Видео

@@panupongthai ถ้าให้คะแนนเต็ม5จาก5ปัจจัยหลักในการสกัดของ Pesado he% (สำหรับผม) 1.บอดี้ 4/5 2.เฟเวอร์4/5 3.ความเปรี้ยว 3/5 4.กลิ่น 3/5 5.ความหวาน 3/5 สำหรับผมถือว่าเป็นbusket ตัวจบ รวมถึงความทนทานในการใช้งาน ถือว่าคุ้มครับ

@@mr.omggamer6824 มี2แบบครับ 1.เน้นแบบดื่มง่าย ใช้ไฟ1ดวงครับ 2.เน้นเข้มข้น เปิดไฟ2ดวง เติมน้ำแล้ว ก่อนยกก้านกดขึ้นปรับให้เหลือ1ดวง แล้วรีบกดสกัดครับ และลดเวลาลง 3วิจากตาราง

@@wasan.ssangduang ถ้าใช่บัสเก็ต Pesado he% 19-21g. เข้า22g ครับ ไม่น่าอันเดอร์นะครับ ส่วนครีมม่าของกาแฟคั่วอ่อนฟิวเตอร์จะน้อยเป็นปกติอยู่แล้วครับ อีกอย่างมาลองกดทุกระดับการคั่ว กดมาทุกรูปแบบแล้วครับตั้งแต่ 4-10บาร์ ตั้งแต่8บาร์ขึ้นไปกินไม่ได้เลย😂 และถ้าสกัดแล้วติดขม อาจขมจากแก๊ส ต้องบอกว่าเมล็ดคั่วอ่อน อาจใช้เวลาคายแก๊ส40-60วันเลยก็มีครับ เมล็ดในคลิปก็36วันแล้วก็ยังมีขมแก๊สอยู่เลย รวมถึงช่วงนี้หน้าหนาวอุณหภูมิต่ำก็มีผลทำให้คายแก๊สช้าด้วยครับ หลักการสกัดกาแฟคั่วอ่อนต้อง ไม่เขียว ไม่ฝาด ไม่ขม เน้นมิติ เฟเวอร์ สวีท เป็นหลักครับ หลายคนหลงทางจากการทดลอง(ผมก็เคยเป็น) เช่น ฝืนรีดบอดี้แต่ติดขมเฟด ฝืนรีดเฟเวอร์แต่ติดเขียวมาด้วย อย่าลืมว่าการสกัดเอสเพรสโซ่คือการที่สกัดกาแฟที่เร็ว การสกัดกาแฟคั่วอ่อนเน้น (รสชาติ,มิติ,อาโรม่า) ใช้รูปแบบของการดริปอ้าจอิงในการสกัดEsครับ ถึงสามารถสกัดเป็น specialty coffee ที่ดีได้ ประมาณนี้ครับ ผมเคยเข้าร้านกาแฟspecialtyเจ้าดังที่ กทม. ลองสั่งดริปกับโน่ร้อน ที่เป็นเมล็ดตัวเดียวกันมาลอง ถึงรู้ว่า 2แก้วนี้ แทบไม่ต่างอะไรกันนอกจากบอดี้😂

⁠@@tinnakornkaemawasutee9635ใช่เลยครับคั่วอ่อนกับการกดเอสนี่ทำผมปวดหัวมาก ตอนนี้ถอยมาดริปเอา รู้สึกว่าคั่วอ่อนกับดริปไปด้วยกันง่ายกว่า

​@@suchatsong-ied2506ผมเคยไปไทเปไปชิมร้านกาแฟที่นั้น รสชาติโดยรวมจะไปทางสกัดดริปครับ แต่มิติโคตรลึก ลึกจนงง😂 ผมเคยถามบาริสต้าของทางร้าน(ใช้กูเกิลแปลภาษา) ว่า การสกัดEsที่นี้เหมือนสกัดดริปเลย ร้านบาริสต้าก็ตอบกลับมาว่า ที่ญี่ปุ่นก็เป็นแบบนี้ เพราะการดื่มกาแฟสเปเชียลตี้ควรได้เฟเวอร์ อาโรม่า และสวีท ถึงจะเป็นร้านกาแฟสเปเชียลตี้ที่ดี

