressurasith7115 ขอบคุณครับ

สองช่องทางครับ www.skillane.com และ www.chulabookcourse.com ครับ

ช่วงนี้ทางผู้จัดจำหน่ายน่าจะกำลังลดราคานะครับ

คนส่วนมากก็งงครับ เป็นเรื่องจริง เพราะ 1. ใช้คำเชื่อมกลุ่มเดียวกัน (แต่มีวิธีสร้างต่างกันนะครับ) 2. คำเชื่อมที่ต่างกันระหว่าง noun clause และ adjective clause ก็มีคื if, whether, that สามตัวนี้เป็นของ noun clause

3. การเรียงประโยคก็เหมือนกันคือเรียงในรูป ประโยคบอกเล่า และปฏิเสธ แต่ไม่เรียงในรูปประโยคคำถาม 4. การแปลก็แปลเหมือนกัน คือไม่แปลว่าที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร เหมือนกันเยอะอย่างนี้ก็น่างง

5. ความจริงต่างกันมากมายครับ 5.1 noun clause ทำหน้าที่เป็นคำนาม (วางสามตำหน่งในประโยค) ส่วน adjective clause ทำหน้าที่ขยายคำนาม โดยมากจะวางไว้หลังคำนามที่ตนขยายคนละตำแหน่งกัน 5.2 noun clause วางขึ้นต้นประโยคก็ได้เช่น What she told me wasn't true. แต่ adjective clause ทำไม่ได้ 5.3 noun clause วางตำแหน่งหลังกริยาได้ ในฐานะกรรม เช่น I don't like what she told me. ฉันไม่ชอบสิ่งที่หล่อนบอกฉัน แต่ adjective clause วางไม่ได้ จะวางไว้หลังนามที่ตนขยายเช่น She shows me her new book which was written by Dr. Nares. / She shows me her new book which she borrowed from the library. มีมากกว่านี้ครับ เท่านี้ก็น่าจะตอบคำถามให้หายสงสัยนครับ

ได้เกินคุ้มครับ 1.เอกสารหนังสือประกอบการสอน 1 เล่ม pdf 2. อธิบายเนื้อหาเยอะ ละเอียด ดูได้ไม่อั้นใน 5 ปีนี้ครับ

@@dr.naressurasith7115 แล้วถ้าคนไม่มีพื้นฐานอะไรมาก่อนเลยอ่ะครับ

คอร์สตีแตก TOEFL ITP ครับ

เป็นคำถามที่ดีครับ ความจริงหลัง preposition ต้องเป็น 1. noun และ smell ก็ใช้เป็น noun แปลว่า กลิ่น 2. ถ้าไม่เป็น noun จะเป็น verb 4 (verbing) โดยกรณีนี้มักจะมี noun ตามหลัง (ยกเว้นนามนับไม่ได้ที่ใช้เป็นนามไม่ได้) verbing เช่น smelling flowers ประมาณนี้ครับ ถ้าเป็น smelling จะแปลว่า การดม การดมกลิ่มครับ

น่าจะใช่ แต่คนเรียนประสบความสำเร็จเยอะนะครับ

อันเดียวกันแหละครับ พื้นๆ ก็จะบอกว่า where + subject + verb /when + subject + verb

@@dr.naressurasith7115 ขอบคุณมากคับอาจารย์ เป็น FC นะคับ ปล ผมอยากฝึก error ยากๆ ขออาจารย์จัดหนักให้หน่อยคับ

ครับ ถ้าเป็นคำศัพท์ก็เปิดดูได้เลยครับ

สวัสดีครับ

ไม่ครับ เพราะเป็นประโยค adverb clause การใช้ประโยค adverb clause จะสัมพันธ์กับประโยคหลักที่ตัวเองขยายครับ ประโยคหลักข้อนี้เป็นอดีตครับ (มีกฎการใช้กริยาร่วมของ adverb clause 4 ชุดนะครับ อธิบายไว้ในคลิปที่เกี่ยวกับ adverb clause ครับ)

ขอบคุณครับ รับทราบครับ แต่ช่วงนี้ผมสอนเยอะมากหลายแห่ง เลยไม่ค่อยมีเวลามาทำครับ มีเวลาจะทำเรื่อย ๆครรับ

ขอบคุณครับ เป็นหนึ่งในเนื้อหาที่สอนออนไลน์คอร์สตีแตก toefl นะครับ ถ้าจำไม่ผิด เนื้อหาจะยาวมาก ๆ ครับหลายสิบชั่วโมงทีเดียว

แบบนี้น่าจะสามปีแล้วนะ ตอนนี้มีนอกเรื่องเยอะ อิๆ

@@dr.naressurasith7115 ผมไม่อยู่ไหนมาถึงเพิ่งมาเห็นอาจารย์555 แต่ผมก็มีหนังสือของอาจารย์หลายเล่มนะครับ

@@paksastarpaksastar9371 ขอบคุณครับ ฝากคอร์สออไลน์ทาง www.skillane.com ด้วยนะครับ

ครับ รับทราบครับ ขอบคุณนะครับที่ซื้อหนังสือ

ยินดีครับ

มีครับ ทุกคอร์สมีสอนทาง www.skillane.com และ www.chulabookcourse.com ครับ

ขอบคุณมากครับ

ดีใจด้วยครับ ดีใจที่ฟังหลายรอบครับ และดีใจที่คอร์สเป็นประโยชน์กับผู้เรียนตามที่ตั้งใจไว้ครับ