@@24coffee89 ขอบคุณครับ

@@Biphoojaiผมแนะนำดูที่เมล็ดกาแฟก่อนครับ ถ้าอยากได้สู้นม บอดี้แน่น เฟเวอร์จัดจ้าน เลือกเมล็ดเบลนด์ที่มีบราซิลครับ ส่วนบัสเก็ต ผมเชียร์ Vst ขนาด20G. แต่ใช้เมล็ดคั่วเข้ม18.5กำลังดีครับ

@@tinnakornkaemawasutee9635 ขอบคุณครับผม

@@seabookgm อยากได้ Weber มาลองวัดกับ He% อยู่ครับ 😂

@@ออมไงจะใครละถุ้ย ตั้งพรมน้ำไม่ได้โรงงานเขาตั้งไว้2วิครับ ส่วนพักน้ำก่อนสกีด กด - ค้างไว้ ครับ

@@nawaruekangaumnuaiporn8851 ใช้ได้พอดีครับ

@@Shfdv-gr1gy รสชาติไม่ได้หนีกันมากครับ เนื่องชงหัวชงเป็นแบบเดียวกันเลย แต่เรื่องความทน โรตารี่ดีกว่าเยอะมากๆครับ ปั้มไวเบสำหรับเอามาชงกินเองมากกว่าครับ

@@ghostmtts ใช่เลยครับ แต่ผมขอเสริมอีกนิดนะครับ ผมเคยใช้ duchess cm1320 ลองยืมด้ามชงวัดแรงดันมาลองแล้วครับ ตัวเครื่องจ่ายแรงดัน15บาร์(ตัววัดอยู่ระหว่างหม้อต้มกับหัวชง) แต่ด้ามชงวัดได้อยู่ที่ 12.8บาร์ ตัวzentis หรือ หัวชงที่มีน๊อต4แฉกทุกตัว ก็เช่นกันครับ ตัวปั้มโรตารี่ จ่ายมา9.5บาร์ แต่ด้ามชงวัดบาร์ วัดได้8.9บาร์ ผมจึงได้หาข้อมูลมาเพิ่มเติมจึงสรุปได้ว่า เนื่องจากหัวชงของรุ่นพวกนี้เป็นแบบยิงตรงจากหม้อต้มเข้าหัวชงไม่มีจุดพักแรงดันแบบเครื่องไฮเอนจึงทำให้แรงดันไม่เสถียน หลักการคล้ายๆหม้อต้ม อุณหภูมิ90องศา กว่าจะมาถึงหัวชงก็เสียอุณภูมิไปเยอะครับ เหลืออยู่72-74องศา ที่ออกมาจากหัวชง แต่ๆๆๆ ถ้าพอสกัดโดยใช้แรงดัน9บาร์ อุณหภูมิ72-74องศา จะได้อุณหภูมิ90-95องศาครับ แต่เอาตรงๆรสชาติถือว่ายังเหวี่ยงอยู่ครับ ตอนช่วงหน้าร้อน41-43องศาอากาศภายนอก ร้านไม่เปิดแอร์หรือไม่ปรับแรงดันลง กาแฟไหม้ครับ ผมโดนมาแล้ว ช่วงนั้นปวดหัวพักใหญ่เลยฮ่าๆ พวกเครื่องรุ่นใหม่ถึงต้องมีชิปPINมาปรับความเสถียนของอุณหภูมิในหม้อต้มกับแรงดันให้บาลานซ์กันครับ

@@PINYO_B2 เราต้องหาจุดสมดุลของเครื่องชง เครื่องบด บัสเก็ต ก่อนเลือกปรับแรงดันให้ได้ครับ ปั้มเป็นปัจจัยรองมากกว่าครับหลักคือหัวชงมากกว่าแบบที่ผมกล่าวในคลิปไว้

@@pret2057 อยากลองเหมือนกันครับ👍

@@tinnakornkaemawasutee9635 น่าลองมากครับ ตอนนี้กดเเฟร์ไม่ไหวเเล้ว😂😂

ผมใช้อยู่ ที่บอกว่าปรับได้เป็นการปรับไหลของน้ำ การปรับแรงดันทำไม่ได้ ของผมวิ่งที่ 11 บาร์ แต่ในคลิปบางคนได้ 10 บาร์ ผมยังคิดว่าเครื่องหลุด QC หรือเปล่าเพราะไม่ได้ 9 บาร์ มาดูคลิปนี้ก็ถึงบางอ้อ

@@คอเป็นเอ็น ขอบคุณครับ คลิปต่อไปจะปรับปรุงครับ🙏

@@ออมไงจะใครละถุ้ย ผมเคยเจอร้านใช้แฟล์58 ขายดีจนซีนยางเสื่อม บอยเลอร์ระเบิด ดีนะพ่อค้าใส่แว่นไม่งั้นตาสุก🥹

@@farmnajachannel ต้องบอกว่า ในบรรดาเครื่องชงราคาใกล้เคียงกับ zentis ไม่มีตัวไหนแนะนำแล้วครับ เพราะzentisคือสุดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น วัสดุ ออฟชั่น ความเสถียน ความทนทาน ในแปลนเขียวหรือราคาใกล้เคียงกัน

ด้ามชงแฟร์ ใช้กับ เครื่องชง นี้ได้ไหมครับ

@@nawaruekangaumnuaiporn8851น่าจะได้ แต่อาจจะดันได้ไม่สุด แต่แน่น

@@farmnajachannel ใช้ได้ครับ แต่หมุนได้ไม่ตรง

@ เครื่อง duscess cm 1380 เวลาสกัดแรงดันอยู่ที่ประมานกี่บาร์ครับ

@@farmnajachannel คือผมจะแนะนำแบบนี้ครับ แรงดันประเภทปั้มแดง ไม่ต้องไปสนใจเรื่องแรงดันบาร์ แต่ดูที่เรโชนับตั้งแต่เรากดสกัดเลย ถึงแม้จะ13-15บาร์ แต่สุดท้ายแรงดันที่หัวชงจริงๆที่สกัดคือ9-10บาร์ครับ ผมยกตัวอย่างนะ ผมสกัดตัว1380 แรงดัน15บาร์ เบอร์บดอยู่ที่เบอร์7 เข้า18ออก36 จบ28วิ (เวลาในเครื่องชง) อีกตัว zentis 9บาร์ ใช้เบอร์บดเบอร์8 เข้า18ออก36 จบ24วิ (เวลาในเครื่องชง) เมื่อเอามาเปรียบเทียบระหว่า ตัว1380กับzentis -1380ได้เรื่องความนัวร์ ครีมม่า บอดี้หนัก เฟเวอร์กลางๆ มิติน้อย ไม่เหมาะสกัดคั่วอ่อน -zentis ได้เรื่องบอดี้สู้นม กลิ่นดี เฟเวอร์และมิติเยอะกว่าหน่อย เห็นได้ชัดว่าแรงกันไม่ได้ส่งผลกับรสชาติอะไรมาก ถ้าใครบอกว่าปั้มโรตารี่รสชาติดีไม่จริงเลย(ง้้นปั้มโรตารี่zentisต้องได้รสชาติเหมือนเครื่องไฮเอ็นสิจริงมั๊ยครับ) ปั้มโรตารี่มีความทนในการใช้งานกว่าพวกปั้มไวเบหรือปั้มแดง เครื่องรสชาติของกาแฟที่ถูกรีดออกมามันอยู่ที่หัวชงแต่ละยี่ห้อว่าออกแบบการวนน้ำในท่อหัวชงในรูปแบบไหนก่อนสกัดกาแฟ คราวๆประมาณนี้ครับ

@@tinnakornkaemawasutee9635 สุดยอดครับ บรรยายได้ระเอียดมากเป็นความรู้ที่เอามาแชร์ได้ดี ขอบคุณมากนะครับ

@@farmnajachannel แปลนตัวเครื่องและระบบเหมือนกันครับ ต่างกันที่ยี่ห้อ

@@tinnakornkaemawasutee9635 ปั้ม โรตาลี่เซติส กับเจมิไร น่าจะไม่ใช่ปั้มโรตาลี่มีผลต่อการสกัดกาแฟใหมครับ

@@farmnajachannel มีครับ ปั้มโรคตารี่มีความทนทานสูงกว่าครับ ส่วนปั้มแดง ได้เรื่องของราคาถูก แต่ความทนสู้โรตารี่ไม่ได้ ไม่เหมาะกับการเอามาขายหน้าร้านเกิน50ช๊อต /วัน เรื่องรสชาติไม่ได้มีผลมากที่ปั้ม แต่ขึ้นอยู่กับการวนน้ำในหัวชงของแต่ละยี่ห้อครับ

@ ขอบคุณมากครับ

@@smokeclears490 ตั้งอุณหภูมิไม่ได้ครับ แต่ใช้วิธีเทคนิกอย่างอื่นทดแทนได้ครับ

เวลาล้างใช้basket ตันแบบเครื่องอื่นๆไหมครับ

@@smokeclears490 ถ้า Zentis Mattina Rotary ห้ามล้างแบบอัดแรงดันย้อนกลับครับ เนื่องจากตัวหัวชงไม่ได้ออกแบบมาทนแรงดันย้อนกลับ อาจจะส่งผลทำให้ไหลย้อนเข้าปั้มโรตารี่แล้วพังได้แต่ก่อนปั้มจะพังตัววาวเดลจะไปก่อนครับ

@@HiBetta 👍👍👍

@@farmnajachannel ได้ทั้งคู่ครับ สุดท้ายอยู่อุปกรณ์อื่นๆของเราด้วยนะครับ

@@tinnakornkaemawasutee9635 เวลาสกัดกาแฟเรานับเวลาตอนกดสกัด รึว่าตอนน้ำไหลลงแก้วครับ

@@farmnajachannel ถ้าเครื่องแมวชีนนับวิตามเครื่องสกัดเลยครับ ถ้าแฟร์หรือเครื่องแมนนวลนับตอนไหลลงตราชั่งครับ แต่ถ้าเครื่องแมสชีนพรมน้ำแช่นานเท่าพวกแฟลร์10-12วิ นับหยดลงตราชั่งครับ

@@tinnakornkaemawasutee9635 ขอบคุณครับ

@@กิติพรเลิศศิริรังสรรค์-ธ9ต ถ้าอยากได้ดื่มโน่ง่ายๆขมน้อย Renatoครับ หรืออยากได้รสชาติและกลิ่นเพิ่มขึ้นมาBaristoproแต่เรื่องบอดี้ยังน้อยอยู่ครับ ส่วนNormcoreบอดี้ชัดรสชาติดีส่วนตัวผมชอบตัวนี้มากครับ ส่วนเป็นนมใช้VSTครับ

เครื่องแมชชีน ผมใช้วิธี พรมน้ำ2วิ พัก10วิ รวม12วิครับ แต่จริงแล้วควรพรม3วิกำลังดีครับ

ส่วนเรื่องแรงดัน9บาร์ เป็นที่สเปคเครื่องครับ ของผมเป็นโรคตารี่9บาร์ ถ้าเป็นตัวโฉมเดียวกันแต่ปั้มแดงจะชู๊ตไป15บาร์ครับ

ขอคำแนะนำในการตั้งเครื่องให้พรม 3 วิแช้วพัก 10วิ ว่าทำยังไงได้ไหมครับ ผมใช้ตัวนี้เหมือนกัน ​@@tinnakornkaemawasutee9635

@@imtongg2617 ขอบคุณครับ

ผมเคยใช้รุ่นนี้ ใช้ด้ามชงE61ได้ครับ

@@Thunspeed ใช้ได้ครับ แต่เป็นบางตัวนะครับ ถ้าเป็นพวกด้ามpesadoอาจจะติดเพราะหูมันหนาครับ

@@SittiponBubpha บดเอสผมตอนนี้เบอร์ 4-5ครับ ถ้าสกัดแฟลร์58 แมชชีนประมาณ 6-8ครับ

@@seabookgm -ก้านชงเป็นแบบE61ครับ -เปิดเครื่องพร้อใช้งาน5-10นาทีครับ -2ปั้มนี้ใช้เวลาเท่ากันครับ เพราะคอยหม้อต้มเป็นแบบเดียวกัน -ถ้าชงเอง ปั้มดำเหลือ แต่เปิดร้านแนะนำโรตารี่ครับ

@@tinnakornkaemawasutee9635 ขอบคุณมากๆ ครับ พอดีมีก้านชงที่ใช้กับ flair อยู่เลยกลัวว่าจะใส่ไม่ได้ พอดีเห็นคุณใช้ก้านชง normcore รุ่น pvd ที่ใช้กับ e61, flair เลยสนใจขึ้นมา มีลองถามร้านบ้างแล้ว เขาแนะนำรุ่น 3200e เพราะผมกินกาแฟดำไม่ค่อยสตรีมนมเท่าไหร่